ถือศีลไปเพื่ออะไร ?

ถาม : เราถือศีลไปเพื่ออะไร ?

ตอบ: ศีล อันดับแรกคือ ความอยู่สุขในปัจจุบัน เราไม่อยากให้ใครฆ่าเรา เราก็อย่าไปฆ่าใคร เราไม่อยากให้ใครขโมยเรา เราก็อย่าขโมยใคร เราไม่อยากให้ใครมาล่วงเกินคนที่เรารัก เราก็อย่าไปล่วงเกินคนรักของใคร เราอยากฟังแต่ความจริงก็อย่าโกหกใคร เราอยากมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ เราก็อย่าไปดื่มสุราเมรัย อันนี้ก็คือในปัจจุบัน

และสุขในอนาคตท่านบอก “สีเลนะ สุคะติง ยันติ” ศีลย่อมทำให้เราสู่สุขคติ เพราะถ้าจิตเราเกาะความดีเป็นปกติเราก็เกิดเป็นเทวดา เป็นพรหม หรือถ้าหากว่าเต็มที่ไม่ต้องการเกิดอีกกำลังของศีลก็ส่งไปนิพพาน ท่านบอก “สีเลนะ โภคะสัมปะทา” ศีลทำให้มีโภคทรัพย์มาก คือคนที่รักษาศีลนี่จะมีสติทรงตัวอยู่เสมอ ไม่เบียดเบียนใคร ทำมาค้าขายกันอย่างสัมมาอาชีวะ เงินที่ได้มาทรัพย์สินที่ได้มามันเย็น คือรู้จักจับจ่ายใช้สอยอย่างมีสติก็เลยทำให้มีสมบัติมาก ขณะเดียวกันถ้าเกิดเป็นเทวดา พรหม ก็มีทิพสมบัติมาก แล้วท่านก็ยืนยันบอกว่า “สีเลนะ นิพพุติง ยัน” ศีลเป็นปัจจัยส่งให้ถึงพระนิพพานได้ นี่เป็นสุขในอนาคต

ฉะนั้นการรักษาศีลนี่หมายเอาความสุขทั้งสองด้าน คือสุขในปัจจุบันและสุขในอนาคตด้วย อย่างน้อยเราควรถือศีล 5 ให้เป็นปกติทุกวัน และในวันพระ หรือวันสำคัญๆทางพระพุทธศาสนาเราก็ควรถือศีล 8 หรือศีลอุโบสถ เข้าวัด ทำทาน รักษาศีล ฟังธรรม เจริญสมาธิภาวนา ให้สมกันที่เราเกิดมาเป็นชาวพุทธพบพระพุทธศาสนา อย่างนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นชาวพุทธที่แท้จริง

ถือศีลไปเพื่ออะไร ? - kalyanamitra webkal.org
<!--sizec-->

 

ขอกราบอนุโมทนาสาธุด้วยคะ

ศีล คือคุณสมบัติที่ทำให้เราเกิดมาเป็นมนุษย์ได้
ได้เกิดมาสร้างความดี ต่อบารมี

 

โดยส่วนตัวคิดว่า รักษาศีลเพื่อทำให้เราเป็นคนโดยสมบูรณ์ค่ะ

 

ขอน้อมอนุโมทนา สาธุ ครับ
.............................................................................................................................................




ขอเชิญชวนสมาชิกเว็บพลังจิตมาเข้าร่วมโครงการเรารักศีล ๕ นะครับ

http://palungjit.org/threads/โครงการเรารักศีล-๕.274075/

" เรารักษาศีล ๕ , ศีล ๕ รักษาเรา "

สำหรับสมาชิกหลายๆ ท่านที่รักษาศีล ๕ เป็นปรกติอยู่แล้ว ผมก็อยากจะเชิญชวนให้เข้ามาร่วมโครงการเรารักศีล ๕ ด้วยนะครับ
ศีล ๕ นั้น มีมิติแห่งธรรมที่ละเอียดลึกซึ้ง สามารถเป็นรากฐานยกภูมิจิต ภูมิธรรมส่งขึ้นไปได้ถึงพระโสดาบัน พระสกิทาคามี ทีเดียวนะครับ

สำหรับท่านที่อยากจะเข้าร่วม แต่อาจจะยังลังเลไม่มั่นใจว่าจะรักษาศีล ๕ ได้บริสุทธิ์ทุกข้อไหม ก็ไม่เป็นไรครับ การกระทำทุกอย่างนั้นอยู่ที่เจตนา อะไรจะเกิดก็แล้วแต่ ขอให้มีเจตนาดีไว้ก่อน ผมแนะนำว่าอย่าวิตกจนเกินไป เพราะการที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์ได้นั้น ขอให้มั่นใจว่าเรามีดีมากพอ เพราะการได้มาซึ่งสถานะการเป็นมนุษย์นั้น เป็นเพราะเรามีคุณธรรม กุศลกรรม และความดีมาก่อน ขอให้ท่านค่อยๆ เริ่มทีละน้อยๆ

ศีล ๕ ข้อ ข้อใดรักษาได้แล้ว ก็มั่นดูจิตดูใจไม่ให้กลับไปทำผิดซ้ำอีก ส่วนศีลข้อที่ยังทำผิดอยู่ก็ขอให้ค่อยๆ พิจารณาลด ละ เลิก ไปทีละเล็กทีละน้อย ผมมั่นใจว่า สักวันนึง ท่านจะต้องรักษาศีลข้อนั้นได้ และสักวันนึงรากฐานที่แข็งแกร่ง คือ ศีล ๕ จะเป็นก้าวแรก ที่นำพาท่านเข้าสู่พระนิพพาน อันเป็นบรมสุข ผมขอเป็นกำลังใจทุกๆ ท่านครับ

สุดท้ายนี้ ด้วยความตั้งใจที่ดีแล้ว ชอบแล้วของทุกท่าน ข้าพเจ้าขออาราธนาคุณแห่งพระศรีรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรมทุกๆ พระธรรมขันธ์ พระอริยสงฆ์ พระอริยเจ้าทั้งหลาย รวมถึงพระโพธิสัตว์ทุกๆ พระองค์ เทพพรหมเทวดา 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลพิภพ ได้ทรงปกปักษ์รักษาทุกท่านจากเหตุร้าย ภัยพิบัติทั้งปวง สำหรับเคราะห์กรรมใดๆ ที่อาจจะเผชิญอยู่ที่หนัก ขอให้เป็นเบา ที่เบาลงแล้ว ขอให้มลายหายไปโดยฉัพพลัน ขอความสุข ความเจริญทั้งทางโลก และทางธรรม จงบังเกิดแก่ท่านตลอดไป ตราบเท้าเข้าสู่พระนิพพานเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

ขออนุโมทนา สาธุ ๆ
กับท่านทั้งหลายที่ได้ร่วมกัน
เผยแพร่พระธรรมและทำบุญสร้างกุศลทุกอย่าง ไว้ในพระพุทธศาสนา
ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน และในอนาคตกาล
ด้วยครับ
การสะสมบุญ คือ การสะสมความสุขความเจริญ
นิพพานัง ปรมัง สุขขัง
นิพพานัง ปัจจโย โหตุ


​

 

ให้ทาน เพื่อให้ทานไปเกื้อหนุนทั้งศีลและภาวนา

รักษาศีล เพื่อให้ีศีลไปเกื้อหนุนทั้งทานและภาวนา้

ภาวนา เพื่อให้ไปเกื้อหนุนทั้งทานและศีล

ให้ทั้งสามอย่างนี้เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน เป็นวงกลม เป็นกงล้อแห่งทาน ศีล ภาวนา......

ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป

 

เพื่อให้โลกเกิดสันติสุข

 

ถือศีลเพื่ออะไร

ศีลเป็นเรื่องของสัมมาทิฐฐิ สัมมาทิฐฐิเป็นสุขอย่างยิ่ง รู้แต่ไม่ปฏิบัติ หรือมีใจในธรรมอื่นก็หาพบพระนิพพานได้ไม่ ธรรมะพุทธเป็นเรื่องของปัญญา และจิตใจที่บริสุทธิ์จากอาสวะกิเลส และที่สำคัญ นิพพานแล้วก้ไม่ยึด คือไม่มีอุปาทานใดๆในจิตใจเลย จะบรรลุธรรมต้องประกอบด้วยทานศีลภาวนา และศรัทธาพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง ความจริงคือยึดพระรัตนตรัยเป้นสรณะสูงสุดในการดำรงชีวิต ในทรรศนะของข้าพเจ้า พระพุทธเจ้าตรัสไว้ข้าพเจ้าก้เชื่อ พระองค์ตรัสว่าที่พึ่งสูงสุดของคนเราคือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เท่านั้น เหนือหรือสูงกว่านี้ไม่มี!