แดงเหลืองใครถูกที่สุดงั้นหรอ??? มีคำตอบ ดีๆครับ

แผนภูมิเปรียบเสมือนเรื่องราวการกระทำต่างๆที่เรารับฟังมา
คนเรารับสิ่งที่เห็นมา 100% ทั้งๆๆที่มันอาจไม่ใช้สิ่งที่สมควร 100%มันอาจเป็นเพียงห้าสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการกระทำเหล่านั้นมันก็เกิดมาจาก ตัณหาอันเป็นสาเหตหนึ่งทั้งนั้นเราจะไปสนใจมันทำไมมันเป็นเรื่องธรรมดาของ คนที่มีตัณหาเป็นสาเหตุ ทำให้ทำสิ่งที่ควรบ้างไม่ควรบ้างคละเคล้ากันไปตามแต่ความอยากชักจูง คนที่เป็นวงกลม100% อย่างเช่นพระพุทธเจ้าเป็นคนไม่แบ่งแยกคนดีคนเลวแบบปัจจุบันท่านรู้ว่าทุกคนที่ดีเลวล้วนมีปัญหามีเหตผลที่เค้าต้องทำเลวหรือดีแบบนั้นถ้าเลวพระพุทธเจ้าท่านก็แก้ไขปัญหาให้ได้อย่างตรงจุด เสมอ

 

*** ปรารถนาหลุดพ้น ****

เราไม่เอาดีไม่เอาชั่ว
เราถือสัจจะไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

จขกท อย่ามั่วครับ เอาสิ่งนับถือสูงสุดทางพุทธศาสนามาโยงกับการเมืองแบบนี้ได้อย่างไร
ทำไม่ถูก ถ้าท่านไม่นับถือศาสนาพุทธท่าน ก็ไม่ควรนำศาสดาของเรามาเล่นสนุกแบบนี้

 

ตัณหาพาไห้หลง ผู้มาใหม่ยินดีกับความรู้ ประสบการณ์ที่ได้รับ

จะเป็นผู้รับฟังที่ดี จะไม่ไปทางทิศไหน ซ้าย หรือขวา จะอยู่ตรงกลาง

 

คำตอบคือ
ถูกหลอกทั้งคู่ครับ

 

อย่าไปมีส่วนร่วมใดๆ กับกิจกรรมใดๆที่ทำให้คนในประเทศแตกแยกกัน

 

เพราะนั่นหมายความว่า เราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประเทศเราแตกแยก บทเรียนมีอยู่แล้ว...

 

จะผิดหรือถูกไม่รู้ รู้แต่ว่าทำให้ประเทศชาติ ชิบหาย ทั้งคู่

 

*** ชนวนศึกประลัยกัลป์ ****

ชนวนศึกประลัยกัลป์ ... ถูกจุดแล้ว
โดยชายผู้หนึ่ง.... ที่ไม่พอใจ อดีตนายกผู้หนึ่ง
จึงเป็นจุดเริ่มต้น ที่จะทำให้เกิดศึกประลัยกัลป์ ต่อไป
เป็นการดึงเอากรรมที่สั่งสมมาทั้งหมด ให้มาถึงพร้อมในเวลาเดียวกัน
เสมือน ดาวเรียงตัวกัน ๙ ดวง ทำมุมตั้งฉากลงมา
ปัญหา ๙ ข้อ จึงประดั่งเข้ามาพร้อมกัน จึงไม่มีผู้นำคนใดสามารถแก้ไขได้แล้ว
ที่เหลือต่อไป เป็นโอกาสรอดพ้นทุกข์เฉพาะตัว เป็นเรื่องของแต่ละคน
เป็นเรื่องของสัจจะ ที่แต่ละคนทำได้

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ท่านเข้าใจถูกแล้ว

 

กุญแจไขปริศนา;

ท่านทั้งสอง ได้โปรดตอบไห้ผู้มีความรู้น้อย ได้เข้าใจสักนิดว่า

ใครกันที่เป็นคนหลอก ตอบเป็นนัยๆก็ได้ครับผม

ผู้มาใหม่อยากรู้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ สักนิดก็ยังดีครับ จะได้ประเทืองปัญญา

อันโง่เขลาของผู้ต่ำต้อย

 

เราอาจสื่อให้ทุกคนเข้าใจที่เราคิดไม่ได้เราไม่ได้มีเจตนาเอาศาสตนามาลบลู่อะไรทั้งนั้นทุกสิ่งเรามองเป็นธรรมมะหมด เรืองนี้เราแค่จะสื่อว่า คนเรา ทุกคนมีตัณหาพาไป ความอยากเป็นเหตุให้เกิดเรื่องถูกผิดต่างๆๆนาๆ เราไม่ควรฝักฝ่ายใด ถึงแม่บ่างฝ่ายจะถูกมากกว่าแต่ของของเขาก่อเกิดจากตัณหาอยู่ดี บางฝ่ายเลวกว่าก่อเกิดจากตัณหาอยู่ดีใครจาเลวมากเลวน้อย หากมีตัวตั้งเป็นตัณหาเดว ผลที่ตามมามันก่อลามไปเรื่อยๆเราต้องตัดที่ต้นเหตที่ทำให้เรากระทำอันไม่ชอบ ...

 

ไม่ว่าฝ่ายไหนสีไหนหากข้อเสนอของท่านเหล่านั้น เป็นสิ่งที่ดีสิ่งอันเป็นประโยชน์ต่อคนทั้งชาติ เช่นการตรวจสอบนักการเมือง โดยเฉพาะการคอร์รัปชั่น เป็นมอดที่กันกินประเทศไทยมานาน , การกระจายรายได้ , รัฐสวัสดิการ อันนี้เห็นด้วยค่ะ ไม่ใช่ตัวเองตรวจสอบคนอื่น แต่คนอื่นตรวจสอบตัวเองไม่ได้ พอใครจะไปตรวจพวกตัวเองก็โวยวายหาว่าเขาอิจฉาในความรวยของตนทั้งที่ความรวยช่วงหลังๆไต่อันดับพุ่งพรวดขึ้นไปแบบคนทั้งโลกสงสัย เพราะไม่ว่าคุณจะเก่งยังไงธุรกิจใหญ่โตขนาดไหน การทำกำไรในระยะเวลาแค่นั้นมันไม่ได้มากขนาดนั้ ในวงธุรกิจเขารู้กันทั้งโลก
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ แต่เรามีปัญหาที่ทรัพยากรบุคคล นักการเมืองของบ้านเรามุ่งแต่ผลประโยชน์ตัวเองกันทั้งนั้น ไม่เหมือนหลายประเทศในเมืองนอก คนไทยมีค่านิยมชอบเฮฮาบันเทิงไร้สาระ หนังละครตบกันแย่งผู้ชายแบบในเมืองไทย คุณจะไม่ได้เห็นในเมืองนอกในประเทศที่เจริญแล้ว ที่สำคัญคนไทยเบื่อการเมือง ทั้งที่การเมืองเป็นเรื่องที่ผลต่อชีวิตคุณโดยตรงอย่างเลี่ยงไม่ได้ หากคุณยังอยู่อาศัยในประเทศนั้น พลเมืองในประเทศที่เจริญแล้วสนใจการเมืองกัน ใครทำไม่ดีทำผิดต้องเอามาพูดกัน แต่เมืองไทยพูดไม่ได้ โดนอำนาจการเมืองอำนาจเงินปิดปาก คงอีกหลายสิบปีกว่าประเทศไทยเราจะพัฒนาไปกว่านี้ อย่างที่ในหลวงตรัสเน้นว่า "ต้องพัฒนาคุณภาพประชากร"

 

.................................... ความรู้แท้ๆ ดราม่า อีกจนได้ รู้ใจเจ้าของกระทู้อีกว่า
เชียร์เรื่องการเมือง...เอาเข้าไป เราเข้าใจคุณ เจ้าของกระทู้ โลก มันมีหลายด้าน
แต่ละคนย่อมมองโลก ที่ถูกต้อง ตามด้านของตนเอง...ธรรมชาติ...ธรรมชาติ มองให้เป็น
ธรรมะก็มองได้ เพราะมันเกิดขึ้นจริง มองให้เป็นการเมืองก็ได้....เพราะมันก็เกิดขึ้นจริง
แต่ลอง ปรับมุมมอง หาสิ่งที่มีสาระมาปรับใช้กับตัวเอง ก็จะดีกว่า คนเราถ้ามันจะมีเรื่อง
แค่ เกาหัวก็ยังมีเรื่อง....มันติดแค่ทัศนะคติ ของคนเท่านั้นเอง บางทีก็แค่เข้าใจผิด
แบบ น้ำผึ้งหยดเดียว ....

 

ใครไงผมไม่รู้ ผมรักในหลวง
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

 

คิดเหมือนอิฉันเลยค่ะ! อยากรู้ว่าใครกันที่เป็นคนหลอก เพราะตะก่อนก็หลงโง่เข้าร่วมขบวนการกับเค้ามาแล้ว คิดว่าสิ่งที่ทำคือสิ่งที่ถูกต้องเป็นความดี ทำเพื่อชาติ บ้านเมือง โง่จริงๆ แต่เมื่อถึงเวลาทุกอย่างก็รู้ได้ด้วยตัวเอง มันก็เป็นเช่นนั้นเอง

 

วันนึงอยากจะรดน้ำต้นไม้ ก็เดินไปตักน้ำแล้วก็มารดต้นไม้ เพียงเท่านี้เอง ..

ขอจงอย่าไปอยากรดน้ำต้นไม้เพราะอยากจะให้คนอื่นรู้คนอื่นเห็นโฟกัสมาที่ตัวเองเลย
ไม่ต้องไป ตะโกนบอกใครว่า "ต่อไปเน๊..ข้าพเจ้าจะรดน้ำต้นไม๊แล้วครับพี่น้อง"
อย่าไปทำหรืออย่าไปบ้าจี้กับเรื่องธรรมดาๆกลายเป็นเรื่องสำคัญกลายเป็นเรื่องใหญ่ไป
ข้อความนี้มีนัยว่า การทำดีไม่จำเป็นต้องไปอวดโอ้ใครๆ


เรื่องต่อมา
การหาความจริง ซึ่งข้อนี้พูดมาหลายตลบแล้ว คือการขุดเจาะหาความจริงจนกลายเป็นสัจจพาณิชย์ไปแล้ว คือหมายความว่าอะไรก็ได้ที่มันเป็นความจริง ใครจะแอบแคะขี้มูก หรือตดแล้วยิ้ม นักเมืองยืนบีบสิวในห้องพัก รมต.นั่งหันหลังแคะขี้ฟัน ฯล ต่างๆเหล่านี้อะไรก็ได้ที่เป็นความจริงก็รวมๆมา แล้วก็ขึ้นเวที "พี่น้อง!! กระปุ๊กนี้คือความจริงทั้งหมดที่ได้รวบรวมเก็บไว้" ซึ่งจริงๆแล้วความจริงบางเรื่องมันไม่ได้เกี่ยวกับความจริงที่จะนำเสนอเลย คนที่ขาดสติปัญญาก็หลงคิดผิดไปตามเขาก็ขอให้ระวังกันด้วย


อีกเรื่อง
การที่แต่ละฝ่ายจะหยิบยกอะไรขึ้นมาก็ตาม ที่มุมมองในแง่ที่ว่าต่อไปนี้..

การเกทับเพื่ออ้างสรรพคุณของตน
หมายความ เศรษฐกิจดีขึ้น หรือ เลว ลงก็ตามประชาชนส่วนใหญ่จะมองไปที่การหาที่มาที่ไปของกรณีต่างๆมากกว่าการค้นหาสาเหตุของปัจจัยหลักๆ เช่น เศรษฐกิจดีขึ้น ก็ว่านายคนนี้แหละๆๆ ที่ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นตางกันข้ามเมื่อมันแย่ลงก็นายคนนี้แหละๆๆ แทนที่จะมองหาสาเหตุของปัจจัยที่มีส่วนในการเปลี่ยนแปลงใดๆ ต่อมาเมื่อเศรษฐกิจแย่ลงก็จะออกมาบอกว่านี่เห็นไหม ของเก่าดีกว่านี้เยอะ ของใหม่นี่แหละมันทำให้แย่ ฉนั้นพวกเราต้องเอาของเก่า ใช่ไม๊พี่น้อง ?? ...เย้!! ซึ่งจริงๆแล้วกรณีเช่นมันมีหลายปัจจัยที่มีเกี่ยวกับช่วงเวลา การฟื้นตัว ของระบบอยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวเลยว่าเป็นเพราะใครทำให้เกิดหรือทำให้เสียโอกาสไป ทั้งนี้ทั้งนั้นนักบริหารบ้านเมืองเขาก็ส่วนในการกำหนดนโยบายอยู่พอสมควร
คนที่ขาดสติปัญญาก็ไม่สามารถแยกแยะความเกี่ยวพันธ์ของปัจจัยทั้งหมดได้และอาจจะตกเป็นเครื่องมือในโอกาสต่อไป

เรื่องสุดท้ายเกี่ยวกับ สัจจพาณิชย์
จะเห็นกันได้ว่ามีธุรกิจสื่อต่างๆทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ ต่างระดมกำลังทุ่มเทไปที่การจำหน่ายสัจจข้อนี้ภายใต้ความอยากจะได้มาและความได้เปรียบคู่แข่ง รายกายทีวีเคเบิ้ลบางช่อง พิธีกร พูดอย่างเมามันส์ทั้งด่าทั้งแช่ง ต่อไปไม่แน่อาจจะมีการยกตีนขึ้นมาเค้าเตอร์ก็เป็นได้ยิ่งโดยเฉพาะราย เจาะข่าวริม...อะไรซักอย่าง
อีกช่องก็กระหน่ำก่นเอาแต่ปมด้อยของสมาชิกของตนมาปลุกกระแสเป็นความโกรธแค้นระดมคนเข้าไป อีกพวกก็เอาแต่จะจ้องจับผิดทั้งๆที่ตนเองก็ทำผิดเหมือนกัน

แม้แต่ในที่นี้ที่ตอบๆไปข้างบนบางคนก็กล่าวอ้างไปแต่ในใจก็เชียร์พวกตนอยู่ดีนั่นแหละ ทั้งเหลืองทั้งแดงถ้าไม่ทำให้ประเทศชาติพัฒนาขึ้นก็จงอย่าทำให้มันชิบหายลงเพราะพวกมึงเลย ข้าพเจ้าขอสาบแช่งพวกที่คิดคดต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทุกหมู่เหล่าของจงมีอันเป็นไปด้วยพลังจิตหนึ่งดวงนี้...สาธุ

 

- - สีต้องห้าม .......ในวงสนทนา คนข้างบ้าน คุยกันเรื่อง รถ สีของรถ พอคุยไปคุยมา
อีกคนบอกว่าสีแดง....สวย กว่า....อีกไม่เกิน 5 นาที ก็มีการโต้เถียงเรื่องการเมืองเกิดขึ้น
ปัจจุบัน ย้ายห้องเป็นที่เรียบร้อย เพราะโดนขู่ฆ่า......ต้นเหตุ.....สีรถ ฟังแล้วคิดถึงสมัย
เรียนช่าง รุ่นพี่ บอก ว่า ไอ้ชอป สีนี้ สถาบันนี้ มันเป็นอริ จัดการเก็บซะ เหมือนเป็นคำสาป
คนเรามักมีปัญหากับ สี ...... จริงๆ

 

ก็แบบว่าไม่ขอตอบออกมาตรงๆละกัน ถ้าผมตอบตรงๆก็จะต้องมีคนไม่พอใจผมอย่างแน่นอนที่สุด
เรื่องหลักๆก็คือการจะให้คนไทยทุกคนมีกินมีใช้หรือประสบความสำเร็จในชีวิตหรือมีชีวิตที่เจริญรุ่งเรืองในทุกๆคนในประเทศนั้นมันไม่ได้อยู่ฝ่ายไหนเป็นฝ่ายถูกหรอกนะแล้วก็ไม่ได้อยู่ที่ใครจัดตั้งรัฐบาลด้วย มันอยู่ที่ตัวคุณเองทั้งสิ้น แต่จริงๆการจะมีรัฐบาลที่ดีก็เป็นไปได้แต่ว่าต้องเข้าใจบางอย่างซะก่อน เอาเป็นว่าไม่ขอพูดมากละกันนะ
สรุปคือคุณจะเชื่อผมหรือไม่เชื่อก็ได้ แต่มองให้ถูกเถอะว่าอะไรถูก สิ่งไหนถูกก็คือถูก สิ่งไหนไม่ถูกก็คือไม่ถูก ต่อให้มีคนบอกว่าคุณถูกเป็นหมื่นเป็นแสน แต่ความจริงแล้วคุณเป็นฝ่ายผิดแต่ไม่ยอมรับความจริงก็เท่านั้น อย่างงี้เป็นต้น
สรุปอีกคือผมขอให้มองทุกอย่างๆเป็นกลางและ ตระหนักในความจริง เข้าไว้

 

มันมีสองแนวคิด...ขึ้นอยู่กับว่าเหตุการณ์ในเวลานี้นั้น...ท่านจะพิจารณาไปในทางไหน...เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งที่มองว่าไม่ดีไม่ถูกในเวลานี้ อาจเป็นสิ่งที่ดีแล้ว ถูกต้องแล้วในอนาคต...ดังเช่นการขยายอาณาจักรในโบราณ คนในยุคนั้นอาจบอกว่าเป็นการทำที่ไม่ถูกต้อง แต่มันจะถูกต้องกับลูกหลานที่ได้อยู่ต่อไปในอนาคต...หรืออีกมุมมองหนึ่ง ความถูกต้องย่อมไม่มีวันเปลี่ยนแปลง...ดีในอดีตก็ต้องดีในปัจจุบัน เลวในอดีตก็ต้องเลวในปัจจุบัน...ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับมุมมอง...ผู้ใช้ความโหดเหี้ยมปกครอง อาจเพื่อปกป้องบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า...หรืออาจจะทำเพื่อตนเอง...ไม่มีอะไรแน่ชัดจัดเจน เพราะเราทุกคนล้วนตกอยู่ใน...ความหลอกลวง...ตราบเท่าที่ยังอยู่ที่เดิม จะไม่มีทางมองเห็นมุมที่สูงกว่า...แล้วไยจะสงสัยไปไหนกันเล่า....