ขอถามใครที่เชื่อพระเจ้า

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย หล่อสะท้านภพ, 26 มีนาคม 2010.

  1. หล่อสะท้านภพ

    หล่อสะท้านภพ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +66
    1. พระเจ้าสร้างมนุษย์ ด้วยเริ่มจากชาย-หญิง1คู่ ชื่อ อดัมและเอวา(อีฟ) หลังจากนั้น2คนนี้มีลูก แล้วลูกของ2คนนี้จะไปผสมพันธ์กับคนอื่นที่ไหนได้ หรือพี่น้องมั่วกันเอง พ่อกับลูกสาว แม่กับลูกชาย ไม่ต่างอะไรจากสัตว์เดรฉาน อย่างนั้นหรือ ถ้าเป็นเช่นนั้นคนทั้งโลกก็ปัญญาอ่อนกันทั่วโลกแล้วนะสิ
    2.สืบเนื่องจากข้อ1.ถ้าพระเจ้าสร้างคนมาจากคน1คู่ที่ว่า ทำไมคนมีหลายเผ่าพันธ์มีหลายสีผิว มีทั้งผิวขาว เหลือง ดำ และภาษาพูดอีก ทำไมมีหลายภาษาทั้งๆที่คนเกิดมาก้ต้องพูดภาษาเดียวกันกับพ่อแม่หรือบรรพบุรษอาจจะมีเพี้ยนไปบ้างตามกาลเวลาแต่ก็ไม่น่าจะถึงขั้นคนละภาษา จะมีใครที่เกิดมาแล้วไม่พูดภาษาตามพ่อแม่ แต่ไปคิดภาษาสื่อสารอื่นมาพูดแทน
    3.สมัยที่บอกว่าพระเจ้าทำให้นําท่วมโลกแล้วให้โนอาสร้างเรือขนคนและสัตว์ชนิดละ1คู่ไปเพื่อไม่ให้มันสูญพันธ์ ที่สงสัยคือสัตว์ที่โนอาขนขึ้นเรือไป แน่นอนว่าต้องมีทั้งสัตว์กินเนื้อและกินพืช ที่นี้กว่านําจะลดก็หลายวัน สัตว์กินพืชก็ยังพอเอาพืชผักผลไม้มาไว้ให้มันกินได้ส่วนสัตว์กินเนื้อล่ะจะเอาไรให้มันกิน และถ้าสัตว์พวกนั้นมันถูกขังรวมกันหมด คิดดูว่าเสือ สิงโตมันจะกินอะไรล่ะแต่ถ้าแยกขังกัน แล้วโนอาจะเอาเนื้อที่ไหนมาให้พวกมันกิน ตั้งหลายวัน สมัยนั้นตู้เย็นหรือนําแข็งแช่ของมีป่าวก็ไม่รู้หรือมันกินของบูดเน่าด้วย
    4.สืบเนื่องจากข้อ3.จะเชื่อได้อย่างไรว่าโนอาขนสัตว์บกทุกชนิดขึ้นเรือไปได้หมด ไหนจะพวกแมลงที่มีในสมัยนี้ เป็นแสนเป็นล้านชนิด โนอาขนเอาไปได้หมดอย่างนั้นหรือ และอาหารของพวกมันอีกจะหาอะไรมาให้มันกิน และถ้าโนอาไม่สามารถขนสัตว์บกที่มีอยู่ทุกชนิดในโลกตอนนี้ขนเรือไปได้ แล้วพวกที่เหลือนั้นมันมาจากไหน หรือจะบอกว่าพระเจ้า สรางขึ้นมาทีหลัง
    ปล.ขอคำตอบแบบมีเหตุผล เพราะผมเป็นคนยึดถือเหตุผล คุณธรรม ความซื่อสัตย์และสัจจะ
    และประเภทคำตอบที่ว่า เหตุผลของพระเจ้า ความคิดของพระเจ้า หรือพระเจ้าทรงวางแผนไว้แล้ว มนุษย์ไม่สามารถจะรู้ได้ ประเภทนี้อย่าตอบเพราะมันเป็นข้ออ้างหาคำตอบที่มีเหตุผลไม่ได้ผมไม่ได้ลบหลู่พระเจ้าเพียงแต่ไม่เชื่อแต่ก็ไม่ปฏิเสธ
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ไม่รู้....เพราะเกิดไม่ทัน....และไม่รู้ว่าเป็นจริงหรือไม่อย่างไร....

    พุทธศาสนาสอนให้เชื่อเรื่อง เหตุและผล และให้พิจารณาด้วยปัญญา...ฉะนั้นเราก็ควรพิจารณาเอง....

    แต่สิ่งที่ผมรู้คือเป็นความเชื่อพื้นฐานของศาสนาเขา.....ซึ่งเราก็ไม่ควรไปลบหลู่ความเชื่อของเขา.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2010
  3. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ไม่ได้นับถือคริสต์,ยูดายและอิสลาม (ตามพระคัมภีร์กล่าวว่าเป็นพระเจ้าองค์เดียวกัน)
    แต่ชอบศึกษาคัมภีร์ความเชื่อต่างๆที่มีบันทึกในโลก ก็ได้บันเทิงธรรมดีนะ ถ้าไม่คิดมาก
    ขอร่วมแสดงความเห็นตามนี้

    ก็ขอตอบว่า ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ย้อนอดีตไปไม่ได้ ได้แต่อ่านแล้ววิเคราะห์ตามความคิด
    รู้แต่ว่าเป็นเรื่องที่ชาวอิสราเอลบันทึกคำบอกเล่าจากพระเจ้าของพวกเขาผ่าน
    ผู้เผยพระวจนะ ที่พวกเขาถือว่าเป็นผู้พยากรณ์ ผู้ที่ได้รับการติดต่อจากพระเจ้าโดยตรง
    แล้วมีการบันทึกเป็นพระคัมภีร์รวมเวลาถึงปัจจุบันก็ราว6000ปี เริ่มนับจาก อดัม-อีฟ
    ถึงอับราฮัม 2000ปี จากอับราฮัมถึงพระเยซู 2000ปี จากพระเยซูถึงปัจจุบัน 2010 ปี
    นับแบบคร่าวๆ ตามที่ผู้วิเคราะห์คัมภีร์ เขาประมาณเวลาจากเหตุการณ์
    ที่มีบันทึกในพระคัมภีร์ โดยจะมีผู้เผยพระวัจนะแต่ละช่วงอายุคน
    สืบต่อเนื่องกันไป ไม่ขาดตอน แล้วมีการรวบรวมไว้ตลอดเวลา
    กลายเป็นพระคัมภีร์ที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน ถือเป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมาก
    ของมนุษย์โลกเผ่าพันธ์หนึ่ง ถ้าเราไม่ได้เป็นเผ่าพันธ์เดียวกับเขา เราก็ย่อมไม่เข้าใจเรื่อง
    ของเขา เพราะเราไม่มีประสบการณ์ร่วมกับเขา และถ้าเราไม่ได้เชื่อในพระเจ้าของเขา
    เขาก็คงทำให้เราเชื่อไม่ได้ และถ้าเราไม่มีกรรมผูกพันธ์เกี่ยวเนื่องกับพวกเขา ก็จะทำให้ไม่
    อยู่ในอำนาจอิทธิพลของเขา แต่ถ้าเราไปสร้างกรรมต่อเนื่องกับพวกเขา ก็จะเป็นการเปิด
    โอกาสให้เกิดเป็นกรรมต่อเนื่องได้ เช่นว่า เราไม่เชื่อในพระเจ้าของเขา พวกเขาก็ไม่เชื่อใน
    พระพุทธเจ้าของเราเช่นกัน และถ้าต่างคนต่างอยู่ไม่ก้าวล่วงความเชื่อซึ่งกันและกัน ย่อม
    จะไม่มีเรื่องให้ต้องผูกพันธ์เป็นเวรเป็นกรรมกันไป แต่ถ้าเราไปก้าวล่วงความเชื่อของเขา
    แล้วเขาเกิดไม่พอใจทำเรากลับคืนก็จะกลายเป็นสงครามทางความเชื่อไปอีก ก็ไม่เป็น
    ผลดีกับใครมีแต่จะสร้างความเกลียดชังซึ่งกันและกัน และถ้าไปเจอคนของศาสนาเขา
    ที่มีความคิดความอ่านมีภูมิธรรมสูงกว่าเรา ไม่ถือสาหาความกับเรา ก็จะกลายเป็นว่า
    เราเองมีจิตเสื่อมกว่าเขา ซะอีก เพราะเขามีความเมตตากรุณาไม่ถือโทษโกรธเคืองเรา
    กลายเป็นว่า เขามีความเป็นผู้มีจิตใจสูง แล้วเราล่ะ นับถืออะไรจิตใจจึงด้อยกว่าเขา
    ทำไปแล้วก็ไม่มีผลดี มีแต่ผลเสีย และเราเองก็ไม่มีอำนาจไม่มีปาฏิหาริย์ ไม่มีความรู้แจ้ง
    ที่ไปช่วยคนอื่นได้ หรือไม่มีความสามารถไปทำให้คนอื่นเชื่อตามเราได้
    เราก็เปลี่ยนความเชื่อคนอื่นไม่ได้อยู่ดี มีแต่ทำให้เคืองกันไป เกลียดชังกันไป เพราะความไม่รู้
    อีกอย่างถ้าเราไม่เชื่อพระเจ้าของเขา แล้วเราก็ไม่ได้ไปลบล้างความเชื่อของเขา เพื่อให้มาเชื่อ
    เหมือนที่เราเชื่อ ก็คงไม่มีใครมาว่าเราได้หรอก เพราะความเชื่อเป็นเรื่องส่วนตัวและวิจารณาญาณส่วนบุคคล

    มีข้อมูลในพระคัมภีร์มาให้ลองอ่านดู อ่านแล้วไม่คิดจะดีมาก
    แต่ถ้าอ่านแล้วคิดมากก็จะยากนานได้ เพราะเป็นเรื่องบอกเล่า คนที่รู้จริงคือคนที่มี
    ประสบการณ์ตรงนั้น เราไม่มีประสบการณ์ตรงนั้นเราก็ไม่รู้ ไปตัดสินก็มีแต่ผิดมากกว่าถูก
    ปฐมกาล 1-5
    http://www.urbelieve.com/?p=3
    พงศาวดาร
    http://www.wordplanet.org/ti/13/1.htm

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=aBBCfI8mQvQ&feature=PlayList&p=B569890029F2ADA1&index=0&playnext=1"]YouTube- 70 ????? 1.1[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2010
  4. emaN resU

    emaN resU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,944
    ค่าพลัง:
    +3,294
    เทพปรัชญา<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3118272", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    ขอถามใครที่เชื่อพระเจ้า

    พรานพิเศษไม่เชื่อพระเจ้า
    แต่ขอแส่แสดงทัศนะ... ที่คิดเห็นและเข้าใจคำนี้ในแนวทางของตนเอง

    - เรื่องราวคำกล่าวใน Old Testament มันนานมากโขเอาการอยู่
    มันเป็นข้อความที่เหมาะสมสำหรับคนในยุคสมัยนั้น ที่สืบทอดกันมาได้จนถึงสมัยนี้ก็นับว่าเป็นประโยชน์มากทีเดียว ที่มนุษย์ในยุคนี้จะได้ศึกษาเรียนรู้ว่าคำอบรมกล่อมจิตใจผู้คนในยุคนั้นได้กล่าวกันไว้อย่างไร นับเป็นประวัติศาสตร์ปรัชญาทางจิตวิญญาณที่ประเสริฐอย่างยิ่ง
    อ่านแล้วก็ประเทืองปัญญาประดับความรู้ ได้ข้อคิดและแง่คิดมากมาย ซึ่งเปรียบกับการที่ไม่มีสิ่งใดหลงเหลือมาให้อ่านให้ศึกษากันแล้ว... ดีกว่ามากที่เดียว

    แต่ก็ไม่ควรยึดติดในเรื่องราวหลายๆเรื่องที่กล่าวไว้ นอกเสียจากข้อธรรมที่กลั่นกรองออกมาได้ด้วยสติปัญญา ไม่ใช่จากศรัทธาแบบไม่เข้าใจในเหตุผลหรือเรียกว่างมงาย


    พระเจ้า คำๆนี้เราเห็นว่าสำหรับผู้ไร้สติปัญญาแล้ว เป็นคำที่สามารถพันธนาการให้หลงอยู่กับคติต่างๆกันมากมาย

    สำหรับเรา... เห็นเป็นสองนัย

    พระเจ้า ในความหมายของผู้สร้าง พระเจ้าผู้ทรงดำรงชนม์ ผู้มีหน้าที่และบทบาทในกลไกทางชีวภาพ เทคโนโลยี และหรือความปราชญ์เปรื่องชำนาญในวิทยาการละเอียดลึกซึ้งต่างๆ
    มนุษย์จึงกล่าวถึงพระเจ้าในแง่นัยนี้ผสมอยู่ในบันทึกและประวัติศาสตร์

    พระเจ้า ในความหมายของธรรมชาติและสรรพสิ่ง ความเป็นอยู่ ความเป็นไป ล้วนดำเนินไปด้วยความรักจากพระองค์ ให้เกิด ให้อยู่ ให้เรียนรู้ ให้อภัย ให้โอกาสทุกชีวิตเวียนว่ายตายเกิดอยู่บน อยู่ใน อยู่เนื่องด้วยพระองค์ แนบแน่นเป็นหนึ่งเดียวตลอดกับพระองค์ ไม่แบ่งแยกว่าดีหรือชั่ว ทุกพลังงานวนเวียนว่ายเพื่อการเรียนรู้
    สถิตย์อยู่ทุกอณูของเอกภพ ในทุกลมหายใจเข้าออก เป็นประธานผู้อยู่ตั้งแต่เบื้องต้นจนถึงเบื้องปลาย จนกลับมาเริ่มความเป็นเบื้องต้นอีก... ก็ยังดำรงคงอยู่อย่างนั้น
    กล่าวสรุปคือ... พระเจ้าในนัยความหมายนี้ ก็คือธรรม คือแก่นธรรมอันว่าด้วยเรื่องปรมัตถธรรมที่โคตมะสิทธัตถะได้กล่าวสอนไว้ด้วยภาษาอย่างละเอียดในครั้งพุทธกาล
    และหมายถึงสิ่งที่อยู่สูงสุด ยิ่งใหญ่และทรงอำนาจความเมตตาสูงสุด ที่ศาสดาหลายท่านกล่าวถึงในการกล่าวสอนของท่านเหล่านั้น
    ต่างกันก็แค่สมมุติทางภาษา

    ท่านทั้งหลายเหล่านั้นก็กล่าวถึงพระเจ้าในแง่มุมที่หมายถึงความสว่างรู้แจ้งแทงตลอดในกลไกของสรรพสิ่ง เพราะเมื่อท่านทั้งหลายผู้ใดเหล่าใดได้ก้าวเข้าสู่ความสว่างแห่งสติปัญญาแล้วไซร้ ท่านก็จะสัมผัสความหมายของคำนี้ได้ลึกซึ้งจนสรรหาตัวหนังสือหรือภาษาบนโลกทั้งหมดมาอธิบายความเข้าใจลึกซึ้งนั้นมิได้


    อย่าคิดมากเลย
    เอาง่ายๆสบายๆหัวดีกว่า

    GOD
    GOOD

    เพิ่ม O ให้อีกตัว... อาจช่วยให้เบาสบายใจขึ้น

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 มีนาคม 2010
  5. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เพราะเข้ามาอ่านบทความค่ะ เกิดไม่ทันด้วยค่ะ
     
  6. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    พลบค่ำวันหนึ่งขณะที่ข้าพเจ้ากำลังอ่านบทความโบราณคดีผ่านอินเตอร์เน็ตเรื่อง “ปราสาทบันทายฉมาร์” จากเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ทำให้เกิดความสนใจปราสาทเขมรแห่งนี้ โดยมุ่งเน้นในรายละเอียดเกี่ยวกับการค้นพบภาพประติมากรรมรูปสลักนูนต่ำบนกำแพง ของลัทธิโลเกศวร จำนวน 6 ภาพ ประกอบด้วย พระโลเกศวร 32 พระกร, พระโลเกศวร 20 พระกร, พระโลเกศวร 10 พระกร, พระโลเกศวร 8 พระกร (สองภาพ) และพระโลเกศวร 6 พระกร ซึ่งยังไม่เคยปรากฏพบในที่ใดมาก่อน
    <O:p</O:p

    เมื่อข้าพเจ้าได้พิจารณาในรายละเอียดแต่ละภาพแล้ว ก็เกิดความสนใจภาพๆ หนึ่งขึ้นมาเป็นพิเศษ นั่นก็คือ พระโลเกศวร
    32 พระกร ภายใต้ข้อความประกอบคำบรรยายภาพนี้ มีใจความว่า พระองค์ทรงเป็นพระภาครวมแห่งสรรพสิ่งในฐานะผู้เป็นศูนย์กลางจักรวาลสากลนี้ <O:p</O:p

    <O:p</O:p

    เมื่อได้อ่านข้อความดังกล่าวแล้ว ก็ย้อนกลับมาพินิจดูภาพนั้นอีกครั้งหนึ่ง ในขณะนั้นข้าพเจ้ามีความรู้สึกมึนศีรษะไปหมด กระอักกระอ่วน แน่นหน้าอก ประมาณว่าหายใจ ไม่สะดวก เลยตัดสินใจปิดเครื่องคอมพิวเตอร์เสีย แล้วก็มานอนพักผ่อนอยู่สักครู่ใหญ่ จนกระทั่งอาการดังกล่าวหายไป จึงเข้าไปห้องพระสวดมนต์เพื่อปฏิบัติบูชาเหมือนเช่นที่ทำอยู่เป็นประจำทุกวัน ระหว่างจุดธูปบูชาพระรัตนตรัย ได้บังเกิดสิ่งหนึ่งที่ไม่คาดฝันมาก่อนในระหว่างนั่งสวดมนต์อยู่นั้น ...
     
  7. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    “นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา... ” บทสวดมนต์เริ่มต้นยังไม่ทันจบประโยค ก็มีความรู้สึกว่ามือที่กำลังประนมพร้อมธูปก้านสั้นอยู่นั้น เกิดแข็งประกบติดกันแน่นมาก จนไม่สามารถขยับหรือดึงออกได้ด้วยตนเอง แล้วเกิดอาการโยกตัวไปมา ซึ่งผิดวิสัยไปจากเดิมที่ทำอยู่ประจำทุกวัน จึงส่งเสียงตะโกนร้องดังลั่นเรียกให้พี่ชายช่วยมาดึงธูปออกให้ที เพราะไฟจากธูปเริ่มลุกลามมาใกล้จะถึงนิ้วอยู่แล้ว เมื่อพี่ชายได้ยินเสียง ก็รีบบึ่งขึ้นบันไดมายังห้องพระ แล้วได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ทั้งตกใจและประหลาดใจ จึงรีบดึงธูปออกไปจากมือ แล้วนำไปปักที่กระถางธูป แต่ตัวข้าพเจ้าก็ยังโยกไปมาอยู่อย่างนั้น และแล้วเหมือนมีใครไม่ทราบมาจับให้แบมือแนบกับพื้น พร้อมทั้ง กดศีรษะให้จรดพื้น เหมือนจะให้หมอบกราบไหว้ ตอนนั้นความคิดของข้าพเจ้าเริ่มสับสนไปหมด ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี เพราะควบคุมตัวเองและทำอะไรไม่ได้เลย
     
  8. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    นอกเสียจากจะภาวนาว่าขอให้ตนเองอย่าเป็นอะไรเลย ลูกกลัวแล้ว สักครู่หนึ่งแขนซ้ายขวาของข้าพเข้าได้ขยับชูมือและกางออกขึ้นพร้อมกัน ดวงตาปิดสนิท ส่วนขายังนั่งคุกเข่าอยู่เหมือนเดิม โดยบังคับตนเองไม่ได้เลย จากนั้นก็ได้เปล่งเสียงดังลั่นออกมา เข้าใจว่าเป็นภาษาเบื้องบน จนกระทั่งเสียงนั้นหยุดหายไปสักครู่หนึ่ง และแล้วพระนามนั้นก็ถูกเอ่ยเสียงออกมาดังๆ ถึง 9 ครั้ง คำๆ นั้น ก็คือ โตตาลา, โตตาลา, โตตาลา, โตตาลา, โตตาลา, โตตาลา, โตตาลา, โตตาลา, โตตาลา
    <O:p</O:p

    ตอนนั้นข้าพเจ้าก็ได้แต่เพียงแค่จดจำพระนามท่านเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรอีกแล้ว เพราะยังยำเกรงและกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเอง จึงรีบกลับเข้าห้องนอนเพื่อไป พักผ่อนหลับนอนเสียดีกว่า เพราะว่าวันรุ่งขึ้นยังมีงานต้องทำอีกเยอะ แต่ก็ยังอดสงสัย และต้องการพิสูจน์ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเองนั้นคืออะไรกันแน่
     
  9. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    พระนาม โตตาลา ที่พระองค์ได้เอ่ยออกมาถึง 9 ครั้ง เพื่อให้ข้าพเจ้าได้จดจำพระนาม นี้ไว้เหนือกล้าเหนือกระหม่อมนั้น ทำให้ข้าพเจ้าต้องใช้ความพยายามในการสืบค้นหาคำๆ นี้อยู่เกือบอาทิตย์ แต่ก็ยังไม่พบคำภาษาไทยคำนี้อยู่เลย ยกเว้นคำภาษาอังกฤษ ว่า Totala ซึ่งย่อมาจากคำว่า Total หมายถึง รวมทั้งหมดของสรรพสิ่ง ซึ่งคำนี้ ส่วนใหญ่นักดาราศาสตร์จะใช้คำวลีว่า Totala Eclipse คำว่า Eclipse หมายถึง อุปราคา ซึ่งหมายถึงการบดบังอย่างเต็มดวงของปรากฏการณ์สุริยุปราคา (Solar Eclipse) และจันทรุปราคา (Lunar Eclipse) ข้าพเจ้าคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทั้งในแง่ของดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ คติความเชื่อ และปรัชญาศาสนา จึงได้ทำการศึกษาและค้นคว้าเพิ่มเติม เพื่อรวบรวมเป็นเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ มาเล่าสู่กันฟัง
     
  10. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    พลบค่ำในอาทิตย์ถัดมา ข้าพเจ้าได้นั่งสมาธิและวิปัสสนาภาวนา ซึ่งเป็นเวลาปกติของข้าพเจ้าที่ก่อนจะนอนต้องนั่งสมาธิทำจิตให้สงบ และใคร่ครวญถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมาในชีวิตว่าทำอะไรไปบ้าง พูดดี คิดดี ทำดี บ้างหรือเปล่าตลอดทั้งวันที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นในที่ทำงาน ที่บ้าน และที่อื่นๆ ก็ตาม ในระหว่างทำจิตให้สงบนิ่งอยู่นั้น ข้าพเจ้าได้ยินเสียงแว่วๆ เหมือนใครคนหนึ่งกำลังเรียกผ่านมาในจิตใต้สำนึก แต่ก็ ยังคงเกิดความลังเลใจที่จะตอบกลับไป เพราะเกรงว่าจะเป็นอุปทานหรือคิดไปเอง แต่เสียงที่เรียกหานั้นเริ่มถี่ขึ้นและชัดเจนมากขึ้น จนกระทั่งไม่สามารถทำจิตให้สงบนิ่ง อยู่ได้ จึงกำหนดจิตถามในใจกลับไปว่า

    “ท่านเป็นใคร?” แต่เสียงนั้นก็ยังไม่ตอบรับ เมื่อทวนถามใหม่อีกครั้งหนึ่ง พระองค์ก็เอ่ยพระนามว่า
    <O:p</O:p
    "โตตาลา” จิตข้าพเจ้ารับรู้และได้ยินอย่างชัดเจน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    จากนั้นก็มีการสอบถามและตอบผ่านทางจิตที่บังเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วมาก ทำให้ข้าพเจ้าได้รับรู้ว่านี้คือ การสื่อสารทางจิต ซึ่งเป็นสภาวะหนึ่งที่รับรู้ด้วยตนเอง เป็นสิ่งเหนือสามัญวิสัยที่จะกล่าว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละบุคคล ผลจากการสื่อสารทางจิตสามารถสรุปใจความได้ว่า

     
  11. pk010209

    pk010209 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    973
    ค่าพลัง:
    +2,634
    รออ่านต่อนะคะคุณพี่ภราดรภาพ
     
  12. lamb of god

    lamb of god เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2009
    โพสต์:
    543
    ค่าพลัง:
    +436
    ถ้ามองในแง่วิทยาศาสตร์ พระเจ้าก็คือผู้สร้างซึ่งนำ ดีเอนเอ ของตนเองมาตัดต่อพันธุกรรม
    กับสิ่งมีชีวิตในท้องถิ่น เช่นการชักกระดูกซี่โครงของ อดัม มาสร้างเป็นตัว อีฟ คงคล้ายๆ
    เทคนิคการโคลนในปัจุบัน...ส่วนผลไม้แห่งปัญญาที่พระเจ้าสั่งห้ามก็คงเป็นขอมูลข่าวสาร
    ทีทำให้มนุษย์ฉลาดขึ้นมา พระเจ้าเลยทรงพิโรธ ก็ว่ากันไป .... โดยส่วนตัวนับถือคริสต์
    พระเจ้ายิ่งใหญ่กว่านั้น...ที่ไม่ใช่พรหม หรือ สี่งมีชีวิตทรงปัญญาจากนอกโลก...
     
  13. lamb of god

    lamb of god เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2009
    โพสต์:
    543
    ค่าพลัง:
    +436
    ไม่ได้นับถือ คริสต์ แบบ งมงาย แต่พยายาม เอา ชนะใจตัวเองแบบ พระเยซู
    คือพระเยซูคือบุคคลต้นแบบในชีวิตเรา นะ ที่เรานับถือมิใช่การอัศจรรย์ แต่ นับถือ ที่คุณธรรม
    และความมีเมตตาของพระองค์เท่านั้นเอง
     
  14. shido

    shido เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +230
    ผมนึกนิยมศาสนาคริสต์ในแง่ของความเป็นผู้ให้
    อย่างเช่น หมอสอนศาสนา ซึ่งต้องอุทิศตนไปยังถิ่นธุรกันดาร ไม่เว้นแม้แต่ดินแดนมนุษย์กินคน เพื่อรักษาโรคให้กับชาวบ้านท้องถิ่น และสอนหนังสือ พร้อมกับสอนและเผยแพร่ศาสนาไปด้วย รวมถึงอาจมีการนำอาหารไปจ่ายแจกด้วย จึงเห็นได้ว่าศาสนาคริสต์มีทั่วโลก แม้แต่ทวีปอาฟริกา

    ในขณะที่บางศาสนากลับตรงข้าม

    ในธรรมชาติมีภาวะเหนือธรรมชาติ (Supernatural Power) อยู่จริงๆ และมักจะเป็นไปตามดินแดนที่แตกต่างกัน อย่างเช่น อินเดีย สืบเนื่องจากมีภูมิประเทศกว้างใหญ่ จึงทำให้ประสบการณ์เกี่ยวกับภาวะเหนือธรรมชาติแตกต่างกัน และ เรียกกันไปตามพื้นหลังประสบการณ์ของตน แต่เนื่องจากเป็นไปในระดับ จิตวิสัย ไม่ใช่ ภาวะวิสัย ถึงมี พระศิวะเจ้า พระพรหมเจ้า พระนารายณ์เจ้า

    แต่เมื่อต้องรวมเป็นกลุ่มความเชื่อเดียวกัน ก็ต้องมีการตกลงปรองดองกัน จึงให้มีการแบ่งหน้าที่กันระหว่างพระผู้เป็นเจ้า ให้พระพรหมเป็นพระผู้สร้าง พระนารายณ์เป็นพระผู้บริหาร แต่หากพระนารายณ์บริหารแล้วหากเกิดยุคเข็ญจนบริหารต่อไปไม่ได้ ก็ให้พระศิวะทำลายล้างเสีย เลยเรียกเทพผู้เป็นใหญ่ทั้งสามว่า ตรีมูรติ

    แรกๆศาสนาพุทธนั้นไม่มีพิธีกรรม ต่อมาก็ไปยืมแบบอย่างมาจากพราหมณ์ แต่ เนื่องจากมีแต่พระพุทธเจ้าเพียงพระองค์เดียว ไม่เหมือนพราหมณ์ที่มีถึง 3 เทพผู้เป็นใหญ่ จึงได้นำเอาพระธรรมคำสอน และ พระสงฆ์ รวมเป็น 3 แล้วเรียกว่า รัตนตรัย

    ย้อนกลับไปที่ ตรีมูรติ เกิดมีนักปฏิมากรรมขี้เกียจ คิดขึ้นมาว่า การที่ต้องมาปั้นรูปพระผู้เป็นใหญ่ทั้ง 3 พระองค์มันเสียเวลา อย่ากระนั้นเลยสู้เอาลักษณะของเทพทั้งสามมารวมกันแล้วปั้นองค์เดียว จะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก

    ทีนี้พอปั้นเสร็จก็มีคนที่ผ่านไปมาถาม " นั่นเทพองค์ไหนหรือท่าน? " ด้วยความขี้เกียจอยู่แล้ว ก็เลยตอบสั้นๆ " ตรีมูรติ " คนก็เลยเข้าใจไปว่ามีเทพชื่อ ตรีมูรติ ด้วย ก็เลยมี พระตรีมูรติ เพิ่มมาอีกหนึ่ง

    :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2010
  15. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    “กาลครั้งหนึ่ง มีดาวดวงใหญ่ดวงหนึ่งได้กำเนิดขึ้นภายใต้เอกภพที่ไร้ขอบเขตแห่งนี้ ได้บังเกิดการแตกแยก แล้วค่อยๆ สยายออกไปเป็นวงอย่างช้าๆ จนกลายเป็นกลุ่มกาแล็กซีน้อยใหญ่ ได้ประมาณ 100,000,000 กลุ่มดวง แต่ละกลุ่มกาแล็กซีค่อยๆ แตกตัวเกิดเป็นระบบสุริยะอีกมากมายเหลือคณานับ และค่อยๆ ขยายตัวออกไปอีกเรื่อยๆ แต่มีดาวดวงหนึ่งเป็นผู้กำหนดกลไกและวัฏจักรแห่งเอกภพนี้ทั้งหมด มีชื่อพระนามว่า “โตตาลา” (Totala) มีลักษณะคล้ายกับดวงอาทิตย์ แต่มีขนาดเล็กกว่า ดวงอาทิตย์ของเราเล็กน้อย จุดเด่นของดาวดวงนี้ก็คือ มีพลังแสงที่เรียกว่าฉัพพรรณ รังสีที่เย็นตาเหมือนแสงจันทร์แต่เฉิดฉายกว่าจนประมาณมิได้ ภายใต้กลไกแห่งนี้ได้รังสรรค์พลังชีวิตอินทรีย์และวัตถุอินทรีย์แห่งสรรพสิ่ง รวมทั้งเป็นผู้ทำลายระบบกลไก ที่ไม่เหมาะสมให้เกิดดุลยภาพและภราดรภาพ ผ่านทางกระบวนการพลังของ สิ่งศักดิ์สิทธิ์และมนุษย์ต่างภพ (Alien) ทุกสิ่งมีชีวิตได้ถูกควบคุมผ่านทางพันธุวิศวกรรม ที่แยบยลและพิสดาร นั่นก็คือ DNA (Deoxyribonucleic Acid) ที่ได้กำหนดชะตาลิขิตไว้แล้วตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ ศาสนา เผ่าพันธุ์ เพศ ผิวพรรณ สันฐาน บุคลิกภาพ ความเฉลียวฉลาด และอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งเหล่านี้ได้ถูกนำมาทดลองเชิงวิจัยด้วยตัวแปรแทรกซ้อนเพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดในอนาคตภายภาคหน้า
    <O:p</O:p

    สิ่งที่ได้กล่าวมาทั้งหมดข้างต้น ได้เป็นจุดเริ่มต้นและแรงบันดาลใจให้ข้าพเจ้าเกิดความ
    สนใจและใคร่รู้กับปรัชญาและความเชื่อในสิ่งเหล่านี้มากขึ้น โดยมุ่งเน้นการพัฒนา จิตเอกภพเพื่อจะข้ามขอบแห่งจิตใจไปสู่ฝั่งหมาย และพร้อมที่จะเรียนรู้กับสิ่งแปลกใหม่ ที่ไม่ใช่ทักษะและความรู้ที่ตนมีอยู่เดิม ดั่งเรือแพที่ล่องลอยอยู่ในมหานทีสีทันดร อาจฟังดูแล้วเหมือนเป็นเรื่องงมงาย เพราะสิ่งเหล่านี้ข้าพเจ้าเองก็ไม่เคยรู้เรื่องราวมา
     
  16. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    “รู้ไหมมนุษย์คนแรกที่อยู่บนโลกมนุษย์คือใคร?"
    "แล้วทำไมมนุษย์เหล่านี้จะมีหลากหลายเผ่าพันธุ์ หลากหลายศาสนา หลากหลายความเฉลียวฉลาด?"
    "แล้วสรรพชีวิตบนโลกมนุษย์เกิดขึ้นมาได้อย่างไร โดยเฉพาะสัตว์และพืช?"
    "มนุษย์ต่างภพมีความสัมพันธ์กับโลกมนุษย์นี้อย่างไร?"
    "พลังของสิ่งศักดิ์สิทธิ์กับการเกิดของสรรพสิ่ง มีกระบวนการเกิดขึ้นได้อย่างไร?"
    ????? ตามมาอีกมากมาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2010
  17. mib8gdviNz

    mib8gdviNz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,009
    ค่าพลัง:
    +1,524
    ไม่รู้ครับ รออ่านอยู่ ^^
     
  18. visanu

    visanu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2005
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +197
    เจอเรื่องเลวร้าย = โอ้พระเจ้าช่วย
    มีความสุข = ขอบคุณพระเจ้า

    ตอนรับประทานอาหาร = ขอบคุณพระเจ้าที่ประทานอาหารมื้อนี้มาให้เรา (ซื้อเองหน้าปากซอย)


    ..........................................................................
     
  19. รพินทร์ไพรวัลย์

    รพินทร์ไพรวัลย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    669
    ค่าพลัง:
    +1,122
    ถามใจท่านดูอีกที ท่านอยากรู้คำตอบจริงหรือ เพราะทุกคำถามที่ท่านถามมา ท่านก็ตอบคำถามเหล่านั้นใด้ด้วยตัวเองทุกข้อแล้ว (ถ้าคิดถึงผู้อื่นสักหน่อยคงไม่ถาม) และถ้าผู้ที่นับถือพระเจ้าตอบคำถามเหล่านั้นไม่ได้ ท่านจะรู้สึกดีขึ้นใหม มันจะทำให้คุณธรรมที่ท่านว่าท่านมีสูงขึ้นใหม ทำไปเพื่ออะไรหรือ หรือว่าจะให้เขาเลิกนับถือพระเจ้ากันดีใหม แล้วมานับถือท่านผู้ชี้แสงสว่าง 4 คำถามฉลาดทั้งโลกแบบผู้มีคุณธรรมเค้าคิดกัน งั้นผมถามท่านบ้าง ว่ารู้ได้อย่างไร ว่าพื้นผิวดวงอาทิตย์มันร้อน ยังไม่มีใครเคยไปยืนสักหน่อย
    ท่านคาดหวังจะได้คำตอบแบบไหนหรือ ท่านผู้มีคุณธรรม
     
  20. กิเลศเยอะ

    กิเลศเยอะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +676
    ทุกศาสนามีความนัยแฝงอยู่...
    ใช้ปัญญาไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งแล้วจะรู้
    ไม่ควรลบลู่ ศาสนาใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าเรายังไม่รู้จริง
     

แชร์หน้านี้

Loading...