NEW ! NEW AGE PLUS+ พลังงานใหม่ พลังงานอิสระ.. GRAND NATURE ..

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Little Duck, 25 กุมภาพันธ์ 2010.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    กฏเกณฑ์ 4 ข้อที่จิตวิญญาณต้องยอมรับในขณะมาเรียนรู้ภายใต้เครื่องพรางแห่งกาลเวลา

    เกิด แก่ เจ็บ ตาย

    ด้วย รัก
    จินตวดี
     
  2. Little Duck

    Little Duck เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,981
    <table id="post3281719" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 0px 1px 1px; border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);">[​IMG] 08-05-2010, 03:37 PM </td> <td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 1px 1px 0px; border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> #479 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Little Duck<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_3281719", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: May 2008
    ข้อความ: 566
    Groans: 0
    Groaned at 2 Times in 2 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 3,244
    ได้รับอนุโมทนา 8,854 ครั้ง ใน 563 โพส
    พลังการให้คะแนน: 130 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_3281719" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->ยอมรับ ปรับปรุง แก้ไข ACCEPT IMPROVEMENT MODIFY
    ค่อยเป็น ค่อยไป STEP BY STEP
    ทางสายกลาง MIDDLE WAY

    UNIVERSE..
    <!-- google_ad_section_end -->
    </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px 1px; border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);"> [​IMG] [​IMG] <script type="text/javascript"> vbrep_register("3281719")</script> [​IMG] </td> <td class="alt1" style="border-width: 0px 1px 1px 0px; border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]</td></tr></tbody></table>
    สวัสดีค่ะ พี่ิจินต์

    ข้อความด้านบนนี้ เป็นข้อความของพี่จินต์ ซึ่งได้ติดต่อมาให้ช่วยโพสต์แทน ตามวันและเวลาดังกล่าว .. ดูคำตอบด้านล่างนะคะ


    ACCEPT =1+3+3+5+16+20 = 48
    IMPROVEMENจT =9+13+16+18+15+22+5+13+5+14+20 = 150
    MODIFY = 13+15+4+9+6+25 = 72

    48+150+72 = 270 = 2+7+0= 9= I = Intellgence = สติปัญญา
    ยอมรับ ปรับปรุง แก้ไข = การใช้สติปัญญา

    STEP BY STEP = 19+20+5+16+2+25+19+20+5+16 = 147 = 12 = L = Level = ระดับ
    ค่อยเป็นค่อยไป คือ ตามลำดับขั้น



    MIDDLE WAY =13+9+4+4+12+5+23+1+25 =96 = IF = Important Function รูปแบบสำคัญ
    ทางสายกลาง คือ รูปแบบสำคัญ ควรยึดหลักทางสายกลาง

    คำตอบของพี่ิจินต์ คือ ..
    สติปัญญา +
    ลำดับขั้น + ยึดหลักทางสายกลาง = 9+12+96 = 117 = KG
    K= KEY = กุญแจ, รหัส , ไขรหัส
    G = GRAND = สำคัญที่สุด, รวบยอด
    KG =
    กุญแจสำคัญในการไขปัญหา



    UNIVERSE..
     
  3. where?

    where? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +883
    มนุษย์ที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้
    เปรียบเสมือนเซลล์เล็กๆ เป็นล้านๆ เซลล์ที่อาศัยอยู่ในร่างกายมนุษย์
    แต่ละเซลล์มีหน้าที่ของตัวเองแตกต่างกัน เพื่อค้ำจุนสังขารร่างกายมนุษย์<O:p</O:p
    เซลล์แต่ละเซลล์ในร่างกายมนุษย์กระพริบ เกิด – ดับ อยู่ตลอดเวลา
    <O:p</O:p
    มนุษย์แต่ละส่วนบนโลกใบนี้ มีหน้าที่ทางจิตวิญญาณแตกต่างกัน
    แต่ก็เป็นไปเพื่อสนับสนุนค้ำจุนกระแสพลังงานด้านบวก
    เพื่อปฎิกิริยาทางพลังงานบางอย่าง ที่มีผลต่อการเหวี่ยงหมุนของดาวเคราะห์โลก
    มนุษย์ต้องตื่นในเวลากลางวัน เพื่อผลิตกระแสพลังงาน
    มนุษย์ต้องหลับในเวลากลางคืน เพื่อยุติการผลิตกระแสพลังงาน
    <O:p</O:p
    แต่ปัจจุบันนี้เกิดอะไรขึ้นกับมนุษย์โลก<O:p</O:p
    ถึงเวลาตื่นกลับหลับ ถึงเวลาหลับกลับตื่น
    ให้ผลิตกระแสบวกกับผลิตกระแสลบ
    โปรดมองไปรอบๆ ตัวเรา ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้..<O:p</O:p
     
  4. Little Mermaid

    Little Mermaid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    718
    ค่าพลัง:
    +1,768

    ถูกผิด กระทำโดยมนุษย์
    ดีชั่ว กระทำโดยมนุษย์
    เวียนว่ายตายเกิดติดตาม
    นิพพานคือ ดับ..

    ................................
     
  5. Little Duck

    Little Duck เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,981
    <table id="post3290847" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 0px 1px 1px; border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);">[​IMG] วันนี้, 10:27 AM </td> <td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 1px 1px 0px; border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> #514 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->วสุธรรม<!-- google_ad_section_end --> [​IMG] <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_3290847", true); </script>
    ผู้สนับสนุน บริจาค

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Nov 2008
    สถานที่: สถานที่ที่สงบ สบาย ปลอดภัย
    อายุ: 47
    ข้อความ: 697
    Groans: 3
    Groaned at 2 Times in 2 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 13,288
    ได้รับอนุโมทนา 1,939 ครั้ง ใน 474 โพส
    พลังการให้คะแนน: 186 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG]

    </td> <td class="alt1" id="td_post_3290847" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <center><!-- google_ad_section_start -->Conferm<!-- google_ad_section_end -->

    </center>
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start --> อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ วสุธรรม [​IMG]
    ขอ อนุโมทนาครับ...



    [​IMG]
    จับมือกันไว้ให้มั่นคง
    เพื่อความยืนยงสามัคคี

    </td> </tr> </tbody></table>
    CONFERM CONFERM CONFERM
    ผมขอยืนยันอีกครั้งครับ...แน่นอนที่สุด<!-- google_ad_section_end -->
    </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px 1px; border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);"> [​IMG] [​IMG] <script type="text/javascript"> vbrep_register("3290847")</script> [​IMG] </td> <td class="alt1" style="border-width: 0px 1px 1px 0px; border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> [​IMG] [​IMG]</td></tr></tbody></table>
    CONFERM CONFERM CONFERM
    3+15+14+6+5+18+13+3+15+14+6+5+18+13+3+15+14+6+5+18+13= 222
    222 = BV = BEFORE VICTORY ..
    222 = 6 = F = FULL = เต็มที่ , สมบูรณ์แบบ ..

    ** โปรดสังเกตุ 222 ..

    CONFERM = 3+15+14+6+5+18+13 = 74 = 11
    CONFERM = 3+15+14+6+5+18+13 = 74 = 11
    CONFERM = 3+15+14+6+5+18+13
    = 74 = 11

    11+11+11 = 33 =CC=CONCERN ผู้ที่เกี่ยวข้อง

    จับมื
    อกันไว้ให้มั่นคง เพื่อความยืนยงสามัคคี คือ กุญแจสำคัญในการเดินทางสู่ NEW AGE ดังนั้น ก่อนที่จะเข้าสู่ยุค ศิวิไลซ์ ขอให้ทุกท่านเต็มที่กับสิ่งที่ทำ สนับสนุนซึ่งกันและสาัมัคคีกัน เราจะก้าวเดินไปพร้อมๆ ด้วยกัน ..

    CONFIRM = ยืนยัน , แน่นอนที่สุด

    UNIVERSE..
     
  6. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,705
    ค่าพลัง:
    +51,934
    *** ลบล้างกรรมที่ทำมาในอดีต ****

    การกระทำที่ผ่านมาในอดีต....ทำให้เกิดตัวกระทำขึ้นมาแล้ว
    ตัวกระทำ มันตามติดเราตลอดเวลา
    แล้วส่งผลตอบแทนเมื่อถึงวาระ คือ วันที่กรรมปรากฏ
    สรุปว่า....การกระทำเป็นสิ่งยิ่งใหญ่

    การได้เกิดเป็นมนุษย์...โชคดีที่สุดแล้ว
    เราสามารถคิดได้เอง ตัดสินใจได้เอง เลือกที่จะทำได้เอง

    "คิด" กับ "ทำ"... เสมือนน้ำกับน้ำมัน
    คิด ก็ส่วนหนึ่ง เป็นเรื่องของใจกระทำ
    ทำ ก็อีกส่วนหนึ่ง เป็นเรื่องกายกระทำ
    แล้วยังมี วาจา ที่เป็นเรื่องของปากกระทำ

    ถ้า เราพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง ไปในทางที่ดี
    พยายามที่จะหลีกหนีกรรม หลีกหนีการกระทำเก่าๆ
    เราจะต้อง "ทำ" ทำให้เป็นการกระทำขึ้นมา
    ไม่ใช่แค่...คิดอยู่อย่างเดียว
    ไม่ใช่เพียงแต่ คิดบวก เท่านั้น
    ท่านจะต้องทำ ทำ ทำอย่างจริงจัง
    ทำให้ใจความคิด กายกระทำ คำพูดจากปาก มันตรงกัน จึงจะสำเร็จ

    เพราะ "กรรม" เป็นเรื่องของการกระทำในอดีต
    เป็นมลทิน เป็นความมัวหมอง เป็นลบ
    เราถึงให้ทุกท่าน พยายามสร้าง "การกระทำใหม่" ขึ้นมา
    เพื่อเป็นสิ่งตรงข้าม เป็นบวก ไปลบล้างกรรม ลบล้างอดีตที่เคยทำมา

    สรุป...
    กรรม....สามารถลบล้างด้วย การกระทำใหม่ ด้วยสัจจะปฏิบัติ
    ไม่มีใครสามารถลบล้างกรรม มลทิน การกระทำในอดีตของท่านได้
    ท่านทำเอง ท่านต้องลบเอง...แก้วของท่านจะได้บริสุทธิ์เหมือนเดิม

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2010
  7. ศิลปินชนบท

    ศิลปินชนบท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    773
    ค่าพลัง:
    +1,678
    ขอบคุณท่านหนุมาน ค่ะ จะพยายามพยามยามและพยายาม ถ้าลบล้างไม่หมดมันก็จะตามหลอนเราไปอย่างนี้ ไม่มีประโยขน์ เหนื่อย และทรมาน
     
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,705
    ค่าพลัง:
    +51,934
    *** บัวสี่เหล่า ****

    ๑. บอกเตือนสัจจะความจริง ครั้งเดียวเข้าใจ แล้วรีบทำ
    ๒. บอกเตือนสัจจะความจริง สองครั้ง จึงเข้าใจ แล้วค่อยเริ่มทำ
    ๓. บอกเตือนสัจจะความจริง สามครั้ง กว่าจะเข้าใจ กว่าจะเริ่มทำ
    ๔. บอกเตือนความจริง สามครั้ง แล้วยังไม่เชื่อโต้แย้ง ใช้อารมณ์รุนแรง
    .... จึงอุเบกขา คือ เมตตาเขาและตัวเรา ถอยห่างออกมา

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2010
  9. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    สรุป...
    กรรม....สามารถลบล้างด้วย การกระทำใหม่ ด้วยสัจจะปฏิบัติ
    ไม่มีใครสามารถลบล้างกรรม มลทิน การกระทำในอดีตของท่านได้
    ท่านทำเอง ท่านต้องลบเอง...แก้วของท่านจะได้บริสุทธิ์เหมือนเดิม

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->

    กรรมใดที่ทำไปแล้วไม่อาจลบล้างได้ ยังไงเราก็ต้องรับผลแห่งกรรมนั้น นี่คือกฏแห่งกรรม
    ดังนั้นเราถึงต้องระมัดระวังที่จะไม่กระทำกรรมไม่ดีหรือกรรมลบ กรรมใหม่ที่กระทำใหม่ไม่อาจไปลบล้างผลของกรรมเก่าที่ทำไปแล้วได้ แต่อาจจะช่วยให้การรับผลแห่งกรรมเก่านั้นไม่รุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ในเรื่องกฏแห่งกรรม มีหลายคนพยายามจะบอกว่ามันถูกลบหรือถูกล้างได้ แต่ระวังด้วยครับเพราะเราอาจจะรู้ตัวว่ามันผิดเอาเมื่อตอนที่เราต้องรับผลแห่งกรรมแล้วซึ่งสายเกินแก้ไขหรือป้องกันได้แล้วครับ

    ขอโทษท่านหนุมาณด้วยที่ต้องขอชี้แจง หากเป็นการล่วงเกินก็ให้อโหสิกรรมให้ผมด้วย ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะไปขัดแย้งกับผู้ใดเลย
     
  10. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,705
    ค่าพลัง:
    +51,934
    *** สัจจะคำสอน ****

    สัจจะปฏิบัติ...เป็นเรื่องโลกุตตระธรรม
    เป็นธรรมเหนือโลก เหนือความคิดมนุษย์
    สิ่งสำคัญนี้แหละ สิ่งที่หายไปจากบันทึกตำราต่างๆทางศาสนา
    คลื่นสองลูกเท่ากัน วิ่งสวนกัน ผิวน้ำก็ราบเรียบได้

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,705
    ค่าพลัง:
    +51,934
    ตัวกระทำจากสัจจะ...ผลตอบแทนมันยิ่งใหญ่ที่สุดของปฏิหาริย์

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  12. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    ขนตาอยู่ใกล้ตา เปรียบเปรยเหมือนกรรมอยู่ใกล้ตัว มองไม่เห็นแต่มีอยู่ เมื่อถึงความพร้อมด้วยองค์ประกอบ ขนตาจึงเข้าตา แล้วน้ำตาก็ไหล บ้างก็ร้องหาคนมาช่วย บ้างก็เอาออกเอง บ้างก็ซ้ำหนักขยี้ไปใหญ่ บ้างก็หลุดออกเอง ผลของกรรมมาจากความสมบูรณ์ขององค์ประกอบหรือเรียกว่า วาระ
     
  13. where?

    where? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +883
    บาป - กรรม บุญ (กุศล) -บารมี

    ท่านอาจารย์อนาลัยได้ให้คำจำกัดความเกี่ยวกับ บาป หรือกรรมไว้ว่า

    บาป หรือ กรรม(ไม่ดี) คือความเชื่อในทางที่ผิดที่ทำให้บุคคลใช้ความคิดและการกระทำไปในทิศทางที่ไม่สร้างสรรค์ ซึ่งดึงดูดเหนี่ยวนำและก่อให้เกิดประสบการณ์ชีวิตที่ไม่เอื้ออำนวยให้เกิดประโยชน์สุขต่อตนเองและผู้อื่น

    ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวว่าทุกชาติภพดำเนินไปพร้อมกันหมดเป็นปัจจุบันบุคคลผู้ก่อกรรมหรือการกระทำในแง่ลบจากชาติภพหนึ่งจึงไม่ได้รับโทษทัณฑ์ในชาติภพต่อไป ตามเส้นทางแห่งกาลเวลาเป็นเส้นตรงหากแต่ว่าการก่อกรรมหรือความคิดและการกระทำในแง่ลบในชาติภพหนึ่งๆส่งผลกระทบต่อชาติภพอื่นๆ อย่างเป็นปัจจุบันทันด่วน โดยไม่ต้องใช้เวลา

    บุคคลใดไม่ได้ศึกษาและทำความเข้าใจเพื่อปลี่ยนความเชื่อในทางที่ผิดให้กลายเป็นความรู้ ความเชื่อนั้นๆจะติดบุคลิกภาพไปหลายชาติภพหรือกล่าวในนัยอันปราศจากกาลเวลาได้ว่าความเชื่อในทางที่ผิดนั้นๆ จะปรากฏในหลายชาติภพพร้อมกันหมดยังผลให้จิตวิญญาณพร้อมด้วยบุคคลภาพ ที่ถือกำเนิดเป็นหลายบุคคลตัวตน หลายชาติภพหลายเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ เผชิญกับประสบการณ์ในแง่ลบ จากทิศทางต่างๆแง่มุมต่างๆ เพื่อเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนความเชื่อที่ผิดนั้นให้กลายเป็นความรู้ได้ในที่สุด

    การคิดและกระทำอันเกิดจากความเชื่อในทางที่ผิด ย่อมไม่เกิดประโยชน์สุขต่อตนเองและผู้อื่นและก่อให้เกิดความรู้สึกผิดอันเป็นธรรมชาติซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้จิตวิญญาณที่มาถือกำเนิดเป็นบุคคลตัวตนเรียนรู้ที่จะละเว้นที่จะไม่คิดผิด กระทำผิดซ้ำแบบเดิมอีก

    __________________________________________________
    ในนัยทางพุทธศาสนา กรรม(ไม่ดี) มีรากเหง้ามาจาก ความโลภ ความโกรธความหลง
    ในนัยของท่านอาจารย์<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]</st1:personName>อนาลัย กรรม(ไม่ดี)มีรากเหง้ามาจากอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อในแง่ลบ

    บุญเป็นภาวะที่ตรงกันข้ามกับบาป หรือ กรรม
    บุญเป็นคนละคำและต่างความหมายกับคำว่าบารมี

    บุญเป็นคำเดียวกัน และมีความหมายคล้องจองกับคำว่ากุศล (Kusala) (จาก Buddhist Dictionary ของ ท่าน Nyahatiloka) ซึ่งหมายถึง กรรมดี หรือผลลัพธ์ที่เกิดจากความคิดและความเชื่อในทางที่ดีซึ่งไม่ได้เป็นเพียงการคิดและกระทำดีด้วยความเชื่อในทางที่ดีซึ่งเป็นไปอย่างผิวเผิน ท่าน Nyanatiloka ได้อธิบายขยายความไว้ว่า บุญ หรือ กุศลหมายถึงการคิดและกระทำดีด้วยความเชื่อในทางที่ดีเป็นนิจนิสัย-พร้อมด้วยทักษะ (skillful) ซึ่งจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อเป็นความคิดและการกระทำด้วยสติพร้อมอย่างแท้จริง และเป็นไปเสมอๆเป็นนิจนิสัย

    ในนัยของท่านอาจารย์อนาลัย จึงกล่าวได้ว่า บุญ คือความเชื่อในทางที่ถูกต้องที่ทำให้บุคคลใช้ความคิดและการกระทำไปในทิศทางที่สร้างสรรค์ ซึ่งดึงดูด เหนี่ยวนำและก่อให้เกิดประสบการณ์ชีวิตที่เอื้ออำนวยให้เกิดประโยชน์สุขต่อตนเองและผู้อื่น

    ในนัยทางพุทธศาสนา กรรมดี มีรากเหง้ามาจาก การปราศจากความโลภปราศจากความโกรธ ปราศจากความหลงซึ่งเป็นไปได้ด้วยปัญญาและการมีความรู้-ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ปราศจากความลุ่มหลง (อโมหะ)

    ในนัยของท่านอาจารย์<st1:personName w:st="on" ProductID="อนาลัย กรรมดี">อนาลัย กรรมดี</st1:personName>มีรากเหง้ามาจาก อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อในแง่บวกหรือเป็นไปตามความรู้

    ในนัยทางพุทธศาสนา:ปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิด บาป หรือ กรรม และ
    ปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิด บุญ หรือกุศล ได้แก่ :
    1. เจตนา อันเป็นต้นกำเนิดของความคิด และการกระทำ
    2. มูลเหตุอันเป็นมาตรวัดความแตกต่างระหว่าง กุศล กับ อกุศล
    มูลเหตุอันเป็นมาตรวัดภาวะจิตอันเป็น กุศล และ อกุศล ได้แก่ภาวะจิตอันเบิกบานอิ่มเอิบเต็มไปด้วยปิติ และความรัก ความเมตตา กับ ภาวะจิตอันหม่นหมอง โกรธ เกลียดอิจฉา ริษยา

    ในนัยของท่านอาจารย์อนาลัย:ปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิด บาป หรือ กรรม และ
    ปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิด บุญ หรือกุศล ได้แก่ :
    1. เจตนา
    2. ความมุ่งมั่น
    3. ความปรารถนา
    ซึ่งหากคล้อยตามความเชื่อในแง่ลบ ก็ย่อมเหนี่่ยวนำดึงดูดและก่อให้เกิดประสบการณ์ในแง่ลบ
    ซึ่งหากคล้อยตามความเชื่อในแง่บวกก็ย่อมเหนี่่ยวนำดึงดูดและก่อให้เกิดประสบการณ์ในแง่บวก

    ____________________________________________________
    บารมีเป็นคำที่เรามักกล่าวควบว่าบุญ-บารมี
    เนื่องจากทั้งบุญและบารมีเป็นภาวะที่ล้วนเป็นไปในแง่บวก แต่ก็เป็นคนละคำกัน และคนละภาวะกัน

    บุญ เป็น ภาวะอันเป็นนามธรรม
    บารมี เป็นภาวะอันเป็นรูปธรรม

    บารมี (Paramita) หมายถึงคุณสมบัติอันเป็นเลิศ อันได้แก่ :
    1. Perfection in Giving - เป็นเลิศ ในการให้ (dana-parami - ทานบารมี)
    2. Perfection in Morality - เป็นเลิศ ในการประพฤติดี (sila-parami - ศีลบารมี)
    3. Perfection in Renunciation - เป็นเลิศในการปฏิเสธซึ่ง ยศ และ อภิสิทธิ์ (nekkhamma-parami - เนกขัมมบารมี)
    4. Perfection in Wisdom - เป็นเลิศ ในการใช้ปัญญา (panna-parami - ปัญญาบารมี)
    5. Perfection in Energy - เป็นเลิศ ในการใช้พลังแห่งความพากเพียร (viriya-parami - วิริยะบารมี)
    6. Perfection in Patience - เป็นเลิศ ในการอดทน (khannti-parami - ขันติบารมี)
    7. Perfection in Truthfulness - เป็นเลิศ ในการรักษาสัจจะหรือรักษาสัญญา (sacca-parami - สัจจะบารมี)
    8. Perfection in Resolution - เป็นเลิศ ในการแก้ปัญหาและตัดสินใจอย่างแน่วแน่ (adhitthana-parami - อธิษฐานบารมี)
    9. Perfection in Loving-kindness - เป็นเลิศ ในการรักและเมตตา (metta-parami - เมตตาบารมี)
    10. Perfection in Equanimity - เป็นเลิศในการควบคุมอารมณ์ได้อย่างสม่ำเสมอ (upekkha-parami - อุเบกขาบารมี)

    __________________________________________________

    การทำสมาธิหรือ การฝึกสมาธิ เป็นการฝึกฝนเพื่ออบรมจิตให้รู้จักพิจารณาอารมณ์-จิินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของตนเองอย่างมีสติแทนที่จะปล่อยให้อารมณ์-จิินตนาการและความรู้สึกนึกคิดเป็นไปโดยคล้อยตามความเชื่ออย่างขาดสติ ขาดการคิดด้วยมูลเหตุที่ดี ขาดเจตนาที่ดีขาดความมุ่งมั่นในทิศทางที่เป็นคุณ และ ขาดความปรารถนาดีต่อตนเองและผู้อื่น

    ดังนั้น การกล่าวว่า การทำสมาธิ เป็นการสะสมบุญ
    ก็มีความเป็นจริงเพราะจิตที่ได้รับการอบรมฝึกฝน-อย่างสม่ำเสมอ
    ย่อมจะใช้อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดไปในทิศทางที่เป็นไปตามความเชื่อในแง่บวก หรือตามความรู้จนเป็นนิจนิสัยเป็นทักษะประจำสติสัมปชัญญะของผู้ฝึกฝน ทำให้ผู้ฝึกฝนหยุดยั้งที่จะมีความโลภความโกรธ ความหลง ได้ไม่มากก็น้อยและหยุดยั้งการใช้อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดโดยปราศจากการสำรวจความเชื่อของตนเอง

    บุญเป็นภาวะจิต เป็นภาวะอันเป็นนามธรรม เป็นจินตภาพ
    ผู้ที่มีบุญจึงหมายถึงผู้ที่มีภาวะจิตอันแจ่มใส เบิกบาน สุขใจเพราะตระหนักได้ถึงต้นเหตุของ
    ความหม่นหมองของอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดทั้งหลายอันมีต้นเหตุมาจากภายใน คือจาก ภาวะจิตของตนเอง เมื่อรู้ต้นเหตุของความหม่นหมองก็กำจัดต้นเหตุนั้นๆได้ง่าย เพราะเป็นส่ิงที่สามารถควบคุมและแก้ไขได้ด้วยตนเองไม่ต้องไปพยายามควบคุมหรือแก้ไขสิ่งที่อยู่ภายนอกตัวตนซึ่งตนเองไม่อาจควบคุมหรือแก้ไขได้

    ผู้ที่ฝึกสมาธิจนสามารถใช้อารมณ์-จิินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของตนเองได้อย่างมีสติก็น่าจะเรียกได้ว่าเป็นผู้มีบุญ ผู้ที่ "รู้สึก"ว่าตนเองมีบุญ ก็คือผู้ที่มีภาวะจิตที่แจ่มใส เบิกบานอยู่เสมอ หากจะมีปัญหา หรืออุปสรรคใดๆและหากจะทุกข์-ก็ทุกข์ได้ไม่นานเพราะสามารถแก้ทุกข์ได้ด้วยการแก้ไขความเชื่อของตนเองซึ่งยังผลให้สามารถพลิกผันอารมณ์-จิินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของตนเองได้

    ผู้อื่นสามารถรู้เห็นหรือสัมผัสกับภาวะอันเป็นบุญในบุคคลได้ด้วย -ความรู้สึกเช่นกัน
    เช่น รู้สึกร่าเริง แจ่มใส เบิกบาน สบายใจเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดบุคคลที่มีบุญ หรือติดต่อสื่อสารด้วย

    การทำบุญ อาจเป็นได้ทั้ง การคิดและการกระทำ
    การคิด : เช่นการสวดมนต์ การภาวนา การคิดในแง่บวก การมองโลกในแง่ดี การมีเจตนา มีความมุ่งมั่นและความปรารถนาในทางที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น การให้ความรัก ความเมตตา ต่อมนุษย์สัตว์ พืช สิ่งแวดล้อม
    การกระทำ : เช่น การให้การช่วยเหลือเกื้อกูลมนุษย์ สัตว์พืช สิ่งแวดล้อมเป็นต้น

    การทำบุญจึงไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเฉพาะกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับพิธีกรรมทางศาสนาแต่เพียงอย่างเดียวแต่ครอบคลุมถึงการมีความคิด และการกระทำต่อคนรัก คนใกล้ตัว ต่อผู้อื่น ต่อพืชต่อสัตว์ ต่อสิ่งแวดล้อม ต่อสังคม ต่อองค์กรต่างๆ ต่อประเทศชาติที่ก่อให้เกิดความรู้สึิกร่าเริง แจ่มใส เบิกบาน สบายใจ เพราะบุญที่แท้จริงไม่ได้เกี่ยวกับศาสนา แต่บุญที่แท้จริงจึงอยู่ที่ผลลัพธ์อันเกิดจากภาวะจิต หรือความรู้สึกของบุคคลโดยตรง

    ------------------

    แต่คำกล่าวที่ว่า การทำสมาธิเป็นการสร้างบารมีนั้น
    พี่นักเขียนมีความเห็นว่า การสร้างบารมีแต่ละข้อเป็นไปได้ด้วยการกระทำทั้งสิ้น
    บารมี เป็นพฤติกรรม เป็นภาวะอันเป็นรูปธรรมซึ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้โดยปราศจากการกระทำ

    การนั่งสมาธิเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ซึ่งทำให้เราเกิดความคิดในแง่ดีแต่ก็ยังไปไม่ถึงการกระทำที่ดี ดังนั้นการสร้างบารมีด้วยการฝึกสมาธิก็เท่ากับว่าเป็นความคิด แต่เพียงอย่างเดียว จึงไม่อาจบรรลุผลได้จนกว่าจะลงมือกระทำหรือปฏิบัติตามความคิดนั้นๆ

    บารมีเป็นการกระทำที่ไม่เกี่ยวกับพิธีกรรมทางศาสนาการสร้างบารมีเป็นการกระทำอันก่อให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษย์ทุกชาติภาษาและทุกศาสนาในโลก ผู้ปรารถนาความรัก ความเอื้ออาทรและการสนับสนุนช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันโดยปราศจากการเหลื่อมล้ำเบียดเบียนด้วยกันทั้งสิ้นบารมีที่แท้จริงจึงอยู่ที่ผลลัพธ์อันเกิดจากพฤติกรรม หรือ การกระทำของบุคคลโดยตรง<V:p</V:p<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    นักเขียนนำดอกไม้ปลายฤดูร้อนรุ่นสุดท้ายมาฝากพวกเราค่ะ
    อากาศเริ่มเย็นแล้วอีกไม่กี่วัน ดอกไม้เหล่านี้ก็จะร่วงโรยไป
    และเปิดทางให้ต้นไม้หลากหลายพันธุ์ได้อวดสีสันฤดูใบไม้ร่วงกันต่อไป

    ไม่ว่าชั่วโมงต่อไปวันต่อไป สัปดาห์หน้า เดือนหน้า ปีหน้า และ ปีต่อๆไป
    จะเป็นอย่างไรเราต่างก็มีเพียง ขณะปัจจุบัน ขณะจิตนี้เพียงชั่วขณะเดียว
    ที่เรารู้เเห็นสัมผัส คิด และ กระทำได้

    เราจึึึงควรจะรู้เห็น สัมผัส คิดและกระทำด้วยสติพร้อม
    ไม่ปล่อยให้ขณะจิตนี้ล่วงเลยไปโดยปราศจากการใช้สติสัมปชัญญะอย่างคมชัด
    เพราะมันอาจจะทำให้เรามองข้ามบางสิ่งบางอย่างไป
    เช่นความงดงามของสิ่งที่ไม่ยั่งยืนเหมือนดอกไม้ปลายฤดูร้อน
    กว่าเราจะมองเห็นมันมันอาจจะไม่เหลือร่องรอยให้เราได้ชื่นชมอีกต่อไป
     
  14. where?

    where? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +883
    ผู้มีความสามารถในการชำระหนี้สูง
    ย่อมสามารถเจรจาต่อรองให้ยอมความกันได้
    สูงกว่าผู้มีความสามารถชำระหนี้ต่ำ
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,705
    ค่าพลัง:
    +51,934
    *** ความจริงที่คนในโลกเข้าไม่ถึง ****

    ในดวงอาทิตย์ คืออะไร มีอะไร
    เราก็ได้แต่คิดกันไปเอง
    ผู้ที่จะบอกได้ จึงมีเพียงมนุษย์เหนือโลก

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  16. Little Duck

    Little Duck เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,981
    TIME

    <table style="width: 100%;" class="ecxecxecxMsoNormalTable" border="1" cellpadding="0" width="100%"><tbody><tr><td style="padding: 0.75pt; width: 100%; background: none repeat scroll 0% 0% rgb(255, 255, 208);" valign="top" width="100%"> [​IMG]
    </td></tr> <tr> <td style="padding: 0.75pt; background: none repeat scroll 0% 0% rgb(255, 255, 208);" valign="top"> หนังสือ time magazine บอกว่าที่อเมริกา ได้มีงานวิจัย พบว่าคนที่มีความสุขมากที่สุดในโลก ก็คือ
    พระในทางพุทธศาสนาโดยทดสอบด้วยการสแกนสมองของพระที่ ทำสมาธิและได้ผลลัพธ์ ออกมาว่าเป็นจริง...
    หลักความเชื่อของศาสนาพุทธ ก็คือ
    เหตุ ที่ทำให้เกิดความสุข นั้นก็คืออยู่ กับปัจจุบัน ขณะปล่อยวางได้ในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วควบคุมความอยากที่ไม่มีสิ้นสุด ไม่ใช้ความรุนแรงไม่ทะเลาะ และใช้หลักเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ให้อภัย ตัวเองและผู้อื่น มีจิตใจเมตตากรุณาและเสียสละเพื่อ ผู้อื่น อริยะสัจ 4 สิ่ง ที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบและ บอกไว้ว่า ด้วย ทุกข์ สมุทัย มรรค นิโรธ แท้จริงแล้วก็คือ ทางเดินไปหาคำว่า " ความสุข " เพราะถ้าเมื่อไร เรากำจัด " ความทุกข์ " ได้แล้วความ สุขก็จะเกิดขึ้นทันที อุปสรรคของความสุข ก็คือ แรงปรารถนาและตัณหา พระอาจารย์บอกว่า คน เราจะมีความสุขมันไม่มีขึ้นอยู่กับว่า " มีเท่าไร " แต่ขึ้นอยู่ที่ว่าเรา " พอเมื่อไร " ความสุขไม่ได้ขึ้นกับจำนวนสิ่งของที่เรามีหรือเราได้... ท่าน สังเกตเอาจากชาวนาที่ จ.อุบล ถ้าบ้านไหนมีควายไว้ช่วยทำนา 1 ตัว บ้านนั้นจะมีความสุข แต่เมื่อไรที่ชาวนาคนไหนอยาก จะได้ ควาย ตัวที่ 2 ปั๊ป ชาวนาคนนั้นจะไม่มีความสุข เลย เพราะต้องเริ่มคิดว่าจะทำไงดีถึงจะได้ควายอีกสักตัวเราก็เหมือนกัน เมื่อไรที่เรา อยากได้รถคันใหม่อยากได้บ้านใหม่ อยากไปเที่ยว ฯลฯเราจะเริ่มเป็น ทุกข์ เพราะเราต้องคิดหาทางที่จะ เอามันมาให้ได้ มาเป็นของเรา.. ดังนั้นวิธีจะมีความสุข อันดับแรก ต้อง" หยุดให้เป็นและพอใจให้ได้ " ถ้าเราไม่หยุดความอยาก(ที่มากเกินไป) ของเราแล้วละก็ เราก็จะต้องวิ่งไล่ตามหลายสิ่งที่ เรา " อยากได้ " แล้วนั่นมัน เหนื่อย!!!และความทุกข์ก็จะตามมา... ข้อต่อมาที่ทำให้เราเป็น สุข คือ การมองทุกอย่างใน แง่บวกเมื่อเสร็จงานแล้วกลับถึง บ้านคนที่บ้านถามว่า วันนี้เป็นไงบ้าง ? ส่วนใหญ่เราจะตอบว่า " โดนบอสด่ามา วุ่นวาย ลูกค้า งี่เง่าฯลฯ " ทำไมเราถึงชอบคิดถึงแต่เรืองไม่ดี ในชีวิตแต่ละวัน แน่นอนเราต้อง เจอทั้งเรื่องดี และไม่ดีแต่ถ้าเรา อยากจะมีความสุขเราต้องเริ่ม ด้วยการมอง แต่สิ่งดีๆมองให้เป็นบวก เพื่อที่ใจเราจะได้เป็นบวกคิด ถึงสิ่งที่เราทำสำเร็จแล้วในวันนี้สิ่งดีๆที่เราได้ทำ.... ข้อต่อมาคือ การให้หมายรวมถึงการให้ในรูปแบบสิ่งของหรือเงิน เรียกว่าบริจาค และการให้ ความเมตตา กรุณาต่อกัน ให้อภัย ทั้งตัวเอง และคนอื่น สิ่ง เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ เป็นปัจจัยทำ ให้เรามีความสุข.... การปล่อยวาง ให้ได้ ในทุก สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วและที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าเรื่องจะร้ายแรงและเศร้าโศก เพียงใดจำไว้ว่า มันจะโดนเวลา พัดพามันไปจากเราไม่ช้าก็ เร็วเราจะผ่านพ้นไปได้.... และยอมรับใน ความเป็นจริงของชีวิตไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เราไม่ชอบเพียงใด ไม่ว่า ผิดหวังสูญเสีย เจ็บป่วยล้วนแล้วแต่ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา เราทุกคนต้องได้ผ่านบททดสอบนี้ทั้งสิ้น ไม่ว่าเราจะเป็นใคร...ขอให้เรารักษาใจเราให้เป็นสุข อยู่เสมอเพราะ ความสุข มันอยู่ใกล้แค่นี้เอง แค่ที่ใจของ เรา นี่เองแหละ...


    </td></tr></tbody></table>
     
  17. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    พลังงานกรรม คือ พลังงานที่ถูกผลิตขึ้น เป็นได้ทั้ง 2 ขั้ว คือ บวก และ ลบ อันนี้มาจาก กรรม=การกระทำ(อันนี้ แม้กระทั้งเลือกที่จะเชื่อประการใด รูปแบบไหน หรือเกิดความคิด ก็คือ "กระทำ" แล้ว เพราะถือกำเนิดรูปแบบพลังงานขึ้นแล้ว)

    ในเมื่อพลังงานกรรมมีขั้ว บวกและลบ ท่านคิดว่า กลาง มีได้ เป็นไปได้หรือไม่?

    หากว่าสถานะ กลาง เป็นไปได้ มันสามารถเกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วจะเรียกว่า "ลบล้าง" เหมาะสมตรงตัวกับสถานะกลางหรือไม่?

    สิ่งหนึ่งที่พวกเรารู้แน่ชัดก็คือ พวกเราทุกคนสามารถรู้แจ้งสู่สถานะนิพพานได้ ณ ตอนไหนก็ได้ ในชาตินี้หรือชาติอื่นๆ ไหนๆ ก็ตามแต่ ถ้าเราทำได้สำเร็จ

    แล้วในเมื่อ พลังงานกรรมที่เป็นลบ และหลายๆท่านเชื่อว่าต้องชดใช้
    หรือ พลังงานกรรมที่เป็นบวก และหลายๆท่านเชื่อว่าต้องรับสิ่งดี
    (ตรรกนี้คือ มีการชดใช้จ่ายไป ก็ต้องมีการได้รับคืนมา)
    ถ้าสมมติเราทำได้สำเร็จถึงรู้แจ้งเป็นสถานะนิพพานแล้ว
    เราจะชดใช้พลังงานลบ ที่ไหน? อย่างไร? เป็นอะไร? เมื่อไหร่? เพราะอะไร?
    และ เราจะได้รับผลดี ที่ไหน? อย่างไร? เป็นอะไร? เมื่อไหร่? เพราะอะไร?

    การที่ยังต้องเรียนรู้ หาประสบการณ์ เปลี่ยนความเชื่อให้เป็นความรู้(การตระหนักหรือตื่นรู้)
    เปรียบได้กับการรู้ชัดว่า พวกเรามีส่วนหนึ่งร่วมกัน

    กับสถานะนิพพาน ซึ่งเป็นสถานะที่รู้แจ้งเห็นจริงรู้ซึ้งทุกอย่างในสากลจักรวาลแล้ว จึงไม่มี
    ชาติภพให้เกิดการเรียนรู้อีกต่อไป
    เปรียบได้กับการรู้ชัดว่า พวกเราได้กลับไปรวมกับพลังงานต้นกำเนิดแห่งสรรพสิ่งแล้ว

    นี่คือคนละสถานะกัน และยังดำรงอยู่เป็นนิรันดร์ทั้ง 2 สถานะ เพราะมันคือธรรมชาติของจักรวาล


    ทุกอย่างเป็นไปได้ และทุกอย่างเป็นทางเลือก สุดท้ายทุกอย่างก็คือ ธรรมชาติหรือพุทธะ
    ซึ่งมีหลากหลายขนาด(ไม่ใช่ระดับ)ของสถานะและทางเลือก แน่นอนว่าขนาดอันเป็นที่สุดคือสถานะนิพพานนั่นเอง

    (ข้าพเจ้าเสี่ยงมากนะนี่ แต่ก็ยอมสละนะ ไหนๆก็ถูกบางท่านหลายๆท่านมองเห็นให้เป็นด้านลบมาเยอะแล้ว
    และข้าพเจ้าก็น้อมรับชิ้นส่วนแห่งปริศนาหรือจิ๊กซอของทุกท่านเสมอค่ะ *0*)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2010
  18. Little Duck

    Little Duck เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,981
    สัจจะ = Sujja = 19+21+10+10+1 = 61 = 7
    7 = G = GRAND = สำคัญที่สุด , ยิ่งใหญ่ที่สุด
    ปฏิหาริย์ = Miracle = 13+9+18+1+3+12+5 = 61 = 7
    7 = G = GREAT วิเศษ , ชั้นหนึ่ง , บุญบารมีสูง

    สัจจะ = ปาฎิหาริย์ = GRAND & GREAT

    UNIVERSE ..
     
  19. ศิลปินชนบท

    ศิลปินชนบท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    773
    ค่าพลัง:
    +1,678
    *สู้สู้เพื่อวันใหม่ที่สดใสกว่า*
     
  20. ศิลปินชนบท

    ศิลปินชนบท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    773
    ค่าพลัง:
    +1,678
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=382 border=0><TBODY><TR><TD height=30>มีเพลงมาฝากค่ะ ไม่รู้จะเล่นได้ป่าว เพลงแนวดี</TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...