ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ตอนนี้แผ่นดินไหว 6.8 ริกเตอร์มาถึงอินโดนีเซียแล้วครับ สดๆร้อนๆ

ระวังเอาไว้ครับ

 

ไหวพร้อมกันสองครั้งติด ที่อินโดนีเซีย
Earthquake events in the last 12 hours <table class="border1" width="100%" align="left" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr class="event_header"> <td width="14%">Date/Time (UTC)</td> <td width="7%">Magnitude</td> <td>Area</td> <td>Country</td> <td>State/Prov./Gov.</td> <td>Location</td> <td colspan="3" align="center">Risk</td> <td width="8%">Source</td> <td>Result</td> </tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td align="center">05.03.2010 - 16:07:00</td><td align="center" bgcolor="#ff0000">6.6</td><td align="left">Indonesian archipelago</td><td align="left">Indonesia</td><td align="left">Propinsi Bengkulu</td><td align="left">Curup</td><td align="center"></td><td align="center"></td><td align="center"></td><td>RSOE-EMSC</td><td>Result</td></tr> <tr bgcolor="#f8f8f8"><td align="center">05.03.2010 - 16:06:59</td><td align="center" bgcolor="#ff0000">6.8</td><td align="left">Indonesian archipelago</td><td align="left">Indonesia</td><td align="left">Propinsi Bengkulu</td><td align="left">Curup</td><td align="center"></td><td align="center"></td><td align="center"></td><td>USGS</td><td>Result</td></tr></tbody></table>

 

คืนนี้ระวังไว้ก่อนครับ หากเกิดกลางคืนนี่น่าห่วงครับ

 

ไหวหลังเกาะตอนล่างของอินโดนีเซีย ค่อยยังชั่วหน่อยครับ

 

วันที่ 05 มีนาคม พ.ศ. 2553 เวลา 23:40:59 น. มติชนออนไลน์ <!--อ่านล่าสุด คน-->


<CENTER>
</CENTER>
ภัยแล้งปีนี้รุนแรงที่สุดในรอบ 5 ปี จับตาผลกระทบภาคเกษตร-ท่องเที่ยว

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>[/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินเมื่อวันที่ 5 มีนาคมว่า ภาวะภัยแล้งในปี 2553 นี้จะส่งผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบ 5 ปี โดยคาดว่ามูลค่าความเสียหายของภาคเกษตรกรรมไม่น้อยกว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งนับว่าไม่ส่งผลกระทบมากนักเมื่อพิจารณาในภาพรวม แต่ถ้าพิจารณาผลกระทบในแต่ละพื้นที่ และเกษตรกรแต่ละราย รวมทั้งสินค้าเกษตรแต่ละชนิดแล้วผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นจะพบว่าผลกระทบอาจจะมากน้อยแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้านการตลาดและราคาของสินค้าแต่ละตัว [/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]ในขณะที่ภาคธุรกิจท่องเที่ยว โดยเฉพาะภาคเหนือตอนบนได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันจากไฟป่าที่มีแนวโน้มรุนแรงในปีนี้ อันเป็นผลมาจากภาวะภัยแล้ง โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่ามีโอกาสที่จะสูญเสียเม็ดเงินสะพัดในธุรกิจการท่องเที่ยวในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนนี้ประมาณ 2,000 ล้านบาท หรือลดลงประมาณร้อยละ 20.0 จากที่เคยมีการคาดการณ์ว่าในปีนี้ธุรกิจท่องเที่ยวในภาคเหนือจะฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา [/FONT]


[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]______________________________________________________________[/FONT]


http://www.matichon.co.th/news_

<!-- <script Language="JavaScript">function BackPage() {history.back();}</script>

กลับสู่หน้าแรก ​

--><CENTER>
</CENTER>
อุตุฯเตือน7-9 มี.ค.ระวังพายุฤดูร้อน เพิ่งเริ่มฤดูร้อนอุณหภูมิพุ่ง38-39องศา เม.ย.ทะลุ43เซลเซียส

กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนประชาชนให้ระวังพายุฤดูร้อนที่อาจมีกำลังรุนแรง ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นวันที่ 7 – 9 มีนาคมนี้

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>[/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า อุณหภูมิเฉลี่ยของประเทศไทยขณะนี้ สูงกว่าปีที่ผ่านมา 4 – 5 องศาเซลเซียส โดยช่วงเวลาเดียวกันนี้ของปีที่แล้ว อุณหภูมิเฉลี่ย 34 – 35 องศาเซลเซียส แต่ปีนี้ เพิ่งเริ่มต้นเดือนมีนาคม อุณหภูมิสูงถึง 38 - 39 องศาเซลเซียส และในวันที่ 7 มี.ค.ที่จะถึงนี้ จะมีมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่เข้ามาในประเทศไทย ตามรอบ 5 – 7 วัน เมื่อปะทะกับมวลอากาศร้อนที่พื้นดินสะสมไว้ จะเกิดลมแรงยกตัวสูงขึ้นเป็นพายุฤดูร้อน ทุกจังหวัดในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีโอกาสเกิดพายุฤดูร้อนและอาจเกิดลูกเห็บได้ จึงเตือนประชาชนให้ระมัดระวังสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคง อย่าอยู่ใต้ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ไม่ควรออกไปกลางแจ้งขณะฝนตกเพราะอาจถูกฟ้าผ่า[/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ยังคาดหมายว่า อุณหภูมิของฤดูร้อนปีนี้ ช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนเมษายน อาจจะสูงถึง 43 องศาเซลเซียส เนื่องจากปีนี้เข้าสู่ฤดูร้อนเร็วกว่าปกติ[/FONT]

<!-- <script Language="JavaScript">function BackPage() {history.back();}</script>

กลับสู่หน้าแรก ​

-->

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ออสซี่เตือนวางระเบิด ธ.กรุงเทพ อาจเป็นจุดเริ่มเหตุรุนแรงในไทย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>6 มีนาคม 2553 03:27 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

เหตุระเบิดธนาคารกรุงเทพเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางออสเตรเลียกังวลว่าอาจเป็นจุดเริ่มของเหตุรุนแรงในไทย

ซิดนีย์มอร์นิงเฮรัลด์ - กระทรวงกิจการต่างประเทศและการค้าออสเตรเลียวานนี้(5) แก้ไขคำแนะนำแก่พลเมืองที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย เตือนเหตุระเบิดธนาคารกรุงเทพเมื่อเร็วๆนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความรุนแรงตามหลังคดียึดทรัพย์ทักษิณ

สำนักข่าวซิดนีย์มอร์นิงเฮรัลด์ ระบุว่าเหตุโจมตีธนาคารกรุงเทพสาขาต่างๆ มีความเกี่ยวข้องกับคำพิพากษาของศาลฎีฏาไทยที่สั่งยึดทรัพย์สินของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำนวน 46,000 ล้านบาท

สื่อมวลชนออสเตรเลียรายงานต่อว่าแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ พันธมิตรของทักษิณ วางแผนชุมนุมใหญ่ในกรุงเทพฯ วันที่ 14 มีนาคมนี้ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลลาออกและเลือกตั้งใหม่

อย่างไรก็ตามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทย ไม่ได้ยกเลิกกำหนดการเดินทางเยือนออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ แม้ว่ามีเค้ารางแห่งการประท้วงใหญ่ของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล

คิวเดินทางเยือนออสเตรเลียอย่างเป็นทางการของนายอภิสิทธิ์ มีกำหนดเริ่มต้นในวันที่ 13 มีนาคม พร้อมๆกับฝ่ายต่อต้านรัฐบาลที่หนุนหลังโดย ทักษิณ จะเริ่มขนย้ายคนเข้ามาร่วมชุมนุมในความพยายามกดดันรัฐบาล

กระนั้น นายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกรัฐบาล ยืนยันว่าโปรแกรมเดินทางครั้งนี้จะดำเนินต่อไป ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง รักษาราชการแทนและทำหน้าที่ดูแลสถานการณ์การชุมนุม

โปรแกรมนี้นับเป็นการเดินทางเยือนออสเตรเลียครั้งแรกของนายอภิสิทธิ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี และมีขึ้นตามหลังคำเชิญของนายกรัฐมนตรีเควิด รัดด์ เมื่อปีที่แล้ว

ส่วนหัวข้อที่ทั้งสองฝ่ายจะหยิบยกมาหารือกันนั้น ในจำนวนนั้นมีประเด็นด้านความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างออสเตรเลียและไทย รวมไปถึงความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างสองชาติ

ซิดนีย์มอร์นิงเฮรัลด์ รายงานว่าทักษิณ ซึ่งหลบหนีคดีในต่างแดน เมื่อเร็วๆนี้เพิ่งถูกศาลฎีกาไทยพิพากษาว่ามีความผิดในข้อหาใช้อำนาจโดยมิชอบและปกปิดทรัพย์สิน

อนึ่งออสเตรเลียคือหนึ่งในประเทศต่างๆราว 20 ประเทศที่ออกประกาศเตือนพลเรือนที่จะไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆในกรุงเทพฯ หลังคาดหมายกันว่าอาจมีการชุมนุมใหญ่เกิดขึ้น

ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9530000031685

 

7 ปีแห่งความทุกข์ยาก (2010-2017)
คนจะอดอยากหิวโหยจนต้องกินเนื้อคนด้วยกันเอง​

​

เรื่องเล่าของนิมิตฝัน

นิมิตฝันนี้ผมได้รับรู้มาจาก ผู้ปฏิบัติธรรมท่านหนึ่งซึ่งผมไม่ขอเอ่ยนามนะครับ เป็นเรื่องของความฝันเกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่อาจจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ผมจึงขออนุญาตนำเนี้อความในฝันนั้นมาเล่าให้ท่านฟังดังนี้ครับ (ขอย้ำว่าเป็นเรื่องของความฝันเท่านั้นนะครับ)​

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑​

เรื่องสุบินนิมิตของผมนั้น จริง ๆ แล้ว ก็ไม่ต่างจากไปจากนวนิยายชวนฝันทั้งหลายหรอกครับ เพราะเป็นเพียงแค่ภาพที่เห็นจากความฝัน มิใช่สมาธินิมิตจริง ๆ ดังนั้นเรื่องราวที่เกิดจากความฝันของผม ขอคุณเกษมฟังเป็นนิทาน นะครับ​

ก่อนอื่นขอเล่าถึงเหตุแห่งสุบินนิมิตก่อนครับ.....คือเวลานอน ผมนอนทำสมาธิแล้วก็ก้าวลงสู่ความหลับ ซึ่งบางครั้งก็ฝัน บางครั้งก็ไม่ฝันครับ...ความฝันที่เกิดต่อจากจิตสงบแล้วก้าวลงสู่ความหลับ...จึงเป็นสุบินนิมิต (ซึ่งก็คือความฝันอยู่ดีครับ) บางครั้ง หากผมอยากเห็น ผมก็อธิษฐาน หรือตั้งใจอยากเห็นอย่างแรง แล้วค่อยนอนครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะฝันเห็นทันทีหลังจากอธิษฐานนะครับ จะฝันเห็นอย่างนั้นก็ต่อเมื่อ จิตของผมคลายจากความอยากนั้นแล้ว คืนต่อ ๆ มา ไม่คืนใดก็คืนหนึ่ง เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม ก็จะฝันเห็นเองครับ...เช่นเคยอธิษฐานขอเห็น นาค นารีผล รุกขเทวดา เป็นต้น คร่าว ๆ คือ ฝันเห็นช่วงเกิดภัยพิบัติ ทั้งจากคน ทั้งจากธรรมชาติครับ เช่น ​

ฝันเห็นความหนาวมาก หนาวระดับน้ำแข็งเกาะต้นไม้(เกิดหลังใช้อาวุธร้าย), ฝันเห็นน้ำท่วมใหญ่สูงระดับตึกสิบสองชั้น บ้าง น้ำท่วมหลากไหลนองเต็มทุกพื้นที่ที่ไม่สูง บ้าง (ฝนตกหนักนาน), ฝันเห็นความร้อน แล้ง ไม่มีอาหารจะกิน คนเป็นกินคนตาย..คนที่ไม่ตายก็ถูกฆ่าเป็นอาหาร...(ในกลุ่มคนบาปเอง จะรวมกลุ่มกันเองแล้วกินกันเอง...กลุ่มผู้มีศีล ถือศีลอดอาหารยอมตาย ไม่ยอมกินใครก็มี)...ทั้งเห็นเขาเอาแขนคนขาคน ซี่โครงคน มาแขวนแลกข้าวของ ตามข้างทาง...​

ฝันเห็นแผ่นดินไหว, ตึกถล่ม, บ้านทรุดหายไปในดิน, คนที่อยู่ชายหาดหายไปกับน้ำ, เห็นลำแสงจากฟ้าฟาดลงพื้น จนดินแยก น้ำทะเลล้นกระแทกตึกถล่มไล่ทะลายล้มเป็นทิวแถว​

ฝันเห็นสงครามหลายครั้ง ทั้งทหารไล่ยิงคนตามภาคพื้นบ้าง ทั้งเครื่องบินบินเต็มท้องฟ้าทิ้งระเบิดสังหารบ้าง​

ฝันเห็นแดนเร้นภัยต่าง ๆ ฝันเห็นเจดีย์ทองอันสวยงามสูงเสียดฟ้า เห็นวิหารเจดีย์ที่จมอยู่ใต้น้ำ เห็นทำเลเมืองใหม่ (เปิดตามองภาพจากอากาศ) เห็นสถานที่มุรธาภิเสกที่มีอยู่แต่ผีบังไว้หรืออยู่อีกมิติหนึ่ง ซึ่งมีหุ่นพยนต์ยักษ์รักษาไว้อยู่(ในฝันมีพระอาจารย์บุญพาเข้าไป)...แสดงว่าของทั้งหลายปัจจุบันโดยมากมีอยู่ มีเกิดขึ้นแล้ว แต่เทวดาปิดบังไว้อยู่........เป็นต้น​

นับตั้งแต่ช่วงก่อนปี 2000 ผมมักจะฝันเห็นสถานที่แปลก ๆ ฝันเห็นเจ้าลัทธิต่าง ๆ เช่นพวกเข้าทรง รวมถึงสำนักพระศรีอาริย์ทั้งหลาย ฝันเห็นพระที่เป็นมิจฉาทิฏฐินำพาคนไปสู่มิจฉาทิฏฐิดุจตน ฝันเห็นพระเกิดความโลภครอบงำ..เป็นต้น แล้วในฝันนั้น ๆ ตนเอง เข้าไปพยายามขัดขวาง แต่ก็สู้ไม่ค่อยได้ หลาย ๆ ครั้งในฝันต้องนั่งสมาธิเอาตัวรอดและก็รอดได้ทุกครั้ง และหลาย ๆ ครั้งในฝันก็ตั้งจิตอธิษฐานขอบำเพ็ญตนเพื่อเป็นคนหนึ่งที่จะสะสางชำระและรักษาพุทธศาสนาให้ผุดผ่อง​

ผมตระหนักอยู่เสมอว่า ตนเองเกิดมาพบพระพุทธศาสนาแล้ว ได้นับถือพุทธศาสนาจนสุดใจ มีโอกาสศึกษาพระไตรปิฎก มีครูอาจารย์ทางกรรมฐานที่จบกิจแล้ว มีธรรมิกสหาย...เหล่านี้นับว่า เป็นโชคดีอย่างยิ่ง เป็นโชคดีที่ไม่ใช่โชคลางบังเอิญ แต่เป็นโชคดีที่ตนเองเสาะแสวงหา ตั้งจิตอธิษฐาน และสั่งสมปัจจยกรรมนี้มายาวนาน ​

หากตัวเราเองแค่คิดว่า เราเดินทางมาเพียงนี้ ถือว่าโชคดีพอแล้ว พอล่ะเราจักหยุด หยุดรอ รอคอยสิ่งดี ๆ ทั้งหลาย...นี่นับว่าเสียโอกาสที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์พบพุทธศาสนา...ตัวเราเอง พึงใช้ร่างนี้ ใช้ชาตินี้ ใช้ร่างอื่น ชาติอื่น ตราบเท่าที่ยังไม่เข้านิพพาน คอยจรรโลงพระพุทธศาสนา น่าจะเป็นการสร้างปัจจยกรรมที่ดีกว่า ที่ดีขึ้น อันเป็นไปเพื่อประโยชน์ตน และประโยชน์สรรพสัตว์ทั้งหลาย​

มีพุทธภาษิตซึ่งมีความหมายว่า " การนอนเฉย ๆ ดีกว่าการทำบาป แต่การนอนเฉย ๆ ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นกว่าเดิมเลย มีแต่ร่างกายจะบริโภคของเก่าไปเท่านั้น...."​

คำนึงถึงพุทธภาษิตนี้แล้ว จึงคิดว่า ตนเอง พึงทำตนให้เป็นประโยชน์ ทำตนเป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่จะช่วยให้ล้อหมุนไปได้ ช่วยให้เครื่องจักรอุปกรณ์อื่น ๆ ทำงานได้....จึงได้อธิษฐานตนเป็นผู้หนึ่งที่จะรักษาพุทธศาสนา​

นอกจากผมจะฝันเห็นความเสื่อมแห่งพุทธศาสนิกชนอันเกิดจากปัญญาด้อยศรัทธาน้อยแล้ว ผมได้ฝันเห็นภัยพิบัติต่าง ๆ ผู้คนตายมากมาย....ผมจึงได้อธิษฐานตัวเองเป็นผู้หนึ่งที่จะช่วยผู้อื่น (ทั้ง ๆ ที่ตนก็ไม่รู้ว่าตนจะรอดหรือไม่) แต่ด้วยใจเมตตาเป็นทุนเดิม จึงตั้งใจไว้เช่นนั้น​

ผมเองเข้าใจว่า ภัยพิบัติใหญ่ จะเกิดขึ้นแน่นอน และตอนนี้ก็กำลังคืบคลานรุกเข้ามาเรื่อย ๆ และผมก็เข้าใจว่า คงมีผู้คนอีกมากมายคิดคล้าย ๆ ผม อยากให้โลกสงบสุข อยากให้โลกมีแต่คนดี ๆ มีเมตตา มีมุทิตา ไม่โลภ ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ไม่รังแกกันและกัน ซึ่งก่อนนี้ ด้วยเมตตาธรรม และกรุณาธรรม ผมคิดจะช่วยผู้อื่นโดยเฉพาะเหล่าญาติสนิทมิตรสหายให้รอดจากภัยพิบัติต่าง ๆ ด้วยอิทธิฤทธิ์ของตน จึงพยายามบำเพ็ญตนเพื่อให้สามารถทำได้ดังนั้น แต่ต่อมากลับมองเห็นการช่วยเหลือแบบนั้น เป็นวิธีการไม่ชอบธรรม เนื่องเพราะว่า คนเราจะอยู่จะตาย ก็ด้วยกรรมของตนบริโภคกรรมของตนเท่านั้น สัตว์ทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรม ​

นั่นคือ หากเราช่วยผู้คนที่มีศีลไม่ดีงามพอ มีคุณธรรมไม่งามพอ ให้รอดชีวิตจนเป็นชาวประชาแห่งเมืองใหม่แล้ว ผู้คนเหล่านั้น จักอยู่ลำบากเอง เพราะธรรมตนไม่เหมาะสมกับธรรมของคนส่วนใหญ่ เปรียบเสมือนให้คนไม่ชอบเข้าวัดฟังธรรมไปอยู่ในวัดฟังธรรมทั้งวัน เขาย่อมทนอยู่ไม่ได้ ฉะนั้น นี่อย่างหนึ่ง จักอยู่สร้างความลำบากให้คนดีคนอื่น เพราะธรรรมชาติของตนเป็นคนไม่ค่อยดีอยู่ก่อนแล้ว นี่อย่างหนึ่ง ผู้คนเหล่านี้ จักสร้างความปั่นป่วนให้เมืองใหม่ได้​

แต่หาก กรรมของตนของตน เป็นผู้จำแนก คัดสรร จัดสรรแล้ว กลุ่มของสรรพสัตว์ จะเกิดการแบ่งอย่างชัดเจน คนที่รอดชีวิตก็จะรอดได้ด้วยกรรมของตนเองเป็นปัจจัย คนที่มีศีลดีงามจริง ๆ มีคุณธรรมดีงามจริง ๆ มีทิฏฐิตรงจริง ๆ มีศรัทธาเดียวกันจริง ๆ จะได้อยู่ในเมืองใหม่ เมืองที่เหลือแต่คนดี ๆ จึงจะมีแต่ความสงบสุขสมเป็นเมืองในอดุมคติได้​

เมื่อเห็นดังนี้ จิตจึงก้าวเข้าสู่อุเบกขาธรรม ปล่อยให้คนทั้งหลายสร้างตนเอง บำเพ็ญทางรอดเอง ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ...ผู้ใดได้ยินได้ฟังเรื่องราว เกิดความตื่นตัว มิใช่ตื่นตูม แล้วใคร่รู้ทางรอด วิธีการดำเนินชีวิตเพื่อความเป็นผู้รอด ผู้นั้นก็จักขวนขวายเอง เมื่อรู้วิธีดำเนินตนแล้ว พยายามดำเนินตนตามแนวทางนั้น ๆ จริง ๆ จนคุณธรรม ศีลธรรมซึมเข้าจิตใจเป็นอันดีแล้ว เขาจักรอดเอง ด้วยคุณธรรมของเขาเอง​

แม้แต่ตัวผมเอง หากมีคุณธรรม ศีลธรรมดีไม่พอ ก็ไม่รอดเหมือนกัน ดังนั้น จึงสำนึกในใจเสมอว่า ต้องประพฤติตัว บำเพ็ญตน ในคุณธรรม ศีลธรรม อันนั้นเหมือนกัน​

อากาศรองรับได้แต่เฉพาะของเบากว่าหรือคู่ควร สิ่งที่หนักกว่าอากาศ หรือไม่คู่ควร ย่อมอยู่บนอากาศไม่ได้ น้ำปรับตัวเองเป็นไอน้ำ จึงอยู่บนอากาศได้ ไอน้ำเมื่อรวมตัวกันเป็นหยดน้ำ ย่อมร่วงหล่นลงภาคพื้น​

ฉบับนี้ เท่านี้ก่อนนะครับ...ไม่ทราบว่าคุณเกษม ได้ยิน ได้ฟัง วิธีการดำเนินตนเพื่อเป็นผู้รอดแบบไหนบ้างครับ หากคุณเกษมรู้ ได้ยินได้ฟังมา ก็ช่วยเล่าให้ฟังบ้างนะครับ..​

ขอบคุณครับ<!-- google_ad_section_end --> ​

 

จำลองเหตุขนาดย่อม จาก การแย่งชิง ปล้นสะดมภ์อาหาร

หลังพิบัติ เฮติ ชิลี

ทว่า จะสาหัสยิ่งกว่า ดังนรกบนแดนดิน

แต่ในผู้ตระหนัก ที่เตรียมการอย่างรอบคอบดี นับจากบัดนี้

ย่อมประทังได้ ทั้งความขาดแคลนอาหาร และอื่นๆ

โดยมิต้องประสบกับภัยคนเถื่อน เข้ารุกราน

ดังการซ้ำเติมเคราะห์ร้าย หลังภัยธรรมชาติ

รวมกันท่านรอด

 

ยารักษาโรค ยาประจำตัว ยารักษาแผล สด ติดเชื้อ เรื้อรัง มีทุนกักตุน คิดช่วยเหลือผู้อื่นเสมออย่าโดดเด่น ทำได้ที่ตัวเองทำ อย่าวางอย่าปล่อย รู้หน้าที่ของตัวเองเพียงพอ แลผู้อื่นเสมอความต้องการของตนเองเป็นหลักจะลดภาวะเวรและกรรมที่จะเจอไม่ไกลแล้ว ขอให้ทุกท่านโชคดีและบุญที่ทำได้เข้าข้างเต็มที่ ไม่รู้จะอวยพรตอนไหน ตอนนี้คิดว่าดีที่สุดก่อนจะเกิดอะไรขึ้นเพราะเหตุการณ์เริ่มถี่ขึ้นเหลือเกินเกรงว่าจะไม่มีโอกาศได้อวยพรชัยแด่ทุกท่านที่มีคุณทั้งหลายเหล่านี้อีก กราบๆๆ ขอบคุณในทุกข้อความและข่าวสาร และ แด่ความตั้งใจอันเด็ดเดี่ยวของทุกคนที่ไม่ยอมทิ้งกันจนนาทีสุดท้าย

 

ช่วงนี้แผ่นดินไหวบ่อย ต่อไปต้องไฟป่าแน่นอน เพราะร้อนมากๆ เมื่อวานเอาถ้วยตากแดดบ่ายมาถ้วยแตก ใครมีบ้านไม้ต้องระวังด้วยนะครับ เป็นห่วงทุกคนครับ

 

โหย ถ้วยแตก แสดงว่า ร้อนมากมาก

 

ใช่ เมื่อสองวันก่อน ที่เขี่ยบุหรี่โค้ก ที่มีเศษบุหรี่วางอยู่ตรงระเบียงไหม้ ตกใจหมดเลย เห็นแต่ควันขโมง พอเอาน้ำมาดับ ก็แตกด้วย ตอนนี้ยังร้อนเลยครับ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พายุลูกเห็บขนาดเท่า "ลูกกอล์ฟ" ถล่มเมืองเมลเบิร์น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>6 มีนาคม 2553 17:41 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

พายุรุนแรงคราวนี้ทำให้เกิดน้ำท่วมในเมืองเมลเบร์น​

เอเอฟพี - พายุรุนแรงพร้อมด้วยลูกเห็บขนาดเท่าลูกกอล์ฟ พัดถล่มนครเมลเบิร์น ทำให้เมืองทั้งเมืองกลายป็นอัมพาต ขณะที่พายุฝนอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมตามชนบทอีกหลายแห่ง​

พายุกำลังรุนแรง ทำให้เกิดฝนตก 19 มิลลิเมตรนาน 18 นาทีเข้ากระหน่ำเมืองเมลเบิร์น เมืองใหญ่ที่สุดอันดับสองของออสเตรเลีย ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมตามถนนหนทาง และต้องยกเลิกการแข่งขันแข่งม้า และออสซี่ รูลส์ ฟุตบอล​

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาระบุว่า พายุครั้งนี้อันตรายมาก และเป็นพายุครั้งรุนแรงอย่างไม่เคยพบมาก่อนในเมืองเมลเบิร์น ขณะที่ชาวเมืองเมลเบิร์นคนหนึ่ง ระบุว่า ลูกเห็บขนาด 5 เซนติเมตร ตกปกคลุมทั่วเมืองเป็นเวลาประมาณ 10 นาที และบรรยากาศคล้ายกับหิมะตก​

นักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียยังเตือนชาวเมลเบิร์นให้ระวังพายุอีกระลอกด้วย โดยศูนย์บริการฉุกเฉินของรัฐควีนส์แลนด์ เตือนว่า น้ำท่วมรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1890 จะไหลเข้าท่วมพื้นที่ร้อยละ 80 ของเมืองเซนท์จอร์จด้วย​

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ประชาชนร้อยละ 40 จากประชากรทั้งหมด 2,800 คนของเมืองเซนต์จอร์จ ต้องอพยพออกมาจากพื้นที่เสี่ยงและอยู่ตามค่ายพักพิงฉุกเฉินล่วงหน้าแล้ว ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำบาลอนน์ ที่ตั้งอยู่ใกล้เมืองชนบทแห่งนี้ คาดว่าจะทำสถิติสูง 13.5 เมตร หลังจากเกิดฝนตกหนัก​

ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9530000031885​

 

พิจิตร-พบเหตุประหลาด เพลี้ยกระโดดกินหญ้าเกาะกลางถนนจนเสียหาย

​

คนงานซึ่งดูแลเกาะกลางถนนสาย โพธิ์ประทับช้าง- พิจิตร เดินตรวจสอบความเสียหายของหญ้าบริเวณเกาะกลางถนน บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอโพธิ์ประทับช้าง ที่เสียหายตายเป็นหย่อม ๆ ซึ่งจากการตรวจสอบพบเพลี้ยกระโดดจำนวนมากเกาะที่บริเวณต้นหญ้า คาดว่าเพลี้ยกระโดดกัดกินจนหญ้าเกิดความเสียหาย ส่วนสาเหตุคาดว่าอาหารของเพลี้ยน้อยลงเพราะกินต้นข้าวจนหมด ส่วนพื้นที่ที่เหลือชาวนาฉีดสารเคมีต่อเนื่องจึงหนีมากินหญ้าแทน

นาเฉลิม สุขอยู่ คนงานซึ่งดูแลเกาะกลางถนนกล่าวว่า พบการเปลี่ยนแปลงของเกาะกลางถนนเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา โดยพบว่าหญ้าตายเป็นหย่อม ๆ ทั้งที่รดน้ำไม่เคยขาด และมีนกนางแอ่นบินเต็มไปหมด ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีเพลี้ยกระโดดจำนวนมากเกาะอยู่กับต้นหญ้าที่เกาะกลางถนน จึงคาดว่าเพลี้ยกระโดดจะกินน้ำเลี้ยงจากต้นหญ้าทำให้หญ้าตาย

นายเฉลิมกล่าวอีกว่า สาเหตุที่เพลี้ยกระโดดกินหญ้าเนื่องจากขณะนี้แหล่งอาหารคือนาข้าวไม่พอกับเพลี้ยกระโดดซึ่งมีอยู่จำนวนมาก เพราะก่อนหน้านี้เพลี้ยได้กินไปจนแทบจะหมดแล้ว ส่วนที่เหลือชาวนาฉีดยาอย่างต่อเนื่องทำให้เพลี้ยหนีมาเกาะหญ้าที่บริเวณเกาะกลางถนน และกินน้ำเลี้ยงจากหญ้าเพื่อความอยู่รอด วิธีการแก้ในขณะนี้ต้องหยุดรดน้ำหญ้าเพราะยิ่งลดน้ำเพลี้ยก็จะเกาะที่หญ้ามากขึ้น

ข่าวทีวีช่อง 3 วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2553

ที่มา http://www.krobkruakao.com/kkn/?a=news&s=detail&news_id=16767

 

นกกระจิบแจ้งข่าว

ศุกร์หน้าเติมน้ำมันรถให้เต็มถัง เช่าหนังดีที่อยากดู หลายๆม้วน ตุนน้ำและอาหาร เก็บเงินสดไว้กับตัวบ้างอย่ารอพึ่งเอทีเอ็ม

เผื่อเขาถ่ายหนังเรื่องแรงพิฆาตฝนเหล็กกันทั่วเมืองฟ้าอมรค่ะ

มีเพื่อนต่างชาติบอกเขาด้วย เขาไม่รู้เรื่องเดี๋ยวจะไปติดอยู่ในฉาก

 

ยามบ้านเมือง ยามโลก ถูกคุกคาม ไร้ความสงบ

ผู้สั่งสมบารมีบุญ รวมพลังจิตตานุภาพดีงาม แผ่ไพศาล ยังผู้ถือมิจฉาทิฏฐิ

ยามนั้น บรรเทา ยามนั้น ระงับได้ ภัยทั้งมวล

 

======================================

7 มี.ค. 53


เครื่องกำเนิดไฟฟ้า สีแดง 17A 17V

ช่วงนี้เข้าสู่หน้าร้อน การใช้กระแสไฟฟ้าจะมากกว่าหน้าอื่นๆ ขอให้ระวังเรื่อง
ปัญหาของกระแสไฟฟ้า





องค์อินทร์ - ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<STYLE>body{background-image:url("http://palungjit.org/attachments/a.758354/");}</STYLE>

 

ทุกครั้งที่สยามอ่อนแอ เขมรจะมาตีท้ายครัวเสมอ ​

ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต​

พุทธศักราช 2551 คนไทยอ่อนแอ แตกสามัคคี แบ่งแยกกันเป็นก๊กเป็นเหล่าเป็นพวก เหมือนก่อนกรุงศรีอยุธยาแตกไม่ผิดเพี้ยน ​

เมื่อเทียบกับ ยุคของกรุงศรีอยุธยา นี่คือกรุงกำลังจะแตกแล้ว โดยข้าศึกที่มี เขมรรวมกับชาติมหาอำนาจ ที่จัดตั้งมาจากกรรมการมรดกโลก เป็นการบุกเข้า ยึดตีกรุงอีกครั้ง ​

ทุกครั้งที่สยามอ่อนแอ เขมรจะมาตีท้ายครัวเสมอ พระนเรศวรเมื่อปราบพม่าเสร็จ ก็ยกทัพทหารไปตีเขมร เมื่อ ร.1 ขึ้นครองราชก็ยกพลไปตีเขมรแตกอีก ​

ใน พ.ศ 2551 - 2552 กรุงแตก จะมาซ้ำรอยอีกครั้ง อีกสี่ปีข้างหน้าก็จะตึเขมรแตกอีก ประวัติศาสตร์ย่อมซ้ำรอยเสมอ​

อ.อาชวิน จิรจินดา (ตาที่สาม)​

ที่มาhttp://www.thaimisc.com/freewebboard...cha&topic=1003​

"โสรัจจะ นวลอยู่"ทำนาย"เขมร"บุก"สยาม"ปี 2553 ส่งทหารเข้าโจมตี ...​

ขณะนี้ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา ดูจะตึงเครียดไม่น้อย และเริ่มส่อเค้าบานปลาย จนใกล้จุดแตกหักเข้าไปทุกที หากยังไม่มีทางออกในปัญหาเหล่านี้ การเผชิญหน้าระหว่างไทยกับกัมพูชาอาจเป็นไปตามคำทำนายของ "โสรัจจะ นวลอยู่" โหรชื่อดัง ผู้ได้รับฉายา "นอสตราดามุสเมืองไทย" ในหนังสือ "ศาสตร์แห่งโหร ปี 2553" ซึ่งสำนักพิมพ์ "มติชน" วางแผงอยู่ในขณะนี้

"เริ่มต้นที่เดือนกุมภาพันธ์ ในเดือนนี้ไทยจะถูกตรึงด้วยบาปเคราะห์ในมุมสามเหลี่ยม โดยมีดวงอาทิตย์เป็นตัวเสริมให้ครบมุม ดังนี้สิ่งที่ไม่ดีจะเกิดขึ้น คือจะมีอุบัติเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น สภาพเหตุการณ์ภายในเป็นที่น่าวิตก อาจปั่นป่วนหรือมีผู้ยุยงให้วุ่นวายได้ อาจมีการประสานงากันบ้างกับประเทศเพื่อนบ้าน มีเรื่องกระทบกระทั่งกับเขมร ที่เป็นหอกข้างแคร่ที่แสนขมขื่น ในเดือนเมษายน ดาวแห่งไทยสยามโคจรเข้ามุมฉากกับดาวบาปเคราะห์ที่ทำมุมจตุโกณ ยังเห็นว่าบ้านเมืองยังคงยุ่งยากทั้งภายในและภายนอกประเทศ เหตุภายนอกรุมเร้าเข้ามา ปัญหาพม่าและเขมรจะนำความเดือดร้อนอย่างมาก เหตุการณ์น่าเป็นห่วงพอถึงเดือนพฤษภาคม ด้านชายแดนจะมีการขัดแย้งกับเพื่อนบ้านเขมรและพม่าอย่างรุนแรงอีก"

เหตุการณ์ต่างๆ อาจถึงจุดแตกหักดังคำทำนายในเดือนสิงหาคมว่า "เขมรจะบุกสยามประเทศ ส่งกำลังทหารเข้าโจมตี ทหารเสียชีวิตจำนวนมาก ถึงคราวแล้วที่ไทยจะเข้าสู่สงครามที่เราไม่เคยมีมาเลยกับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นเวลาช้านานแล้ว เป็นการรบอย่างแท้จริง อิทธิพลของดวงดาวคือ พระราหูทำมุมเสียกับลัคนาประเทศ ถ้าไทยยังเฉยเมยไม่ตระหนักต่อปัญหาที่รุมเร้าหนักข้อขึ้นทุกที...ดังนั้น ปี 2553 จะเกิดการรบนองเลือดถึงขั้นเสียชีวิตผู้คนมากมาย ถึงจะได้คืนมาซึ่งแผ่นดิน อาจจะถึงขั้นประกาศสงครามกับเพื่อนบ้าน"

คำทำนายจะเป็นจริงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับรัฐบาลไทยจะดำเนินวิธีทางการทูตกับผู้นำกัมพูชาอย่างไรในปีนี้

ที่มา http://webboard.kapook.com/viewthread.php?tid=14352​