เป็นมุสลิมแต่ศรัทธาในพระพุทธศาสนามากทำไงดีค่ะ

เป็นพุทธเข้ามุสลิมเพราะการแต่งงานบังคับ แต่ก่อนใช้หลักพุทธศาสนาในการดำเนินชีวิต จับผลัดจับผลูต้องรับผิดชอบจับแต่งงาน ต้องเปลี่ยนศาสนาไปด้วยปัญหามีอย่ว่าพยายามเข้ามุสลิมให้ได้แต่ไม่เป็นผลเลย

ปฎิบัตตามในสิ่งที่มุสลิมปฎิบัติหนังสือศาสนาอิสลามก็เอามาอ่าน ละหมาด ซะกาต ตลอดจนอย่มาวันหนึ่งเกิดปัญหาชีวิต ทำสมาธิไม่ได้ ถ้าเป็นมุสลิมต้องละหมาด(คือการเคารพองค์อัลเลาห์) และของพรจากพระเจ้าแต่ไม่เป็นผล เกือบฆ่าตัวตายเพราะทนความทุกข์และความกดดันหาทางออกไม่ได้

จนวันหนึ่ง ตอนนอนแอบสามีสวดมนต์ในใจและนอนสมาธิ วันนั้นทุกข์หาย โป่ร่งเหมือนตัวเบาแล้วเกิดปัญญาแก้ปัญหาได้ทำใจได้ ทุกวันนี้ใช้วิธีแอบสวดมนต์ทำสมาธิ แอบแผ่เมตตาและใช้หลักธรรมะในการดำเนินชีวิตเหมือนเดิม อยากทราบว่าทำได้ไหม บาปไหม แต่ที่รู้สามีจับได้ตายแน่

 

ศาสนาพุทธสอนให้ละชั่ว ทำดี ทำจิตในให้ผ่องใส จึงไม่น่าจะบาปครับ แต่นึกถึงคำสอนโบราณครับ ว่าเกิดเป็นชายอย่าเป็นชายสามโบสถ์ ( หมายถึงเปลี่ยนศาสนาไปเรื่อยๆ ไม่ใช่บวชถึงสามครั้งในชีวิตนะครับ ) คำสอนนี้พิจาณาดีๆมีนัยยะแฝงไว้อยู่นะครับ ทำนองว่าจะกระทำสิ่งใดจงมีศรัทธาและมีสมาธิในสิ่งนั้นๆอย่างมั่นคง ไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเพราะจะหาความสำเร็จได้ยากนะครับ แนะนำได้กว้างๆแค่นี้นะครับ แต่ก็เห็นใจเจ้าของกระทู้นะครับที่เหมือนกลืนไม่เข้าคลายไม่ออก ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยจงช่วยชี้ทางสว่างให้คุณครับ สาธุ

 

บุญกุศลขึ้นอยู่กับใจนะคะ " ใจ ล้วน ล้วน " แม้ว่าเราจะแอบสวดมนต์ สวดมนต์ในใจก็ไม่เป็นไรค่ะ
จิตที่เป็นกุศลตรงนั้น ความตั้งใจตรงนั้นต่างหากเป็นบุญ
พุทธศาสนาไม่ปิดกั้นค่ะ

ในเวลาว่างๆ ที่สะดวกเลือกเป็นการภาวนาพุทโธ ในใจ
หรือมีสติอยู่กับตัวตลอดก็ได้นะคะ
ทางที่ดีถือศีลไปเลยก็ได้ค่ะ
เพราะศีลของพุทธศาสนาเรา ก็เป็นความปกติที่มนุษย์ต้องมีคือ...

- ไม่ฆ่าสัตว์
- ไม่ลักทรัพย์
- ไม่คบชู้ ไม่ประพฤติผิดในกาม
- ไม่พูดปด
- ไม่ดื่มเหล้าเมาสุรา

ในส่วนของศีลนี้อย่ากังวลกับการสมาทานนะคะ ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติ
จะเห็นว่าศีลของพุทธศาสนา เป็นเรื่องที่คนปกติไม่ทำแน่ๆ
ถ้าแฟนพี่ไม่โหดนะคะ มีจังหวะดีดีก็หาธรรมค่อยๆบอกเค้า เค้าอาจโอนอ่อนผ่อนตามเรา

ชื่อศาสนาเป็นเพียงนาม
แต่การกระทำนั่นแหละค่ะเป็นตัวบอกว่าเรานับถือศาสนา
บางคนบอกว่าตัวเองเป็นพุทธแต่ไม่ได้สนใจทำอะไรเลย

** โหลดไฟล์ธรรมะไปฟังดูนะคะ เผื่อช่วยได้
อนุโมทนาสาธุในกุศลจิตของพี่ค่ะ

 

ถ้าเป็นปอย จะเปลี่ยนสามีแหละ อยู่ไปก็ไม่มีความสุขเป็นทุกข์เปล่าๆ

 

บาปอกุศลส่งผลให้ชีวิตเราต้องเข้าไปอยู่ในศาสนาอิสลาม แต่ใจยังรักพระพุทธศาสนาและแอบไหว้พระและสวดมนต์ การกระทำอย่างนี้ไม่บาปหรอกครับ นับเป็นมหากุศลแก่ชีวิตของคุณ ขออนุโมทนา ที่ไม่ทิ้งพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุดในสามโลก ผมเคยอ่านพบที่หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)ท่านได้ตอบปัญหาศิษย์ที่ต้องไปใช้ชีวิตในศาสนาอิสลามว่า ถ้าเราต้องเข้าพิธีละหมาดเมื่อปากพูดถึงพระอัลเลาะห์ ให้ใจเรานึกถึงพระพุทธเจ้า(ทำอย่างนี้ได้บุญใหญ่ ละหมาด 5 ครั้ง คือถึงพระพุทธเจ้า 5 ครั้ง ได้บุญ 5 ครั้ง ละหมาดทั้งวันไปนิพพาน) ใครจะทราบว่าปากเรากล่าวถึงพระอัลเลาะห์ แต่ใจเราเข้าถึงพระพุทธเจ้า หน้าที่ภรรยาคือดูแลสามี แม้คนละศาสนาเราก็อยู่กับเขาได้
ผมจะเล่าเรื่องสมัยพระพุทธเจ้าให้ฟัง พระนางสามาวดี(อาจจำชื่อผิดต้องกราบขอขมาต่อพระรัตนตรัย) เกิดเป็นลูกเศรษฐี สำเร็จพระโสดาบัน(มีศีล 5 ครบถ้วนสมบุรณ์) ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ เมื่อโตเป็นสาวอยู่บนปราสาท 7 ชั้น ด้วยบุบเพสันนิวาสที่เคยสร้างบุญร่วมกันมาแลเห็นนายพรานเดินอยู่ในตลาดเกิดความรักใคร่อย่างจับใจ จึงถอดทรัพย์สินและเสื้อผ้าที่บิดามารดาให้ตนฝากคนรับใช้ไว้ และขอชุดของคนใช้มาสวมใส่แล้วตามนายพรานไปอยู่กินด้วยกัน นายพรานใช้ให้หยิบเครื่องมือล่าสัตว์ก็หยิบให้เพราะสามีใช้แต่ไม่ได้ยินดีหรือยินร้ายในการฆ่าสัตว์ อยู่กันกระทั่งมีลูกด้วยกัน ต่อมาพระพุทธเจ้าไปโปรดนายพรานและลูกๆ จนสำเร็จเป็นพระโสดาบัน
ในกรณีของคุณก็คงเป็นบุบเพฯ สร้างสมบุญร่วมกันมาก่อนนะครับ

 

เหมือนในหนังสือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ จะมีโยมมาปรึกษาหลวงพ่อเช่นนี้ด้วยนะคะ

รู้สึกหลวงพ่อจะเฉลยว่า ก็คิดตั้งจิตไว้ในใจเอาได้ ไม่เป็นไรค่ะ

ถ้าจำไม่ผิดนะคะ
ลองคุณไปแอบค้นอ่านดูนะคะ เพราะข้าพเจ้าอ่านหนังสือจบจะเอาไปถวายวัดเป็นส่วนใหญ่ (เก็บสะสมแต่การ์ตูนไว้)

 

จิตบริสุทธิ์นึกถึงพระท่าน ก็เข้าถึงพระท่านได้ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด ศาสนาใด
ศึกษาเพิ่มเติมโลกุตตรธรรมะ เพื่อพ้นทุกข์ เพื่อพระนิพพาน เพื่อเข้าถึงสิ่งที่เป็นยอดบรมสุข
ได้ที่ Untitled Document

 

อนุโมทนาสำหรับท่านผู้มั่นคงในพระรัตนตรัยครับ สาธุๆๆๆๆ
ศาสนาเป็นที่พึ่งทางใจ ทุกศาสนาล้วนสร้างความสุขให้กับทุกคนทั้งสิ้น ส่วนวิธีการและพิธีกรรมนั้นต่างกันเท่านั้นเอง หากท่านเป็นคนใฝ่กุศล แม้จะแอบปฏิบัติพุทธสร้างกุศล ทาน ศีล ภาวนา ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่าพระอัลเลาะห์ท่านก็จะต้องกล่าวอนุโมทนาบุญกับท่านเช่นกัน

 

หุหุ ราคุเรียวซาย จะเป็นการดีอย่างยิ่งถ้าจะบริจาคการ์ตูนที่อ่านแล้วให้ข้าน้อยได้เรียนรู้ถึงความเยี่ยมยอดของลันม่า เอ้ย รันม่า บ้าง เขียนยังงี้ป่าวหว่า หุหุ

 

เป็นทุกข์....แน่นอน

ถ้าเป็นเรา....ก็ต้องตัดสินใจเลือกเอาแล้ว ล่ะ

เพราะอยู่กับผู้ที่มีศีลไม่เสมอกัน มีปัญญาไม่เสมอกัน มีความเห็นไม่เสมอกัน เป็นความทุกข์ยิ่ง

 

มีแม่ชีที่วัด
เมื่อก่อนเป็นมุสลิม
เป็อาจารย์สอน ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง

ตอนนี้มาบวชชี ที่วัดได้ เป็น 10 ปีปีแล้ว
ตอนนี้ ท่านให้การขึ้นพระกรรมฐาน สาธิต กรรมฐาน ให้กับโยคีอยู่

ท่านช่วยเหลือ ชาวมุสลิมหลายคนที่ต้องการเข้ามาทางพุทธ
หากต้องการคำแนะนำ จะประสานให้

 

พุทธศาสนา ไม่ขึ้นกับเชื้อชาติ ศาสนา และภาวะที่เป็นอยู่ เพราะเป็นความจริงแท้ไม่แปรผัน ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่ดับ การเข้าถึงนั้นอาศัยแต่จิตดวงเดียวเพียงลำพัง แม้จะในท่ามกลางแห่งความเชื่ออื่นๆ ท่านก็สามารถเป็นพุทธได้ ดังพระพุทธวจนะที่ทรงตรัสว่า ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา (ตถาคต)

<font color=green>
<h2> สาธุ สาธุ สาธุ ขอความเจริญ สงบ สว่าง จงมีแด่ท่าน ตราบเข้าพระนิพพาน เทอญ</h2>
</font> <font color=blue>
<h3> ขอพระสัทธรรมจงแผ่ไปในทั่วสารทิศ</h3></font>

 

น่าเห็นใจคุณ naraluky จังคับ ผมแนะนำว่าการปฏิบัติธรรมนั้น กิน เดิน นั่ง นอน ทำอะไรให้มีสติ ละหมาดก็เป็นการทำสมาธิได้เหมือนกัน ขอให้อยู่กับปัจจุบัน เอาทุกข์มาเป็นครูสอน สุดท้ายนี้ อดทนนะครับ

ทำหน้าที่ของภรรยาให้ดีนะครับ อย่าหนีปัญหา สิ่งใดเกิดให้คิดเสียว่าใช้กรรมเก่าไปจะได้สบายใจนะ ระวังอย่าก่อกรรมใหม่เพิ่มล่ะ สู้ๆนะ สติ ๆ ๆ

 

อนิจจาขณะที่ย้ายมาทำงานเชียงราย
ข้าพเจ้าได้หอบเสื่อผืนหมอนใบมักน้อยเฉก
เช่นจอมยุทธ์เย้ยยุทธจักรเพนจรร่อนเร่ทั่วไป
ไม่ยึดติดสิ่งใด
แต่ดันทุรังหอบหิ้ว รันม่า ไป ๓๘ เล่ม หนังสือสวดมนต์หลวงพ่อจรัลหนึ่งเล่ม หนังสือหลวงพ่อฤาษีอีก ๑ เล่ม
แต่ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
พี่ชายสุดที่รักมันมัดของไม่ดี ทำหกตกหล่นกลางป่าใหญ่ไหนไม่รู้
จิ๊บหายไป ๓๐ เล่ม เคืองพี่ชายจนพ่นไฟได้

เลยให้ยืมไม่ได้ คุณพี่ไปหาอ่านที่ร้านหนังสือเถอะค่ะ มันเป็นหนังสืออ่านเล่นที่สนุกที่สุดในโลกแล้ว
จากคำให้การของ แก๊งส์ช่อง ๙ การ์ตูน

ปล.เงินเดือนคราหน้าเค้ายังจะกลับไปซื้อด้วย

 

ส่วนตัวเเล้วเชื่อ ศรัทธาในพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพอย่างเต็มหัวใจ
ขอให้อานุภาพทั้ง 3 ประการเเห่งพระรัตนตรัย คุ้มครอง คุณ naraluky
พบทางสว่าง เเละมีความสุขกับปัจจุบันครับ

ถ้าผิดพลาดประการใดผมขออภัยทุกท่านด้วยครับ

 

โมทนากับวิธีนี้ สั่งสมกำลังใจกำลังบุญของตนไปก่อน ถ้ากำลังยึดมั่นในพระรัตนตรัยจริงๆ หากถึงพระโสดาบัน กำลังที่สูงกว่าจะดึงเขาออกมาเอง แต่ถ้าถึงคราวธรรมะจัดสรรประเภทต่างกันสุดขั้วก็คงsaid goodbye by nature ถึงตอนนั้นก็อีกเรื่อง

จริง ๆ ถ้าคิดซะว่า พระอัลลาห์ของเราคือพระพุทธในใจเราก็จะมีใครแย่งเราไปได้ พระพุทธรูปเขายังแย่งกันได้ แต่ใจไม่มีใครแย่งไปได้ และมันก็เป็นความลับของเราคนเดียว ไม่จำเป็นต้องบอกให้ใครรู้ และไม่ผิดศีลแน่นอน เพราะเราไม่ได้แย่งของใคร ใจเป็นสิ่งที่แย่งไม่ได้ ใจเป็นใหญ่สูงสุด เป็นยอดมงกุฏของชีวิต
กุศล อกุศล พระนิพพาน เกิดที่ใจทั้งนั้น เพราะใจเป็นสมบัติชิ้นเดียวในสามโลกที่ ไม่มีใครอื่นจับจองเป็นเจ้าของได้เลย
บุญและบาปมันจึงติดตัวเราไปตลอดกาลตลอดสมัย ก็เพราะไม่ใครอื่นเอาใจเราไปเป็นเจ้าของได้นี่แหละ

เพียรสั่งสมกำลังบุญไปก่อน ด้วยการตั้งไว้ระลึกไว้ด้วยพระไตรรัตน์อันประเสริฐในใจ ศีล ก็ไม่ยากเพราะมันเป็นปกติที่คล้าย ๆ กัน
ส่วนสมาธิ คือ การตั้งระลึกถึงพระพุทธในใจ หนึ่งขณะ นั่นก็ขณิกะ นานหน่อยก็เป็นอุปาจาระ ไม่ต้องนั่งให้เป็นรูปแบบก็ได้ สมาธิมั่นคงกว่าด้วย ไป ๆ มา ๆ ก็นึกถึงความไม่เที่ยงของอารมณ์ ความคิดบ้าง คิด ถึงทุกข์บ้าง คิดถึงว่า เกิดทีไรก็ทุกข์ทีนั้น ไปนิพพานดีกว่าพระพุทธอยู่ใหนเราก็ไปอยู่นั่น ก็จบ เท่านี้ก็คือการปฏิบัติกรรมฐาน นั่นแหละ ใช้ ใจทำล้วน ๆ คนอื่นไม่มีวันรู้ว่าเราทำอะไรอยู่

เขาให้ไหว้เราก็ไหว้พระในใจ เขาให้ฆ่าไก่ เราก็ใช้ความอ่อนแอให้เป็นประโยชน์ กลัวเลือด ไม่กล้าฆ่า อะไรเทือกนั้น

 

คำถามของคุณก็คือ เป็นมุสลิมแต่ศรัทธาในพระพุทธศาสนามากจะทำยังไงดี
จะปฏิบัติธรรมต่อไปดี หรือหยุดเสีย.... เพราะในเมื่อเรานับถือศาสนาหนึ่ง แต่กลับไปปฏิบัติอีกศาสนาหนึ่ง จะเป็นการบาปมั้ย ซึ่งประเด็นศาสนานี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก

แต่อยากให้ข้อคิดว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ดี องค์อัลเลาะห์ก็ดี หรือพระผู้เป็นเจ้า ตลอดจนองค์ศาสดาในศาสนาอิสลามและศาสนาคริสต์ คือ พระนบีมูฮัมหมัด และพระเยซูคริสต์ เป็นมหาบุรุษ เป็นผู้ที่อยู่เหนือบุคคลทั่วไป เพราะพระองค์มีพระเมตตากรุณาต่อมวลมนุษย์ ดังนั้นพระองค์จะไม่มาทรงคิดว่า เอ้อ ในเมื่อเธอมานับถือศาสนาเรา แล้วเธอจะไปศรัทธาในศาสนาอื่นไม่ได้ เธอจะปฏิบัติตามคำสั่งสอนในอีกศาสนาหนึ่งไม่ได้ เพราะจริงๆแล้ว ศาสนาของเราก็สอนให้คนทุกคนยึดมั่นในความดี ก็ในเมื่อสิ่งที่เธอปฏิบัตินั้น เป็นความดี เป็นสิ่งที่ทำให้เธอมีจิตใจสงบ ละเอียดขึ้น แล้วจะเป็นบาปในศาสนาของเราได้อย่างไร .....

เรื่องประเด็นของศาสนานั้น อยากจะพูดอะไรให้ละเอียดลงไปอีก แต่เกรงว่าจะทำให้คนที่ไม่เข้าใจวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางก่อบาปก่อกรรมให้กับตนเอง และเท่าที่เคยอ่านความเห็นของเพื่อนสมาชิกเกี่ยวกับประเด็นพวกนี้ มีสมาชิกเพียงคนสองคนเท่านั้น ที่อธิบายเรื่องศาสนาในเชิงสากลได้อย่างเข้าใจดี เรียกว่าความเข้าใจพ้นขีดจำกัดไปเลย....

พูดถึงขีดจำกัด มีอีกประเด็นว่าเราเป็นคนพุทธ ศาสนาของเราสอนให้เรามีเมตตากรุณา รู้จักโมทนาบุญ ถ้าเราเห็นคนในศาสนาของเราเข้าวัดทำบุญ เราอนุโมทนาบุญได้ ไม่ใช่เป็นเรื่องแปลก เพราะความรู้สึกเป็นพวกเดียวกัน มีอะไรคล้ายกัน

แต่....แต่ถ้าเราไปเห็นคนต่างชาติ หรือไม่ต้องต่างชาติก็ได้ ต่างศาสนา ปฏิบัติตามศาสนาของเค้า เช่น เห็นภาพเค้าเข้าโบสถ์ สวดมนต์ตามครูสอนศาสนา ละหมาดตามศาสนาอิสลาม หรือเห็นสิ่งก่อสร้างตามศาสนาเค้า เราจะรู้สึกอย่างไร เราจะรู้สึกอนุโมทนาบุญว่าเอ้อ ท่านก็ปฏิบัติดีตามหลักของท่านนะ ศาสนวัตถุนี้ก็ต้องอาศัยความศรัทธาอย่างแรงกล้านะ ขออนุโมทนาบุญด้วยแล้วกัน หรือเราจะรู้สึกเฉยๆ เพราะถือว่าเป็นเรื่องต่างชาติต่างศาสนา ก็เป็นสิ่งที่น่าฉุกใจคิด....

สุดท้าย ขยายอีกนิดก็ได้ ประสบการณ์จริง ของคุณยังแค่สวดมนต์ไหว้พระ แต่ผมเจออิสลามประเภทที่ไปถวายเทียนพรรษา ถวายสังฆทาน ตักบาตร และเข้าวัดด้วยเลย แต่เค้าก็ปฏิบัติตามหลักศาสนาของเค้าด้วยนะ ทียืนยันได้คือ เค้าไม่กินหมูเด็ดขาด อิอิ.....

 

การที่คุณมีใจกังวล แสดงว่า สิ่งที่คุณทำอยู่ทำให้ คุณ ทุกข์ใจ

นั้นแสดงว่า สิ่งที่ทำ ไม่ใช้สิ่งที่ เหมาะสม

ถ้าคุณมี พระรัตนตรัย อยู่ในใจ (สิ่งที่ไม่มีใครแย่งได้)

พระพุทธองค์ไม่ได้ สอนให้เรา ยึดมั่นถือมั่น

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ท่านเคยกล่าวว่า

หากมีคน ชวนไปโบสถ์ ของ คริสต์

กายคุณกราบ รูปปั่นพระเยซู แต่จิต น้อมลงที่ พระพุทธเจ้า

ก็ไม่เห็นผิดอะไร

ปล.เรียกว่า เข้าเมืองตาลิ่ว ต้องลิ่วตาตาม

 

log out ออกไปแล้ว นึกขึ้นได้อีกศาสนาหนึ่ง ก็คือ ศาสนาฮินดู ซึ่งจะถือว่าองค์มหาเทพ เช่น พระศิวะ พระแม่อุมาเทวี พระพิฆเนศ เป็นดั่งพระผู้เป็นเจ้า

แต่ท่านรู้หรือไม่ว่า องค์มหาเทพ มีความเคารพนับถือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเป็นอย่างยิ่ง มีความเคารพศรัทธาในพระพุทธเจ้าตลอดจนพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเป็นอย่างยิ่ง.....

หรือจริงๆแล้ว มีเพียงหนึ่ง.....?

 

ปฏิบัติที่ใจค่ะ อย่างที่หลาย ๆ ท่านบอก กำหนดสติ เอาใจเข้าถึง สวดมนต์ในใจ เราก็ได้บุญจาก กายกรรม และมโนกรรมแล้ว สวดมนต์ก็สวดมนต์ก็สวดในใจ การละหมาด และการปฏิบัติตามพิธีทางอิสลามเพื่อสังคมเพื่ออยู่ได้ แต่สิ่งที่เรานับถืออยู่ที่ใจ ในเมื่อเราเอาจิตเข้ากราบพระพุทธเจ้า นึกถึงพระพุทธเจ้าทุกขณะ กำหนดฝึกด้วยสติปัฏฐาน4 สิงนี้ทำให้ไม่ทุกข์ค่ะและทำให้มีสติทุกขณะจิต