แนะนำพระดี มีพลังมหัศจรรย์ อาถรรพ์หนุนชีวิต อิทธิฤทธิ์มหาศาล

ยินดีกับคุณ jiratornwiwat ด้วยครับที่ได้รับหลวงปู่หมุนไว้บูชา และอนุโมทนาผลบุญแห่งการให้ของคุณมะบอม ด้วยครับ

 

ลูกอม วัดไผ่ล้อม หลวงปู่ทิม อิสริโก อยากรู้ว่าพุทธคุณเป็นยังไงบ้างครับอาหนุ่ม

 

น้องมะบอม นี่มีของดี ๆ เยอะนะครับ ขอสัมภาษณ์หน่อยนะ ตอนนี้ก็ยังเรียนอยู่ทำไมถึงหันมาสนใจทางด้านนี้ครับ ซึ่งนับว่าเป็นส่วนน้อยมากในวัยรุ่นที่ส่วนใหญ่จะยังมองข้ามกันไป จะไปให้ความสนใจทางด้านแฟชั่น กิน เที่ยว กันซะมากกว่า

 

สวัสดีทุกๆท่านครับ............. ไม่ได้เข้ามาอ่าน2วัน วิ่งไปตั้งหลายหน้า กว่าจะถึงหน้าสุดท้าย..อ่านจนตาลาย ปวดตากันเลยทีเดียวเลยขอรับกระผม...(one-eye)(one-eye)(tm-love)

 

แวะเข้ามายามดึกค่ะ.....
ทำพวงมาลาเสร็จช่วง 3 ทุ่มพอดี ออกไปทานข้าวเพิ่งกลับเข้ามาค่ะ.....


*พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระปิยมหาราช พระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ทรงเป็น นักปกครองที่ทรงมีความเป็น เลิศในทุกๆ ด้านทำให้บ้านเมืองมีความเจริญรุ่งเรือง ทัดเทียมกับอารยประเทศอื่นๆ ทรงเลิกทาส และสามารถรักษาเอกราชและอธิปไตยของประเทศ ให้รอดพ้นจากการเป็นอาณานิคมของประเทศฝ่ายตะวันตก ทรงห่วงใยความเป็นอยู่ของพสกนิกร และเสด็จทอดพระเนตรความเป็นอยู่ของพสกนิกร อย่างใกล้ชิดด้วยการเสด็จประพาสต้น มหาชนต่างเทิดทูนและจงรักภักดี ต่อพระองค์อย่างสูงสุด ในปีพุทธศักราช 2453 จึงร่วมกันบริจาคเงินสร้างพระบรม ราชานุสาวรีย์ถวาย และที่ฐานของพระบรมราชานุสาวรีย์มีคำจารึกซึ่งสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงเรียบเรียงประกาศพระเกียรติคุณว่าทรงเป็นปิยมหาราช ของพสกนิกรชาวไทยหลังจากนั้นมหาชนทั่วไป ได้ยอมรับในพระราชสมัญญาดังกล่าว และต่อท้ายพระนามว่าพระปิยมหาราช


คาถาบูชาสมเด็จพระปิยมหาราช (รัชกาลที่5)

<!--Main-->(จุดธูป ๙ ดอก)

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ

พระสยามมินทร์โธ
วะโรอิติ
พุทธะ สังมิ
อิติอะระหัง
สะหัสสะกายัง
วะรัง พุทโธ
นะโมพุทธายะ

(รวม 100 ปี)<!--End Main-->

 

สวยงามมากครับ ฝีมือดีจริงๆ ;ปรบมือ

 

ลูกอมลูกนี้เอามาจาก google ครับ เอามาโพสให้เป็นตัวอย่างเฉยๆครับ ^^ถ้าอันไหนของผม ผมจะพิมพ์ไว้ว่าของผมเติมหลังน่ะครับ

ผมก็ให้ความสะคัญกับแฟชั่น กิน เที่ยว ด้วยเหมือนกันครับ แต่ + พระเครื่อง เข้าไปด้วยเท่านั้นเองครับ สาเหตุก็เริมมาจากครั้งหนึ่งเมื่อตอนประมาณ ม.4 ผมก็ไปเที่ยวปิดทองลูกนิมิตตามวัดสายอยุธยาเลยไปถึงพิษณุโลก ขับไปกันเรื่อยๆ ปิดทองทำบุญไปเรื่อยๆช่วงตรุษจีนของทุกปีน่ะครับ ก็ไปถึงวันพนัญเชิง กราบหลวงพ่อวัดพนัญเชิงเสร็จแล้วพี่ก็พาไปที่ตู้บูชาพระ ผมเลยเช่าพระมาองค์นึง 50 บาท เมื่อกลับมาก็นำมาแขวนองค์เดียวเดี่ยวๆเท่านั้นเองครับ เพราะถือว่าเป็นพระที่เลือกมาเองกับมือ แล้วก็พบว่า ตั้งแต่แขวนพระองค์นั้นมาประมาณ 2 ปีได้ มีประสบการณ์อย่างเอกอุมากๆเน้นเรื่องเมตตามหานิยม เอาเป็นว่ายิ้มให้ใคร คุยกับใครไม่มีใครปฏิเสธ แถมยังชอบ และติดอกติดใจผมอีก แต่ส่วนใหญ่ผมจะเบื่อง่ายมากแล้วก็ทิ้งๆไป ก็เลยนึกถึงพระที่คอว่าเป็นพระอะไรกันแน่ จะเกี่ยวหรือเปล่า หรือว่าอยู่ที่ตัวเรา และตั้งแต่นั้นมาผมก็เชื่อเรื่องพุทธคุณ และพ่อไม่ธรรมดาเรื่องพระเครื่องพ่อเก็บไว้เยอะมาก ส่วนตระกูลทางแม่เป็นอาจารย์ไสยเวทย์ไปเรียนมาจากพระบ้างฆารวาสบ้างที่เขมรมาแต่โบราณ แต่มาจบที่คุณตาของผมที่ไม่ทำต่อ ทางสายแม่จะเน้นเครื่องราง ตะกรุด และคาถาอาคมอะไรทำนองนั้นมากกว่า จนมาถึงตอนนี้ผมได้พบกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ผมถือเป็นครูด้านกรรมฐาน ท่านก็สอนผมหลายอย่างจนในที่สุดก็ฝึกจิตจนสามารถรู้พุทธคุณของพระ+เครื่องรางแต่ละอย่างได้ แต่ยังอ่อนด้อยนักได้ไม่ถึงไหนเพราะส่วนใหญ่คนที่ฝึกใหม่ๆจะหลงอยู่กับอะไรที่ไม่เคยเจออาจนาน 10 ปี แล้วเพิ่งคิดได้ว่าต้องฝึกกรรมฐานนะ ไม่ใช่มัวแต่ฝึกเพื่อให้สัมผัสพลังพระเครื่องได้ ฮ่าๆๆๆๆ นั่นแหละครับที่ทำให้ผมสนใจพระเครื่องมาก และหาของดีๆเก็บไว้เพียงเล็กๆน้อยๆ เพราะส่วนใหญ่อยู่ที่ท่านพ่อซะหมดครับ

 

เสื้อขาวนั่นใครครับพี่นวลสวยจังเลย ฮ่าๆๆ ของผมเค้าวางกันไปเมื่อเช้าแล้ว หัวหน้าไปสองคนกับฝ่าย ของที่นี่เป็นแบบสำเร็จรูปเป็นของปีเก่าๆ และก่อนๆ เอาแบบทำทีใช้ไปสิบปี ลดภาวะโลกร้อน

 

สุดๆเลยพี่นวล สวยมากครับ ทั้งดอกไม้ และนางแบบ

 

ครับ ขอบคุณครับที่เล่าที่มาที่ไปและประสบการณ์ให้ทราบ

 

คุณมะบอมก็เรียนอยู่หรอครับเนี่ย
ปีไหนแล้วครับ

 

ที่ผมชอบมากที่สุดและปราถนาที่สุดคือพระเครื่อง,เครื่องราง ที่แรงทางด้านเสน่ห์และเมตตาครับ แต่ในความเป็นจริงผมเคยเป็นคนดวงซวย จึงต้องพึ่งบารมีพระมงคลมหาลาภที่ผมแขวนเดี่ยวอยู่ เป็นพระที่เน้นด้านโชคลาภมากก็จริง แต่พระองค์นี้ท่านมักจะชอบมีอะไรให้ผมแปลกใจเสมอๆ เหมือนกับพอท่านรู้ว่าเราชอบทางเมตตามากๆ พระมงคลมหาลาภก็แสดงฤทธิ์ให้เป็นเมตตาให้ผมได้ประจักษ์ บางครั้งรู้สึกใจหวิวๆไม่ปลอดภัย พระมงคลมหาลาภก็กลายเป็นพระที่มีประสบการ์ณด้านนิรัยตรายซะงั้น และเมื่อเวลาต้องการโชคลาภก็แน่นอนครับ พระท่านก็แสดงฤทธิ์ทางโชคลาภให้ ทั้งๆที่จากการใช้จิตวิเคราห์พลังงานด้วยการสัมผัสพระองค์นี้แล้ว พระจะมีพลังสูงมากคือถึงกับเขย่าในมือเราได้เลย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อถ้าคนฝึกจิตจะรู้ แต่ทว่าจะไม่ทราบแน่ชัดได้เลยว่าพระดีทางด้านไหนกันแน่ เปรียบเสมือนธนาคารที่เราสามารถเบิกเงินมาแล้วจะเอาไปใช้ทำอะไรก็ได้ฉันใดก็ฉันนั้น คือเรียกได้ว่าอฐิษฐานแล้ววางลงไปในองค์พระแบบไหน ก็จะเป็นแบบนั้นตลอด อย่างเช่นผมอฐิษฐานบอกพระท่านว่าผมชอบเส่นห์เมตตา ชอบมหานิยม ปุ๊บ ปั๊บ ที่นี้จะแขวนกี่ครั้งๆก็เป็นเมตตา! บอกกล่าวท่านว่าผมขาดโชคมากๆ อยากได้ลาภบ้าง ปุ๊บ! ทีนี้แขวนกี่ครั้งๆก็เป็นโชคลาภ ส่วนเมตตาก็ไม่ได้หายไป ผมจึงเชื่อเลยว่าพระท่านดีจริง ตอนแรกก็ไม่ได้เชื่อ100% ยังมีสงสัยบ้างอะไรบ้างแขวนบ้างไม่แขวนบ้าง พอหลังๆแขวนไปแขวนมาเริ่มมีเรื่องไม่น่าเชื่อถึงเลือกให้เป็นพระคู่ชีวิตไงครับ เพราะผมศรัทธาพระองค์นี้ของผมมาก บรรยายคงไม่หมด

ใครที่ไม่มีและหาไม่ได้ก็ลองหาให้สุดแรงดูก่อน ถ้าไม่ได้จริงๆก็ปล่อยวาง และดูสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว สำหรับผม อีกองค์หนึ่งที่เด็ดมากๆ เหมาะสำหรับบูชาไว้บ้านคือพระแก้วมรกต ของหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล ครับ เชื่อไหมเรื่องที่ผมกังวลใจสองเรื่องใหญ่ สามารถคลี่คลายได้ในวันเดียว เมื่อผมอฐิฐานจิตขอพรจากท่าน คือเมื่อวานนี้ แต่ผมกะจะไม่เล่าใครใครฟังครับ ผมเชื่อว่าหลวงปู่ท่านช่วยผมครับ เงินสดลอยได้ โชคลาภไม่น่าเชื่อตั้งแต่ 7.00 น. จนถึงกลับบ้าน ตี1ครึ่ง ของเมื่อวาน ได้โลดแล่นไปถึงเมืองชล พัทยาเมื่อคืนนี้ ทำได้ยังไง? ได้ได้ยังไง? เรื่องเมื่อวานคิดไปก็เหมือนความฝันที่แสนสุข มันเกิดขึ้นได้ยังไงตามหลักเหตุผมคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ครับ แต่ก็เป็นไปแล้ว ปล่อยให้มันเป็นเรื่องดีๆมีความสุขมากๆ ที่เกิดขึ้นด้วยแรงอฐิษฐาน และ ความศักดิ์สิทธิ์ของพระแก้วมรกต และ หลวงปู่หมุน เก็บมันเอาไว้จนวันตายเถิดครับ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ ^_^

 

สวัสดียามค่ำครับ ญาติธรรมทุกๆท่าน

 

พี่หนุ่มครับ ช่วยแนะนำพระเนื้อดินเผาแหล่ม ๆ หน่อยครับว่ามีองค์ไหนบ้าง

 

พระพุทธรูปที่ผมต้องไปกราบให้ได้ในชีวิตนี้คือ พระพุทโธภาสชินราชจอมมุนี ที่วัดสารนาถธรรมราม อ.แกลง จ.ระยอง และ พระแก้วมรกต ที่วัดป่าหนองหล่ม จ.สระแก้ว ซึ่งถ้าวันไหนอีกกี่ 10หรือ20 ปีก็ตาม ถ้ามีโอกาสเหมาะๆ ก็อยากจะไปกราบให้ถึงที่ครับ

 

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
<!-- /tagline --><!-- subtitle -->
<!-- /subtitle --><!-- jumpto -->ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
<!-- /jumpto --><!-- bodytext --><TABLE class=toccolours id=WSerie_Buddhism style="BORDER-RIGHT: #060 1px solid; BORDER-TOP: #060 1px solid; FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 1em 1em; BORDER-LEFT: #060 1px solid; BORDER-BOTTOM: #060 1px solid; TEXT-ALIGN: center" cellSpacing=0 cellPadding=1 width=170><TBODY><TR><TD style="FONT-SIZE: 100%" colSpan=2>

</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 95%; COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #8a9e49" colSpan=2></TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%" colSpan=2>


</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 95%; COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #8a9e49" colSpan=2></TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%" colSpan=2></TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 95%; COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #8a9e49" colSpan=2></TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%" colSpan=2>

</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 95%; COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #8a9e49" colSpan=2></TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%" colSpan=2></TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 95%; COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #8a9e49" colSpan=2></TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%" colSpan=2></TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 95%; COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #8a9e49" colSpan=2></TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%" colSpan=2></TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 95%; COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #8a9e49" colSpan=2></TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%" colSpan=2>( เซน</TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 95%; COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #8a9e49" colSpan=2></TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%"></TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 95%; COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #8a9e49" colSpan=2></TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%"></TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 95%; COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #8a9e49" colSpan=2></TD></TR><TR><TD style="FONT-SIZE: 90%" colSpan=2></TD></TR></TBODY></TABLE>

เมื่อออกพรรษาแล้วพระสงฆ์ผู้อยู่จำครบพรรษาจะได้รับอานิสงส์พรรษาหลายอย่าง และพระสงฆ์บางส่วนจะถือโอกาสในช่วงออกพรรษา 9 เดือน ออกจาริกเพื่อปฏิบัติธรรม และโปรดพุทธศาสนิกชนตามสถานที่ต่าง ๆ ก่อนจะกลับเข้าจำพรรษาอีกครั้งในปีถัดไป


วันออกพรรษา หรือ วันปวารณาออกพรรษา เป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนาวันหนึ่งในประเทศไทย เนื่องจากเป็นวันสิ้นสุดระยะเวลาจำพรรษา 3 เดือนของพระสงฆ์เถรวาท โดยเป็นวันที่พระสงฆ์จะทำสังฆกรรมปวารณาออกพรรษาในวันนี้ วันออกพรรษาตามปกติ (ออกปุริมพรรษา<SUP id=fn_1_back>1</SUP>) จะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 (ประมาณเดือนตุลาคม) หลังวันเข้าพรรษา 3 เดือน ตามปฏิทินจันทรคติไทย
การออกพรรษานั้น ถือเป็นข้อปฏิบัติตามพระวินัยสำหรับพระสงฆ์โดยเฉพาะ เรียกว่า "ปวารณา"<SUP class=reference id=cite_ref-0>[1]</SUP> จัดเป็นญัตติกรรมวาจาสังฆกรรมประเภทหนึ่ง ที่ถูกกำหนดโดยพระวินัยบัญญัติให้โอกาสแก่พระสงฆ์ที่จำพรรษาอยู่ร่วมกันตลอดไตรมาสสามารถว่ากล่าวตักเตือนและชี้ข้อบกพร่องแก่กันและกันได้โดยเสมอภาค ด้วยจิตที่ปรารถนาดีซึ่งกันและกัน เพื่อสามารถให้พระสงฆ์ที่ถูกตักเตือนมีโอกาสรับรู้ข้อบกพร่องของตนและสามารถนำข้อบกพร่องไปแก้ไขปรับปรุงตัวให้ดียิ่งขึ้น
เมื่อถึงวันออกพรรษา พุทธศาสนิกชนถือเป็นโอกาสอันดีที่จะเข้าวัดเพื่อบำเพ็ญกุศลแก่พระสงฆ์ที่ตั้งใจจำพรรษาและตั้งใจปฏิบัติธรรมมาตลอดจนครบไตรมาสพรรษากาลในวันนี้ และวันถัดจากวันออกพรรษา 1 วัน (แรม 1 ค่ำ เดือน 11) พุทธศาสนิกชนในประเทศไทยยังนิยมไปทำบุญตักบาตรครั้งใหญ่ เรียกว่า ตักบาตรเทโว หรือ ตักบาตรเทโวโรหนะ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในพุทธประวัติที่กล่าวว่า ในวันถัดวันออกพรรษาหนึ่งวัน พระพุทธเจ้าได้เสด็จลงจากเทวโลกกลับจากการโปรดพระพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ในพรรษาที่ 7 เพื่อลงมายังเมืองสังกัสสนคร<SUP class=reference id=cite_ref-1>[2]</SUP>พร้อมกับทรงแสดงโลกวิวรณปาฏิหาริย์เปิดโลกทั้งสามด้วย<SUP class=reference id=cite_ref-2>[3]</SUP>
นอกจากนี้ ช่วงเวลาออกพรรษาตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำเดือน 11 ถึง วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ถือเป็นเวลากฐินกาลตามพระวินัยปิฎกเถรวาท เป็นช่วงเวลาที่พุทธศาสนิกชนชาวไทยจะเข้าร่วมบำเพ็ญกุศลเนื่องในงานกฐินประจำปีในวัดต่าง ๆ ด้วย โดยถือว่าเป็นงานบำเพ็ญกุศลที่ได้บุญกุศลมากงานหนึ่ง

อ้างอิง....วันออกพรรษา - วิกิพีเดีย


ขอตัวไปพักผ่อนก่อนค่ะ.....ขอบคุณพี่หนุ่มค่ะ....
และขอบคุณทุกท่านที่ได้นำเรื่องเล่า....ข้อมูลต่างๆ...บทคาถา..มาเผยแพร่ให้ข้อมูล
นำพระเครื่องสวยงาม....มากด้วยพุทธคุณมาให้ชม
และร่วมชมการจัดทำพวงมาลาของโรงพยาบาลหาดใหญ่

บุญรักษาพระคุ้มครอง
นอนหลับฝันดีค่ะ....

 

คำถามนี้ก็เคยถามพี่หนุ่มครับ
พี่หนุ่มแนะนำ ของคุณแม่บุญเรือน วัดอาวุธฯครับ

 

ขอให้มีความสุขมากๆในวันคล้ายวันเกิดครับ

 

ผมขอตัวพัักผ่อนก่อนครับ ญาติธรรมทุกๆท่าน

 

[FONT=&quot]เนื่องด้วยวันนี้ (23 ตุลาคม ) ของทุกๆ ปี เป็นวันพระปิยะมหาราช เลยอยากจะขอพูดถึงที่มาของคำว่า “ปิยะมหาราช“
[/FONT][FONT=&quot]เมื่อ 100 ปีที่แล้ว วันที่ 23 ตุลาคม 2453 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงประชวรเสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่เคารพรักของ[/FONT][FONT=&quot]ท[/FONT][FONT=&quot]วยราษฎร์ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอเนกประการทั้งในการปกครองบ้านเมือง และพระราชทานความร่มเย็นเป็นสุขแก่ชนทุกหมู่เหล่า ทวยราษฎร์ทั้งปวงจึงได้ถวายพระนามว่า “ พระปิยมหาราช “[/FONT][FONT=&quot] หนึ่งใน[/FONT][FONT=&quot]พระมหากรุณาธิคุณอเนกประการก็คือ การเลิกทาส
ประเทศไทยนั้นมีการใช้ทาสมาเป็นเวลานานเพื่อใช้ทำกิจการต่างๆ ในบ้านเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ที่สูงศักดิ์ พระองค์ทรงใช้ความวิริยะอุตสาหะ ที่จะทำให้สิ่งเหล่านี้หมดไป ด้วยทรงพระราชดำริกับเสนาบดีและข้าราชการเกี่ยวกับเรื่องทาส พระองค์ทรงคิดหาวิธีจะปลดปล่อยทาสให้ได้รับความเป็นไท ด้วยวิธีการละมุนละม่อม ทำตามลำดับขั้นตอน ในปี พุทธศักราช 2417 โปรดให้ตราพระราชบัญญัติ พิกัดเกษียณอายุของลูกทาส โดยกำหนดเอาไว้ว่าลูกทาสที่เกิดแต่ปีมะโรง พุทธศักราช 2411 อันเป็นปีแรกที่พระ[/FONT][FONT=&quot]องค์ทรงขึ้นครองราชย์ ก็ให้ใช้อัตราค่าตัวเสียใหม่ ตามที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัตินี้ พออายุครบ 8 ปี ก็ให้ตีค่าออกมาให้เต็มตัว จนกว่าจะครบ 20 ปีบริบูรณ์ ให้กลับเป็นไทแก่ตัว เมื่อก้าวพันเป็นอิสระแล้วห้ามกลับมาเป็นทาสอีก ทรงพิจารณาถึงสาเหตุที่ทำให้คนขายตัวเป็นทาส จึงประกาศยกเลิกบ่อนเบี้ย และขยายระบบการศึกษาให้เป็นที่แพร่หลายยิ่งขึ้น[/FONT][FONT=&quot]ตลอดรัชกาลได้ทรงพระราชกาล ได้ทรงตราพระราชบัญญัติลักษณะทาสหลายฉบับ ออกบังคับใช้ในมณฑลต่างๆ ให้ลูกทาสเป็นไท ประกาศประมวลกฎหมายลักษณะอาญากำหนดบทลงโทษ แก่ผู้ซื้อขายทาสให้มีความผิดเช่นเดียวกับโจรปล้นทรัพย์ ทรงกระทำเป็นแบบอย่างแก่บรรดาเจ้านาย และขุนนางในการบำเพ็ญกุศลด้วยการบริจาค พระราชทัรพย์ไถ่ถอนทาส พร้อมพระราชทานที่ทำกินเป็นผลให้ระบบทาส ที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาหลายร้อยปี ก็ได้ถูกยกเลิกไปจนหมดสิ้น ด้วยพระราชหฤทัยแน่วแน่ และทรงพระราชอุตสาหะ เป็นเวลาถึง 30 ปีก็ทรง ก็ทรงเลิกทาสสำเร็จในพุทธศักราช 2448 สมตามพระราชปณิธานที่ได้ทรงตั้งไว้ พระราชกรณียกิจสำคัญนี้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง สถานภาพของพลเมืองจากทาส มาเป็นสามัญชน มีอิสรภาพทางสังคมเท่าเทียมกัน[/FONT][FONT=&quot]
มีรูปภาพของส่วนตัวที่เกี่ยวกับ[/FONT][FONT=&quot]พระองค์[/FONT][FONT=&quot]มาฝากด้วย
เป็นธนบัตรที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ท่าน
ตลอดจนแสตมป์ครบรอบประสูตร 150 ปี
รวมทั้งเหรียญเงินที่ทำแบบแสตมป์ ที่ห้อยคอประจำ และเข็มกลัดติดเสื้อที่แปลงเป็นจี้ห้อยคอได้ และพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ท่านที่บูชา
[/FONT]