หลวงพ่อไปแล้วทำให้เราไปนิพพานง่าย โดยพระครูปลัดอนันต์

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย แงซาย ชายดอย, 27 ตุลาคม 2008.

  1. แงซาย ชายดอย

    แงซาย ชายดอย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,028
    ค่าพลัง:
    +1,314
    หลวงพ่อไปแล้วทำให้เราไปนิพพานง่าย
    โดยพระครูปลัดอนันต์ เจ้าอาวาสวัดท่าซุง <!--emo&:2hand:--><!--endemo-->

    [​IMG]---อันที่จริงหลวงพ่อไปนิพพานแล้ว เอาพูดเข้าข้างตัวเรานะ ก็จะทำให้พวกเราไปนิพพานง่ายเข้า มันเหมือนกับคนที่รักรออยู่ข้างหน้าเรา เมื่อเราจะตายถ้านึกถึงท่านนิดเดียวเท่านั้นเอง ท่านจะมาปรากฏให้เราเห็นตรงหน้า มันเหมือนคนที่รักกันมากแล้วจากกันไปนาน เมื่อเห็นภาพแจ่มชัดมันจะเกาะทันทีหลวงพ่อท่านสอนวิปัสสนาญาณให้เราเต็มที่แล้วนี่ จิตจะจับท่านไม่ปล่อยเลย

    -----เหมือนครั้งหนึ่ง ท่านเล่าถึงจ่าพัว จ่าพัวคนนี้เคยพิมพ์หนังสือมหาสติปัฏฐานสูตรถวายหลวงพ่อสมัยก่อน ตอนหลังป่วยมาก ก็ไม่นึกว่าตัวเองจะไปไหนได้หรอก ก็ภาวนาพระพุทธเจ้าก็เสด็จมาพอดี จ่าพัวก็ไปกอดที่เท้า ทรงตรัสว่า "พัวไปนิพพานกับพ่อไหมลูก" "ไปครับ แต่ผมกลัวไปไม่ได้" ท่านก็ชี้ให้มาดูข้างล่างให้จ่าพัวดูร่างกาย "เป็นทุกข์ไหม" "ทุกข์ครับ" "ร่างกายไม่ดีอย่างนี้ยังรักอยู่เหรอ" "ไม่รักครับ" "งั้นก็ไปนิพพานกับพ่อ" เท่านี้เอง
    -----จ่าพัวไปหลังจากตายแล้วหลวงพ่อก็คุยกับจ่าพัว ถามว่าไปยังไง บอกว่าพระพุทธเจ้าเสด็จมาก็เกาะที่เท้าท่านแน่นเลย

    -----อย่างพวกเราหายใจเป็นหลวงพ่อ พอจากกันไปนานๆ เช่นนี้ พอเจอครั้งเดียวเท่านั้นก็เกาะแน่น ถึงว่าจะไปนิพพานง่ายนะ นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะ เพราะมีตัวอย่าง เช่นจ่าพัว ถ้าได้มโนมยิทธิยิ่งดีใหญ่ ถ้าจิตขึ้นไปปุ๊บอยู่ใกล้พระพุทธเจ้าแล้ว มองมาข้างล่างก็พิจารณาเห็นว่าร่างกายไม่ใช่ของเรา มันจะเห็นเป็นตัวสองตัว ตัวที่นั่งอยู่ข้างบนกับพระพุทธเจ้าผ่องใส ตัวข้างล่างเป็นยังไงก็พิจารณาดูต้องอาบน้ำเพราะสกปรกใช่ไหม ไม่อยากแก่มันก็แก่ใช่ไหม ไม่อยากตายมันก็ตายใช่ไหม ฉะนั้นได้มโนมยิทธิจึงเห็นง่าย

    อันที่จริงพูดง่ายนะ แต่เวลาวาง วางยากเหมือนกัน แต่ที่จริงท่านก็สอนให้ยอมรับความเป็นจริงเท่านั้นนะ

    -----พอปี ๒๕๓๕ ก่อนเดือนตุลาคม ท่านก็เริ่มป่วย ป่วยของท่านนี่ป่วยทุกวัน วันไหนร่างกายดีไม่มีจริงๆ จะขอลัดลงมาเลยว่า ท่านป่วยครั้งสุดท้ายนี่ ปกติป่วยนี่จะเกี่ยวกับเรื่องท้องส่วนใหญ่ ก่อนจะป่วยนี่ท่านจะบอกกับเราว่า เห็นสีแดงแจ๊ด ช่วงเข่านี่จะปวดเข่า ช่วงท้องก็จะเป็นเรื่องท้อง ถ้าช่วงไหนก็จะเป็นตรงนั้น สีแดงนี่ไม่ใช่โทษ เขามาทำสัญลักษณ์ว่า จะป่วยช่วงไหน แต่ก่อนมรณภาพนี่ ท่านบอกว่าป้ายสีแดงแจ๊ดทั้งตัวเลย แต่เป็นมัน ป้ายเป็นมันพิเศษ เราก็นึกในใจว่า หลวพ่อป่วยขอให้หาย หลวงพ่อป่วยเดี๋ยวก็หาย แต่เอาจริงท่านป่วยมากจนไม่มีแรง ล้างท้อง ๒ วัน ก็ไม่มีแรง ให้น้ำเกลือก็ไม่มี เพราะน้ำในร่างกายมันน้อยมาก พอให้น้ำเกลือไม่มีนี่ก็ไม่มีแรง เมื่อไม่มีแรงมากก็ต้องเข้าประคับประคองกัน ประคับประคองมากๆ มีอยู่คืนหนึ่งใกล้ๆ จะมรณภาพท่านก็บอกกับพวกทหารว่า โอ...ทวารเปิดหมดแล้วลูก จะอยู่ยังไง ทหารก็โทรศัพท์มาเรียก ก็ไปหา เรียกไปดูใจกัน ไปช่วยดูใจหลวงพ่อ พอไปถึงหลวงพ่อนอนเงียบหมดแล้ว เงียบ เราก็นึกว่าหลวงพ่อมรณภาพแล้ว แต่เห็นนอนตะแคงอยู่ก็ยังอุ่นใจว่าไม่เป็นไร พอหลวงพ่อพลิกตัวเราก็เปิดไฟสว่างหมดเลย คือปรึกษากับพยาบาลว่าให้มาให้น้ำเกลือ หลวงพ่อเพลีย ก็แทงไป ๗ เข็มเห็นจะได้ พอให้น้ำเกลือสัก ๒ - ๓๐๐ ซีซี ก็แจ้งพอดี แจ้งท่านก็ถอดเข็มออก บอกว่า นันต์ เมื่อคืนนี้คุยกับพระ พระท่านถามว่าคุณตัดสินใจแล้วหรือ ฉันก็บอกว่า ตัดสินใจแล้วครับ พระถามว่า คุณวิหารสมเด็จองค์ปฐม คุณยังสร้างไม่เสร็จเลยนี่ หลวงพ่อก็บอกว่า ผมจะหาเงินให้พระครับ พระท่านก็บอกว่าพวกนี้ทำได้รึ...หมายถึงพวกอาตมา หลวงพ่อก็บอกว่า ผมจะหาเงินให้พระครับ

    -----ตั้งแต่นั้นมาท่านก็อาการหนักขึ้นมาตลอด เมื่ออาการหนักขึ้น ท่านก็ไปพักที่ตึกอินทราพงศ์ ก็จะขออนุญาตให้พระเข้าไปกราบท่าน ดูแลท่าน เมื่อเวลา ๔ โมงเช้า อาตมาเข้าไป เห็นตัวท่านเขียวหมดทั้งตัวแล้ว ท่านก็ทักว่า นันต์เหรอ พูดตาไม่ค่อยลืม ตาลอย ปลัดวิรัชเหรอ ก็คุย ก็ยิ้ม พูดอ้อแอ้ อ้อแอ้ แล้วก็ไม่ให้พระไปเยี่ยม เราก็บอกให้พระไปฉันเพลได้ เดี๋ยวบ่ายโมงค่อยไปเยี่ยมท่านที่ตึกรับแขก แต่ก่อนจะไปนั้นก็บอกว่า บ่ายบอกให้ปลุก แต่เราไม่ปลุก ปล่อยให้ท่านนอนจำวัดไป ตัวเขียวหมด ผู้อำนวยการโรงพบายาลอุทัญธานีมา เอาหมอโรคหัวใจมาดู ก็บอกว่าไม่ไหวแล้ว อย่างนี้ต้องเข้าโรงพยาบาล แต่เมื่อท่านลืมตามา เมื่อประมาณบ่ายสองโมง ท่านก็ไม่ยอมไป ไม่ยอมเข้าโรงพยาบาลก็หามท่านไปรับแขก เพราะว่าท่านจะไป เราก็เอาเก้าอี้โซฟา เอาทหารหามไปรับแขก คนเห็นอาการของท่านก็ร้องไห้ ทุกคนเสียใจ สลดใจ เมื่อพระไปกราบท่าน ท่านก็บอก ให้พระทำงานตามหน้าที่ ไม่ต้องห่วง ร่างกายเป็นแบบนี้ ร่างกายเกิดมาแล้วก็ต้องป่วย ร่างกายเป็นอนิจจังไม่เที่ยง ขอให้ทุกคนไปทำงานได้ เมื่อพระไปทำงานแล้ว อาตมามาอยู่เฝ้ากัน เมื่อเลิกเวลารับแขก ก็หามไปเอกซเรย์ที่โรงพยาบาลที่วัด เมื่อไปโรงพยาบาลที่วัดแล้ว ก็หามกลับไปที่กุฏิตอนเย็นๆ ก็มีหมอมาให้น้ำเกลือ ๓ -๔ คน

    ------อันที่จริงหลวงพ่อท่านไม่อยากเข้าโรงพยาบาล แต่จะไปรับแขกที่ซอยสายลม เพราะคนเขาจะไม่รู้กันเป็นห่วงคนแก่คนที่สายลมจะมาทำบุญไม่ได้ ปรารภที่จะไปสายลม แต่คืนนั้นอาการก็โคม่ามาก จึงเอาท่านส่งโรงพยาบาลศิริราช ข้างล่างที่ชุลมุนวุ่นวาย อาการของท่านก็หนักมาก พอจะเอาขึ้นรถ หมาก็หอนใหญ่ เต็มวัดหมด หมาหอนเสียงก้องไปหมด พอเข้าไปถึงโรงพยาบาลระหว่างคืนนั้น ไปถึงโรงพยาบาลศิริราช ก็ประมาณตี ๕ แล้วหลังอยู่อีก ๒ - ๓ วันที่ห้องซีซียู ท่านก็มรณภาพเมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๓๕ เวลา ๔ โมงเย็น ๑๐ นาที

    จากหนังสือประวัติหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อวัดท่าซุง) <!--emo&:2hand:-->[​IMG]
    โดย พระครูปลัดอนันต์ เจ้าอาวาสวัดท่าซุง เมื่อวันศุกร์ที่ 21 เมษายน 2006

    เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เรา ลูกหลาน จะได้อ่านเป็นกำลังใจยิ่งๆขึ้นไป
    ระลึกนึกถึง กตเวทิตา กับครูบาอาจารย์ในวันครบรอบวันคล้ายวันมรณภาพ
    ของหลวงพ่อที่กำลังจะมาถึง ครับ

    ลิ้งอ่านนะครับ

    ที่มา http://www.danpranipparn.com/web/article.php?sid=124
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 ตุลาคม 2008
  2. pommaibike

    pommaibike เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    590
    ค่าพลัง:
    +115
    [​IMG][​IMG]ขอกราบโมทนาสาธุครับ สาธุ...[​IMG][​IMG]
     
  3. แงซาย ชายดอย

    แงซาย ชายดอย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,028
    ค่าพลัง:
    +1,314
    ขอโทษด้วยครับพอดีทางเว็ปเค้าก๊อปปี้มาไม่ได้
    ลิ้งไปอ่านเองเองนะครับ
    คิดถึงหลวงพ่อ ไปนิพพานกันทุกคนนะครับ
    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  4. แงซาย ชายดอย

    แงซาย ชายดอย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,028
    ค่าพลัง:
    +1,314
    ระลึกถึงหลวงพ่อในวันนี้ครับ
     
  5. Pink_Angel

    Pink_Angel Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +69
    ขอบพระคุณสำหรับการเผยแพร่นะคะ อนุโมทนาบุญ ด้วยค่ะ สาธุ
     
  6. แฝดแก้มก้อย

    แฝดแก้มก้อย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +28
    เป็นกำลังใจในการปฏิบัติที่สุดแล้วคะ

    ถึงแม้เป็นรุ่น หลาน หลวงปู่ฤาษีลิงดำ ไม่ทันได้มีโอกาส ไปกราบนมัสการท่านตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็เชื่อมั่นในบุญ และมโนมยิทธิ ที่หลวงปู่ได้สั่งสอนไว้ไม่เปลี่ยนแปลงคะ หวังว่าตอนจะตาย จะสามารถจับพระนิพพานได้ ถือเป็นบุญที่สุดแล้วค่า:cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...