'ราชประสงค์'ป้ายสะกดวิญญาณ

'ราชประสงค์' ป้ายสะกดวิญญาณ




อึ้ง ป้ายแยกราชประสงค์อันใหม่ผิดหลักฮวงจุ้ย ซินแสชื่อดัง ชี้การผูกผ้าแดง จุดเทียนไขที่ป้ายเป็นการเชิญวิญญาณร้ายมาสถิตย์ ชี้จะเกิดเหตุร้าย แนะ เพิ่มกระจก และสิ่งมันวาวเข้าไปจะทำให้ประชาชนบริเวณนั้นและรัฐบาลอยู่เย็นเป็นสุข...

เรื่องนี้ ซินแส ธนากร ตันอาวัชนการ ประธานชมรมฮวงจุ้ยกับชีวิต วิจารณ์ผ่านไทยรัฐ ออนไลน์ ถึงลักษณะของป้ายสี่แยกราชประสงค์อันใหม่ ภายหลังที่สำนักงานเขตปทุมวันได้สั่งถอดออกไป โดยให้เหตุผลว่ามีคนพ่นสีทับป้ายทำให้เสียหายว่า จะด้วยรู้หรือไม่รู้ การย้ายป้ายนี้ออกไปจากส่ี่แยกราชประสงค์ตามหลักฮวงจุ้ย นอกจาก จะไม่ส่งผลดีกับเสื้อแดงและรัฐบาลแล้ว การทำป้ายใหม่ขึ้นมาก็ยังถือว่าไม่ถูกหลักฮวงจุ้ย

“ปฏิเสธไม่ได้ว่าตลอดระยะการชุมนุม กระทั่งที่ผ่านมาป้ายนี้มักจะมีคนมาผูกผ้าสีแดงหรือพ่นสีทับอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการทำเช่นนี้เป็นเหมือนการที่คนสมัยก่อนเห็นเสาตกน้ำมันหรือต้นไม้แปลกหรือต้นใหญ่มักจะผูกผ้าหลายสีเอาไว้ การทำแบบนี้เหมือนเป็นการกระตุ้นให้สิ่งเหล่านั้นมีพลังไสยศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง และจะด้วยตั้งใจหรือไม่การที่บางคนนำผ้าแดงมาผูกที่ป้าย ซึ่งมีความหมายแห่งนี้เหมือนกับเป็นการจุดเทียนนำวิญญาณมาให้กินของเซ่นไหว้ที่นี่ เหมือนกับพิธีที่ตามต่างจังหวัดพอเขาจะเอาศพไปเผา เจ้าภาพก็จะแจกเทียนก่อนวันเผาให้คนในที่ชุมนุมจุดเทียนหน้าบ้านเพื่อที่วิญญาณจะได้เดินตามทางไปถูก ซึ่งตามหลักฮวงจุ้ยถือเป็น“พลังอิม” หรือให้แสงสว่างแกคนที่ตายแล้ว ส่วน “พลังเอี้ยง” คือ พลังแสงสว่างของคนที่มีชีวิตการย้ายป้ายแม้จะเอากลับมาติดตั้งเร็วก็เหมือนกับการย้ายจุดรวมวิญญาณตรงนี้แม้ว่าจะทำมาใหม่ก็ยังถือว่าไม่ถูกหลักฮวงจุ้ยนัก ซึ่งเกรงว่าจะมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้น”

ประธานชมรมฮวงจุ้ยกับชีวิต แนะนำวิธีแก้ไขว่า จากที่ดูตำแหน่งฮวงจุ้ยการหันหน้าของป้ายนี้ที่หันหน้าไปยังพระพรหม ซึ่งเป็นตำแหน่งเหล็กและโลหะ มันวาว ซึ่งป้ายใหม่น่าจะนำสิ่งเหล่านี้มาเสริมฮวงจุ้ยให้กับคนและสถานที่บริเวณแห่งนี้ด้วย

“เหมือนคุณปลุกผีมาจะด้วยรู้หรือไม่ตั้งใจไม่รู้ทั้งการจุดเทียนปักเป็นแถวในวันรำลึก 2 เดือนที่ราชประสงค์ในวันครบเมื่อเร็วๆ นี้ แม้กระทั่งการผูกผ้าแดงที่ป้ายราชประสงค์ ซึ่งอยู่ในตำแหน่งเก็บรวบรวมและสร้างสมดุลย์ของวิญญาณแห่งนี้เอาไว้ ซึ่งเมื่อคุณเอาป้ายออกไปทำทั้งที ก็น่าจะทำเสริมลักษณะป้ายให้ถูกหลักฮวงจุ้ยโดยการนำวัสดุมันวาวเติมลงไปในป้ายซึ่งจะทำให้รัฐบาลและคนบริเวณนั้นจะได้อยู่เย็นเป็นสุข”





ด้าน ซินแสชื่อดัง รัชตะพงศ์ ปุกหุต ผู้มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการดูฮวงจุ้ยมากว่า 30 ปีเห็นตรงกันว่า การย้ายป้ายราชแยกประสงค์ตรงนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สมควรมากๆ

“เนื่องจากแยกราชประสงค์นั้นเป็นบริเวณที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เวียนว่ายอยู่มากมาย ซึ่งเดิมมันหมุนเวียนดีอยู่แล้ว การย้ายป้ายออกไปจะทำให้บริเวณนั้นไม่สมดุลย์ แต่การนำป้ายมาติดตั้งไว้ ซึ่งหากจะให้ดีไหนๆ รื้อทั้งที ก็น่าจะเติมกระจกเงาเข้าไปที่ป้ายเพราะกระจกเงาคือธาตุทอง มันจะสามารถลดกำลังความร้อนแรงของแยกนั้นลงมาได้บ้าง เพราะป้ายนี้เป็นลักษณะของตัวรับคลื่นแม่เหล็ก ส่วนขาตั้งป้ายกทม.ก็น่าจะเปลี่ยนลักษณะ เนื่องจากปัจจุบันป้ายมีขา 2 ขาตรงๆ ลงมายึด แนะนำว่าให้ทำเราก็ทำเหมือนกับขาสามเหลี่ยมลงมายึดแทน เพียงแต่ว่าไม่ให้มันเสียสมดุลย์ เพราะว่าสามเหลี่ยมฐานไฟมันยังอยู่”

ส่วนคำว่าราชประสงค์ที่เขียนลงบนป้ายนั้นเป็นสีน้ำเงินเข้ม ดีกว่าพื้นสีน้ำเงินสว่าง เพราะน้ำเงินเข้มมันเป็นธาตุไฟใหญ่ ส่วนอักษรใช้สีขาวบริสุทธิ์ถือว่าถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยที่ดีแล้ว.






<LABEL>ไทยรัฐออนไลน์</LABEL>

<SMALL>วันพุธที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ.2553</SMALL>
'ราชประสงค์' ป้ายสะกดวิญญาณ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

เรื่องร้ายคงผ่านไปหมดแล้วหละครับ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตอยู่บริเวณนั้นท่านคงเมตตาช่วยเหลือ ป้ายก็ส่วนของป้ายไปเถิด จุดประสงค์ก็แค่บอกชื่อสถานที่ ไม่ได้มีอิทธิพลมากมาย ทุกอย่างที่เลวร้ายที่เกิดขึ้นนั้นมีฮวงจุ้ยปนอยู่ไม่ถึง 20 % จะดีหรือร้ายประการใดก็มาจากคนเป็นผู้กระทำทั้งนั้น ถึงฮวงจุ้ยจะเลวร้ายแต่คนที่นั่นสงบสุขก็ยังดีกว่า ฮวงจุ้ยดีแต่ยังมีความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้นมิใช่หรือ ?

 

คนเราทำอะไรไว้ก็ต้องได้รับกรรม
ทำอะไรกับเค้าไว้ ก็ได้อย่างนั้น
ไม่ต้องแก้นู้นแก้นี่

 

เทพคุ้มครองผู้มีศีลธรรม ไม่คุ้มครองผู้ขาดศีลธรรม

 

ผมว่าเรา อุปทานกันไปเอง

 

่คนเราไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ที่จะทำร้ายเราได้ก็เห็นจะมีแต่ "กรรม" เท่านั้นเอง

 

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

สรรพสิ่งล้วนเปลี่ยนเแปลง ไม่คงทนอยู่สภาพเดิมได้ตลอด ไม่มีเจ้าของที่แท้จริง

ทุกตัวตน สิ่งของ ความคิด เงิน ทอง ลาภ ยศ สุข ทุกข์

จริงแล้ว ไม่ทราบหรอกว่าใครเป็นอย่างไร...แต่รู้แค่ว่า กฏแห่งกรรมนำพา เราทุกคนมาถึงจุด ๆ นี้แล้ว...มันอาจจะเป็นชะตากรรมร่วมสำหรับคนกลุ่มแต่ละกลุ่ม

แต่ผมว่าก็แปลกกันดีนะ แก่ ๆ กันตั้งอายุ 40-50-60 กันแล้ว ยังปล่อยวางอำนาจกันไม่ได้เลยสักฝ่าย ทั้งที่แต่ละฝ่าย ถึงจะไม่ทำอะไรแล้ว เงิน ทอง ลาภ ยศ ก็ยังอยู่เหมือนเดิม เพราะมีเยอะจนใช้กันทั้งชาติก็ไม่หมด...คนเราอีกแค่ 10 -20 ปี น่ะเป็นช่วงเวลาที่รวดเร็วมาก...และอายุเฉลี่ยของพวกคนเราปัจจุบัน ก็แค่ประมาณ 80ปีเอง ถือว่าปลายทางกันหมดแล้ว

ผมบอกตรง ๆ ว่าผมอายุจะ 30 แล้ว...ยังอดเวทนาใจ แทนพวกท่านเหล่านี้ไม่ได้เลย ทั้งที่พวกเค้านั้น ใกล้ฝั่งมากกว่าผมแต่ยังไม่สามารถตัดอะไรกันได้เลยสักอย่าง...มีแต่จะก่อปมขึ้นมาร่วมกัน

"ผมไม่ได้ออกความคิดเห็นทางการเมืองหรือพาดพิงฝ่ายใดเลยนะครับน่ะครับ...ลองพิจารณาข้อความกันให้ดีก่อน...แ่ต่เพียงแค่ชีให้เห็น คำว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ที่เกิดขึ้นจริง และเป็นตัวอย่างได้ในประเทศของเรา...โดยที่พวกเขาเหล่านั้นยังไม่รู้ตัวกันเลย ว่าคำนี้มันเข้ามาใกล้ตัวพวกเขาทุกทีแล้ว ในขณะที่กำลังยึดเหนี่ยว ดึงรั้งไว้ กันอย่างสุดชีวิตในทุกฝ่าย"

 

เห็นด้วยอย่างรุนแรงเลยครับ

 

หุ หุ
ก็ว่ากันไป...

 

การใช้อำนาจ กับการคร่าชีวิตผู้คน ไม่รู้ว่าคนที่สั่งทำ จะได้ไปเกิดเป็นอะไร

 

ขนาดป้ายอย่างมีผลขนาดนี้เลยหรือคับ
​

_______________________________________________________________________

เล่ม 1. หนทางแห่งการพ้นทุกข์.rar
เล่ม 2. หนทางแห่งการบรรลุ.rar ​

 

ของแบบนี้ค่อนข้างมีอิธิพล(ทางใจ)อย่างมากกับคนไทยเราน่ะ
^______________^~

 

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

........ขออนุโมทนา สาธุ กับคำกล่าวทั้งหมดของคุณทัศนดิษฐิ์.....

 

อยู่อย่างพุทธทำไมไม่คิดถึงอย่างพุทธมั่งเล้ยย

 

กรรมใคร กรรมมัน ทุกข์ใคร ทุกข์มัน หากทำตนให้จิตหลุดพ้นได้ ไม่ต้องแก้อะไรเลยครับ แก้ที่ตนเอง

 

กรรม คือ สิ่งที่จะหลีกเลี่ยงไม่พ้น
ทำกรรมดี : ย่อมได้รับผลดีตอบสนอง
ทำกรรมชั่ว : ย่อมได้รับผลชั่วตอบสนอง

............... ใครทำอะไรไว้..คงรู้แน่แก่ใจตนเอง...!!!

 

คนเรามักรู้แต่ว่าทำอะไร แล้วจะดีอย่างนั้น ดีอย่างนี้

แต่มักไม่รู้ว่าทำความดี.........นั้นต้องทำอย่างไร

ปัญหาถึงเกิด น่าจะเป็นเพราะ คน มากกว่า

 

ขุดแล้วเจาะ เจาะแล้วขุด กินงบมาไม่รู้เท่าไร ถ้าทำป้ายใหม่แล้วเชื่อว่าดี เป็นวิชาขาว ก็น่าทำ คนใหญ่คนโตเขายังเชือดไก่ในโบสถ์ นั่งที่บนที่ประทับ เล่นวิชาดำเลย ไม่เชื่อก็ไม่ได้ ความวุ่นวายทุกข์ร้อนของคนในบ้านเมือง เราก็เห็นๆกันอยู่แล้ว

 

คนตายเงียบหาย ห้าไหม้ร้องให้กันระงม ......เยียวยาแต่สิ่งของ เฮ้อ..... คนไทยเหมือนกันรึเปล่า

 

รัฐทำอะไรกับประชาชนบ้าง กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมตอบสนอง
โดยเฉพาะหัวหน้าที่บัญชาการล้อมปราบประชาชนด้วยความรุนแรง