ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย พันวฤทธิ์, 29 พฤศจิกายน 2007.

  1. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    เป็นคำถามที่น่าคิด แต่ขอติดไว้ก่อน อีกไม่นานจะมาเฉลย แต่เอาชาติปัจจุบันที่จำได้ก่อนก็แล้วกัน เช่นอาจจะเคยปรามาสวัดๆ หนึ่ง ที่ชอบขายบุญ แต่เค้าก็ไม่เคยสอนให้คนไปผิดศีล 5 นั่นล่ะกรรมที่เราไปปรามาสพระในวัดนั้นทั้งหมด อย่างน้อยในวัดนั้น ต้องมีพระที่มีคุณธรรมสูงอยู่บ้าง หรือเอาให้แน่ ท่านก็มีศีลเหนือเรา ให้ระบุเจาะจงไปเลยว่าเราเคยคิดอย่างนั้นเราขอรับผิด วันนี้เรามาขอขมาแล้ว และจะไม่คิดอย่างนั้นอีกต่อไป ขอให้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจงยกโทษให้ด้วย อย่าได้ติดค้างกันต่อไป และอย่าได้ขัดขวางความเจริญในทางโลกและทางธรรมของข้าพเจ้า...สุดท้ายแถมท้ายด้วยภาพพระสมเด็จสกุลปัญจสิริกรุเ่ก่าที่เธอชอบมาให้ดูให้ศึกษากัน ในฐานะที่มีคำถามมาถามพี่



    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
  2. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    ความเป็นมาของวันพระ

    ในสมัยพุทธกาล เหล่านักบวชนอกศาสนาได้ประชุมแสดงคำสอนตามความเชื่อของตนทุกวัน ๘ ค่ำ ๑๔ ค่ำ และ ๑๕ ค่ำ เป็นปกติ ครั้งนั้น พระเจ้าพิมพิสาร พระราชาแห่งแคว้นมคธเกิดความคิดว่า น่าที่เหล่าสงฆ์ในพระพุทธศาสนาจะได้กระทำเช่นนั้นบ้าง เพื่อความเลื่อมใสศรัทธาของเหล่าชนเฉกเช่นที่นักบวชนอกศาสนานั้นได้รับ จึงกราบทูลขอพุทธานุญาตจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธองค์ทรงอนุญาตตามนั้น

    การประชุมกันของเหล่าสงฆ์ตามพุทธานุญาตได้มีวิวัฒนาการขึ้นตามลำดับ ตั้งแต่การมาประชุม แล้วนั่งนิ่ง เริ่มแสดงธรรม ต่อมาทรงอนุญาตให้สวดปาฏิโมกข์ ซึ่งเป็นการทบทวนข้อปฏิบัติที่เป็นวินัยของสงฆ์ในพระพุทธศาสนาพร้อมแสดง อาบัติ คือ เปิดเผยข้อผิดพลาดในวินัยต่อผู้อื่น ให้เป็นกิจกรรมในวันอุโบสถ คือวัน ๘ ค่ำ ๑๔ ค่ำ และ ๑๕ ค่ำ

    จากที่สงฆ์ถือปฏิบัติทุกวันอุโบสถ คือ ๓ ครั้งต่อปักษ์ (สองสัปดาห์) จนกระทั่งท้ายที่สุด ทรงบัญญัติชัดเจนว่า ให้สงฆ์ประชุมกันเพื่อสวดปาฏิโมกข์เพียงปักษ์ละ ๑ ครั้ง คือ ทุก ๑๔ ค่ำ หรือ ๑๕ ค่ำ เท่านั้น ซึ่งสงฆ์ได้ถือปฏิบัติมาจนกระทั่งทุกวันนี้ นั่นคือ แม้วันอุโบสถ หรือ วันพระ จะมีทั้งในวัน ๘ ค่ำ และวัน ๑๔ ค่ำ หรือ ๑๕ ค่ำ ก็จริง แต่ก็ประชุมกันเฉพาะในวัน ๑๔ ค่ำ หรือ ๑๕ ค่ำ ตามพุทธานุญาตเท่านั้น

    <!--MsgFile=0-->
    <center><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td><table bgcolor="#222244" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
    วันขึ้น (แรม) ๘, ๑๔ และ ๑๕ ค่ำ

    กำหนดโดย ถือการเปลี่ยนแปลงของพระจันทร์ จากเดือนเต็มดวงจนถึงเดือนมืด
    และกลับเป็นเดือนเต็มดวงอีกครั้ง โดยคืนพระจันทร์เต็มดวงเรียก ขึ้น ๑๕ ค่ำ พระจันทร์ค่อย ๆ ดับนับ แรม ๑ ค่ำ ๒ ค่ำ ตามลำดับ ถึง ๑๕ ค่ำ เป็นวันพระจันทร์ดับพอดี จากนั้นเริ่มนับขึ้นจากวันขึ้น ๑ ค่ำ ๒ ค่ำ จนถึงขึ้น ๑๕ ค่ำ เป็นวันพระจันทร์เต็มดวงอีกครั้งหนึ่ง เป็นอันครบรอบ ๑ เดือน

    ความ สำคัญของวันอุโบสถ

    จากพุทธานุญาตให้มีตัวแทนสงฆ์รูปหนึ่งสวดทบทวนสิกขาบท ที่ทรงบัญญัติไว้เป็นระเบียบปฏิบัติ เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างผาสุกและเพื่อความบริสุทธิ์ในเพศสมณะที่ ต้องบริบูรณ์ด้วย ศีล สมาธิ และปัญญา อันเป็นทางหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวงตามเส้นทางของพระพุทธศาสนา โดยมีภิกษุผู้สวดทบทวน เมื่อสวดถึงข้อใดแล้วมีภิกษุรูปใดรูปใดรูปหนึ่งประพฤติผิดข้อบังคับนั้น จะเปิดเผยท่ามกลางที่ประชุม หรือที่เรียกว่า แสดงอาบัติ ซึ่งถือปฏิบัติเช่นนี้สืบต่อ ๆ กันมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล ก่อให้เกิดผลดังนี้ คือ

    ๑. เกิดความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคณะสงฆ์ ด้วยระเบียบปฏิบัติที่หมั่นทบทวน
    และเตือนตนด้วยการแสดงการยอมรับในสิ่ง ที่ตนละเมิด เพื่อแก้ไขต่อไป ในข้อนี้มีปรากฏการณ์เด่นชัด เมื่อครั้งพุทธกาล คือเมื่อครั้งพระภิกษุชาวเมืองโกสัมพีทะเลาะเบาะแว้งแตกความสามัคคีกัน ภายหลังเมื่อกลับมีความสามัคคีใหม่ พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้ประชุมทำอุโบสถสวดพระปาฏิโมกข์เป็นกรณีพิเศษ ที่เรียกว่า วันสามัคคีอุโบสถ

    ๒. การหมั่นทบทวนอย่างสม่ำเสมอ ทำให้พระธรรมคำสอนไม่คลาดเคลื่อน เลือนหาย
    และทำให้หมู่คณะจรรโลงพระพุทธ ศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบันนี้

    วันอุโบสถนั้น นอกเหนือจากเป็นวันสำคัญของทางคณะสงฆ์ดังกล่าวแล้ว ยังเป็นวันประชุมฟังธรรมของเหล่าพุทธศาสนิกชนตั้งแต่สมัยพุทธกาลจนถึง ปัจจุบันนี้

    ในส่วนของพุทธศาสนิกชนนั้น การละชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้ผ่องใส เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนาผ่านการแสดงออกเป็นรูปธรรมด้วยการทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา ก็จริง แต่ในชีวิตประจำวันแล้ว โลกภายนอกสำหรับคฤหัสถ์ผู้ครองเรือนเต็มไปด้วยศษ ข้อจำกัดในการกระทำความดี เหล่านั้นให้สมบูรณ์

    ดังนั้น วันอุโบสถ จึงเป็นเป็นการปรารภเหตุที่จะให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้มีโอกาสหันกลับ มาทบทวนการทำดีดังกล่าว โดยการทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา มากขึ้นเป็นพิเศษ

    <!--MsgFile=1-->
    <center><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td><table bgcolor="#222244" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table></td><td rowspan="2" bgcolor="#000000" valign="top"><table bgcolor="#224422" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td width="10">
    </td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td colspan="2" align="left" bgcolor="#000000"><table bgcolor="#224422" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td width="10">
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></center>

    วันพระ ในประเทศไทย วันพระ — วันของใคร

    วัน พระในประเทศไทยสันนิษฐานว่าเริ่มมีขึ้นมาตั้งแต่กรุงสุโขทัย โดยได้รับอิทธิพลจากพุทธศาสนานิกายเถรวาทแบบลังกาวงศ์จากนครศรีธรรมราช ในวันพระ จะมีภิกษุเทศนาสั่งสอน ณ ลานธรรมในสวนตาล โดยใช้พระแท่นมนังคศิลาอาสน์ เป็นอาสนะสงฆ์ ในการบรรยายธรรมให้ประชาชนฟัง ยังผลให้ประชาชนในยุคนี้นิยมปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรม มีการถือศีล โอยทานกันเป็นปกติวิสัย ทำให้สังคมโดยรวมมีความสงบสุขร่มเย็น

    วันพระ ในปัจจุบัน คงเหลือธรรมเนียมปฏิบัติอยู่แต่เฉพาะประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาเถรวาท เช่น ศรีลังกา, พม่า, ไทย, ลาว และเขมร (ในอดีตประเทศเหล่านี้ถือวันพระเป็นวันหยุดราชการ) โดยพุทธศาสนิกชนเถรวาทนับถือว่าวันนี้เป็นวันสำคัญที่จะถือโอกาสไปวัดเพื่อ ทำบุญถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์และฟังพระธรรมเทศนา สำหรับผู้ที่เคร่งครัดในพระพุทธศาสนาอาจถือศีลแปดหรือศีลอุโบสถในวันพระด้วย นอกจากนี้ชาวพุทธยังถือว่าวันพระไม่ควรทำบาปใด ๆ โดยเชื่อกันว่าการทำบาปหรือไม่ถือศีลห้าในวันพระถือว่าเป็นบาปมากกว่าในวัน อื่น

    ในประเทศไทย หลังจากวันพระได้ถูกยกเลิกไม่ให้เป็นวันหยุดราชการ ทำให้วันพระที่กำหนดวันตามปฏิทินจันทรคติส่วนใหญ่ไม่สอดคล้องกับปฏิทินที่ ใช้กันอยู่ทั่วไป (เช่น วันพระไปตรงกับวันทำงานปกติ) ซึ่งคือหนึ่งในสาเหตุสำคัญในปัจจุบันที่ทำให้พุทธศาสนิกชนในประเทศไทยห่าง จากการเข้าวัดเพื่อทำบุญในวันพระ


    ทั้งนี้..เพื่อให้โอกาสเหล่า นั้นเป็นไปอย่างสม่ำเสมอและมีเหตุจูงใจสำคัญไม่แพ้ในสมัยพุทธกาลที่พระ พุทธองค์ให้ความสำคัญกับวัน ๘ ค่ำ ๑๔ ค่ำ และ ๑๕ ค่ำ จึงน่าจะเป็นโอกาสที่ดี ที่พุทธศาสนิกชนที่ดีจะได้ถือเอาวันดังกล่าว เป็นนิมิตหมายในการสั่งสมคุณงามความดี ระลึกถึงคำสอนของพระพุทธองค์ด้วยการหมั่นทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา เป็นพิเศษกว่าวันปกติซึ่งเป็นสิ่งที่พึงทำหัวใจของพระพุทธศาสนาเยี่ยงพุทธ ศาสนิกชนที่ดีอยู่แล้ว

    และนอกจากจะได้ถือปฏิบัติด้วยตนเองแล้ว การทำหน้าที่เชิญชวนคนรอบข้างและคนในสังคมให้ร่วมระลึกถึงและปฏิบัติด้วยก็ ยิ่งเป็นสิ่งประเสริฐ เพราะเป็นที่รู้กันอยู่ว่า สังคมไม่อาจจะดีได้ด้วยคนดีเพียงคนเดียว การขยายเครือข่ายคนดีให้เกิดขึ้นรอบกาย รอบสังคม และรอบประเทศ รอบโลก จึงเป็นสิ่งที่ต้องการเป็นพิเศษในสังคมปัจจุบันนี้

    มาช่วย กันจรรโลงสังคมนี้ให้น่าอยู่ ด้วยการฟื้นฟูวันพระกันเถิด

    <!--MsgFile=3--><center><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td><table bgcolor="#222244" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table></td><td rowspan="2" bgcolor="#000000" valign="top"><table bgcolor="#224422" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td width="10">
    </td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td colspan="2" align="left" bgcolor="#000000"><table bgcolor="#224422" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td width="10">
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></center>


    บทความจาก
    PANTIP.COM
    </center>
     
  3. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    ขอประชาสัมพันธ์กิจกรรมงานบุญที่ รพ.สงฆ์สักหน่อยครับ กิจกรรมประจำเดือนนี้เป็น วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2553 ครับ จึงขอแจ้งให้ผู้ที่สนใจได้ทราบทั่วกัน โดยในวันพรุ่งนี้ ผมและนายสติจะได้เบิกเงินจากบัญชีของทุนนิธิฯ มาเพื่อเตรียมบริจาค ตามประมาณการดังนี้


    1 รพ.สงฆ์
    - ถวายค่าสังฆทานอาหาร 6,000.- (ประมาณการพระสงฆ์ไว้ 200 รูป)
    - ถวายค่าเวชภัณฑ์ส่วนกลาง 5,000.-
    - ถวายค่าโลหิต 5,000.-
    รวม 16,000.-

    2 รพ.ภูมิภาค
    - รพ.แม่สอด จ.ตาก 6,000.-
    - รพ.สมเด็จพระยุพราช (ปัว) 8,000.-
    จ.น่าน
    - รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย 5,000.-
    จ.เลย
    - รพ.มหาราช จ.เชียงใหม่ 5,000.-
    - รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น 8,000.-
    - รพ.50 พรรษาฯ จ.อุบล 5,000.-
    - รพ.สงขลา จ.สงขลา 8,000.-
    - รพ.ปัตตานี จ.ปัตตานี 5,000.-
    รวม 50,000.-

    3. เงินบริจาคพิเศษ

    -เงินบริจาคพิเศษเพื่อจัดการในงานศพให้แก่พระภิกษุสนอง พบพวก ที่มรณภาพในขณะที่ได้รับการรักษา ณ หอผู้ป่วยหนัก รพ.แม่สอด จ.ตาก ตามยอดเงินจริงที่ได้รับแจ้ง จาก จนท.พยาบาลหอสงฆ์อาพาธ เป็นเงิน 8,000.-

    -เงินบริจาคพิเศษเพื่อสมทบทุนกับญาติธรรมรายอื่นสำหรับซื้อเครื่องฟอกอากาศให้ หลวงปู่เยี่ยม วัดประดู่ทรงธรรม จ.อยุธยา ที่จำเป็นต้องใช้ในการรักษาเนื่องจากอาจเกิดการติดเชื้อบริเวณลำคอที่ได้มีการเจาะไว้สำหรับสอดใส่เครื่องดูดเสมหะ จากอากาศที่อับชื้นและไม่ถ่ายเท เป็นเงิน 5,000.-

    รวม 13,000.-

    รวมเงินบริจาคตามข้อ 1.+2.+3. = 79,000.- (เจ็ดหมื่นเก้าพันบาทถ้วน)

    โดยเงินจำนวนดังกล่าวข้างต้น ผมจะได้ทยอยโอนผ่านธนาคาร และส่งผ่านไปรษณีย์ธณาณัติำไปยัง รพ.ต่างๆ ตามที่เคยปฏิบัติต่อไปและหากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลใดๆ เพิ่มเติมแล้ว ผมจะได้ประชาสัมพันธ์ให้ได้ทราบกันอีกครั้งหนึ่งครับ ส่วนลูกแก้วสารพัดนึกของท่านหลวงปู่เครา ผมตกลงใจแล้วที่จะให้บูชาในงานวันกิจกรรมเพื่อช่วยกันสร้างที่พักญาตโยมบนเขาเพียงลูกละ 200.-บาท เท่านั้นครับ มีเพียงแค่ 10 กว่าลูก ในชุดนี้ หมดแล้วก็หมดเพราะสัญญากับท่านไว้ ท่านก็ตั้งใจให้มาเท่านี้ แล้วเจอกันวันกิจกรรมในวันอาทิตย์นี้ครับ

    พันวฤทธิ์
    22/3/53
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันนี้ ผมได้ไปโอนเงิน จำนวน 2,170.00 บาท เพื่อร่วมทำบุญกับทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อาจารย์ประถม อาจสาคร ตามรายละเอียดดังนี้

    1.ผู้เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก (วันเสาร์ห้าที่ 20 มีนาคม 2553) ได้ร่วมบริจาคเงินจำนวน 1,170.00 บาท


    2.พี่อ้อยhongsanart , sithiphong และกองทุนหาพระถวายวัด ร่วมบริจาคจำนวนเงิน 1,000 บาท

    [​IMG]


    โมทนาบุญทุกประการ

    ที่มา กระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้ หน้าที่1868 (เป็นลิงค์)
     
  5. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097

    ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยียนกระทู้นี้ครับ ถึงแม้ไม่พิมพ์เต็มๆ ก็พอเดาไม่ยากว่าไม่ค่อยชอบกระทู้บุญอย่างนี้ ยังไงก็ขออาราธนาพระเมตตาบารมี และพระฉัพพรรณรังสีแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกกุธสันโธ ได้โปรดอนุโมทนาบุญ บอกทางบุญ และแผ่เมตตาให้ท่านผู้นี้ได้มีดวงตาเห็นธรรมแห่งพระองค์ท่านด้วยเทอญ...สาธุ

    [​IMG]
     
  6. kratium

    kratium เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +3,670
    วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม 2553 เวลา 17 นาฬิกา เทียมและพี่ณรงค์ โอนเงินทำบุญสงเคราะห์พระภิกษูสงฆ์ อาพาธ 500 บาทค่ะ
     
  7. โอลีฟ

    โอลีฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +257
    ขอร่วมบุญด้วยจำนวน 400 บาทค่ะ เงินเข้าบัญชีวันที่ 26 มี.ค. 2553 ค่ะ อนุโมทนากับทุก ๆ ท่านค่ะ
     
  8. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    ใบอนุโมทนาบัตรของการบริจาคในเดือนธันวาคม 2552 (ออกเมื่อ 11 มีนาคม 2553) ของ รพ.แม่สอด และใบอนุโมทนาบัตรของเดือน กุมภาพันธ์ 2553 ที่เพิ่งได้รับมาในขณะนี้จำนวน 5 รพ.
    1. รพ.ปัตตานี จ.ปัตตานี
    2. รพ.มหาราช จ.เชียงใหม่
    3. รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน
    4. รพ.สงฆ์ กรุงเทพฯ
    5. กองทุนหลวงปู่เทสก์ (เพื่อสงฆ์อาพาธ) เพื่อ รพ.ศรีนครินทร์ จ.
    ขอนแก่น

    นำมาลงให้อนุโมทนาบุญกับครับ

    พันวฤทธิ์
    24/3/53
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097

    ขออนุโมทนาและสาธุบุญกับน้องทั้งสองด้วย สำหรับน้องโอลีฟ พี่ขอฝากความคิดถึงไปยังคุณธิติด้วยเช่นกัน ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทานมัยที่ได้บริจาคให้แก่สงฆ์อาพาธในครั้งนี้ บุญที่เกิดจากการช่วยสงฆ์อาพาธ ช่วยซื้อโลงศพ ขนส่งศพ และทอดผ้าไตรหน้าศพ สำหรับพระสงฆ์ที่ถึงกาลมรณะภาพอันเนื่องมาจากการรักษาไม่สำเร็จและมีความยากไร้ คงจะทำให้น้องทั้งสองพอเป็นเสบียงเลี้ยงตัวได้ในระดับหนึ่ง อุปมาดังน้ำค่อยๆ เติมใส่ตุ่มฉันใด สักวันก็คงล้นตุ่มออกมาเอง บุญกุศลก็เช่นกัน ทำบ่อยๆ ทำด้วยความยินดี เมื่อถึงคราวที่บุญล้นออกมาแล้วเราคงหมดภาระหน้าที่ที่จะมารับใช้หนี้เวรหนี้กรรมเช่นกัน พี่เชื่ออย่างนั้น...



    [​IMG]
     
  10. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  11. แมงกะพรุน

    แมงกะพรุน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +1,267
    ขอร่วมบุญด้วยจำนวน 300 บาท โอนเงินเข้าบัญชีวันที่ 26 มี.ค. 2553 ครับ
     
  12. rawats_99

    rawats_99 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,947
    วันนี้ผมได้ร่วมทำบุญเป็นจำนวน 500 บาทครับ..ขอผลบุญที่สำเร็จแล้วจงเป็นพลปัจจัยให้กระผมและญาติมิตรสหายทุกๆท่านรวมถึงเจ้าของกระทู้และญาติมิตรของกระทู้จงมีความสุขทุกๆวันทุกๆขณะจนกว่าจะเข้าถึงพระนิพพาน....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2010
  13. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    สรุปยอดพระสงฆ์อาพาธสำหรับกิจกรรมทำบุญที่ รพ.สงฆ์ประจำเดือนมีนาคม 2553 นี้ มีพระสงฆ์อาพาธที่ทุนนิธิฯ จะถวายสังฆทานภัตตาหารเช้าทั้งสิ้น 165 รูปครับ ส่วนรายละเอียดการโอนเงินไปยัง รพ.ตามภูมิภาคทั้ง 8 แห่งนั้น ได้ดำเนินการไปเรียบร้อยแล้วในวันจันทร์ และวันศุกร์ที่ผ่านมา รายละเอียดการโอนเงิน ผมจะได้นำมาลงให้ทราบในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ครับ ส่วนวันนี้หลังจากที่ได้มีการประชุมกันคร่าวๆ ถึงการจัดงานในวันพรุ่งนี้ ผมได้นำเงินสมทบบุญในการซื้อเครื่องฟอกอากาศถวายหลวงปู่เยี่ยมเป็นจำนวนเงิน 5,000.-ผ่านให้คุณกนกพร (เอื้อย) สมาชิกที่ร่วมทำบุญทุกครั้งที่ รพ.สงฆ์ต่อหน้ากรรมการฯ ที่ร่วมประชุมวันนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน เจอกันวันพรุ่งนี้ที่ รพ.สงฆ์ครับ

    พันวฤทธิ์
    27/5/53

    [​IMG]
     
  14. สิทธิชัยพัทยา

    สิทธิชัยพัทยา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2009
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +304
    ขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยนะครับ..เพิ่งไปกรุงเทพวันพฤหัส และกลับศุกร์ ไม่ได้มีโอกาสเลยครับ ได้ข่าวว่าที่หน้า รพ.สงฆ์มีพ่อปู่หมอชีวกด้วยหรือเปล่าครับ ถ้ามีโอกาสอยากไปไหว้จังเลยครับ
     
  15. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ channarong_wo [​IMG]
    ท่านพี่ ครับ เพราะอดีตภพชาติ ที่ผ่านมาเราไม่รู้ได้ว่า เราได้เคยลบหลู่ดูหมิ่นดูแคลน แม้กระทั่งทุกสิ่งอย่าง กับใครใว้บ้าง
    เราควรจะทำเยี่ยงไรดีครับ สิ่งที่ท่านพี่บอกมาเหมือนรู้ว่าเราทำกับใครเอาใว้ อิอิ...ช่วยเฉลยทีครับ
    เผื่อบางที อะไรที่มันขัดๆอยู่ อาจได้เวลาเสียที.....ขอบคุณครับ
    </td> </tr> </tbody></table>
    เป็นคำ ถามที่น่าคิด แต่ขอติดไว้ก่อน อีกไม่นานจะมาเฉลย แต่เอาชาติปัจจุบันที่จำได้ก่อนก็แล้วกัน เช่นอาจจะเคยปรามาสวัดๆ หนึ่ง ที่ชอบขายบุญ แต่เค้าก็ไม่เคยสอนให้คนไปผิดศีล 5 นั่นล่ะกรรมที่เราไปปรามาสพระในวัดนั้นทั้งหมด อย่างน้อยในวัดนั้น ต้องมีพระที่มีคุณธรรมสูงอยู่บ้าง หรือเอาให้แน่ ท่านก็มีศีลเหนือเรา ให้ระบุเจาะจงไปเลยว่าเราเคยคิดอย่างนั้นเราขอรับผิด วันนี้เรามาขอขมาแล้ว และจะไม่คิดอย่างนั้นอีกต่อไป ขอให้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจงยกโทษให้ด้วย อย่าได้ติดค้างกันต่อไป และอย่าได้ขัดขวางความเจริญในทางโลกและทางธรรมของข้าพเจ้า...สุดท้ายแถมท้าย ด้วยภาพพระสมเด็จสกุลปัญจสิริกรุเ่ก่าที่เธอชอบมาให้ดูให้ศึกษากัน ในฐานะที่มีคำถามมาถามพี่

    ตอบคำถาม

    เมื่อเย็นวันศุกร์ได้โทร.สอบถามท่านหลวงปู่เคราถึงเรื่องนี้ ท่านก็ได้เมตตาเล่าให้ฟังว่า ให้ใช้วิธีอย่างเดิมคือจุดธูปกลางแจ้งขึ้นมา 16 ดอก บอกท่านเทพ พรหมเทวา ทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดินให้เป็นพยาน แล้วบอกไปเลยว่าให้มาเป็นพยานและรับรู้ในเรื่องการขอขมากรรมในครั้งนี้ หากในภพชาติที่ผ่านมาทุกภพๆ ทุกๆ ชาติ เราได้เคยลบหลู่ ได้ปรามาสใคร ได้ทำกรรมผู้ใด ไม่ว่าจะเป็นศาสนา ลัทธิ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ หรือแม้กระทั่งสรรพสัตว์ทั้งหลาย (ซึ่งอาจจะเป็นพระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นสัตว์แล้วเรากระทำกรรมต่อท่าน) วันนี้เราจะขอขมากรรมต่อท่านเหล่านั้น ขอให้ท่านได้โปรดเป็นพยานรับรู้และสื่อไปถึงท่านเหล่านั้น ตั้งใจทำให้ดีๆ เพราะเป็นพิธีการที่สำคัญ อย่าลืมนึกถึงท่านหลวงปู่เคราด้วย แล้วปักธูปลงในที่สูงเช่นกระถางต้นไม้ไม่ใช่พื้นดิน เสร็จแล้ว ให้ขึ้นไปจุดธูปต่อหน้าพระพุทธรูป 9 ดอก (คุณโสระบอกว่าหลวงปู่ฯ หมายถึง พุทธัง สรณังฯ จนถึง ทุติฯ และตติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ครบ 3 ตอน เท่ากับ9 ดอกพอดี) แล้วบอกท่านว่า เรามาตั้งใจขอขมากรรมกับท่านข้างต้น ขอให้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายกโทษให้เราด้วย (พูดตามข้อความข้างบนในกระทู้ืั้ที่ยกมาเป็นอันเสร็จพิธี) ท่านตอบมาให้ทราบมาแค่นี้ ถามมากกว่านี้พี่เองก็คงโทร.ไปสอบถามท่านอีก เอาเป็นว่าแค่นี้คงครบแล้่วเน๊อะ รู้พอตามควรแก่กรณีก็พอ อย่าไปปรามาสเพิ่มอีกก็ละกัน กวนเทพพรหมท่านเปล่าๆ เดี๋ยวท่านพาลสาปส่งล่ะตัวใครตัวมันเน้อ...


    พี่เสือ

    [​IMG]


     
  16. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097

    มีครับคนไปกราบไหว้ท่านมาก ที่สำคัญก็คือคนที่เชิญท่านมาสถิตย์ที่ตรงนี้เก่งซะด้วย พี่ใหญ่ที่เป็นฌาณลาภีบุคคลของทุนนิธิฯ เคยบอกว่าท่านมารับเรื่องเองซะด้วยนาจะบอกให้...พอๆ กับหลวงพ่อโสธร ที่ฉะเชิงเทรา วันสงกรานต์นี้วันที่ 13 เมษายน ท่านเทพพรหมเทวา ที่ดูแลหลวงพ่อฯ องค์ใหญ่สุด ท่านจะลงมายังมนุษยโลก เพื่อลงมารับเรื่องราวต่างๆ ตามวาระแห่งท่าน หากใครไม่ีได้ไปไหน ก็ลองไปที่วัดไปกราบขอพรท่าน หรือหากอยู่ที่บ้านก็จุดธูปขอพรต่อหน้ารูปท่านก็ได้ เห็นผลจริงๆ นา จะบอกให้ (อย่าเอาพรที่สูงสุดเอื้อมไปก็แล้วกันครับ)

    ส่วนภาพด้านล่างศาลท่านหมอชีวกฯ ประจำ รพ.สงฆ์ อยู่ด้านข้างหอฉัน หรือ หอพิธีการที่จัดงานแต่งงานครับ


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC07384.jpg
      DSC07384.jpg
      ขนาดไฟล์:
      89.3 KB
      เปิดดู:
      90
  17. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    เมื่อเย็นหากใครดูคนหกคนคุยกัน จะเห็นผลต่างของคนคู่หนึ่งดังนี้

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="558"><tbody><tr bgcolor="#f6f6f6"><td style="border-bottom: 1px solid rgb(234, 234, 234);"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="556"><tbody><tr><td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="480"><tbody><tr><td width="360">
    </td> <td align="right">
    </td> </tr> </tbody></table></td> <td width="10">
    </td> </tr> </tbody></table></td></tr> <tr> <td height="25">
    </td> </tr> <tr> <td align="center"> [​IMG] </td> </tr> <tr> <td style="word-wrap: break-word;" align="center" height="40"> คนใจเย็น</td> </tr> <tr> <td style="padding-right: 20px;" align="right" valign="top" height="30">พี่ดอกแก้ว</td> </tr> <tr> <td align="center"> <table border="0" width="320"><tbody><tr><td style="word-wrap: break-word; width: 320px; left: 0pt; right: 0pt;" class="font-th-content"> เคยคิดไหมทำไมต้องใจเย็น
    หากมองเห็นประโยชน์ก็ รู้ค่า
    ความสำเร็จนั้นต้องอาศัยเวลา
    ฝึกฝนมาผ่านสมัยอย่างใจเย็น

    ความ ใจเย็นเป็นมิตรคู่จิตสวย
    ใครอยู่ด้วยจะรับรู้และมองเห็น
    คุณความดี ของผู้ที่ใจเย็น
    ไม่ขืนเข่นบีบใครให้ร้อนรน

    ความใจเย็นเป็นช่าง ใหญ่ในงานศิลป์
    งานทำมาหากินไม่สับสน
    ไม่ตระกรุมตระกรามและอดทน
    ได้ เปรียบคนใจร้อนชีพจรรวน

    คนใจเย็นมักเป็นผู้มีสติ
    การดำริใดใด ไม่ผันผวน
    ทำการใดผูกจิตคิดใคร่ครวญ
    มีเวลาทบทวนอย่างถูกกาล

    คน ใจเย็นมักเป็นผู้เห็นใจ
    ไม่ขัดใครกลางครันเพราะสงสาร
    ไม่ทำใครเสีย ประโยชน์ดุจคนพาล
    รู้คิดอ่านสุขุมไม่กลุ้มใจ

    คนใจเย็นเป็นผู้ กุศลประณีต
    จะเขียนขีดก็สะอาดดูสดใส
    การพูดจาไพเราะเสนาะใจ
    พบ ความสุขง่ายในชีวิตตน

    คนใจเย็นเป็นผู้มากโอกาส
    คอยจังหวะหวัง วาดประสบผล
    คนใจเย็นใช่อืดอาดขาดแรงกล
    แต่เป็นคนรู้จักรออย่างพอใจ
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
    บทกลอนจาก
    .:+: Thaipoem Forever :+:.
     
  18. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    ไว้รอดูต่อพรุ่งนี้ หกโมงเย็น

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="558"><tbody><tr><td align="center">[​IMG] </td> </tr> <tr> <td style="word-wrap: break-word;" align="center" height="40"> แก้ปัญหา</td> </tr> <tr> <td style="padding-right: 20px;" align="right" valign="top" height="30">พี่ดอกแก้ว</td> </tr> <tr> <td align="center"> <table border="0" width="320"><tbody><tr><td style="word-wrap: break-word; width: 320px; left: 0pt; right: 0pt;" class="font-th-content"> ความแตกต่างสร้างรอยร้าวทีละนิด
    เพราะต่างจิต ต่างฐานการศึกษา
    คุณธรรมศีลธรรมต่างกันมา
    จึงก่อเกิดปัญหาในเบื้อง ปลาย

    บางครั้งคราปัญหาง่ายแก้ไข
    เพียงตั้งใจแก้ความคิดให้ขยาย
    ยอม รับความเป็นผู้อื่นที่รอบกาย
    สงบความวุ่นวายได้ง่ายพลัน

    บาง ครั้งคราปัญหาง่ายแก้ไข
    กำกับใจด้วยสติไม่หุนหัน
    ยอมรับกรรมวิบาก ที่ตามทัน
    ยอมรับผลที่ตนนั้นได้ทำมา

    บางครั้งคราปัญหายากแก้ไข
    เพราะ เกิดถี่บ่อยไปในปัญหา
    คู่กรณีมีนิสัยน่าระอา
    เหมือนไร้การพัฒนาใน ชีวี

    บางครั้งคราปัญหาง่ายกลายเป็นยาก
    เพราะไร้รากความอดทนบน วิถี
    เหมือนหยดน้ำที่ล้นแก้วพอดี
    จึงมากมีปมต่อเนื่องเรื่องขุ่นใจ

    บาง ครั้งคราปัญหาพาหงุดหงิด
    เพราะไปคิดข้อบกพร่องต้องแก้ไข
    ของผู้อื่น นอกจากตนอยู่ร่ำไป
    ไม่พิจารณาข้อด้อยในชีวิตตน

    บางครั้งครา ปัญหาพาขยาย
    เดาเสียจนวุ่นวายและสับสน
    เที่ยวจับแพะกับแกะต้อนเข้า ชน
    ไม่รู้ตนคือตัวการของเรื่องราว

    ทุกครั้งคราที่ปัญหาปรากฏชัด
    พึงขจัดตัวตนเข้าสืบสาว
    รู้กระทบวิบากที่พร่างพราว
    รู้กระทำ แต่ละก้าวให้เป็นบุญ

    ทุกครั้งคราที่ปัญหาปรากฏโฉม
    ไม่ถาโถม กิเลสเข้าอุดหนุน
    ทุกปัญหาจะแก้ง่ายไม่ขาดทุน
    สงบจิตคบคุ้นวิเวกใจ


    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>.:+: Thaipoem Forever :+:.
     
  19. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    การกรวดน้ำ
    [​IMG][​IMG]
    เมื่อ เราถวายสังฆทานแล้ว ก็ควรกรวดน้ำในตอนนั้นทันที เมื่อพระท่านกล่าว “ยะถา” นำน้ำจริงๆมากรวดด้วย
    อย่าใช้วิธีกรวดแห้งที่ ใครก็ไม่รู้บัญญัติหลักการนี้ขึ้นมา เพราะว่า... จะทำให้อานิสงส์ของสังฆทานนั้น ไม่ถึงผู้รับ

    ยกเว้นทำเพื่อตนเอง ก็ถ้าท่านไปเจอเหตุการณ์อย่างนี้เข้า เมื่อลงมาจากศาลา หรือสถานที่ตรงที่ทำพิธีกรรมแล้ว
    ก็ให้ท่านจัดหาน้ำ มากรวดลงที่... โคนต้นไม้ ในวัดนั้นๆทันที ก่อนออกจากวัด ญาติโกโหติกาที่คอยรับกุศลผลบุญอยู่
    จะได้ไม่ต้องคอยเก้อกลับนรกอีก..,,.....เพราะมีแต่บุญแห้งๆที่เกิดจากการนึก เอาในใจ ก็ถ้ามันนึกแล้วสำเร็จ ดังสมประสงค์ละก็
    พระสงฆ์ที่มารับสังฆทานของท่าน คงเป็นพระอรหันต์กันหมดแล้ว เพราะท่านก็นึกแห้งๆแบบนี้ มาตั้งแต่วันบวชกันมาแล้ว
    มันจึงแห้งอยู่ไปอย่างนี้........... ตลอดจนถึงห้าพันปี เพราะมีแต่นึกเอา.... “ไม่ทำกันจริงๆสักที”
    โยมก็เลยต้องนึกเอาเหมือนกัน ว่าฉันจะทำบุญกับพระอริยะ ที่ต้องใช้การนึกเอา แต่ทานที่เราเอามาทำนั้น มันเป็นทานจริงๆ
    “ไม่ได้เอาของที่นึกคิดด้วยใจมาทำ”
    เวลากรวดน้ำ จึงไม่ควรให้ของที่เรา แลกมันมาด้วยหยาดเหงื่อแรงงานของเรา
    “กลายเป็นลมเป็นแล้งไป”*****

    ข้อธรรมจาก หลวงพ่อเครา

    สาธุ สาธุ สาธุ
    Narongwate Ch.


     
  20. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ภาพบรรยายการทำบุญ รพ. สงฆ์ ประจำเดือนมีนาคม 2553 ครับ

    1. ลำดับที่ 1 เป็นการจัดเตรียมภัตรหารครับ

    บางกล่องจะประมาณนี้ครับ

    ชุดหลักเราจะให้ท่านเจ้าหน้าที่ที่โรงอาหาร รพ. สงฆ์ จัดให้

    ส่วนแกงถุง ขนม แบรนด์ นมไวตามิ้น พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ จัดมาเสริมให้ต่างหาก

    ไม่งั้นจะหลายตังค์น่าดู แต่ทุกคนช่วยกันนำมาต่างหาก

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    พี่ท่านมาคุมเองเลยแหะ

    2. ลำดับที่ 2 การบริจาคที่ รพ. สงฆ์ ของท่านประธานทุนผู้นำทีมคณะบุญ
    จำนวน 10,000.- บาท

    [​IMG]

    [​IMG]

    3. ลำดับที่ 3 ท่านผู้ใหญ่คุยกันในช่วงเวลาที่จัดเตรียมภัตรหารครับ

    [​IMG]

    สาธุครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SDC13162.JPG
      SDC13162.JPG
      ขนาดไฟล์:
      92.8 KB
      เปิดดู:
      506
    • SDC13163.JPG
      SDC13163.JPG
      ขนาดไฟล์:
      89.8 KB
      เปิดดู:
      70
    • SDC13165.JPG
      SDC13165.JPG
      ขนาดไฟล์:
      109.3 KB
      เปิดดู:
      503
    • SDC13167.JPG
      SDC13167.JPG
      ขนาดไฟล์:
      92.5 KB
      เปิดดู:
      517
    • SDC13169.JPG
      SDC13169.JPG
      ขนาดไฟล์:
      128.8 KB
      เปิดดู:
      510
    • SDC13170.JPG
      SDC13170.JPG
      ขนาดไฟล์:
      102.3 KB
      เปิดดู:
      499
    • SDC13171.JPG
      SDC13171.JPG
      ขนาดไฟล์:
      116.7 KB
      เปิดดู:
      509
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 มีนาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...