อยากทราบว่า ตัวผมเคยตั้งใจอฐิษฐานเป็นพระโพธิสัตว์หรือป่าว

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย passakorner, 19 มกราคม 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. passakorner

    passakorner เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    284
    ค่าพลัง:
    +1,034
    อยากทราบว่า ตัวผมเคยตั้งใจอฐิษฐานเป็นพระโพธิสัตว์หรือป่าว สับสนกับตัวเองจัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 มกราคม 2011
  2. moshininja

    moshininja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +103
    อนุโมทนาสาธุครับ ช่วยเหลือผู้อื่นเป็นการดีโปรดทำไปเถิด
     
  3. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    สังเกตเอาเองก็คงยาก ลองอ่านดูครับ

    จากหนังสือธรรมผ่าโลกครับ

    ผู้ที่อยากรู้ว่า การจุติเกิดของพระโพธิสัตว์เป็นอย่างไรลำบากยากเย็นแค่ไหน
    เขาเหล่านั้นแหละคือพระโพธิสัตว์ ที่จะต้องลงมาฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ เพราะ
    จะต้องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงระหว่างบุญบารมีกับวิบากกรรม ต้องผ่านด่านทด
    สอบบุญบารมีอย่างเหลือล้น ว่าจะผ่านพ้นนางมารจินตวิถา 3 นางไปได้หรือ
    ไม่ ไหนจะต้องต่อสู้กับเสนามาร ขุนมาร อำมาตย์มาร ไปจนถึงพญามารธิราช
    แม้แต่มนต์มายาของฝ่ายมารก็ไม่ละเว้น จนแล้วจนเล่าถ้ามิใช่โพธิสัตว์จริงๆก็
    จะไม่มีพละกำลังใจที่กล้าแข็งประดุจเหล้กเพชรที่จะเอาชนะกิเลศมาร ตัณหา
    และความทะยานอยากภายในจิตใจของตนเองจนกว่าจิตนั้นๆ จะกลายเป็น
    "เกล็ดแก้ว" ที่ใสสะอาดหมดจดไร้ร่องรอยราคีที่มัวหมอง แล้วยังต้องสอดส่า
    ตามองมวลสัตว์ บางครั้งก็ต้องสะดุดเข้ากับผู้มีอำนาจมีวาสนา บางครั้งก็ต้องมา
    เจอกับพวกอวิชชาท่านจะลาหรือจะละทิ้งไปก็ไม่ได้ เพราะจิตใจของท่านั้นมีแต่
    เมตตาธรรมเหลือล้ำที่จะยกมาพรรณา เราจะรู้ด้วยตัวเอง ถ้าเรานั้นเป็นโพธิสัตว์
    จริงๆเพราะต้องใช้ปัญญาวิจารณญาณเข้าไปแยกแยะ ในสิ่งผิดสิ่งถูกในบางครั้ง
    ก็ต้องแข็งกระด้างบางครั้งก็ต้องละเอียดอ่อนดุจสำลี เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
    ในความทุกข์เวทนาของมวลมนุษย์ชาติ เราก็ต้องเข้าไปอยู่กับเขา เพื่อที่จะซึม
    ซาบรับเอาปัญหาและทุกขเวทนานั้นมาป็นของตัวเอง โดยที่ยังมองไม่เห็นว่า
    ท่านจะได้รับความสุขสมใจในสิ่งใดๆ เพราะความสุขของท่านนั้นเพียงเพื่อช่วย
    เหลือผู้ที่ทุกข์ยากลำบากทนลำบากด้วยความเต็มใจไม่เคยร้องขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    ใดๆ ไม่เหมือนกับพวกพญามารและอวิชชาทั้งหลายที่มีแต่ขอ ขอแล้วขอเล่า
    ไม่เคยหยุดไม่เคยหย่อน เพียรทำทุกอย่างเพื่อให้คนรุ่นหลังๆ ได้รู้และเข้าใจใน
    แนวทางของการสร้างสมบุญบารมี เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีสืบไปในภายภาคหน้า
    มิใช่พื่อตัวเอง ไม่เหมือนกับพวกฤาษี ชีไพรในอดีตที่กำลังหลงตัวเองคิดว่าตน
    นั้นเป็นพระโพธิสัตว์ลงมาจุติในยุคนี้ เพื่อแสวงหาแนวทางของความหลุดพ้นที่
    เป็นสายกลางของสัจธรรม ที่พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ได้ผ่านพ้นไปแล้วแต่ยัง
    หาทางออกไม่ได้ เพราะเคยหลงเล่นฤทธิ์เล่นอำนาจมาเสียจนเคยตัว แล้วท่าน
    จะเป็นพระโพธิสัตว์ได้อย่างไร ก็ในเมื่อพระโพะสัตว์ตัวจริง ไม่เคยหลงติดอยุ่ใน
    ฤทธิ์อำนาจใดๆ เลย
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  4. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ที่มาจากหนังสือ รู้แจ้งโลก


    พระโพธิสัตว์แปลว่าที่พึ่งของสัตว์ ตามหลักศาสนาพุทธ ยุคนี้มีท่านผุ้รู้ตนเองว่าเป็นพระโพธิสัตว์นั้นมีจำนวน

    มาก ทั้งที่รุ้ได้ด้วยญาณที่เกิดจากจิตของตนเอง รู้ว่าตนเองเป็นพระโพธิสัตว์ เคยปรารถนาความเป็นพระสัมมา

    สัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต เคยอธิษฐานตั้งจิตปรารถนาไว้ในอดีตชาติอันยาวนาน

    วิธีสังเกตว่าท่านผู้ใดเป็นพระโพธิสัตว์นั้นไม่ยาก ส่วนมากจะเป็นผู้ที่เปี่ยมล้นไปด้วยเมตตา มีจิตใจ
    ปรารถนาช่วยเหลือผุ้อื่นตลอดเวลา เห็นใครมีความทุกข์ก็ปรารถนาจะฉุดช่วยให้เขาเป็นสุข ถ้าช่วยเหลือผู้อื่น
    ได้ก็จะสุขใจยิ่ง ถ้าช่วยเหลือผู้อื่นที่กำลังมีความทุกขอยู่ไม่ได้ กำลังใจแห่งจิตก็หาความสุขไม่ได้ บางครั้งจิต
    ใจก็เป็นทุกข์ไปกับผู้อื่นด้วย จนกว่าจะหาทางช่วยให้ผู้อื่นพ้นจากความทุกข์ได้นั่นแหละถึงจะพอใจ นี่คือจิตของ

    ท่านที่มีชื่อว่าพระโพธิสัตว์ ถ้าบุคคลใดรู้จักจิตของตนด้วยตนเอง อย่างนี้ถือว่าบุคคลนั้นมีคุณความดีพิเศษใน
    ทางจิตที่ละเอียดยิ่งขึ้น

    พระโพธิสัตว์บางท่านไม่ได้รู้และเข้าใจว่าตนเองนั้นเป็นพระโพธิสัตว์ รู้แต่ว่าตนเองเป็นผู้ที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่น
    บางครั้งก็ไม่เข้าใจตนเองเหมือนกันว่า ทำมมีจิตเมตตามีความรักต่อคนอื่นที่มีความทุกข์ เห็นคนหรือสัตว์ที่
    ความทุกข์แล้วมีความเอ็นดูสงสารเป็นพิเศษ ทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้จักหรือเกี่ยวข้องกันมาก่อน เห็นผู้อื่นมีความทุกข์
    ตัวเองก็ทุกข์ไปด้วยอย่างนี้เป็นต้น กว่าจะได้รู้และเข้าใจว่าตนเองเป็นพระโพธิสัตว์ก็ต่อเมื่อ มีผู้อื่นที่มีความรู้
    สูงกว่าตนมารับรอง มาแนะนำหรือบอกกล่าวว่า เธอเป็นพระโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์ประเภทนี้ยังถือว่าไม่ดีเท่าไหร่
    เพราะกำลังใจอ่อนอยู่ อาจจะหลงตนเองได้ง่ายๆ และก็ถูกหลอกใช้ จากผุ้ที่กำลังแสวงหาผลประโยชน์
    จากความดีของผู้ที่มีจิตเป็นพระโพธิสัตว์ เช่นจิตของพระโพธิสัตว์นั้นชอบสั่งสมบุญ ความดี สั่งสมบารมีกำลังใจ
    จึงมักถูกหลอกใช้จากเจ้าสำนักต่างๆ ให้หาเงินมาสร้างวัดสร้างสำนัก สร้างวิหาร สร้างเจดีย์ สร้างพระพุทะรูป
    โดยอ้างว่าได้บุญความดีบารมีเยอะ บ้างก็หลงเชื่อตามเขา หาเงินปัจจัยมาร่วมสนับสนุนสร้างแต่วัตตถุ
    แต่ละวัดแต่ละสำนักพากันสร้างสถานที่ใหญ่โตมโหฬารมากมาย เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด

    ทั้งที่รู้ว่าอีก
    ไม่นานโลกนี้ก็พังสลาย แต่กลับร๊บเร่งแข่งขันประชันกันสร้างความดี ด้วยการก่อสร้างเพียงอย่าง
    เดียว จนขาดการสร้างความดีภายในจิตด้านสติปัญญา ทั้งๆ ที่การสร้างความดีภายในนั้น ชื่อว่าเป็น
    เลิศกว่าการสร้างความดีภายนอกด้านวัตถุ

    ถ้ายุคแห่งความเสื่อมโทรมบ้ามเมืองล่มสลายเช่นสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช แผ่นดินถูกทำลายจากการสู้รบ
    พระภิกษุผู้ปฏิบัติดีมากแต่ขาดที่อยุ่อาศัย อย่างนี้ถือว่าควรส่งเสริม ไม่ใช่เหมือนยุคปัจจุบันนี้ วัดและสถานที่
    ปฏิบัติมีมากมายจนกลายเป็นวัดร้าง ก็ยังพากันเร่งสร้างอารามจนใหญ่โต ยิ่งสร้างความเจริญทางวัตถุ
    จิตใจก็ยิ่งเสื่อมลงซึ่งปัญญา เป็นเหตุปัจจัยให้ทรัพย์สิงเงินทอง จมอยุ่กับทรากอิฐหิน ปูน ทราย
    บ้านเมืองเดือดร้อนวุ่นวาย ผู้คนแตกความสามัคคีและยากจนลงทุกขณะ เพราะอะไรกันเล่าลองคิดดูเถอะมนุษย์เอ๋ย..

    มนุษย์ที่มีจิตเป็นพระโพธิสัตน์นั้น ไม่จำเป็นว่าจะต้องเกิดอยุ่ในประเทศไทย หรือประเทศที่มีพระพุทธศาสนา
    เท่านั้น อาจจะเป็นใครก็ได้ นับถือหรือไม่นับถือศาสนาใดศาสนาหนึ่งก็ได้
    อาจจะเป็นคนรวยคนจนหรือเป็นสัตว์เดรัจฉานที่อาศัยอยุ่ทั่วโลกก็ได้เช่นกัน<!-- google_ad_section_end -->
     
  5. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    อืม..
    สาธุ กราบอนุโมทนาด้วยนะครับ
    อันนี้ต้องถามตัวท่านเองแล้วละครับ ว่าอยากจะ ขน ไหม ?? นะ ถ้าอยากก็แสดงว่าใช่นะครับ

    แต่ดูจากหลายๆๆๆๆๆกระทู้ของท่านเองแล้ว น่าจะเคยอธิฐาน(ทั้งปัจุบัน หรืออดีต)มานะครับ
     
  6. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603

    สาธุ กราบอนุโมทนากับ ธรรมทานด้วยนะครับ
    อ่านแล้วชอบจังเลยครับ
    ที่พึ่งของสัตว์
     
  7. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    บางคนนั้นตอบตัวเองไม่ได้นะครับ....แต่ถ้าพูดถึงความจริงนั้น....มันก็ไม่ได้สำคัญหลอกนะว่าเราปรารถนาอะไร...ถ้ารู้แล้วไง...ไม่รู้แล้วไง.....ถ้าทุกวันนี้เราทำให้ดีที่สุด....ในจุดยืนที่เราทำอยู่......

    เรื่องนี้.....เมื่อคุณปฏิบัติไปเรื่อยๆ.....มันจะฟ้องในใจเราเองครับ....เมื่อถึงวันเวลาที่สมควร......พุทธภูมิกับสาวกภูมิ.....ของอย่างนี้มันแฝงอยู่ในสายเลือดครับ....ไม่ใช่คนอื่นบอกว่าคุณเป็นแล้วคุณก็เป็น.....
     
  8. passakorner

    passakorner เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    284
    ค่าพลัง:
    +1,034
    กราบอนุโมทนาสาธุครับ กระผมรู้แล้วละ ว่าตนเอง เคยปราถนาเช่นไร ผมจะทำสิ่งที่นี้ให้ดีที่สุดครับ
     
  9. KritZ_2530

    KritZ_2530 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +293
    ก็เป็นคำตอบที่สมเหตุสมผลตามที่ข้อความยาวๆที่โพสต์ไว้ข้างบนนั่นแหละ
     
  10. bestsu

    bestsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +617
    ผมเคยไปอ่านเจอว่าสามารถทดสอบบารมีได้
    เช่นว่าการยกพระเสี่ยงทายเป็นต้น
    ลองทำดูซิครับ
     
  11. passakorner

    passakorner เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    284
    ค่าพลัง:
    +1,034
    ขอบคุณครับ ตอนนี้ผมปิติ อย่างมาก และผมจะดำเนินตนให้เป็นที่พึ่งและรื้นขนสัตว์ทั้งหลายสู่พระนิพพานด้วยกัน ^^
     
  12. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603

    สาธุ กราบอนุโมทนากับท่านด้วยนะครับ
    ผมเองเห็นท่านตั้งแต่ทีแรก(หลายๆๆกระทู้) ก็คิดว่าท่านเองก็ ปรารถนา นะครับ

    แล้วงัยผมจะร่วมทำบุญถวายพระไตรปิฏกทั้ง ๖ วัดที่ขาดแคลนกับท่านนะครับ(ให้เงินเดือนออกก่อนนะครับ)

    และวันนี้ผมเองก็เตรียมของไป ถวายสังฆทาน มี ไม้ปั่นหู ๒๐ ห่อ ยาสีฟัน,แปรงสีฟันอย่างละ ๖ อย่าง และ
    ได้ร่วมสร้างพระพุทธรูป ๗ องค์ ร่วมบำรุงค่าน้ำค่าไฟฟ้า ร่วมสร้างศาลาการเปรียญ และได้บูรณะพระพุทธรูป(ด้วยกาวตราช้าง) ๒ องค์ ด้วยบุญทั้งหลายนี้..
    จงสำเร็จแก่ท่าน phassakorning ด้วยเทอญๆๆๆ
    ขอให้ท่าน phassakorning จงมีจิตใจที่มั่นคงต่อ สัพพัญญูตญาณ ด้วยเทอญๆๆๆ สัตว์โลกจะได้มีที่พึ่ง สาธุๆๆ
     
  13. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    อนุโมทนาครับ อยากให้คนที่ยังไม่รู้รู้ตัวเยอะจะได้ช่วยกันสืบพระพุทธศาสนาให้ถึง 5000 ปี
    ความจริงเลย 2505 ปีมาแล้วนี่เป็นช่วงขอ มารมากเป็นพิเศษต้องอาศัยบารมีพระโพธิสัตว์
     
  14. passakorner

    passakorner เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    284
    ค่าพลัง:
    +1,034
    กระผมจะทำเพื่อส่วนร่วมเพื่อปวงชนในอนาคตอันใกล้ไม่ถึง 10 ปี ก็คงได้รู้จักผม
     
  15. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    อนุโมทนาด้วยนะคะ ขอเป็นกำลังใจในการบำเพ็ญบารมีค่ะ สาธุๆๆ
     
  16. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    สิ่งที่เป็นอดีตก็ละไปแล้ว สิ่งที่เป็นอนาคตก็ยังไม่มา ไม่ว่า จะเคยหรือ ไม่เคยปราถนา ถ้า ตอนนี้ เห็นดีเห็นงามประสงค์เดิน ทาง ตามเหล่าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ก็จงเดิน ตอ่เถิด ไม่เคยมีสิ่งใดไม่สมควรเเก่เหตุจงศึกษาธรรมที่เป็นเหตุและปฎิบัติตาม เจริญเหตุเหล่านั้นด้วยปัญญา
    จะถึงไหน อย่างไร ลำบากมากไหม อีกกี่ชาติ เที่ยงไม่เที่ยง ถ้าเป็นโพธิจิต จะไม่ไหวหวั่น
    เพราะถ้า สั่นคลอนเมตตา กำลังใจและศรัทธา เบื่อหน่ายการเกิด ก็ต้องลาพุทธภูมิ เข้านิพพานให้ไว

    ข้าเเต่ท่านผู้เจริญ ศีลเป็นเบื้องต้นแห่งความดี จงรักษาให้บริสุทธิ์
    ถ้าคิดว่าตนเป็นพระโพธิสัตว์ แล้วทำให้ สบายใจ คิดเเล้วเป็นกุศล คิดแล้ว ทำความดีไม่เบียดเบียนใคร เจริญเมตตาจิต มีเมตตากรุณาต่อผู้อื่น ขัดเกลาตนเองเป็นนิจ
    ท่าน ก็จงเข้าใจเถิดว่าท่านนั่นแหละคือโพธิสัตว์ อย่างน้อยก็อนุโพธิสัตว์ผู้เริ่มต้น
    แต่ถ้า คิดว่า ตนนี่หละเป็นพระโพธิสัตว์ แล้วมีทิฐิ มีมานะ เบียดเบียนผู้อื่นด้วย วาจาบ้าง กริยาบ้าง ส่อเสียด เสียดสี ไม่สำรวมระวังจิต ที่กำลังโดนครอบงำง่ายด้วยกิเลส ไม่พยายามละกาม ไม่กล่าวคำจริง หลงตน ยกตนข่มท่าน
    คำว่า พระโพธิสัตว์ที่ท่านกล่าวเรียกตน ก็ไม่มี ค่า ควรแก่ สมมตินั้นๆเลย เป็นเเค่ คนพาล คนหนึ่งเท่านั้นเอง

    ข้าพเจ้าเป็นเพียงปุถุชนผู้เดินทางไกล ผ่านมาในรูปมิตร ผ่านมาและผ่านไป หาได้ มีฐานะสอนท่านไม่ ขออนุโมทนาในความประสงค์อันดี อันใหญ่อันเป็นประโยชน์เกลื้อกูล
    ขอกล่าวถ้อยคำอำลา ว่าหากจะศึกษาและปฏิบัติธรรม พึงคบกัลญาณมิตรและเจริญโยนิโสมนสิการให้มาก
    หากกล่าววาทะใด ยังความไม่สบายใจเกิดในจิตท่าน ข้าพเจ้าขออดโทษไว้ด้วย
    อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2011
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...