วิชชาที่จะทำให้อยู่รอดจากยุคสมัยแห่งภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย kananun, 17 กรกฎาคม 2006.

  1. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    <table id="post3133804" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175">1535<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_3133804", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Dec 2009
    ข้อความ: 44
    Groans: 0
    Groaned at 0 Times in 0 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 540
    ได้รับอนุโมทนา 456 ครั้ง ใน 40 โพส
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_3133804" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->เมื่อ เช้าถูกปลุกตามปกติค่ะ ลุกขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมทำวัตรเช้าดูนาฬิกาหน้าหิ้งพระแค่ตีหนึ่งกว่า ๆ เอง เดี๋ยวนี้โดนเช้ากว่าเดิม อาจเป็นเพราะไม่ได้ลุกมาหลายคืนเพราะไม่ค่อยสบาย ทำวัตรเช้า เดินจงกรม กว่าจะได้นั่งสมาธิก็ตีสามพอดี หมาทั้งเห่าทั้งหอนกันเกลียวทุกทีเวลานั้น นั่งไปก็เสียวหลังไป ทำเมตตาอัปปมาณฌาณจนถึงตีสี่กว่า ๆ ก็กลับมานอนสมาธิต่อ ท่านว่าแค่นี้ไม่สู้จะทำอะไรได้ ถ้าอยากเรียนต้องเรียนไม่ว่าเวลาไหน ถ้ายังติดที่นอนอยู่ก็จะไม่ได้อะไร ท่านให้ฝึกอยู่ในที่มืด ๆ เดินจงกรมทำสมาธิในที่มืดเพื่อแก้จุดอ่อนของตัวเองให้ได้ เวลาเดินจงกรมจะเห็นนิมิตรภาพที่น่ากลัวต่าง ๆ เป็นภาพศพโดนไฟไหม้เกรียมทั้งตัว หากแต่ต้องเดินไปเรื่อย ๆ พร้อมแผ่เมตตาไปด้วยน่ะค่ะ ยังดีที่ศพยังไม่ลุกขึ้นมา คิดว่าถ้าต่อไปคงต้องมีลุกขึ้นเดินไปเดินมาแน่ค่ะ แต่พระท่านใจดี เอาแค่นี้ก่อน แต่ละคนคงฝึกต่าง ๆ กันไป แล้วแต่ท่านจะให้ฝึกหรือเสริมทางด้านไหน ตอนนี้ยังพื้นฐานอยู่ค่ะ แค่ข้ามผ่านความกลัวของตัวเองให้ได้ซะก่อน เพราะสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือ "ความกลัว" นี่แหละค่ะ
    </td></tr></tbody></table>
     
  2. naa_tae

    naa_tae Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +35
    อาจารย์เล็ก ดู PM เราด้วย นะ
     
  3. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078
  4. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    การปฏิบัติธรรมนั้นเราจำเป็นต้องหมั่นทบทวน พิจารณาจิตของเราเองเป็นปกติ ประคับประคองจิตใจเราให้ผ่องแผ้วเบิกบานเอาไว้

    เมื่อจิตผ่องใส ใจก็มีกุศลเป็นที่ตั้ง หากแม้เรามีจิตเศร้าหมอง บาปอกุศลก็เข้ามาแทรกได้

    รักษาจิตให้ผ่องใสเอาไว้ ใจย่อมเป็นสุข

    และเมื่อจิตเป็นสุขแล้ว เราเอาอารมณ์จิตนี้ มาพิจารณา ในธรรม ในการสร้างการเจริญบารมีทั้งสามสิบทัศน์ เมตตา พรหมวิหารสี่ให้ยิ่งขึ้นไปไม่มีที่สุด ให้ละเอียดปราณีตขึ้น คิดบวก คิดกุศลธรรมให้ยิ่งขึ้น จนจิตยิ่งน้อมยอมรับเคารพในไตรสรณะคมม์ยิ่งขึ้นไปอีก แนบอารมณ์มั่นคงในพระนิพพานเป็นที่สุดเพียงจุดเดียว

    และพิจารณาละ ปล่อย วาง คลาย กิเลส สังโยชน์สิบ และนิวรณ์ห้า ประการให้เบาบางลง

    พิจารณาว่า จิตคิดแบบใดที่เกิดกุศล

    จิตคิดแบบใดที่เกิดอกุศล

    อารมณ์จิต ที่ผ่องใส และอารมณ์จิตที่เศร้าหมองเป็นเช่นใด อย่างใด

    เกิดผลไล่จากกายไปอย่างใด ไปยังจิต ไปยังการปรุงแต่งต่อไปของจิต

    และพิจารณาจนจบว่า ครั้นเมื่อเราทรงจิตนี้แล้ว อารมณ์ขณะนี้แล้ว หากเราตายไป จะเกิดอานิสงค์ไปไหน เกิด จุติ ที่ใด

    เมื่อพิจารณาจนจบรอบ เห็นผล อานิสงค์ ณ อดีต ปัจจุบัน และที่จะส่งผลต่อไปยังอนาคตแล้ว

    หากเป็นอารมณ์ที่พึงละ วาง เราก็ละเลิก

    หากเป็นอารมณ์ที่เราพึงเจริญให้ยิ่งขึ้นเราก็ ทำให้มาก ทำให้บ่อย จนเกิดเป็น วิหารธรรม ธรรมความดีอันเป็นเครื่องอยู่เครื่องอาศัยของจิตให้เกิดความสุขสันติร่มเย็น เป็นปกติ

    หลักแห่งวิหารธรรมนั้นคือ

    อานาปานสติวิหาร จิตทรงตัวในลมหายใจสบาย จิตเป็นสุข

    พรหมวิหารธรรม จิตทรงตัวในอารมณ์ที่ประกอบไปด้วย เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาอันไม่มีประมาณเป็นปกติ จนจิตมีแต่ความสุข ความเย็นด้วย ใจเมตตา

    อุปมานุสติวิหาร จิตทรงอารมณ์พระนิพพานเป็นเครื่องอยู่ มีพระพุทธเจ้าเป็นธงชัยเหนือเศียรเกล้า ให้จิตสุข สะอาดจาก สรรพกิเลสทั้งปวง

    เมื่อเรามีวิหารธรรมเครื่องอยู่เป็นปกติแล้ว

    อารมณ์ที่เป็นกิเลส โลภ โกรธ หลง ก็พลอยเบาบางลง หากที่แทรกที่ซ้อนในจิตเราได้ยากขึ้น อุปมาดังเรามีเรือนอันร่มเย็นคุ้ม แดดแผดเผาจากความเร่าร้อนแห่งความโกรธ คุ้มลมพายุที่พัดเพี้ยนเปลี่ยนทิศหลงทางแห่งโมหะ คุ้มฝนที่พาเราเปียกชุ่มด้วยความอยากความโลภ


    เมื่ออยู่ในเรือนแห่ง วิหารธรรม ก็มีอารมณ์สงบ เย็น เบาบางจากกิเลส เป็นสุข ในปัจจุบันอารมณ์นั้น และยังอานิสงค์ไปยังถึงที่สุดแห่งเอกบรมสุข คือ พระนิพพาน

    "ขอท่านทั้งหลายจงทรงอารมณ์ใจในวิหารธรรม อันประกอบไปด้วย กุศลจิต กุศลเจตนา มีเมตตาเป็นกำลัง มีพระพุทธเจ้าเป็นธงชัย มีพระนิพพานเป็นที่สุดด้วยเทอญ"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ง่ายที่สุด ก็คือ

    รักษาให้จิต ใส เย็น แย้ม ยิ้ม ด้วยเมตตา จากองค์พระปฏิมากลางดวงใจ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    วันที่ 14 - 31 มีนาคม 2553 นี้หนูได้ไปบวชเป็น อุบาสิกา ถือศีล 8 ที่ แดนมหามงคล จ.กาญจนบุรี
    สถานที่แดนมหามงคลนี้สัปายะมากมายค่ะ ที่สำคัญหนูได้พบกัลยานิมิตรที่น่ารักมากจนต้องนำเรื่องมาโพสต์ค่ะ

    หนูได้เจอน้องคนหนึ่ง ชื่อ แอน ก็มีวันหนึ่งที่เราเดินขึ้นเขาบันได 1,700 กว่าขั้นเพื่อไป กราบนมัสการ
    พระมหาเจดีย์ ค่ะ ระหว่างทาง ก็ คุยกัน ตามประสาเด็ก ๆ แต่ ถามไปถามมา คุณพ่อ คุณแม่ น้องแอน
    เป็น ลูกศิกษ์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ค่ะ หนูเลยให้หนังสือ " วิชชาที่จะทำให้อยู่รอดจากภัยพิบัติ " ที่ได้รับธรรมทาน
    มาจาก อ.คณานันท์ น้องแอน เค๊า รักหนังสือเล่มนี้มากค่ะ ก็ตั้งใจอ่าน จนจบ แล้วก็พบติดตัว แล้ว ก็นำคำสอน
    จากหนังสือไปฝึกที่พระประธานบนพระมหาเจดย์ แล้ว ก็ " ฝึกมโนมยิทธิได้เต็มกำลัง " ถอดไปแบบเต็ม ๆ เลย
    อาการก่อนจะออกได้เต็มกำลังนั้น น้องแอนจะร้องให้ แล้ว พนมมือขึ้นแล้วสั่น ๆ น้องแอนบอกว่า
    ก่อนที่จะหลุดไปนั้น อึดอัดมาก แต่พอหลุดไปแล้ว เบาสบาย และ เป็นกายพระวิสุทธิเทพ ใส ๆ แล้วก็
    เห็นแสงสว่าง มาก ๆ ก็พุ่งจิตตามแสงนั้นไป แล้วก็ เจอหลวงพ่อฤาษลิงดำ เจอพระพุทธประทานพร ค่ะ

    [​IMG]

    น้องแอนเคยไปฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลังที่วัดท่าซุงแล้ว 2 ครั้งค่ะ แล้วก็ ฝึกได้เต็มกำลังทั้ง 2 ครั้งเลย
    เวลาคุยกับเจน น้องแอนก็ จะทรงภาพพระ น้องบอกว่า เห็นภาพพระชัดเจนมากค่ะ แล้วเวลาแผ่เมตตาไป
    ทั่วทั้งประเทศไทยให้เป็นสีทองไปหมด ก้เห็นชัด แบบ แค่นึกปุ๊บเห็นปั๊บเลยค่ะ ความรู้สึกตอนที่ เห็นกายเนื้อ
    ของตนเอง เวลาออกมาในการพระวิสุทธิเทพแล้ว น้องแอนบอกว่า ร่างกายนี้ เต็มไปด้วยของไม่สะอาดจริงๆ
    ไม่อยากกลับร่างเลย ค่ะ เจนได้ คุยเกี่ยวกับเรื่อง ภัยพิบัติ โดยภาพรวมที่ฟัง มาจากครูบาอาจารย์ หลาย ๆ
    ท่าน ด้วยค่ะ น้องแอน ก็ดูสนใจฟังดี และ ยิ่งทำให้ เร่งปฏิบัติความเพียรเจริญใน ศีล สมาธิ ปัญญา มากยิ่งขึ้น


    หนู ยังไม่เคยฝึกมโนมยิทธิได้แบบเต็มกำลัง เลยนับถือน้องแอน มาก ๆ ค่ะ
    จากที่มี ความลังเลสังสัย 108 พันเก้า ก็เบาบางไปมากค่ะ แต่ก็ยัง สงสัยอยู่ดีค่ะ แฮะ ๆ - -"
    ตอนที่เจนไปบวชฯ อยู่ที่วัด ก็มีความรู้สึกแปลก ๆ อยู่มาก คงเป็นอาการที่เกิดจาก " อวิชชา "
    ความไม่รู้แจ้งเห็นจริง ดั่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนมาค่ะ จึงทำให้มีความ สงสัยมากมายค่ะ

    มีปัญหาอีกอย่างคือ เวลา จะอ่านหนังสือธรรมมะ ที่ไร หนูจะหลับก่อน แบบสลบคาทีทับหนังสือธรรมะเลยค่ะ
    แล้วเวลา ตั้งใจฝึกสมาธิ ก็จะนั้งได้ เป็น ชั่วโมง ๆ แต่หากไม่เข้าสมาธิ หรือ ไม่ตั้งใจฝึกสมาธิ ก็จะหลับไปเลยค่ะ
    แล้วปวดไปตามตัวไปหมดแบบไม่มีสาเหตุ ยังไม่ทำอะไรก็ปวด ( แต่พอเดินขึ้นเขา พันขั้นไม่ปวด ) อาการแบบนี้
    เจนเคยแก้ไขโดยการ ระลึกถึง พระแม่กวนอิม ( มีพระพุทธเจ้าอยู่ด้วยค่ะ ) ค่ะ แล้วอาการแบบปวดเหมื่อย
    ก็หายไปเลย สามารถ สวดมนต์ เดินจงกลม นั้งสมาธิได้ ค่ะ


    :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2010
  7. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    สาธุครับ

    เมตตาไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ

    เมตตาเจโตวิมุติ จิตหลุดพ้นจากอาสวะเครื่องผูกพัน ในโลก ในสังสารวัฏฏ์ จนถึงซึ่งพระนิพพานได้ในที่สุด
     
  8. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    การปฏิบัติธรรมนั้น บางหมวด จำเป็นต้องปฏิบัติ ให้ครบถ้วนทั้งหมดทั้งหมวด จึงจะเกิดผลสมบูรณ์ในการปฏิบัติ อย่างชัดเจน

    บางข้อธรรม ปฏิบัติ อย่างใดอย่างหนึ่ง ก็เกิดผลแห่งการปฏิบัติแล้ว

    จะได้อธิบายเน้นย้ำในหมวดธรรมที่สำคัญและจำเป็นต้องปฏิบัติให้ครบทั้งหมวด

    จุดเเรกคือ หลักและแก่นแห่งพระธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา คือ โอวาทปาฏิโมกข์

    - ละเว้น บาป ความชั่วทั้งปวง ทางกาย วาจา ใจ จิต ความคิด คิดชั่วเมื่อไร จงรีบละรีบล้างจากใจให้หมด หากคิดอกุศลต่อพระรัตนไตร ก็จงรีบกราบขอขมาพระท่านโดยเร็ว อย่าชะล่าใจ ให้เมล็ดพันธุ์แห่งอกุศลได้มีโอกาสงอกงามในจิตของเราได้

    บางคนคิดว่าเราไม่ทำชั่ว ไม่ทำความเดือดร้อนให้คนอื่นก็เป็นคนดีแล้ว แต่ที่จริง ยังมีความดีที่ยิ่งไปกว่านี้ ต้องทำให้อีก สองข้อให้ครบ

    -ยังกุศลให้ปรากฏ ยิ่งขึ้นทาง กาย วาจา ใจ จิตของเราให้มากขึ้นขึ้นชื่อว่า บุญ ความดี กุศล จะเพียงใด จะน้อย จะมาก เราทำให้ปกติ เป็นอาจิณกุศล ทำเป็นปกติ ทำให้ยิ่ง ทำให้งอกงาม จนไม่มีที่ว่างให้จิตคิดอกุศลได้

    มีแต่ดี มีแต่บุญ มีแต่ทำดี พูดดี คิดดีอย่างเดียว ทำอะไรก็เป็นสิริมงคล

    เมื่อเรามีแต่ทำดีแล้ว ทำไมยังทุกข์ ทำไมใจเราเศร้า จิตยังหมอง เพราะเราขาดธรรมข้อต่อไป

    -ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว เบิกบาน ให้จิตใส ใจเรายิ้ม ใจเราแย้ม เย็นเป็นสุข เสวย ธรรมปิติ เสวยบุญความดีที่เราทำให้เป็นปกติ

    ธรรมนี้ต้องทำให้ครบสามประการต้องทำให้ครบสามประการ จึงพึงเกิดผลแห่งการปฏิบัติ คืออารมณ์ผ่องแผ้วใสเบิกบานนั่นเอง

    และความอัศจรรย์แห่งธรรมโอวาทปาฏิโมกข์นั้นก็คือ

    เมื่อจิตละอกุศล กิเลสก็พลอยเบาบาง นิวรณ์ห้าเริ่มคลายตัว

    ฌานย่อมเกิด

    ครั้นจิตตั้งมั่นในฌาน ในกุศล ธรรมมะปัญญาย่อมเกิด

    ครั้นธรรมมะปัญญาเกิด โมกขธรรมย่อมปรากฏ

    จิตวิมุติ

    ดังนั้นพึง ปฏิบัติธรรมให้ครบทั้งสามประการให้ถึงพร้อม

    "ขอโมกขธรรมจงปรากฏในจิตอันปราศจากมลทิน จิตอันหล่อเลี้ยงด้วยกระแสกุศลอันฉ่ำเย็น จนใจผ่องพิสุทธิ์ขุดลอกสรรพกิเลสมีแต่จิตอันเบิกบานในธารแห่งกระแสธรรมของพระพุทธองค์ มุ่งตรงต่อมรรคผลพระนิพพานด้วยเทอญ"
     
  9. ปูเเว่น

    ปูเเว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,614
    ค่าพลัง:
    +6,697
    สาธุ อนุโมทนาค่ะ

    เมื่อวานปูไปโรงพยาบาลปทุมธานี ไปรับยามาให้พ่อ ระหว่างนั่งรอคุณหมอ ปูได้คุยกับคุณป้าท่านหนึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ปูถามว่าคุณลุงป่วยเป็นอะไรคะ คุณป้าบอกเป็นวัณโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นมาสี่ปี คุณป้าบอกช่วงที่คุณลุงเป็นสองปีแรกไม่สามารถช่วยตัวเองได้ จำใครไม่ได้ แม้กระทั่งคุณป้าเอง คุณป้าบอกว่าช่วงนั้นลำบากและทุกข์ใจ แต่ก็อดทนที่ดูแลคุณลุง เพราะความรักที่มีต่อคุณลุง ระยะสองปีคุณป้าคอยดูแลคุณลุงนั้น ก็ได้รับความเมตตาจากคุณหมอเป็นธุระช่วยเหลือ เกี่ยวกับสิทธิ์รักษาผู้ป่วย ทำให้มีกำลังใจในการปรนนิบัติดูแล ตอนนี้คุณลุงมีอาการดีขึ้น คุยรู้เรื่อง คุณป้าเล่าให้ฟังสองปีหลังที่ได้พาคุณลุงมารักษามีช่วงหนึ่งต้องนอนโรงพยาบาล นอนในห้องผู้ป่วยรวม คุณลุงจะคอยให้คุณป้าคอยดูคนป่วยคนไหน ไม่มีญาติมาดูแล ไม่มีเงิน ก็ให้คุณป้านำผลไม้, ขนมและ เงินบ้าง ไปให้คนป่วยคนนั้น ทำแบบนี้ทุกครั้ง เวลาอยู่บ้านคุณป้า ทำอาหาร อย่างทำแกงหม้อหนึ่งก็แบ่งแจกเพื่อนบ้าน คนละถ้วย มีผลไม้ก็แบ่งปัน

    คุณป้าบอกพ่อของคุณป้าสอนมาตลอด จงเป็นผู้ให้ อย่าเป็นผู้รับ คุณป้าก็ได้ปฏิบัติตามคำสอนของคุณพ่อเสมอ คุณป้าบอกคุณลุงก็ใจบุญ เวลาได้เงินผู้สูงอายุ แล้วมีเด็กๆแถวบ้านมาเยี่ยม คุณลุงก็แจกเงินให้เด็กๆ ใครขาดของใช้อะไรบ้าง คุณลุงก็ให้เงินไปซื้อ คุณป้าบอกเพราะทำแบบนี้ เวลาเดือดร้อนก็จะมีคนมาช่วยอยู่ตลอด บางครั้งขาดเงิน ไม่นานก็มีคนมาให้

    ปูฟังแล้วทำให้นึกถึงคำพูดของอาจารย์คณานันท์ ถ้าเราคิดดี ทำดี พูดดี ก็จะได้สิ่งที่ดีเข้ามาหา และการที่เราเผื่อแผ่ให้คนอื่นก็เป็นพรหมวิหารสี่เช่นเดียวกัน การที่เราให้ใครโดยไม่หวังผลตอบแทน ถึงเวลาผลของบุญนั้นก็ย้อนกลับมาหาเราเอง เรื่องราวของคุณป้าและคุณลุงปูได้มาถ่ายทอดให้ทุกท่านได้อ่าน เพื่อให้ทุกท่านตั้งกำลังใจว่ายิ่งเราพูดดี คิดดี ทำดี ทำดีมากเท่าไหร่ โดยเราไม่ต้องกังวลว่าเมื่อไหร่ความดีที่ฉันทำ จะกลับมาสนองให้ฉันได้รับสักที เมื่อถึงเวลาบุญกุศลและความดี่ที่เราทำก็จัดสรรให้เราได้อย่างลงตัวค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 เมษายน 2010
  10. สาวปีใหม่

    สาวปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +2,368
    โมทนาด้วยค่ะ ที่น้องปูนำเรื่องดีๆมาเล่าให้ฟัง

    อ่านแล้วอิ่มเอมใจค่ะ อ่านไปก็นึกถึงเสียงน้องปูไปค่ะ .....
     
  11. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    [​IMG]



    นโมฯ
    <O:p</O:p


    พระมหาอุปคุตโต พระมหาอุปคุตตัง จะมหาเถโร
    สัพเพชะนา พะหูชะนา อิถีชะนา มามังพุทธะจิตตัง จะมหาลาโภ
    พุทธะธัมโม จะมหาลาภัง พุทธะสังฆัง จะมหาสัจจัง สัพพะลาภัง ภะวันตุเมฯ


    อุปคุตตะ จะมหาเถโร สัพพะเสน่หาปุพชิโต
    โสระโห อุปะคุตะ กัจจะยา ธิมะหิ อุตตะโม โหติ
    สัพพะทุกขะ สัพพะภะยะ สัพพะโรคะ พุทธา ธัมมา สังฆา อานุภาเวนะ วินาสสันติฯ
     
  12. namsompun

    namsompun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +1,365
    เชิญโหลดไฟล์หนังสือ ธรรมปกิณกะ ฉบับรวมคำสอนพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง ค่ะ

    เรียน อ.คณานันท์ และพี่ ๆ ทุกท่านค่ะ
    พอดี ได้มีโอกาส ร่วมบุญ ทำหนังสือ สวดมนต์ กับพี่ ๆ สายวัดป่าปฐมพุทธาราม เชียงรายค่ะ
    และได้ สแกนไฟล์ เป็น PDF ไว้
    ก็ ขออนุญาต อาจารย์ นำไฟล์ มา ส่งมอบต่อ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อหมู่คณะ ทุกท่านค่ะ ขออนุโมทนาทุกประการค่ะ

    เชิญดาวน์โหลดไฟล์ PDF หนังสือสวดมนต์ ธรรมปกิณกะ ฉบับรวมคำสอน พระราชพรหมยาน หลวงพ่อฤษี วัดท่าซุง ค่ะ

    รวมคำสอนปฏิบัติ ระเบียบการเจริญพระกรรมฐานโดยย่อ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน พิมพ์แจกลูกศิษย์ เมื่อ เมษายน 2507

    รวมบทสวดมนต์ มหามงคลคาถา แนวทางปฏิบัติธรรมเพื่อการหลุดพ้น

    คำแนะนำฝึกมโนมยิทธิ สำหรับนักปฏิบัติใหม่
    การวางอารมณ์ขณะเวลาปลอดเสียง
    นิพพาน
    กายคตา-มรณานุสติกรรมฐาน
    อารมณ์พระนิพพาน
    วิธีพิจารณาตัดร่างกาย
    วิธีรวบรัดในการปฏิบัติพระกรรมฐาน
    ชาติสุดท้าย
    ปัจฉิมโอวาท

    ขอกราบมหาโมทนา หลวงพ่อพระราชพรหมยาน ครูอาจารย์ และทุกท่าน ในธรรมทานนี้ทุกประการ สาธุค่ะ

    ธรรมะปกิณกะฉบับพิเศษ.pdf (78.98 MB) ธรรมะปกิณกะฉบับพิเศษ.pdf
    ธรรมะปกิณกะฉบับพิเศษ.pdf
    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2010
  13. koymoo

    koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,066
    ค่าพลัง:
    +7,067
    น่ากล้วจังเลยค่ะ
     
  14. benyapa

    benyapa ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,088
    ค่าพลัง:
    +5,431
    เข้ามาติดตามอ่านนะคะ ขออนุโมทนากับคุณคณานันท์และทุก ๆท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยนะคะ สาธุค่ะ
     
  15. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ช่วงนี้ หลายๆท่าน ได้ไปกราบ ครูบาอาจารย์ขอข้อธรรม ข้อปฏิบัติกัน

    มีที่ท่านทักเรื่อง "อินทรีย์" ยังไม่แก่กล้า

    นั่นก็คือพื้นฐานของ "พละห้า" ยังไม่เข้มแข็งมั่นคงพอ

    ตามที่ทักที่เตือนไป อย่าละเลยการฝึกกายด้วย

    หากกายเข้มแข็ง กำลังจิตก็เข้มแข็งตามไปด้วย

    และที่สำคัญอีกประการที่เราต้องฝึกต้องเพาะบ่มให้กล้าแข็งตั้งมั่นขึ้นก็คือ

    กำลังของสมถะสมาธิ ยิ่งกำลังฌานตั้งมั่นมาก การตัดกิเลสตัดนิวรณ์ห้าประการก็ยิ่งมีกำลังมากขึ้นเท่านั้น

    กำลังสมถะดีมากเท่าไรเวลาใช้ กำลังฌาน กำลังญาณก็ยิ่ง ถูกต้องแม่นยำ

    เวลาใช้มโนมยิทธิ ที่ผลุ่บๆโผล่ๆ ขึ้นๆลงๆ นั้นก็เนื่องมาจาก กำลังสมถะยังไม่มั่นคง

    ดังนั้นจะได้แนะนำวิธีการ ฝึกการทรงฌาน โดยนำหลักที่ สมเด็จพระสังฆราชท่านเมตตาถ่ายทอดให้มาเสริม ในการฝึกสมถะของแต่ละท่าน

    แต่ขออนุญาตบอกระดับการฝึกไล่ขึ้นไป จากง่ายไปถึงขั้นสูง ตั้งแต่ท่านที่ยังไม่ได้ฌานไปจนถึง ท่านที่ได้ฌานญาณจากมโนมยิทธิแล้ว


    --------------------------------------------------------------

    ขอกำลังฌานที่พึงเกิดจงเป็นสัมมาสมาธิ น้อมนำเพื่อการหลุดพ้นมีมรรคสี่ผลสี่พระนิพพานหนึ่งเป็นที่สุดด้วยเทอญ
     
  16. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    สำหรับท่านที่สมาธิยังไม่ตั้งมั่นนักให้เริ่มฝึกจากอาณาปานสติ พิจาณาลมหายใจเข้าออกเป็นคู่ มีคำภาวนากำกับ ว่า

    พุท-โธ

    โดยลมหายใจเข้า ภาวนา "พุท"
    ลมหายใจออก ภาวนา "โธ"
    พร้มกับนับ เลข ไล่ขึ้นไป จากพุทธโธ 1ไปจนถึง พุทโธ 10

    หากจิตแว่บคิดเรื่องอื่น หรือลืมเลขให้เริ่มนับใหม่ เริ่มใหม่ จนจิตนิ่ง

    จากนั้นเพิ่มเป็น พุทโธ ถึง 20 ไป30 ไปจนถึง พุทโธ 108

    โดยที่จิตนิ่งทิ้งจากอาการที่จิตแว่บ ซัดส่ายคิดเรื่องอื่นทั้งหมด การฝึกนี้ทิ้งนิมิตรทั้งปวงให้หมด เอาภาวนา เอานิ่งเพียงประการเดียว

    จนภาวนาไล่ไปจนถึง 108 คาบโดยไม่หวั่นไหว พุทโธมั่นคง

    สมาธิจะเริ่มตั้งมั่นขึ้นมาก
    ---------------------------------------------------------
     
  17. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ชุดนี้สำหรับ ท่านที่ได้ฌานสี่หยาบแล้วแต่ยังประคองไม่ได้ตลอด

    เริ่มจาก เข้าฌานสี่หยาบหยุดจิตนิ่งเป็นเอกัตคตารมณ์ กำหนดหยุดจิตแล้วนับให้จิตหยุดในอารมณ์สบายๆ จาก1 ไปจนถึง 10

    จากนั้นขยับเป็นหยุดจิตในฌานสี่หยาบหรือฌานสี่ใช้งาน ไป20 30 40 จนถึง 108

    พอทำได้ปรับอิริยาบท ทำลืมตา ทำหลับตา เดินปกติวิ่ง จนกระทั่งไม่ว่าทำอย่างไรอิริยาบทใดก็ นิ่งก็หยุดได้ นานเท่าไรก็ได้

    เผลอเป็นทำ เผลอเป็นฝึก ในทุกสถานที่ในทุกอิริยาบท บนรถเมล์ รถไฟ

    ไปซ้อมทำในวัด ไปซ้อมทำในสถานที่ที่เสียงดัง ไปซ้อมตอนที่ร้อน ที่หนาว ไปซ้อมกลางแดด

    ฝึกทรงฌานในทุกรูปแบบ ด้วยใจสบายๆ ใจสนุก เป็นลองเป็นเล่น ไม่กังวล

    ภาคนี้เป็นการฝึกตามแนวทรงพระอาจารย์ในดงสายหลวงปู่เทพโลกอุดรท่านสอนผู้ฝึกอภิญญาครับ

    ไม่ยากครับ สนุกออก
     
  18. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    คราวนี้ หยุดจิตในฌานสี่หยาบ แต่ทรงภาพพระพุึทธเจ้าเป็นเพชรเหนือเศียรเกล้าด้วย

    ไล่นับทรงภาพไปจาก 1 ถึง 10 จาก10 ไป 20 30 40 ไปจนถึง 108

    หากภาพพระหมองหรือไม่มีฉัพพรรณรังสีหรือภาพอื่นมารบกวน เริ่มต้นนับใหม่

    จากนั้นไล่ทำ ลืมตา หลับตา ยืน เดิน นั่ง นอน วิ่ง กระโดด

    จนทรงตัวภาพพระปรากฏแก่จิตแก่ใจตลอดเวลา

    อธิฐานในไตรสรณะคมม์กำกับเอาไว้ เพื่อให้ภาพพระที่ทรงนั้นเกิดเป็นพระพุทธบารมีแห่งพระพุึทธรูปศักดิ์สิทธิ์อย่างอัศจรรย์
     
  19. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    กำลังจิตกำลังสมาธิสูงกว่านั้นก็กำหนดเพิ่มเป็น การทรงภาพพระพร้อมกับแผ่เมตตารัศมีบุญกุศลกระจายออกไปทั่วจักรวาล ไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ

    พร้อมกับนับไล่ไปจนถึง 108 คาบ หากจิตสะดุด ไม่ยิ้มไม่ใส ไม่แย้ม ไม่เย็น ไม่ปรากฏกระแสเมตตาออกจากใจก็เริ่มต้นใหม่

    จากนั้นอธิฐานในพุทธะเมตตาบารมีให้ท่านมาสถิตย์ยังจิตเรา ให้เป็นผู้ทรงในพรหมวิหารสี่ อันบริสุทธิ์
     
  20. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ครั้นทำได้จนคล่้องตัว ก็จงทรงในอารมณ์จิต อารมณ์ฌานที่สูงขึ้นไปกว่านี้

    ทรงภาพพระพุทธเจ้าบนพระนิพพาน กำหนดใน เมตตา พุทธา อุปมานุสติวิหาร

    ให้อารมณ์จิตแน่บแน่นในพระนิพพานมั่นคง

    ภาวนา "นิพพานสุขัง" จาก1ไปจนถึง 10 จาก10 ไล่ไปชุดละ 20 30 40 50 ไปจนถึง 108 คาบ

    หากอารมณ์จิตหรือภาพพระพุทธเจ้าก็ดี ภาพพระนิพพานก็ดี ภาพวิมานหรือภาพกายพระวิสุทธิเทพของเรา พล่าเลือน หรือจิตคิดสงสัย หวั่นไหว

    เริ่มต้น นับใหม่ ทำจนคล่องตัวในทุกอิริยาบท ทุกสถานที่ ทุกอารมณ์ จนจิตตั้งมั่น

    อธิฐานจิตให้มั่นคงในพระนิพพาน รักในพระนิพพาน มั่นคงในพระนิพพาน
     

แชร์หน้านี้

Loading...