คุณคือ "ผู้พเนจรจากฟากฟ้า" (Wanderer) หรือ "เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว" (Star Seed) หรือไม่??

*-* เข้าใจค่ะ ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ หมวยไม่ได้เคือง มีดราม่าอะไรนะ แค่กำลังทำสิ่งที่คุณคิด ให้กลับไปหาคุณโดยตรงเท่านั้นเอง และเช่นเดียวกันกับคุณนะ หมวยก็บังคับให้ใครมาชอบไม่ได้เช่นกันค่ะ แต่ถ้าชอบ จะขอเบอร์ก็หลังไมค์ รับแค่คนโสดนะ 555 อันนี้ ล้อเล่งงง

และตอนนั้นหมวยได้ชี้ให้เห็นเช่นกันว่า ผู้ที่เรียนรู้แนวนี้มาบ้างและมีความเข้าใจพอสมควร
ก็จะรู้สึกว่า ทุกๆที่ในสากลจักรวาลคือ บ้าน เพราะทุกๆคนมีความเกี่ยวพันธ์กันทั้งมวลค่ะ เพียงแต่การเรียบเรียงองค์ความรู้และความเข้าใจในแต่ละเรื่องเป็นส่วนๆไป มันจะดูงงๆนิดๆ เช่น การนำเรื่องระดับกายเนื้อไปเปรียบเทียบกับระดับกายทิพย์ ซึ่งเหมือนการนำลักษณะ ความเป็นวัตถุสสารไปเปรียบเทียบกับ ลักษณะความเป็นพลังงาน เป็นต้น ซึ่งทั้งสองอย่างมันแตกต่าง แต่ก็แยกจากกันไม่ได้ ตรงนี้ต่างหากที่หมวยเห็นว่า หลายๆคนที่เรียนรู้เรื่องพวกนี้ยังสับสนอยู่

อีกอย่างหนึ่ง มันก็เป็นประโยชน์ที่คุณได้ถามขึ้นมาค่ะ เพราะจะมีประเภทที่แอบคิดเองอยู่เยอะ การถามตอบกันแบบผู้มีสติมั่นแล้วนี่แหล่ะ ไม่มีดราม่า มันจะเป็นการทำให้ผู้อ่านได้แง่คิดไปด้วย และอาจส่งผลให้เกิดการกระตุ้น และพัฒนาไปได้รวดเร็วยิ่งขึ้นค่ะ

ตอนนี้ ความเป็นหัวหอมของคุณชยุตก็มาถึงละ ไม่แน่นะคะ ระบบพลังงานกรรมที่ห่อหุ้มอยู่รอบโลกแค่นี้ และโดยการเป็นหนึ่งเดียวกับจิตวิญญาณเดิมแท้หรือตัวตนที่สูงส่งกว่าของตัวเองทำให้ทะลุออกไปพ้นหลุดบ่วงกรรมได้ ที่หมวยเคยพูดไว้นานแล้ว และตอนนั้นหลายๆคนไม่เข้าใจ เดี๋ยวก็อาจจะเป็น ความน่าทึ่ง และเข้าใจกันมากขึ้นก็เป็นได้ อิอิ

 

ถ้าแค่กระทบตัวตนกันผ่านข้อความที่พิมพ์แล้วไม่ค่อยถูกใจ แล้วยังโกรธ ยังขุ่นใจ ยังไม่อภัย ยังไม่ปล่อยวาง ยังไม่บอกกับตัวเองว่า ช่างเถอะเรื่องแค่นี้เอง ก็ยากนะ ที่จะถูกยกระดับไปรอวันแห่งอนาคต


http://palungjit.org/threads/อาการ-28-อย่างที่บ่งบอกว่าคุณกำลังเลื่อนระดับขึ้น-ascending-หรือวิวัฒน์ขึ้น-สู่ปี-2012-a.219786/


11). คุณไม่ค่อยเป็นกังวลว่า ใครจะคิดอะไร กับคุณ หรือกับอะไร ยังไงอีกต่อไปแล้ว

12). คุณเข้าใจแล้วว่ามันไม่มีอะไรถูก-อะไรผิด, ไม่มีอะไรดีหรือชั่ว, ไม่มีอะไรขาวหรือดำ
เพราะทุกสิ่งทุกอย่าง มันก็แค่เป็นเช่นนั้นเอง

21). สิ่งต่างๆที่แวดล้อมคุณอยู่ จะมีผลกระทบกับคุณน้อยมาก คุณไม่ตัดสินสิ่งต่างๆ ด้วยความคิดเห็นส่วนตัวของคุณ
และไม่มีสิ่งใดที่ควรค่ามากพอ ที่จะต้องเก็บเอามากลุ้มใจ

24). คุณมีความรักที่สูงส่ง และมีความเมตตากรุณาต่อทุกสรรพชีวิต และคุณก็ยังเคยสัมผัสรู้ถึง
สภาวะที่สูงส่งกว่า และสภาวะที่มีความถี่มากกว่า ของความรักและความเบิกบานอีกด้วย

28). คุณเริ่มเข้าใจแล้วว่า ทุกสรรพสิ่งเชื่อมโยงถึงกันอยู่อย่างไร คุณเข้าใจแล้วว่ามันไม่มีอะไรที่เรียกว่า “ความผิด” หรอก

 

“- ชาวโลกที่ได้รับ “แสงสว่างนั้น” (The light) จะมีการยกระดับทางกายเนื้อไปพร้อมๆกับดาวเคราะห์โลก
ซึ่งจะก้าวหน้าไปสู่ระดับการสั่นสะเทือนของมิติที่ 4 และ <O</O
<O</O
การตัดสินว่าใครจะได้ยกระดับขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับบุคคลผู้นั้นเองไม่ใช่จะมีใครไปตัดสินโดยพละการให้ได้
เพราะมันขึ้นอยู่กับระดับพลังงานของแต่ละบุคคลซึ่งได้สมัครใจเลือกที่จะเป็นแสงสว่างหรือความมืดเอง
ผู้ใดที่เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งแสงสว่างก็จะได้ยกระดับขึ้น<O</O
- การยกระดับขึ้นของแต่ละบุคคลคือการรวมจิตสำนึกและวิญญาณของคนๆนั้นให้เป็นหนึ่งเดียว

- ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ จิตสำนึกโดยรวม (The Collective Consciousness)
จะยังคงได้รับอิทธิพลจากพลังแห่งความมืดที่ยังหลบซ่อนและแอบซุ่มโจมตีอยู่
<O</O
- ชาวโลกคนไหนที่จมปรักอยู่แต่ในโลกมืดมีความโหดเหี้ยมไร้จิตสำนึก กระหายอำนาจ จะต้องตายไปจากโลกนี้
และเพราะว่าพวกเขาเหล่านั้นปราศจากพลังงานแห่งแสงสว่างที่เป็นพลังชีวิตของวิญญาณที่สำคัญ
ดังนั้นร่างกายของพวกเขาจะตายส่วนวิญญาณของพวกเขาจะดิ่งลงไปสู่ระนาบต่างๆที่มีระดับพลังงานหนาทึบมากๆ
ที่เหมาะเจาะกับรูปแบบพลังงานที่ถูกบันทึกไว้ตลอดช่วงชีวิตของพวกเขา
<O</O
- พลังงานความคิดและความรู้สึกของพวกคุณมันไปส่งผลเสียต่อจิตสำนึกมวลรวมของจักรวาล
นี่จึงเป็นคำอธิบายว่าทำไมรูปธรรมชีวิตชั้นสูงจากที่ต่างๆทั่วทั้งจักรวาลมากมาย
จึงพากันปรารถนาดีและกระตือรือร้นยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพวกคุณให้โลกของพวกคุณมีสันติสุข
รักใคร่กลมเกลียวกันอย่างที่พวกคุณปรารถนา
<O</O
- ตอนนี้ดาวเคราะห์โลกกำลังอยู่ระหว่างเส้นทางของการยกระดับสูงขึ้นเรื่อยๆและกำลังเข้าสู่ระนาบ
ที่มีระดับการสั่นสะเทือนของคลื่นความถี่ที่สูงขึ้นทุกสิ่งทุกอย่างที่มีระดับการสั่นสะเทือนที่ต่ำกว่าจะถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง<O></O
<O</O
- การสื่อสารทางโทรจิตระหว่างมนุษย์โลกบางคนกับอารยะชนเหล่านี้ได้เกิดขึ้นมานานแล้วกำลังเกิดขึ้นอยู่
อ้างอิงจากบทความแปลของคุณชยุต<O
หากสิ่งเหล่านี้ได้เกิดขึ้นแล้ว ... ครั้งหนึ่งเคยไปถึงสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งไม่สามารถไปได้ค้วยกายเนื้อในปัจจุบัน หากแต่มิติที่ซ่อนอยู่ได้นำพาไป มี3สิ่งที่ได้นำกลับมา ดอกไม้ที่มีความหอมอย่างพิเศษ... เมตตา และอภัย ... ท่านว่าจงเก็บไว้กับตัวเจ้าตลอดไป...........................เรามอบให้เจ้าแล้ว เราเองก็มีเช่นกัน .........<O</O

 

"เรื่องจริง ยิ่งกว่านิยาย
อะไรก็เกิดขึ้นได้
อย่าตีกรอบ"



อันที่จริงแล้วอาจถูกตีกรอบที่กว้างมาก
จนไม่เห็นขอบเขต
การคุกคาม จากผู้ที่มีไอคิว เกิน 200 อันตรายมากครับ

จากการถอดรหัสระบบต่างดาวสิ่งที่เราได้คร่าวๆคือ

คำว่า

"เรื่องจริง ยิ่งกว่านิยาย
อะไรก็เกิดขึ้นได้
อย่าตีกรอบ"

เบรกขาขรูด

hahaha

อะไรประมาญนี้ได้ถูกเข้ารหัสไว้แล้วครับ
เหมือ คาถา นะครับ
มันเหมือนเป็นคาถาสะกด

เราก็รับทราบว่าแผนการของต่างดาว หรืออะไรก็แล้วแต่
ที่ฉลาดมาก บางทีมาในรูปแบบที่มีเมตตา
แต่นั้นไม่ใช่ความเมตตา ล้วนแต่มีจุดประสงค์แอบแฝง
มันน่ากลัว มันแทรกซึมในใจมนุษย์ มันสื่อข้อความ

และมันทำงานร่วมกับมนุษย์โลก ผู้ที่มี จิตใจเมตตาทั้งหหลาย

ท่านทั้งหลายผู้มีเมตตา โปรดพิจรณาเถิด

 

การคัดกรอง

 

ยิ้ม กว้าง.............

 

ขออัพหน่อยค่ะ

 

ผมเคยเล่าให้แม่ฟังว่าผมเคยเห็นคุณพ่อผมกับคุณแม่ตอนเป็นเด็กกับคุณย่าตอนยังสาว ให้แม่ฟังครับผมไม่รู้ว่าเคยเห็นมาจากไหน แต่จำได้ว่าท่านบอกว่าปวดฟันหรืออะไรซักอย่าง แล้วแม่ก็เล่าให้ผมฟังว่าแล้วตอนผมเกิดมาใหม่ๆ คุณแม่ก็เคยเห็นเหมือนคนประมาณสามคนมายืนดูอยู่หน้ามุ้งแทบทุกคืนเลยแม่ไม่กล้าเรียกใครเลยเป็นจนแม่ชินพอผมโตขึ้นมาหน่อยแล้วเค้าก็หายไปเลยครับ ตอนเด็กๆผมเล่นกะใครไม่รู้ครับ ผมมองเห็นรูปภาพขยับได้ภาพยิ้มให้(แม่บอกว่าเป็นจินตนาการตอนเด็ก) ผมคิดถึงบ้านที่ไหนไม่รู้ครับ แต่พอผมคิดผมก็จะร้องไห้ตลอด ผมชอบนั่งมองดวงอาทิต ผมกินนมแม่ได้ ผมกินนมวัวไม่ได้มันจะเป็นรสชาติเหมือนกินไม้มันแข็งในคอมันฝาดบาดคอ แต่โตขึ้นผมกินได้หมดเลยครับ ผมเห็นภาพทับซ้อนหลายครั้ง เหตุกานทุกอย่างเหมือนมันเคยผ่านมาซ้ำๆตลอด แต่ผมรู้สึกดีขึ้นแล้ว ที่ผมพูดออกไปหมดนี่คิดว่าผมบ้า!!! หรือป่าวคับ - - ถ้าคิดว่าบ้าผมจะได้ไม่เล่าให้ใครฟัง

 

(^) สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังคะ คุณชยุต บุญรักษาคะ

 

แล้ว ผู้พเนจรจากฟากฟ้า หรือ Star Seed ปรารถนานิพพานรึ๊ป่าวคะ สงสัยสงสัย เพราะเราก็เข้าข่าย แต่เรางงและสับสน โว๊วว โว๊ววว

 

เรื่องบางอย่างที่เรายังไม่รู้อีกเยอะแยะ มีเพื่อนต่างชาติที่เขาชอบศึกษาทางจักรวาลอื่น โลกอื่น มี convention ที่ไหนจะไปพบเจอรวม กลุ่มพบปะพูดคุยกัน เคยบอกเขาว่าสงสัยคุณคงจะมาจากดวงดาว อื่นมาจุติที่โลก

 

ขออนุญาตคัดลอกบทความของท่านไปเผยแพร่ที่เว็บเพื่อนบ้านนะครับ เค้าน่าจะได้ทราบกันบ้าง

 

พอดีวันนี้ไปเจอ VDO ชุดหนึ่งเข้า
ซึ่งกล่าวถึงเรื่องนี้พอดี

จึงลองแกะข้อความออกมาโพสต์ให้ได้อ่านด้วยกันหนะครับ
แต่ว่า อาจจะไม่ตรงกับเนื้อหาในวีดีโอทั้ง 100% นะครับ
เพราะผมฟังไม่ค่อยทั้ง 100% หรอกครับ
แต่ถ้าอ่านและเปิด Dictionary ด้วยนี่ ก็ไม่ค่อยกลัวหรอกครับ




<embed src="http://www.youtube.com/v/SAGFiiFkzSc&hl=en_US&fs=1&" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" height="385" width="480">
...........................................................................

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} @font-face {font-family:"\@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;} h1 {mso-margin-top-alt:auto; margin-right:0cm; mso-margin-bottom-alt:auto; margin-left:0cm; mso-pagination:widow-orphan; mso-outline-level:1; font-size:24.0pt; font-family:Tahoma;} a:link, span.MsoHyperlink {color:blue; text-decoration:underline; text-underline:single;} a:visited, span.MsoHyperlinkFollowed {colorurple; text-decoration:underline; text-underline:single;} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->
Dolores Cannon: วิญญาณอาสาสมัคร และ การอัพเกรด DNA

ที่มา: Dolores Cannon: Volunteer Souls and DNA Upgrades

Dolores เป็นนักสะกดจิตบำบัด ที่เชี่ยวชาญพิเศษด้านการสะกดจิตระลึกชาติ
ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี เธอได้รับข้อความจากรูปธรรมชีวิตต่างมิติ
และจากคนไข้ของเธอ เกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2012 มากมาย


ถอดความจากวีดีโอ:

เท่าที่ฉันรู้ มันมีระลอกของเหล่าวิญญาณอาสาสมัคร ที่อาสาลงมาเกิดบนโลกใบนี้อยู่ 3 ระลอกด้วยกัน

ระลอกแรก คือช่วงปี 1950 – 1960 ซึ่งถ้านับถึงตอนนี้ (ปี 2010) พวกเขาก็จะมีอายุราวๆ 50 ปลายๆ
ถึง 60 ปีต้นๆ

กลุ่มวิญญาณเหล่านี้ พวกเขาไม่ต้องการที่จะอยู่ที่นี่ พวกเขาไม่ชอบที่นี่ เพราะพวกเขาทนต่อความรุนแรงไม่ค่อยได้
พวกเขาต้องการที่จะกลับบ้าน แต่ก็ไม่รู้ว่าบ้านอยู่ไหน รู้แต่เพียงว่ามันไม่ใช่ที่นี่

พวกเขาเป็นผู้ที่มีจิตใจดีงาม ไม่สามารถจะทำร้ายใครได้ พวกเขามาเพื่อช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
โดยการมาอยู่ที่นี่เฉยๆ ดังนั้นพวกเขาจึงอาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเรา ทำตัวเหมือนคนปกติทั้วไป

แต่มันเป็นสิ่งที่ยากมากๆสำหรับพวกเขา เพราะว่าพวกเขารู้สึกว่า มาอยู่ในที่ๆไม่ใช่ที่ของพวกเขา

คุณอาจจะไม่เข้าใจว่าทำไม เพราะว่าหลายคนที่ฉันเคยคุยด้วยซึ่งอยู่ทั่วทุกมุมโลก

พวกเขาบอกว่า พวกเขามีครอบครัวที่ดี มาฐานะการงานที่ดี แต่ก็ไม่อยากอยู่ที่นี่
พวกเขาอยากกลับบ้าน และหลายคนก็เคยพยายามที่จะฆ่าตัวตาย แม้ว่าจะมีอายุยังไม่มากนัก
เพราะว่าพวกเขาไม่อยากอยู่ที่นี่

แต่หลังจากที่ฉันได้เข้าไปช่วยเหลือพวกเขา จนพวกเขาสามารถค้นพบว่าทำไมพวกเขาจึงได้มาอยู่ที่นี่
พวกเขาก็เปลี่ยนใจ และยอมรับมัน แล้วเริ่มทำภารกิจของตนเอง

ลักษณะเฉพาะของคนกลุ่มนี้คือ พวกเขาไม่ชอบที่นี่ พวกเขาไม่ชอบความรุนแรง
และไม่เข้าใจความยึดมั่นถือมั่น ความโกรธ และรู้สึกว่าไม่ชอบมัน และตกตะลึงกับมัน พวกเขารับไม่ได้

ดังนั้น พวกเขาหลายคนจึงอยู่อย่างสันโดษ เพราะภาพลักษณ์ของโลกในสายตาของพวกเขา ค่อนข้างจะน่ากลัว

ดาวเคราะห์โลก เป็นดาวเคราะห์ที่ท้าทายมาก และพวกเขาบอกว่า พวกเขากล้าหาญมากที่มาที่นี่
เพื่อที่จะมาเผชิญกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่


วิญญาณอาสาสมัครระลอกที่สอง ที่มายังโลกใบนี้ พวกเขาเกิดในช่วงปี 1970 – 1980
ถ้านับถึงปีนี้ คือปี 2010 พวกเขาก็จะมีอายุอยู่ระหว่าง 30 – 40 ปี

ฉันเรียกพวกเขาว่า the channeler, the generator, เพราะว่าพวกเขาแตกต่างไป

พวกเขาไม่มีปัญหาเหมือนอย่างกับวิญญาณระลอกแรก พวกเขามาอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพื่อทำสิ่งใด
พวกเขาเพียงแต่มาอยู่ที่นี่เฉยๆ

ร่างกายของพวกเขาผลิตกระแสพลังงานออกมามากกว่าคนปกติ และไปส่งผลกระทบต่อผู้คนรอบข้าง
ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับพวกเขา

พวกเขามาเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกด้วยวิธีการนี้ พวกเขามีกระแสพลังงานที่เป็นบวกมากๆ
ซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกๆคนที่เข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับพวกเขา

และวิญญาณทั้งสองกลุ่มนี้ ไม่ต้องการที่จะมีลูก เพราะว่าพวกเขาไม่ต้องการที่จะสะสมกรรม
เพราะว่าการมีลูกคือการสร้างบ่วงกรรมขึ้น พวกเขาไม่ต้องการที่จะติดค้างอยู่ที่โลกใบนี้
พวกเขาอยากจะรีบๆทำภารกิจของพวกเขาให้เสร็จๆไป ตามที่พวกเขาได้รับอาสามาทำ
จากนั้นก็กลับไปสู่ที่ๆพวกเขาจากมา

คุณอาจจะไม่รู้จักพวกเขา เพราะว่าพวกเขาเหมือนคนปกติทั่วไปมากๆ พวกเขาปรับตัวได้ดีมากๆ

ฉันเคยถามพวกเขาว่าทำไมคนกลุ่มแรกนั้น จึงมีปัญหามากมายนัก แต่ทำไมพวกเขาถึงไม่มี

พวกเขาตอบว่า เพราะพวกที่มาก่อน เป็นผู้บุกเบิกทาง เป็นผู้มาปูทางไว้ก่อน

เพราะฉะนั้น พวกเขาจึงพบความยุ่งยากมากกว่า

ส่วนกลุ่มที่สองนั้น ก็แค่ตามทางที่กลุ่มแรกมาถางไว้ให้แล้วเท่านั้นเอง


วิญญาณอาสาสมัครระลอกที่สาม คือเด็กๆที่เกิดใหม่ ซึ่งเกิดหลังปี 1990 เป็นต้นมา

พวกเขาเป็นผู้นำของขวัญมาสู่โลกใบนี้ พวกเขาแตกต่างจากสองพวกแรก

พวกเขามีพลังงานมากกว่า พวกเขาบอกว่า DNA ของพวกเราทุกคนกำลังเปลี่ยนแปลง
เพราะว่า DNA ของพวกเราจะได้รับอิทธิพลจากระดับจิตสำนึกของพวกเราเอง

ทุกสิ่งที่อย่างกำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ จะส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของ DNA

แต่พวกเขาจะเป็นห่วงกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสารปรุงแต่งในอาหาร และมลภาวะในอากาศ
ที่จะส่งผลร้ายต่อสุขภาพร่างกายของพวกเรา

พวกเขาบอกว่าพวกเรากำลังมาถึงจุดสิ้นสุดของความเป็นทวิภาวะ (Duality) แล้ว
ซึ่งในขณะนี้ DNA ของพวกเราได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ตั้งแต่เมื่อ 70 ปีที่แล้วแล้ว

พวกเขาบอกว่า พวกเรากำลังจะเปลี่ยนไปสู่มนุษย์สายพันธุ์ใหม่ที่จะไม่มีการเจ็บป่วยอีกต่อไป

ฉันบอกว่าจริงเหรอ ทำไมนักวิทยาศาสตร์หรือแพทย์ทั้งหลายจึงยังไม่รู้เรื่องนี้กันเลย

พวกเขาตอบว่าเพราะว่าคนเหล่านั้นไม่รู้ว่าควรจะเพ่งพินิจดูตรงจุดไหนของ DNA หนะสิ

..................................

 

ดาวเคราะห์โลก เป็นดาวเคราะห์ที่ท้าทายมาก และพวกเขาบอกว่า พวกเขากล้าหาญมากที่มาที่นี่
เพื่อที่จะมาเผชิญกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่

แสดงว่าคนที่มาเกิดบนดาวเคราะห์โลกก็เจ๋งจริงๆสิ ที่สามารถกล้ามาเกิดที่ดาวที่มีความรุนแรงแบบนั้นได้โดยไม่หวาดหวั่น

 

ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นครับ

แต่ก็อย่าลืมว่า ในตอนแรกที่ลงมา
กับตอนหลังๆที่จำเป็นต้องติดอยู่
เพราะว่ายังไปไหนไม่ได้
เพราะว่ายังมีบ่วงกรรมน้อยใหญ่
ที่พันพัวอิลุงตุงนังไปหมดอยู่นี่
ผมว่ามันต่างกันอยู่นะครับ

..........................

 

ไปเจอเรื่องของ Starseeds ในอีกแหล่งหนึ่ง
เลยเอามาฝากจ้า เรื่องก็คล้ายๆกันกับที่คุณชยุต โพสต์ไปบ้างแล้ว
แต่อันนี้เค้าแยกคุณลักษณะ ให้หลายด้านหน่อย

ก็ลองดูหลายๆแหล่งแล้วกันนะคะ อ่านเพื่อขยายมุมมองอะค่ะ
------------------------------------------------------

Star Seeds - Star People​

ที่มา...Sacred Journeys - Crystalinks​

พวกเราคือ เมล็ดพันธ์แห่งดวงดาว พวกเราทั้งหมดอาศัยอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง
ในหลากหลายระบบดาวเคราะห์ และในปริมณฑลที่สูงกว่า(ความถี่)
ในฐานะที่เป็นสิ่งมีชีวิตในรูปธรรมอื่นๆ ตอนนี้เรามาอยู่ที่นี่
เมล็ดพันธ์แห่งดวงดาว, ประกายแสงแห่งจิตวิญญาณ บนภาระกิจ และตอนนี้
พวกเราติดกับอยู่ ในประสบการณ์ทางกายภาพ<o></o>

Starseeds ถูกกล่าวอ้างว่า
เป็นเมล็ดพันธ์ของดาวนพเคราะห์ที่เต็มไปด้วยข้อมูลความรู้
และความถี่ของจิตวิญญาณ

เมื่อวงรอบของเวลาหนึ่งๆสิ้นสุดลงและเริ่มวงรอบใหม่
ความถี่ของดาวนพเคราะห์จะเพิ่มขึ้น เพื่อยกระดับความตื่นรู้ของพวกเขา
พร้อมกับการให้ความช่วยเหลือผู้อื่น
ให้กลับคืนสู่ธรรมชาติของจุดเริ่มต้น ประกายแสงของจิตวิญญาณ
<o></o>
พวกเขามีการเชื่อมต่อน้อยมากกับกระแสการไหลของสังคม,ศาสนา,กฎหมายหรือเศรษฐกิจ
การสร้างสรรค์เป็นกุญแจสำคัญสำหรับการเติมเต็ม และ บรรลุภาระกิจของจิตวิญญาณ <o></o>

หลายๆคน ชอบที่จะทำงานเพียงลับๆ การบำบัดเยียวยา
ค้นหาสัจจธรรมและภาระกิจทางด้านจิตวิญญาณ
ผ่านพ้นระบบการเรียนรู้แห่งปัญญาที่สูงขึ้น <o>

พวกเขารอคอยการตื่นรู้ที่ยิ่งใหญ่ ของการวิวัฒน์แห่งจิตสำนึก
ทะลุผ่านการเล่นแร่แปรธาตุของเวลา พวกเขารู้ว่า

ในพวกเราไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะถึงเวลา ของการเคลื่อนเข้าสู่ระดับความถี่ที่สูงขึ้น
แต่จิตวิญญาณของพวกเขาบอกว่า มันจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
พวกเขาโปรแกรมตัวเองมาเพื่อค้นหาบุคคลที่เหมือนอย่างพวกเขา
มีพื้นฐานความถี่อย่างเดียวกัน ตามวาระที่ตั้งไว้ <o></o>

บางครั้ง อาจเป็นพวก จิตวิญญาณที่มาในลักษณะร่างทรง 'walk-ins หรือ 'wanderers' <o></o>

Starseeds บางคน สามารถอยู่เหนือความปรารถนาของตนได้
เหตุเพราะว่า พวกเขาจำได้ว่าจะสร้างโลกแห่งความเป็นจริงของพวกเขา
ให้ปรากฎขึ้นมาได้อย่างไร ในการปฏิบัติหน้าที่ของกายเนื้อนี้
ในขณะที่พวกเขาทำงานของเขาอยู่ และคงสภาพความถี่อยู่ที่นี่ได้ในเวลาเดียวกัน

บางพวก ก็มีความรู้สึกโดดเดี่ยวและแยกตัวออกไปตามลำพัง
กลายเป็นคนที่ซึมเศร้า และปลีกตัวเร้นออกจากสังคม
เพราะรู้สึกว่าไม่มีใครที่สามารถเข้าใจพวกเขาได้<o></o>

บางคนก็จบชีวิตไปตั้งแต่เยาว์วัย จากการเจ็บป่วย ,อุบัติเหตุ หรือ การฆ่าตัวตาย
เพราะความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นที่นี่ จะทำให้พวกเขายิ่งใหญ่ขึ้น
ส่วนใหญ่ก็หยุดชะงักอยู่ในมิติที่3นี้ และส่วนใหญ่ไม่ต้องการมีลูก <o></o>

บางคนก็สามารถ จุดประกาย และ มีการวิวัฒน์ในการตื่นรู้ขึ้นมาที่ละน้อย
บ้างก็ดึงดูดเหตุการณ์สำคัญบางอย่างเข้ามาเช่น ประสบการณ์เฉียดตาย
เพื่อที่จะปลดแอกตัวเองออกจากโครงข่ายของกายเนื้อ
และกลับเข้าสู่ระดับความถี่ที่สูงขึ้น

ด้วยการสร้างสรรค์เหตุการณ์ทางกายภาพอย่างนุ่มนวลอ่อนโยนนี้
มีบ่อยๆที่พวกเขาละทิ้งรายได้ เงินทอง
เพื่อที่เขาจะไม่ต้องทำงานทางโลกอีกต่อไป
และสามารถใช้เวลาเพื่อค้นหาสัจจธรรมแห่งเป้าหมายของชีวิต
หน้าที่ของจิตวิญญาณไม่ใช่หนทางแห่งการก่อวินาศกรรม</o>

 

Star People By Brad Steiger ​

ทางกายภาพ
<o></o>

· 65% เป็นผู้หญิง: 35% เป็นผู้ชาย <o></o>
· มีดวงตาที่ดึงดูดความสนใจ <o></o>
· เป็นผู้ที่มีอำนาจในการดึงดูดสูง และมีพรสวรรค์ส่วนตัว <o></o>
· มีความรู้สึกไว และตอบสนองต่อสนามพลังงานของคลื่นแม่เหล็ก และ กระแสไฟฟ้า <o></o>
· มีมาตรฐานอุณหภูมิในร่างกายต่ำกว่าคนปรกติ <o></o>
· เป็นไซนัสเรื้อรัง(แบบว่า แพ้อากาศสม่ำเสมอ) <o></o>
· มีอาการปวดหลังมากเป็นพิเศษ (Extra or transitional vertebra)<o></o>
· มีภาวะตอบสนองที่ไวต่อ เสียง แสง และกลิ่น(แพ้ง่าย)<o></o>
· มักเจ็บปวด หรือ บวมตามข้อ <o></o>
· เจ็บปวดบริเวณหลังกระดูกลำคอ <o></o>
· ได้รับผลกระทบจากความชื้นสูง <o></o>
· เคยรอดชีวิตจากการเจ็บป่วยที่รุนแรง <o></o>
· เคยเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุหรือ ผ่านสภาวะความชอกช้ำ(ทั้งใจ และกาย) อย่างสาหัสมาก่อน<o></o>

ทางอารมณ์<o></o>

· มีความรู้สึกเร่งเร้ามากมายในการพยายามที่จะเติมเต็มภาระกิจ<o></o>
· มีประสบการณ์ของความเป็นหนึ่งเดี่ยวกับจักรวาล<o></o>
· หลายๆคนยากลำบากในการติดต่อด้วย(เข้าถึงได้ยาก หรือเข้าใจได้ยาก...ผู้แปล)
/ หรือเป็นผู้ไม่มีความสมดุลย์ทางอารมณ์(การแสดงออกของอารมณ์ชัดเจน เข้มข้น...ผู้แปล) <o></o>
<o></o>
<o></o>
ประสบการณ์ทางสิ่งมีชีวิตนอกโลก<o>

· ทั้งหมด เชื่อว่า มีสิ่งมีชีวิตอื่นๆอีกอยู่ในดาวนพเคราะห์อื่นๆ <o></o>
· ส่วนใหญ่เชื่อว่า เคยอาศัยอยู่บนดาวเคราะห์ดวงอื่นมาก่อน
และสามารถบอกเรื่องเกี่ยวกับมันให้พวกคุณรู้ได้ <o></o>
· ในวัยต้น เคยพบเจอมนุษย์ต่างดาวบางชนิด หรือมีประสบการณ์ทางศาสนาและสิ่งลี้ลับ<o></o>
· ในการที่พวกเขาได้เคยเผชิญหน้า พวกเขาเชื่อในความเป็น
สิ่งมีชีวิตนอกพิภพ หรือ รูปธรรมในหลากหลายมิติ รูปธรรมแห่งแสงสว่าง<o></o>
· สามารสื่อสารทางโทรจิต กับสิ่งมีชีวิตนอกโลกได้-ทั้งที่มีรูปกาย และไม่มีรูปกาย<o></o>
· พวกเขาได้รับ การติดต่อสื่อสารบางอย่าง จากแหล่งที่มาที่สูงส่ง <o></o>
<o></o>

ประสบการณ์นอกกายเนื้อ
<o>
· เคยประสบมภาวะเฉียดตาย <o></o>
· เคยมีประสบการณ์นอกกายเนื้อ<o></o>
(คล้ายๆถอดจิต แต่ไม่ใช่ การเปลี่ยนวิธีการจดจ่อไปแบบไร้แบบแผน...ผู้แปล)<o></o>
<o></o>
เกี่ยวกับอภิปรัชญา
<o>
· เชื่อใน จิตวิญญาณผู้นำทาง หรือ เทพ เทวา <o></o>
· เชื่อว่าพวกเขาได้รับพร <o></o>
· มีประสบการณ์ที่เข้มข้นทางศาสนา <o></o>
· เชื่อใน พระเจ้า หรือ แหล่งสร้างสรรค์ของพลังงาน<o></o>
· เชื่อในปาฏิหาริย์ <o></o>
· มีมิตรสหายที่มองไม่เห็น ที่เหมือนกับเด็ก
(อันนี้จะอุปมาว่า ความเป็นเด็กในตัวหรือไม่ ไม่แน่ใจ...ผู้แปล)
· เคยเห็น เทพยดา นางฟ้า หรือภูต <o></o>
· เคยเห็น “ผี” หรือ “วิญญาณ” <o></o>
· ตระหนักรู้ถึง การมีอยู่ของโลกคู่ขนาน ซึ่งเป็นโลกอื่นในเวลาเดียวกัน
(โลกแห่งความเป็นจริงโลกอื่น ในโลกหลากมิติ ซึ่งเกิดขึ้น ดำเนินไป พร้อมกันในเวลาเดียวกัน...ผู้แปล)<o></o>
· ติดต่อกับคนที่เรารักที่ตายไปแล้วได้ <o></o>
· เชื่อในเรื่องของ การกลับชาติมาเกิด <o>
· มีความทรงจำของชาติภพในอดีต หรือ ความทรงจำจากประสบการณ์จากโลกหลากมิติอื่น <o></o>
<o></o>
ทักษะและความชำนาญ
<o></o>
· บำบัดรักษาโรคให้ตัวเอง และผู้อื่นได้(ไม่เกี่ยวกับทางการแพทย์)<o></o>
· มีประสบการณ์ พบเจอแสงสว่างสีขาว ระหว่างการทำสมาธิ<o></o>
· มีประสบการณ์ ตาทิพย์(clairvoyance) และ หูทิพย์(clairaudience) <o></o>
· สามรถทำนายเหตุการณ์ หรือความฝัน ได้ หรือมองเห็นเหตุการณ์ในอดีตได้<o></o>
· มองเห็นออร่า <o></o>
· มีการฝึกฝนและฝึกหัด ในเรื่อง automatic writing(หาอ่านเพิ่มได้จาก Link นี้) <o></o></o></o></o></o>

 

มันคล้าย พันธกิจ และ/หรือ การปวารณา ตามธรรมชาติของจักรวาล มากกว่า "เจ๋ง"

เรื่อง "เจ๋ง" อ่ะ มันไม่มีใครเจ๋งกว่าใครหรอกจ๊ะ

 

ไม่น่าเชื่อคับพี่น้องคับ มันเกือบจะตรงกะข้าพเจ้าเกือบทั้งหมด เป็นไปได้ๆ โอโห๊ยยย5555
น่าตื่นเต้นดีค่ะ แต่คิดว่าตัวเองอาจจะมีจินตนาการหรืออุปปาทานของพวกอารมณ์ติ๊ส...มากกว่า

 

ขอบคุณคุณเดรดมากนะครับ
ที่นำข้อมูลเกี่ยวกับ Star seeds มาลงเพิ่มเติม
และแบ่งปันให้พวกเราได้อ่านกัน

ตอนนี้พอดีผมเองก็เพิ่งไปเจอข้อมูล
ที่เกี่ยวเนื่องด้วย Star seed มาเหมือนกันครับ

จริงๆแล้ว มันเป็นข้อความสื่อสารมาจาก
ท่านท้าวมหาเทพไมเคิล (Archangel Michael)
(คือผมพยายามจะหาคำศัพท์แบบไทยๆมาใช้กับคำว่า
Archangel หนะครับ เพราะค้นดูในที่ไหนๆ
ก็ไม่เห็นมีใครใช้ศัพท์แทนคำนี้ได้ถูกใจซักคน
เพราะว่าในดิกชั่นนารี่ก็แปลว่า หัวหน้าเทวดา
หรือหัวหน้าเทวฑูต อะไรประมาณนั้น

ผมก็เลยใช้คำว่า "มหาเทพ" ซะเลย
ดูเป็นไทยๆอย่างมากกากเลยใช่ไหมครับ)

เข้าเรื่องต่อนะครับ...
และจริงๆแล้วท่านท้าวมหาเทพไมเคิล
ท่านก็ไม่ได้บอกว่าพูดกับเฉพาะ star seed หรอกนะครับ
แต่ว่าเนื้อความมันเหมือนเฉพาะเจาะจงลงมา
ที่พวก star seed เลยหละครับ..

....ลองอ่านกันดูนะครับ...

.............................................