อภินิหารลูกแก้วหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 4 ธันวาคม 2010.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877

    อานุภาพลูกแก้ว

    (คัดลอกบางตอนที่ หลวงพ่อเล่าไว้ในหนังสือสมบัติพ่อให้ หน้า ๑๒๒)

    ...ซึ่ง ผลที่ได้จากลูกแก้วนี่ อุบัติเหตุมีทุกครั้งใน ๓ ครั้งที่แล้วมานะ ที่แจกมาก็พบอุบัติเหตุทุกครั้ง แต่ว่าอุบัติเหตุที่น่าจะตายเขาไม่บาดเจ็บ

    อย่างรายหนึ่งไปอยู่อเมริกา ซื้อรถราคา ๓.๐๐๐ เหรียญ ชนกันย่นไปเหลือราคา ๓๐๐ เหรียญ เจ้าของรถไม่ตาย แต่ว่ารถเหลือราคาเพียง ๓๐๐ เหรียญ

    และก็เที่ยวแรกที่แจก วันนั้นไปที่อำเภอสามพรานมีสองผัวเมียแกบอกว่า รถชนประจันหน้ากันพังยับเยินเลยพวงมาลัยมากระแทกอกสามี พวงมาลัยคด แต่สองคนในรถไม่เป็นตราย

    อีกรายหนึ่งเขามารายงาน รายนี้ลูกสาวตัวเล็กล้มลงไปทับแก้ว เศษแก้วกระเด็นเข้าตา แกก็ร้องจ้า ฝ่ายพ่อก็จะพาไปโรงพยาบาล ก็พอดีนึกขึ้นได้ว่าเรามีลูกแก้ว ก็เลยลองดูว่าลูกแก้วจะช่วยได้หรือไม่ได้ ก็เอาลูกแก้วไปลูบๆ ที่ตา ประเดี๋ยวเดียวลูกสาวหายปวด ก็เลยพาไปหาหมอให้ดูให้ปรากฏว่าไม่มีเศษแก้ว

    สำหรับเที่ยวนี้ที่ทำขึ้นมาแล้ว พวกบางแคไปรับมาจากวัด ปรากฏว่าคนหนึ่ง ก้างปลาติดคอ ทำอย่างไรก็ไม่ออก เขาก็จะพาไปหาหมอ พอดีคนที่เขาได้แก้วไปก็อาราธนาลูกแก้วลูบๆ ที่คอ ปรากฏว่าก้างหาย

    และก็ที่ชุมแสงรับลูกแก้วไปแล้วกลับไปบ้าน ฟ้าผ่าใกล้ๆ ตัวแกไม่เป็นไรทั้ง ๒ ราย นี่ก็เลยยกทัพไปรับใหม่ ตอนแรกคนไปไม่กี่คน พอได้ยินข่าว เลยยกทัพมาเป็นกองทัพเลย

    ...ทั้ง นี้ขึ้นอยู่กับจิตใจของบรรดาท่านพุทธบริษัทนะ จะเห็นว่าแก้วลูกเล็กๆ แต่พึงเข้าใจว่า แก้วนี้ทำด้วยบารมีของพระพุทธเจ้า เวลาทำจริงๆ อาตมาไม่รู้เรื่องเลย


    ประสบสบการณ์อานุภาพลูกแก้วใส

    (ของคุณประเสริฐ ..คัดลอกจากหนังสือลูกศิษย์บันทึกเล่ม ๓ หน้า ๔๘๔ -๔๘๕)

    คุณ ประเสริฐ มีโอกาสไปกราบหลวงพ่อที่วัดครั้งแรกทำบุญ ๑๐ บาทได้พระเหรียญแหนบเป็นเหรียญแรกของหลวงพ่อมา ๑ เหรียญ และก็ทำหาย วันรุ่งขึ้นจึงมากราบหลวงพ่อใหม่..ดังนี้ครับ

    ...พอมาถึงวัดก็พบหลวงพ่อนั่งรับแขกอยู่ ก็กราบท่าน และท่านก็ถามว่า "มาจากไหน" ก็ตอบท่านไปและบอกกับท่านว่า "วันนี้ผมพาพี่ชายมากราบหลวงพ่อครับ" และก็บอกไปอีกว่า "พระที่ให้ไปเมื่อวานนี้ หล่นหายครับ" ท่านก็ตอบว่า "รู้แล้ว" ก็แปลกใจท่านรู้ได้อย่างไร และก็มีโยมอีกชุดหนึ่ง มาจากโคราชบอกว่า "วันนี้ตั้งใจมากราบหลวงพ่อค่ะ" หลวงพ่อก็ตอบว่า "ฉันรอตั้งแต่ตี ๕ แล้ว" (งง ท่านรู้ได้ไง)

    ข้าพเจ้ามาวัดอีกทีหนึ่ง ก็ พ.ศ. ๒๕๒๔ เดือนกุมภาพันธ์ ไปสมัครทหารพรานที่ค่ายปักธงชัย พอฝึกจบภาคสนาม ก็กลับบ้านระหว่างนั้น ก็นึกถึงหลวงพ่อจึงไปกราบท่านเพื่อขอพร ท่านได้ให้ลูกแก้วมา ๑ องค์ชนิดกลมใส และท่านยังกำชับอีกว่า "ให้ไปเลี่ยมห้อยคอซะนะ" และท่านก็ให้นั่งพนมมือและตั้งใจ ท่านก็พรมน้ำมนต์ให้คนเดียว พอเสร็จท่านก็บอกว่า "ไปเถอะลูกไม่ต้องกลัวปืน ระวังระเบิดก็แล้วกัน" เพียงคำพูดประโยคเดียวนี้ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง และมั่นใจตลอดเวลา ก่อนลงพื้นที่ได้บวชเณร ๗ วัน เพราะหลวงพ่อทักว่าจะตายโหง พอเสร็จภารกิจที่เขาค้อ ก็มาทำบุญกับหลวงพ่อ ได้ถวายสังฆทาน ๑ ชุด ๕๐๐ บาท วันนี้ไม่พบหลวงพ่อฝากไว้กับพระท่าน

    ลูกแก้วที่หลวงพ่อมอบให้และสั่งให้เลี่ยมห้อยคอ แต่ก็ไม่ได้เลี่ยม จนกระทั่งรับภารกิจใหม่ที่ ตาพระยา บ้านทับพริกล่าง ๒ เดือน จนใกล้เสร็จภารกิจจึงลากลับบ้าน ขณะนั้นก็นึกถึงคำที่หลวงพ่อพูดว่า ให้เลี่ยมห้อยคอก็เลยเลี่ยมที่ตลาดนั่นเอง และก็เดินทางกลับบ้าน ซึ่งวันนั้น ๓ กค.๒๕๒๔ เป็นวันเกิดเพื่อน กินเหล้าเมาแล้ว ขับรถจิ๊ปเที่ยวหาพระผู้หญิง แยกสุทธิสารขาเข้ามีสะพานลอยซึ่งขณะนั้นกำลังสร้างถนนเพิ่ม ก็มีรถแท็กซี่วิ่งแซงขึ้นไป พรรคพวกที่นั่งไปด้วย ก็เชียร์ให้แข่งกัน ก็เลยเสียหลัก เนื่องจากขาดสติ รถคว่ำพังยับเยิน และตัวเองก็กระเด็นออกจารถ ไปตกอยู่ในคูน้ำครำข้างๆ ส่วนอีก ๔ คนก็ติดอยู่กับรถ ได้รับอันตรายเพียงเล็กน้อย บังเอิญเท้าด้านซ้ายของข้าพเจ้า ไปถูกกับชิ้นส่วนข้างรถ เหวอะอย่างเห็นได้ชัด และในรถก็มีลูกระเบิดอยู่ด้วย แต่ก็ไม่ระเบิด หลังจากนั้นก็พากันไปโรงพยาบาลพระมงกุฏ นอนรอหมอจนสว่าง ด้วยความหนาวและปวด พอหมอทำแผลเสร็จก็กลับบ้าน อยู่ได้ประมาณ ๑ อาทิตย์ อาการก็เกิดขึ้นคือ อ้าปากไม่ขึ้น และหลังแข็ง เวลาจะลุกนั่งไม่ได้ต้องนอนตะแคง เพื่อนคือประยูรและภรรยาเห็นอาการผิดปกติ จึงพาไปหาหมออีกครั้ง หมอก็รับตัวไว้และถามว่าเป็นอะไรครับ ตอบว่าเป็นบาดทะยัก และจากนั้นก็ไม่รู้สึกตัวเลย มารู้อีกที ก็อยู่บนเตียงข้างล่างแล้ว ตอนนี้พูดไม่ได้ ต้องเขียนหนังสือแทน ก็ถามหมอว่าเห็นลูกแก้วผมไหม หมอตอบว่าไม่เห็น ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจและร้องให้ออกมาดังๆ โดยไม่อายเลย (ทหารพรานนะเนี่ย) ขณะที่นอนอยู่นั้นเกิดฝันว่า ท่านยมทูตจะมาเอาชีวิต ก็เลยบอกกับท่านว่า พ่อตายยังไม่ได้บวชให้เลย ขอบวชก่อนก็แล้วกัน และก็หนีท่านไปที่แห่งหนึ่ง สถานที่แห่งนั้นเป็นที่โล่ง ขณะนั้นไม่ทราบว่าเป็นที่ไหน ท่านก็เลยยืนอยู่ที่ประตู ส่วนข้าพเจ้าก็นั่งอยู่ตรงกลาง และก็สะดุ้งตื่นจนมาถึงทุกวันนี้ ก็จำได้ว่าสถานที่แห่งนั้นก็คือ ศาลา ๒ ไร่นั้นเอง

    สาเหตุนี่เองที่ทำให้ข้าพเจ้ารอดชีวิตจากโรคร้ายนี้ เพราะหมอเองก็บอกญาติว่าไม่รอดแน่ แม่ก็เสียใจมาก และที่ประทับใจอีกครั้ง ก็คือ.. ..ข้าพเจ้าได้มีโอกาสได้ร่วมบวชพระ เพื่อถวายกุศลแด่หลวงพ่อเมื่อ ๒๕ ธ.ค.๒๕๓๔ นี้จำนวนพระทั้งหมด ๑๘๐ องค์ และหลวงพ่อก็ยังสึกให้อีกด้วย ความกรุณาครั้งนี้ ไม่สามารถตอบแทนได้ ในขณะที่บวชอยู่ ๔ วัน หลวงพ่ออบรมว่า "เริ่มบวชวันแรกได้รับทุกขเวทนามาก ซึ่งไม่เคยเป็นอย่างนี้" ก็เกิดสงสารหลวงพ่อ รุ่งเช้าบิณบาต ก็นึกถึงเวทนาของหลวงพ่ออีก ก็ตั้งใจว่า ถ้าลูกรับทุกขเวทนานี้แทนได้ ขอให้แบ่งทุกข์นี้มาให้ลูกบ้าง ทันใดนั้นก็เกิดปิติน้ำตาใหล ไม่ทราบเป็นเพราะเหตุใด

    สรุปความว่า หลวงพ่อเป็นพระผู้ให้แสงสว่างแด่ลูกๆ ทุกคนเช่นข้าพเจ้า ปัจจุบันนี้เลิกเหล้ามาตั้งแต่ ๒๕๒๕ และบุหรี่เมื่องานเป่ายันต์ ๓ มค. และเลิกฆ่าสัตว์และลักทรัพย์เป็นต้น



    "อภินิหารลูกแก้วหลวงพ่อ"

    (โดยคุณสมนึก ...คัดลอกจากหนังสือลูกศิษย์บันทึกเล่ม ๓ หน้า ๕๕)

    ผมชื่อนาย สมนึก ... ได้มารับใช้หลวงพ่อตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๑ ช่วยอยู่ยาม ดูแลของสงฆ์ ทำงานภายในวัด และเป็นคนขับรถรับใช้หลวงพ่อ มาจนกระทั่งทุกวันนี้ ตามที่ผมได้เขียนลงในหนังสือลูกศิษย์บันทึกเล่ม ๒ ไปแล้ว

    ผมมีลูกชายชื่อ ศิริเทพ ... ซึ่งลูกชายคนนี้ หลวงพ่อได้เมตตาตั้งชื่อให้ตั้งแต่อยู่ในท้อง (สมัยที่หลวงพ่อยังประจำอยู่วัดปากคลองมะขามเฒ่า) ภายหลังหลวงพ่อมาอยู่วัดท่าซุง ผมก็ตามมารับใช้ที่นี่ และเอาลูกชายมาอยู่วัดด้วย ลูกชายผมมาโกนจุกที่วัดท่าซุง เรียนจบ ม.๓ แล้วไปต่อวิทยาลัยเทคนิคอุทัย ขณะเรียนปีสุดท้าย (ปีที่ ๓) ประมาณวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๒๘ พระใบฏีกาประทีป อัตถทัสสี ได้ใช้ให้ไปเช็คดินที่ทางวัดซื้อมาถมที่วัด โดยมีเพื่อนลูกชายเป็นคนขับไป เป็นรถจี๊ปเก่าตัวถังเป็นเหล็กทั้งคัน เพื่อนขับอย่างไรไม่ทราบ รถคว่ำ พลิกทับร่างของลูกชายผมทั้งคัน ทับช่วงท้องลงมา บังเอิญ เป็นอัศจรรย์ ที่อีกด้านหนึ่งมีก้อนหินก้อนหนึ่งรองรับไว้ มิฉะนั้นร่างของลูกชายคงแหลกแน่ แต่ก้อนหินนั้น ทำให้หลังโบ๋เป็นแผล เป็นแผลเป็นไปทั่วบริเวณแผ่นหลัง เมื่อเห็นสภาพลูกชายผมแล้วไม่น่ามีชีวิตรอดมาได้ ร่างกายเป็นแผลเหวอะหวะและถูกทับอยู่อย่างนั้น ต้องรอจนกระทั่ง คนขับวิ่งไปตามเอารถมายกออก ซึ่งระยะทางจากที่เกิดเหตุ และหนทางที่วิ่งไปตามรถมายกออกห่างกันประมาณ ๑ กม. (รถคว่ำบริเวณหลังโรงพยาบาล มาตามรถไปยกจากบริเวณศาลา ๑๒ ไร่) เมื่อเอารถมายกรถออกจากที่ทับลูกชายผมออกแล้ว ก็รีบนำลูกชายส่งโรงพยาบาล ในจังหวัดอุทัยธานี หมอตรวจดูสภาพร่างกายแล้ว บอกต้องผ่าตัด ผมก็ยังไม่ยอมเซ็นชื่อให้ผ่าตัด บอกขอไปกราบเรียนปรึกษาหลวงพ่อดูก่อน พอกลับมาถึงหลวงพ่อก็บอกว่า "ให้เขาผ่าตัดเถอะลูก" หลวงพ่อก็พูดอีกว่า "กระดูกเชิงการานหัก ทิ่มกระเพาะปัสสาวะ เลือดตกใน" ตอน หลังหมอก็พูดตรงกับที่หลวงพ่อพูด กลับไปที่โรงพยาบาล เซ็นอนุญาตให้หมอผ่าตัดได้ ลูกชายผมต้องอยู่โรงพยาบาลถึง ๔๑ วัน ขณะที่โรงพยาบาลนั้น ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงตลอดจน พวกพระภิกษุภายในวัดท่าซุง ช่วยกันถวายสังฆทาน และปล่อยปลาอุทิศกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร อาการลูกชายผมก็หายวันหายคืน และกลับจากโรงพยาบาลได้ในที่สุด

    การประสบอุบัติเหตุครั้งนี้ ลูกชายผม ห้อยลูกแก้วหลวงพ่อเพียงลูกเดียว นับเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มาก ที่ลูกชายผมมีชีวิตกลับมาได้ ทั้งๆ ที่หมอพูดว่า เป็นถึงขนาดนี้ไม่น่าจะรอดได้ หมอคนแรกผ่าตัดแล้วผิดพลาด มีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่ ต้องผ่าตัดเป็นครั้งที่ ๒ จึงได้รอดชีวิตกลับมาได้ ซึ่งเรื่องนี้ ผมได้เผ้าดูอาการลูกชาย ที่โรงพยาบาลไม่น่าจะรอดได้ ขนาดหมอออกปากแล้วว่าไม่น่ารอดได้ ต้องผ่าตัด ถึงแม้จะมีแผลเป็นมากมาย แต่ผมก็พอใจที่ลูกชายรอดชีวิตมาคราวนี้ได้เพราะอภินิหาร (ความศักดิ์สิทธิ์) ของลูกแก้วหลวงพ่อ ที่ห้อยคออยู่เพียงลูกเดียวโดยแท้ และแม้กระทั่งมีการบังเอิญ ที่มีหินขวางไว้ก้อนหนึ่งขณะรถทับร่างลูกชายนั้น ผมคิดว่า เป็นปาฏิหาริย์ที่อานุภาพลูกแก้วหลวงพ่อช่วยคุ้มครองให้เป็นเช่นนั้น ผมเชื่อหลวงพ่อทุกอย่าง หลวงพ่อพูดตรงกับหมอทุกอย่าง ลูกชายก็ได้รอดชีวิตมาอย่างปาฏิหาริย์ และอยู่มาจนทุกวันนี้ ลูกชายผมปัจจุบันทำงานเป็นหลักแหล่ง ผมและภรรยาและลูกชาย ต่างมีความเคารพหลวงพ่อและ ขออยู่รับใช้ จนกว่าจะต้องตายจากกันนั้นแล ผมขอบูชาหลวงพ่อเท่าชีวิตของผม...สาธุ


    วิธีการใช้ลูกแก้ว

    (คัดลอกบางตอนจากหนังสือสมบัติพ่อให้ หน้า ๑๒๑ )

    ..."ก่อนที่จะภาวนาคาถาให้มองดูลูกแก้วเสียก่อน จำภาพแก้วได้ ก็หลับตานึกถึงภาพแก้วนั้นแล้วก็ภาวนา นี่ทำเป็นกรรมฐาน จะภาวนา พุทโธ หรือ นะมะพะทะ ว่าได้ทุกอย่างเพราะว่าแก้วเป็นอาโลกกสิณ สำหรับอาโลกสิณนี่เป็นกสิณพื้นฐานของทิพจักขุญาณ หากว่าขณะที่หลับตาภาวนา ภาพลูกแก้วเลือนไปจากใจ ให้ลืมตาดูใหม่ จำภาพลูกแก้วแล้วภาวนาต่อไป จนกระทั่งภาพลูกแก้วติดตาติดใจ คราวหลังเราไม่ต้องมองดูลูกแก้ว แต่นึกภาพลูกแก้วได้เป็นปกติอย่างนี้ท่านเรียกว่า อุคหนิมิต อุคหนิมิตนี่เป็น อุปจารสมาธิ เป็นผลของทิพจักขุณาณ เมื่อทำอย่างนี้เรื่อยๆ ไปจนกระทั่งภาพลูกแก้วติดตาติดใจอยู่เสมอ ต่อมาก็อธิฐานให้ลูกแก้วโตขึ้น ก็จะเห็นภาพลูกแก้วโตขึ้น อธิฐานให้เล็กลงก็จะเล็กลง ให้อยู่สูงก็อยู่สูง ให้อยู่ต่ำก็อยู่ต่ำ อยู่หน้าก็ได้ อยู่หลังก็โด้ตามชอบใจ อย่างนี้เป็น ปฏิภาคนิมิต ถือว่าเป็นนิมิตสูงสุดส่วนหนึ่ง..."

    "ในเมื่อเห็นลูกแก้วชัดเจนแจ่มใสดีเท่าไหร่ ความเป็นทิพจักขุญาณของท่านพุทธบริษัทที่จะเห็นภาพอื่นก็จะเห็นชัดเจนเท่า นั้น แต่ว่าถ้าเห็นลูกแก้วชัดเจนดีแล้ว ต่อไปก็อธิฐานขอให้ภาพลูกแก้วหายไป ขอภาพของพระพุทธเจ้าจงปรากฏ ในเมื่อเห็นภาพของพระพุทธเจ้าปรากฏแทน ขอให้อธิฐานให้พระองค์โตขึ้น ภาพของพระพุทธเจ้าโตขึ้น ขอให้พระองค์ทรงเล็กลง ก็เล็กลง ให้สูงให้ต่ำได้ตามความต้องการ อย่างนี้ถือว่าถึง ที่สุด ของ มโนมยิทธิ

    ถ้าทำมโนมยิทธิได้ตามนี้แล้วจึงเคลื่อนออก ถ้าเคลื่อนไปไหนจิตกับกายจะตัดกันเด็ดขาด คือว่าไป สุดตัว ถ้าไปสุดตัวก็จะได้พบทุกอย่าง จะพบเทวดา จะพบพรหมก็ดี พบพระอรหันต์ก็ดี เราก็จะมีสภาพไปนั่งคุยกันอย่างสบาย เหมือนนั่งคุยกันอยู่นี่ ถือว่าเป็นการเต็มมโนมยิทธิที่ศึกษา เพราะมโนมยิทธิที่ศึกษากันอยู่เวลานี้ เราใช้กำลังครึ่งเดียว..."

    "แต่ว่าเพื่อผลประโยชน์ของบรรดาท่านพุทธบริษัทว่า

    "ทุกคนยังต้องกินต้องใช้ พระพุทธเจ้าก็ทรงห่วงเหมือนกัน ท่านถือว่าถ้าทุกคนยากจนเสียจริงๆ ไม่มีกินมีใช้ การเจริญสมาธิก็ไม่มีผล เพราะมีความเดือดร้อน"

    ฉนั้นท่านจึงแนะนำว่า ถ้าทำสมาธิในด้านของกรรมฐานครบถ้วนพอใจแล้ว หลังจากนั้นให้ต่อด้วย คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า (คาถาเงินล้านปัจจุบัน) และเวลาที่เจริญพระกรรมฐานทรงฌาณเท่าไร คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าก็จะทรงฌาณเท่านั้น เมื่อคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าทรงเป็นฌาณ การเงินของท่านพุทธบริษัทจะมีการคล่องตัวดีมาก ถ้าปฏิบัติได้เป็นฌาณจริงๆ คือ เห็นภาพชัดจริงให้สังเกตุดูว่า หลังจากทำไป ๓ เดือน ผลการปฏิบัติลาภสักการะจะเกิด การเงินไม่ฝืดเคือง ยิ่งทำนานมากเงินก็จะยิ่งขังตัว..."

    "เงินเดือนที่ไม่ค่อยพอเดือน มันก็จะเริ่มพอเดือน เดือนหน้ากับเดือนหลัง มันสวัสดีกันได้ก็พอตัวแล้ว ต่อมาเจ้าเดือนหน้ามันไม่ยอมไป เดือนใหม่ก็ยังมีมาอีก มันเริ่มขังตัว มันเริ่มขังตัวแน่นะ รวมความว่า มันนอนคุยกันในกระเป๋าได้ ทำตามนี้มีผลจริงๆ นะ และวิธีที่ใช้เงินในคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าก็มีแบบหนึ่ง ซึ่งเคยได้กล่าวไว้แล้ว.."
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 ธันวาคม 2010
  2. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    [​IMG]
    *
    [​IMG]
    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
    www.tangnipparn.com
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา </O:p>
    *
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2010
  3. ธรรมสถิต

    ธรรมสถิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,261
    ค่าพลัง:
    +15,736
    [​IMG]

    อนุโมทนาสาธุการครับ

    ที่บ้านท่านเจ้ากรมเสริม ฯ ซอยสายลม
    พหลโยธิน 8 ยังมีให้เช่าลูกแก้วหลวงพ่อนะครับ

    ท่านจะมารับสังฆทานและฝึกมโนมยิทธิ
    เฉพาะช่วงเสาร์-จันทร์ ต้นเดือนแรกของเดือน
    เดือนนี้พระท่านกลับแล้ววันนี้

    เดือนหน้าพระท่านจะมาช่วงสิ้นปีพอดีครับ
    ค่าเช่าลองสอบถามและชมดูนะครับ
    ถือเป็นการทำบุญด้วย และได้ลูกแก้วหลวงพ่อไปคุ้มครองด้วยครับ
    อนุโมทนาบุญอีกครั้งครับ
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ด่วนกองบุญกองละ1,000 บาท 1,000 กองสร้างศาลาสมเด็จฯ
     
  4. kukkikkaks

    kukkikkaks เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +363
    ขอบคุณ คุณ VANCO ที่นำมาให้อ่าน พึ่งเริ่มฝึกสมาธิใหม่ค่ะ ก้อฝึกเพ่งลูกแก้วตอนเพ่งก้อไม่ได้อะไรมากมาย ก้อสวดมนต์นอนหลับไปปกติ แต่ในขณะหลับความรู้สึกว่าจิตมันตื่น นกเห็นลูกแก้วกลมใส ระยิบระยับสักครู่แล้วก้อหลับต่ออีก เกิดขึ้นไม่บ่อยหรอกค่ะ 2 -3 ครั้งตอนหลับ อันนี้ถือเป็นอุคคหนิมิตรึเปล่า
    :cool::cool::cool:
    เราอธิษฐานความดีเพื่อพระนิพพานเท่านั้น
     
  5. ลิงเผือก

    ลิงเผือก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +140
    อนุโมทนา ครับ ลูกแก้วสารพัดนีก ใช้ได้ทั้งทางธรรม และทางโลก ท่านอนุเคราะห์ลูกหลาน
     
  6. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    อ๋อนี่หรือคือวิชามโนมยิทธิ เคยทำได้เมื่อสมัยที่บวชตอนเด็กๆ (อายุ 10 ปี) ที่วัดไผ่ดำ จังหวัดสิงห์บุรี ฝึกปฏิบัติสมาธิสายพุทโธ (พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต) 7 วัน 7 คืน กลางคืนนั่งสมาธิทั้งคืน ไม่รู้ว่าตอนนั้นทำไปได้ยังไง ไม่ง่วง ไม่หิว ไม่ถ่าย (เป็นโครงการของท่านอาจารย์วิริยัง วัดธรรมมงคล) ยังไม่เคยเห็นหรือรู้จักดวงแก้ว แต่ทำสมาธิจนเห็นดวงแก้วใส เข้าใจว่านี่คือจิตเดิมแท้ ที่ท่านอาจารย์เทศน์สอนว่าจิตมนุษย์ทุกคนเดิมทีเป็นจิตประภัสสร แต่ขุ่นมัวไปเพราะกิเลสเข้าครอบงำ เราต้องขัดเกลาด้วยธรรมะ....ต่อจากนั้นก็กำหนดดวงแก้วนั้นให้เล็กใหญ่ได้ดังใจ เมื่ออธิฐานขอพบพระพุทธเจ้าโดยมองทะลุดวงแก้วเข้าไปก็เห็นพระพุทธรูป พร้อมฉัพพรรณรังสี สว่างไสว งดงามแต่ไม่แสบตา นึกกำหนดในใจอยากเห็นเหตุการณ์ที่บ้าน ก็ได้เห็น อยากรู้อะไรก็ได้รู้แต่อยู่ภายใต้ศีลธรรมนะจ๊ะ ปิติเกิดจนไม่อยากกลับมาอยู่ทางโลกอีก ได้เห็นว่าทางโลกมีแต่ของสกปรก น่ารังเกียจ ทั้งร่างกายและจิตใจ สามารถทำให้เราแปดเปื้อนได้ง่าย ขณะนั้น ไม่รู้ว่าสภาวะที่เกิดขึ้นกับจิตนี้ เรียกว่าอะไร แต่มีภาระต้องทดแทนบุญคุณของผู้เลี้ยงดูเรามา อีกทั้งมีหน้าที่ทางโลกที่ต้องเรียนหนังสือ จึงต้องลากลับบ้านเมื่อครบกำหนด 7 วัน แต่ก็ปฏิบัติสมาธิทุกวันตามที่ได้ฝึกมา ไม่เคยป่วย เพราะทุกครั้งที่รู้สึกเหมือนจะป่วย ก็จะนั่งสมาธิแล้วก็อธิษฐานจิตให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ ได้ผลนะ ไม่ต้องกินยา ไม่ต้องหาหมอเลย เรียนหนังสือก็ไม่ต้องอ่านหนังสือดึกๆ ดื่นๆ เหมือนคนอื่นเค้า สอบเลื่อนชั้นได้ไม่เคยสอบตก เพราะความจำดี พอโตขึ้นหน่อยก็ศึกษาจากหนังสือธรรมะ ก็เลยเข้าใจว่าจิตแคล่วคล่องว่องไว นึกจะไปไหนก็ได้รวดเร็วนี้ เรียกว่า วสี แล้ว วสี กับ มโนมยิทธิ เนี่ยเหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไรคะ?
     
  7. waythai

    waythai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,499
    ค่าพลัง:
    +15,192
  8. EakChutidet

    EakChutidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +856
    ขออนุโมทนา ขอความเจริญในธรรมจงบังเกิดแก่ทุกท่านทุกรูปทุกนาม หากการกระทำใดๆ
    ของข้าพเจ้าล่วงเกินท่านทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นวจีกรรม,มโนกรรม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมมา ณ ที่นี้

    ขอปฎิญาณตนเป็นคนดี ละเว้นการกระทำชั่ว ถือศิล มีธรรมะประจำใจ มีพระนิพพานเป็นอารมณ์
    จะขอมีสติทุกลมหายใจเข้า-ออก ระลึกถึงความตายไว้เสมอทุกลมหายใจเข้า-ออก ละลึกเสมอว่า
    ตัวเรามิใช้ของเรา กายเราก็มิใช่ของเรา เคารพในครูบาอาจารย์ หมั่นปฎิบัติมิให้ขาด ตั่งจิตตั้งใจ
    จะไม่เกิดใหม่อีก ขอให้ถึงพระนิพพานในชาตินี้

    ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ไปให้ทุกรูปทุกนามทั้ง 20 ชั้นพรหมโลก 6 ชั้น
    เทวะโลก มนุษย์โลก มารโลก ยมโลก อบายภูมิทั้ง 4 มี นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน
    และในหมื่นโลกธาตุกับอีกแสนจักรวาลพิภพ ทั้งที่เป็นมนุษย์ อมนุษย์ รูปวิญญาณ อรูปวิญญาณ
    และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทั้งที่เป็นมิตรและศัตรู ตลอดจนเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า
    .........ขอให้ทุกรูปทุกนาม จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรซึ่งกันและกันเลย
    อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย ขอให้ทุกรูปทุกนาม จงโมทนาในส่วนกุศลนี้
    พึงได้รับประโยชน์ความสุขเช่นเดียวกัน ข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดนี้ด้วยเทอญ .........

    พร้อมกันนี้ ขออนุโมทนา บุญกุศลกับทุกท่านด้วยครับ
    นายชุติเดช วรรณสุวงค์
    _/l\_ สาธุ สาธุ สาธุ _/l\_
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.5vj.gif
      1.5vj.gif
      ขนาดไฟล์:
      18.1 KB
      เปิดดู:
      172
    • 1.bhoti.jpg
      1.bhoti.jpg
      ขนาดไฟล์:
      67 KB
      เปิดดู:
      1,070
    • 1.buddha.gif
      1.buddha.gif
      ขนาดไฟล์:
      56.4 KB
      เปิดดู:
      248
    • 2-bhuddha-orange.jpg
      2-bhuddha-orange.jpg
      ขนาดไฟล์:
      600.2 KB
      เปิดดู:
      265
    • 003.jpg
      003.jpg
      ขนาดไฟล์:
      136.1 KB
      เปิดดู:
      191
    • 3bbc.jpg
      3bbc.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.5 KB
      เปิดดู:
      167
    • 31.ภูมิ.jpg
      31.ภูมิ.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83.7 KB
      เปิดดู:
      227
    • 2987.jpg
      2987.jpg
      ขนาดไฟล์:
      193 KB
      เปิดดู:
      265
    • 332099.jpg
      332099.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.2 KB
      เปิดดู:
      176
    • buddha36.jpg
      buddha36.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45.6 KB
      เปิดดู:
      239
  9. eutayan

    eutayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +166
    เมื่อปี 28 ข้าพเจ้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพระองค์ท่านมากนัก แต่สามีเป็นคนชัยนาท เล่าให้ฟังคร่าว ๆ ก็ยังไม่เข้าใจนักเกี่ยวกับแนวทางของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ มัวแต่เพลินทางไป นรกซะมากกว่าได้มีโอกาสไปกราบท่าน เพราะหลานสาวของสามีกำลังเรียนผดุงครรภ์อยู่ เขาก็เล่าว่า "บูชาลูกแก้วหลวงพ่อสิ อธิษฐานขออะไรก็ได้นะน้า" หนูมาบูชาขอให้เรียนจบ จะได้เป็นกำลังสำคัญให้พ่อ กับแม่ เมื่อถวายสังฆทานท่านเสร็จ ฉันก็บูชาแบบหยดน้ำห้อยคอมา 1 ลูก แบบกลม 1 ลูก และก็พระคำหมาก คำข้าว อย่างละ 1 องค์ ด้วยศรัทธาไม่แรงกล้าเท่าไหร่ เห็นเขาทำก็ทำไปอย่างนั้นเองเดี๋ยวมีไม่เหมือนเขา กลับมาบ้านก็เอารูปหยดน้ำไปห้อยคอย มีคนเห็นก็จำได้ทักฉันว่า เนี่ยลูกแก้หลวงพ่อฤาษีใช่มะ แล้วก็ทำปากแบะ ๆ อย่างไรชอบกล ฉันก็เอ ลังเล สงสัย ยังไงเนี่ย รุ่งเช้า ลูกแก้วห่วงหักดีที่ไม่หายรู้ตัวเสียก่อน แต่ก็นอนใจนะ ยังมีลูกกลม ๆ อยู่อีก 1 ลูก ความที่ไม่ใส่ใจสร้างความดี ฉันก็ไม่ได้เก็บไว้ในที่อันสมควรนักคือไม่ใส่ใจเก็บเพราะกระแสตอนนั้น เขาพูดในทำนองว่าเพชรเขาพระงามอะไรทำนองเนี้ย หลังจากย้ายบ้านหลายครั้ง ก็สูญหายไปทั้งสองลูก หรือให้ใครไปไม่ทราบจำไม่ได้ คงเหลือแต่พระคำหมาก คำข้าว เพราะเห็นเป็นองค์พระ ก็เก็บใส่พานวางไว้ที่หิ้งพระ โขมยขึ้นบ้าน 2 ครั้งพระเลี่ยมทองเป็นสิบองค์ วางแบอยู่บนพานที่หิ้งพระ ไม่หาย
    ไม่มีใครแตะ แต่ของในตู้ที่เป็นของสามีเกลี้ยง ทั้งสองรอบ ปี 2542 หลานสาวคนที่พาไปวัดหลวงพ่อ เสียชีวิตด้วยโรคร้ายแรง ตอนป่วยก่อนเสียชีวิตเธอจะไปที่วัดบ่อยมาก เธอเล่าให้ฟังว่าได้บูชาของ.....(จำไม่ได้ว่าเขาพูดอะไรมั่ง)...มาหลายอย่างเลย เอาไว้แจกคนไข้ที่มารักษาเขาจะได้ไม่ป่วยเหมือนหนู พอเขาเสียชีวิตได้ 1 ปี ตู้เสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ของหลานปลวกขึ้นเกือบทั้งบ้าน พ่อเค๊าก็จ้างคนมาเก็บกวาด เผาเป็นขยะทิ้งซะ บ้านก็รื้อเหลือแต่โครงเสา อีกนิดหน่อยกับบ้านหลังใหญ่ ซึ่งปลวกก็ขึ้นจะหมดอยู่แล้ว อีกอย่างที่ดินเป็น ภบท. ซื้อขายก็ไม่ได้ราคา ฉันตัดสินใจแยกบ้านจากครัวใหญ่ โดยขอซื้อที่แปลงนี้ และก็ซ่อมบ้านหลังใหญ่อยู่ ระหว่างเก็บกวาดปรับที่ดิน ก็ไปเจอลูกแก้วถุงใหญ่ มีลูกแก้วเป็นสิบๆลูกใส่ถุงพลาสติก (ถุงกร๊อบแกร๊บ) ไม่ยักกะไหม้ไฟ และก็เจอพระอีก 2 ถุง ฉันเห็นเป็นลูกแก้วสีๆ ที่เด็ก ๆ เล่นก็นึกว่าเป็นของชาวบ้านแถวนั้นเอามาโยนใส่กองไฟมั้ง แต่เอ พระนี่รูปแบบเหมือนพระผงนางพญา เนื้อสีชมพูอ่อน ๆองค์เล็กเท่านางกำแพง กับปางลีลา เนื้อจะออกขาวๆ นวล ๆ ไม่รู้ของวัดไหน แจกเขาเกือบหมดลูกแก้วก็ให้เด็กๆ เกือบหมด พอซ่อมบ้านเสร็จมานั่งนึก อะไรวะ พระเป็นถุงๆ คนเก็บขยะไม่ยักเห็น ลูกแก้วมีลอยเขม่าไฟจับเต็มไปหมดจนถุงยุบหดตัวขนาดนี้ ดำขนาดนี้ ทำไมถุงมันไม่ไหม้ไฟฟะ
     
  10. eutayan

    eutayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +166
    เบรคค่ะ กลัวอ่านกันเบื่อน่ะ
    แล้วความเจริญก็เข้ามาเทียบหน้าบ้าน ฉันต่อเน็ตเข้าบ้านเพื่อให้ลูกได้ใช้ประโยชน์มากกว่า ตัวฉันเองไม่ค่อยเป็นนัก และก็ไม่รู้อะไรมากด้วยเกี่ยวกับข้อมูลตรงนี้ แต่ด้วยหน้าที่การงาน ถ้าเราล้าหลังกว่าเค๊า เราจะถูกกดดันให้ออกจากงานแน่ จำเป็นต้องอัพเดท ปี 2552 ฉันมาที่วัดอีกครั้ง ด้วยระลึกถึงหลวงพ่อในข้อสงสัยหลาย ๆ อย่าง ฉันไปที่วิหารกราบสังขารท่าน นั่งอยู่ตั้งไกลนะ ขนหัวลุกตลอดเวลา แล้วก็ไปซื้อหนังสือหลวงพ่อมาอ่าน
    จำเล่ม จำตอนไม่ได้แล้ว ข้อความเท่าที่จำได้นะคะ " ลูกแก้วให้..ไปซื้อที่ชัยนาท เอาไอ้ลูกแก้วที่เด็ก ๆ เล่นนะมาทำ เพราะราคาไม่แพงชาวบ้านจะได้บูชากันได้มาก ๆ " คนหัวลุกจ๊าก
    หลานสาวพูดว่า "หนูเอาลูกแก้วหลวงพ่อมาเยอะเลย นะน้าเดี๋ยววันหลังจะเอามาให้" ตอนนั้นเขาทำงานอยู่อนามัยต่างจังหวัด ไอ้กองขยะที่เราเจอพระกะลูกแก้วเนี่ยคนเก็บกวาดเขาเผาเสื้อผ้าหลานสาวที่ปลวกขึ้นนี่หว่า เสื้อผ้ามันไหม่้หมด ทำไมถุงพระ กะถุงลูกแก้วไม่เป็นไร เท่านั้นแหละ นอนอ่านหนังสืออยู่เด้งผึงเลย ลุกไปดุูลูกแก้วที่เหลือ 2 ลูกคุณพระช่วยตอนเก็บไว้น่ะ ลูกแก้วยังเป็นหลายสีอยู่เลย แต่ตอนนี้ เป็นสีเขียวอ่อน ๆ 1 ลูก สีออกน้ำ้
    เงินอมม่วง 1 ลูกนอกนั้น .........โอยเสียดาย
     
  11. eutayan

    eutayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +166
    หลานสาวฉันมีพระแก้วใสอยู่ เห็นบูชามาจากวัดตั้งแต่สมัยหลวงพ่อยังอยู่ ฉันอยากได้มากเลย ตอนนี้แม่เขาป่วยแล้ว อายุมากก็ธรรมดา ตั้งใจว่าจะขอเขา ก็เห็นลูก ๆ คนอื่นไม่ใส่ใจเรื่องธรรมะเท่าไหร่ แต่ก็เกรงใจเขาให้พี่เขาเอาไว้ก่อนเวลาเขานึกถึงลูกสาว (มีลูกสาวคนเดียว)ก็จะมานั่งมองพระแก้วใส แต่ก็โชคคดีนะ ปีใหม่ 2554 ได้ของขวัญเป็นพระแก้วใส หน้าตัก 3 นิ้วด้านหน้ามีสติ๊กเกอร์รูปหลวงพ่อ พอได้มาก็นำมาวางบนพานไว้ที่ห้องพระ คนให้เขาบอกว่าให้พระมานั่งสมาธิ นะ คืนที่ได้มาฉันก็เขาห้องพระนั่งสมาธิตามความประสงค์ของคนให้ ห้าทุ่มครึ่งล่ะ พอสวดมนต์ฉันก็มองไปที่องค์หลวงพ่อพระแก้วใส เห็นกลุ่มควันลอยออกมาเป็น ไอๆ คล้ายเราจุดธูป ไว้ใต้พาน หรือประมาณว่าไอของก้อนน้ำแข็งก้อนใหญ่ ๆประมาณนั้น และไอที่ลอยออกมานั้น ไม่ได้เป็นมิติเดียว คือ เหมือนเขาลอยไป ลอยมาได้ และก็มากขึ้นๆ คิดว่าความใสอาจทำให้เราเห็นเป็นเช่นนั้นก็ได้พอหลับตา สักพักก็ลืมตาดูใหม่ ก็เป็นเหมือนเดิม 3-4 ครั้งก็เลยมั่นใจเห็นแน่ ๆ แต่อยากถามผู้รู้ ช่วยชี้แนะผู้ด้วยปัญญาคนนี้ด้วยนะคะ ว่าอะไรกันแน่ ทำไมเป็นเช่นนั้น และฉันควรทำอย่างไรต่อไป
     
  12. thol

    thol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    257
    ค่าพลัง:
    +837
    อนุโมทนาสาธุครับ
    ขอให้ทุกๆท่านแคล้วคลาดจากภัยทั้งปวง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 25E0.jpg
      25E0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83.1 KB
      เปิดดู:
      703

แชร์หน้านี้

Loading...