ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ชอบครับ "เมตาตรอน" รอติดตามนะครับ

 

ยังคงเป็นแฟนคลับพี่ชยุตเหมือนเดิมนะคะ เป็นกำลังใจในทำงานที่ไม่ค่อยมีใครเค้าทำกัน ถ้ารออยู่ถึงวาระสุดท้ายได้ก้อจะรู้เองไม่ว่าใคร

 

คุยไปคนละเรื่องเดียวกันเลย
ช่างเป็นการแลกเปลี่ยนพลังงานระหว่างกันอย่างมีสีสันจริง ๆ

 

เห็นด้วยครับ ขอสนับสนุนอีกคน

 

You Can't Say It Any Better Than This.

 

เห็นด้วยกับคุณuuuu0010 ค่ะ
แสดงความคิดเห็นต่างกันได้
แต่ควรใช้วาจาให้สุภาพด้วยนะคะ...
ในโลกนี้มีสิ่งที่เรายังไม่รู้อีกเยอะนะคะ
นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่สามารถค้นพบได้
มีข้อมูลใหม่ๆเราก็ควรศึกษาเอาไว้นะคะ
สมัยก่อนคนก็เชื่อแต่ว่าโลกแบน พอมีคนบอกว่าโลกกลมก็หาว่าเค้าบ้า
แล้วต่อมาเป็นยังไงหละคะ ก็สรุปว่าโลกกลมอย่างที่เค้าว่าจริงๆใช่มั๊ยคะ..

 

รออ่านขยายความรู้ทางปัญญาต่อค่า.....

 

รออ่านด้วยค่าาาา chearr

 

พวกมนุษย์ต่างดาว อยู่ในมิติ คู่ขนาน
ร่างกายเป็นกายละเอียด ปนกายหยาบ
ชีวิตความเป็นอยู่ สุขสบายมาก เพราะถือศีลเคร่งครัดมาก
เป็นระบบ รัฐสวัสดิการ คือ รัฐเตรียมปัจจัยการดำรงค์ชีวิตให้ทุกครัวเรือน
แปลว่า ทุกคน คือ พนักงานของรัฐ จึงมีฐานะเท่าเทียมกันหมด
ไม่มีเศรษฐกิจแบบทุนนิยม ไม่มีการผลิตเพื่อขาย
มีแต่ผลิตเท่าที่จำเป็นจะต้องใช้จริง ๆ ธรรมชาติจึงสวยสดงดงามมาก
ทุกครอบครัว จะอยู่บนยานบิน ที่รัฐบาลเตรียมไว้ให้
รัฐบาล สามารถควบคุม ทุกขั้นตอนในการดำเนินชีวิต
ควบคุมได้แม้กระทั่ง จะอนุญาติให้ดวงวิญญาณ ดวงนี้เกิดได้หรือไม่
คือ ถ้าทำผิด ก็หมดสิทธิเกิดใหม่
พวกมนุษย์ต่างดาว จะมีศาสนา ที่เชื่อว่ามีพระผู้สร้าง (อ.เทพพนม)

บางที มนุษย์ต่างดาว อาจเป็นผู้ถ่ายทอด เรื่องราว เกี่ยวกับ พระผู้สร้าง
ให้กับศาสดาของ ศาสนาคริสต์ หรืออิสลาม ก็เป็นได้
ศาสนา เหล่านี้ ก็อาจจะเป็น ศาสนา ที่มีเบื้องหลัง มาจาก มนุษย์ต่างดาว

แตกต่างโลกมนุษย์เรา ที่เรียกว่า ชมพูทวีป เป็นดาวเสรี ตามยถากรรม
ชีวิตมีทุกข์ปนสุข จึงเห็นสัจธรรมได้ง่าย
มีแต่ชมพูทวีป เท่านั้น ที่มีพระพุทธเจ้า
มีแต่ชาวชมพูทวีป เท่านั้น ที่ไปนิพพานได้
พวก มนุษย์ ต่างดาว จึงอดไปนิพพาน

 

ตาม SAVE ข้อมูลของคุณ Chayutt ทันแล้วครับ เวลานี้ประมาณ 400 หน้า A4 จัดเรียงหน้า-บรรทัด ไปแล้ว 7 หน้าของกระทู้

ยังเหลืออีก กระทู้ คือ ข้อความจากต่างมิติ - มิติคู่ขนาน,โลกใต้พิภพ,UFO,Yeti

 

พอดีเหลือเวลาอีกแค่ประมาณ 2 สัปดาห์เท่านั้นเอง
ที่นักปฏิบัติธรรมทั้งหลาย จะได้หยิบฉวยโอกาสพิเศษ
ที่ฟ้าประทานให้นี้มาส่งเสริมการปฏิบัติธรรมของตนเอง

มิน่าหละข้อความของใครนะจำไม่ได้ ที่ว่าเดือน 7 นี้
อาจจะมีผู้ที่ (ระดับจิต) ไปอยู่ในมิติที่ 5 ก่อนเพื่อนแล้วก็ได้

ขออภัยที่เอาข้อความต่อไปนี้ มาโพสต์ช้าไปหน่อยนะครับ
เพราะว่าผมก็เพิ่งได้มาอ่านเมื่อไม่กี่วันมานี้เหมือนกันครับ

และก็ดูท่ามันจะเป็นอย่างที่ท่านว่ามาจริงๆด้วยนะครับ
เพราะประสบการณ์ส่วนตัวของตัวเองตั้งแต่ปลายเดือน 6
จนถึงต้นเดือน 7 นี้ มันเป็นไปในทำนองนั้นจริงๆด้วย จนแปลกใจ

ลองอ่านกันดู และหาประโยชน์ให้เจอ เพื่อนำไปใช้เอาเองนะครับ

.........................................................................

 

<o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-com<img src=" http:="" palungjit.org="" images="" smilies="" omg-smile.gif="" border="0" alt="" title="Surprised" smilieid="34" class="inlineimg"></o:smarttagtype> ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากท่านมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

สื่อสารมาเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2010
ผู้รับการสื่อสาร นาย Tyberonn

ที่มา:
The Extraordinary Eclipses of the Grand Cross > Earth Keeper



สวัสดีทุกๆคน เราคือ Metatron ราชาแห่งแสงสว่าง

เราขอทักทายทุกคนด้วยความรักแบบไม่มีเงื่อนไข จริงๆแล้วความรักแบบไม่มีเงื่อนไขนี้
คือความรักที่พวกคุณจะต้องการตลอดหลายสัปดาห์นับจากนี้ไป เพราะว่าพวกคุณกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการทดสอบที่ทรหด
ที่มีระดับความเข้มข้นของพลังงานมากที่สุดช่วงหนึ่งในรอบหลายพันปีของโลก
และอุณหภูมิสัมพัทธ์ก็จะสูงขึ้นอย่างรวดเร็วด้วย เพราะมันได้รับแรงกระตุ้นจาก “เพชรทั้ง 3”
(Diamond Triad – ซึ่งหมายถึงปรากฏการณ์ดาวเรียงกันครั้งใหญ่,จันทรุปราคา และสุริยุปราคา)
และพลังงานจาก “คลื่นโอม” (OM wave) ที่สภาแสงสว่างแห่งเอกภพ (Cosmic Council of Light) ได้มอบไว้ให้แก่พวกคุณ

ใน 5 สัปดาห์นับตั้งแต่บัดนี้ (26 มิถุนายน – 4 สิงหาคม 2010)
มันจะมีปรากฏการณ์บนท้องฟ้าที่สำคัญอยู่ 3 อย่าง ได้แก่

<!--[if !supportLists]-->- จันทรุปราคา ของพระจันทร์เต็มดวง ในวันที่ 26 มิถุนายน 2010<!--[endif]-->

<!--[if !supportLists]-->- สุริยุปราคา ในวันที่ 11 กรกฎาคม 2010<!--[endif]-->

<!--[if !supportLists]-->- การเรียงตัวกันครั้งใหญ่ ของดาวทั้ง 5 ดวงในเดือนกรกฎาคม 2010<!--[endif]-->




จันทรุปราคาของพระจันทร์เต็มดวง ในวันที่ 26 มิถุนายน 2010 เป็นปรากฏการณ์ที่มีพลังมากๆ
และมันก็เป็นดาบสองคม ที่สามารถกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางบวกครั้งใหญ่ได้
ถ้าหากเข้าใจและนำไปใช้อย่างถูกต้อง

แต่ความเข้มข้นของพลังงานของมันก็อาจจะทำให้สนามพลังออร่าของร่างกายคุณฉีกขาดได้
และทำให้คุณเสื่อมถอยลง มันขึ้นอยู่กับคุณว่าจะตอบสนองด้วยการใช้อารมณ์และความไม่อดทน
หรือว่าจะตอบสนองอย่างชาญฉลาด และใช้มันไปในทางสร้างสรรค์ เพื่อฝึกจิตของตนเองให้ผ่องแผ้วยิ่งขึ้น


ก็เหมือนกับเบ้าหลอมโลหะนั่นแหละ ที่จะต้องใช้ความร้อนสูง เพื่อทำให้โลหะบริสุทธิ์

เราจะบอกพวกคุณว่าพลังงานจากฤดูครีษมายันในขณะนี้ และปรากฏการณ์
“เพชรทั้งสาม” ของการเรียงตัวกันครั้งใหญ่ของดวงดาว
ที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ จะเป็นช่วงเวลาที่มีระดับพลังงานสูงที่สุด
ในรอบหลายพันปีของดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ
ซึ่งบัณฑิตทั้งหลาย และผู้รู้ในแวดวงโหราศาสตร์ของพวกคุณรู้เรื่องนี้ดี

จริงๆแล้วการเรียงตัวของดวงดาวทั้ง 5 และความช่วยเหลือจากบรรดาเทพเทวาทั้งหลาย
จะทำให้เกิดคลื่นความถี่ที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ และพิเศษเฉพาะจริงๆ ที่เอื้ออำนวยแก่การสะสาง
และขัดเกลากิเลสภายในใจอย่างมาก

แต่ในขณะเดียวกันมันก็สามารถทำให้จิตใจว้าวุ่นกระวนกระวายได้มากพอๆกันด้วย


เพราะฉะนั้น ในช่วงเวลานี้ จงระมัดระวังและหมั่นตรวจตราพฤติกรรมและการกระทำของตนเองให้มาก
และจงพยายามประคองรักษาสนามพลังออร่าของตนเองไว้ให้มั่นคง จงคิดก่อนพูด
จงอย่าปล่อยให้อารมณ์ร้ายๆเกิดขึ้น เช่น ความโกรธ, ความอิจฉาริษยา, ความเศร้าหมองหดหู่, ความรู้สึกผิด
และความลังเลสงสัย เป็นต้น จงอย่าปล่อยให้มันเข้ามารุกรานพลังงานของพวกคุณ

ในช่วงเวลาแห่งการทดสอบที่ทรหดนี้ มันจะเป็นเรื่องง่ายมากๆ ที่จะเกิดการพลาดพลั้งแสดงอารมณ์
และสื่อสารสิ่งที่ไม่ดีออกไป จนทำให้ความสัมพันธ์กับผู้อื่น และจิตใจของตนเองเกิดความเสียหายขึ้น

ทางที่ดีคือจงใช้พลังงานของช่วงเวลานี้
เพื่อที่จะสำรวจเข้าไปภายในจิตใจของตนเอง
แล้วค้นหาอุปนิสัยที่ไม่ดี และกิเลสทั้งหลาย
ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในใจของตนเอง
แล้วกำจัดพวกมันไปเสีย

เพราะว่ามันไม่มีช่วงเวลาไหนที่จะเหมาะสมไปมากกว่าช่วงเวลานี้อีกแล้ว

ชาวโลกที่รักทั้งหลาย พวกคุณส่วนใหญ่ยังจำเป็นต้องทำการชำระสะสางกิเลสกันอยู่
โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ได้อยู่ในทางโลกแล้ว และคิดว่าไม่มีกิเลสอะไรซุกซ่อนอยู่ภายในใจของตนเองแล้ว นั่นแหละ
ยิ่งจำเป็นจะต้องค้นหามันให้เจอ ซึ่งคนเหล่านี้รวมถึงพวกคุณที่อยู่บนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณด้วย
(ผู้ปฏิบัติธรรม - ผู้แปล)

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความยึดมั่นถือมั่นในอัตตาตัวตน ด้านจิตวิญญาณของตนเอง
(น่าจะหมายถึงความหลงในภูมิธรรมของตัวเอง หรือเปล่า ? – ผู้แปล) คือสิ่งที่จะต้องชำระสะสางไปให้สิ้นซาก
จงใช้ช่วงเวลานี้สำรวจตรวจสอบตัวเองอย่างจริงจัง

คุณรู้ไหมว่า สำหรับพวกคุณผู้แสวงหาสัจธรรมส่วนใหญ่แล้ว กิเลสที่สามารถมองเห็นได้ง่ายๆ ได้ถูกกำจัดไปแล้ว
จะเหลือก็แต่ความยึดมั่นถือมั่นในอัตตาตัวตนแบบต่างๆ ของแต่ละคนเท่านั้น ที่ยังคงหลบซ่อนอยู่อย่างเงียบๆ
ในความมืดมิด และอยู่ลึกสุดเท่านั้น

แต่ก็อย่าเพิ่งหมดกำลังใจไป และก็อย่าเพิ่งคิดว่าเรากำลังตัดสินพวกคุณอยู่ เพราะว่าความจริงแล้ว
พวกคุณทุกคนจะได้เลื่อนระดับขึ้น (Ascend) อย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว

แต่ว่าในช่วงเวลานี้ มันเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ ที่จะใช้เพื่อค้นหากิเลสที่ยังคงซุ่มซ่อนอยู่ แล้วกำจัดมันออกไปเสีย
อะไรที่ยังอยู่ภายใต้เงามืดอยู่ ก็จงเปิดมันออกมาเสีย ซึ่งแม้ว่ามันจะเคยเป็นสิ่งที่ถูกพบได้ไม่ง่ายเลยในช่วงเวลาอื่นๆ
หรือในระยะอื่นๆของช่วงชีวิตในภพชาตินี้ของพวกคุณก็ตาม แต่มันก็จะถูกพบได้อย่างง่ายดายกว่าในช่วงเวลานี้
ถ้าหากว่าพวกคุณมีความตั้งใจจริงที่จะค้นหาภายในจิตใจของตนเอง และปฏิบัติด้วยความขยันหมั่นเพียร


ท่านคุรุ การสำรวจตรวจสอบตัวเองดังกล่าวนี้ มันจะต้องใช้ทั้งความกล้าหาญ และความอ่อนน้อมถ่อมตนด้วย
(กล้าหาญที่จะยอมรับว่าตนเองยังมีข้อบกพร่องนั้นๆอยู่จริง และถ่อมตนว่าตนเองยังไม่ใช่ผู้ที่หมดสิ้นกิเลสแล้ว
หรือเปล่า? – ผู้แปล) แล้วผลลัพธ์ของมันก็จะยิ่งใหญ่

เพราะว่าในความเป็นจริงแล้ว คราสทั้งหลาย และปรากฏการณ์ดาวเรียงกันครั้งใหญ่ดังกล่าวนี้
จะมอบโอกาสให้แก่พวกคุณ เพื่อผ่านเข้าไปสู่ประตูที่สำคัญบานหนึ่ง นั่นคือผ่านเข้าไปสู่ความเป็นตัวตนที่แท้จริง
ของพวกคุณ ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นสูงกว่าและบริสุทธิ์กว่า

ดังนั้น เราจึงอยากเร่งให้พวกคุณ รีบค้นหากิเลสที่ยังซุกซ่อนอยู่ภายใน แล้วควบคุมมัน และปลดปล่อยพวกมันออกไป
ในคืนที่เกิดจันทรุปราคานี้ (26 มิถุนายน 2010) และพวกเราอยากจะขอแนะนำพวกคุณอีกว่า

จงทำสมาธิอย่างเข้มข้นตั้งใจ กำหนดจิตลงไปสู่เรื่องที่พวกคุณอยากสมปรารถนา ในวันที่เกิดสุริยุปราคานี้
(11 กรกฎาคม 2010) เพราะว่าความสามารถในการสรรสร้างของพวกคุณ จะถูกขยายและเพิ่มพลังขึ้นมากกว่าปกติ
ในช่วงที่เกิดสุริยุปราคานี้ด้วยเช่นกัน

มันเป็นช่วงเวลาที่ดีเยี่ยมสำหรับการแก้ปัญหา และการให้ผลลัพธ์ออกมาอย่างน่าประหลาดใจ
จงใช้ช่วงเวลาระหว่างการเกิดคราสทั้งสองนี้ให้เป็นประโยชน์ แล้วจงรู้ให้ชัดว่าตนเองเป็นใคร มาที่นี่ทำไม
และคุณจะทำอะไรต่อไปในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของภพชาตินี้ของคุณ


ท่านคุรุทั้งหลาย พวกคุณรู้ไหมว่า ระดับพลังงานที่พวกคุณกำลังเข้าไปสู่อยู่ในขณะนี้
กำลังมอบความสามารถให้กับพวกคุณ เพื่อเข้าสู่สภาวะแห่ง “ความเป็นธาตุแท้” (Beingness) อย่างลึกซึ้งแล้ว
ซึ่งสภาวะ “ความเป็นธาตุแท้” ที่ว่านี้ มันเป็นสภาวะที่อยู่เหนือจิต และเป็นพลังงานที่อยู่เหนือความคิด
และพวกคุณหลายคนก็ไม่สามารถเข้าถึงได้จริงๆ

ในความเป็นจริงแล้ว “เพชรทั้งสาม” (Diamond Triad) ก็จะมอบโอกาสให้กับพวกคุณ
ผู้ที่สามารถทำจิตให้สงบนิ่งเป็นสมาธิได้ เพื่อที่จะเข้าถึงระดับความสั่นสะเทือนของภูมิปัญญา,
ระดับความสั่นสะเทือนของความเป็นธาตุแท้ที่ปราศจากจิต (Mindless Beingness)
และเป็นคุรุอย่างแท้จริงได้ง่ายขึ้น

มันเป็นสภาวะที่มีระดับความถี่ที่สูงกว่าสภาวะของการมี “สติรู้”(Mindfulness) อย่างมาก พวกคุณงงไหม๊?


เรากำลังบอกคุณว่า มันยังมีเอกลักษณ์แห่งความเป็นพระผู้เป็นเจ้าของพวกคุณเองอยู่อันหนึ่ง ที่อยู่เหนือจิต
และมันก็เป็นอีกคุณลักษณะหนึ่งของวิญญาณของคุณ และมันก็อยู่ใกล้กับ “ความเป็นธาตุแท้” ของคุณเองมากกว่า

อันที่จริงแล้ว “จิต” (mind) เป็นแค่เพียงเพื่อนร่วมงานของ “ความเป็นธาตุแท้” ของคุณในมิติที่ 3 นี้เท่านั้น

และเราอยากจะเชิญชวนให้พวกคุณมาค้นหาคุณลักษณะนี้ให้ลึกลงไปกว่านี้ ในช่วง 4 – 5 สัปดาห์นี้
เพราะว่าช่องทางต่างๆกำลังเปิดให้แล้ว คุณสามารถวินิจฉัย “ความเป็นธาตุแท้” ของคุณเองได้
ด้วยการปฏิบัติอย่างเอาจริงเอาจังมากขึ้นในช่วงเวลานี้ แล้วมันจะทำให้คุณแปลกใจ
และจิตของคุณเองก็ต้องการใช้โอกาสนี้ด้วย เพราะมันรู้ดีว่า มันยังมีอะไรบางอย่างที่อยู่เหนือระดับกว่ามันอีก
และจำเป็นต่อการวิวัฒน์ไปสู่มิติที่สูงกว่าของคุณ

“เพชรทั้งสาม” (Diamond Triad) ซึ่งหมายถึงปรากฏการณ์ดาวเรียงกันครั้งใหญ่ และคารสทั้งสองครั้งนี้
คือทางไปสู่ประตู 10-10-10 ของปีนี้ (2010) ของพวกคุณ จงใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ให้มาก
แล้วคุณจะก้าวกระโดดทางควอนตัม (Quantum leap)


อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วว่า สิ่งที่พวกคุณกำลังจะเผชิญ คือพลังงานแห่งความยากลำบาก
ที่คุณจะต้องผ่านพ้นไปให้ได้ แต่มันก็อาจจะช่วงเวลาแห่งความเป็นไปได้ครั้งยิ่งใหญ่อย่างแท้จริงด้วยก็ได้

หลายวันมานี้ สภาแสงสว่างแห่งเอกภพ ได้ส่งคลื่นพลังงานที่เรียกว่า “คลื่นพลังโอม” (OM wave) มาสู่โลกแล้ว
จงดึงเอาพลังงานนี้มาใช้ เพื่อช่วยให้คุณสามารผ่านพ้นช่วงเวลา 5 สัปดาห์นี้ไปได้
ชาวโลกที่รักทั้งหลาย จงจำไว้ในใจเสมอว่า พลังงานนี้มีความเข้มข้นและแรงอย่างมาก
และมันสามารถเหวี่ยงพวกคุณให้เสียศูนย์ได้เลยทีเดียว ถ้าหากพวกคุณไม่คอยระวังป้องกันตัวเองให้ดี

แต่มันก็สามารถเป็นประโยชน์อย่างมากแก่พวกคุณ และทำให้พวกคุณก้าวกระโดดทางควอนตัมได้ด้วย
ถ้าพวกคุณรู้จักใช้ประโยชน์จากมันอย่างมีสติ และรักษาความแข็งแกร่งของออร่าเอาไว้ให้มั่นคง

จงสงบจิตลง, จงอดทน, จงสร้างสรรค์, จงฉลาดเฉลียว, และจงดูแลตัวเองและผู้อื่นให้ดี


เราคือเมตาตรอน และเราแบ่งปันสัจธรรมนี้แก่พวกคุณ


“และมันก็เป็นเช่นนี้แล”

……………………………….

 

พอดีไปเจอคลิปวีดีโอนี้โดยบังเอิญทางYou Tubeค่ะ
ไม่ทราบว่าคุณChayutt และสมาชิกท่านอื่นๆเคยเห็นมั๊ยคะ
และอยากทราบความคิดเห็นของคุณChayutt
และสมาชิกท่านอื่นๆด้วยค่ะ ว่ามีความคิดเห็นอย่างไรบ้างคะ...
(วีดีโอมี5 ตอนค่ะ)
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=4P8_CLku0OU"]YouTube - Ascension การฝึกวิชาหูทิพย์ และตาทิพย์ 1 of 5[/ame]

 

แต่ละจิตวิญญาณมีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เพราะด้วยเหตุนี้อะไรที่เหมาะสมกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง อาจจะไม่เหมาะสมกับบุคคลอื่นๆก็ได้
คุณอาจจะรู้สึกว่า คุณได้พบกับคู่ครองของคุณได้บังเอิญ แต่ที่รักทั้งหลายเอ๋ย..จงรู้ไว้เถิดว่า ขั้นตอนที่สำคัญๆทั้งหลาย ล้วนแล้วแต่ถูกวางแผนจัดการมาแล้วเป็นอย่างดีทั้งนั้นแหละ
ก่อนการถือกำเนิด จิตวิญญาณทั้งหลายได้ตั้งใจไว้ว่าจะใช้ภพชาติใหม่ที่กำลังจะมาเกิดนั้น เพื่อชำระสะสางกิเลสทั้งหลาย ที่หลงเหลืออยู่ของตนให้หมดไป แต่เมื่อลงมาเกิดในร่างกายเนื้อจริงๆกลับพากันหลงลืมความตั้งใจนั้นๆของตนไปเสียสิ้น แล้วก็พากันแสดงพฤติกรรมต่างๆออกมาแบบเดิมๆอีก ตามแรงกระตุ้นของเหตุปัจจัยแวดล้อมที่ก็เป็นตนเองอีกนั้นแหละ ที่ได้เลือกเอาไว้ด้วยความสมัครใจตั้งแต่ก่อนการมาเกิดแล้ว พวกเขาจะไม่ได้"ไปดี" หากพวกเขาไม่ยอมเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตนเอง
จงจดจำเอาไว้ในใจว่า กาลเวลาแบบที่เป็นเส้นตรงอย่างที่พวกคุณรู้จัก กำลังถูกเร่งให้เร็วขึ้น ไปสู่สภาวะแห่งความไร้กาลเวลาในระดับปรมัตถ์แล้ว ซึ่งโดยปรมัตถ์แล้ว ดาวเคราะห์โลกได้ไปถึงที่นั่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว...
ข้อความเหล่านี้เป็นข้อความจากต่างมิติที่เจ้าของกระทู้นำมาถ่ายทอด ถ้าทุกท่านอ่านแล้วพิจารณาโดยใช้ปัญญาที่ตัวเองพึงมีก็จะเข้าใจได้ว่าไม่มีคำพูดใดแตกต่างจากคำสอนของพระพุทธองค์เลย "ถ้าอะไรที่มันเป็นสัจธรรมในระดับจักรวาล หรือในระดับความจริงที่จริงแท้แล้ว ใครที่เข้าถึง ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ต้องพูดออกมาทำนองเดียวกันหมด"
คุณชยุตอย่าเสียเวลาอธิบายกับบางท่านที่ไม่เข้าใจเจตนาของท่านเลย เดินหน้าต่อไปทำในสิ่งที่คุณรู้สึกว่า"ใช่" สนใจทำไมกับคนที่คิดต่างจากเรา

 

สุริยุปราคา ในวันที่ 11 กรกฎาคม 2010<!--[endif]-->

ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือเกาะอิสเตอร์ ประเทศชิลี

ไม่ทราบว่ามีอะไรเกี่ยวข้องกันกับเกาะนี้หรืิอเปล่าครับ

เหมือนจะบอกสัญญาณอะไรบางอย่าง

ผมเดาเอาน่ะครับ แหะๆ

 

ถ้านับจนถึงวันนี้ ตั้งแต่ผมเริ่มอ่านข้อความจากต่างมิติมานี่
ก็คงจะอ่านไปเกิน 100 ข้อความแล้วกระมัง (แต่โพสต์น้อยกว่าอ่านเอง)

ผมมีข้อสังเกตที่อยากจะแบ่งปันให้ทุกๆท่านช่วยผมคิดและพิจารณาหน่อยหนะครับ
เพราะว่า ถึงแม้ว่าผมเองจะได้ประโยชน์จากข้อความเหล่านี้มาโดยตลอด
แต่ก็ยังมีข้อสังเกต และข้อสงสัยอยู่บ้าง ดังนี้ครับ

1). ทั้ง 100% ของพวกเขา คือหมายถึงทุกๆรูปธรรมที่สื่อสารมา ถึงผู้รับสาส์นทั่วโลก
เท่าที่ผมอ่านเจอ และค้นไปเจอในเวปไซต์ต่างประเทศทั้งหลายหนะนะครับ
(หมายถึงเฉพาะภาษาอังกฤษนะครับ เพราะผมอ่านออกแค่ภาษาอังกฤษหนะครับ)
พวกเขาสื่อสารมาเหมือนกันหมดทั้ง 100% ว่า ตอนนี้ดาวเคราะห์โลกกับมนุษย์โลก
กำลังอยู่ในขั้นตอน "การเลื่อนระดับขึ้น" หรือ Ascension อยู่ จากมิติที่ 3 ไปสู่มิติที่ 5

ไม่เชื่อลองเอาคำว่า Channeling Message ดูสิครับ จะเห็นเนื้อหาเกี่ยวกับ
เรื่อง Ascension นี้เต็มไปหมด

2). ทั้ง 100% ของพวกเขา ไม่มีใครบอกว่าโลกจะแตกในปี 2012 เลย

3). ทั้ง 100% ของพวกเขา บอกว่าดาวเคราะห์โลก คือสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง

4). ทั้ง 100% ของพวกเขา บอกว่าแก่นแท้ของทุกสรรพสิ่ง คือพลังงาน
ซึ่งหมายถึง รูปแบบใดรูปแบบหนึ่งของแสงสว่าง "พวกเราคือแสงสว่าง"
และมาจากแหล่งกำเนิดเดียวกันทั้งหมด และไม่สามารถจะแบ่งแยกได้อย่างแท้จริง
อะไรทำนองนั้น ซึ่งอันนี้ชาวพุทธเราคงไม่ชอบใจแน่ เพราะพวกเขากล่าวถึงพระเจ้า
และพระผู้สร้าง เหมือนกันหมดทั้ง 100%

5). ทั้ง 100% ของพวกเขา บอกว่า "สรรพสิ่ง" รวมถึงทุกอย่างที่อยู่ในมิติที่ 3 นี้ด้วย
เกิดจาก "จิต" หรือ "ความคิด" หรือ "จินตนาการ" ทั้งสิ้น ที่เป็นต้นตอของการกำเนิดของพวกมัน
เพราะฉะนั้น พวกเขาถึงบอกให้เราระวังเรื่อง "ความคิด" และ "อารมณ์" ของตัวเองให้ดี

6). ทั้ง 100% ของพวกเขา บอกว่าจักรวาลนี้มันมีอยู่หลายมิติ ซึ่งมิติที่สุงๆขึ้นไป
สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในมิติที่ต่ำกว่า จึงมิอาจจะเข้าใจได้

และก็ยิ่งอยู่ในมิติที่สูงขึ้นไปมากเท่าไหร่ จิตใจของพวกเขาก็จะยิ่งบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้นเรื่อยๆด้วย
จนพวกเขามีแต่ความรักแบบไม่มีเงื่อนไขให้แก่ทุกชีวิต และคิดแต่จะให้ความช่วยเหลือผู้อื่น

เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นแบบนี้จริง ก็ไม่น่าที่จะแปลกใจอะไรเลย ที่พวกเขาจะมาช่วยเรา

เพราะว่าผมเห็นหลายคนในเวปนี้ ที่ตั้งคำถามว่า พวกเขาจะมาช่วยเราเพื่ออะไร
พวกเขาจะได้ประโยชน์อันใด ฯลฯ

ผมก็เลยพอจะนึกออกว่า..อ้อ..ถ้าเราเอาตัวเราซึ่งมีกิเลสหนาๆกันอยู่นี่เป็นเกณฑ์
เราก็จะนึกกันไม่ออกเลยว่า ถ้าเป็นเราบ้าง เราคงช่วยคนอื่นเพื่อหวังอะไรตอบแทนบ้าง
ไม่มากก็น้อย เช่น หวังอยากได้บุญ เป็นต้น

แต่ในทางกลับกัน ถ้าเราเอา "ผู้ที่มีจิตสะอาดบริสุทธิ์กว่าเรา" มาเป็นเกณฑ์
เช่น พระอริยะเจ้าทั้งหลายเป็นต้น พวกเราก็น่าจะได้รู้ ได้เห็น หรือได้อ่าน
เกี่ยวกับปฏิปทาของท่านบ้างแหละ ว่าพวกท่านทำอะไรไปแล้ว พวกท่าน "หวัง"
อะไรตอบแทนบ้างหรือไม่ หรือว่าพวกท่านทำเพราะอยากจะช่วยสงเคราะห์โลกเฉยๆ

อันนี้ที่ผมยกประเด็นเหล่านี้ขึ้นมาพิจารณา ก็เพราะว่า ผมอยากจะลองมองในมุมมอง
ของคนที่เขามีข้อโต้แย้งทั้งหลายเกี่ยวกับเรื่องนี้หนะนะครับ

อันนี้ ไม่ยกเว้นว่าพวกเขาจะมีข้อมูลอะไรมาสนับสนุนหรือไม่
หรือว่าสักแต่เอาสิ่งที่มีอยู่ในหัวของตัวเอง ซึ่งไม่เคยมีความรู้อะไรงอกเงยขึ้นมาบ้างเลย
ตั้งนานมาแล้วนั้น ออกมาแย้งก็ตามนะครับ แต่ก็ถือว่าเราก็จะพิจารณาตามพวกเขาไปด้วย

ว่า...

สมมุติว่า ถ้า "ข้อความสื่อสารเหล่านั้น" แอบอ้างเอาเอง เขียนขึ้นมาเอาเอง
โดยกลุ่มทางลัทธิ หรือศาสนาใดศาสนาหนึ่ง เพื่อหวังดึงคนเข้าศาสนาตัวเองหละ
อะไรจะเกิดขึ้น มันจะเป็นผลดีและผลเสียแก่เราผู้อ่านอย่างไรบ้าง

- ประเด็นเรื่องผลดี - ผลเสีย ที่เกิดขึ้นจากการอ่านข้อความเหล่านี้
ผมจะขอข้ามไปนะครับ เพราะผมเชื่อว่า แต่ละท่านก็จะสามารถรู้ได้ด้วยตัวเอง
ใน "ทันที" ที่อ่านอยู่ หรืออ่านจบลงแล้ว

- ประเด็นเรื่อง..ถ้ามันเป็นข้อความปลอมหละ อะไรจะเกิดขึ้น..
(อันนี้คิดแบบมองโลกในแง่ร้ายหนะนะครับ..เพราะหลายคนชอบมองแบบนี้)

...ผมก็เลยจะขอฝากทิ้งท้าย ถามเอาไว้ตรงนี้ดีกว่านะครับ..
เพื่อให้ทุกๆท่านได้แสดงความคิดเห็นกันบ้าง..ว่ามันจะเป็นไปได้ไหม
หรืออย่างไร? แล้วจะมีผลเสียหายอะไรไหม๊ อย่างไร?

แต่โดยส่วนตัวผม..ผมมีคำตอบของตัวเองแล้วหละครับ
แต่จะเหมือนกับของท่านอื่นหรือเปล่านั้น..ก็ลองมาฟังกันดู

.............................................................

 

ข้อความแบบนี้หรือ?คือข้อความปลอม ท่านอย่าสมมติอะไรทำนองนี้เลย แต่ท่านบอกว่าท่านมีคำตอบอยู่แล้วก็คงจะใช่ โดยส่วนตัวที่ติดตามมาเท่าที่จะทำได้ สรุปประเด็นสำคัญเนื้อหาหลักทั้งหมดตรงตามสัจธรรมความจริงแท้ของระดับจักวาล ส่วนความจริงแท้เป็นอย่างไร ท่านผู้มีปัญญาย่อมพิจารณาเอง

 

*** มีตัวมีตน ****

ตัวตนที่ตามองเห็น ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง
ตัวตนที่แท้จริง คือ ตัวกระทำ
ตัวกระทำ เป็นตัวตนที่ตามองไม่เห็น

แก่นสารของสัจจะธรรม
กล่าวคือ ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน
สรุปว่า...ตัวกระทำมีจริง

ถ้า...ไม่มีตัวไม่มีตน
แล้ว....คนจะเป็นพระพุทธเจ้าได้อย่างไร

- " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->

 

ติดตามอ่านอยู่เสมอๆค่ะ

 

สวัสดีค่ะ ชื่อนิค ติดตามมาตั้งแต่กระทู้แรกที่คุณชยุตโพสไว้ มาตั้งแต่ปีที่แล้วค่ะ ได้อ่านทุกกระทู้่ที่ได้แปลแล้ว เป็นอะไรที่แปลกใหม่ดี ทำให้เริ่มที่จะมานั่งสมาธิและคิดบวกมากขึ้นค่ะ ช่างกระทู้ที่ทำให้จิตใจดีขึ้นเยอะเลย ถ้าไม่คิดเล็กคิดน้อยนะ