คุณคิดว่าวิทยาศาสตร์กับศาสนามีความสัมพันธ์กันหรือไม่?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย khajornwan, 8 พฤศจิกายน 2010.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932

    *** สัจจะธรรมเดียวกัน ****

    สิ่งที่อยู่กับเราไปชั่วนิรันดร์........ก็คือ ตัวกระทำ
    พลังงานไม่เคยสูญหายไปไหน....ก็คือ ตัวกระทำที่ไม่ตาย
    กฎแห่งกรรม.......................ก็คือ เรื่องของตัวกระทำ ที่มีผลตอบแทน
    ไม่มีกฏเกณฑ์อื่น..................ก็คือ สัจจะธรรม หลักเดียวที่ปักไว้มั่นคง มีผลรอบครอบจักรวาล

    "สัจจะธรรม"
    คือ ตัวกระทำที่มีอยู่จริง ตัวกระทำนั้นไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน
    The Action never die.

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  2. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    ขอบคุณค่ะคุณหนุมาน น่ารักมากเลยค่ะ.. มาช่วยแปลสารให้ขจรวรรณด้วย^_^

    ว่างๆ คุณหนุมานช่วยแนะวิธีการฝึกสมาธิตามแนวของคุณหนุมานมาฝากบ้างนะคะ
    อยากรู้ว่าคุณหนุมานรู้จักสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดได้อย่างไรน่ะค่ะ..
    (f)(f)(f)
     
  3. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    ธรรมะวันละนิด

    ปริญญาภายนอก เรียนเท่าไหร่ก็ไม่จบ
    แต่ปริญญาของพระพุทธเจ้านั้น
    เรียนจบ " มันหมดความเวียนว่ายตายเกิด "

    หลวงพ่อ.. ^_^
     
  4. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    วันนี้เราคงสามารถคุยกับคุณ ไอน์สไตน์ เกี่ยวกับพลังงานที่สถิตย์อยู่บนรูปภาพเหมือนของลีโอนาโด ดาวินชี่ได้แล้ว เพราะว่าการเขียนภาพเหมือนนั้นเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่พี่นักเขียนโนวา อนาลัยเคยสอนสมาธิให้พวกเรานักเรียนในห้องวิทย์ฯ มาก่อน ถึงแม้ว่าพวกเราไม่มีพื้นฐานการวาดภาพมาก่อนพี่นักเขียนก็จับพวกเรามาเป็นศิลปินกันหมดเรยค่ะ

    วิธีการของพี่นักเขียนก็คือวาดทุกอย่างตามที่เราเห็น มันจึงรู้สึกเหมือนกับว่าเรากับเค้าเป็นคนเดียวกัน เวลาศิลปินวาดภาพจึงเหมือนกับว่าเค้าได้ใส่อารมณ์ ความรู้สึก นึกคิด หรือจิตวิญญาณหรือพลังงานของผู้ถูกวาดลงไปในภาพด้วย จึงทำให้ภาพนั้นดูเหมือนเจ้าของภาพอย่างไม่น่าเชื่อ

    ลองดูภาพนี้สิคะ ภาพนี้พี่นักเขียนวาดตอนที่สมเด็จพระพี่นางเธอฯ ทรงสิ้นพระชนม์ใหม่ๆ พี่นักเขียนวาดไปแล้วก็ร้องให้ไปด้วยความรู้สึกอาลัยอาวรณ์เป็นอย่างยิ่ง และเป็นภาพแรกที่พี่นักเขียนลองใช้สีน้ำในการวาดด้วยนะคะเนี่ย..

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nova_analai [​IMG]
    ขอร่วมไว้อาลัยพระองค์ท่านฯ พร้อมกับชาวไทยทั่วโลก

    เช้านี้ได้ทราบข่าวการสูญเสียของพวกเราชาวไทย
    พี่นักเขียนจึงอยากจะเร่ิมต้นวันใหม่ ปีใหม่
    ด้วยการระลึกถึงพระคุณของพระองค์ท่าน
    และถ่ายทอดความรู้สึกที่มีต่อพระองค์ท่านร่วมกับชาวไทยทั่วโลก
    โดยถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมดลงในภาพวาด

    ระหว่างที่วาดภาพ แม้ว่าจะไม่ได้จดจ่อคิดอะไร นอกจากใช้สมองซีกขวาวาดไปเรื่อยๆ พยายามถ่ายทอดสิ่งที่มองเห็นลง canvas แต่น้ำตาไหลไปเรื่อยๆจนพี่นักเขียนไม่แน่ใจว่าจะวาดสำเร็จหรือไม่ เพราะต้องคอยซับน้ำตา และเพิ่งจะทดลองใช้เทคนิกที่พี่นักเขียนไม่เคยใช้มาก่อน เรียกว่า Impasto ซึ่งเป็นการใช้สีข้นๆวาดทับไปหลายชั้นเร็วๆก่อนที่สีจะแห้ง ทำได้แต่เฉพาะกับสีน้ำมันหรือ Acrylic ซึ่งข้นและแห้งช้า หากใช้สีน้ำต้องผสม thickening media หรือสารที่ทำให้สีข้นและแห้งช้ากว่าปกติ เรียกว่า Aquapasto

    ตลอดเวลาที่วาดภาพ พี่นักเขียนคิดว่า แม้เราจะพยายามศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับจิตวิญญาณ แต่เราก็ไม่อาจหยั่งถึงความเป็นจริงได้ทั้งหมดเพราะจิตวิญญาณมีความยิ่งใหญ่ไพศาลเกินกว่าที่เราจะหยั่งถึง

    แต่เราทั้งหลายก็คงสัมผัสกับพลังอำนาจที่แท้จริงของจิตวิญญาณได้เสมอๆโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะของความตายของผู้ที่เรารักเคารพนับถือหรือบูชา ที่ทำให้เรารู้ว่า จิตวิญญาณยังคงดำเนินต่อไป พร้อมด้วยพลังอำนาจของความรักที่เป็นแก่นแท้ซึ่งเราทั้งหลายสัมผัสได้เสมอๆทั่วทุกตัวคน(rose)
    [​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อีกวิธีการหนึ่งที่สามารถทำให้ภาพเหมือนนั้นมีพลังในยุคปัจจุบันนี้ แต่ความรู้สึกอาจจะไม่ลึกซึ้งเท่าวิธีการของพี่นักเขียนเราสามารถใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์บวกกับจิตวิญญาณมาใช้ร่วมกันได้ก็คือ เราอาจจะไม่ใช่คนวาดภาพเหมือนนั้นเองแต่ไปขอร้องให้ใครก็ได้ที่มีความสามารถในการวาดภาพเหมือน เมื่อวาดภาพเสร็จ ก็ไปขอให้ผู้ที่มีความสามารถให้การเคลื่อนย้ายพลังงานมา copy พลังงานเจ้าของภาพมาใส่ลงไปในภาพไปเลยก็ได้ หรือจะเพิ่มพลังให้กับจิตวิญญาณในภาพเลยก็ยังได้ ง่ายๆ ด้วยวิธีการแค่คิดพลังนั้นก็มาแล้วไม่ได้ยุ่งยากอะไร

    นี่เป็นคุณสมบัติเดิมแท้และเป็นธรรมชาติของจิตวิญญาณที่จะสามารถทำอะไรก็ได้.. แต่พวกเรายังมีข้อจำกัดมากมายเกี่ยวกับความเชื่อและยึดติดอยู่กับภาวะทางกายภาพกันอยู่ จิตวิญญาณมาถือกำเนิดในร่างกายเนื้อหนังเพื่อมาเรียนรู้ประสบการณ์ทางกายภาพ แล้วก็หลงลืมภาวะดั้งเดิมของจิตวิญญาณ ในยุคสมัยก่อนเราเรียนรู้เพื่อการอยู่รอดทางกายภาพแต่ปัจจุบันนี้มนุษย์ได้ข้ามพ้นภาวะของความอยู่รอดไปแล้ว และกำลังจะก้าวเข้าสู่การพัฒนาทางจิตวิญญาณชนิดที่คนรุ่นเก่าจะต้องตลึงตลึงตลึงตึงตึง.. กันเลยทีเดียวแหล่ะตัวเอง หุหุ..
    (ping-love(ping-love(ping-love<O:p</O:p
     
  5. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    ธรรมะวันละนิด

    เราไม่ต้องมองไกล
    ปล่อยวางในปัจจุบันนี้
    ให้มันมาก ให้มันลึกซึ้ง

    หลวงพ่อ..^_^
     
  6. Jjfreeman

    Jjfreeman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2010
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +130
    ตัวมนุษย์(ร่างกาย)เป็นเหมื่อนเครื่องฟอกของเสียให้เหล่าบรรดาสิ่งมีชีวิตต่างๆ(รวมถึงเราด้วย)ในเอกภพนี้ ที่มีชีวิตอยู่ในรูปแบบ พลังงาน(วิญญาน) เข้ามายึดร่างกายเพื่อมาปรับสภาพสภาวะพลังงานให้สมดุลเหมาะแก่การพัฒนาให้ก้าวไปในอีกระดับหนึ่ง โดยมีครู(ครูในที่นี้อาจจะหมายถึง พระศาสาดา แต่ละศาสานาก็ได้) โดยครูนี้อาจจะเหมื่อนทำหน้าสอนกันคนละชั้น เหมือนตามโรงเรียนในปัจจุปันก็ได้ คอยสั่งสอนดูแลจนกว่าจะจบหลักสูตรแต่ละชั้นไป เมื่อจบหลักสูตร(ผ่านการทดสอบ)แล้วก็ทำการเลื่อนชั้นขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง (อีกมิติหนึ่ง) และขึ้นต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึงจุดสิ้นสุด(นิพพาน) ส่วนคนที่ไม่ผ่านก็จะซ้ำชั้นนั้นจนกว่าจะสอบผ่าน(การเวียนว่ายตายเกิด)

    เพราะในแต่มิติมีพลังงานความละเอียดไม่เหมื่อนกัน ถ้าหากจะหาหน่วยวัดค่าความละเอียดของพลังแบบเป็นปริมาตรคงยาก แต่ถ้าหากวัดค่าด้วยสภาวะของแสงน่าจะได้(แสงออร่า) คืออย่างชั้นๆหนึ่งอาจจะเป็นสีอีกแบบหนึ่ง จากสว่างน้อยๆไปจนถึงสว่างมาก จากคละสีกันไปจนถึงเป็นสีเดียวล้วนๆ อย่างเช่น พระที่ได้อภิญญา เวลาถ่ายภาพออกมาก็จะมีแต่แสงสีขาวล้วนๆ ส่วนคนธรรมดาก็น่าจะมีหลายสีบ้าง และอย่างมิติที่สูงสุด(อาจจะหมายถึงนิพพานด้วย)ก็น่าจะเป็น สีทอง(พระพุทธเจ้าก็ทรงมีฉัพพระรังสีเป็นสีทองสุขอร่าม) ล้วนๆมีความสว่างไสว่มากที่สุดกว่าในบรรดาสีทั้งหมด<!-- google_ad_section_end -->


    .... อาจจะไม่เกี่ยวโดยตรง แต่ก็พอเป็นข้อมูลเล็กๆน้อยๆนะครับ ....
     
  7. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** สมาธิ ****

    สมาธิ….ที่พระพุทธเจ้าใช้เพื่อนำตนเองหลุดพ้นทุกข์
    คือ…สมาธิพิจารณา
    พิจารณาตนเอง พิจารณานิสัยตนเอง
    พิจารณาค้นหาตัวกระทำของตนเอง ที่ส่งผลตอบแทนปรากฏเป็นกรรม

    - ” หนุมาน ผู้นำสาร ”
     
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** นิสัย คือตัวการ ****

    นิสัย เราไม่ตัดลดกัน…แล้วเราจะหวังพ้นทุกข์ คงยาก
    นิสัยคน สามารถทำลายล้างชาติเผ่าพันธุ์ ทำลายแผ่นดินที่ตนเองอาศัยได้

    - ” หนุมาน ผู้นำสาร ”
     
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** สูงสุดคือ สัจจะ ไม่น่ากลัว ****

    คนกลัว สัจจะ
    เพราะ คิดว่าเป็นการปฏิบัติอย่างสุดโต่ง
    เป็นเพราะ ความไม่เข้าใจใน…. สัจจะปฏิบัติ ที่พระพุทธเจ้าสอน
    สัจจะที่พระโคดมสอน…คือ กำหนดทำในสิ่งที่พอหยิบพอเอื้อมได้ พอทำได้จริง
    เช่น
    สัจจะว่า ไม่โกรธไม่โมโห วันละหนึ่งชั่วโมง มีกำหนดสามเดือน
    สัจจะว่า ไม่เห็นผู้อื่นผิด วันละหนึ่งชั่วโมง ตั้งแต่แปดโมงเช้า ถึงเก้าโมงเช้า มีกำหนดหนึ่งปี
    สัจจะว่า ไม่ฆ่ามนุษย์ ทั้งในครรภ์และนอกครรภ์ ตลอดชีวิต
    สัจจะว่า นับถือศาสนาพุทธ ตลอดชีวิต
    สัจจะว่า ไม่ซื้อไม่ขายพระ ตลอดชีวิต
    สัจจะว่า ไม่เสพ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ตลอดชีวิต
    สรุปว่า…ตัวเรา ต้องให้ความชัดเจนในการปฏิบัติต่อตนเอง

    - ” หนุมาน ผู้นำสาร ”
     
  10. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** สัจจะ + เดินสายกลาง ****

    ไม่ยากเกินไป ไม่ง่ายเกินไป
    แต่ทำทุกวันเป็นประจำ…นิสัยจะค่อยๆลดลง และหมดไปได้จริง

    - ” หนุมาน ผู้นำสาร ”
     
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** สัจจะปฏิบัติ ****

    คือ การนำหลักสัจจะธรรม ที่มีอยู่ในธรรมชาติ
    มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน…เพื่อเปิดโอกาศให้ตนเองหลุดพ้นทุกข์

    - ” หนุมาน ผู้นำสาร ”
     
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
  13. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    เย้!เย้!เย้! ขจรวรรณมีความรู้สึกว่ากำลังเจอนักวิทยาศาสตร์และก็นักศาสนาที่เข้าใจในเรื่องจิตวิญญาณแว้ว... เลยต้องขออนุญาตจับตัวเอาไว้ก่อง อิอิ..ขอขอบคุณคุณ ไอน์สไตน์และก็คุณหนุมานมั่กๆ เลยค่ะที่มีช่วยขยายความรู้ให้ต่อยอดออกไปอีก ล่าลาล้า...<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ถ้าเราเข้าใจว่าจิตวิญญาณคือพลังงานแล้วเนี่ย จิตวิญญาณก็จะมีคุณสมบัติทุกสิ่งทุกอย่างตามหลักวิทยาศาสตร์ทุกสาขาเลย เช่น ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ( วิชาที่ขจรวรรณเกลียดมั่กๆ ในสมัยเรียนก็คือ ฟิสิกส์นั่นเอง อิอิ.. ) พลังงานมีแสง, สี, เสียง, มีทั้งแรงผลัก, แรงดูด, แรงเสถียร ( ภาษาพุทธเรียกว่าจิตละเอียด ) หากยังไม่เสถียรก็ยังคงต้องเรียนรู้ ต้องเจอบทเรียน, บททดสอบ กันจนแทบจะกระอักเลือดกันเลยทีเดียวแหล่ะค๊า..

    [​IMG]
    <O:p</O:p
    ส่วนสัจจะของคุณหนุมานนั้น ถ้าพิจารณาให้ดีก็จะพบว่าจริงๆ แล้วก็เป็นหลักเดียวกับการฝึกสมาธิในศาสนาต่างๆ นั่นเอง หลักการสำคัญของการฝึกสมาธิก็คือ ฝึกให้จิตจดจ่ออยู่กับปัจจุบัน คิดโฟกัสไปที่เรื่องๆ เดียวในเวลานั้น ถ้าคิดหลายๆ เรื่องในเวลาเดียวกันก็อาจจะทำให้จิตเราฟุ้งซ่านแถมยังปรุงแต่งเรื่องราวไปได้อีกสารพัดเรื่องเลยทีเดียว การพิจารณาสัจจะก็เหมือนการพิจารณาดูจิตของตัวเราเองนั่นแหล่ะว่ามีความต้องการ ( ความทะยานอยากในภาษาพุทธ ) มากน้อยแค่ไหน การพิจารณาก็เหมือนเรากำลังอยู่ในสนามรบระหว่างจิตฝ่ายดีก็จิตฝ่ายชั่ว ใครจะเป็นฝ่ายชนะในสนามประลองนี้ ถ้าฝ่ายดีชนะก็มีความสุข ถ้าฝ่ายชั่วชนะก็เหมือนคนที่ขาดสติสัมปะชัญญะ และอาจจะลงมือกระทำอะไรลงไปโดยไม่ได้คิดและสร้างความเดือนร้อนให้กับคนหรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในระบบนิเวศน์ก็เป็นได้
    <O:p</O:p
    ถ้าเราเข้าใจเกี่ยวกับศาสตร์ด้านพลังงานนะ แค่ความคิดไม่ดีเราก็ได้ส่งกระแสพลังงานลบออกไปในชั้นบรรยากาศแล้ว และถ้าพวกเราสามารถสัมผัสพลังงานได้นะ ลองไปอยู่ในสถานการณ์ที่มีคนเยอะๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าดูบ้าง บางคนอาจจะรู้สึกถึงกระแสพลังงานที่เค้าปล่อยออกมาถึงขั้นคลื่นไส้อาเจียนกันเลยก็มี แต่ถ้าได้ไปอยู่กับธรรมชาติต้นไม้, น้ำตก, ภูเขา เราจะรู้สึกสดชื่นเหมือนได้รับการชาร์ตพลังให้ตัวเองได้ด้วยแหล่ะไม่เชื่อลองดูจิ..
    ;k06;k06;k06<O:p</O:p
     
  14. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    เข้ามาอ่าน"ธรรมะวันละนิด" จิตแจ่มใส ขอบคุณที่นำมาแบ่งปัน
    มีประโยชน์มากมาย ได้ข้อคิด
     
  15. เลขโนนสูง

    เลขโนนสูง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2010
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +825
    ให้เหลือแค่ ตัวกระทำ แต่ไม่มีผู้กระทำ เช่นนั้น...
     
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** แก่นสารจะเกิดขึ้นได้ ****

    อยู่ที่... สัจจะการกระทำ คือ ใจ ปาก การปฏิบัติ ตรงกัน
    ไม่ได้อยู่ที่.... ใจ อย่างเดียว

    ...ก๋วยเตี๋ยวอยู่ตรงหน้า ใจมันกินไม่ได้หรอก....

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  17. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** ตัวกระทำ ****

    เมื่อละสังขาร จากการเกิดมีกาย
    ก็คืนเป็น ดินน้ำลมไฟ ไว้กับโลก
    เดินทางไปด้วยตัวกระทำ เข้าไปในนิพพาน ถึงที่สุดด้วยตัวกระทำ
    อยู่ในนิพพาน ก็เป็นตัวกระทำของตนเอง ตั้งแต่ต้นจนจบ
    พระพุทธรูปที่อยู่ในนิพพานมากมาย ก็คือ ตัวกระทำ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  18. เลขโนนสูง

    เลขโนนสูง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2010
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +825
    วิทยาศาสตร์ยิ่งก้าวหน้าขึ้นไปเท่าไร
    ก็จะยิ่งเข้าใจพุทธศาสนามากขึ้นเท่านั้น
    ดังนั้นไม่ต้องกลัววิทยาศาสตร์
    พุทธศาสนาจะมีรากฐานที่ตั้งมั่น
    และยืนเหยียบอยู่บนหลักการ
    ทางวิทยาศาสตร์นั้นเอง
    .....................หลวงพ่อบอกครับ........คริ คริ
     
  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** เรื่องของความจริง ****

    คนเรา ต้องการรู้วามจริง
    ศาสนศาสตร์หนึ่งเดียว...พูดเรื่องความจริงทั้งสิ้น
    นอกนั้นเป็นความเห็น....ที่เห็นไปได้เรื่อยๆ
    แล้วในที่สุด ทุกดวงวิญญาณจะเดินทางไปถึงที่สุด ...ก็ด้วยสัจจะ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  20. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    ต้องขอขอบพระคุณคุณเลขโนนสูงและคุณหนุมานมากๆ ค่ะที่มาช่วยชี้แนะ..:cool:
    <O:p</O:p
    ในความคิดของขจรวรรณเข้าใจว่าความหมายทั้ง 2 ความหมายนั้นถูกต้องทั้งหมดและเป็นธรรมะที่ละเอียดลึกซึ้งมาก ในมุมมองที่คุณเลขโนนสูงกล่าวไว้นั้นหมายความว่าการจะกระทำสิ่งใดด้วยกายเนี้อนั้นจะต้องปราศจากความยึดติดในตัวตนหรือการคิดว่าตนเองเป็นคนกระทำ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอารมณ์อื่นตามมา เช่น ความหลงตัวเอง คิดว่าตัวเองเก่งกว่า ดีกว่า หรือเหนือกว่าผู้อื่น สิ่งนี้เป็นความละเอียดอ่อนที่ผู้ฝึกสมาธิหรือเรียนรู้ทางจิตวิญญาณมาได้ในระดับหนึ่งแล้วอาจจะไม่สามารถข้ามพ้นได้ เพราะอัตตานี้จะเหมือนฝุ่นละอองที่แทบจะมองไม่เห็น ผู้อื่นก็ไม่สามารถมองเห็นได้ มีแต่ตัวเราเองเท่านั้นที่จะสามารถรู้ได้แต่ถ้าตัวเองไม่พิจารณาก็อาจจะไม่รู้ก็เป็นได้
    <O:p</O:p
    ในความหมายของคุณหนุมานนั้น คงไม่ได้พูดถึงกายเนื้อหรืออัตตาที่หมายถึงความหลงตัวเอง แต่เป็นความละเอียดทางจิตวิญญาณในอีกระดับหนึ่งที่เหมือนกับว่าทุกๆ การกระทำของเรานั้นไม่ได้เป็นไปเพื่อตัวเอง แต่ทำไปเพื่อบางสิ่งบางอย่างที่มีพลังอำนาจสูงสุดในจักรวาล บางศาสตร์เรียกว่า “ สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด ” บางศาสตร์ก็เรียก " พลังงานต้นกำเนิด " ภาษาพุทธอาจจะใช้คำว่า “ จิตว่าง ” หรือ “ พระธรรม ” ก็ได้ ถ้าหากใช้ภาษาวิทยาศาสตร์คงจะใช้คำว่า “ นิวเคลียส ” ที่มีพลังอำนาจทางไฟฟ้าเป็นกลางแต่ก็ยังมีพลังงานอยู่อย่างเต็มเปี่ยม เหมือนเวลาเราดีดกีต้ายิ่งมีความถี่สูงเท่าไหร่เราก็แทบจะมองไม่เห็นการสั่นสะเทือน หรืออาจจะกล่าวได้ว่าความสุขความทุกข์ที่อยู่ภายนอกไม่มีผลใดๆ ต่อจิตดวงนั้นแล้ว ทุกๆ การการกระทำจึงเป็นไปเพื่อหน้าที่ทางจิตวิญญาณหรือเพื่อมนุษยชาติเท่านั้น.. ไม่ทราบว่าคิดแบบนี้ถูกมั้ยคะ? ถ้าไม่ถูกยังงัยช่วยเฉลยให้ฟังด้วยค่ะ.. แฮ่..
    rabbit_run_awayrabbit_run_awayrabbit_run_away<O:p</O:p
     

แชร์หน้านี้

Loading...