สอบถามข้อสงสัยเรื่องนิพพาน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ต่อ007, 18 กันยายน 2010.

  1. ต่อ007

    ต่อ007 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +31
    กราบเรียนถามท่านผู้รู้นะครับ ว่าการบรรลุนิพพานของปุถุชนธรรมดานั้นเราต้องบรรลุเป็นขั้นตอนเหมือนพระสงฆ์เริ่มจากบรรลุ โสดาบัน และเป็นพระสกิทาคามี จนถึงอรหันต์ไหมครับ หรือว่าการปฏิบัติมโนมยิทธิเป็นทางลัดไปสู่นิพพานเลยโดยไม่ต้องบรรลุโสดาบันครับ มันแตกต่างกันอย่างไร และถ้าเริ่มฝึกเราจำเป็นต้องมีของเดิมจากชาติก่อนๆๆไหมครับ
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ถ้าเป็นมโน...นั้น...ของเดิมจากอดีตทั้งหมดครับ.....ถ้าไม่มี..จะไม่มีอุปนิสัยไปด้านนี้เลย....

    เรื่องนิพพาน หลวงพ่อท่านว่าไง....ก็ตามนั้นหละครับ.....
     
  3. อวตาร.

    อวตาร. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +633
    ต้องเป็นขั้นตอน......
    ส่วนมโนมยิทธิไม่ใช่ว่าเป็นทางลัดโดยไม่ต้องผ่านการบรรลุโสดาบันฯ แต่เป็นกรรมฐาน สายเตวิชโช เมื่อได้มโนมยิทธิแล้วจะสามารถบรรลุโสดาบันได้ไม่ยาก หลังจากนั้นก็ต้องใช้วิปัสสนาญาณต่อถึงจะเข้านิพพานได้จริงๆ
     
  4. krit59

    krit59 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    219
    ค่าพลัง:
    +346
    ตอบไม่ได้ครับ ต้องเข้าถึงกอน
     
  5. งูขาว

    งูขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2008
    โพสต์:
    945
    ค่าพลัง:
    +1,824
    สงสัยเท่าไหร่ไม่เจอ "หยุด" เมื่อไหร่ ก็เจอเอง
     
  6. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    หัวใจของคำถามของคุณ หากคือ ตัวนี้ จุดนี้ ผมก็อยากอภิปรายอะไรนิดหน่อย

    ธรรมดา สิ่งที่เรียก โลกียฌาณ หรือ โลกียปัญญา นั้น ปฏิบัติเท่าไหร่ ก็ลืมหมด

    หลายคนอาจจะบอกว่า ฌาณ(โลกียฯ) นั้นหากทำให้มากๆ ให้มี วสี แล้วเป็นอัน
    ว่าจะจดจำได้ ไม่ลืมเลือน อันนี้ ผมก็ขอ ทึกทักว่า ไม่จริง และยืนยันตามเดิม
    ว่า ฌาณ(โลกียฯ)นั้นได้เท่าไหร่ เข้มแค่ไหน ก็ลืมหมด

    เพราะอะไร เพราะ ฌาณ เหล่านั้น หากไม่มี ศีล เป็นเครื่องประกันแล้ว ย่อมปราศ
    จากสิ่งที่จะช่วยให้ ระลึกได้

    ทำไม ศีล จึงช่วยให้ ระลึกได้ อันนี้ ก็ต้องชี้ให้เห็นอ้อมๆว่า หากไม่มี ศีล คนที่
    มี ฌาณนั้นๆ ก็ถือว่า เป็นเรื่องของ ไสยศาสตร์ และยิ่งไม่มีศีลด้วยแล้ว แปลว่า
    อะไร แปลว่า เขาผู้นั้นย่อมตกนรกมาเป็นเวลายาวนาน

    สมมติ ชาติที่ได้ ฌาณโลกีย์เหาะเหินเดินอากาศได้ แต่ผิดศีล (เช่น พระเจ้าจรรกพรรดิ
    ในชาดกบางเรื่อง เที่ยวเหาะไปหักทำลายราชวังของผู้อื่น) สุดท้ายแล้วจะ ได้รับ
    กรรมคือ ตกนรก ที้ ชาติทีได้ฌาณนั้นมันชาติเดียว แต่ชาตที่ตกนรกนี่เป็นโกฏิ
    ดังนั้น การตกนรกมายาวนานจะทำให้ลืมฌาณ ของเก่า ที่เคยทำได้ไป ไม่มีทางเหลือ

    จากที่กล่าวมานั้น ผมก็ขอสรุปว่า หากสนใจที่จะให้มีของเก่า หรือ ให้ของเก่าปรากฏ
    อย่างไรเสีย ควรมี ศีล เข้ามาประกอบไว้แต่แรก คือ นอกจากจะเป็นเครื่องประกันสิ่ง
    ที่พึ่งทำขึ้นใหม่ ย่อมทำให้ สิ่งที่เป็นของเก่าปรากฏได้ง่ายด้วย

    เพราะ ศีล นั้นจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราประกอบตนอยู่ภายใต้ความว่าง (สุญญาคาร) และ
    บุคคลที่ประกอบสุญญาคารไว้มากๆ ไว้เนืองๆ ย่อม "พึงหวัง"

    พึงหวังอะไรได้บ้าง มาดูพระสูตรประกอบกันนิดหน่อยเนาะ

    ทำไมผมเน้นคำว่า "พึงหวัง" อันนี้ ก็เพื่อขมวดมาที่คำว่า มโนยิทธิ สำเร็จด้วยใจ
    ( หวังอะไรได้บ้าง ก็ แหม นะ ย้อนกลับไปอดทนอ่านดูสักหน่อยก็ได้ :D )

    ทำไมผมเน้นคำว่า "สุญญาคาร" อันนี้ ก็เพื่อขมวดปมมาที่คำว่า "สุดท้ายกูไม่เอาอะไร
    ทั้งนั้นโว้ย (อันนี้ไม่รู้จำคำครูผิดหรือเปล่านะ เคยฟังๆมาแบบนี้) "
     
  7. ต่อ007

    ต่อ007 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +31
    ขอบพระคุณที่ช่วยให้คำแนะนำครับ

    ขอบคุณมากครับ ก็คือถ้าไม่มีของเดิมเรื่องมโนมยิทธิ ถ้าจะเริ่มตั้งชาตินี้ไปจะทันไหมครับ
     
  8. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ถ้าคุณมีใจที่จะปฏิบัติ...คุณไม่ต้องไปถามมากให้มากเรื่อง.....ไปเลยครับ....ไปปฏิบัติเลย.....ว่ามันจะทำได้หรือไม่ได้....ให้รู้เห็นกัน.....

    ไม่เข้าถ้ำเสือมันจะได้ลูกเสือเหรอ.....มัวกล้าๆกลัวๆอยู่นั่น...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2010
  9. รู้รู้ไป

    รู้รู้ไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    951
    ค่าพลัง:
    +3,165
    ถ้าเริ่มมีทัน ไม่เริ่มไม่มีทัน
    เริ่มดีกว่าไม่มีเริ่มเลย ถ้าจะเอาทัน
    สาธุครับ
     
  10. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    การไปนิพพาน

    ถึงคุณต่อ ตริมิตร การไปนิพพาน หรือบรรลุธรรมนับตั้งแต่ขั้นพระโสดาบันขึ้นไปเลย อย่างหนึ่งที่ผมอยากจะแนะนำก็คือ การดำริออกจากกาม เริ่มลงมือลด ละ เลิก และเอาออกให้หมด เอาออกให้หมดหมายความว่าไม่ดำริถึงเลยและพ้นจากการเสพกามเลย นี้แหละคือทางนิพพาน ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าเคยตรัสสอนพระภิกษุเกี่ยวกับสตรีที่เป็นข้าศึกของพรหมจรรย์ว่า อย่าดู อย่าแล อย่าเห็นเป็นการดี ในโลกยุคปัจจุบัน คุณต่อเองก็ต้องละให้ได้ทั้งหญิงทั้งชาย สัตว์ และสิ่งของ เป็นต้น พยายามหักห้ามใจ เลิกเสพเป็นลำดับลำดาไป คือมีดำริออกจากกาม.....
     
  11. อวตาร.

    อวตาร. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +633
    เริ่มชาตินี้ก็ทันอีกแสนชาติข้างหน้าเป็นอย่างน้อย

    ป.ล.แล้วเราๆจะรู้ได้ยังไงว่าเราๆทำมากี่ชาติแล้ว คุณ....อาจจะทำมาเกินแสนชาติแล้วก็ได้ใครจะรู้
     
  12. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    อดีตผ่านไปแล้วแม้วินาทีเดียว เช่น หลับในที่ความเร็ว120km/hr หลับใน1 วินาที
    เป็นระยะทาง 120*1000ม./3600 วินาที = 33.33เมตร ลงข้างทางไปแล้ว

    อดีตแก้ไขอะไรไม่ได้ เราต้องอยู่กับปัจจุบันให้ดีที่สุด จะเป็นเหตุให้อนาคตในวันหน้าไปเอง
    "หนทางหมื่นลี้ก็เริ่มจากก้าวแรกมิใช่หรือ"

    เริ่มจากนั่งสมาธิว่างจากภาระหน้าที่แล้วนั่งเลย
     
  13. ฮุโต๋

    ฮุโต๋ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    419
    ค่าพลัง:
    +44,568
    การกลับคืนสู่พระนิพพาน ก็มีเป็นขั้นเป็นตอนเหมือนกัน ไม่แยกว่า เป็นพระ นักบวช หรือปุถุชน ก็คือ การปฏิบัติตามคำสั่งคำสอนของพระพุทธเจ้าเช่นเดียวกัน ศีล สมาธิ ปัญญา และมรรคมีองค์แปด
    เจริญในธรรม
     
  14. เป็ดเซ็ง

    เป็ดเซ็ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +858
    คุณ tor trimit

    กราบเรียนถามท่านผู้รู้นะครับ ว่าการบรรลุนิพพาน ของปุถุชนธรรมดานั้นเราต้องบรรลุ เป็นขั้นตอนเหมือน พระสงฆ์เริ่มจากบรรลุ โสดาบัน และเป็นพระสกิทาคามี จนถึงอรหันต์ไหมครับ

    ถ้าอ่านในพระสูตร และเชื่อพระธรรมคำสั่งสอน .. จะรู้ว่า ไม่จำเป็น .. เพราะบางท่านแค่ ฟังธรรม ก็บรรลุพระอรหันต์ เลยก็มี

    หรือว่าการปฏิบัติมโนมยิทธิเป็นทางลัดไปสู่นิพพานเลยโดยไม่ต้องบรรลุโสดาบันครับ มันแตกต่างกันอย่างไร

    ผู้ที่จะไปนิพพานได้ ต้องเป็นพระอรหันต์ อย่างเดียว ( หมายถึงละขันธ์ ๕ แล้ว ) และการปฏิบัติเพื่อเป็น พระอรหันต์ ไม่ว่าจะเป็นวิธีใดก็ตาม ก็ต้องละสังโยชน์ ทั้ง ๑๐ ให้ได้ โดยมีมรรค ๘ เป็นเครื่องมือ ( ตามคำสอนนะ )

    และถ้าเริ่มฝึกเราจำเป็นต้องมีของเดิมจากชาติก่อนๆๆไหมครับ

    ไม่จำเป็น ครับ .. ถ้าสิ่งใด มนุษย์ทำไม่ได้ พระพุทธเจ้าไม่สอน
    ถ้าเราคิดจะปฏิบัติ หรือมีใจ ในการปฏิบัติ โดยไม่มีใครบังคับ ก็ได้ชื่อว่า สร้างสมมาดีแล้ว ..
     
  15. อวตาร.

    อวตาร. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +633
    พระอัครสาวก ต้องบำเพ็ญบารมี 1 อสงไขย
    พระเอตทัคคะ ต้องบำเพ็ญบารมี 100000 กัปป์
    ส่วนคนทั่วๆไปคงไม่ใช้เวลาแค่ ชาติเดียวเป็นแน่แท้
     

แชร์หน้านี้

Loading...