ชมภาพและความรู้อิทธิพลังของโป่งข่าม-หินแก้วกายสิทธิ์

ภาพล่าสุด ผมถ่ายที่แผงคุณนพ ทั้งหมดครับ(พื้นสีแดง)
พื้นสีน้ำเงิน ถ่ายที่ห้องพระในบ้านผมเอง
พอดีซื้อกล้องใหม่ มา
เห่อมาก เลยลองเอาไปถ่ายดู คมชัดใช้ได้
ดูเหมือนถ่ายในห้องเลยหรือครับ สุดยอดจริงๆ

ที่ผมแวะหาคุณนพ ที่เดียว เพราะถูกอัธยาศัยกันครับ
แล้วราคาก็ไม่แพง คุ้มค่าน่าเก็บ
ผมเก็บมาก็เยอะแล้ว มีเวลา ฝากบรรจุใต้ฐานพระก็ดี นะ ได้กุศลด้วย

ก่อนร้านคุณนพ ก็มีหนุ่มสาวคู่นึงนั่งขายอยู่
เมื่อก่อนพ่อเขาขาย แต่อายุมาก เป็นเจ้าแรก มาจากแม่สอด เหมือนกัน

ส่วนผู้ชายใส่แว่น ที่ขายอยู่ใกล้กัน เป็นแผงเดี่ยวเล็กๆ
เขาเคยเป็นลูกค้าเก่าคุณนพ พอฝึกวิทยายุทธแกร่งกล้า
ก็ออกมาค้าเอง

 

เรื่องของหินอีกครับ

​

ก็คงมีเรื่องราวที่ทำมานะผมว่า​

 

มาตอบเรื่องของหินอีกครับ (เอ๊ะ คุณณรงค์ ทำไมมีเยอะจัง)

หินตามภาพนี้ ด้านหนึ่งเป็นดวงตาเทพเจ้า เคยเล่าให้ฟังไปแล้วนะครับ
ส่วนอีกด้าน เป็นสัญญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิเต๋า (หยิน-หยาง) อยู่ภายในรูปทรงแปดเหลี่ยม (โป๊ยก่วย) สามารถสะท้อนสิ่งไม่ดีทั้งหลายให้ออกไปจากตัวเรา ริมขอบทำขึ้นรูปทรงกลม แปดด้าน
เปรียบเสมือนแก้วสารพัดนึก ทำไมต้องเป็นจำนวน แปด
เลขแปด เป็นเลขที่ชาวจีน ถือเป็นเลขมหามงคล มหาเศรษฐี
คนฮ่องกง ที่รวยมากๆ จะปลูกบ้านตามเชิงเขา บ้านเลขที่ มีเลขแปด
ทั้งนั้น เช่น 88, 888, 88/8, 818/8 อย่างนี้เป็นต้น เรียกว่ารวยลูกเดียว ข รับ
(verygood)

 

สำหรับปุถุชนคนธรรมดา ที่ยังไม่ได้เริ่มพัฒนาแนวทางแห่ง ศีล สมาธิ ปัญญา ก็สามารถนำแก้วกายสิทธิ์ไปแช่น้ำ
ทำน้ำมนต์ มาอาบปรับจูนธาตุขันธ์ไปพลางๆก่อน แต่ต้องมีศรัทธาวิริยะในธาตุรู้แห่งพุทธะว่ามีอยู่จริง
เมื่อเรามีเจตจำนงความตั้งใจอันแน่วแน่ ศีล สมาธิ ปัญญา จะพัฒนาความคิดมาในภายหลัง เราจะนำมาเพ่ง
นั่งสมาธิ หรืออธิษฐานจิต ทำน้ำมนต์ราดหัว ทำอะไรใดๆได้ทั้งหมด แต่ความศรัทธาอันบริสุทธิ์แห่งจิตต้องมาก่อน

เพราะบารมีของแก้วกายสิทธิ์

 

การเล่นฤทธิ์ เล่นอำนาจ ในสมัยโบราณ เป็นเพียงการฝึกฝนปฏิบัติต่อจิต เพื่อที่จะทดสอบณานสมาบัติ ของตนเองว่ามีฤทธิ์อำนาจมากน้อยแค่ไหน ซึ่งแนวทางของการฝึกจิตในสมัยก่อน เขาจะฝึกกันตามถ้ำ ตามป่า ตามเขา โดยเฉพาะในถ้ำลึกๆ ถ้ำใต้ดิน ซึ่งมีหินแก้ว หรือแก้วกายสิทธิ์ เป็นรากฐานของถ้ำ พอฝึกฝนปฏิบัติไปนานวันเข้า บุญบารมีหรือญาณสมาธิแห่งจิตที่เกิดขึ้นอย่างมากมาย ไม่รู้จะนำไปทำอะไร เมื่อพินิจพิจารณาไปรอบๆ ก็เห็นความสวยงามของหินแก้ว ซึ่งมีอยู่หลากสีสัน

จึงนำฌานสมาบัติแห่งจิตเหล่านั้น มาอธิษฐานฝากเอาไว้กับหินสีต่างๆ ที่ตนชอบ

 

ใครที่ฝึกจิตไปถึงขั้นของ พระโพธิสัตว์ ก็อธิษฐานบารมี
ฝากเอาไว้กับ หินสีเขียว เขียวใบไม้ เขียวตองอ่อน
อริยพรหม ก็ สีเขียวเข้ม

-มหาเทพ สีฟ้า สีคราม
-พรหม สีชมพู
-เทพ-เทวดา ที่มีฤทธิ์อำนาจ สีแดง สีแดงอ่อน
-คนธรรพ์ ครุฑ นาค สีม่วง
-สัตว์หิมพานต์ สัตว์จำศีล สัตว์มนุษย์ สีส้ม สีส้มแสด
-พระอรหันต์ที่สำเร็จฤทธิ์ สีแดง
-สำเร็จทางปัญญา สีขาว
-ผู้ปฏิบัติตามแนวทางของศีล สมาธิ ปัญญา สีเหลือง
-พระปัจเจก สีเหลืองทอง
-องค์สมเด็จ ผลึกแก้วสีขาวนวล (ไม่ทะลุปรุโปร่ง) แก้วเหลืองทอง
แก้วประกายพรึก (โปร่งใสมองทะลุได้) ขึ้นอยู่กับบุญบารมีของพระพุทธเจ้าของแต่ละองค์ ขึ้นอยู่กับการสมมุติของแต่ละองค์ว่าจะบรรจุพลังในหินแก้วสีใด

 

ถ้าในถ้ำนั้นไม่มีหินสี ตามบุญบารมีของแต่ละพระองค์ผู้ปฏิบัติจนสามารถ
ละ วาง หยุดได้ทั้งหมด ก็จะฝากบุญบารมีของตนเองเอาไว้กับหินสีขาวเสียเป็นส่วนใหญ่

ทำให้วัตถุธาตุและหินสีต่างๆ ภายในถ้ำแห่งนั้น กลายเป็นที่มาของธาตุกายสิทธิ์ในยุคปัจจุบัน

(ที่มา เพชรเกล็ดแก้ว ชุด อัญมณีแห่งปัญญา แก้วกายสิทธิ์ โดย อริยะ)

 

พระสังขจายแกะจากไม้กลายเป็นหิน

 

แก้วกายสิทธิ์ เป็นอริยธาตุในโลกแห่งอนาคต สำหรับที่จะนำมาใช้ในโลกของพระศรีอาริย์ ที่กำลังจะโผล่ผุดขึ้น ก็จะนำมาใช้ในการสร้างเมืองแก้ว เมืองทอง ในโลกมนุษย์ยุคหน้า เพราะเมื่อโลกธาตุในภาวะปัจจุบันสามารถที่จะปริวรรตอัตตาไปถึงยุคนั้นๆ ทุกๆสถานที่บนโลกธาตุ ก็จะเต็มไปด้วยแก้วผลึกพวกนี้ เพราะนี้คือ แก้วธรรมชาติ ที่จะโผล่ผุดขึ้น ในโลกของพระศรีอาริย์

 

เมื่อโลกธาตุเดินทางเข้าสู่วิกฤต เช่นมีการเอารัดเอาเปรียบทางด้านการค้า และภูมิปัญญา ทุนนิยม กำแพงภาษี ภาษีอาน ทำให้ประเทศที่ด้อยพัฒนาที่เพิ่งจะโผล่หน้ามาลืมตาดูโลก ต้องเสพติดอยู่ภายใต้อำนาจ กลายเป็นธาตุของวัตถุ ทำให้แก้วกายสิทธิ์ ซึ่งมีความประเสริฐอยู่สูงสุดต้องโผล่ผุดขึ้นมาก่อน เพื่อที่จะมาสืบต่อสาย ณ ธรรมของพระพุทธเจ้าทั้ง 2 พระองค์ ให้เชื่อมชิดติดกัน


กลายเป็นแก้วธรรมชาติ สีเขียวยอดตอง โผล่ขึ้นมาในโลกธาตุยุคปัจจุบัน แม้จะเป็นรัตนชาติหลากสีสัน(พลอยเนื้ออ่อน) แต่ก็ด้อยราคาในภาวะปัจจุบัน กลายเป็นรัตนชาติที่ยังไม่ถึงเวลา ก็จะโผล่ผุดขึ้นมา จึงมีค่ามากมายมหาศาล สำหรับโลกของวิญญาณ เพื่อนำไปใช้ในการแกะสลักเป็นพระบูชา พระพุทธรูป
(ทรงเครื่อง) โดยเฉพาะพระศรีอาริยเมตไตร จำลองขนาดต่างๆ รวมถึงลูกนิมิต แก้วกายสิทธิ์ ใช้สำหรับนั่งสมาธิ ติดต่อสื่อสารในโลกของวิญญาณ
เสริมสร้างพลังชีวิตที่โหยแห้งโรยรา ให้เกิดความกล้าแข็ง และพร้อมที่จะต่อสู้ ฝ่าฟันกิเลสมาร ซึ่งผู้มีอำนาจในการครอบครองโลกหยิบยื่นให้ เพราะในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า(30- 60 ปี) สิ่งที่ชั่วช้าเลวทรามเหล่านั้น จะค่อยๆ ย่อยสลายสูญหายไปหมด

 

สมาชิกท่านใดที่ได้ไปงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ทางจิต 8-11 ธ.ค.2549 นี้
อย่าลืมแวะทักทายเพื่อนสมาชิกด้วยกันนะครับ เท่าที่ทราบก็มี
-ทีมงานสมิงเหล็ก โดยคุณ ประเสริฐ(ประเสริฐพร)
-ตาที่สาม อ.อาชวิน

<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig -->

 

หินแก้ว ถือว่าเป็นทรัพย์แห่งแม่พระธรณี มีคุณค่าอยู่แล้วในตัวเอง หากรู้จักวิธีนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ก็ยิ่งจะมีมากมายมากนับคณา หลวงพ่อฤาษีฯ สมัยที่ท่านยังอยู่ ก็ได้มีการนำหินแก้ว (คว๊อต) มาทำเป็นวัตถุมงคลอันทรงอิทธิคุณ
กล่าวกันว่า สามารถกันนิวเคลียร์ได้

 

พระพิฆคเณศ แก้วขนเหล็ก

 

เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2549 นี้
ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตราบนานเท่านาน ขอให้พระองค์ท่านทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรง

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า Sithiphong

.
<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig -->

 

อาจารย์อาชวิน (ตาที่สาม) ท่านไปเปิดบู๊ท ในงานครับ
คนแน่นหนามาก เฉพาะวันงาน วันหนึ่ง ดูออร่าฯลฯ ให้ผู้สนใจ
ประมาณ 120 คน
เห็นบู๊ทไหนคนมุงกันเยอะๆ นั่นแหละครับ ใช่เลย

 

<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->
ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญของปวงพสกนิกรชาวไทย
ตราบนานเท่านาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
<!-- / message --><!-- sig -->

____________________________________________________________