ความจริงที่โหดร้าย ของศรีอาริยเมตตรัย หลายภาคโกฏิ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย kuruzen, 20 พฤษภาคม 2010.

  1. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    เราคงผิดปกติที่เราอ่านแล้วเข้าใจในทุกอักขระ เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเราเข้าใจได้ยังไง (งงป่ะ)

    รู้แค่ว่าเวลาเหลือน้อยมาก จนไม่รู้ว่า ชาตินี้จะทำสำเร็จลุล่วงไหม คงเสียใจหากทำหน้าที่ตัวเองไม่เสร็จ

    อย่าตกใจ เราเป็นคนธรรมดา ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะเป็นโน่นเป็นนี่หรือเป็นอะไร เพราะสุดท้ายก็เป็นอะไรไม่ได้อยู่ดี จบข่าว
     
  2. yavoiii

    yavoiii Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +65
    รูปแทนตัวของท่านมันแหม่งๆนะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • a.jpg
      a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      13.6 KB
      เปิดดู:
      43
    • b.jpg
      b.jpg
      ขนาดไฟล์:
      10.4 KB
      เปิดดู:
      142
  3. chaipad

    chaipad สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +11
    ไร้สาระโคตรๆ ผมคิดว่าการคิดหรือโอ้อวดว่าตนเองเป็นอย่างโน้นอย่างนี้...
    เก่งอย่างงั้น ดีอย่างงี้...เป็นลักษณะอาการของคนที่มีความบกพร่องทางสมอง...
    การปฏิบัติธรรมจะได้ฌาณระดับไหน มันก็รู้อยู่ที่ตัวท่านเอง ไม่จำเป็นต้องมา...
    แหกปากตะโกนให้ผู้อื่นรู้หรอกว่า ข้าบรรลุ ข้าสำเร็จ ข้าเหนือคน...โคตรปัญญาอ่อนเลยครับ
     
  4. ชุนชิว

    ชุนชิว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +780
    ปัญหาที่ ๕ ถามถึงความมีขึ้นแห่งสังขารที่ไม่มี
    “ ข้าแต่พระนาคเสน สังขารบางอย่างไม่มี แต่มีขึ้น มีบ้างหรือไม่ ?
    “ ขอถวายพระพร ไม่มี สังขารที่มีอยู่เท่านั้นมีขึ้น เช่น พระราชมณเฑียรที่มหาบพิตรประทับนั่งอยู่นี้ เมื่อก่อนไม่มี แต่มีขึ้น ”
    “ ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ในข้อนี้ได้ความว่าสังขารทุกอย่างที่ไม่มี แต่มีขึ้น….ไม่มี มีขึ้นเฉพาะที่มีอยู่เท่านั้น ”

    อุปมาพระราชมณเฑียร

    “ ขอถวายพระพร ไม้ที่นำมาทำพระราชมณเฑียรนี้ ได้เกิดอยู่แล้วในป่า ดินเหนียวนี้ได้มีที่แผ่นดิน แต่มามีขึ้นในที่นี้ด้วยความพยายามของสตรีและบุรุษทั้งหลาย เป็นอันว่า พระราชมณเฑียรนี้มีขึ้นด้วยอาการอย่างนี้ ฉันใด สังขารบางอย่างที่ไม่มีแล้วมีขึ้น…ไม่มี มีขึ้นเฉพาะสังขารที่มีอยู่เท่านั้น ฉันนั้น ”
    “ ขอนิมนต์อุปมาอีก ”

    อุปมาด้วยต้นไม้่

    “ ขอถวายพระพร พืชเล็ก ๆ เกิดอยู่ในแผ่นดิน พืชเหล่านั้นย่อมมีใบ ดอก ผล ตามลำดับ พืชที่เกิดเป็นลำต้นเหล่านั้นไม่มีอยู่ แต่มีขึ้นหามิได้ ”
    “ ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า เป็นอันว่าต้นไม้เหล่านั้นเป็นของมีอยู่แล้ว จึงมีขึ้นได้อย่างนั้นนะ”
    “ ขอถวายพระพร อย่างนั้นแหละ คือสังขารบางอย่างที่ไม่เคยมี แต่มีขึ้น..เป็นอันไม่มี มีขึ้นเฉพาะแต่ที่มีอยู่เท่านั้น ”
    “ ขอนิมต์อุปมาให้ยิ่งขึ้น ”

    อุปมาด้วยช่างหม้อ

    “ ขอถวายพระพร ช่างหม้อขุดเอาดินจากแผ่นดิน แล้วมาทำเป็นภาชนะต่าง ๆ ขึ้นภาชนะเหล่านั้นยังไม่เคยมี แต่มีขึ้น จึงว่ามีขึ้นเฉพาะของที่มีอยู่เท่านั้น ฉันใด สังขารบางอย่างที่ไม่มี แต่มีขึ้น..เป็นอันไม่มี มีขึ้นเฉพาะแต่ที่มีอยู่เท่านั้น ฉันนั้น ”
    “ ขอนิมนต์อุปมาให้ยิ่งขึ้นไป ”

    อุปมาด้วยพิณ

    “ ขอถวายพระพร เหมือนอย่างว่า เมื่อก่อนใบพิณไม่มี หนังขึ้นพิณก็ไม่มี รางพิณก็ไม่มี คันพิณก็ไม่มี ลูกบิดก็ไม่มี สายพิณก็ไม่มี นมพิณก็ไม่มี ความพยายามอันเกิดจากการกระทำของบุรุษก็ไม่มี แต่มีเสียงขึ้นอย่างนั้นหรือ ? ”
    “ ไม่ใช่อย่างนั้น พระผู้เป็นเจ้า ”
    “ ขอถวายพระพร เพราะใบพิณมี หนังขึ้นพิณก็มี รางพิณก็มี คันพิณก็มี ที่รองพิณก็มี สายพิณก็มี นมพิณก็มี ความพยายามอันเกิดจากการกระทำของบุรุษก็มี จึงมีเสียงขึ้นอย่างนั้นหรือ ? ”
    “ อย่างนั้น พระผู้เป็นเจ้า ”
    “ ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร คือสังขารบางอย่างไม่มี แต่มีขึ้น…เป็นอันไม่มี มีขึ้นเฉพาะแต่ที่มีอยู่เท่านั้น ”
    “ ขอนิมนต์อุปมายิ่งขึ้นไปอีก ”

    อุปมาด้วยไฟ

    “ ขอถวายพระพร เหมือนอย่างว่าแม่ไม้สีไฟไม่มี ลูกไม้สีไฟก็ไม่มี เชือกที่ผูกไม้สีไฟก็ไม่มี ไม้ที่จะหนุนขึ้นไว้ก็ไม่มี ปุ๋ยหรือฝอยในแม่ไม้สีไฟก็ไม่มี ความพยายามอันเกิดจากกการกระทำของบุรุษก็ไม่มี แต่มีไฟขึ้นอย่างนั้นหรือ ? ”
    “ ไม่ใช่อย่างนั้น พระผู้เป็นเจ้า ”
    “ ขอถวายพระพร เพราะเหตุที่แม่ไม้สีไฟก็มี ลูกไม้สีไปก็มี เชือกรัดแม่ไม้สีไฟก็มี ไม้สำหรับหนุนแม่ไม้สีไฟให้สูงขึ้นก็มี ปุ๋ยหรือฝอยในแม่ไม้สีไฟก็มี ความพยายามอันเกิดจากการกระทำของบุรุษก็มี ไฟนั้นจึงมีขึ้นได้อย่างนั้นหรือ ? ”
    “ อย่างนั้น พระผู้เป็นเจ้า ”
    “ ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ คือสังขารบางอย่างไม่มี แต่มีขึ้น…เป็นอันไม่มี มีขึ้นเฉพาะแต่ที่มีอยู่แล้วเท่านั้น”
    “ ขอให้อุปมายิ่งขึ้นไปกว่านี้ ”

    อุปมาด้วยแก้วมณ

    “ ขอถวายพระพร เปรียบเหมือนแก้วมณีไม่มี แสงแดดก็ไม่มี ขี้โคแห้งก็ไม่มี แต่ไฟเกิดขึ้นได้อย่างนั้นหรือ ? ”
    “ ไม่ใช่อย่างนั้น พระผู้เป็นเจ้า ”
    “ ขอถวายพระพร ก็เหตุที่แก้วมณีก็มี แสงแดดก็มี ขี้โคแห้งก็มี ไฟจึงมีขึ้นอย่างนั้นหรือ ? ”
    “ อย่างนั้น พระผู้เป็นเจ้า ”
    “ ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร คือสังขารบางอย่างที่ไม่เคยมี แต่มีขึ้น..ย่อมไม่มีมีขึ้นแต่เฉพาะที่มีอยู่แล้วเท่านั้น ”
    “ ขอนิมนต์อุปมาให้ยิ่งไปกว่านี้อีก ”

    อุปมาด้วยกระจกเงา

    “ ขอถวายพระพร เปรียบเช่นกับกระจกเงาไม่มี แสงสว่างก็ไม่มี หน้าคนที่จะส่องก็ไม่มีแต่มีหน้าคนเกิดขึ้นที่กระจกเงานั้นอย่างนั้นหรือ ? ”
    “ ไม่ใช่อย่างนั้น พระผู้เป็นเจ้า ”
    “ ขอถวายพระพร เพราะเหตุที่กระจกเงาก็มีอยู่ แสงสว่างก็มีอยู่ หน้าคนที่ส่องกระจกนั้นก็มีอยู่ เงาหน้าคนจึงปรากฏที่กระจกอย่างนั้นหรือ ? ”
    “ อย่างนั้น พระผู้เป็นเจ้า ”
    “ ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร คือสังขารบางอย่างที่ยังไม่เคยมี แต่มีขึ้น…ย่อมไม่มีมีขึ้นเฉพาะที่เคยมีอยู่แล้วเท่านั้น ขอถวายพระพร ”
    “ ผู้เป็นเจ้าแก้ถูกต้องดีแล้ว ”
     
  5. นักรบโบราณ

    นักรบโบราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +973
    พระธรรมกว้างใหญ่ไพศาลเกินจะรู้ทั่ว

    เจ้าของกระทู้ช่วยนำมาเผยแพร่ ซึ่งบางเรื่องเราก็พบตรงเช่นกัน

    แต่หลายท่านกลับใช้วจีกรรม สร้างกรรมใส่ตนเอง น่าอนาถแท้ๆ

    วาสนาบารมี มากน้อยเท่ากันเมื่อไหร่ เมื่อปฏิบัติแบบเอามรรค ผล นิพพาน ท่านจะรู้

    ว่ากรรมที่ท่านทำอยู่นี่นะ ขวางทางก้าวหน้าในการปฏิบัติของท่านเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...