*เปียโนพระเครื่อง*ปิดกระทู้นี้ชั่วคราว*ลพ.โหน่ง /กรุวัดชนะสงคราม*

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย prakrueng, 22 กรกฎาคม 2010.

  1. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    พระพุทธชินราช เนื้อผงขาว วัดประสาท ปี 2506 สภาพสวย ราคา 600 บาท (ภาพอ้างอิงจากหนังสือ วัดประสาท ปกแดง)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    พระบูชา บัวเข็ม เนื้อไม้ลงชาดลงทอง ยุคต้น ฐาน 3 นิ้ว หน้าตัก 2 นิ้ว สูง 4 นิ้ว ใต้ฐานหอยปูปลา เก่ามาก มีอายุ สภาพสวยสมบูรณ์ หายากมากครับ ราคา 4000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. JUNYAPORN37

    JUNYAPORN37 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +607
    จององค์นี้ค่ะ กลับมาจะโอนให้นะค่ะ
     
  4. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    มเด็จ พิมพ์ใหญ่ กรุวัดดักคะนน ชัยนาท หายาก สภาพสวย คราบกรุเดิมๆครับ ราคา 950 บาท

    พระ ชุดนี้สร้างโดยหลวงพ่ออยู่ แห่งวัดดักคะนน พระผู้มีบารมีธรรมสูงส่งอีกทั้งเป็นพระที่มีวาจาสิทธิ์องค์หนึ่ง นอกจากนี้ท่านยังเป็นสหายสนิทกับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า พระอาจารย์ทั้งสององค์ชาวบ้านที่ชัยนาท และจังหวัดใกล้เคียงต่างให้ความเคารพนับถือไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน หลวงพ่อทั้งสองต่างเดินทางไปมาหาสู่เพื่อแลกเปลี่ยนวิชาซึ่งกันและกัน เป็นประจำจนเรียกว่ากินกันไม่ลง
    พระ ชุดนี้จึงไม่แปลกที่หลวงปู่ศุข จะมอบมวลสารชั้นยอดและมีส่วนร่วมในการจัดสร้าง รวมถึงการปลุกเศกด้วย พระสมเด็จที่สร้างมีทั้งหมด 5 พิมพ์คือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์ทรงเจดีย์ พิมพ์ฐานแซม พิมพ์เจ็ดชั้นและเก้าชั้น เสร็จแล้วได้นำบรรุไว้ใต้ฐานพระประธานโบสถ์ จนกาลเวลาล่วงเลยมา พระได้แตกกรุออกมาเพราะพระประธานชำรุดเกินกว่าจะซ่อมแซมได้ กรรมการวัดจึงมีมติที่จะรื้อและสร้างใหม่ จึงพบพระสมเด็จไหลทะลักออกมาจากใต้ฐานพระประธาน หลวงพ่อผลเจ้าอาวาสในขณะนั้นจึงนำมาให้ทำบุญและแจกจ่ายวัดต่าง ๆ ในละแวกนั้นเพื่อหาทุนสร้างโบสถ์ มีผู้ไม่ทราบข้อมูลเข้าใจผิดว่า เป็นพระสมเด็จของหลวงพ่อผล ภายหลังผู้ใช้ไปประสบอภินิหารหลายอย่าง
    จนชาวบ้านขนานนามว่า มีพระสมเด็จ "อยู่ - ศุข" จะอยู่รอด ปลอดภัยมีความสุข
    สมเด็จ กรุวัดดักคะนนนี้คนพื้นที่เล่าว่าเป็นสมเด็จที่หลวงปู่อยู่วัดดักคะนน ชัยนาทสร้างบรรจุไว้ ซึ่งหลวงปูอยู่ท่านนี้เป็นพระร่วมสมัยกับหลวงปู่ศุข ปากคลอง หลวงพ่อคงบางกะพี้ ท่านมีอายุพรรษากาลอ่อนกว่าทั้ง 2 องค์โดยหลวงพ่อคงถือว่ามีความอาวุโสสุด ซึ่งทั้ง 3 ท่านนิยมไปมาหาสู่กันเสมอจะเพื่อการใดไม่ทราบชัดคนแถบชัยนาทเรียกกันว่า คง-อยู่-ศุข 3 คณาจารณ์แห่งลุ่มแม่น้ำท่าจีน
    หลวงปู่อยู่ก่อนหน้าที่จะมาปกครองวัดดักคะนนท่านไปเรียนพระ ปริยัติธรรมที่ วัดบางขุนพรหม และได้รับมอบผงที่สมเด็จโตลบไว้และชิ้นส่วนสมเด็จที่ชำรุดจากเจ้าอาวาสวัด บางขุนพรหมในสมัยนั้นมามากพอสมควร ท่านจึงนำมาจัดสร้างสมเด็จของท่านซึ่งมีอยู่ 5 พิมพ์คือสมเด็เนื้อผงขาวหลังเรียบพิมพ์ 3 ชั้น/ 7 ชั้น/ 9 ชั้น พิมพ์ใหญ่ขนาดครึ่งฝ่ามือเป็นพระคะแนน และเนื้อผงใบลานหลังรูปท่าน
    หลวงปู่อยู่ท่านนี้จากปากคำของคนเฒ่าคนแก่เล่าสืบมาว่าท่านเก่ง ถึงขนาดที่ ใช้มือจับเหล็กสลักโบสถ์ที่ยังมีไฟแดงๆอยู่แทนครีมคีบและตอกด้วยมือปล่าวๆ แทนฆ้อนได้
    สำหรับประสบการณ์ถือว่าแปลกกว่าสมเด็จโดยทั่วๆไปเพราะนอกจากจะมี พุทธคุณใน ด้านเมตตามหานิยมโชคลาภตามมาตรฐานตำรับสมเด็จแล้วยังมีพุทธคุณในด้านบู้ค่อน ข้างหนาหู เรื่องล่าสุดที่ได้รับฟังมาเหตุเกิดที่ จ.นครสวรรค์ ผู้ร้ายถูกตำรวจล้อมยิงในระยะใกล็ๆแบบวงรำวงเลยว่างั้น แต่ปรากฏว่ายิงไม่ออกซักกระบอกเลยในคอเจ้ากรรมมีสมเด็จดักคะนนองค์เดียว

    ข้อมูลจากหนังสือสมเด็จต่างวัด
    หลวง ปู่อยู่อดีตเจ้าอาวาสวัดดักคะนน พระเกจิอาจารย์ร่วมสมัยกับหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านได้สร้างพระพิมพ์สมเด็จเรียกว่าสมเด็จขาวและสมเด็จดำ โดยสมเด็จขาวสร้างจากผงพุทธคุณ ที่่ท่านลบตามสูตรมูลกัจจายน์ ส่วนสมเด็จดำสร้างจากผงใบลานจารอักขระคัมภีร์โบราณผสมกับผงพุทธคุณ พระสมเด็จขาวและสมเด็จดำ มีอายุการสร้างกว่า 90 ปี และบรรจุกรุไว้ และแตกกรุในสมัยที่หลวงพ่อผลเป็นเจ้าอาวาส พระชุดนี้จึงปรากฏคราบกรุให้เห็นโดยทั่วไป พระสมเด็จขาวและสมเด็จดำชุดนี้มีประสบการณ์ เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดและคงกระพันชาตรี

    พระ กรุวัดดักคะนนเป็นพระที่น่าจะบูชาติดตัวมากครับ เพราะมีประสบการณ์มากมายมีความศักสิทธิ์สูงด้วยพุทธาคมอันสูงส่งของหลวงปู่ อยู่และหลวงปู่ศุข แถมยังถูกบรรจุไว้ในใต้ฐานพระประธานที่อยู่ในโบสถ์อีก พระภิกษุสงฆ์จึงได้ทำวัตรเช้าทำวัตรเย็นในโบสถ์นี้ทุกวัน มีการบวชพระในโบสถ์นี้อีกทุกปี แถมทุกวันพระแรม 15 ค่ำ ทุกวันพระขึ้น 15 ค่ำ พระภิกษุสงฆ์ยังทำสังฆกรรมสวดพระปาฏิโมกข์อีกเดือนละสองครั้งทุกๆเดือนตลอด มา เท่ากับพระกรุวัดดักคะนนได้ถูกสวดบรรจุพุทธคุณมายาวนานถึงกว่า 70 ปีเลยทีเดียว นี่เองพระกรุวัดดักคะนนจึงมีความศักสิทธิ์มาก ถ้าท่านอยากจะได้พระเครื่องไว้บูชาติดตัวสักองค์หนึ่ง ผมว่าพระกรุวัดดักคะนนน่าใช้มากทีเดียวครับ เพราะมีอายุการสร้างที่ยาวนานแถมพระท่านผู้สร้างเองก็ทรงด้วยพุทธาคมที่สูง ส่งด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2010
  6. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    พระเนื้อดิน พิมพ์มีพ.ศ.ปี 2473 ลพ.พ่วง วัดกก บางขุนเทียน หายาก องค์นี้มีลงรักน้ำเกลี้ยงมา สภาพยังสวย ราคา 1300 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    นางวัดเวียง อยุธยา สภาพสวยมาก ผิวเดิมๆครับ ราคา 1400 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    พระเนื้อดิน ล้อพิมพ์พระกรุผงสุพรรณ ลพ.โหน่ง วัดคลองมะดัน สภาพเก่าสวยครับ ขนาด 1.5 x 3 ซม.ครับ ราคา 1300 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. w.สุรพล

    w.สุรพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,216
    ค่าพลัง:
    +4,544
    ได้รับเรียบร้อย ขอบคุณครับ
     
  10. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    พระพุทธชินราช เนื้อดินลงทองบรอนส์มาเดิม ลป.ยิ้ม วัดเจ้าเจ็ด อยุธยา สภาพสวย หายาก ราคา 700 บาท

    [FONT=Arial,MS Sans Serif]ระวัติ วัดเจ้าเจ็ดใน
    วัดเจ้าเจ็ดใน ตั้งอยู่ที่ริมคลองเจ้าเจ็ดซึ่งเป็นทางไปยังจังหวัดสุพรรณบุรี ปัจจุบัน วัดเจ้าเจ็ดในตั้งอยู่ที่ ๓๔ ถนนสุขาภิบาลเจ้าเจ็ด หมู่ที่ ๓ ตำบลเจ้าเจ็ด อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ ๑๕ ไร่ ๒ งาน ๔๐ ตารางวา
    วัดเจ้าเจ็ดในเกิดขึ้นหลังจากกรุงศรีอยุธยาเสียให้แก่พม่าใหม่ๆปี พ.ศ.๒๓๑๐ ท้องที่เจ้าเจ็ดเป็นดินแดนลุ่มลาดซึ่งเป็นป่ารกร้าง มาก จึงเป็นที่อาศัยของสัตว์ร้ายเช่น จระเข้ ช้าง เสือ เป็นต้น และเป็นที่ลี้ภัยสงครามพม่าของเจ้าฟ้ามหากษัตริย์ในครั้งนั้น เมื่อเจ้าฟ้ามหากษัตริย์ทั้งหลายลี้ภัยมาพักอาศัยอยู่ที่ตำบลนี้ ซึ่งคงนับได้ ๗ พระองค์ จึงได้สร้างปูชนีย์วัตถุไว้ ต่อมาประชาชนจึงได้ถือเอาที่นี้เป็นวัด จึงได้ซื่อว่า “วัดเจ้าเจ็ด” ต่อมาภายหลังได้เกิดวัดขึ้นอีกวัดตั้งอยู่ทิศเหนือ มีเนื้อที่ติดต่อกัน ดังนั้นวัดเจ้าเจ็ดจึงมีคำว่า “ใน” ต่อท้าย
    ต่อมาปี ๒๔๔๙ พระธรรมดิลก (อิ่ม) กับพระอุปัชฌาย์ ปั้น เป็นเจ้าอาวาสขณะนั้นเป็นหัวหน้าประชาชน ชาวเจ้าเจ็ด และกรุงเทพ ร่วมกันสร้างโรงอุโบสถขึ้นโดยสร้างทับที่ของเดิม และผูกพัทธสีมาเมื่อปี ๒๔๕๐
    เจ้าอาวาสที่สืบทราบนามได้ มี ๕ รูป
    ๑. พระอาจารย์จีน (พระอาจารย์ สอนพระปริยัติธรรม และภาษาบาลี ให้กับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และหลวงปู่ยิ้ม วัดเจ้าเจ็ด)
    ๒. พระอุปัชฌาย์ ปั้น
    ๓. พระครูพรหมวิหารคุณ (หลวงปู่ยิ้ม)
    ๔. พระอาจารย์คำ (รักษาการ)
    ๕. พระครูเสนาคณานุรักษ์ (เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน)
    ประวัติ พลับเพลาใจสมาน เป็นอาคารไม้สร้างเมื่อ ๕ ตุลาคม ๒๕๐๕ เพื่อเป็นเรือนรับรอง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เพื่อประทับเสวยพระกระยาหาร (กลางวัน) เมื่อคราวเสด็จทอดผ้าพระกฐิน ซึ่งตรงกับ ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๑๒ มาจัดเป็นราชานุสรณ์ พร้อมกับจัดงานแห่พระพุทธเกสรไปตามลำคลองเจ้าเจ็ดและมุ่งสู่วัดกระโดงทองโดย มีขบวนเรือแห่สวยงาม และเมื่อกลับจากวัดกระโดงทองก็จัดให้มีการถวายพระพรพระบรมฉายาลักษณ์พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พลับเพลาใจสมาน จนถึงปัจจุบัน
    ประวัติ หลวงปู่ยิ้ม
    พระครูพรหมวิหารคุณ (หลวงปู่ยิ้ม) นาเดิม ยิ้ม กระจ่าง เป็นบุตรนายอ่วม และนางสุด กระจ่าง เกิดที่บ้านสาลี หมู่ที่ ๑ ตำบลบ้านแถว อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๑๗ ปีกุน มีพี่น้องร่วมบิดา มารดา ๓ คน
    ๑.นายจ่าง กระจ่าง
    ๒.พระครูพรหมวิหารคุณ
    ๓.นายโชติ กระจ่าง
    สมัยเป็นเด็กได้ศึกษาอักขรสมัยอยู่กับพระอาจารย์จาด และพระอาจารย์จีนวัดเจ้าเจ็ดใน พออายุได้ ๑๖ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรศึกษาที่วัดกระโดงทอง ภายใต้การปกครองของหลวงพ่อบุญมี เมื่ออายุครบ ๒๐ ปีได้อุปสมบทที่วัดเจ้าเจ็ดนอก มีพระอาจารย์สิน วัดโพธิ์เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์จาดเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์สุ่ม เป็นพระอนุสาวนาจาร อุปสมบทแล้วอยู่ที่วัดเจ้าเจ็ดในต่อมาได้เป็นเจ้าอาวาส เป็นเจ้าคณะตำบลเจ้าเจ็ด เป็นพระครูกรรมการศึกษาและเป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๘ ได้รับพระราชทานสมณะศักดิ์ เป็นพระครูพรหมวิหารคุณ พ.ศ.๒๔๙๓ เป็นเจ้าคณะอำเภอบางซ้าย มรณภาพด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๔๙๙ รวมอายุได้ ๘๒ ปี หลวงปู่ยิ้ม เป็นเกจิ อาจารย์รุ่นราวคราวเดียวกันกับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อจงวัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อยิ้มได้สร้างวัตถุมงคลเมื่อปี ๒๔๗๕
    วัตถุมงคลของหลวงปู่ยิ้ม วัดเจ้าเจ็ดใน
    หลวงปู่ยิ้ม วัดเจ้าเจ็ดในเป็นพระที่อุดมด้วย ศีลลาจารวัตร ตลอดชีวิตของหลวงปู่เป็นพระอารมณ์เย็นและยิ้มง่าย สมกับชื่อของท่าน จึงมักมีผู้คนไปนมัสการขอของทางเมตตามหานิยมของท่านมิได้ขาด หลวงปู่ยิ้มยังเป็นพระร่วมสมัยกับ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จนเรียกกันติดปากว่า
    "พระหมอหลวงพ่อปาน เกจิอาจารย์หลวงพ่อจง เมตตาไหลหลง หลวงปู่ยิ้ม" หลวงปู่ยิ้มท่านมีวาจาสิทธิ์ พูดคำไหนเป็นคำนั้นไม่พูดมาก พูดแต่สิ่งที่ดี ๆ หลวงปู่ยิ้มได้สร้างวัตถุมงคล ไว้มากมายเพื่อให้ประชาชนได้บูชาและเก็บใส่กรุไว้เพื่อเป็นการต่ออายุพระ ธรรมศาสนา หลวงปู่ยิ้มเริ่มสร้างวัตถุมงคลขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๗๕ โดยวัตถุมงคลของท่านเป็นพระเนื้อดินเผา พิมพ์ต่างๆ โดยใช้ส่วนผสมมวลสาร ต่างๆดังนี้
    ๑.ดินใจกลางนาที่ขุดลงไปลึกๆจนเรียกว่าดินนวล
    ๒.ดินเจ็ดโป่งเจ็ดป่า
    ๓.ผงวิเศษของหลวงพ่อยิ้ม
    ๔.ว่านต่าง ๆ ที่หลวงพ่อสะสม
    สำหรับพุทธคุณ ที่บรรดาสาธุชนที่เลื่อมใสหลวงปู่ยิ้มได้พบประสบการณ์ในวัตถุมงคลหลวงปู่ นั้น จะเป็นไปในทางเมตตามหานิยม ช่วยให้ทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรืองมีคนรักใคร่ และแคล้วคลาดจากเหตุภัยอันตรายต่างๆ ป้องกันเขี้ยวงา คุณไสยต่างๆได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงทางด้านคงกระพันชาตรี เนื่องจากเคยได้ยินได้ฟังจากชาวบ้านในละแวกนั้นบอกกล่าวไว้ว่า ชาวบ้านเคยนำพระงบน้ำอ้อย ของหลวงปู่ยิ้ม อาราธนาและนำเอาไปทดลองใส่ปากปลาช่อน แล้วเอามีดฟันแต่ไม่เข้า จึงถือเป็นของดีที่น่าใช้วัดหนึ่งเหมือนกันจนเป็นที่เคารพศรัทธา ของประชาชนใน อำเภอเสนา และในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตลอดจนจังหวัดใกล้เคียง เช่น สุพรรณบุรี และอ่างทอง เนื่องจากพระของท่านสร้างไว้จำนวนมาก จึงพบเห็นในสนามพระบ่อยๆ ทำให้ราคาถูก หากแต่ว่าสมัยนี้พระของท่านนั้นมีให้เห็นในสนามพระน้อยลงไปทุกวันแล้ว
    พระพิมพ์งบน้ำอ้อย
    พระงบน้ำอ้อย เป็นพระเครื่องอีกพิมพ์หนึ่งที่มีลักษณะแตกต่างไปจากพิมพ์อื่นๆ ตรงที่ว่าสัณฐานของพระเครื่องจะเป็นรูปกลม ส่วนด้านหลังจะแบนราบ และเอกลักษณ์ ของพระงบน้ำอ้อยอีกอย่างหนึ่งที่คุ้นตาพวกเรากันดีก็คือ ด้านหน้าจะเป็นรูปพระหลายๆ องค์นั่งเรียงกันโดยหันพระเศียรเข้าหาจุดศูนย์กลาง พระพิมพ์งบน้ำอ้อย ของหลวงปู่ยิ้มเป็นพระพิมพ์เนื้อดินเผาที่นิยมมากที่สุดของหลวงปู่ยิ้ม มีลักษณะกลมมีองค์พระพุทธอยู่ในทรงกลมนับได้ ๑๐ องค์ หรือแทนพระพุทธเจ้า ๑๐ พระองค์ หรือพระพุทธเจ้า ๑๐ ชาติ บางองค์ยังพบมีพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ก็มี และ แบ่งออกเป็น ๓ ขนาดพิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง พิมพ์เล็ก ทุกพิมพ์นั้นได้รับความนิยมเท่าๆกัน และยังแยกประเภทเป็น ๒ ประเภทคือ พิมพ์มีเส้น และพิมพ์ไม่มีเส้น (นิยมเรียก พิมพ์เทวดา)
    ๑.พระงบน้ำอ้อยพิมพ์ใหญ่ ขนาดองค์พระกลมใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่โดยประมาณ ๓๕ มิลลิเมตร ถึง ๓๗ มิลลิเมตร
    ๒.พระงบน้ำอ้อยพิมพ์กลาง ขนาดองค์พระกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง โดยประมาณ ๓๐ มิลลิเมตร
    ๓.พระงบน้ำอ้อยพิมพ์เล็ก ขนาดองค์พระกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง โดยประมาณ ๒๐ มิลลิเมตร
    [/FONT]

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของข้อมูลครับที่นำมาเผยแพร่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    สมเด็จหลังเสือ เนื้อผงใบลาน ยุคต้น หายาก ลพ.ทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง สมุทรสาคร นานๆจะพบเนื้อนี้สักองค์ สภาพสวยผิวเดิมๆ ราคา 1500 บาท

    พระสมเด็จหลังเสือ หลวงพ่อทองอยู่ โดย อ.เล็ก พลูโต
    หลวงพ่อทองอยู่ หรือ พระครูสุตาธิการี อดีตเจ้าอาวาส วัดใหม่หนองพระอง จ.สมุทรสาคร ท่านเป็นพระเถระ พระเกจิอาจารย์ยุคเก่า ที่แก่กล้าด้วยอาคม ท่านเกิดในตระกูล “สิงหเสนี” ซึ่งเป็นตระกูลทหารชาตินักรบ อุปสมบทเมื่ออายุประมาณ ๓๐ ปี ที่วัดใหม่หนองพะอง ครั้นพอพรรษาแรก จิตใจรู้สึกสงบ และทราบซึ้งในรสพระธรรม จึงได้อุปสมบทตลอดเรื่อยมา



    นสมัยที่ท่านยังมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ท่านได้ธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพรกว่า ๓๐ ปี ไปในที่ทุรกันดารต่าง ๆ ที่ใดที่มีพระอาจารย์เก่งกล้าทางคาถาอาคม หรือ เก่งทางด้านปฏิบัติธรรม ก็จะไปฝากตัวเป็นศิษย์ เพื่อขอศึกษาวิชาความรู้ต่าง ๆ โดยหลวงพ่อทองอยู่นี้ ในสมัยที่ท่านยังหนุ่มอยู่ ท่านจะเดินธุดงค์ไปปฏิบัติธรรมที่ภาคเหนือเป็นประจำทุกปี ซึ่งหลวงพ่อท่านก็มีโอกาสได้กราบนมัสการท่าน พระครูบาเจ้าศรีวิชัย ยอดนักบุญแห่งล้านนาไทยอย่างใกล้ชิดด้วย อีกทั้งยังเป็นศิษย์ในกรรมฐานของครูบาศรีวิชัย ซึ่งท่านครูบาศรีวิชัย ได้เคยชักชวน หลวงพ่อทองอยู่ ให้อยู่กับท่านด้วยกัน แต่หลวงพ่อทองอยู่ยังติดภาระที่ต้องดูแลทางวัดอยู่ จึงเดินทางกลับมา ซึ่งครูบาศรีวิชัย ท่านจะถวายปัจจัยสำหรับค่าเดินทางกลับให้อยู่เสมอมิได้ขาด<o></o> มีอยู่ครั้งหนึ่งหลวงพ่อทองอยู่ ได้กราบเรียนถามพระครูบาเจ้าศรีวิชัย ว่า ปฏิบัติอย่างไรจึงมีเมตตามีบารมี และมีคนนับถือมากมายขนาดนี้ ซึ่งพระครูบาเจ้าศรีวิไชยก็ได้ตอบแก่หลวงพ่อทองอยู่อย่างเมตตา<o></o>
    "พุทโธ ธัมโม สังโฆ นี้แหละ ที่เฮาภาวนาเสมอ มิได้ขาด” และ หลวงพ่อทองอยู่ ได้เคยกล่าวถึงท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย ให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดฟังว่า <o></o>
    “ครูบาเจ้าศรีวิชัยนี้ ท่านมีญาณสูงมาก ด้วยเหตุนี้แหละ จึงมีผู้ตั้งอธิกรณ์ ฟ้องท่านว่าเป็นผีบุญ เพราะไปไหน ก็มีคนติดตามไปเป็นจำนวนมาก บางครั้งก็เดินไปเหนือยอดหญ้า ฝนตกจีวรก็ไม่เปียก ทั้ง ๆ ที่เดินฝ่าฝนไป แต่ สุดท้าย ผู้ที่กล่าวหาท่าน ก็ถูกบาปกรรมตามสนองอย่างน่าสยดสยองที่สุด”<o></o>
    หลวงพ่อทองอยู่ ท่านได้ขอเรียนวิชาเพิ่มเติมจาก หลวงปู่ทอง วัดราชโยธา ท่านเป็นยอดพระเกจิที่เก่งมาก ๆ ในสมัยก่อน หลวงปู่ทอง วัดราชโยธานี้ ท่านเป็นศิษย์รุ่นน้องของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งมีอาจารย์ร่วมสำนักเดียวกัน คือ หลวงปู่แสง วัดมณีชลขันธ์ จ.ลพบุรี (ศิษย์ร่วมสำนักเดียวกันอีกท่าน คือ หลวงปู่แก้ว วัดเครือวัลย์) ซึ่งในสมัยนั้นยังมีพระเกจิอาจารย์อีกหลายท่าน ที่มาขอเรียนวิชาเพิ่มเติมจากหลวงปู่ทอง เช่น หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา, หลวงปู่คง วัดบางกะพ้อม สมุทรสงคราม, หลวงปู่จาด วัดบางกะเบา ปราจีนบุรี, หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ, หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขันธ์ นครศรีธรรมราช, หลวงปู่เหลือ วัดสาวชะโงก ฉะเชิงเทรา, หลวงพ่ออี๋ สัตหีบ ชลบุรี และ หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ<o></o>
    จะ เห็นว่า ลูกศิษย์ของหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา ที่เอ่ยนามมานี้ ล้วนเก่งกล้าวิทยาคม วัตถุมงคลของท่านเป็นที่นิยมของสะสมพระเครื่องทั้งหลาย ดังนั้น หลวงพ่อทองอยู่ ซึ่งเป็นศิษย์รุ่นน้อง หรือ รุ่นสุดท้ายของหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา จึงไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของข้อมูลครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2010
  12. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    สมเด็จปรกโพธิ์ ฐานสิงห์ ลป.หิน วัดระฆัง ปี 2484 สภาพสวยครับ ราคา 1200 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    สมเด็จ พิมพ์ 3 ชั้น ลป.หิน วัดระฆัง สภาพพอใช้ครับ ราคา 700 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    รูปเหมือน เนื้อผงเก่า หายาก ลพ.ผาง วัดอุดมคีรีเขต ออกปี 2512 พร้อมเหรียญรุ่นแรกของท่านครับ สภาพสวย ราคา 600 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2010
  15. boonmobile

    boonmobile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    591
    ค่าพลัง:
    +419
    โอนแล้วนะครับ 900 ครับ
     
  16. nu2581

    nu2581 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,184
    ค่าพลัง:
    +4,676
    พระสวยมากครับท่านเจ้าบ้าน
     
  17. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    ขอบพระคุณครับทุกๆท่าน
     
  18. avis1998

    avis1998 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +347
    ขอจององค์นี้คะ ขอทราบหน่อยคะว่ารุ่นนี้อยู่ในช่วง พ.ศ.อะไรและเนื้ออะไรคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2010
  19. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    รบกวนคุณ avis1998 ช่วยระบุหมายเลขกระทู้ที่จองด้านขวามือของกระทู้ให้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ รุ่นนี้คือรุ่นที่แตกกรุครับ ตามข้อมูลปี 2511 ครับ การสร้างพระพุทโธน้อยปีนั้น น่าจะจัดสร้างขึ้นเพื่อฉลองสมณศักดิ์ พระสิทธิสารโสภณ ด้วยการ นำมวลสารพระพุทโธน้อยยุคแม่ชีบุญเรือนมาเป็นส่วนผสม และใช้พิมพ์เก่ามาเป็นต้นแบบ ด้านหน้าบางองค์ จะมีอักษรตัว "อ" ซึ่งคงหมายถึง วัดอาวุธวิกสิตาราม"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2010
  20. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    พระบูชา รัชกาล ตามุก ปางไสยาสน์ เก่าๆดินไทย พร้อมโต๊ะตั้งบูชาพระ ขนาดองค์พระยาว 5 นิ้ว ความสูง 2 นิ้ว หายาก สภาพสวยครับ ราคา 2000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...