ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินวัดวังกระชอน มอบพระลพ.ฤาษีฯ ลป.สี ลป.บุดดาและอื่น ๆ

เนื่องด้วยวัดวังกระชอน ตั้งอยู่หมู่ 1 ต.พันชาลี อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ได้ก่อสร้างศาลาเอนกประสงค์ขนาด 2 ชั้น เป็นศาลาคอนกรีตเสริมเหล็กกว้าง 8 วา ยาว 12 วา เสาเข็ม 32 ต้น เพื่อใช้เป็นที่ปฎิบัติศาสนกิจต่าง ๆ โดยใช้งบในการก่อสร้างประมาณ 4,500,000 บาท (สี่ล้านห้าแสนบาทถ้วน) ได้ทำการก่อสร้างเรื่อยมาตามลำดับ จนกระทั่งปัจจุบันใกล้จะแล้วเสร็จแล้ว ซึ่งคาดว่ายังต้องใช้งบอีกประมาณ 7 แสนบาท ซึ่งทางวัดยังคงขาดทุนทรัพย์ในส่วนนี้อยู่

จึงใคร่ขอเชิญชวนญาติมิตรทั้งหลายได้ช่วยกันร่วมทำบุญทอดกฐินในครั้งนี้ ซึ่งจะทำการทอดในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน 2553 (ตรงกับวันขึ้น 8 ค่ำเดือน 12) เวลา 10.00 น. โดยรายได้ทั้งหมดจะนำมาใช้ในการก่อสร้างศาลาเอนกประสงค์ในส่วนที่เหลืออยู่ให้เสร็จสิ้นต่อไป

 

ภาพความคืบหน้าตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา




ภาพความคืบหน้าในเดือน กุมภาพันธ์ 2552






ภาพความคืบหน้าในเดือน สิงหาคม 2552






ภาพความคืบหน้าในเดือน มกราคม 2553




ภาพความคืบหน้าในเดือน พฤษภาคม 2553

 

วัดวังกระชอนแห่งนี้เป็นวัดที่หลวงปู่บุดดา ถาวโร ได้เคยมาอยู่ ดังจะสังเกตุได้จากศาลาที่คณะศิษย์สร้างเป็นอนุสรณ์ และห้องที่หลวงปู่บุดดาท่านเคยพักอยู่

 

สำหรับท่านที่ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพกฐินในครั้งนี้ ทางวัดได้มอบวัตถุมงคลให้มาจำนวนหนึ่งเพื่อมอบให้กับผู้ร่วมทำบุญ รวมทั้งผมกับคุณสิริพันธ์และท่านอื่น ๆ ก็ได้มอบวัตถุมงคลให้มาเพื่อมอบให้กับท่านที่ได้ร่วมทำบุญจำนวนหนึ่งด้วยเช่นกัน


และเพื่อเป็นการสะดวกในการตรวจสอบยอดเงินโอนเข้าบัญชี และการจัดส่ง กระผมขอใช้บัญชีนี้เป็นบัญชีบุญกฐินในครั้งนี้ครับ

บัญชี ออมทรัพย์
ชื่อบัญชี เจริญยศ สายทอง
เลขที่บัญชี 654-235725-2
ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขา ชุมพร



<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

รายนามประธานอุปถัมภ์
1. คุณ ธิติ ตันสกุล
2. คุณ สมนันทน์ ศรีเมือง
3. คุณ อนุพงศ์ สมวงศ์
4. คุณ ปรีชา เจนการ
5. คุณ ปาระมิตา
6. คุณพ่อสำราญ - คุณแม่สำรวย สมบุญ
7. ผู้ไม่ประสงค์ออกนามจากต่างประเทศ



รายนามรองประธานอุปถัมภ์
1. คุณ กฤตภาส - กชพร บุญรอดรักษ์
2. คุณ ธเนศ บุญตามชู
3. คุณ สัมพันธ์ การุณวิวัธน์
4. คุณ.............
5. คุณ.............
<!-- google_ad_section_end -->

 

ประธานอุปถัมภ์ หรือท่านที่ร่วมทำบุญกฐินจำนวน 10,000 บาท
ซึ่งผมจะจัดเตรียมผ้ากฐินถวายให้ด้วยท่านละ 1 ชุด (หรือท่านจะไปถวายด้วยตัวเองก็ได้)
และสามารถเลือกรับวัตถุมงคลได้ดังนี้ครับ

รายการที่ 1. เหรียญมหาจักรพรรดิ์ เสาร์ห้า วัดท่าขนุน
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 10,000 บาท




รายการที่ 2. พระองค์ที่ 11 หรือสมเด็จองค์ปฐมปางกายมนุษย์ วัดท่าขนุน
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 10,000 บาท (ผู้ไม่ประสงค์ออกนามจองร่วมทำบุญแล้ว)




รายการที่ 3. ตะกรุดมหาสะท้อน เนื้อเงินหนัก 1 บาท จารมือ หลวงพี่เล็กวัดท่าขนุน
(ได้มาจากการร่วมทำบุญกฐินเมื่อปีที่แล้วจำนวน 10,000 บาท ผมนำมาใส่หลอดเอง)
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 10,000 บาท (คุณปรีชาจองร่วมทำบุญแล้ว)




รายการที่ 4. ตะกรุดเสาร์ห้าเดือนห้า เนื้อทองคำ จารมือ หลวงพ่อสมคิดวัดเขาวง
(ที่วัดไม่มีแล้ว เป็นที่ต้องการของผู้ศรัทธากันมาก เนื่องจากผู้บูชาต่างมีประสบการณ์)
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 10,000 บาท (คุณปารมิตาจองร่วมทำบุญแล้ว)




รายการที่ 5. สมเด็จองค์ปฐม รุ่นยันกลับ เนื้อชุบทอง วัดท่าซุง (คุณสมนันทน์ ศรีเมือง จองร่วมทำบุญแล้ว
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 10,000 บาท





รายการที่ 6. สมเด็จองค์ปฐม รุ่น 3 วัดท่าซุง (คุณอนุพงศ์ สมวงศ์ จองร่วมทำบุญแล้ว)
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 10,000 บาท




รายการที่ 7. สมเด็จองค์ปฐมรุ่น 4 วัดท่าซุง เนื้อชุบเงินและชุบทอง พระยอดธงรุ่นแรกวัดโพธิ์สุทธาวาส พระยอดธงรุ่นชนวน
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 10,000 บาท
(คุณ ธิติ จองร่วมทำบุญแล้ว)








โอนเงินร่วมทำบุญได้ที่
บัญชี ออมทรัพย์
ชื่อบัญชี เจริญยศ สายทอง
เลขที่บัญชี 654-235725-2
ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขา ชุมพร

 

รองประธานอุปถัมภ์ หรือท่านที่ร่วมทำบุญกฐินจำนวน 5,000 บาท
ซึ่งผมจะจัดเตรียมผ้ากฐินถวายให้ด้วยท่านละ 1 ชุด (หรือท่านจะไปถวายด้วยตัวเองก็ได้)
สามารถเลือกรับวัตถุมงคลได้ดังนี้ครับ

รายการที่ 1. รูปหล่อหลวงปู่บุดดา ถาวโร ขนาดบูชา 5 นิ้วเนื้อทองเหลืองสีมันปู (มี 3 องค์)
ด้านใต้บรรจุแป้งเสก ผ้าจีวรและเกศาหลวงปู่บุดดา (องค์พระหนักประมาณ 2 กก.)
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 5,000 บาท (รายการนี้ขอค่าจัดส่งองค์ละ 200 บาท)
ถ้าปิดทองให้ด้วยเพิ่มอีก 1,000 บาท






(รายการนี้ที่วัดกลางชูศรีเจริญสุข ก็ให้บูชาองค์ละ 5,000 บาท เช่นเดียวกัน)

=================================================

รายการที่ 2. พระสังกัจจายน์เรียกทรัพย์ ขนาดบูชา 5 นิ้ว เนื้อทองเหลืองชุบทอง (มี 5 องค์)
ด้านใต้บรรจุแป้งเสก ผ้าจีวรและเกศาหลวงปู่บุดดา (องค์พระหนักประมาณ 2 กก.)
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 5,000 บาท (รายการนี้ขอค่าจัดส่งองค์ละ 200 บาท)





(รายการนี้ที่วัดกลางชูศรีเจริญสุข ก็ให้บูชาองค์ละ 5,000 บาท เช่นเดียวกัน)

=================================================

รายการที่ 3. รวมชุดพระเนื้อผงและโลหะ (มี 3 ชุด)
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 5,000 บาท (รายการนี้ขอค่าจัดส่ง 100 บาท)

3.1 พระชุด ของดี 100 ปี หลวงปู่บุดดา ถาวโร จำนวน 24 องค์ บรรจุในกล่องพลาสติกใส





3.2 รวมพระชุด หลวงปู่บุดดาสายรุ้ง รุ่นโภคทรัพย์ 101 ปี ฝังตะกรุด 3 กษัตริย์ จำนวน 14 องค์
(ฝังตะกรุดทองคำแท้ เงินแท้ นาคแท้ ทุกองค์)










3.3 พระชุดเนื้อโลหะ มหาเศรษฐี 101 ปี





3.4 รูปหล่อหลวงปู่บุดดา เนื้อโลหะอุดแป้งเสก รุ่น 100 ปี




3.5 พระสมเด็จอู่เงิน-อู่ทอง 1 ศตวรรษ รวม 2 องค์



=================================================


โอนเงินร่วมทำบุญได้ที่
บัญชี ออมทรัพย์
ชื่อบัญชี เจริญยศ สายทอง
เลขที่บัญชี 654-235725-2
ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขา ชุมพร

 

กรรมการกฐิน หรือท่านที่ร่วมทำบุญจำนวน 100 บาท ขอมอบพระให้จำนวน 1 องค์

ซึ่งสามารถเลือกรับแบบใดก็ได้ 1 องค์ ดังนี้ครับ (100 บาทต่อ 1 องค์ ค่าจัดส่งครั้งละ 50 บาท )


แบบที่ 1 พระบุดดา 99 เจริญสุข ปี 35 ตอนหลวงปู่อายุ 99 ปี




แบบที่ 2 พระขวัญถุง ปี 34



แบบที่ 3 พระยันต์โภคทรัพย์




แบบที่ 4 พระสมเด็จ หลังใบโพธิ์




แบบที่ 5 พระ 100 ปี เสาร์ห้า ปี 2536



แบบที่ 6 สมเด็จพระพุทธชินราช ด้านหลังรูปใบโพธิ์

 

พระเครื่องชุดวัดบวรฯ (มีอยู่ไม่มาก)
พระชุดนี้ทั้งหมด ได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกเมื่อวันเสาร์ห้าเดือนห้า 20 มีนาคม 2553 ที่วัดท่าขนุนและวัดท่าซุงด้วยแล้ว

1. พระไพรีพินาศ ปี 2536 มอบให้ผู้ร่วมทำบุญกฐินจำนวน 200 บาท




2. พระไพรีพินาศ ปี 2548 มอบให้ผู้ร่วมทำบุญกฐินจำนวน 150 บาท




3. พระสมเด็จ วัดบวรฯ มอบให้ผู้ร่วมทำบุญกฐินจำนวน 100 บาท




4. พระสมเด็จฝังตะกรุด โรยผงฯ ปี 2552 มอบให้ผู้ร่วมทำบุญกฐินจำนวน 150 บาท



ค่าจัดส่งครั้งละ 50 บาท.


พระชุดนี้นอกจากจะเป็นพระดีจากวัดบวรฯ แล้ว ยังได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกในวันเสาร์ห้า เดือนห้าที่ผ่านมา คือวันที่ 20 มีนาคม 2553 ที่วัดท่าขนุน และวัดท่าซุงอีกครั้งหนึ่งด้วย

มีผู้กล่าวกันว่า ในวันเสาร์ห้าที่ผ่านมาดังกล่าวนั้น ถือว่าเป็นฤกษ์มหาเศรษฐีเป็นราชาฤกษ์ ซึ่งต้องรอกันเป็นเวลาหลายปีจึงจะพบกับฤกษ์แบบนี้สักครั้งหนึ่ง ดังนั้นวัตถุมงคลใด ๆ ที่ได้นำเข้าพิธีนี้ ถือได้ว่าเป็นวัตถุมงคลที่สุดยอดในรอบหลาย ๆ ปี อย่างหนึ่งทีเดียว และเคยมีหลวงพ่อฯจากวัดหนึ่งได้บอกไว้ว่า วัตถุมงคลต่าง ๆ ที่ได้เข้าพิธีเสาร์ห้าที่วัดท่าซุงในครั้งนี้ ให้หาเก็บกันไว้ให้ดี ๆ เพราะเป็นของดีต่อไปจะมีราคาสูง

ด้วยมูลค่าในการร่วมทำบุญเพียง 100-150 บาท ถือว่าคุ้มค่ามากในการที่จะได้ร่วมทำบุญกฐินและได้รับพระไว้เพื่อเป็นนุสติ

*** พระชุดนี้ผมมีอยู่จำนวนไม่มากครับ

โอนเงินร่วมทำบุญได้ที่
บัญชี ออมทรัพย์
ชื่อบัญชี เจริญยศ สายทอง
เลขที่บัญชี 654-235725-2
ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขา ชุมพร

 

รายการวัตถุมงคลที่จะนำมามอบให้ผู้ร่วมทำบุญ

 

สีผึ้งจักรพรรดิมหาลาภ (ปิดรายการในกระทู้นี้)
(แผ่นสีดำที่เห็นคือแผ่นเงินเปลว ดูขั้นตอนต่าง ๆ ได้จากไฟล์ที่แนบมาด้านล่าง)
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 149 บาท (สามารถร่วมทำบุญได้ในกระทู้วัดโพธิ์เมืองปัก)



(ค่าจัดส่งครั้งละ 50 บาท)

สีผึ้งจักรพรรดิมหาลาภ
ได้รับคำสั่งจากครูบาอาจารย์ได้มีเมตตามาสั่งพระทางกรรมฐาน ให้ทำพิธีการกวนสีผึ้งตามแบบตำราโบราณและทำการรวบรวมสีผึ้ง
มวลสารที่สำคัญต่างๆของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่นับถือ โดยแต่ละองค์จะมีความโดดเด่นในด้านต่างๆ โดยท่านได้ตั้งชื่อว่า สีผึ้งจักรพรรดิมหาลาภ
ซึ่งท่านยังสงเคราะห์ในมวลสารต่างๆให้ได้มาโดยง่าย สีผึ้งที่ได้มาหลักๆเช่น สีผึ้งของหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค ที่ผสมขี้หอมของหลวงปู่เท่ากำปั้นมือ,
สีผึ้งของหลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรีเจริญสุขจำนวนหลายสิบตลับ, สีผึ้งหลวงพ่อฤาษีลิงดำสมัยท่านยังมีชีวิต, สีผึ้งหลวงพ่ออุตตมะ,
เทียนพุทธาภิเษกของวัดท่าซุงสมัยหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านยังมีชีวิต, เทียนทำน้ำมนต์เสาร์ 5 วัดท่าขนุน, ผงจักรพรรดิ หลวงปู่ดู่ , ผงคำข้าวและหางหมากของ
หลวงพ่อฤาษีลิงดำตอนท่านยังมีชีวิต, ผงอิทธิเจของพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์, ข้าวสารของหลวงพ่อโอภาสี วัดบางมด และผงเกสรดอกไม้ตามสถานที่สำคัญ
ทั้ง 76 จังหวัด เป็นต้น
นอกจากนี้สิ่งของที่ใช้ผสมสำหรับกวน มีขี้ผึ้งแท้ 6 กก., วาสลีน 2 กก., น้ำมันมะกอก 2 ลิตร, น้ำมันหอมเก้ากลิ่น เป็นต้น ซึ่งได้รับความเมตตาจาก
ครูบาอาจารย์หลายท่าน อธิฐานจิตสีผึ้งและสิ่งของต่างๆก่อนการกวนมีดังนี้ หลวงปู่ทิม วัดพระขาวก่อนท่านมรณภาพ, หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน, หลวงพ่อฉาบ
วัดศรีสาคร, หลวงพ่อรวย วัดตะโก, หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว, หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม, หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ, หลวงพ่อหวล วัดพุทไธศวรรย์,
หลวงปู่สวัสดิ์ วัดศาลาปูน, หลวงปู่เก๋ วัดปากน้ำ, หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน, หลวงพ่อนวล <O</O

ทางคณะผู้จัดทำได้ทำการรวบรวมมวลสารต่างๆต่อไปเรื่อยๆ จนครูบาอาจารย์ท่านสั่งให้กวนสีผึ้ง ซึ่งทางคณะผู้จัดทำจึงได้ทำการกวน เมื่อวันลอยกระทง
ปี 2551 เวลาเที่ยงคืน ตามตำราครูบาอาจารย์ที่ท่านได้ถ่ายทอดมาให้ <O</O<O


วิธีใช้<O</O

ให้นึกถึง พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์, พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์, พระธรรม, พระอริยสงฆ์ทั้งหมด, ครูบาอาจารย์ทุกๆองค์, ท่านผู้มีคุณเป็นที่สุด แล้วอธิฐานใช้ตามความประสงค์ ก่อนใช้ว่าพระคาถา นาสังสิโม ปาสุอุชา
<O</O<O​

หมายเหตุ สีผึ้งนี้จะใช้ได้ผลกับท่านที่มีศีล คุณธรรม ห้ามดื่มสุราเมรัย ลักขโมย และท่านที่เป็นมิจฉาฐิทิ สีผึ้งนี้จะใช้ไม่ได้ผล
ถ้าท่านที่ได้ไปสามารถนำไปต่อได้ นอกจากนี้มวลสารที่อยู่ก้นกะทะเวลากวน ทางผู้จัดสร้างได้จัดทำเป็นลูกอมมหาลาภและได้นำพระเกศาหลวงปู่สี
วัดเขาถ้ำบุญนาค, ผ้าจีวรและพระเกศาหลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรีเจริญสุข ผสมในลูกอมมหาลาภในครั้งนี้ถือว่าเป็นวัตถุมงคลที่หายากเพราะมีเกศา
พระอรหันต์ทั้งสององค์อยู่ด้วย

มวลสารสีผึ้งจักรพรรดิมหาลาภ

1. สีผึ้งขี้หอม ล.ป.สี วัดเขาถ้ำบุญนาค
2. สีผึ้ง 100 ปี ล.ป.บุดดา วัดกลางชูศรีเจริญสุข<O</O
3. สีผึ้ง ล.พ.ฤาษีลิงดำสมัยท่านยังมีชีวิต <O
4. สีผึ้ง ล.พ.อุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม
5. สีผึ้งสมเด็จเกี่ยวอธิฐานจิต <O</O
6. สีผึ้งของชมรมรักษ์พระบรมธาตุ
7. สีผึ้ง 108 พระอาจารย์ <O</O
8. สีผึ้ง ล.ป.ทิม วัดพระขาว
9. สีผึ้ง เกศา จีวร ล.ป สรวง
10. สีผึ้งหลวงปู่หงส์<O</O
11. สีผึ้ง ล.พ.จรัญ วัดอัมพวันอธิฐานจิต
12. สีผึ้ง ล.พ.ฉาบ วัดศรีสาคร
13. สีผึ้งเมตตา ครูบากฤษณะ
14. สีผึ้ง หลวงพี่เอก วัดเขาแร่
15. สีผึ้ง ล.พ.คูณ ปริสุทโธ
16. สีผึ้ง ล.พ.นวล วัดไสหร้า
17. สีผึ้ง ล.พ.เฉลิม วัดพระญาติ
18. สีผึ้ง ล.พ.เพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน
19. สีผึ้งหลวงพ่อมหาโส จ.ขอนแก่น
20. สีผึ้ง ล.พ.เอียด วัดไผ่ล้อม
21. สีผึ้ง ล.ป.แย้ม วัดตะเคียน
22. สีผึ้ง ล.พ.ต้วน
23. สีผึ้ง ล.พ.ตุ่น
24. น้ำมันสังคโลกหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
25. น้ำมันชาตรีหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
26. น้ำมันมนต์ ล.ป.ดู่
27. น้ำมันมนต์ ล.ป.สรวง
28. น้ำมันตะเกียง 1 ไตรมาส วัดอัมพวัน
29. น้ำมันมนต์ ล.พ.ฉาบ วัดศรีสาคร<O</O
30. น้ำมันมนต์ ล.พ.เพิ่ม วัดป้อมแก้ว
31. น้ำมันมนต์ ล.พ.เอียด วัดไผ่ล้อม<O</O
32. เทียนเสาร์ 5 พิธีบรวงสรวงพระธาตุจอมกิตติ
33. เทียนพิธีบรวงสรวงพระธาตุดอยตุง คณะวัดท่าซุง
34. เทียนชนวนพิธีพุทธาภิเษกวัดท่าซุง
35. เศษเทียนทำน้ำมนต์วัดท่าซุง
36. เทียนเสาร์ 5 วัดท่าขนุน
37. เทียนขี้ผึ้ง ครูบาพรชัย
38. น้ำมันหอมจันทร์กระพ้อ
39. น้ำมันจันทร์<O</O
40. น้ำมันหอม 9 กลิ่น
41. น้ำมันมะกอก<O</O
42. ผงสถูปพญาเม็งราย
43. ผงพระธาตุพระสิวลี
44. ผงจักรพรรดิ ล.ป.ดู่ วัดสะแก
45. ผงอิทธิเจ พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์
46. แป้งเสกหัวเชื้อ ล.ป.บุดดา <O</O
47. ยานัตถ์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
48. ผงคำข้าวมหาลาภ ล.พ.ฤาษีลิงดำ
49. ผงพระหางหมาก ล.พ.ฤาษีลิงดำ
50. ผงเกสรดอกไม้จากสถานที่สำคัญ 76 จังหวัด
51. ผงดอกไม้บูชาพระเจ้าล้านทอง
52. ผงจักรพรรดิ หลวงตาม้า
53. ผงลูกแก้วจักรพรรดิ หลวงตาม้า
54. ผงมวลสารรวม <O</O
55. ผงพระอายุยืน ล.ป.สี วัดเขาถ้ำบุญนาค
56. ผงพระปิดตานะมิ ล.ป.สี วัดเขาถ้ำบุญนาค
57. ผงพระกลีบบัว ล.ป.สี วัดเขาถ้ำบุญนาค
58. ผงพระรัตนเกษม ล.พ.เกษม เขมโก
59. ผงพระคูณลาภ ล.พ.คูณ ปริสุทโธ
60. ผงพระ ล.พ.เปิ่น รุ่นเสาร์ 5 <O</O
61. ผงพระ ล.พ.ผาง จิตตคุตโต<O</O
62. ผงพระ ล.พ.เกลี้ยง
63. ว่านเมตตา 108 ชนิด
64. แผ่นทองคำเปลว 109 แผ่น
65. แผ่นเงินเปลว 109 แผ่น
66. ผงพระสมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณสิริ) พระองค์ที่ 17


หมายเหตุ<O</O
สีผึ้งจักรพรรดิมหาลาภเมื่อกวนเสร็จแล้ว ในปี 2552 ได้นำเข้าพระอุโบสถ วัดอัมพวัน (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม) แผ่เมตตาตลอดช่วงเข้าพรรษา
เป็นเวลาหนึ่งไตรมาส และได้นำไปให้ครูบาอาจารย์อธิฐานจิตเพิ่มดังนี้
1. ล.พ.คูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่
2. หลวงปู่จันทา ถาวโร วัดป่าเขาน้อย
3. หลวงพ่อหวล วัดพุทไธศวรรย์
4. หลวงปู่สวัสดิ์ วัดศาลาปูน <O</O
5. หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว
6. หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม
<O</O
สีผึ้งจักรพรรดิมหาลาภได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกอีกหลายพิธีดังนี้ <O</O
1. พิธีพุทธาภิเษก วัดเขาถ้ำบุญนาค วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม 2552
2. พิธีพุทธาภิเษก วัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ 20 มีนาคม 2553 (วันเสาร์ 5 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5)
3. พิธีพุทธาภิเษก วัดท่าซุง วันเสาร์ที่ 20 มีนาคม 2553 (วันเสาร์ 5 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5)
4. พิธีพุทธาภิเษก สมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลก วัดพุทไธศวรรย์ (หลวงปู่หวล) วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม 2553
<O</O


สามารถชมภาพขั้นตอนต่าง ๆ ได้จากไฟล์ที่แนบมาด้านล่างนี้ครับ
<O</O

 

พระชุดหลวงปู่สี ฉนฺทสิริ วัดเขาถ้ำบุนนาค


1. พระปิดตานะมิ
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญกฐินจำนวน 300 บาท



พระปิดตาหลังนะมินี้สร้างเมื่อปี 2517 เป็นพระชุดเดียวกันกับที่นำไปถวายวัดท่าซุง แต่ราคาให้บูชาที่วัดท่าซุงปัจจุบัน 1,600 บาท
ท่านใดที่ยังไม่มีไว้บูชา รีบตัดสินใจได้เลยครับ ถือว่ามาร่วมทำบุญกฐินกัน แล้วได้พระไว้บูชา

2. พระปิดตามัดข้าวต้ม (พระปิดตาคลุกฝุ่น หรือพระปิดตาปิดทวาร)
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญกฐินจำนวน 600 บาท



เป็นพระผงชุดอายุยืน สร้างเมื่อปี 2517 เป็นพระชุดเดียวกันกับที่นำไปถวายวัดท่าซุง แต่ราคาให้บูชาที่วัดท่าซุงปัจจุบัน 1,600 บาท
ท่านใดที่ยังไม่มีไว้บูชา รีบตัดสินใจได้เลยครับ ถือว่ามาร่วมทำบุญกฐินกัน แล้วได้พระไว้บูชา

3. พระผงอายุยืน
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญกฐินจำนวน 500 บาท



4. พระพิมพ์พระรอด
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญกฐินจำนวน 350 บาท



5. พระกลีบบัว
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญกฐินจำนวน 350 บาท



6. ลูกอมมหาลาภ
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญกฐินจำนวน 1,600 บาท




**** ค่าจัดส่งครั้งละ 50 บาท

 

พระชุดหลวงพ่อคูณ ปี 2517
ผู้สร้างพระชุดนี้เป็นท่านเดียวกับที่สร้างพระถวายหลวงปู่สี
ร่วมทำบุญ 600 บาท มอบให้ทั้ง 3 พิมพ์


1. สมเด็จนางพญาคูณลาภ ปี 2517
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 200 บาท



2. พระปิดตาคูณลาภ ปี 2517
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 300 บาท



3. พระพิมพ์หลวงพ่อเงินคูณลาภ ปี 2517
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 250 บาท




หากร่วมทำบุญ 600 บาท มอบให้ทั้ง 3 พิมพ์

ค่าจัดส่ง 50 บาท

 

พระหลวงปู่บุดดา ชุดพิเศษ

1. หลวงปู่บุดดาสายรุ้ง รุ่นโภคทรัพย์ 101 ปี ฝังตะกรุด 3 กษัตริย์ทุกองค์ (ทองคำแท้ เงินแท้ นาคแท้)
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญจำนวน 2,500 บาท









2. พระชุด ของดี 100 ปีหลวงปู่บุดดา
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญจำนวน 2,000 บาท

 

จองเพื่อรายการวัตถุมงคล.....7

 

จองเพื่อรายการวัตถุมงคล.....8

 

จองเพื่อรายการวัตถุมงคล.....9

 

จองเพื่อรายการวัตถุมงคล.....10

 

เมื่อเอ่ยถึง พระเครื่องหลวงปู่บุดดา คนเล่นพระเครื่องอาจมองข้ามไปอย่างรวดเร็ว เนื่องด้วยเหตุผลว่า พระท่านไม่ดัง พระท่านไม่แพง หรือห้อยแล้วไม่เท่ โชว์ไม่ได้ หรือไม่มีข่าวคราวปาฏิหาริย์อะไร อย่างฟันไม่เข้าหรือยิงไม่เข้าตามหน้าหนังสือพิมพ์

อันศักดิ์ศรีของหลวงปู่บุดดานั้น แม้จะดูธรรมดาในสายตาชาวโลก แต่สายของเหล่ากองทัพธรรมนั้นสูงสุดจะบรรยาย เพราะท่านเป็นครูบาอาจารย์ของหลาย ๆท่าน รวมทั้งยังได้รับการยอมรับนับถือจากพระอริยะเจ้าหลาย ๆ รูปเลยทีเดียว



ครั้งหนึ่งท่านได้เดินทางไปสนทนาธรรมกับ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก, หลวงปู่บุดดา ได้เทแป้งเสกลงในมือหลวงปู่ดู่ และทันทีทันใดเหมือนกัน หลวงปู่ดู่รีบเทแป้งเหล่านั้นลงบนศรีษะท่านจนขาวโพลนไปหมด ท่ามกลางความ ตกตะลึง ของเหล่าลูกศิษย์ท่านมากๆ เพราะปกติหลวงปู่ดู่ท่านมีกิริยาที่เรียบร้อยเอามากๆ จนเมื่อหลวงปู่บุดดากลับไป ลูกศิษย์ท่านหนึ่ง ถามหลวงปู่ทันที

"หลวงปู่ทำไมเทแป้งอย่างนั้นล่ะครับ" ท่านตอบทันที

"ก็ผง พระอรหันต์ ท่านให้ จะให้เอาไว้ตรงไหนนอกจากบนศรีษะของเรา ไม่งั้นจะเป็นการไม่เคารพ"
และที่สำคัญในพิธีเปิดโลกที่แสนจะโด่งดังนั้น หลวงปู่ดู่ท่านยังเชิญบารมีขององค์หลวงปุ่บุดดามาร่วมเสกด้วย (ทางญาณนะครับ)

แม้แต่องค์ หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง พระเถระที่ปกติไม่สรรเสริฐพระองค์ไหนง่ายๆ ในวันหนึ่ง เมื่อท่านทราบว่าหลวงปุ่บุดดา นั่งอยุ่บนรถบัส ท่านถึงพูดกับลูกศิษย์ว่า "ไม่ให้ท่านลงมานะ เราจะขึ้นไปกราบหลวงปุ่บุดดาบนรถเอง"
แล้วท่านก็ขึ้นไปทั้ง กราบ ทั้ง ไหว้ อย่างเคารพและเรียบร้อยที่สุด

ซึ่งแม้แต่ หลวงปู่สิม แห่งสำนักสงฆ์วัดถ้ำผาปล่อง ยังขอถวายสังฆทานและจีวร เป็นการเฉพาะ และบอกว่า
"หลวงปู่บุดดา ยอดเยี่ยมที่หนึ่ง แก่ทั้งอายุ แก่ทั้งพรรษา และแก่ทั้งมรรคผลนิพพาน"

หากท่านสงสัยในพุทธคุณที่หลวงปู่บรรจุไว้ในองค์พระแล้ว โปรดอ่าน

ครั้งหนึ่งมีคนนำพระไปให้ท่านเสก ส่งไปแล้วท่านก้อส่งกลับ ทำอย่างนี้ถึง 3 ครั้ง โดยไม่แสดงอาการ เสก แต่อย่างใด ท่ามกลางความงุนงงของผุ้นั้นมาก จนหลวงพ่อองค์หนึ่งที่นั่งอยุ่ที่นั้นบอก
"พระองค์นี้ออกรบได้แล้วล่ะโยม"

เต็ม ตั้งแต่ที่ส่งมาให้แล้ว ........ตกใจไหม......

และเมื่อมีคนนำพระไปให้ ครูบาสร้อย วัดมงคงคีรีเขต จ.ตาก พระอาคมขลัง ที่ผู้อ่านศักดิ์สิทธิ์คงรุ้จักกันดี ช่วยเสกซ้ำอีกที ท่านได้ปฏิเสธและให้เหตุผลว่า
"เต็มแล้ว เสกไม่ได้แล้ว"

แม้แต่องค์ หลวงพ่อพุธ ยังปฏิเสธเหมือนกัน และบอก
"จะให้เสกทับไปได้อย่างไร หลวงปู่บุดดาก็เป็นครูบาอาจารย์องค์หนึ่งของเราเหมือนกัน"



หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ท่านเคยบอกให้ลูกศิษย์ไปกราบ หลวงปู่บุดดา ตั้งแต่ที่ท่านยังอยุ่ที่วัดอาวุธ ฝั่งธน กทม. โดยให้เหตุผลว่า

"รีบไปกราบท่านนะ หลวงปู่องค์นี้ ท่านเป็นพระทองคำ ท่านจะไม่มาเกิดอีกแล้วนะ"
และยกย่องหลวงปุ่บุดดาอีกหลายครั้ง และหากท่านสงสัยในกัปกริยาที่ค่อนข้างจะแหวกแนว และ ล่อแหลมขององค์หลวงปู่ ที่มักทำอะไรที่คนทั่วไปมองว่าผิดปกติ ขอให้คิดเอาเสียใหม่ นี่คือเนื้อนาบุญของแท้

พล.ต.ท. น.พ. สมศักดิ์ สืบสงวน อดีตหัวหน้าแพทย์ใหญ่กรมตำรวจเล่าว่า
ปี พ.ศ. ๒๕๑๙ พระราชพรหมยานเถระ (วีระ ถาวโร) หรือ "ฤาษีลิงดำ" แห่งวัดท่าซุงจังหวัดอุทัยธานี จะทำพิธีบรวงสรวงพระธาตุจอมกิติ ที่อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงรายได้สั่งให้ ดร. ปริญญา นุตาลัย และพี่สาว นางชาลินี เนียมสกุล กับ พล.ต.ท. น.พ. สมศักดิ์สืบสงวน ขับรถไปรับหลวงปู่บุดดา ถาวโร ขึ้นไปพบกับท่าน "ฤาษีลิงดำ" ที่อำเภอเชียงแสนอันถือว่าเป็นโอกาสอันดียิ่งสำหรับคนทั้งสาม
ไม่เพียงแต่รับใช้พระสุปฏิปันโนอย่างไกล้ชิดเท่านั้น หากแต่ยังได้สอบถามความสงสัยในเรื่องธรรมะตลอดการเดินทางไปและเดินทางกลับอีกด้วย
นายแพทย์แห่งกรมตำรวจใช้วิธีจดคำถามเกี่ยวกับธรรมะเอาไว้ในกระดาษเป็นข้อ ๆ
"ผมนั่งตอนหลังคู่กับหลวงปู่และมหาทอง" พล.ต.ท. น.พ. สมศักดิ์ สืบสงวนกล่าว
"ระหว่างเดินทางผมก็เอาข้อสงสัยที่รวบรวมไว้ออกมาอ่านทีละข้อ ๆ หลวงปู่ก็เมตตาอธิบายธรรมนั้น ๆ ให้พวกเราทั้งสามคนไปตลอดทางจนรู้สึกว่าทำไมถึงเชียงแสนเร็วอย่างนี้"ขากลับทั้ง 3 คนตกลงใจไม่กลับเส้นทางสายเอเชียจึงพาหลวงปู่บุดดา ถาวโร กับพระมหาทอง กาญจโน ไปพักที่วัดแท่นศิลาอาสน์ จังหวัดอุตรดิตถ์๑ คืน ขณะที่ทั้ง ๓ คนไปโรงพักโรงแรมในเมือง

ครั้นตอนเช้าก็เอารถไปรับเพื่อเดินทาง และก็ได้ปะเข้ากับเหตุการณ์ยากที่จะลืมได้
ท่านกำลังฉันอาหารอยู่กับพระเจ้าถิ่น ๓ รูป พวกเราทั้งสามก็ก้มลงกราบแล้วนั่งรอท่านอยู่ตรงนั้น
สิ่งที่ผม (พล.ต.ท. น.พ. สมศักดิ์ สืบสงวน) ไม่เชื่อสายตาของผมก็ปรากฏขึ้น คือ
ผมเห็นหลวงปู่ท่านลอยอยู่เหนือพื้นที่นั่งประมาณ ๑ คืบ ส่วนอีก ๓ รูปนั่งอยู่กับพื้นธรรมดาผมก็ถอดแว่นออกขยี้ตาตนเองแล้วใส่ใหม่ก็ยังเห็นหลวงปู่ลอยอยู่แบบนั้น

ความสงสัยยังไม่สิ้น จึงค่อยๆ คลานเข้าไปอยู่อีกมุมหนึ่งเพื่อดูว่า ภาพนั้นจะเปลี่ยนแปลงใหม ก็ปรากฏว่าคงเหมือนเดิม จึงได้คลานกลับมานั่งที่เก่าแต่ไม่ได้สะกิดให้คุณชาลินีเนียมสกุล และ ดร. ปริญญา นุตาลัย ดูหรือพูดกันแต่อย่างใด

รอจนกระทั่งท่านฉันเสร็จแล้วลุกจากที่เพื่อกลับไปที่พัก เรา ๓ คนก็ลุกออกมาข้างนอกทีนี้แหละ แย่งกันพูด แย่งกันถามอย่างไม่ได้นัดหมายกันมาก่อน เรื่องที่เห็นท่านลอยอยู่เหนือพื้นนั้นทุกคนต่างนึกกว่าตนเองเห็นแต่ผู้เดียวกระมัง แต่ปรากฏว่าเห็นเหมือนกันหมดทั้ง ๓ คนก็เป็นอันสิ้นสงสัยที่ว่าท่านเมตตาทำให้เราเห็น
คนอื่นแม้จะเข้ามาก็คงไม่ได้เห็นแบบเรา แม้พระอีก ๓ รูปก็ยังไม่มีสิทธิที่จะเห็นได้<!-- google_ad_section_end -->


ที่วัดกลางชูศรีเจริญสุข จ.สิงห์บุรี ยังมีพระท่านตกค้างอยุ่เป็นจำนวนมากครับ ท่านใดสนใจก็ไปบูชากันได้ ซึ่งนอกจากจะได้พระ "แท้" แล้วท่านจะได้มีโอกาสกราบศพหลวงปู่ ที่ไม่เน่าเปื่อย ที่ประดิษฐานในโลงแก้วด้วยครับ และยังมีโอกาสได้รับแจก ผ้าจีวรที่ห่มคลุมศพหลวงปู่ที่ทางวัดจะเปลี่ยนในทุก ๆ ปี ด้วย


ที่มาของข้อมูล : จากกระทู้ของน้องบอย Specialize

 

หลวงปู่บุดดา เมตตามหานิยม มหาลาภ มหาเศรษฐี พระทองคำแห่งสิงห์บุรี<!-- google_ad_section_end -->
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->หลวงพ่อพระราชพรหมยาน กับ หลวงปู่บุดดา




เรื่องที่จะนำมาถ่ายทอดต่อไปนี้ คัดลอกมาจากหนังสือ "เสียงจากถ้ำ (นารายณ์) ฉบับพิเศษ : บนเส้นทางพระโยคาวจร" เขียนโดย "สายฟ้า" [หลวงตาวัชรชัย เจ้าอาวาสวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) ] ผู้ถ่ายทอดกราบขออนุญาตต่อหลวงตาวัชรชัย ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับและจะขอตัดตอนนำเฉพาะบางตอนที่กล่าวถึงหลวงพ่อฤๅษีลิงดำกับหลวงปู่บุดดา ถาวโรโดยตรงมาถ่ายทอด ดังนี้

"ถ้าจะมีพระสงฆ์สักองค์หนึ่งที่สามารถนั่งสนทนาโต้ตอบกับพ่อ (หลวงพ่อฤาษีฯของพวกเรา ) ได้แบบทันปากพ่อ ทันใจพวกเราแล้วผู้เขียนนึกออกมาได้เพียงองค์เดียวจริงๆ นั่นคือ พระคุณหลวงปู่บุดดา ถาวโร หนึ่งในจำนวนพระสุปฏิปันโนที่พ่อนิมนต์มาในงานฉลองวัดเมื่อเกือบ 24 ปี มาแล้ว"

พระคุณหลวงปู่บุดดา ท่านพรมน้ำมนต์ที่ศาลา 4 พระองค์วันนั้นดูเหมือนไม่เหนื่อย แต่พอกลับมาพักที่กุฏิก็จับไข้ตามเดิมผู้เขียนจำได้ไม่มีลืม กลับมาท่านก็ยังไม่ยอมนอนพัก นั่งอยู่ชั้น 2 กุฏิเบอร์ 2 กับผู้เขียนตัวต่อตัว ท่านมองฟ้า มองหลังคาพระอุโบสถวัดท่าซุง ผ่านหน้าต่างกุฏิตายังงี้ใสแจ๋วเหมือนแก้ว ไร้อารมณ์ไร้เดียงสา บริสุทธิ์เหมือนดวงตาเด็ก (เด็กดีๆนะ) ปากก็พูดลอยๆ แต่ชัดเจนว่า

"เออ..งานนี้ (หมายถึงงานวัดเราที่มีพระสุปฏิปันโนมารวมกันถึง 10 องค์) จัดยากนักหนา ใครๆ จะไปนิมนต์พระดีหลายๆ องค์มารวมกันยังงี้ทำไม่ได้หร็อกพระเจ้าแผ่นดินทั่วโลก พระสังฆราช พระสันตะปาปารวมกัน ไปนิมนต์ท่านท่านไม่มาให้หร็อก..! แต่พระมหาวีระ (ตอนนั้นพ่อยังไม่ได้สมณศักดิ์) องค์เดียวทำได้ท่านทำให้ลูกหลานได้ดีกัน แต่หลวงปู่ยังสงสัยว่าลูกหลานทั้งหลายจะเข้าใจเจตนาครูบาอาจารย์ และฉวยความดีนั้นเอาไว้ได้ไหม ?.."

ท่านพูดแค่นั้นแหละ...นิ่งเงียบไปเลยผู้เขียนธรรมดาโง่อยู่แล้ว หลังจากนั้นอีก 3 ปีจึงได้เข้าใจจุดหมายอันลึกซึ้งยิ่งใหญ่ไพศาลที่หลวงปู่บุดดาพูดถึงจะเล่าให้ฟังในตอนสรุปท้ายเรื่อง"พระผู้เป็นเนื้อนาบุญ"ตามลำดับระยะเส้นทางพระโยคาวจร

หลวงปู่บุดดา มีจริยาวาจาตรงๆ ง่ายๆใครก็ทราบกันอยู่แล้ว ที่สำคัญก็คือ เป็นพระสงฆ์ที่รักผ้าครอง 3 ผืน ยิ่งนักจะเห็นว่า ท่านจะพาดสังฆาฏิติดตัวอยู่เสมอไม่เคยขาด อีกอย่างก็คือไม่จับเงินทอง ไม่ให้ผู้หญิงเข้าใกล้ตัวเลยเรื่องสนุกมากๆ ก็เกิดตรงจุดนี้ คือ เมื่อเสร็จจากงานวัดแล้วพ่อก็จัดรถนำลูกหลานไปกราบเยี่ยมหลวงปู่ที่ อ.สรรคบุรี ไปกันหลายคันรถศาลารับแขกของหลวงปู่ที่สำนักนั้นแน่นไปหมด พ่อก็บอกว่า

"ลูกหลานเอ๊ย...ช่วยหลวงปู่สร้างศาลาใหม่นะลูกช่วยกันคนละเล็กละน้อย"

โธ่เอ๋ย...ถ้าหลวงพ่อออกปากอย่างนี้ซ้ำยังบอกว่า

"หลวงปู่บุดดาเป็นพระทองคำทั้งองค์นะลูกนะทำบุญกับท่านก็คือทำบุญกับพระอรหันต์นะ" จากคนละเล็กละน้อยก็รวมเป็นก้อนใหญ่มากๆจำไม่ได้ว่าเท่าไรหลวงพ่อสั่งให้นับจำนวนเงินมัดรวมเข้าเป็นปึกสวยเชียว"

"ถวายหลวงปู่เข้าไป เอ๊า...โมทนาพร้อมๆกันลูกเอ๊ย..."

คนถือเงินน้อมถวายปุ๊บหลวงปู่ก็คว้าย่ามมาแหวกปั๊บ แหวกกว้างเลยกะให้เงินหล่นใส่ย่ามไม่ถูกมือท่านเท่านั้นแหละท่านผู้อ่าน พ่อเราก็คว้าเงินทั้งปึกมาถือไว้...แย่งเอาเสียเองเลย

"หลวงปู๊....." พ่อทำเสียงยาวเลย

"นี่...ถ้าจับเงินไม่ได้ก็ไม่ต้องเอานะ...นี่ถ้าพระใจเป็นแก้วทั้งใจอย่างหลวงปู่ยังคิดว่าไอ้แบงก์กับธาตุดินมันยังมีค่าต่างกัน...ถ้าธาตุดินนี้มันทำให้ใจหลวงปู่เสียหายได้ก็ไม่ต้องเอาน๊ะ...."

เท่านั้นแหละหลวงปู่ผู้ไม่จับเงินมาตลอดชีวิต ก็มีอันเปลี่ยนไปท่านคว้าเงินมาจากมือพ่อ

"เอาของเขาคืนมานะ..." จับ 2 มือแน่นชูขึ้นตรงหน้าเลย

"นี่..นี่..นี่ บุดดาจับเงินแล้วนะจับเงินแล้วนะ"

จับยัดใส่ย่ามวางบนตัก ชนิดใครก็มาแย่งไปอีกไม่ได้พวกเราหัวเราะกันลั่นเลย หัวเราะไปใจเป็นสุขที่สุด ไม่รู้ว่าเป็นสุขเพราะอะไร...พ่อบอกอยู่เสมอว่า

"ใจพระทองคำแท้ (พระอรหันต์) ท่านไม่ติดอะไรทั้งโลก แม้ร่างกายตัวท่านเองแต่ท่านอยู่กับร่างกายและโลก เกี่ยวพันบริหารงานโลกโดยใจไม่มีทุกข์โทษเวรภัยใดๆมาทำให้มัวหมองแปดเปื้อนได้ เมื่อใจไม่ติดแน่นอนแล้ว จริยาทางกาย วาจาก็ลดลงมาหากระแสโลกเพียงเพื่อสงเคราะห์จะได้พูดกันแนะนำกันรู้เรื่องแบบธรรมดาโลกเขา แต่จริยาท่านอยู่ในสมณมารยาทในวินัยประเพณี ไม่มีบกพร่องด่างพร้อย เมื่อพ่อกล้าทำอย่างนั้นพ่อก็กล้าชักชวนให้หลวงปู่องค์อื่นออกมาทำงานแทนคุณพระพุทธเจ้าก่อนที่ร่างกายจะสลายหายประโยชน์ไปพระคุณหลวงปู่บุดดาท่านเข้าใจ เต็มใจทำอยู่แล้วเมื่อมีเพื่อนผู้รู้ใจมารับรองประคองเชิญท่านก็ก้าวออกมา..."<!-- google_ad_section_end -->