ประสบการณ์ ธรรมะ พระเครื่อง หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา

แล้วคุณเอง รู้หรือมั่นใจได้อย่างไรคะว่าต่าง หลักฐาน หรือสิ่งที่อ้างอิงน่าเชื่อถือได้ล่ะคะ

เราเองศึกษาเรื่องการปฎิบัติกับอาจารย์ที่ศิษย์หลวงปู่ที่ทุกคนยอมรับ และยังเคยสนทนากับศิษย์หลวงปู่ตอนร่วมกิจกรรมหลายครั้ง บางท่าน 60-70 ปี เเละทันหลวงปู่เเน่นอน ทุกท่านยังบอกเลยว่าอย่าไปหลงกับวัตถุที่มีการเเต่งเเต้มราคา หลวงปู่เวลาอธิษฐานจิตรุ่นไหนๆ จะอธิษฐานจิตให้กับรุ่นก่อนๆ ทุกองค์ไม่ว่าอยู่ที่ไหนด้วย คำอธิษฐานจิตเเละความตั้งใจของท่านเราเชื่อว่าถึงได้เเน่นอน ท่านเป็นพระไม่โกหกแน่ เรื่องนี้มีในหนังสือตามรอยธรรม ฯ ราคา 300 บาท และพรหมปัญโญฯ ราคา 1500 บาท ซึ่งเป็นการถ่ายทอดจากศิษย์ใกล้ชิดที่ได้รับทราบมาเหมือนๆ กัน

เราถึงอยากทราบว่าคำที่คุณกล่าวอ้าง ว่าไม่เหมือน ไม่ว่ามากหรือน้อย ซึ่งขัดกับที่ศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อมากมายรับทราบ เอาข้อเท็จจริงนี้มาจากไหน

ถ้าสิ่งที่คุณพูด เกิดจากความตั้งใจที่จะเผยเเพร่ความเชื่อส่วนตัว ซึ่งเป็นการก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเเละบิดเบือนคำของหลวงปู่ในหมู่ศิษย์เเละผู้ศรัทธา ขอให้กรรมนี้จงสนองคุณโดยเร็วเป็นร้อยพันเท่า ทางใดที่จะนำไปสู่มรรคผลขอให้กรรมแห่งการกระทำนี้ เบียดบังในทุกภพชาติไป

ด้วยจิตคาราวะหลวงปู่อย่างที่สุด

 

เราต้้องการสิ่งที่ยืนยันได้ กับคำพูดของคุณค่ะ ต้องการหลักฐานอ้างอิงคำว่า "แตกต่าง" หลักฐานที่ว่าจิตของผู้ถูกฝึก จิตของผู้ทรงศีล แม้ทำการอธิฐานกี่ครั้งๆ จะไม่สามารถทำได้เหมือนตามประสงค์ ขึ้นอยู่กับ "อารมภ์ " ทั้งที่เรากำลังกล่าวถึง " หลวงปู่ดู่ " ซึ่งบรรดาศิษย์ ล้วนมั่นใจว่าท่านประเสิรฐเพียงใด

ไม่ใช่ตอบกำปั้นทุบดินว่า " เป็นเพียงตรรกกะ = ความคิด,ตรึกตรอง " ในเมื่อเราไม่เห็นคุณใช้คำพูดตอนเเสดงความคิดเห็นเลยในทำนองที่ว่า อาจจะ น่าจะ ผมว่า ฯ คุณย้ำชัดเจนว่า ผมขอบอกว่าไม่ใช่ทั้งหมดนะครับ

คุณรู้เหรอว่าในแต่ละครั้งอารมณ์จิตของหลวงปู่ท่านต้องการอะไร แล้วท่านอธิษฐานพระเป็นร้อยๆครั้งจะเหมือนกันหมดไหม

คุณเสียอีกที่ต้องย้อนถามตัวเองด้วยคำนี้ ในเมื่อหลวงพ่อเปรยกับคนใกล้ชิดว่าเหมือนกันหมด เพราะทุกครั้งที่อธิฐานจิตรุ่นใดๆ หลวงพ่อจะอธิฐานถึงทุกองค์ที่ท่านสร้างหรือเคยเมตตาให้ด้วย นี่คือสิ่งที่เราอ้างอิงมาโต้เเย้งว่าเหมือน

ส่วนคุณว่าต่าง แม้เพีียงเล็กน้อย นั่นต่างหากที่เราอยากได้หลักฐานยืนยันความน่าเชื่อถือ จะเป็นบุคคล เอกสาร หรืออะไรก็เเล้วเเต่ ที่ไม่ใช่ดริฟท์เอาว่า "ตรรกกะ"

แล้วเราบอกตอนไหนคะ ว่าคุณเชียร์พระขาย ? เราต้องการหลักฐานตรงนี้เป็นเรื่องที่สองค่ะ

เรื่องที่เราพูดว่า " ถ้าสิ่งที่คุณพูด เกิดจากความตั้งใจที่จะเผยเเพร่ความเชื่อส่วนตัว ซึ่งเป็นการก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเเละบิดเบือนคำของหลวงปู่ในหมู่ศิษย์ เเละผู้ศรัทธา ขอให้กรรมนี้จงสนองคุณโดยเร็วเป็นร้อยพันเท่า ทางใดที่จะนำไปสู่มรรคผลขอให้กรรมแห่งการกระทำนี้ เบียดบังในทุกภพชาติไป " ลองอ่านให้ดีนะคะ ถ้าสิ่งที่คุณพูดไม่ใช่ความเชื่อส่วนตัว ช่วยเอาหลักฐานคำพูดมาเเสดงด้วยค่ะ เราไม่รู้ว่าคุณเจตนาอะไร เเต่ตัวหนังสือของคุณทำให้คนอ่านเข้าใจตามคุณหลายท่านที่ตอบ ซึ่งนั่น ผิดต่างจากคำพูดเเละหลักฐานทางบุคลที่มีปรากฎ

อ่านเเบบตั้งใจ มีสติค่ะ เรารู้สึกได้เลยว่าตอนนี้คุณไม่มีสติ ถ้าคุณโกรธ ให้รู้ว่าตัวโกรธ ความโกรธจะบรรเทาลง รู้เท่าทันจิตซิคะ การเเสดงออกทางอารมภ์ของคุณไม่เหมือนศิษย์ที่ได้รับการฝึกเลย

 

ว่าจะแวะมาอ่านเฉยๆนะครับ ^ ^ แต่อ่านข้อความแล้วตอนแรกเหมือนแย้งกันด้วยความคิดเห็นที่แตกต่างกันเท่านั้น แต่ช่วงท้ายกลับเป็นแช่งไปซะฉิบ

คุณบอกว่าศึกษาเรื่องการปฎิบัติมา แต่การแช่งกันแบบนี้ ผมรู้สึกว่าออกจะรุนแรงไป ไม่สมควรเลยนะครับ คุณบอกว่าศึกษาเรื่องการปฏิบัติกับอาจารย์
มา ผมคนเถื่อนๆ โง่ เง่าๆ จับพระธรรมใด้แค่กระพี้ แต่ก็ไม่เคยคิดแช่งใคร หากจะมีใครมาคิดต่างจากผม ผมก็จะรับฟัง และหาข้อมูลที่แน่นอนกว่ามาโต้แย้ง เพื่อให้ใด้ข้อสรุปที่ดีที่สุด ในทางกลับกัน หากใครมีข้อมูลที่ดีกว่ามาโต้แย้ง ผมจะยิ่งขอบคุณ นั่นหมายถึง เขาชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องให้ผม

ทุกอย่างค่อยๆคุย และหาข้อสรุปที่ดีที่สุดจะดีกว่านะครับ ทะเลาะกัน ถือตัวกู ของกู มีแต่จะยิ่งแย่กันไป ^ ^

 

*************************************

คุณเองก็เอาแต่ฟังคนอื่นมาไม่ใช่หรอครับว่า ลป.ดู่ ท่านเสกแบบโน้น แบบนี้ ... ตัวคุณสัมผัสพลังงานได้เองไหม ผมเดาว่าคงไม่ได้
เพราะถ้าสัมผัสเองได้ คงไม่เที่ยวไปศึกษาถามคนรุ่นก่อน ๆ และคงไม่เอาความรู้จำมาปิดกั้นตัวเองแบบนี้ ...

เคยได้ยินคำสอนของ ลป.ดู่ ไหมครับว่า เวลาปฏิบัติให้ทำอย่างคนโง่ ถ้าไม่เคยผมจัดให้ ...


สอนพวกแก สอนชาวบ้านง่ายกว่า ...


อุบายการสอนของหลวงปู่นั้นมีมากหลาย เช่น สอนด้วยการยกอุปมาอุปไมยให้เห็นภาพ สอนด้วยการพูดให้เกิดพลังใจ สอนด้วยการดุ สอนด้วยการทำให้ดู ฯลฯ แต่ที่จะเล่าในวันนี้ คือ ท่านสอนด้วยการพูดเชิงสบประมาท หรือพูดเชิงท้าทาย

หลวงปู่ท่านทราบพื้นเพหรืออัธยาศัยของลูกศิษย์ของท่านดี เหมือนหมอยาที่รู้ว่าควรใช้ยาอย่างใดจึงจะเหมาะกับโรคของผู้ป่วย เพื่อการรักษาที่ได้ผลชงัด
สำหรับลูกศิษย์ที่เป็นนักศึกษา ท่านย่อมทราบว่าพวกนี้ศึกษามามาก อ่านมาก ฟังมาก ทฤษฎีเต็มสมอง อะไร ๆ ก็รู้หมด ลำดับฌาน ๑ ๒ ๓ ๔ รู้หมด ซึ่งในมุมมองของครูอาจารย์หรือผู้มีประสบการณ์ย่อมรู้ดีว่า "สัญญา" หรือความจำนี้ ในอีกด้านหนึ่ง ก็ถือเป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวง เป็นเครื่องกีดขวางชิ้นใหญ่ที่ทำให้ผู้ปฏิบัติจมจ่อมอยู่กับโลกแห่งจินตนาการคือภาพแห่งผลการปฏิบัติที่ตนสร้างขึ้นเอง

ดังนั้น หลวงปู่จึงพูดเชิงสบประมาทลูกศิษย์ที่ยังเป็นนักศึกษาที่มากราบท่านว่า "สอนพวกแก สอนคนรู้มาก สู้สอนชาวบ้านไม่ได้ สอนชาวบ้านง่ายกว่าเยอะ"
ท่านต้องการให้รู้ว่า ไอ้เจ้าความรู้จำนั้นยังไม่ใช่ปัญญาที่แท้จริง เพราะมันเป็นความรู้หรือปัญญาอย่างโลก ๆ ที่เกิดจากการอ่าน การฟัง มันยังพัฒนาไปไม่ถึง "ภาวนามยปัญญา" หรือปัญญาจากการปฏิบัติภาวนา ปัญญาที่เกิดสัมผัสใจเจ้าของ เป็นปัญญาที่ละกิเลสได้จริง ไม่ใช่แค่รู้จำ แต่ทำอะไรกิเลสไม่ได้

ท่านว่าชาวบ้านเขาไม่ได้ศึกษามาก เขาจึงไม่เป็นชาล้นถ้วย ใจพร้อมรับธรรมคำสอนโดยไม่ลังเลสงสัย ในขณะที่พวกรู้มาก เวลาปฏิบัติมักวางสัญญาหรือความรู้จำนั้นไม่ได้ ทำไปก็คอยแต่จะ "เอ๊ะ ๆ" อยู่ตลอด ไอ้ความลังเลสงสัยนี้ จึงเป็นตัวนิวรณ์ขัดขวางการทำความดีของเรา

นอกจากโทษของการหลงความรู้จำที่แสดงตัวออกมาในรูป "ชาล้นถ้วย" และ "ความลังเลสงสัย" แล้ว ที่ร้ายกาจที่สุด คือ "โลกแห่งจินตนาการ" มันจะสร้างภาพสภาวะแห่งผลการปฏิบัติที่มันอยากได้อยากถึง ซึ่งมันไม่ใช่ของจริง เหมือนอย่างเรากำลังขับรถมุ่งหน้าไปเชียงใหม่ แต่ด้วยความที่เราเคยอ่านเคยศึกษาว่าบนเส้นทางนั้น จะได้พบได้เห็นอะไร เราก็เลยสร้างรูปตึก รูปต้นไม้ รูปป้ายต่าง ๆ ฯลฯ ขึ้นมาเพื่อหลอกตัวเองว่าถึงตรงนั้นแล้ว ถึงตรงนี้แล้ว

ดังนั้น แนวทางการปฏิบัติเพื่อแก้ความเป็นผู้รู้มากนี้ หลวงปู่จึงย้ำเตือนนักปฏิบัติที่สั่งสมความรู้จำมามาก ว่าต้องปล่อยวางความรู้เหล่านั้นเสียก่อน โดยเตือนตัวเองว่า "ให้ปฏิบัติบัติอย่างคนโง่นะ อย่าปฏิบัติอย่างคนรู้มาก"

เครดิตจากเวป Luangpudu.com

link Luangpudu.com / Luangpordu.com


ปล. ถ้าคุณอยากรู้ว่า ลป.ดู่ ท่านเสกพระเหมือนกันทุกรุ่น รึ ต่าง ผมขออนุญาติแนะนำให้คุณทำ (ปฏิบัติ) ให้มากกว่ารู้จำนะครับ หวังว่าสักวันคงจะได้คำตอบ

 

<meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CAdministrator%5CLocal%20Settings%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:595.3pt 841.9pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:35.4pt; mso-footer-margin:35.4pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]คำตอบคุณในกระทู้นี้ ไม่มีคำตอบในประเด็นอย่างที่คุณเคยย้ำเราถึงประเด็นในครั้งก่อนเลย เราต้องการคำตอบค่ะ[/FONT]
<o> </o>
[FONT=&quot]ถ้าสิ่งที่เรากล่าวนั้นแช่ง ไม่ปฎิเสธค่ะ เป็นคำที่เราสาปส่งผู้ที่บังอาจพยายามบิดเบือน แต่งเติม อวดรู้ ในคำสอนและความเชื่อที่ควรจะเป็นอยู่ของครูบาอาจารย์ที่เราและศิษย์ยานุศิษย์เคารพนับถืออยู่เหนือหัว ซึ่งท่านกล่าวไว้ พูดไว้ให้บิดเบือนไป จากการตีความโดยเอาความรู้สึกส่วนตัว ความเชื่อส่วนตัวเข้าไปเจือปน และสิ่งที่เราทำอยู่นี้ ก็คือการปกป้องคำกล่าวดังกล่าวไม่ให้ผิดเพี้ยนไป เราเชื่อว่าเราทำในสิ่งที่ถูก ไม่ว่าสิ่งที่หลวงปู่กล่าวไว้ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่ออย่างไร เราและศิษย์คนอื่นเชื่อในคำพูดของหลวงปู่อย่างสุดหัวใจทกคนแน่นอนค่ะ<o></o>[/FONT]
<o> </o>
[FONT=&quot]ถ้าท่านไม่เชื่อ ก็ไม่ควรออกมาพูดเช่นนี้ โดยไม่มีความรู้จริง รู้แจ้ง ไม่มีอะไรยื่นยัน อ้างเพียงตรรกะ หลวงพ่อทับวัดทอง ท่านหยิบหินที่จะไปทหารให้ศิษย์ บอกว่าหินนี้ก็ศักดิ์สิทธิ์หินนี้ศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อเคยกล่าวว่าพระอรหันต์ แค่อธิฐานว่าขอให้วัตถุนี้ศักดิ์สิทธิ์ ก็เป็นจริงดังกล่าวแล้ว แต่นี่คำกล่าวของหลวงปู่ คุณจะว่าอย่างไรล่ะคะ[/FONT]
<o> </o>
[FONT=&quot]ที่คุณไม่เคยมีปัญหา อาจเพราะไม่มีใครถือสาหาความ แต่เราเองพร้อมเสมอที่จะออกมาปกป้องทุกสิ่งอย่างที่พยายามทำให้คำสอน คำกล่าวของครูบาอาจารย์เราบิดเบือน ถูกเข้าใจต่างออกไป หรือวิบัติ ค่ะ[/FONT]
<o> </o>
[FONT=&quot]นี่คือบอร์ดสาธารณะก็จริง แต่คุณเองต่างหากที่ไม่มีสิทธิ์จะเอาความคิดส่วนตัว มาบิดเบือนคำกล่าวของครูบาอาจารย์ ถ้าคิดต่างก็บอกว่าคิดต่าง ไม่ใช่ยืนยันหรือชี้ชัดไปว่าคำกล่าวนั้นไม่เป็นจริง พิจารณาดูเองค่ะ ถึงแม้จะเป็นคำกล่าวเพียงเล็กน้อย แต่สมควรหรือค่ะ[/FONT]
<o> </o>
[FONT=&quot]แล้วช่วยตอบในประเด็นด้วยค่ะ ในเรื่องที่คุณกล่าวทั้งหมด เราอ้างอิงหลักฐานที่สามารถสืบค้นได้ไปตลอด ทั้งชื่อหนังสือ หรือบุคคลที่ถึงมิได้เอ่ยชื่อ แต่ศิษย์ต่างรู้ว่าใครบ้าง ส่วนคุณไม่เคยอ้างอิงหลักฐาน พยาน เอกสาร ตำราค ที่ขัดแย้งกับคำกล่าว ของหลวงปู่ และคำที่กล่าวหาเราว่าเราว่าคุณเชียร์พระขาย [/FONT]
<o> </o>
[FONT=&quot]คำตอบนี้ ของคุณ ไม่มีคำตอบในประเด็น เป็นคำกล่าวเชิญชวนบุคคลในหมู่ให้คล้อยตาม แต่มันไม่สามารถทำให้ความน่าเชื่อถือของคุณในคำกล่าวกระจ่างขึ้นแต่อย่างใด [/FONT]




[FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
<o> </o>
[FONT=&quot]<o> </o>[/FONT]

 

2553 ปีที่ผ่านมา เราก็ได้เเต่ ฟัง เเละอ่าน เเละศึกษาตามคนรุ่นก่อนมาทั้งนั้นค่ะ ไม่ได้รับรู้ สัมผัสได้เเต่อย่างใด

เพียงเเต่เราเลือกที่จะ "เชื่อ " ตามพยาน ตามบุคคล ตามเอกสารบันทึก ซึ่งสิ่งที่เรากล่าวอ้างมา

เราถึงขอสิ่งเหล่านี้ มาสนับสนุนคำกล่าวที่เเตกต่างออกไปของคุณ Specialized แต่เราก็ไม่เคยได้

ปล. กรุณาใช้สติในการอ่านค่ะ ว่าเราสงสัย อยากรู้ ในวัตถุของหลวงปู่ หรือกำลังกล่าวถึงเรื่องอื่น

อย่าพยายามหลงประเด็น และยัดเยียดประเด็นดังกล่าวมาให้เราค่ะ

 

เราจะมาเถียงกันทำไม ทางเดินถึงจะต่างกันแต่เป้าหมายก็ตัวเดียวกัน ผมว่าคุณพยายามทำตัวให้เป็นคนที่น้ำไม่เต็มแก้วจะดีกว่า อันไหนที่ดี ไม่ดี ก็เก็บมาคิดพิจารณาด้วยตัวเอง ตามหลักของพระธรรมที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านได้ทรงสอนไว้ กาลามสูตร 10

 

เข้าใจในความรู้สึกของทั้งคู่ที่คนนึงมีความเชื่อ กับอีกคนมีความศรัทธา แต่แอบหวังเล็กๆ ว่าจะยุติ หรือจะคุยกันด้วยเหตุด้วยผล

ปล.ในฐานะศิษย์หลวงปู่ดู่ ขออนุโมทนาสวนกระเเสให้กับคุณ apple ผมรับรู้ได้ถึงความศรัทธาต่อหลวงปู่อย่างเเรงกล้าของคุณจริงๆ

 

ใช่ครับ ถ้าไม่มีพระของหลวงปู่ ก็บูชา ของหลวงตา ดูนะครับ ของหลวงตาก็ไม่ธรรมดา นะครับ

 

วันนี้กระทู้ร้อนแรงมีสีสันดีจัง....

 

ผมไม่ได้สนใจเท่าไรหรอกครับ ว่าจริงๆแล้วเรื่องนี้ จริงๆมันเป็นยังไง เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างพูดยาก ต่างคนต่างเหตุผล เรื่องราวก็ผ่านมานานแล้ว

แต่ที่ผมติดใจ ก็ตรงที่ ผมคิดว่า

คนเรา เวลาความเห็นไม่ตรงกัน ก็ต้องถกกันด้วยเหตุผล
แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ หาที่จบไม่ลง ก็ไม่เป็นไร

แต่ไม่เห็นต้องมาแช่งอีกฝ่ายเลยหนิครับ จะไปเบียดเบียนคนอื่น และจองเวรคนอื่น ติเตียนกรรมผู้อื่นทำไมครับ

มีครูบาอาจารย์ท่านไหนสอนศิษย์อย่างนี้บ้างครับ

เราไม่ชอบอะไรก็แค่ผ่านไป ทำใจให้สบาย ก็ไม่เห็นมันจะเดือนจะร้อนอะไร . . .
หรือถ้าอยากจะออกความเห็น ก็ไม่เห็นต้องใส่อารมณ์เลยหนิครับ พูดกันดีๆ ชี้แจงเหตุผล ไม่ใช่มาแช่งกันแบบนี้

ผมไม่เห็นด้วย

 

รวบรวมประติดประต่อจากคำสอนหลวงปู่มา

"คนดีเขาไม่ตีใคร อย่าคอยเพ่งโทษผู้อื่น เอาตัวเราให้ดี

เวลาเหลือน้อยแล้วให้รีบปฏิบัติ"

( มิได้เจตนาว่าใครนะครับ แต่ขอยกคำสอนหลวงปู่มาเตือนสติเราทุกคน )

ถ้าข้อความผมไม่ถูกใจท่านใดขออโหสิกรรมด้วยนะครับ

โพสไม่ค่อยเก่ง เก่งแต่อ่าน นานๆโพสที อาจมีผิดพลาดได้

 

คุณตอบเเบจนตรอกอีกครั้ง เเละจบเเบบดูดี เป็นพระเอก ถูกใส่ร้ายเเละรังเเก ...

ประเด็นนี้ควรจะเข้าใจ หรือจบไปตั้งเเต่คำตอบที่คุณตอบเราเเล้ว แต่มันไม่จบเพราะคุณไม่พูดเพื่อเเสดงความรับผิดชอบใดๆ ในคำพูดของตัวคุณ ที่กล่าวถึงพระของหลวงปู่ คำของหลวงปู่

ถึงจะหลายๆ คำตอบต่อมา คุณก็กุเรื่องราวขึ้นมาเป็นประเด็นเรียกหาความถูกต้องให้ตัวเอง

แล้วมันจะเข้าใจในเนื้อหาที่เราถกกันไหมคะ

คุณแค่อ้างอิงสิ่งที่น่าเชื่อถือ อันยอมรับได้ไม่ว่าจะเป็นบุคคล เอกสารฯ ใดๆ ว่าสิ่งที่หลวงปู่กล่าว ศิษย์ถ่ายทอดกันมาไม่จริง คุณอ้างเพียงความคิดของตัวเอง แต่ตอนตอบคุณกล่าวว่าไม่เหมือนเเน่นอน ไม่มีคำว่า"ผมคิดว่า" หรือคำใดๆ ที่เเสดงว่ามันอาจจะเป็น

เเละจนถึงตอนนี้ เราก็ไม่เห็นคุณกล่าวถึงคำๆ นั้นอีก ทั้งๆ ที่มันเป็นประเด็นอยู่ คำที่คุณพยายามกล่าวส่อให้ข้อความที่ผู้จัดทำประวัติ เรียบเรียงถ้อยคำหลวงปู่ ลูกศิษย์ลูกหา ตลอดจนพระในวัดที่ให้ข้อมูล ตรวจทาน รวบรวมขึ้นเเละตีพิมพ์นั้น "เป็นเท็จ"

คุณมีสิทธิ์พูดเเบบนั้นถึงคำครูบาอาจารย์หรือคะ มีสิทธิ์หมิ่นหรือก้าวล่วงแบบนั้นหรือคะ

เราก็เคยคิดว่าเจตนาคุณไม่ใช่เเบบนั้น แต่อ่านไปอ่านมา คุณแสดงออกด้วยความหนักเเน่น แบบผู้รู้จริง เเละมีผู้คล้อยตามอีกจนเรากลัวว่าจะเลยเถิดไปกันใหญ่

แต่คุณไม่ได้พยายามหาเหตุผลมาหักล้างใดๆ และมิได้สำนึกผิดอีกเช่นกันจนถึงตอนนี้

ถ้าผู้อ่านคิดว่าการเเสดงออกเพื่อปกป้องเกียรติภูมิของหลวงปู่ดู่ครั้งนี้ ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ยิ่งเป็นการไม่สมควร ขอให้กลับไปอ่านตั้งเเต่ข้อความเเรกของดิฉันอย่างเป็นกลางหลายๆ รอบค่ะ

ดูถึงสภาวะจิต เจตนา สภาวะอารมภ์ ของดิฉันเเละผู้ตอบท่านอื่น และเหนือสิ่งอื่นใด ดูถึงเนื้อหา และข้อเท็จจริงในทุกคำพูด

เรื่องด่าเเช่ง เป็นเรื่องไม่สมควรรับทราบ และยอมรับผิดค่ะ

 

หลวงปู่ทอง วัดเกาะ บอกผมว่า...... อาจารย์ข้าพูดว่า ข้าบวชให้เอ็งเป็นพระได้แต่ตัว แต่ใจเอ็งจะเป็นพระหรือไม่ อยู่ที่ตัวเอง (ไม่ใช่ว่าหารุ่นนี้ห้อย รุ่นโน้นซิ ใจะเราจะเป็นพระ)

 

ลองนึกถึงตอนเล่นน้ำสงกรานต์กันบ้างนะครับ เราสาดเขา เขาเปียก ถามว่าเราเปียกไม้ เราก็เปียก สรุปว่าเปียกทั้งคู่ แต่การโต้เถียงกัน จะยิ่งมากกว่านั้น เพราะนี่ไม่ใช่น้ำ แต่เป็นคำพูดที่ต้องการชนะคะคานกัน ผลก็คือ แย่ทั้งคู่ และยิ่งบุคคลที่โต้เถียงกัน เป็นลูกศิษย์อาจารย์เดียวกัน ยิ่งแย่ไปใหญ่ แต่ใครเป็นอาจารย์คงรู้สึกแย่ยิ่งกว่า


ผมอ่านมาตั้งแต่ต้น เข้าใจดีว่าต่างคนต่างมีความรู้สึกที่เทิดทูนครูบาอาจารย์ไม่ใด้ยิ่งหย่อนกว่ากัน เพียงแต่ติดตรงประเด็นที่ต่างคนต่างคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน ก็เท่านั้น ประเด็นหลักๆที่จับใจความใด้ ก็เพียงข้อคิดเห็นที่ต่างกันว่าเมื่อหลวงปู่ท่านอธิษฐานนั้น ท่านอธิษฐานอย่างใร ทุกอย่างไม่มีคำตอบที่ตายตัวเนื่องจากผู้ที่รู้ดีที่สุดก็คือหลวงปู่ท่านนั่นเอง แต่จะมีใครกล้าถามท่านละ เมื่อไม่มีใครถามท่าน แล้วคุณapple20ทราบใด้อย่างใรว่า ทีรู้มานั้นถูกต้อง ผู้รู้ที่บอกกล่าวมานั้นอ้างอิงจากสิ่งใด และผูที่บอกเช่นนั้นใช้สิ่งใดในการอ้างถึง หรือจะบอกว่ารู้วาระจิตหลวงปู่ท่าน ถ้าแบบนั้นผมยอมรับ แต่หากไม่ใช่ เป็นแต่เพียงการคาดคะเน โดยอ้างอิงจากสิ่งต่างๆมาเชื่อมโยง ฉนั้น คำตอบนั้นก็ไม่นับเป็นคำตอบที่ถูกต้องเช่นกัน


ดังนั้นขัอโต้แย้งตรงส่วนนี้ อยากให้เป็นเพียง1มุมมองที่สำหรับแลกเปลี่ยนความคิดกัน ทุกคนจะใด้ประโยชน์ร่วมกัน มากกว่าจะมาทำร้ายกันด้วยแป้นพิมพ์และวาทะต่างๆ รังแต่จะทำให้หดหู่ในความรู้สึกของลูกศิษย์ท่านอื่นๆที่เข้ามาติดตาม ผมเองก็ศิษย์คนหนึ่ง แต่ไม่มีหรอกวัตถุมงคลหลวงปู่ ไม่มีอาจารย์ที่ใหนมาบอก ไม่มีใครมาชี้แนะ ไม่มีเลย ไม่ซักอย่าง จะเรียกว่าศิษย์ปลายแถวก็ไม่ผิด ^ ^ แต่ในความรู้สึก มีความสุขทุกครั้งที่เห็นรูปหลวงปู่ยิ้มอยู่ในภาพถ่าย และเป็น1ในครูบาอาจารย์ที่ทุกครั้งก่อนจะสวดมนต์และนั่งสมาธิก็จะกราบอัญเชิญบารมีหลวงปู่ทุกครั้ง ท่านมาหรือไม่ผมไม่ทราบ แต่ผมศรัทธาของผมอย่างนี้ ท่านอื่นก็อาจมีวิธีการแตกต่างกันไป แต่ความศรัทธานั้นก็คงไม่แตกต่างจากผม ถ้าหากจะมีการขัดแย้งกัน อยากให้ขัดแย้งกันที่จิตใจของตนจะดีกว่า ว่าทำไม เรายังปฏิบัติไม่เท่ากับที่ครูบาอาจารย์ท่านหวังใว้ ทำไมการปฎิบัติไม่คืบหน้า ทำไม ทำไม และทำไม แบบนี้จะดีกว่าครับ ดีกว่าจะมาขัดแย้งกันด้วยเรื่องแค่นี้ ขอบคุณครับ ^ ^