ฮือฮาเทวาภิเษกยิ่งใหญ่ ๑๐๐ ปี'ท้าวหิรัญพนาสูร'

ฮือฮาเทวาภิเษกยิ่งใหญ่ ๑๐๐ ปี'ท้าวหิรัญพนาสูร'

​

หาทุนซื้ออุปกรณ์ศูนย์โรคหัวใจ รพ.พระมงกุฏฯ

หากใครเคยไปใช้บริการ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า คงจะมีโอกาสได้เห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำโรงพยาบาลแห่งนี้กันบ้าง นั่นคือ “ศาลท้าวหิรัญพนาสูร” ที่ประวัติและความเป็นมาไม่ธรรมดา ซึ่งปัจจุบันเป็นศูนย์รวมใจและศูนย์กลางแห่งความศรัทธาของสาธารณชน

ไม่ว่าใครก็ตามยามเคราะห์หามยามร้ายหรือล้มป่วยด้วยโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ญาติ ๆ มักไปบนบานศาลกล่าวที่ศาลท้าวหิรัญพนาสูรแห่งนี้ และน่าแปลกที่ส่วนใหญ่สมประสงค์กันทุกราย กลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์เคียงคู่สถานพยาบาลและสถานบริการทางการแพทย์ยุคใหม่อย่างเหลือเชื่อ




ท้าวหิรัญพนาสูร จัดเป็น เทพกึ่งอสูรที่ตั้งอยู่ในสัมมาทิฐิ (ประพฤติในสิ่งที่ดีงาม) เมื่อคราว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ยังทรงพระอิสริยยศเป็นมกุฎราชกุมาร ประมาณ ร.ศ. ๑๒๖ (พ.ศ. ๒๔๔๙) ได้เสด็จประพาสหัวเมืองลพบุรี คืนหนึ่งข้าราชบริพารนิมิตว่า มีชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่มาหา บอกว่าชื่อ “หิรัญ” เป็นอสูรชาวป่า นับจากนี้จะคอยตามเสด็จฯ ไม่ว่าจะทรงประทับอยู่ ณ แห่งหนตำบลใด จะคอยดูแล ปกปักรักษามิให้ภัยร้ายมากล้ำกราย

ครั้นข้าราชบริพารกราบบังคมทูลเรื่องราวนิมิตให้ทรงทราบ ล้นเกล้าฯรัชกาลที่ ๖ มีพระราชดำรัสให้จุดธูปเทียนและเครื่องเซ่นสังเวยให้อสูรหิรัญในป่าเมืองลพบุรีทันที และทุกครั้งไม่ว่าพระองค์ท่านจะเสด็จฯไปที่ใด เมื่อยามเสวยพระกระยาหาร จะรับสั่งให้จัดสำรับอาหารคาวหวานเซ่นสังเวยอสูรหิรัญทุกครั้งไป

เนื่องด้วย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสำเร็จการศึกษาจากประเทศอังกฤษ และทรงค้นคว้าเรื่องราวภารตวิทยาของอินเดียหรืออนุทวีป ในฐานะเมืองขึ้นของนักล่าอาณานิคม ทำ ให้ทรงสนพระทัยในศาสตร์เร้นลับที่ถ่ายทอดผ่าน คัมภีร์และความเชื่อในศาสนาพราหมณ์ ฮินดู จึงทรงตั้งชื่อ “อสูรหิรัญ” เสียใหม่ ว่า “หิรัญฮู” เป็นคำผสมระหว่าง “หิรัญ” หมายถึง เงิน, สีเงิน หรือ ทอง (บางตำรา) และ “ฮู” มาจากศัพท์ภาษาอังกฤษแปลว่า “ใคร” ชื่อเต็มคือ “ท้าวหิรัญพนาสูร” หมายถึง เทพอสูรผู้เป็นใหญ่แห่งป่า และพระองค์ท่านมักทรงเรียกชื่อเล่นว่า “ตาหิรัญฮู”




เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๓ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ทรงขึ้นครองราชย์ ก็ยังทรงระลึกถึงท้าวหิรัญพนาสูรอยู่เสมอ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หล่อรูปลอยองค์ขึ้น ๔ ตน ประดิษฐานไว้หน้ารถยนต์พระที่นั่ง ประดิษฐาน ณ ห้องบรรทม ประดิษฐาน ณ บ้านพระยาอนิรุทธเทวา และประดิษฐาน ณ หน้าพระที่นั่งอุดมวนาภรณ์

กระทั่งล้นเกล้าฯรัชกาลที่ ๖ เสด็จสวรรคต มีการเปลี่ยนวังพญาไทใช้ในเชิงพาณิชย์แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ จนในปี พ.ศ. ๒๔๘๙ ได้เปลี่ยนเป็น “โรงพยาบาลทหารบก” และเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ล้นเกล้าฯรัชกาลที่ ๖ จึงขอพระราชทานนามว่า“โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า” ภายในประดิษฐาน “ศาลท้าวหิรัญพนาสูร” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นศูนย์รวมใจผู้ป่วย ผู้มาใช้บริการโรงพยาบาลจวบจนปัจจุบันนี้

เคยมีเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ของท้าวหิรัญ พนาสูร โดย “จหมื่นเทพดรุณทร” เล่าไว้ว่า เมื่อคราวล้นเกล้าฯรัชกาลที่ ๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ช่างหล่อรูปท้าวหิรัญพนาสูรขึ้น โดยพระยาอาทรธรศิลป์ (ม.ล.ช่วง กุญชร) ดำเนินการจัดสร้าง มิสเตอร์แกลเลตตี ช่างชาวอิตาลีที่ทำงานในกรมศิลปากรเป็นผู้หล่อ เมื่อหล่อเสร็จแล้วช่างฝรั่งก็ใช้เชือกผูกคอชักรอกขึ้นไปประดิษฐาน ต่อมาเกิดล้มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ คอเคล็ดทำงานไม่ได้ ต้องนำดอกไม้ ธูป เทียน ไปกราบไหว้ขอขมาท้าวหิรัญพนาสูรจึงหายเป็นปกติอย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้กลายเป็นที่โจษขานกันปากต่อปาก

อีกครั้งหนึ่งเกิดขึ้นกับเชื้อพระวงศ์พระองค์หนึ่ง ประชวรปัสสาวะเป็นเลือด ได้เสด็จมาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า แพทย์เอกซเรย์แจ้งว่าจะต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่พระญาติทราบประวัติและความศักดิ์สิทธิ์ของท้าวหิรัญพนาสูรเป็นอย่างดี จึงนำดอกไม้ ธูป เทียน ไปสักการะรูปหล่อภายในโรงพยาบาล ปรากฏว่าหายจากอาการประชวรอย่างเหลือเชื่อ โดยไม่ต้องผ่าตัดแต่อย่างใด





อีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๒ กับอาจารย์สุภาพสตรีท่านหนึ่ง ซึ่งได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์บาดเจ็บสาหัสมาก ขาซ้ายหัก ขาขวากระดูก แตก ต้องเข้าเฝือกทั้งสองข้าง ท่านถูกนำไปรักษาตัวที่แรกเป็นโรงพยาบาลเอกชน แต่เนื่องจากค่าใช้จ่ายสูงมาก จึงเปลี่ยนมารักษาที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ พญาไท ช่วงที่อยู่โรงพยาบาลพญาไท ท่านหมดความรู้สึกไปครั้งหนึ่งในระหว่างที่สลบท่านเห็นผู้ชายคนหนึ่งมายืนมองอยู่ข้างเตียง ในจิตของอาจารย์ ท่านนี้รู้ในทันทีว่านั่นคือ “ท้าวหิรัญพนาสูร” เพราะรูปร่างหน้าตามีลักษณะบางอย่างบ่งบอก อาจารย์ ท่านนี้จึงยกมือไหว้ ขอให้ท่านช่วยให้หายเจ็บป่วย “ท้าวหิรัญพนาสูร” ก็พยักหน้าจากนั้นไม่นานอาการเจ็บป่วยของอาจารย์ก็หายเป็นปลิดทิ้ง ออกจาก โรงพยาบาลกลับบ้านได้ และท่านก็ไม่เคยลืม “ท้าวหิรัญพนาสูร”

จากเรื่องเล่าขานความศักดิ์สิทธิ์นี้เอง ทุกวันนี้มีผู้ป่วย ญาติพี่น้องและผู้ศรัทธาแวะเวียนไปกราบไหว้ขอพร “ท้าวหิรัญพนาสูร” บริเวณศาลในโรงพยาบาลไม่ขาดสาย บ่งบอกว่า แม้จะอยู่คนละภพภูมิก็ยังทำหน้าที่ดูแล รักษา และปกป้องผู้ศรัทธาอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย
ในโอกาสปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ศาลท้าวหิรัญพนาสูรจะมีอายุครบ 100 ปี โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า จึงจัดพิธีเททองหล่อรูปเหมือน “ท้าวหิรัญพนาสูร” จำลองขึ้น ณ บริเวณศาลใหญ่ภายในโรงพยาบาล ตั้งแต่วันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๓ หรือต้นปี ที่ผ่านมา โดยมี สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม เป็นประธานในการประกอบพิธีเททอง พระราชครูวามเทพมุนี เป็นประธานฝ่ายพราหมณ์ และการบวงสรวง พล.ท.สหชาติ พิพิธกุล ผอ.ศพม. ประธานที่ปรึกษาโครงการและประธานฝ่ายฆราวาส

โดยมี ดร.มนูญ มุกข์ประดิษฐ์ รองเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา และพล.ต. นพ.กฤษฎา ดวงอุไร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ให้เกียรติในการเข้าร่วมทำพิธี ตลอดจนประชาชนผู้มีจิตศรัทธา เลื่อมใสในองค์ท่านท้าวหิรัญพนาสูร เข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

รูปเหมือนท้าวหิรัญพนาสูร ได้ประกอบพิธีมหาเทวาภิเษกไปแล้วตั้งแต่วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๓ มีพระธรรมธีรราชมหามุนี เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม เป็นประธานจุดเทียนชัย และนั่งอธิษฐานจิตภาวนาร่วมกับพระเกจิคณาจารย์ชื่อดัง ๓๒ รูป จากทั่วประเทศ และสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำภาษีเจริญ ดับเทียนชัย

โดยวัตถุมงคลชุดนี้ประกอบด้วย รูปหล่อลอยองค์ท้าวหิรัญพนาสูรขนาดบูชา ๒๐ นิ้ว รูปหล่อลอยองค์ท้าวหิรัญพนาสูรขนาดบูชา ๙ นิ้ว รูปหล่อลอยองค์ท้าวหิรัญพนาสูรขนาดบูชา ๕ นิ้ว รูปหล่อลอยองค์ท้าวหิรัญพนาสูรขนาดบูชา ๓ นิ้ว และรูปหล่อลอยองค์ท้าวหิรัญพนาสูรขนาดห้อยคอ ๑ นิ้ว

วัตถุประสงค์ของการจัดสร้าง นอกจากฉลองในโอกาสศาลท้าวหิรัญพนาสูรอายุครบ ๑๐๐ ปี แล้ว ยังจัดสร้างเพื่อหารายได้จัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ในโครงการ “ศูนย์โรคหัวใจสิรินธร โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า” และบูรณปฏิสังขรณ์พระราชวังพญาไท

เรียกได้ว่า หากใครศรัทธาบูชาวัตถุมงคลชุดนี้นอกจากอิ่มบุญอิ่มใจแล้ว ยังกุศลแรงช่วยเหลือผู้ป่วยโรคหัวใจอีกด้วย สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โทรศัพท์ ๐-๒๑๕๘-๐๗๘๑ หรือ ๐๘-๓๐๑๖-๕๑๖๒.

อาราธนานัง-รายงาน


-----------------

Daily News Online > เสาร์สปอร์ต > พระเครื่อง > เหนือลิขิต ประกาศิตฟ้าดิน > ฮือฮาเทวาภิเษกยิ่งใหญ่ ๑๐๐ ปี '

 

​

 

ดีเลยค่ะ เด๋วจะไปร่วมบุญกับเขาบ้าง

 

อนุโมทนาสาธุค่ะ เคยไปกราบท่านมาแล้วค่ะ ศักดิ์สิทธิ์ จริง ๆ ค่ะ ข้าง ๆ ท่านมีพระพิฆเนศ ด้วยค่ะ

 

มีการจัดสร้างให้เช่าบูชาได้ตอนนี้ครับ คิดว่ายังพอมีเหลือ ใครสนใจก็เข้าไปขอบูชาได้ที่ รพ.พระมงกฎ นะครับ ลองเข้าไปดูได้ ท้าวหิรัญพนาสูร

(บรอนซ์) ขนาด 20 นิ้ว องค์ละ 15,000
9 นิ้ว องค์ละ 7,900
5 นิ้ว องค์ละ 3,500
3 นิ้ว องค์ละ 1,500
1 นิ้ว องค์ละ 400 สำหรับคล้องคอ(ใส่กรอบพร้อมสายใส่ได้เลย)

 

เรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของท่านท้าวหิรัญฯ คุณเม่เคยเล่าให้ฟังครับตอนผมป่วยตอนเล็กๆ คุณแม่เคยพาไปไหว้ครับ ตอนโตก็ยังเคยไป อนุโมทนาครับ

 

ท่านศักดิ์สิทธิ์มากครับ

คำบูชาท่านครับ
ระหินะ ภูมาสี ภะสติ นิรันตะรัง ลาภะ สุขัง ภะวันตุ เม 3 จบ ครับ

 

เพื่อนรุ่นน้องเล่าให้ฟังว่า ก่อนเขาเกิด พ่อแม่เขาไปไหว้ท้าวหิรัญฯ ขอลูกชาย ต่อมาก็ได้ให้กำเนิดตัวเขา เป็นเด็กชายผิวคล้ำตัวใหญ่ สมเผ่าพันธุ์ยักษ์จริงๆครับ

 

หลวงปู่ดี ท่านก็ไปร่วมพืธีปลุกเสกด้วย

 

อยาก download ภาพพิธี เมื่อ 30 เม.ย. ไว้จาก เวปท้าวหิรัญพนาสูร
แต่ download ไม่ได้เลยครับ ใครทำได้รบกวนด้วยครับ ส่ง e-mail ให้ผมก็ได้ครับ โง่คอมมากครับ
ขอบคุณอย่างสูงล่วงหน้าครับ

 

ศักดิ์สิทธิ์มากจริงๆค่ะ เรียนที่นั่นมาสี่ปีก่อนสอบเกือบทุกครั้งต้องไปกราบไหว้ขอพรให้สอบผ่าน ก็สอบผ่านไปได้ดีตลอดเลยค่ะ ปีที่แล้วก็พาป้าไปผ่าตัด คิดว่าจะต้องรอคิวนานมากเพราะไม่ได้นัดไว้ก่อน แต่พอมาถึง รพ ก็ให้ป้ามาไหว้ขอพรให้ได้ผ่าเร็วๆเพราะไม่งั้นอาการจะลุกลามมากขึ้น พอเข้าห้องตรวจกะคุณหมอ ก็จะนัดผ่าเดือนหน้า แต่โชคดีมากที่อาจรย์หมอเดินเข้ามาตรวจให้แล้วก้บอกว่าผ่าพรุ่งนี้เลยนะคะ มีคนสละสิทธิพอดี เราดีใจมากเลยค่ะเลยบอกอาจารย์ว่านี่ไปไหว้ขอพรท่านท้าวมา อยากจะให้ผ่าเร็วๆ อาจารย์หมอท่านยังบอกเลยว่านี่ล่ะเพราะความศักดิของท่านจึงทำให้มีคนสละสิทธ์ นี่ก็เป็นเพียงไม่กี่เรื่องที่เจอจังๆนะคะ

 

วัตถุมงคลของท้าวหิรัญพนาสูร ในยุคต้นๆนั้นท่านเจ้าคุณนรฯ เป็นผู้ปลุกเสกครับ