คำเตือน!แผ่นดินสุวรรณภูมิ @++อ่างทองตื่นรอยพญานาค++@หน้า3

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ตันติปาละ, 10 พฤศจิกายน 2010.

  1. chaipad

    chaipad สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +11
    การเตือนไม่ใช่การอวดคุณแห่งตน
    เขาบอกว่าให้ข้ามถนนใช้สะพานลอย แต่เราก็บอกว่าข้ามใต้สะพานเร็วกว่า ข้ามมาแต่เล็กจนโตก็ไม่เห็นเป็นไร นั่นอาจเป็นความคิดคุณ ที่เขาเตือนก็เพื่อไม่ให้ประมาทอย่าติดหลง

    ปราชิก ข้อที่ 4 ชอบตีความหมายผิดกันตลอดเลย ท่านบอกว่า ภิกษุอวดอุตริมนุสธรรมที่ไม่มีในตนต้องปราชิก

    1.ผมไม่ใช่พระ
    2.ผมแค่ออกมาเตือนไม่ให้ประมาทในธรรม คือตั้งมั่นใน ศิล สมาธิ ปัญญา
    3.ผมยังไม่ได้อวดอ้างอะไร โปรดเข้าใจและพิจารนาให้ถ่องแท้ก่อน
    4.หากท่านปฏิบัติจริงไม่ใช่อาศัยแค่ตำราและมานะส่วนตัว ท่านจะกระจ่างกว่านี้
    5.ผมไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดีแฝง จึงขออโหสิทุกอย่างทั้งฝ่ายตนและฝ่ายท่าน

    ทุกความคิดเป็นสิ่งดี ถ้าความคิดนั้นไม่ขวางโลก หลายคนเชื่อนักวิชาการที่มีแต่คำว่า น่าจะ คงจะ สงสัยจะ สันนิษฐานว่า อาจจะ เป็นไปได้ ฯลฯ นั้นเป็นคำของคนที่ยังไม่เชื่อมั่น แต่เรากลับไปเชื่อ ทิฤษฏีต่างที่ค้นพบไม่นานก็โดนทิฤษฏีใหม่มาอีก แต่ธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัส ยังไม่มีใครลบล้างได้ ท่านบอกอย่าประมาท ท่านก็อย่าประมาทครับ<!-- google_ad_section_end -->

    "แต่ธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัส ยังไม่มีใครลบล้างได้"
    เห็นด้วยกับถ้อยคำนี้ครับ...พระพุทธองค์ทรงตรัสว่าศาสนาของพระองค์จะยืนนาน 5000 ปี แต่คำเตือนของท่าน จขกท.ดูเหมือนจะขัดแย้งกับคำสอนของพระพุทธองค์...การเตือนสติ...ผู้คนให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท เป็นเรื่องที่ดี เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม...แต่ทำไม๊ คำเตือนของท่านมันจะไม่วิปโยคสยองฝันเกินไปหรือครับ...จริงอยู่ครับ...สภาวะของโลกใบนี้กำลังสูญเสียสมดุลย์ของตัวมันเอง...เพราะน้ำมือของมนุษย์ทั้งหลาย...แต่ก็มีหลายๆกลุ่มหลายๆคน...กำลังช่วยคิดช่วยกันหาทางแก้ไขวิฤกตนี้อยู่มิใช่หรือครับ...แล้วสิ่งที่ท่านเตือนท่านรู้ได้อย่างไร...รู้เอง...หรือเป็นสมมุติฐานของท่านที่ว่ามันน่าจะเป็นเยี่ยงนั่นเยี่ยงนี้...ผมเชื่อในคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ แม้กระทั่งเรื่องที่ท่านสอนในเรื่องของการเชื่อ
    "กามาลสูตร" ผมมิได้คิดขัดคอท่าน จขกท. หรือมาตอบกระทู้แบบคนขวางโลก...แต่สงสัยครับ...สงสัยจริงๆ...ว่าท่านรู้ได้อย่างไร...ว่าเกิดเหตุการณ์เยี่ยงนั้น...
     
  2. ตันติปาละ

    ตันติปาละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    4,421
    ค่าพลัง:
    +4,649
    จริงๆแล้วผมว่าจะปล่อยให้กระทู้นี้ไหลไป โดยไม่ตอบอะไรอีก หลายท่านก็มาเตือนผมแล้วว่าการมากล่าวเรื่องนี้ย่อมเป็นดาบสองคม มันก็จริงอย่างที่เขาเตือนจริงๆ ถ้าผมบอกไปว่ารู้ได้ยังไงก็ยิ่งจะมีปัญหาไปใหญ่ บางคนก็โทรมา บางคนก็ PM E-Mail ก็มี เอาเป็นว่าใครเชื่อผมก็ต้องมีสติ คือการตั้งอยู่ใน ศิล สมาธิ ปัญญา แม้ว่าบางอย่างจะยังไม่เกิดตอนนี้ แต่จำได้ว่าวันแรกที่ผมมาเขียนกระทู้นี้ เย็นวันนั้นผู้มีอำนาจในประเทศเพื่อนบ้านก็ได้มีการใช้อำนาจ ในการสังหารขับไล่ ผมก็ได้อ้างแล้วว่าเป็นส่วนหนึ่งของสุวรรณภูมิ หลายคนบอกว่าน้ำท่วมคนจะเป็นจะตาย ยังบอกว่าจะแล้งอยู่ ผมขอแนะนำให้ไปดูที่เมืองกาญ ว่า่ตอนนี้เขามีปัญหาอะไร ยังมีอีกมากที่ผมยังไม่กล่าว แต่ต่อไปนี้ก็คิดว่าให้มันเป็นเรื่องของกรรม ถ้าการที่เราหวังดีกลายเป็นที่ไม่พอใจของคนหลายคน ที่ชอบฟังนักวิชาการก็แล้วแต่ ผมจะคุยเฉพาะคนที่เชื่อผม
     
  3. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393

    เราเตือนไปเราก็โดนเจ้ากรรมนายเวรเขามาเล่นงานเหมือนกัน

    ตอนนี้เลยเฉยๆ ไม่เชื่อก็อย่าเชื่อ

    แต่ถ้าเชื่อว่าสักวันจะต้องตาย จะตายจากภัยพิบัติหรือเดินตกท่อตายมันก็ตายเหมือนกัน ดังนั้นการไม่ประมาทจึงช่วยได้ในทุกเรื่อง

    ที่สุดของพรหมวิหาร ๔ คืออุเบกขา...โนะ
     
  4. ตันติปาละ

    ตันติปาละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    4,421
    ค่าพลัง:
    +4,649
    ซัดเหลวไหล ผู้เชี่ยวชาญ'ดีดปาก'โหรวารินทร์มั่ว ทาย 20 พ.ย.'สึนามิ'ถล่มอ่าวไทย

    [​IMG]


    รุมดีดปาก "โหร" นิมิต นิมั่ว ทายผิดไม่เคยรับผิดชอบ ผู้เชี่ยวชาญเรียงหน้ากระดานซัด "โหรวารินทร์" กุเรื่องเหลวไหล ด้านกรมอุตุฯ จับมือผู้เชี่ยวชาญสึนามิ เดินสายแจงวอนประชาชนอย่าตกใจ เพราะจะไม่เกิดสึนามิ โดยเฉพาะในอ่าวไทยในเวลาอันใกล้แน่นอน...

    สร้าง เสียงฮือฮาอีกครั้งกับคำทำนายของเจ้าสำนักสุขิโต เจ้าของฉายา โหร คมช. วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ออกมาใช้นิมิตทำนายดุว่า หลังจากวันที่ 20 พ.ย.นี้ จะเกิด "มหาสึนามิ" ถล่มประเทศไทย ในอ่าวไทย-อันดามัน สร้างความเสียหายมากมายกว่าครั้งที่แล้ว

    ล่าสุด รศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย นักวิจัยสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) ฐานะหัวหน้าโครงการลดภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวในประเทศไทย ออกมากล่าวถึงคำทำนายของเจ้าสำนักสุขิโตผ่านไทยรัฐ ออนไลน์ว่า สิ่งที่หมอดูคนนี้พูด ทั้งหมดเป็นเรื่องเหลวไหลทั้งสิ้น

    "เหตุผล ประการแรกก็คือ สึนามิไม่ว่าจะทางฝั่งอ่าวไทย โดยเฉพาะสึนามิที่เกิดฝั่งอันดามัน เมื่อ 5 ปีที่แล้วเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกได้ยากมากๆ แต่ละครั้งอาจจะอาศัยระยะเวลาเป็นสิบ หรือหลายร้อยปีขึ้นไป ถึงจะเกิดอีกครั้งตรงนั้น ประการที่ 2 คือ หากบอกว่าคลื่นสึนามิในฝั่งอ่าวไทย จะเกิดขึ้นได้นั้น ต้องใช้แหล่งกำเนิดที่สร้างคลื่นที่มากระทบทางฝั่งอ่าวไทย ไม่ใช่แหล่งกำเนิดเดิมหรือรอยเลื่อยแถวๆ นั้น"

    โดยรอยเลื่อนใหญ่ๆ ที่ฝั่งอ่าวไทยไม่มี อีกทั้งแม้ว่าในฝั่งทะเลจีนใต้มีรอยเลื่อน หรือแหล่งกำเนิดขนาดใหญ่อยู่ใกล้ๆ ฟิลิปปินส์ เรียกว่า "รอยเลื่อนมะนิลา" และหากเกิดตรงนั้นจริงๆ กว่าสึนามิจะเดินทางมาถึงอ่าวไทย และสร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยนั้น จะต้องใช้เวลาหลายสิบชั่วโมง ซึ่งมีโอกาสน้อยมากเราคงจะได้ทราบเหตุการณ์ และมีเวลาในการเตรียมรับมือได้ทัน

    ผู้เชี่ยวชาญเรื่องแผ่นดินไหว ย้ำชัดว่า ที่สำคัญขณะนี้ยังไม่มีผลการศึกษาไหนที่สามารถจะบอกว่า จะเกิดคลื่นที่เป็นอันตรายอย่างรุนแรงเหมือนทางฝั่งทะเลอันดามัน ดังนั้นอยากจะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนอย่าตื่นกลัวกับคำทำนาย

    "อย่าง ที่ผมว่า แม้ว่าการศึกษาไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามมันไม่มีความสมบูรณ์ 100% แต่กรณีนี้ความน่าจะเป็นมีเพียงเล็กน้อยมากๆ โดยเฉพาะสึนามิอ่าวไทย ทั้งนี้ ส่วนตัวก็ไม่ค่อยเชื่อหมอดูคนนี้ หรือคนไหนๆ ที่พยากรณ์อยู่แล้ว และคิดว่าอยากให้ประชาชนมองว่าเป็นเรื่องที่เหลวไหลจริงๆ โดยสิ้นเชิง" ผู้เชี่ยวชาญแผ่นดินไหว กล่าวอย่างชัดเจน

    นายต่อศักดิ์ วานิชขจร รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา รักษาการอธิบดีกรมอุตุฯ กล่าวถึงเรื่องคำทำนายที่ทำให้ประชาชนแตกตื่นว่า

    "ไม่ มีที่ไหนในโลกที่จะยืนยันได้ ผมถามหน่อย ที่เขาออกมาพูดอย่างนี้ทุกอย่างเสียหายโดยเฉพาะเศรษฐกิจ คำทำนายทำให้ประชาชนหวาดกลัว ถามว่าเขารับผิดชอบอะไรหรือเปล่า ทุกวันนี้ผมตามแก้ข่าวสึนามิเยอะแยะไปหมด หากจะออกมาพูดอะไรก็ให้คำนึงถึงประชาชนหน่อย เรื่องนี้กรมอุตุฯ ยืนยันว่าไม่มีใครสามารถทำนายหรือเตือนล่วงหน้าได้" รองอธิบดีกรมอุตุฯ กล่าวอย่างมีอารมณ์

    ด้าน ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ผู้ที่เคยออกมาทำนายเรื่องสึนามิจะเกิดขึ้นอย่างถูกต้อง กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดคลื่นสึนามิที่อ่าวไทยอย่างที่หมอดูระบุวัน เพราะในโลกนี้ไม่มีใครสามารถทำนายได้ถึงขนาดนั้น

    "แต่ถ้าถามความ คิดผมว่า จริงๆ แล้วสึนามิในอ่าวไทยมีโอกาสเกิดได้ไหม "เกิดขึ้นได้..." แต่ไม่มีใครที่จะบอกได้ว่าจะต้องเกิดวันนั้นเวลานี่ ไม่มีใครในโลกทำได้ แม้กระทั่งวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่มีเทคโนโลยีใดที่จะทำได้ถึงขนาดบอกวันที่จะ เกิด แต่ความเป็นไปได้ที่จะเกิดก็มีอยู่ อาจจะเกิดก่อน หรือเกิดทีหลัง แต่ไม่สามารถกำหนดระยะเวลาการเกิดได้แน่นอน หากเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ก็อาจมีสินามิได้ ในส่วนของฝั่งอ่าวไทยก็อาจจะมีได้หากเกิดแผ่นดินไหวที่ตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ตอนนี้ก็ต้องเฝ้าระวังหากเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ สึนามิก็อาจจะเกิดขึ้น แต่กว่าจะมาถึงเมืองไทยก็ต้องผ่านอีกหลายประเทศ ซึ่งเราสามารถรู้ล่วงหน้าได้ และเตรียมตัวได้ทัน"

    สุด ท้ายผู้ทำนายสึนามิได้อย่างแม่นยำ กล่าวทิ้งท้ายไปยัง "โหร" ชื่อดังด้วยว่า แม้ว่าตามหลักดวงดาวจะสามารถเกิดขึ้นได้จริง อาจจะทำให้พื้นดินของโลกเรามีการเคลื่อนตัวได้ แต่สิ่งที่หมอดูคนนี่กล่าวก็ควรฟังหูไว้หูเป็นดีที่สุด.

    ที่มา<small> วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2553</small>

    [​IMG]
     
  5. ตันติปาละ

    ตันติปาละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    4,421
    ค่าพลัง:
    +4,649
    อยากรู้นักว่าถ้าเกิดขึ้นจริง ท่านผู้เชี่ยวชาญจะว่าอย่างไร
     
  6. ตันติปาละ

    ตันติปาละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    4,421
    ค่าพลัง:
    +4,649
    คลื่นสึนามิ


    [​IMG]
    ภาพแสดงถึง คลื่นสึนามิเข้าสู่ฝั่ง


    [​IMG]
    ภาพเหตุการณ์ประชาชนกำลังวิ่งหนีคลื่นสึนามิเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ที่จังหวัดภูเก็ต


    คลื่นสึนามิ คือ คลื่นหรือกลุ่มคลื่นที่มีจุดกำเนิดอยู่ในเขตทะเลลึก ซึ่งมักปรากฏหลังแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ แผ่นดินไหวใต้ทะเล ภูเขาไฟระเบิด ดินถล่ม แผ่นดินทรุด หรืออุกกาบาตขนาดใหญ่ตกลงในทะเล คลื่นสึนามิสามารถเข้าทำลายพื้นที่ชายฝั่ง ทำให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินได้
    <table id="toc" class="toc"> <tbody><tr> <td>
    </td></tr></tbody></table>มีความหมายของคำว่า:
    คลื่นสึนามิ
    [​IMG] [​IMG]
    ภาพศิลปะของศิลปินชาวญี่ปุ่น "The Great Wave at Kanagawa" (จากภาพชุดของภูเขาไฟฟูจิ) ขนาดกว้าง 10 นิ้ว ยาว 15 นิ้ว ที่เก็บรักษาอยู่ที่ Metropolitan Museum of Art, New York แม้ว่าภาพดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในการพูดถึงคลื่นสึนามิ แต่แท้จริงแล้วภาพดังกล่าว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคลื่นสึนามิแต่อย่างใด


    สึนามิ เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ในลักษณะของระลอกคลื่น ที่เกิดขึ้นจากการที่น้ำในทะเลสาบหรือในท้องมหาสมุทรจำนวนมหาศาล เกิดการเคลื่อนย้ายถ่ายเทจากบริเวณหนึ่งสู่อีกบริเวณหนึ่งอย่างรวดเร็ว อันเนื่องมาจากการเกิดแผ่นดินไหว แผ่นดินเคลื่อนตัว ภูเขาไฟระเบิด หรือจากวัตถุนอกโลก เช่น ดาวหาง หรืออุกกาบาต ตกสู่พื้นทะเลหรือมหาสมุทรบนผิวโลก คลื่นสึนามิที่เกิดขึ้นนี้จะถาโถมเข้าสู่พื้นที่ชายฝั่งทะเลด้วยความรวดเร็ว และรุนแรง สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินที่อยู่อาศัยที่พัง พินาศไป พร้อม ๆ กับมนุษย์จำนวนมากมายที่อาจได้รับบาดเจ็บและล้มตายไปด้วยฤทธิ์ของมหาพิบัติ ภัยที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน
    คำว่า "สึนามิ" มาจากภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า "ท่าเรือ" (津 สึ) และ "คลื่น" (波/浪 นะมิ) ศัพท์คำนี้บัญญัติขึ้นโดยชาวประมงญี่ปุ่น ผู้ซึ่งแล่นเรือกลับเข้าฝั่งมายังท่าเรือ และพบว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยรายล้อมอยู่รอบท่าเรือนั้นถูกทำลายพังพินาศไป จนหมดสิ้น โดยในระหว่างที่เขาลอยเรืออยู่กลางทะเลกว้างนั้นไม่ได้รู้สึกหรือสังเกตพบ ความผิดปกติของคลื่นดังกล่าวเลย ทั้งนี้เนื่องจากคลื่นสึนามิไม่ใช่ปรากฏการณ์ระดับผิวน้ำในเขตน้ำลึก เพราะคลื่นที่เกิดขึ้นจะมีขนาดของคลื่น (แอมพลิจูด) ขนาดเล็กมากเมื่ออยู่ในพื้นน้ำนอกชายฝั่ง ในขณะเดียวกันก็มีความยาวคลื่น ที่ยาวมาก (ปกติจะมีความยาวหลายร้อยกิโลเมตร) ทำให้คลื่นสึนามิที่เกิดขึ้นไม่สามารถสังเกตเห็นได้ขณะที่ลอยเรืออยู่บนผิว น้ำกลางทะเลลึก เนื่องจากคลื่นที่เกิดขึ้นจะเห็นเป็นเพียงแค่เนินต่ำ ๆ ตะคุ่ม ๆ อยู่ใต้น้ำเท่านั้น<sup class="noprint Template-Fact">[ต้องการอ้างอิง]</sup>
    คลื่นสึนามินี้ ในทางประวัติศาสตร์มีการอ้างอิงถึงว่าเป็น คลื่นใต้น้ำ (tidal waves) เนื่องจากเมื่อคลื่นดังกล่าวเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่ง จะยิ่งมีลักษณะเหมือนการไหลท่วมของกระแสน้ำขึ้นที่ถาโถมเข้าสู่ฝั่งอย่าง รุนแรง มากกว่าที่จะมีลักษณะเหมือนกับเกลียวคลื่นที่เกิดจากการพัดกระหน่ำของสายลม จากกลางมหาสมุทรเข้าสู่ฝั่ง เนื่องจากโดยแท้จริงแล้วคลื่นสึนามิไม่ได้มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ใด ๆ เลยกับน้ำขึ้นน้ำลง จึงมีการมองว่า คำว่า "tidal waves" นั้น อาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดถึงสาเหตุของการเกิดคลื่นดังกล่าวได้ นักสมุทรศาสตร์จึง ไม่แนะนำให้เรียกคลื่นสึนามิว่า "tidal waves" แต่แนะนำให้เรียกเป็นชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า "Seismic Sea Wave" ซึ่งมีความหมายตรงๆ ในภาษาไทยว่า คลื่นทะเลที่เกิดจากแรงสั่นสะเทือน ทั้งนี้ ในเว็บไซต์และหนังสือบางเล่ม กล่าวถึงชื่อเรียกของคลื่นชนิดนี้ในภาษาอังกฤษผิด คือ "Harbor Wave" ซึ่งเป็นชื่อที่แปลอย่างตรงตัวจากภาษาญี่ปุ่น แต่ไม่ได้ให้ความหมายใดๆ ในภาษาอังกฤษ
    ทั้งนี้ ในพจนานุกรม Oxford Learner's Dictionary ได้ให้ความหมายของคำว่า Tidal Wave ไว้ว่าเป็นคลื่นทะเลที่ส่วนใหญ่เกิดจากแผ่นดินไหวใต้สมุทร

    ลักษณะของคลื่น


    [​IMG]

    ลักษณะการเกิดของสึนามิ


    คลื่นสึนามิแตกต่างจากคลื่นน้ำธรรมดามาก ตัวคลื่นนั้นสามารถเดินทางได้เป็นระยะทางไกล โดยไม่สูญเสียพลังงาน และสามารถเข้าทำลายชายฝั่งที่อยู่ห่างไกลจากจุดกำเนิดหลายพันกิโลเมตรได้ โดยทั่วไปแล้วคลื่นสึนามิซึ่งเป็นคลื่นในน้ำ จะเดินทางได้ช้ากว่าการสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่ เป็นคลื่นที่เดินทางในพื้นดิน ดังนั้น คลื่นอาจเข้ากระทบฝั่งภายหลังจากที่ผู้คนบริเวณนั้นรู้สึกว่าเกิดแผ่นดินไหว เป็นเวลาหลายชั่วโมง
    คลื่นโดยทั่วไปจะมีคุณสมบัติสำคัญที่วัดได้อยู่สองประการคือ คาบ ซึ่งจะเป็นเวลาระหว่างลูกคลื่นสองลูก และ ความยาวคลื่น ซึ่งเป็นระยะห่างระหว่างลูกคลื่นสองลูก ในทะเลเปิด<sup class="noprint Template-Fact"></sup> คลื่นสึนามิมีคาบที่นานมาก โดยเริ่มจากไม่กี่นาทีไปจนเป็นชั่วโมง ในขณะเดียวกันก็มีความยาวคลื่นที่ยาวมาก โดยอาจยาวถึงหลายร้อยกิโลเมตร ในขณะที่คลื่นทั่วไปที่เกิดจาก ลมที่ชายฝั่งนั้นมีคาบประมาณ 10 วินาที และมีความยาวคลื่นประมาณ 150 เมตรเท่านั้น ความสูงของคลื่นในทะเลเปิดมักน้อยกว่าหนึ่งเมตร<sup class="noprint Template-Fact"></sup> ซึ่งทำให้ไม่เป็นที่สังเกตของผู้คนบนเรือ คลื่นสึนามิจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วตั้งแต่ 500 ถึง 1,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ชายฝั่งที่มีความลึกลดลง คลื่นจะมีความเร็วลดลงและเริ่มก่อตัวเป็นคลื่นสูง โดยอาจมีความสูงมากกว่า 30 เมตร<sup class="noprint Template-Fact">[ต้องการอ้างอิง]</sup>
    คลื่นสึนามิจะเคลื่อนตัวออกจากแหล่งกำเนิด ดังนั้น ชายฝั่งที่ถูกกำบังโดยแผ่นดินส่วนอื่นๆ มักปลอดภัยจากคลื่น อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสที่คลื่นจะสามารถเลี้ยวเบนไปกระทบได้ นอกจากนี้ คลื่นไม่จำเป็นต้องมีความแรงเท่ากันในทุกทิศทุกทาง โดยความแรงจะขึ้นกับแหล่งกำเนิดและลักษณะของภูมิประเทศแถบนั้น
    คลื่นจะมีพฤติกรรมเป็น "คลื่นน้ำตื้น" เมื่ออัตราส่วนระหว่างความลึกของน้ำและขนาดของคลื่นนั้นมีค่าต่ำ ดังนั้น เนื่องจากมีขนาดของคลื่นที่สูงมาก คลื่นสึนามิจึงมีคุณสมบัติเป็นคลื่นน้ำตื้นแม้อยู่ในทะเลลึกก็ตาม คลื่นน้ำตื้นนั้นมีความเร็วเท่ากับรากที่สองของผลคูณระหว่างความเร่งจากสนามแรงโน้มถ่วง (9.8 เมตร/วินาที<sup>2</sup>) และความลึกของน้ำ ตัวอย่างเช่น ในมหาสมุทรแปซิฟิกที่ มีความลึกประมาณ 4,000 เมตร คลื่นจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ 200 เมตรต่อวินาที หรือ 720 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนที่ชายฝั่งที่มีความลึก 40 เมตร คลื่นจะมีความเร็วช้าลงเหลือ 20 เมตรต่อวินาที หรือ 72 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    สาเหตุการเกิด


    คลื่นสึนามิเกิดขึ้นจากการกระทบกระเทือนที่ทำให้น้ำปริมาณมากเกิดการเคลื่อนตัว เช่น แผ่นดินไหว แผ่นดินถล่ม หรืออุกกาบาตพุ่งชน
    เมื่อแผ่นดินใต้ทะเลเกิดการเปลี่ยนรูปร่างอย่างกระทันหัน จะทำให้น้ำทะเลเกิดเคลื่อนตัวเพื่อปรับระดับให้เข้าสู่จุดสมดุลและจะก่อให้ เกิดคลื่นสึนามิ การเปลี่ยนรูปร่างของพื้นทะเลมักเกิดขึ้นเมื่อเกิดแผ่นดินไหวเนื่องจากการ ขยับตัวของเปลือกโลก ซึ่งจะเกิดบริเวณที่ขอบของเปลือกโลกหลายแผ่นเชื่อมต่อกันที่เรียกว่า รอยเลื่อน (fault) เช่น บริเวณขอบของมหาสมุทรแปซิฟิก นอกจากแผ่นดินไหวแล้ว ดินถล่มใต้น้ำที่มักเกิดร่วมกับแผ่นดินไหวสามารถทำให้เกิดคลื่นสึนามิได้ เช่นกัน
    นอกจากการกระทบกระเทือนที่เกิดใต้น้ำแล้ว การที่พื้นดินขนาดใหญ่ถล่มลงทะเล หรือการตกกระทบพื้นน้ำของเทหวัตถุ ก็สามารถทำให้เกิดคลื่นได้ คลื่นสึนามิที่เกิดในรูปแบบนี้จะลดขนาดลงอย่างรวดเร็วและไม่มีผลกระทบต่อชาย ฝั่งที่อยู่ห่างไกลมากนัก อย่างไรก็ตาม ถ้าแผ่นดินมีขนาดใหญ่มากพอ อาจทำให้เกิด เมกะสึนามิ ซึ่งอาจมีความสูงร่วมร้อยเมตรได้

    เมกะสึนามิ และ คลื่นเซช

    มีหลักฐานว่าเมกะสึนามิที่มีความสูงมากกว่า 100 เมตรนั้นเกิดขึ้นได้ เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นจากเนื้อที่ขนาดใหญ่บางส่วนของเกาะพังทลายลงสู่ทะเล หรืออุกกาบาตตกลงสู่ทะเล เมกะสึนามิจะสามารถทำอันตรายอย่างใหญ่หลวงต่อพื้นที่ชายฝั่งที่อยู่ห่างไกล ออกไปได้
    ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสึนามิคือ คลื่นเซช (seiche) แผ่นดินไหวที่รุนแรงมักทำให้เกิดทั้งคลื่นสึนามิและคลื่นเซช มีหลักฐานว่าคลื่นเซชอาจเกิดจากคลื่นสึนามิได้เช่นกัน
    คลื่นสึนามิที่สูงที่สุดที่เคยมีการบันทึกไว้มีความสูงกว่า 500 เมตร โดยเกิดจากแผ่นดินถล่มที่รัฐอลาสกาในปี พ.ศ. 2501 (ค.ศ. 1958) อย่างไรก็ตาม เมื่อคลื่นไปถึงทะเลเปิดมันได้สลายตัวไปอย่างรวดเร็ว ความสูงของคลื่นสึนามินั้นถูกกำหนดโดยลักษณะของพื้นที่มากกว่าพลังงานที่ เกิดจากแผ่นดินถล่ม
    ส่วนค่าของความดันคลื่นหาได้จากสมการ
    [​IMG]
    เมื่อ
    P = ความดัน มีหน่วยเป็น นิวตัน/ตารางเมตร,
    ρ = ความหนาแน่นของน้ำทะเลมีค่า = 1.1 x 10<sup>3</sup> kg/m<sup>3</sup>
    g = ค่าความเร่งเนื่องจากความโน้มถ่วงซึ่งมีค่า = 9.8 m/s<sup>2</sup>
    h = ความสูงของคลื่น
    การจัดเรียงตามแนวยาวของคลื่นที่มีความลึกประมาณ 5,000 เมตร ดังนั้น ความดันของคลื่นมีค่าเท่ากับ
    [​IMG]
    หรือประมาณ 5.7 ล้านตันต่อตารางเมตร<sup class="noprint Template-Fact"></sup> ซึ่งสามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่างได้ภายในชั่วพริบตา

    สัญญาณเกิดเหตุและระบบเตือนภัย


    [​IMG]

    สัญญาณเตือนคลื่นสึนามิที่เมืองกามากุระ ประเทศญี่ปุ่น


    [​IMG]

    กำแพงกั้นสึนามิ ในญี่ปุ่น

    ขณะที่จุดต่ำสุดของคลื่นเคลื่อนเข้าสู่ฝั่ง ระดับน้ำทะเลจะลดลงและทำให้ขอบทะเลร่นถอยออกจากชายฝั่ง ถ้าชายฝั่งนั้นมีความลาดชันน้อย ระยะการร่นถอยนี้อาจมากถึง 800 เมตร ผู้ที่ไม่ทราบถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นอาจยังคงรออยู่ที่ชายฝั่งด้วยความสนใจ นอกจากนี้บริเวณที่ต่ำ อาจเกิดน้ำท่วมได้ก่อนที่ยอดคลื่นจะเข้าปะทะฝั่ง น้ำที่ท่วมนี้อาจลดลงได้ก่อนที่ยอดคลื่นถัดไปจะเคลื่อนที่ตามเข้ามา ดังนั้นการทราบข้อมูลเกี่ยวกับคลื่นสึนามิจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้ ตระหนักถึงอันตราย ตัวอย่างเช่น ในกรณีที่ระดับน้ำในครั้งแรกลดลงไปนั้น อาจมีคลื่นลูกใหญ่ตามมาอีกได้
    ประเทศและบริเวณที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดสึนามิได้มีการติดตั้งระบบเตือนภัยเพื่อพยากรณ์ และตรวจจับการเกิดขึ้นของคลื่นยักษ์นี้
    แม้การป้องกันไม่ให้คลื่นสึนามิเกิดขึ้นจะยังทำไม่ได้ ในบางประเทศได้มีการสร้างเครื่องป้องกันและลดความเสียหายในกรณีที่คลื่นสึนา มิจะเข้ากระทบฝั่ง ยกตัวอย่างเช่น ประเทศญี่ปุ่นได้ มีการสร้างกำแพงป้องกันสึนามิที่มีความสูงกว่า 4.5 เมตร ด้านหน้าของชายฝั่งบริเวณที่มีประชากรหนาแน่น บางที่ได้มีการสร้างกำแพงกันน้ำท่วมและทางระบายน้ำเพื่อปรับเปลี่ยนทิศทาง ของคลื่น และลดแรงกระแทกของคลื่น ถึงแม้ว่า ในกรณีของคลื่นสึนามิที่เข้ากระทบเกาะฮอกไกโดที่ มักมีความสูงมากกว่าเครื่องกีดขวางที่ได้สร้างขึ้น กำแพงเหล่านี้อาจช่วยลดความเร็วหรือความสูงของคลื่นแต่ไม่สามารถที่จะ ป้องกันการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินได้
    สำหรับประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 (ค.ศ. 2004) หลังจากที่คลื่นสึนามิที่เกิดจากแผ่นดินไหวใต้น้ำเข้ากระทบชายฝั่งทางใต้ กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกมาตรการป้องกันภัยจากคลื่นสึนามิ เพื่อเตือนประชาชนให้ป้องกันตัวโดยไม่ต้องรอประกาศจากทางราชการ
    ประวัติเกี่ยวกับสึนามิที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

    แม้ว่าสึนามิจะเกิดขึ้นบ่อยที่สุดในมหาสมุทรแปซิฟิก แต่ก็เป็นที่รู้จักกันดีว่าปรากฏการณ์สึนามิได้เกิดขึ้นในพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของโลกด้วยเช่นกัน และมีข้อมูลเก่าแก่มากมายหลายชิ้นที่พูดถึง "สึนามิ" ที่มีอำนาจทำลายล้างสูงนี้ ซึ่งเรียงตามลำดับการเกิดขึ้นก่อนหลังได้ดังต่อไปนี้

    6,100 ปีก่อนคริสต์ศักราช


    สึนามิที่เกิดขึ้นในช่วง 6,100 ปีก่อนคริสต์ศักราช เป็นคลื่นสึนามิใต้น้ำที่เกิดขึ้นในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ อันเป็นผลจากการเลื่อนตัวของชั้นหินที่เรียกว่า "Storegga Slide" ซึ่งทำให้เกิดการเคลื่อนตัวของแผ่นดินใต้น้ำครั้งใหญ่ติดต่อกันเป็นระลอก ๆ ยาวนานเป็นเวลาหลายหมื่นปี

    เกาะซานโตรินี่


    ในปี 1650 ก่อน ค.ศ. คลื่นสึนามิจากภูเขาไฟระเบิดในเกาะซานโตรินี่ (Santorini) ในช่วงระหว่างปี 1650 ก่อน ค.ศ. ถึง 1600 ก่อน ค.ศ. (เวลาที่แน่นอนยังถกเถียงกันอยู่) ภูเขาไฟในเกาะซานโตรินี่ของกรีซระเบิดขึ้น ทำให้เกิดคลื่นใต้น้ำ "สึนามิ" ที่มีความสูงตั้งแต่ 100 เมตรถึง 150 เมตร ซึ่งถาโถมเข้าถล่มชายฝั่งทางด้านเหนือของเกาะครีต (Crete) ซึ่งอยู่ห่างออกไป 70 กิโลเมตร (45 ไมล์) พร้อมกวาดทำลายต้นไม้ทุกต้นที่ขึ้นอยู่ในแนวป่ามิโนอัน ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าเขียวชอุ่มรอบชายฝั่งทางเหนือของครีตจนหายวับไปหมดในชั่ว พริบตา คาดกันว่าคลื่นใต้น้ำ "ซานโตรินี่" คือแหล่งข้อมูลที่ทำให้เพลโต (Plato) เกิดแรงบันดาลใจในการเขียนวรรณกรรมเป็นนวนิยายดังเรื่องแอตแลนติส (Atlantis) และนักวิทยาศาสตร์หลายคนเชื่อว่า คลื่นสึนามิ "ซานโตรินี่" ที่เกิดขึ้นครั้งนี้คือแหล่งที่มาสำคัญที่นำไปสู่การบันทึกถึงเรื่องราว เกี่ยวกับเหตุการณ์น้ำท่วมโลก (Great Flood) ที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ทั้งของชาวยิว คริสเตียน และชาวอิสลาม

    เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส


    คลื่นใต้น้ำที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ในปี พ.ศ. 2298 (ค.ศ. 1755) ชาวโปรตุเกสจำนวนหลายหมื่นคนรอดชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ลิสบอนในปี พ.ศ. 2298 (ค.ศ. 1755) แต่กลับต้องเสียชีวิตไปทันที ด้วยคลื่นสึนามิที่โถมเข้าทำลายหลังเกิดแผ่นดินไหวได้เพียงไม่กี่นาที เนื่องจากคนจำนวนมากหนีภัยแผ่นดินไหวออกไปยังแนวชายฝั่งทะเล ด้วยเชื่อว่าเป็นสถานที่ที่มีความปลอดภัย พ้นอันตรายจากไฟไหม้ และการร่วงหล่นของเศษสิ่งของต่าง ๆ ได้ เมื่อเกิดแอฟเตอร์ช็อก ก่อนหน้าที่กำแพงน้ำที่สูงใหญ่ จะถาโถมเข้าถล่มท่าเรือบนชายฝั่งนั้น น้ำทะเลได้เหือดแห้งลดระดับลงไปมากจนซากเรือสินค้าเก่า ๆ ที่ปรักหักพังและหลงลืมกันไปแล้ว โผล่ขึ้นมาให้เห็นอย่างชัดเจน
    แผ่นดินไหว สึนามิ และไฟไหม้ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้สังหารชาวเมืองลิสบอนไปมากกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนชาวเมืองทั้งหมดประมาณ 275,000 คน<sup class="noprint Template-Fact">[ต้องการอ้างอิง]</sup> บันทึกประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการสำรวจทางทะเลของ วาสโก ดา กามา และ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ที่เก็บไว้ก็สูญหายไป ตึกรามอาคารต่าง ๆ จำนวนนับไม่ถ้วนถูกทำลาย (รวมถึงตัวอย่างส่วนใหญ่ของสถาปัตยกรรมแบบ Manueline ของโปรตุเกส) การพังพินาศของลิสบอนยังส่งผลให้ความทะเยอทะยานด้านการล่าอาณานิคมของจักรวรรดิโปรตุเกสสะดุดลงด้วย<sup class="noprint Template-Fact"></sup>ชาวยุโรปในคริสต์ศตวรรษที่ 18 พยายามที่จะเข้าใจภัยพิบัติที่เกิดขึ้นภายใต้กรอบของศาสนา และระบบความเชื่อในหลักแห่งเหตุผล นักปรัชญาในยุคส่องสว่าง (the Enlightenment) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วอลแตร์ ได้บันทึกเรื่องถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แนวความคิดหลักปรัชญาของการทำให้บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น ดังเช่นที่อธิบายโดยนักปรัชญา อิมมานูเอล คานท์ (Immanuel Kant) ในหนังสือ The Observation on the Feeling of the Beautiful and Sublime นั้นก็ได้แรงบันดาลใจบางส่วนมาจากความพยายามที่จะเข้าใจถึงความร้ายกาจของ เหตุการณ์แผ่นดินไหว และคลื่นใต้น้ำสึนามิ ที่ลิสบอนครั้งนี้<sup class="noprint Template-Fact"></sup>
    สัตว์จำนวนมากรู้โดยสัญชาตญาณถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น และได้หนีภัยขึ้นไปยังพื้นที่สูง ก่อนหน้าที่น้ำทะเลจะซัดเข้าฝั่ง แผ่นดินไหวที่ลิสบอนเป็นกรณีแรกที่มีการบันทึกไว้เป็นเอกสารหลักฐาน<sup class="noprint Template-Fact"></sup> เกี่ยวกับปรากฏการณ์ดังกล่าวในทวีปยุโรป ปรากฏการณ์ในลักษณะนี้ ได้รับการบันทึกไว้เช่นกันในศรีลังกาในปี พ.ศ. 2547 เมื่อเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย นักวิทยาศาสตร์บางรายสงสัยว่าสัตว์ต่าง ๆ อาจมีความสามารถในการรับสัญญาณคลื่นเรย์ลีความ ถี่ต่ำ (subsonic Rayleigh waves) ได้จากการไหวของแผ่นดินในช่วงเวลาไม่กี่นาที หรือไม่กี่ชั่วโมง ก่อนที่คลื่นใต้น้ำจะพัดกระหน่ำเข้าสู่ชายฝั่ง
    เกาะกรากะตัว

    ภูเขาไฟบนเกาะกรากะตัว ในประเทศอินโดนีเซีย เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงเมื่อปี พ.ศ. 2426 (ค.ศ. 1883) หินเหลวละลายใต้ปล่องภูเขาไฟถูกพ่นออกมาจำนวนมาก เกิดโพรงขนาดใหญ่ขึ้นใต้ดิน ทำให้พื้นแผ่นดินที่อยู่เบื้องบนและพื้นทะเลยุบตัวลง ส่งผลให้เกิดระลอกคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ขึ้น บางลูกมีความสูงกว่า 40 เมตรจากระดับน้ำทะเล ระลอกคลื่นสึนามิที่เกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟกรากะตัวในอินโดนีเซีย ครั้งนี้เคลื่อนตัวถาโถมเข้าสู่บริเวณชายฝั่งมหาสมุทรอินเดีย, มหาสมุทรแปซิฟิก, ชายฝั่งตะวันตกของอเมริกา, อเมริกาใต้, และบริเวณที่ห่างไกลออกไปอีกในช่องแคบอังกฤษ<sup class="noprint Template-Fact"></sup> ส่วนพื้นที่ชายฝั่งใกล้เคียงในเกาะชวาและสุมาตรา กระแสน้ำทะเลไหลบ่าท่วมทะลักเข้าไปถึงพื้นแผ่นดินภายในซึ่งอยู่ห่างจากชาย ฝั่งทะเลเข้าไปเป็นระยะทางหลายไมล์ สร้างความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงแก่สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ภัย พิบัติครั้งนี้ และทำให้ไม่มีการเข้าไปตั้งถิ่นฐานอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวอีกเลย ปัจจุบันพื้นที่บริเวณนี้ได้กลายเป็นเขตป่าทึบมีชื่อว่า เขตอนุรักษ์ธรรมชาติอูจังกูลอน (Ujung Kulon nature reserve)

    สึนามิแปซิฟิก


    พ.ศ. 2489 (ค.ศ. 1946) - สึนามิแปซิฟิก (Pacific Tsunami) แผ่นดินไหวในหมู่เกาะอลิวเตียน ในปี พ.ศ. 2489 (ค.ศ. 1946) ก่อให้เกิดคลื่นสึนามิที่ถาโถมเข้าสู่ฮาวายและอะลาสก้า ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 165 คน มหันตภัยสึนามิที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นส่งผลให้เกิดการก่อสร้างระบบเตือนภัย สึนามิสำหรับบรรดาประเทศที่ตั้งอยู่ตามบริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกขึ้นใน ปี พ.ศ. 2492 (ค.ศ. 1949)

    สึนามิชิลี


    พ.ศ. 2503 (ค.ศ. 1960) - สึนามิชิลี (Chilean tsunami) แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ชิลี (The Great Chilean Earthquake) มีระดับความรุนแรง 9.5 ริกเตอร์ซึ่งเป็นระดับที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกไว้<sup class="noprint Template-Fact"></sup> เกิดขึ้นบริเวณนอกชายฝั่งตอนกลางทางใต้ของประเทศชิลี ก่อให้เกิดคลื่นสึนามิที่สร้างความวิบัติหายนะอย่างรุนแรงที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20<sup class="noprint Template-Fact"></sup> คลื่นสึนามิเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกทั้งหมด ขนาดคลื่นมีความสูงถึง 25 เมตร เมื่อคลื่นสึนามิเคลื่อนตัวเข้าถล่มโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น หลังจากเกิดแผ่นดินไหวนานเกือบ 22 ชั่วโมงนั้น ขนาดความสูงของคลื่นที่มีการบันทึกไว้ระบุว่าสูงถึง 10 ฟุตเหนือระดับกระแสน้ำ ประมาณการณ์ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิที่ เกิดขึ้นตามมามีจำนวนระหว่าง 490 - 2,290 ราย

    สึนามิกู๊ดฟราย์เดย์


    พ.ศ. 2507 (ค.ศ. 1964) - สึนามิกู๊ดฟราย์เดย์ (Good Friday Tsunami) แผ่นดินไหวกู๊ดฟรายเดย์ขนาด 9.2 ริกเตอร์ที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2507 (ค.ศ. 1964) ก่อให้เกิดคลื่นสินามิถาโถมเข้าถล่มชายฝั่งอะลาสก้า, บริติช โคลัมเบีย, แคลิฟอร์เนียและชายฝั่งเมืองแปซิฟิกนอร์ธเวสต์ในสหรัฐอเมริกา ทำให้ประชาชนเสียชีวิต 122 คน คลื่นสึนามิมีความสูงถึง 6 เมตร ในเมือง Crescent City ซึ่งอยู่ห่างไกลออกไปในแคลิฟอร์เนียมีผู้เสียชีวิต 11 คน
    สึนามิจากแผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย

    [​IMG]

    ภาพแสดงสึนามิเมื่อปลายปี พ.ศ. 2547


    พ.ศ. 2547 (ค.ศ. 2004) - สึนามิจากแผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย คลื่นสึนามิครั้งแรกในประเทศไทยเกิดจากแผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 ระลอกคลื่นยักษ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตล่าสุดจำนวนกว่า 165,000 ราย<sup class="noprint Template-Fact"></sup> (มากกว่า 105,000 รายเสียชีวิตในอินโดนีเซีย<sup class="noprint Template-Fact"></sup>) คลื่นสึนามิได้ถาโถมเข้าถล่มและคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในพื้นที่หรือบริเวณที่ใกล้กับจุดเกิดแผ่นดินไหว เช่น อินโดนีเซีย, ไทย, และพื้นที่บริเวณชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของมาเลเซีย ไปจนถึงพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลออกไปหลายพันกิโลเมตรในบังกลาเทศ, อินเดีย, ศรีลังกา, หมู่เกาะมัลดีลฟ์, และแม้กระทั่งโซมาเลีย, เคนยา, และแทนซาเนีย ซึ่งตั้งอยู่ในแถบแอฟริกาตะวันออก
    ประเทศในแถบมหาสมุทรอินเดียเหล่านี้ ยังไม่มีระบบเตือนภัยคลื่นสึนามิที่สมบูรณ์พอดังเช่นประเทศในภูมิภาค มหาสมุทรแปซิฟิก ส่วนหนึ่งเนื่องจากไม่มีภัยพิบัติที่เกิดจากคลื่นยักษ์ในภูมิภาคมานานแล้ว นับตั้งแต่เกิดคลื่นสึนามิจากการระเบิดของภูเขาไฟกรากะตัวในปี พ.ศ. 2426 (ค.ศ. 1883) ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 36,000 คน ภัยพิบัติสึนามิในมหาสมุทรอินเดียล่าสุดนี้ส่งผลให้ยูเนสโกและองค์การระหว่างประเทศหลายแห่งออกมาเคลื่อนไหว เรียกร้องให้มีการจัดตั้งระบบเตือนภัยสึนามิโลกขึ้น<sup class="noprint Template-Fact"></sup>

    สึนามิในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


    สึนามิในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

    • วันเวลา - สถานที่เกิด
    • 26 สิงหาคม พ.ศ. 2426 (ค.ศ. 1883) - ภูเขาไฟกรากะตัวระเบิด
    • 16 สิงหาคม พ.ศ. 2519 - รอบอ่าวโมโร (เมืองโคตาบาโต) ประเทศฟิลิปปินส์
    • 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 - เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย
    • 25 ตุลาคม พ.ศ. 2553 - หมู่เกาะเมินตาวัย ประเทศอินโดนีเซีย
    สึนามิในเอเชียใต้

    สึนามิในเอเชียใต้

    • วันเวลา - สถานที่เกิด
    • พ.ศ. 2067 (ค.ศ. 1524) - ใกล้เมือง Dabhol รัฐมหารัชตะ ประเทศอินเดีย
    • 2 เมษายน พ.ศ. 2305 (ค.ศ. 1762) - ชายฝั่งอาระคัน ประเทศพม่า
    • 16 มิถุนายน พ.ศ. 2362 (ค.ศ. 1819 - Rann of Kachchh รัฐกุจาราช ประเทศอินเดีย
    • 31 ตุลาคม พ.ศ. 2390 (ค.ศ. 1847) - หมู่เกาะนิโคบาร์ใหญ่
    • 31 ธันวาคม พ.ศ. 2424 (ค.ศ. 1881) - หมู่เกาะคาร์นิโคบาร์
    • 26 สิงหาคม พ.ศ. 2426 (ค.ศ. 1883) - ภูเขาไฟกรากะตัวระเบิด
    • 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2488 (ค.ศ. 1945) - ชายฝั่ง Mekran บาลูจิสถาน
    ...
    สึนามิในอเมริกาและแคริบเบียน


    • 11 ตุลาคม พ.ศ. 2461 (ค.ศ. 1918) - เปอร์โตริโก <sup class="noprint Template-Fact"></sup>
    • 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2472 (ค.ศ. 1929) - นิวฟาวนด์แลนด์ <sup class="noprint Template-Fact"></sup>
    • 4 สิงหาคม พ.ศ. 2489 (ค.ศ. 1946) - สาธารณรัฐโดมินิกัน <sup class="noprint Template-Fact"></sup>
    • 18 สิงหาคม พ.ศ. 2489 (ค.ศ. 1946) - สาธารณรัฐโดมินิกัน <sup class="noprint Template-Fact"></sup>
    • 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2383 (ค.ศ. 1840) - เกรท สเวลล์ในแม่น้ำเดลาแวร์ <sup class="noprint Template-Fact"></sup>
    • 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2415 (ค.ศ. 1872) - มลรัฐเมน <sup class="noprint Template-Fact"></sup>
    • 9 มกราคม พ.ศ. 2469 (ค.ศ. 1926) - มลรัฐเมน <sup class="noprint Template-Fact"></sup>
    • 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2507 (ค.ศ. 1964)
    สึนามิอื่นๆ ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

    สึนามิที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมาของโลกยังมีอีกมากมาย ที่สำคัญๆ ประกอบด้วย

    • ครั้งที่ 1 20 มกราคม พ.ศ. 2150 (ค.ศ. 1607) : ประชาชนจำนวนหลายพันคนที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งช่องแคบอังกฤษ (Bristol Channel) จมน้ำเสียชีวิต ขณะที่บ้านเรือนที่อยู่อาศัยและหมู่บ้านหลายแห่งถูกน้ำพัดกวาดหายลงไปในทะเล จากกระแสน้ำที่เอ่อท่วมอย่าวรวดเร็วซึ่งอาจเป็นคลื่นสึนามิ สาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วมในครั้งนั้นยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดจากสาเหตุ 2 ประการที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันโดยมิได้คาดหมายมาก่อน คือ สภาพดินฟ้าอากาศที่วิปริตอย่างรุนแรงและช่วงกระแสน้ำทะเลที่หนุนขึ้นสูงสุด <sup class="noprint Template-Fact"></sup>
    • ครั้งที่ 2 มหันตภัยสึนามิครั้งเลวร้ายที่สุดอีกครั้งหนึ่ง ถาโถมเข้าถล่มหมู่บ้านหลายหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ตามชายฝั่งเกาะซานริกู (Sanriku) ประเทศญี่ปุ่นในปี พ.ศ. 2439 (ค.ศ. 1896) คลื่นที่มีความสูงกว่าตึก 7 ชั้น (ประมาณ 70 เมตร) พร้อมกับกวาดกลืนชีวิตผู้คนจำนวน 26,000 คนลงสู่ท้องทะเล <sup class="noprint Template-Fact"></sup>
    • ครังที่ 3 พ.ศ. 2472 (ค.ศ. 1929) : เกิดแผ่นดินเลื่อนตัวใต้ทะเลที่หมู่เกาะ Aleutian คลื่นสึนามิที่เกิดขึ้นถาโถมเข้าสู่เกาะฮาวายกลืนชีวิตผู้คนไป 159 ราย (ขณะที่อีก 5 ราย เสียชีวิตในอะลาสก้า) <sup class="noprint Template-Fact"></sup>
    • ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2501 (ค.ศ. 1958) : สึนามิที่เกิดขึ้นในอ่าว Lituya Bay รัฐอะลาสก้า เป็นสึนามิขนาดมหึมาขนาดเมก้าสึนามิ เกิดจากน้ำแข็งถล่ม เป็นสึนามิเฉพาะท้องถิ่น เนื่องจากพื้นที่ได้รับผลกระทบจำกัดวงอยู่เฉพาะในอ่าว แต่ได้รับการบันทึกไว้ว่าเป็นคลื่นสึนามิที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีความสูงมากกว่า 500 เมตร ( 1,500 ฟุต) เหนือระดับน้ำทะเล คลื่นที่เกิดไม่สามารถเคลื่อนตัวออกไปไกลจากแนวฟยอร์ด (fjord) ที่ล้อมรอบอยู่ได้ แต่ก็ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายจากเรือที่เข้าไปทำการประมงอยู่ในบริเวณนั้น และพลานุภาพของมันก็ทำให้พื้นดินบริเวณนั้นถูกกลืนหาย
    ไปเกือบหมด และมีแผ่นดินบางส่วนจมลงไปใต้น้ำ

    • ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2519 (ค.ศ. 1976) : 16 สิงหาคม (เที่ยงคืน) เกิดคลื่นสึนามิเข้าถล่มภูมิภาครอบอ่าวโมโร (เมืองโคตาบาโต) ประเทศฟิลิปปินส์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 5,000 ราย
    • ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2526 (ค.ศ. 1983) : ประชาชนจำนวน 104 รายในภาคตะวันตกของประเทศญี่ปุ่นเสียชีวิตจากคลื่นสึนามิที่โถมเข้าถล่มหลัง จากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในพื้นที่ใกล้เคียง <sup class="noprint Template-Fact"></sup>
    • ครั้งที่ 7 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 (ค.ศ. 1998) : สึนามิปาปัวนิวกินีคร่า ชีวิตผู้ชนจำนวนประมาณ 2,200 ราย หลังจากที่เกิดแผ่นดินไหวความรุนแรงระดับ 7.1 ริกเตอร์ในบริเวณ 15 กิโลเมตร นอกชายฝั่งปาปัวนิวกินี และจากห่างจากเวลานั้นเพียงแค่ 10 นาที คลื่นยักษ์สูง 12 เมตรก็เคลื่อนเข้าถล่มชายฝั่ง ในขณะที่ระดับความรุนแรงของแผ่นดินไหวยังไม่สามารถที่จะก่อให้เกิดคลื่น ยักษ์ขนาดใหญ่ดังกล่าวได้โดยตรงแต่การที่เกิดคลื่นยักษ์ได้นั้น เชื่อกันว่า เนื่องจากแผ่นดินไหวส่งผลให้แผ่นดินใต้ทะเลเกิดการเลื่อนตัว และเหตุการณ์หลังนี้ทำให้เกิดสึนามิขึ้น สองหมู่บ้านของปาปัวนิวกินีคือ อารอป และวาราปู ถูกทำลายเรียบเป็นหน้ากลอง <sup class="noprint Template-Fact"></sup>
    การทำนายว่าจะเกิดเป็นคลื่นสึนามิ

    มีความเป็นไปได้ว่าเป็นคลื่นสึนามิในบริเวณ

    • 9 มิถุนายน พ.ศ. 2456 (ค.ศ. 1913) - ลองพอร์ท มลรัฐนิวเจอร์ซี
    • 6 สิงหาคม พ.ศ. 2466 (ค.ศ. 1923) - ร็อกอะเวย์ปาร์ก, ควีน, มลรัฐนิวยอร์ก
    • 8 สิงหาคม พ.ศ. 2467 (ค.ศ. 1924) - โคนี่ ไอร์แลนด์, มลรัฐนิวยอร์ก
    • 19 สิงหาคม พ.ศ. 2474 (ค.ศ. 1931) - เมืองแอตแลนติกซิตี มลรัฐนิวเจอร์ซี
    • 21 กันยายน พ.ศ. 2481 (ค.ศ. 1938) - เฮอร์ริเคน, ชายฝั่งนิวเจอร์ซี
    • 3-4 กรกฎาคม พ.ศ. 2535 (ค.ศ. 1992) - หาดเดย์โทนา มลรัฐฟลอริดา
    • การโจมตีของสะเก็ดดาว - บริเวณทอมส์ แคนยอน มลรัฐนิวเจอร์ซี และปากอ่าวเชสะพีก (Chesapeake Bay) ในเขตมลรัฐเวอร์จิเนียและ มลรัฐแมริแลนด์
    http://th.wikipedia.org/wiki/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2010
  7. ตันติปาละ

    ตันติปาละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    4,421
    ค่าพลัง:
    +4,649
    อ.เชียงแสน น้ำโขงแห้งทำเศรษฐกิจเมืองเชียงแสนทรุด

    เชียงราย/น้ำโขงแห้งทำเศรษฐกิจเมืองเชียงแสนทรุด -ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย แจ้งว่า หลังจากกระแสน้ำในแม่น้ำโขงลดระดับลงจนบางจุดแห้งขอดทำให้การเดินเรือขนส่ง สินค้าจากประเทศจีนเข้ามายังท่าเรือเชียงแสน จ.เชียงราย ต้องหยุดชะงัดเนื่องจากเรือขนส่งไม่สามารถแล่นผ่านมาได้สาเหตุมาจากความลึก ของน้ำไม่เพียงพอกับการเดินเรือที่ต้องใช้ระดับน้ำตั้งแต่ 2 เมตรขึ้นไป แต่ปัจจุบันพบว่าร่องความลึกของน้ำสูงไม่ถึง 1 เมตร
    วันนี้ 9 มี.ค.2553 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจการค้าแถวชายแดน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย และได้เข้าสัมภาษณ์ นายวีระ จินนิกร ผู้จัดการ ท่าเรือเชียงแสน โดยนายวีระ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจตอนนี้ไม่ดีเพราะเรือจีนไม่สามารถเดินเรือได้เพราะต้องใช้ระดับน้ำ ลึก 2 เมตร แต่ตอนนี้มีความลึกไม่ถึงเมตรบางจุดมีความลึก 1 เมตรกว่าๆแถวหน้าที่ว่าการอำเภอจึงทำให้เรือไม่สามารถขยับได้ ตอนนี้มีเรือขนส่งสินค้าของจีนจอดอยู่ที่ท่าน้ำประมาณ 10 ลำ โดยเรือทั้งหมดได้ขึ้นสินค้ารอไว้เพียงแค่ระดับร่องน้ำมีความลึกพอที่จะเดิน เรือได้ก็จะทำการออกเรือทันที
    ที่บริเวณจุดปล่อยสินค้าลงเรือด่านศุลกากรเชียงแสนพบว่าบรรดากรรมกรแบกหาม นั่งคอยงานกันเพียง 5 คน จากการสอบถาม นายทอง ผาจร อายุ 46 ปี หัวหน้ากรรมกรท่าเรือเชียงแสน เปิดเผยว่าตั้งแต่แม่น้ำโขงแห้งทำให้เรือขนสินค้าไม่สามารถแล่นได้ต้องจอดรอ มาประมาณเดือนกว่าแล้วทำให้กรรมกรที่ท่าเรือ ประมาณ 300 คน ตกงาน ไม่มีงานทำ บางราย ต้องไปแย่งอาชีพ รับจ้างปลูกนาแทน คนอื่นทำ เพราะไม่มีเรือเข้ามาจอดทำให้ขาดรายได้ส่วนคนขับเรือจีนเองก็ต้องมีค่าใช้ จ่ายเพิ่ม เพราะต้องขึ้นมาซื้อกับข้าวกับปลาจากฝั่งไทยไปเลี้ยงดูลูกเรือทำให้มีค่าใช้ จ่ายมากขึ้น เพราะแต่ก่อนที่บริเวณนี้จะคึกคักแรงงานแทบจะไม่พอต่อการขนสินค้าลงเรือแต่ ปัจจุบันที่ท่าเรือกลับเงียบเหงา จึงอยากขอร้องให้รัฐบาลรีบช่วยเหลือเป็นการด่วน
    ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าผลจากน้ำในแม่น้ำโขงแห้งทำให้ภาคการขนส่งทางน้ำต้อง หยุดไปบรรดาร้านค้าต่างๆในบริเวณท่าเรือเชียงแสนต้องปิดกิจการลงชั่วคราว เนื่องจากไม่มีเรือเข้าออกทำให้ไม่มีลูกค้าเข้ามาติดต่องานจึงไม่มีคนมาซื้อ ข้าวปลาอาหารกินกัน และที่บริเวณริมทางติดริมแม่น้ำโขงร้านค้าที่นำผลไม้จากจีนมาวางจำหน่าย เรียงกันหลายร้านก็ปิดลงมีเพียงไม่กี่ร้านที่เปิดเป็นเพราะบรรดาร้านต่างๆ ไม่มีผลไม้จากประเทศจีนนำมาจำหน่ายให้กับลูกค้า

    ดูเพิ่มที่ http://76.nationchannel.com/playvideo.php?id=83741

    ขอบคุณข่าวสารจาก 76 ช่อง 76 จังหวัด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2010
  8. ตันติปาละ

    ตันติปาละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    4,421
    ค่าพลัง:
    +4,649
    เอาเข้าไป ทางหนึ่งน้ำท่วม ทางหนึ่งแล้ง
     
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** โคตรของปฏิหาริย อยู่ที่ สัจจะ****

    คนมีสัจจะ... ทำได้จริงสักข้อ
    อยู่ที่ไหนก็รอดพ้นภัย

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  10. ตันติปาละ

    ตันติปาละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    4,421
    ค่าพลัง:
    +4,649
    อ่างทองตื่นรอยพญานาค

    <table width="599" border="0" cellpadding="5" cellspacing="5"><tbody><tr><td class="text4"><dd> ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบยังบ้านของนายอุทัย แสงทอง อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/1 หมู่ที่ 6 ต.คลองขนาด อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง หลังทราบว่ามีประชาชนจำนวนมากแห่กันไปดูรอยพญานาคที่ขึ้นมาเลื้อยอยู่ภายใน บ่อตะพาบ เมื่อเดินทางไปตรวจสอบพบว่าภายในบริเวณบ้านมีการตั้งจุดขายธูปเทียน ดอกไม้ ให้ประชาชนที่มาดูกราบไหว้ ซึ่งก็พบว่ามีประชาชนจำนวนมากแห่กันมาดูรอยเกล็ดพญานาคกันไม่ขาดสาย ซึ่งจุดที่พบรอยพญานาคนั้นเป็นบ่อปูนขนาดกว้าง 3 เมตร ยาว 3 เมตร ติดกัน 2 บ่อ คลุมด้วยสะแลนกลองแสง ซึ่งเป็นบ่อที่ใช้เลี้ยงตะพาบ
    </dd><dd> ภายในบ่อเป็นบ่อเปล่า ตามพื้นปูนพบรอยปริศนาเป็นลักษณะคล้ายงูเลื้อย หรือ สัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่เลื้อยเป็นเกล็ดซ้อนกันขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 7 ซ.ม. จนเห็นได้ชัด ซึ่งชาวบ้านต่างโจทย์ขานกันว่าเป็นรอยของพญานาคที่ขึ้นมา
    </dd><dd> นายอุทัย เจ้าของบ้าน กล่าวว่า บ่อดังกล่าวเมื่อก่อนเป็นบ่อที่ใช้เลียงตะพาบแต่ได้เลิกเลี้ยงมานานแล้วโดย ใช้น้ำแช่บ่อไว้เพื่อไม่ให้ปูนแตก แต่จู่ๆในวันที่ 11. พ.ย.ที่ผ่านมานายวัลลภ แสงทอง อายุ 25 ปี ลูกชายตน ได้เดินไปดูที่บ่อดังกล่าวก็พบว่าน้ำแห้งบ่อและพบรอยดังกล่าวอยู่เต็มบ่อ จึงมาบอกตน ตอนแรกตนไม่รู้ว่าเป็นรอยอะไรจึงไปให้ร่างทรงดู ซึ่งร่างทรงก็บอกว่าเป็นรอยพญานาค ที่ขึ้นมาเล่นน้ำ พอข่าวแพร่ออกไปชาวบ้านต่างก็มาดูเป็นจำนวนมาก ซึ่งตนก็ไม่เคยพบรอยลักษณะดังกล่าวมาก่อน
    </dd><dd> ด้านนายสุรชัย ผลจันทร์ อายุ 47 ปี ชาวบ้านใน อ.วิเศษชัยชาญ ที่เดินทางไปดู ได้กล่าวว่า ลักษณะรอยนั้นถือว่าแปลกมาก จึงเชื่อว่ายากที่จะทำขึ้นมาเองหรือเป็นสัตว์ชนิดอื่น เพราะถ้าเป็นงูก็ไม่มีรอยเลื้อยและเป็นรอยอย่างนี้ นับเป็นรอยประหลาดใจมาก โดยชาวบ้านถือเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ เพราะสถานที่ดังกล่าวสมัยก่อนเป็นวัดร้างและอาจมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ </dd>
    15 พย. 2553 17:59 น.
    </td></tr></tbody></table>
     

แชร์หน้านี้

Loading...