เรื่องพิเศษ รวมก๋วยเตี๋ยว ที่ไม่ธรรมดา

สงสัยว่า ตอนถ่ายรูป น่าจะถ่ายไม่ค่อยดีครับ

สีก็เลยเพี้ยนไปเป็นเย็นตาโฟ

.

 

"พี่อ้อ" ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้งน้ำข้น ขวัญใจวัยรุ่น

คอลัมน์ ตามรอยพ่อไปชิม

โดย ปิ่นโตเถาเล็ก



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>ถ้ามองผิวเผินจากถนนเพชรบุรี เข้าไปในเพชรบุรีซอย 5 ที่ทะลุต่อกันได้กับซอย 7 รู้สึกว่าไม่เห็นจะมีร้านอะไรน่าสนใจเลย แถมซอยนี้ที่จอดรถก็ไม่มี ต้องมารถสามล้อแท็กซี่สถานเดียว ถ้าใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส จากสถานีพญาไทก็ต้องเดินไกลเกือบกิโล (แต่ปิ่นโตเถาเล็กเพิ่งทำมาแล้ว) ร้อนทั้งร้อน เหนื่อยแสนเหนื่อย

แต่รู้ไหมครับท่านทั้งหลาย ซอยนี้มีร้านดีร้านเด็ด ขวัญใจวัยรุ่น นักเรียน นิสิต นักศึกษา ตลอดจนคนทำงาน ใครที่มาอุดหนุนต้องถือว่าบากบั่นตั้งใจมาจริงๆ ร้านนี้มีชื่อตั้งตามชื่อเจ้าของว่า "ร้านพี่อ้อ"

ตอนที่พี่อ้อ (ความจริงเป็นน้องของปิ่นโตเถาเล็ก แต่เด็กๆ เขาเรียกกันอย่างนี้จึงขอดัดจริตเรียกตามบ้าง) มาเปิดร้านเมื่อ 2 ปีก่อน (กุมภาพันธ์ 2550) ใครก็ๆ พากันส่ายหัว คิดว่าจะไปรอดหรือ

ทำเลที่ตั้งร้านอยู่ริมซอยแรกที่เชื่อมระหว่างเพชรบุรีซอย 5 กับซอย 7 อีกที เงียบแสนเงียบ แต่พี่อ้อไม่เสียทีที่เป็นลูกสาวร้านข้าวหน้าเป็ดสายทองที่ปักหลักอยู่ในซอย 5 มานานนับ 30 ปี จึงปลุกให้บริเวณนี้กลายเป็นทำเลทองมีร้านอาหารหาบเร่แผงลอยมาเปิดตามกันเป็นทิวแถว

นี่คือตัวอย่างของผู้ที่มีหัวคิดทางการตลาด กล้านำเสนอสิ่งที่แตกต่าง บวกกับรสมือที่เฉียบขาดตรงกับรสนิยมการกินของวัยรุ่น (ซึ่งมีข้าพเจ้ารวมอยู่ด้วย อิอิ) เลยโดนใจลูกค้ากลุ่มนี้ยิ่งนัก

แนวคิดพี่อ้อคือ "ถูกและดีมีเมนูโดดเด่น" เมนูที่ว่าคือ "ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง (แม่น้ำ) น้ำข้นในสนนราคาเพียงชามละ 40 บาท" โอ้โฮ มีอย่างนี้ในโลกด้วยหรือ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

อย่างนี้ต้องเชิญแฟนๆ มาพิสูจน์ด้วยตนเอง ถ้านำรถมาให้ไปจอดตรงโน้นเลยที่ห้างเทสโก้ โลตัส เจริญผล ตรงข้ามสนามกีฬา ปทุมวัน แล้วเรียกรถรับจ้างให้มาส่งอีกที เลี้ยวเข้าไปในเพชรบุรีซอย 7 แล้วเลี้ยวซ้ายซอยแยกซอยแรกอีกที ร้านพี่อ้อจะอยู่ในซอยนี้ช่วงกลางๆ ซอยด้านขวา ข้างหน้าร้านมีหม้อต้มยำกุ้งขนาดยักษ์ส่งกลิ่นหอมเย้ายวนใจ

การมาร้านนี้ควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลาเที่ยงถึงบ่ายสอง กับตอนเย็นๆ ถึงสามทุ่มครึ่ง มาสักตอน 11 โมงเช้าจนก่อนเที่ยงดีที่สุด แต่ถึงจะมาเล่นเก้าอี้ดนตรีก็ไม่ต้องห่วง พี่อ้อมีโต๊ะบริการรวมทั้ง 2 ชั้น ถึง 40 โต๊ะ แถมกำลังจะเปิดชั้น 3 เพิ่มให้อีก แถมอาหารออกเร็วไม่ต้องรอนานมาก

ลืมบอกไปว่าเขาปิดวันอาทิตย์นะจ๊ะ แต่ลองโทร.ไปถามดู ไม่แน่วันนี้อาจจะเปิดก็ได้ถ้ามีคนมาเลี้ยงฉลองกัน

รายการอาหารเด่นๆ จะรวมๆ กันอยู่ที่เมนูหน้าแรก เชิญเลือกตามใจชอบ แต่ห้ามพลาดก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้งแม่น้ำเป็นอันขาด ต้องน้ำข้นด้วยนะ

พี่อ้อช่างเอาใจมีเส้นให้เลือกสารพัด ทั้งเส้นใหญ่ เส้นหมี่ เส้นเล็ก บะหมี่ วุ้นเส้น เซี่ยงไฮ้ เกี้ยมอี๋ มาม่า (ตัวขายดี) เกี๊ยวกุ้ง (ถ้าเลือกเกี๊ยวกุ้งคิดเพิ่มเป็นชามละ 50 บาทจ้ะ) แถมยังมีเส้นปลาด้วยซึ่งทำไม่มากแค่วันละ 2 กิโลเท่านั้น

แต่ละวันพี่อ้อจะปรุงน้ำต้มยำข้นๆ เตรียมไว้เลยถึง 4 หม้อยักษ์ โดยใส่ครบเครื่องเรื่องต้มยำทั้งหอมแดง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกขี้หนูสวน พริกป่น มันกุ้ง และนมคาร์เนชัน (นี่คืออีกหนึ่งเคล็ดลับ พี่อ้อบอกว่าถ้าใส่ยี่ห้ออื่นนมจะแตกตัวเป็นเม็ดๆ) รสชาติน้ำต้มยำเข้มข้นจัดจ้านมีครบทั้งเปรี้ยวเค็มหวานหอมมัน แต่ไม่เผ็ดมาก มีมันกุ้งก้อนเล็กๆ เคี้ยวมันอร่อย <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

พี่อ้อออกตัวว่าตอนนี้ปิดเทอม เลยต้องลดความเผ็ดความจัดจ้านลงไปครึ่งหนึ่ง เด็กๆ จะได้กินได้ ใครชอบเผ็ดขอพริกขี้หนูเพิ่มได้ หรือจะเติมพริกป่นลงไปอีกก็ได้ ส่วนผมนั้นขอเพิ่มแค่น้ำมะนาวสดๆ (ของแท้)ให้เปรี้ยวจี๊ดจ๊าดสะใจ

ของดีอยู่ที่กุ้งแม่น้ำซึ่งพี่อ้อไปคัดมาเองถึงสะพานปลาและกว้านซื้อมาจากเจ้าประจำที่มหาชัย กุ้งที่ใช้เป็นกุ้งลอกคราบเปลือกนิ่มๆ เท่านั้น ซึ่งสะดวกทั้งคนเตรียมและคนกิน แค่เอาส้อมแงะเปลือกก็กินเนื้อหวานๆได้สบายหรือจะกินทั้งเปลือกแบบผมก็ย่อมได้

ตามปกติจะให้กุ้งชามละ 2 ตัว แต่ถ้าได้ตัวเล็กมา (เลือกขนาดไม่ได้เพราะแค่นี้ก็เหมามาหมดตลาดแล้ว) ก็จะเพิ่มให้เป็นชามละ 3-4-5 ตัว หรือถ้ามาใหญ่มากก็จะใส่ให้ตัวเดียว ขอบอกว่าคุ้มสุดคุ้มจริงๆ นอกจากกุ้งแล้วยังใส่เห็ดนางฟ้าหรือเห็ดฟางอีกด้วย

เมนูเด็ดอีกอย่างที่ควรลิ้มลองคือ "ก๋วยเตี๋ยวต้มยำสุโขทัยรสแซ่บ" (40 บาท) เน้นรสเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดด้วยมะนาวแท้ โดยมีรสเค็มรสหวานตาม ถ้าไม่ชอบเปรี้ยว ขอให้บอก เขาจะแยกน้ำมะนาวใส่ถ้วยมาให้ปรุงเอง

ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยนี้ใส่ถั่วแขกและถั่วลิสงที่อบเองแล้วเอาขวดมาบดให้เป็นชิ้นเล็กๆ เครื่องอื่นๆ มีหมูสับ ตับ หมูแดง (จากร้านสายทอง) และไข่ต้มครึ่งซีก

ยังมีข้าวกุ้งราดซอสมันกุ้งสีส้มสด (50 บาท) ซึ่งวันนี้ทำจากมันกุ้งทะเล บางวันก็จะได้มันกุ้งแม่น้ำที่มีสีเหลืองสวยกว่าแต่รสชาติสู้มันกุ้งทะเลไม่ได้ สำหรับจานนี้เหมาะสำหรับวัยรุ่นตัวจริงเพราะรสออกหวาน วัยรุ่น (ดึก) ใจยังสู้อย่างผมจึงขอแนะนำของกินเล่นอีก 2 อย่างแทน มี "เกี๊ยวห่อแฮมและชีส" (30 บาท) ซึ่งใช้เนยแข็งเชดดาร์ของโปรดของข้าพเจ้า เกี๊ยวกร๊อบกรอบ ไส้หอมมันอุดมด้วยชีส ถูกใจจริงๆ และ "ปอเปี๊ยะกุ้ง" ทอดกรอบๆ 1 จาน 50 บาท ได้ตั้ง 8 ตัว ทำขายวันละ 1,000 ตัวเท่านั้น

ส่วนเครื่องดื่มแนะนำที่ขายดีที่สุดคือ "น้ำฝรั่ง" สดๆ หอมๆ

อย่างที่บอกไว้ตอนต้น อยากชิมอะไร เชิญดูเมนูได้ มีให้เลือกอีกเพียบ เมนูฮิตของดีๆ อยู่ในรูปหน้าแรกนะจ๊ะ ใครอยากจัดเลี้ยงเชิญติดต่อได้ นักศึกษาแพทย์กับอาจารย์หมอยังชอบมาเลี้ยงกัน จนที่นี่จะกลายเป็นอีกวิทยาเขตไปเสียแล้ว รับรองไม่แพง มา 60 คน คิดแค่สี่พันบาท กินได้ไม่อั้น

เห็นไหมว่าถูกและดีก็มีในโลกนี้ด้วย

ข้อมูล

ร้านพี่อ้อ

โดย คุณอรนุช (อ้อ) อัศวกุล

ที่ตั้ง 68/51 เพชรบุรีซอย 5 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400

โทร. 0-2612-9013, 08-1443-6629

เปิดบริการ 11.00-22.00 น. จันทร์-เสาร์

หยุด อาทิตย์ (โปรดโทร.สอบถาม ถ้ามีจัดเลี้ยงอาจจะไม่หยุด)

อาหารแนะนำ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง (แม่น้ำ) น้ำข้น ก๋วยเตี๋ยวต้มยำสุโขทัยรสแซ่บ เกี๊ยวห่อแฮมและชีส ปอเปี๊ยะกุ้ง น้ำฝรั่ง

[FONT=Tahoma,]หน้า 19[/FONT]


http://www.matichon.co.th/matichon/v...day=2009-03-29
<!-- google_ad_section_end -->

 

จำคุกแชร์ก๋วยเตี๋ยว 5,227 ปี คดีฉ้อโกง

http://hilight.kapook.com/view/46387

​

คุกแชร์ก๋วยเตี๋ยว อ่วม5,227ปี ฉ้อโกงนับพันราย (ไทยรัฐ)

ศาลอาญาตัดสินจำคุกเจ้าของบริษัทแชร์ก๋วยเตี๋ยว 5,227 ปี หลังถูกดีเอสไอไปบุกจับดำเนินคดี พบฉ้อโกงประชาชนที่มาลงทุนนับพันราย แต่ต้องติดคุกจริง 20 ปี ผอ.ดีเอสไอเผยมีเบาะแสแชร์ลูกโซ่อีก 10 เรื่อง..

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 17 ก.พ. พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รายงานความคืบหน้าการดำเนินคดีแชร์ก๋วยเตี๋ยว ว่า ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.3968/2552 คดีหมายเลขแดงที่ อ.166/2553 พิพากษาว่านายเสริมศักดิ์ อุ่นน้อย จำเลยที่ 1 ซึ่งให้การรับสารภาพ มีความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 4, 5, 12,15 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 การกระทำของจำเลย เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ลงโทษทุกกระทงความผิดตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 91 แต่เนื่องจากความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท จึงให้ลงโทษในความผิดฐานฐานร่วมกันกู้ยืมเงิน ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ซึ่งเป็นบทหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา90 รวม 1,245 กระทง ลงโทษจำคุกกระทงละ5 ปี รวมเป็นโทษจำคุก 5,270 ปี

จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2,635 ปี แต่จำเลยกระทำความผิดกระทงที่หนักที่สุด มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกิน 10 ปี จึงให้ลงโทษจำคุกจำเลย 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 กับให้จำเลย คืนเงินต้นให้แก่ผู้กู้ยืมเงินหรือผู้เสียหายแต่ละรายตามจำนวน ผู้เสียหายแต่ละรายที่ได้นำมาให้จำเลยกับพวกกู้ยืมเงินไปแล้ว แต่ยังไม่ได้คืนพร้อมด้วยอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่คืนเงินสดของกลางเฉลี่ยให้แก่ผู้เสียหายทั้งหมด

สำหรับพฤติการณ์แห่งคดีนี้ คือ บริษัท สยามฟูดซ์แฟรนไชส์ จำกัด กระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน หรือ "แชร์ลูกโซ่" ด้วยการโฆษณาชักชวนประชาชนผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต วิทยุ และออกบูธตามห้างสรรพสินค้า รวมทั้งเคยออกรายการช่องฟรีทีวี แนะนำการประกอบอาชีพ เพื่อชักจูงให้ประชาชนนำเงินไปลงทุนในธุรกิจเฟรนไชส์ของบริษัทฯ แลกกับผลตอบแทนในอัตราสูง โดยสมาชิกไม่ต้องรับรถเข็นก๋วยเตี๋ยวไปเปิดขาย

ปรากฏว่า มีประชาชนหลงเชื่อตัดสินใจนำเงินไปร่วมลงทุนเป็นจำนวนนับพันราย โดยสามารถเลือกลงทุนได้ 2 แผน คือ แผนที่ 1 สมาชิกต้องจ่ายเงิน 45,000 บาท เพื่อซื้อหุ้นรถเข็น 1 คัน จะได้รับผลตอบแทน 10,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 10 เดือน รวม 100,000 บาท เท่ากับว่าลงทุน 45,000 บาท จะได้กำไร 55,000 บาท ส่วนแผนที่ 2 สมาชิกต้องจ่ายเงิน 35,000 บาท เพื่อซื้อหุ้นรถเข็น 1 คัน จะได้รับผลตอบแทน 7,500 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 10 เดือน รวม 75,000 บาท เท่ากับว่า ลงทุน 35,000 บาท จะได้กำไร 75,000 บาท ซึ่งเป็นการเสนอให้ผลตอบแทนในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุด ที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้ เข้าข่ายเป็นความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน

พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวด้วยว่า ดีเอสไอขอแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนได้โปรดระมัดระวังการถูกหลอกลวงใน พฤติการณ์ดังกล่าว หากพบเห็นหรือมีบุคคลใด มาชักชวนให้นำเงินไปลงทุนหรือสมัครเป็นสมาชิกใน ลักษณะของการบังคับให้เสียค่าสมาชิกและซื้อสินค้า โดยเฉพาะการมุ่งเน้นในเรื่องของรายได้ หรือผลประโยชน์ตอบแทนที่มาจากการหาสมาชิกเข้าร่วมเครือข่ายขยายองค์กร ด้วยการเสนอผลประโยชน์ตอบแทนที่สูงมาก ๆ เป็นหลัก โดยมิได้มุ่งเน้นในเรื่องของการนำสินค้าไปแพร่กระจายสู่ผู้บริโภค หรือที่มักจะแนะนำว่า "ไม่ต้องรักษายอดขาย" ขอให้พี่น้องประชาชนใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจลงทุนหรือเข้าเป็นสมาชิกด้วยความระมัดระวัง และขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนได้โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ หรือแจ้งดีเอสไอที่ฮอตไลน์หมายเลข "1202" เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ ขอเตือนบริษัทฯ หรือบุคคลที่กำลังประกอบธุรกิจอันอาจเข้าข่ายเป็นความผิดเกี่ยวกับการกู้ยืม เงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ขอให้ยุติการกระทำที่เป็นการหลอกลวงฉ้อโกงประชาชนนั้นเสีย ก่อนที่ดีเอสไอจะเข้าดำเนินการขั้นเด็ดขาดทั้งคดีอาญา คดีฟอกเงิน และคดีล้มละลาย อีกทั้งจะดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำตนเป็นแม่ทีมหรือแม่ข่ายที่ไปชักชวน ประชาชนเข้าร่วมเป็นเครือข่ายขยายองค์กรด้วย

"ขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนแจ้งเบาะแสอยู่ที่ดีเอสไอแล้วมากกว่า 10 เรื่อง กำลังเร่งรัดสืบสวนข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป" พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าว


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

 

เย็นตาโฟ-วิโรจน์

สวรรค์ในครัว

เขียง มะขาม

˹ѧ

เย็นตาโฟ-วิโรจน์

สวรรค์ในครัว

เขียง มะขาม

http://www.khaosod.co.th/view_news....ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1DMHdNaTB5Tmc9PQ==

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>ได้ยินแต่คำร่ำลือมานานช้า ว่ามีเย็นตาโฟเจ้าอร่อยอยู่ย่านราชวัตร

เข้าบล็อกสตาร์ตอยู่นั่นแล้ว ยังไม่ได้ออก ตัวสักที

จนกระทั่งเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมานี่เอง สองคนตายายที่ลางานครึ่งวันเช้าไปทำธุระเสร็จ ก่อนเวลา ก็มุ่งหน้าตรงดิ่งไปราชวัตร-อีกหนึ่งในย่านของกินอร่อยของกรุงเทพฯ

จุดหมายแรกอยู่ที่ "วิโรจน์ โภชนา" ซึ่งคุณภรรยาผู้เคยลิ้มรสมาก่อนแล้วยืนยันว่าของเขาอร่อยแน่

ไปถึงร้านประมาณสิบโมงครึ่ง

คนในร้านก็เริ่มมือเป็นระวิงกันแล้ว ลูกค้า เดินเข้าออกให้เห็นเป็นระยะ

นึกภาพได้เลยว่าเวลาเที่ยงเขาคงเล่นเก้าอี้ดนตรีกันสนุก
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>
อ้อ เดี๋ยวลืม-ร้านวิโรจน์นี่อยู่ตรงข้ามกับกรมสรรพสามิต

ถ้าวิ่งมาจากถนนพระราม 5 เลียบคลองเปรมประชากรแล้วเลี้ยวเข้ามา ร้านอยู่ฝั่งซ้ายมือ

แถวนั้นเขาจอดรถสลับวันคู่-คี่ ใครที่เอารถไปแต่ไม่คุ้นลองถามคนย่านนั้นดู จะได้ไม่โดนใบสั่ง

แต่เสียค่าจอดให้พนักงานกทม. 10 บาท

ตัดฉากกลับมาที่ร้าน

นั่งปุ๊บสั่งปั๊บ เล็กโฟน้ำหนึ่ง บะหมี่แห้งยำอีกหนึ่ง

อร่อยโดยไม่ต้องปรุงอีกแล้วครับท่าน

เย็นตาโฟรสกลมกล่อม เครื่องเพียบ หมึกแห้งชิ้นบะเห้งสะใจ

บะหมี่นี่ไม่ต้องพูดถึง-เริ่ดแท้ เนื่องจากข้าพเจ้า ชอบเปรี้ยวเผ็ดเลยเติมพริกน้ำส้มกับพริกป่นลงไปด้วย <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

แต่ถ้าใครชอบรสมาตรฐาน ลุยได้เลย เส้นหอม ลวกมานุ่มกำลังดี พวกเครื่องปลาของเขาสดหอม

หมูต้มก็ไม่แห้ง-ไม่ยุ่ย

มีการสั่งเกี๊ยวโฟแห้งมาซ้ำอีกหนึ่ง

รสเข้มกว่าโฟน้ำ แต่ไม่จัดเกิน

เดี๋ยวเดียวเรียบไปอีกชาม แต่เหตุไฉนอร่อยเด็ดแล้วถึงสั่งแค่นี้จะมาเฉลยตอนหน้า

ร้านอร่อยนี่จะมีราศีบางอย่างจับอยู่

ร้านวิโรจน์นี่ก็เช่นกัน

อย่างแรกเลยคือสะอาด อย่างต่อมาคือเครื่อง ที่หั่นหรือแขวนไว้ให้ดูนั้น เห็นแล้วยั่วน้ำลายเป็นที่สุด

ปลาหมึกแห้งตัวยังกับปลาหมึกยักษ์ แขวน โตงเตงอยู่ข้างตู้ ท้าทายต่อมน้ำลายของนักเลงเย็นตาโฟดีนัก

ที่สำคัญสำหรับก๋วยเตี๋ยวอร่อยทุกร้านก็คือ น้ำต้องเดือดจัด

ที่นี่ก็เหมือนกัน

อ้อ ร้านนี้เขาใช้น้ำซุปกระดูกหมูล้วนไม่ปน โครงไก่ ไม่แสลงใจ (และตัว) คนเป็นเกาต์

เขารับออกงานด้วย อย่างต่ำ 200 ชามขึ้นไป

ใครสนใจจะติดต่อ หรือขี้เกียจไปหาที่จอด รถแถวราชวัตรแต่อยากกินของอร่อย สอบถามที่เบอร์ 0-2241-0468 หรือ 08-6888-5638

วันนั้นกินที่ร้านไป 3 แต่หิ้วกลับบ้านมาอีก 8

เดี๋ยวเดียวที่บอกกันว่าสสารไม่สูญหายไปจากโลก ก็หายไปจากสายตา

เป็นเครื่องยืนยันได้ดีกว่าข้อเขียนชิ้นนี้เป็นไหนๆ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"Joke Mee Please" โจ๊ก-บะหมี่ฮ่องกง รสเหนือชั้น
Travel - Manager Online

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 กุมภาพันธ์ 2553 13:08 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศภายในร้าน Joke Mee Please </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>หากได้ผ่านเข้ามาที่ซ.ทองหล่อทีไร "ผ่านมาแวะกิน" เป็นต้องได้อิ่มท้องกลับไปด้วยเสียทุกที เพราะภายในซ.ทองหล่อแห่งนี้มีร้านขายอาหารรสดีมากมายให้ได้ลองลิ้มกัน อย่างในมื้อนี้เราก็ได้มาอิ่มหนำกับโจ๊กร้อนๆ และบะหมี่รสดี กันที่ร้าน "Joke Mee Please" (โจ๊ก หมี่ พลีส) ซึ่งที่นี่เน้นบริการเมนูโจ๊ก และบะหมี่สูตรต้นฉบับสไตล์ฮ่องกงขนานแท้ โดย อ.จันทรา เจียรกุล ผู้มีประสบการณ์ในการสอนอาหารจีนมากว่า 30 ปี ได้ไปร่ำเรียนการทำอาหารจีนที่ฮ่องกงถึง 4 ปี จากกุ๊กฮ่องกงรุ่นเก๋า


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>โจ๊กหมูกรอบไข่เยี่ยวม้า</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>สำหรับเมนูโจ๊กที่น่ากินของที่นี่มี โจ๊กหมูกรอบไข่เยี่ยวม้า (75 บาท) โจ๊กสูตรฮ่องกงที่ทางร้านเลือกใช้ข้าวหอมมะลิเต็มเมล็ดคัดเกรดอย่างดีมาแช่น้ำค้างคืนแล้วนำมาต้มเคี่ยวนานกว่า 3 ชม. ใส่ฟองเต้าหู้แทนการใส่แป้ง เพื่อให้เนื้อโจ๊กขาวเนียนหอม ใส่หอยเชลล์แห้งลงไปเพิ่มรสชาติ กินโจ๊กเนื้อสีขาวเนียนละเอียด หอมนุ่มรสกลมกล่อมละมุนลิ้น กินเข้ากันดีกับหมูกรอบที่ทางร้านทำเองแบบสดใหม่ทุกวัน หมูกรอบหนังกรอบเนื้อนุ่มถูกปากดี แถมยังมีไข่เยี่ยวม้าใส่มาด้วย หรือจะสั่ง ปาท่องโก๋ (30 บาท) ตัวยาวเป็นคืบมากินคู่กับโจ๊กก็อร่อยเข้ากัน


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บะหมี่หมูแดงแห้ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>กินโจ๊กไปแล้วมากิน บะหมี่หมูแดงแห้ง (75 บาท) บะหมี่สไตล์ฮ่องกงแท้ๆ ขนาดที่ว่าเส้นบะหมี่นำเข้ามาจากฮ่องกงเป็นพิเศษ นำมาลวกในน้ำเดือดจัดจนบะหมี่สุกเหลืองดูไม่อืด แล้วก็มีหมูแดงที่ทางร้านทำเองใช้หมูส่วนสันคอมาหมักกับเครื่องปรุงสูตรพิเศษนานกว่า 6 ชม. นำไปย่างจนได้หมูแดงที่กินแล้วเนื้อนิ่มเคี้ยวนุ่มฉ่ำปาก ผสานรสชาติกลมกลืนกับซอสสูตรเด็ดที่ราดใส่มามีรสหวานหอม และกินเข้ากันดีกับบะหมี่ฮ่องกง ที่เคี้ยวแล้วสัมผัสได้ถึงความนุ่มและเด้งกรึบๆ ที่ซ่อนอยู่ในตัวบะหมี่ แล้วยังมีคะน้าฮ่องกงทั้งต้นลวกสุกใส่มาให้กินด้วย


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สลัดเซี่ยงไฮ้</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>และใช่ว่าจะมีแต่โจ๊กกับบะหมี่เท่านั้น ที่นี่ยังมีเมนูอาหารสไตล์ฮ่องกงอื่นๆ ที่ชวนกินอีก อย่างสลัดเซี่ยงไฮ้ (95 บาท) เป็นสลัดผักสด ใส่เส้นเซี่ยงไฮ้และเนื้อไก่ฉีก ราดน้ำสลัดใสสูตรเฉพาะของทางร้าน กินแล้วถูกปากตรงที่ผักสดกรอบกินเข้ากับเส้นเซี่ยงไฮ้นุ่มๆ ชุ่มน้ำสลัดรสกลมกล่อม หวานนิด เปรี้ยวหน่อย หอมกลิ่นงาขาว


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ปอเปี๊ยะฮ่องเต้</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ปอเปี๊ยะฮ่องเต้ (150 บาท) เป็นฟองเต้าหู้สอดไส้ด้วยหมูแดง เนื้อไก่หมัก และกุยช่ายขาวที่ผัดปรุงรสกับเครื่องเทศห่อรวมกันทอดจนหลืองกรอบ หั่นมาเป็นชิ้นส่งเข้าปากเคี้ยวกร้วมคำโต ฟองเต้าหู้กรอบๆ เนื้อในนุ่มด้วยไส้รสดี

แล้วยังมีเมนูแนะนำอื่นๆ ที่น่าลิ้มลองอีกมากมาย อาทิ บะหมี่เนื้อตุ๋น (85 บาท) ข้าวหมูอบมุ่ยชอย (75 บาท) ราดหน้าเส้นกรอบ (หมู-ไก่ 75 บาท, ทะเล 85 บาท) ไก่เลมอน (150 บาท) หมูเปรี้ยวหวาน (150 บาท) เรียกว่าถ้าใครอยากกินโจ๊กและบะหมี่สไตล์ฮ่องกงแท้ๆ โดยไม่ต้องเสียค่าเครื่องบิน ก็แค่ตรงดิ่งมาที่ร้าน "Joke Mee Please"

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

"Joke Mee Please" ตั้งอยู่ที่ 355/3 สุขุมวิท 55 ซ.ทองหล่อ 17-19 คลองตันเหนือ วัฒนา กทม. ร้านตั้งอยู่ระหว่างซ.ทองหล่อ 17 และ ทองหล่อ 19 ตรงข้ามกับศูนย์ Benz ทองหล่อ จุดสังเกตุร้านอยู่ติดกับเซเว่นอีเลฟเว่น มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน เปิดทุกวัน 11.00-22.00 น. (พักเบรค 15.00-17.00 น.) มีบริการส่งอาหารนอกสถานที่ภายในเขตสุขุมวิท โทร. 0-2185-2442 หรือเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.jokemeeplease.com

และหากมากินอาหารที่ร้านแล้วบอกว่าอ่านมาจากคอลัมน์ผ่านมาแวะกินของเว็บไซด์ท่องเที่ยวผู้จัดการ ทางร้านมอบส่วนลดให้ 10%

คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "Joke Mee Please" (โจ๊ก หมี่ พลีส)

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "Joke Mee Please" (โจ๊ก หมี่ พลีส) </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 กุมภาพันธ์ 2553 13:08 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ชื่อร้าน : Joke Mee Please (โจ๊ก หมี่ พลีส)

ประเภทอาหาร : อาหารจีน

เมนูจานเด่น : โจ๊กหมูกรอบไข่เยี่ยวม้า, บะหมี่หมูแดงแห้ง, สลัดเซี่ยงไฮ้, ปอเปี๊ยะฮ่องเต้

บรรยากาศร้าน : ตึกแถว

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 355/3 สุขุมวิท 55 ซ.ทองหล่อ 17-19 คลองตันเหนือ วัฒนา กทม. ร้านตั้งอยู่ระหว่างซ.ทองหล่อ 17 และ ทองหล่อ 19 ตรงข้ามกับศูนย์ Benz ทองหล่อ จุดสังเกตุร้านอยู่ติดกับเซเว่นอีเลฟเว่น มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน

สถานที่จอดรถ : จอดรถได้หน้าร้าน

บัตรเครดิต : รับบัตรเครดิต

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 11.00-22.00 น. (พักเบรค 15.00-17.00 น.)

เบอร์โทรศัพท์ : มีบริการส่งอาหารนอกสถานที่ภายในเขตสุขุมวิท โทร. 0-2185-2442
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"หมี่จี้สุ" อร่อยรสดั้งเดิม
Travel - Manager Online

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>7 มีนาคม 2553 12:59 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>หน้าร้านหมี่จี้สุ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>"ภูเก็ต" ไข่มุกแห่งอันดามัน เมืองนี้นอกจากจะโด่งดังเรื่องการท่องเที่ยวแล้ว ในเรื่องของอาหารการกินภูเก็ตก็ถือว่ามีความโดดเด่นไม่น้อย

ในภูเก็ตมีร้านอาหารให้เลือกกินกันมากมายหลากหลายชนิดหลากหลายประเภท ตั้งแต่ร้านริมถนนรายาเยาในราคาหลักสิบ ไปจนถึงอาหารราคาแพงระยับในโรงแรม ภัตตาคาร ร้านหรูๆริมทะเลหรือบนเขา ที่เหมาะสำหรับคนกระเป๋าหนักหรือพวกนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ โดยสนนราคาก็ตามคุณภาพและบรรยากาศ ตกหลักหลายพันไปจนถึงหลักหมื่นต่อมื้อ


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บะหมี่แห้ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>สำหรับคนเบี้ยน้อยหอยน้อยอย่าง"ผ่านมาแวะกิน" เวลาไปภูเก็ตคราใดสิ่งหนึ่งที่มักไม่พลาดก็คือการไปเสาะหาของกินอร่อยๆราคาเยาที่เหมาะสมกับฐานะและเงินในกระเป๋าของตัวเอง ซึ่งหลายๆครั้งมักจะให้เพื่อนชาวภูเก็ตเป็นคนแนะนำ โดยในครั้งนี้เราได้ "คุณเซี้ยน ททท." หนึ่งในผู้สันทัดกรณีด้านอาหารพื้นบ้านภูเก็ตเป็นคนพาทัวร์ไปหาของกินอร่อยๆราคาย่อมเยากัน

แล้วก็ไม่ผิดหวังเมื่อคุณเซี๊ยนพาไปกินก๋วยเตี๋ยวสูตรดั้งเดิมของคนภูเก็ตที่ร้าน"หมี่จี้สุ" อ.กระทู้ (หรือที่คนภูเก็ตหลายๆคนรู้จักกันดีในนาม"หมี่โป๋เบี๋ยน")ซึ่งขายมากว่า 20 ปี มี"พี่สุ"เป็นเจ้าของและผู้ปรุงก๋วยเตี๋ยวรสเยี่ยมให้กินกัน

ก๋วยเตี๋ยวร้านหมี่จี้สุแบ่งเป็น แห้ง น้ำ ต้มยำ และ เย็นตาโฟ มีเส้นให้เลือกทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ บะหมี่ วุ้นเส้น เกี๊ยว และเส้นหมี่หุ้น(หมี่สีขาวเส้นเล็ก)อันเป็นหมี่พื้นเมืองของคนภูเก็ต ส่วนสนนราคาก็ขายกันที่ ธรรมดา 25 บาท พิเศษ 30 บาท และขนาดจัมโบ้ 40 บาท


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เย็นตาโฟ </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>งานนี้“ผ่านมาแวะกิน”เลือกสั่งบะหมี่แห้งที่ทางเสิร์ฟมาเต็มชาม พร้อมน้ำซุปกระดูกหมูถ้วยโตกลิ่นหอมเตะจมูก บะหมี่แห้งชามนี้ดูแตกต่างจากบะหมี่ทั่วไปทีเราเคยกินตรงที่ของเขามีหอมเจียวกลิ่นชวนกินโดยหน้ามาด้วย สำหรับเรื่องของรสชาตินั้น ทางร้านปรุงรสคลุกเคล้าบะหมี่กับส่วนผสมต่างๆได้รสออกมากลมกล่อมเข้ากั๊น เข้ากัน ชนิดที่ไม่ต้องปรุงเพิ่ม ส่วนน้ำซุปนั้นก็ซดรื่นคอนัก


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>พี่สุเสิร์ฟหมูสะเต๊ะรสเด็ด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>จากแห้งเราขอลองเย็นตาโฟกันบ้าง เย็นตาโฟที่นี่ให้สีสันจัดจ้านชวนกินดีแท้ เครื่องเคราต่างๆก็ใส่มาเต็มสูตร แต่ที่พิเศษแตกต่างจากเย็นตาโฟทั่วไปที่เราเคยกิน คือมีการใส่กุ้งกรอบหรือกุ้งชุบแป้งทอดที่เคี้ยวเพลินปาก สอดรับกับรสชาติของเย็นตาโฟชามนี้ถือว่าจัดจ้านถึงใจดีแท้

แม้กินเบิ้ล 2 ชามจะอิ่มแปล้แล้ว แต่คุณเซี๊ยนบอกว่า ที่นี่มีอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ลองไม่ได้ก็คือ หมูสะเต๊ะ(ไม้ละ 3 บาท)

หมูสะเต๊ะร้านนี้พี่สุจะนำเนื้อหมูไปหมักก่อนด้วยสูตรเฉาะของทางร้าน ก่อนจะนำไปปิ้งจนสุกเหลืองหอม แล้วจึงยกเสิร์ฟน้ำจิ้มเคียงคู่อาจาด เมื่อส่งเนื้อหมู่คู่น้ำจิ้มเข้าปาก ขอบอกว่าเด็ดสะระตี่ดีแท้ เพราะหมูสะเต๊ะนั้นเนื้อแน่นนุ่ม ส่วนน้ำจิ้มที่หอมกรุ่นกลิ่นเครื่องนั้นให้รสเข้มข้นติดเผ็ดนิดๆ นับเป็นของอร่อยอีกอย่างหนึ่งของร้านที่ใครเมื่อไปภูเก็ตแล้วผ่านไปแถวกระทู้ หากอยากจะรู้ว่าของดี รสเด็ด ราคาเยาเป็นเช่นไร ร้านหมี่จี้สุเป็นหนึ่งในร้านที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>อร่อยราคาเยาที่ร้านหมี่จี้สุ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้านหมี่จี้สุ(หมี่โป๋เบี๋ยน)ตั้งอยู่ใน อ.กะทู้ ตรงซอยปากทางเข้าโรงเรียนบ้านกะทู้ จากตัวเมืองภูเก็ตตรงไปทางบ้านกะทู้ จะเห็นจุดสังเกตคือสนง.เทศบาลตำบลกะทู้ จากนั้นเลยไปประมาณ 200 เมตรก็จะถึงร้านจี้สุ ซึ่งเปิดขายทุกวัน(หยุดวันพุธ) เปิด 10.00 น.-17.00 น. โทร. 0-7620-2723


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ก๋วยเตี่ยวไก่ราชวัตร" ไก่นุ่ม น้ำซุปเข้ม
Travel - Manager Online
</TD><TD vAlign=baseline align=right width=85></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>14 มีนาคม 2553 14:09 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ราชวัตร</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>หากว่ามิตรรักนักคนไหนเป็นคอกินก๋วยเตี๋ยว และกำลังนึกอยากจะกินก๋วยเตี๋ยวไก่ร้อนๆ แสนอร่อยขึ้นมา ขอบอกว่าจะได้สมใจปาก เพราะว่าในมื้อนี้ "ผ่านมาแวะกิน"จะพาไปกินก๋วยเตี๋ยวไก่เลิศรส กันที่ร้าน "ก๋วยเตี๋ยวไก่ราชวัตร" ร้านนี้ขึ้นชื่อลือชาในรสชาติของก๋วยเตี๋ยวไก่ที่เข้มข้นด้วยน้ำซุป และเนื้อไก่อันนุ่มเปื่อย

ก่อนที่จะได้ลิ้มรสชาติก๋วยเตี๋ยวไก่ เรามีโอกาสได้คุยกับเจ้าของร้าน คุณพัทนี รื่นเริง เธอบอกว่าก๋วยเตี๋ยวไก่ของที่นี่สืบทอดสูตรเด็ดเคล็ดลับมาจากรุ่นคุณแม่ที่ทำก๋วยเตี๋ยวไก่ขายมานานกว่า 28 ปี ซึ่งก๋วยเตี๋ยวไก่ของที่นี่เป็นสูตรสไตล์คนจีน ซึ่งน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวจะเป็นแบบซุปน้ำข้น คือสีไม่ใสออกน้ำตาลนิดๆ เพราะใส่ซีอิ๊วดำ และจะหอมกลิ่นเครื่องยาจีนด้วย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋น</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>พูดมาถึงขนาดนี้แล้ว คงอยากจะกินก๋วยเตี๋ยวไก่กันแล้วใช่ไหม เอาเป็นว่าเราสั่ง ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋น (35 บาท) มาโซ้ยกันดีกว่า สำหรับเส้นก๋วยเตี๋ยวที่นี่มีให้เลือกอยู่หลายเส้น มีบะหมี่ เส้นใหญ่ เส้นหมี่ขาว และเส้นเล็กที่เราเลือกสั่งมา ก๋วยเตี๋ยวไก่เสิร์ฟมาร้อนๆ ในชามมีเนื้อไก่สับมาเป็นชิ้นๆ ได้จากไก่ที่ทางร้านเลือกไก่รุ่นๆ เอามาต้มในน้ำซุปผสมกับเครื่องเทศยาจีน ต้มจนไก่สุกได้เนื้อไก่นุ่มเคี้ยวนิ่มปาก แล้วมีน่องไก่ตุ๋นน่องโตใส่มาด้วย นอกจากน่องไก่แล้วทางร้านยังมี ปีก และขาให้เลือกอีกด้วย ซึ่งน่องไก่ ปีกไก่ และขาเหล่านี้จะนำมาตุ๋นกับเครื่องเทศยาจีนนานกว่า 2 ชม. จนเปื่อยนุ่มมากๆ น่องไก่นั้นเนื้อนุ่มเปื่อยล่อนโดนใจปากจริงๆ แถมมีเลือดไก่และเครื่องในไก่ด้วย ส่วนน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวอย่างที่บอกเป็นน้ำซุปแบบเข้มข้น รสชาติกลมกล่อมลิ้น หอมกลิ่นเครื่องยาจีนอ่อนๆ ซดน้ำซุปร้อนๆ โล่งคอโดยไม่ต้องปรุงเครื่องเพิ่มเลย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ข้าวมันไก่</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>แล้วนอกจากก๋วยเตี๋ยวไก่ที่เป็นเมนูเด่นชูโรงของที่นี่แล้ว ก็ยังมีเมนูอย่างอื่นที่ชวนกินอีก อย่างข้าวมันไก่ (30 บาท) ใช้เนื้อไก่ตัวเดียวกับก๋วยเตี๋ยวไก่ ส่วนข้าวมันใช้ข้าวหอมมะลิเอามาหุงกับมันไก่ที่เจียวกับกระเทียมและใส่น้ำซุปไก่ลงไปหุงจนข้าวสุกเป็นเม็ดไม่แฉะ เคี้ยวนุ่มปาก กินเข้าคู่กับไก่เนื้อนิ่ม และน้ำจิ้มรสเด็ด

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>และยังมี ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู (30 บาท) เป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำใส ที่น้ำซุปหวานกลมกล่อมน้ำต้มกระดูก ส่วนลูกชิ้นหมูเคี้ยวเด้งหนึบปากได้รสชาติเนื้อหมูเต็มปากเต็มคำ หรือจะสั่งเมนูอื่นที่น่ากินอีกหลายอย่าง อาทิ ก๋วยเตี๋ยวไก่ (30 บาท) ก๋วยเตี๋ยวไก่รุนแรง (55 บาท) ข้าวมันไก่ทอด (30 บาท) ฯลฯ เอาเป็นหากใครนึกอยากกินก๋วยเตี๋ยวไก่ขึ้นมา ร้าน "ก๋วยเตี๋ยวไก่ราชวัตร" ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่ามาลิ้มลองไม่น้อยเลย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
"ก๋วยเตี่ยวไก่ราชวัตร" ตั้งอยู่ที่ 983/2 ถ.นครไชยศรี เขตดุสิต กทม. การเดินทางถ้ามาจากสี่แยกราชวัตร วิ่งตรงมาที่ถ.นครไชยศรี (มุ่งหน้าทางรถไฟ) ตรงเข้ามาจนถึงกรมสรรพสามิต จะเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ราชวัตรเป็นตึกแถวตั้งอยู่ตรงข้าม จุดสังเกตุร้านอยู่ใกล้กับธ.ออมสิน เปิดทุกวัน เวลา05.00-15.00 น. ทางร้านรับออกงานนอกสถานที่ด้วย โทร. 08-3123-9294 และมีอีก 1 สาขา อยู่ตรงข้ามกับธ.กรุงเทพ เป็นร้านรถเข็น เปิด 17.30-01.00 น.

คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ก๋วยเตี๋ยวไก่ราชวัตร"


<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ก๋วยเตี๋ยวไก่ราชวัตร"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>14 มีนาคม 2553 15:11 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ชื่อร้าน : ก๋วยเตี่ยวไก่ราชวัตร

ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยวไก่

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋น, ข้าวมันไก่, ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู

บรรยากาศร้าน : ตึกแถว

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 983/2 ถ.นครไชยศรี เขตดุสิต กทม. การเดินทางถ้ามาจากสี่แยกราชวัตร วิ่งตรงมาที่ถ.นครไชยศรี (มุ่งหน้าทางรถไฟ) ตรงเข้ามาจนถึงกรมสรรพสามิต จะเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ราชวัตรเป็นตึกแถวตั้งอยู่ตรงข้าม จุดสังเกตุร้านอยู่ใกล้กับธ.ออมสิน

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา05.00-15.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : ทางร้านรับออกงานนอกสถานที่ด้วย โทร. 08-3123-9294 และมีอีก 1 สาขา อยู่ตรงข้ามกับธ.กรุงเทพ เป็นร้านรถเข็น เปิด 17.30-01.00 น.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ตี๋ใหญ่หอยทอด" รสยอด กรอบโดนใจ
Travel - Manager Online
</TD><TD vAlign=baseline align=right width=85></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 มีนาคม 2553 15:28 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=left border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศร้านตี๋ใหญ่หอยทอด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>หอย..จ้าหอย..มีแต่หอยใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลย!!

หากว่าแฟนๆ นักกินท่านไหนชอบ(กิน)หอย ขอให้ตาม "ผ่านมาแวะกิน" มาได้เลย เพราะในมื้อนี้เราจะพาไปกินหอยทอดอร่อยๆ กันที่ร้าน "ตี๋ใหญ่หอยทอด" เป็นร้านหอยทอดเจ้าเด็ดสุดฮิตอยู่ที่ท่าน้ำศิริราชมานานกว่า 43 ปี มีลุงสรพัส และป้าภรพัส วรงค์วิชร์ เป็นเจ้าของร้าน ที่คอยยืนอยู่หน้าเตาหอยทอดขนาดใหญ่ ทำหอยทอดร้อนๆ แบบจานต่อจานเสิร์ฟความอร่อยมาให้ถึงปากนักกินกัน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ลุงสรพัสและป้าภรพัสชวนกินหอยทอด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>หอยทอดของที่ร้านนี้เขาพิถีพิถันในเรื่องการคัดสรรหอยเป็นอย่างมาก มีหอยให้เลือกกินอยู่ 2 อย่างคือ หอยแมลงภู่และหอยนางรม ที่ทางร้านจะเลือกแต่หอยตัวโต และมีความสดส่งตรงมาจากมหาชัยทุกๆ วัน เรียกว่าถ้าหอยค้างคืนส่งกลิ่นเหม็น ไม่มีได้นำมาทำเป็นหอยทอดจานเด็ดของที่นี่อย่างแน่นอน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>หอยแมลงภู่และหอยนางรมทอดกรอบ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>เอาล่ะไม่ขอพูดพล่ามไปมากกว่านี้มาพิสูจน์รสชาติความอร่อยกันเลย กับจานแรกขอสั่งแบบรวมมิตรมาเลย คือ หอยแมลงภู่และหอยนางรมทอดกรอบ (70-80 บาท) ทางร้านนำหอยแมลงภู่และหอยนางรม ใส่ผสมมากับแป้งหอยทอดสูตรเฉพาะของทางร้าน ที่ได้มาจากแป้งมัน แป้งท้าว แป้งข้าวเจ้า และแป้งข้าวโพด ผสมปรุงรสรวมกันได้แป้งหอยทอดที่ไม่เหมือนร้านไหน พอลงทอดในกระทะแบนๆ ใบใหญ่แล้วก็ตอกไข่ใส่ลงไปแล้วทอดจนแป้งกรอบเหลืองได้ที่ แล้ววางมาบนถั่วงอกลวกสุก ซึ่งที่นี่ไม่นำถั่วงอกลงไปผัดเพราะจะทำให้เลี่ยนจากน้ำมัน ลิ้มรสชาติหอยทอดแป้งกรอบกรุบมากๆ ส่วนหอยช่างหวานสดเข้ากับแป้งหอยทอดที่มีรสชาติกลมกล่อมอยู่ในตัว ยิ่งกินกับน้ำจิ้มหอยทอดที่ทางร้านทำเองได้รสชาติออก 3 รสหวาน เปรี้ยว เค็ม ถูกปากกับเข้ากับหอยทอดมากๆ เลย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ทะเลทอดกรอบ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>จานต่อมาแนะนำ ทะเลทอดกรอบ (70-80 บาท) หน้าตาก็คล้ายกับหอยทอด แต่ต่างกันตรงเครื่องที่ใส่มามีทั้ง กุ้ง หมึก หอยนางรมและหอยแมลงภู่ ทอดมากับแป้งหอยทอดตัวเดียวกันแบบกรอบๆ กินแล้วอร่อยถูกปากครบเครื่อง

และใช่ว่าจะมีแต่หอยทอดที่เป็นเมนูเด่นชูโรงประจำร้านเท่านั้น ยังมีเมนูอื่นๆ ที่ชวนกินอีกไม่แพ้กัน อย่าง ผัดไททาโร่ (40 บาท) เป็นผัดไทที่ทางร้านประยุกต์ขึ้นมาเอง โดยนำเส้นทาโร่มาทอด แล้วทำผัดไทไร้เส้นแบบครบเครื่องราดมาบนเส้นทาโร่ ชิมแล้วถูกปากดีไม่น้อยกับเส้นทาโร่หอมๆ เคี้ยวกรอบชุ่มด้วยรสชาติผัดไทรสกลมกล่อม แถมใส่กุ้งและหมึกมาด้วย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ผัดไททาโร่</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเมนูที่อยากแนะนำให้เลือกสั่งมากินกัน อาทิ หอยแมลงภู่ทอดกรอบ (35-40 บาท) หอยนางรมทอดกรอบ (60-70 บาท) ผัดไทกุ้งสด (35-40 บาท) เย็นตาโฟ (35-40 บาท) บะจ่าง (ลูกละ 40 บาท) ฯลฯ สำหรับใครที่ชอบกินหอยทอดมาที่ร้าน "ตี๋ใหญ่หอยทอด" ไม่มีคำว่าผิดหวัง
</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
"ตี๋ใหญ่หอยทอด" ตั้งอยู่ที่ 25 ถ.พรานนก แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กทม. การเดินทางจากท่าเรือพรานนก (ท่าน้ำศิริราช) ให้เดินออกมาทางที่จะไปรพ.ศิริราช เดินตรงมาเรื่อยๆ จนเจอKFC แล้วให้มองหาศาลพระพรหมที่ตั้งอยู่ด้านหน้า แล้วหันยูเทิร์นกลับมาจะเห็นซอยเล็กๆ (ซ.เจ้าพ่อฉางเกลือ) ให้เดินเข้าไปในซอยนั้นจะเห็นร้านตี๋ใหญ่หอยทอดอยู่ขวามือ มีป้ายร้านสีแดงให้เห็นชัดเจน เปิดทุกวัน เวลา 08.30-19.30 น. ทางร้านรับออกงานด้วย โทร. 0-2411-0275, 08-1344-5842

คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ตี๋ใหญ่หอยทอด"

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ตี๋ใหญ่หอยทอด"
Travel - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 มีนาคม 2553 15:28 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ชื่อร้าน : ตี๋ใหญ่หอยทอด

ประเภทอาหาร : หอยทอด

เมนูจานเด่น : หอยแมลงภู่และหอยนางรมทอดกรอบ, ทะเลทอดกรอบ, ผัดไททาโร่

บรรยากาศร้าน : ตึกแถว

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 25 ถ.พรานนก แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กทม. การเดินทางจากท่าเรือพรานนก (ท่าน้ำศิริราช) ให้เดินออกมาทางที่จะไปรพ.ศิริราช เดินตรงมาเรื่อยๆ จนเจอKFC แล้วให้มองหาศาลพระพรหมที่ตั้งอยู่ด้านหน้า แล้วหันยูเทิร์นกลับมาจะเห็นซอยเล็กๆ (ซ.เจ้าพ่อฉางเกลือ) ให้เดินเข้าไปในซอยนั้นจะเห็นร้านตี๋ใหญ่หอยทอดอยู่ขวามือ มีป้ายร้านสีแดงให้เห็นชัดเจน

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.30-19.30 น.

เบอร์โทรศัพท์ : ทางร้านรับออกงานด้วย โทร. 0-2411-0275, 08-1344-5842
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<!-- google_ad_section_end -->

 

ร้านเจ๊เพ็ญ เย็นตาโฟเมืองจันท์ ใส่กันมาทั้งเนื้อกั้ง-เนื้อปู
éҹਪྦྷ? ???Ң??ͧ?ѹ?젣ʨ?ѹ??ѩ?๗鍡ѩ?-๗鍻٦lt;/a>




<TABLE class=blog_center_data><TBODY><TR><TD>

ไปเมืองจันทบุรีมื้อกลางวันถ้าเบื่อเข้าร้านอาหารใหญ่ ๆ โต ๆ จะชวนไปกินก๋วยเตี๋ยวด้วยกันสักมื้อ โดยเฉพาะคนที่ชอบกินเนื้อปูแบบที่ไม่ต้องแกะเองให้ยุ่งยาก ไม่ได้มีแต่เนื้อปูอย่างเดียว ยังมีเนื้อกั้งนึ่งสุกแกะให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว คนกินมีหน้าที่โซ้ยใส่ปากเคี้ยวแล้วก็กลืน






ร้านที่พูดถึงนี้ไม่ได้เป็นร้านใหญ่โตอะไร เป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ในตึกแถวห้องเดียวธรรมดา ๆ ไม่มีห้องแอร์ให้นั่ง ถ้าโต๊ะนั่งในร้านเต็มไม่ต้องเป็นกังวล ฝั่งตรงข้ามถนนหน้าร้านเขาตั้งโต๊ะไว้เป็นแถวตามแนวรั้ววัดไผ่ล้อม ชื่อร้านเจ๊เพ็ญเย็นตาโฟ อยู่ในซอยวัดไผ่ล้อม เมืองจันทบุรี






ถ้าเข้าจากทางถนนตากสิน ตรงนั้นจะเป็นสี่แยกไฟแดง ให้วิ่งรถเข้าถนนฝั่งที่เห็นเป็นซุ้มประตูวัดไผ่ล้อม วิ่งเข้าไปพอผ่านโรงเรียนวัดไผ่ล้อมทางฝั่งขวามือ ก็ให้เลี้ยวซ้ายตรงสามแยกวิ่งเลียบไปตามแนวรั้ววัด จะเห็นร้านเย็นตาโฟเจ๊เพ็ญอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ

​

เจ๊เพ็ญแกขายก๋วยเตี๋ยวมากว่า 40 ปี เรื่องรสชาตินี่คงจะปรับให้เข้าที่เข้าทางมานานแล้ว ไม่งั้นคงจะไม่มีคนมาอุดหนุนอยู่ได้นานขนาดนี้






เมนูของร้านเจ๊เพ็ญเป็นแบบขึ้นป้ายแปะข้างฝาไว้ทั้งสองฝั่ง อยู่ในร้านนั่งหันหน้าไปทางไหนก็ได้เห็น ราคาก๋วยเตี๋ยวแบบสแตนดาร์ดขายอยู่ชามละ 30 บาท

​

เครื่องประกอบก๋วยเตี๋ยวที่ทำให้น่ากินก็เหมือน ๆ กับร้านก๋วยเตี๋ยวทั่ว ๆ ไปคือหมูแดง แล้วก็ ฮื่อก้วย

​

ที่ไม่เหมือนกับร้านก๋วยเตี๋ยวทั่ว ๆ ไปก็คือที่ร้านนี้เขามีเนื้อปูกับเนื้อกั้งไว้ใส่ก๋วยเตี๋ยวด้วย

​

เนื้อปูนึ่งสุกแกะไว้แล้ว แยกไว้เป็นส่วน ๆ เห็นกันจะ ๆ ว่าเนื้อปูสดแน่นเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่เละเป็นแป้งหรือแฉะน้ำ

​

เนื้อกั้งนึ่งสุกแล้วก็ไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน เพราะแค่เหลือบไปเห็นก็กระตุ้นความอยากได้ดีนัก นึกถึงความนุ่มหวานของเนื้อกั้งแน่น ๆ ไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ทันได้สั่งอะไร






เครื่องเคียงกรอบ ๆ ที่จะใช้ใส่ลงมาในชามก๋วยเตี๋ยวให้เคี้ยวกันเพลิน ๆ ที่หลายร้านเลือกใช้เป็นเกี๊ยวกรอบ มีไส้หมูใส่มาบ้าง บางทีก็ไม่ใส่เป็นแผ่นแป้งเปล่า ๆ ก็มีอยู่หลายเจ้า แต่ของเจ๊เพ็ญไม่ใช้เกี๊ยวกรอบ ใช้เป็นเส้นบะหมี่กรอบ คล้ายแบบที่ใช้โรยหน้าในชามเวลาที่ไปกินข้าวซอยนั่นแหละ แต่เส้นของเจ๊เพ็ญดูจะใหญ่กว่าหน่อย






เครื่องกรอบอีกอย่างก็เป็นหนังปลาทอดกรอบ ไม่ทันได้ถามว่าเป็นหนังปลาอะไร เพราะเห็นเจ๊กำลังตั้งอกตั้งใจทำก๋วยเตี๋ยวให้ลูกค้า รู้แต่ว่าใส่ลงมาคลุกเคล้าให้เข้าน้ำเข้าเนื้อกับก๋วยเตี๋ยวในชามแล้วก็กินเพลินออกรสชาติ ไม่เหนียวแล้วก็ไม่เหม็นหืน คงจะทอดออกมาใหม่

​

เครื่องกรอบท้ายสุดเป็นแผ่นแป้งทอดบ้าง ๆ ในแผ่นแป้งก็มีกุ้งตัวเล็ก ๆ ใส่ติดมาด้วย อันนี้ไม่ค่อยได้เห็นจากร้านอื่น ที่เคยเจอถ้าจะมีก็จะเป็นกุ้งฝอยชุบแป้งทอดเป็นแพ แบบที่เป็นแผ่นแป้งค่อนข้างหนาหน่อย กินแล้วบางทีก็เจอหนวดกุ้งทำให้คันคอบ้าง เจอกรีกุ้งทิ่มเหงือกเอาบ้าง

​

เห็นกาละมังที่เจ๊เพ็ญเขาใส่หนังปลากับแผ่นแป้งกุ้งทอดแบบชิ้นพอคำไว้ดูน่ากิน คงเตรียมไว้ใช้ใส่ก๋วยเตี๋ยวให้กับลูกค้า เลยสั่งใส่จานมาเคี้ยวเล่นเป็นของว่างเสียก่อน กันส่วนหนึ่งไว้เติมใส่ตอนกินก๋วยเตี๋ยวด้วย

​

ของว่างอีกอย่างที่ร้านนี้ทำขาย เห็นใครเข้าร้านก็มักจะสั่งมากินรอก๋วยเตี๋ยว เป็นเต้าหู้ทอดที่ทอดกันใหม่ ๆ อยู่ที่หน้าร้าน เต้าหู้ทอดนี้เวลาที่ฟูเหลืองอยู่ในกระทะ จะอร่อยหรือไม่อร่อยยังไม่รู้ แต่ทั้งหน้าตาทั้งกลิ่นยวนใจให้ต้องสั่งมากินอยู่ไม่น้อย

​

น้ำจิ้มที่ไม่มีเครื่องผสมอะไรให้ยุ่งยากซับซ้อน แต่ก็เข้ากันได้ดีกับเต้าหู้ทอด โดยเฉพาะถั่วลิสงแบบคั่วเองที่จำออกมาใช้งานกันแบบใหม่ ๆ

​

เห็นดีเห็นงามร่วมกันแล้วก็ตกลงสั่งเต้าหู้ทอดมาสักจาน เอาแบบอร่อยสั่งได้ขอให้ทอดแบบกรอบ ๆ หน่อย คนทอดก็ตามใจ เอาเต้าหู้ทอดที่ตักพักให้สะเด็ดน้ำมันมาหั่นเป็นชิ้น แล้วส่งกลับลงกระทะไปใหม่เลี้ยงไฟไม่ให้แรง ถึงจะรอนานอีกหน่อยแต่ก็ได้เต้าหู้กรอบโดนใจ






กินของทอด ๆ แล้วคอชักแห้งเรียกหาน้ำ ไม่อยากได้น้ำเปล่า เบื่อน้ำอัดลม ที่ร้านนี้ก็มีให้เลือกสั่งทั้งกาแฟโบราณ พวกโอเลี้ยง ชาดำเย็น และแบบน้ำเก๊กฮวย น้ำกระเจี๊ยบ ที่สั่ง ขายอยู่แก้วละ 10 บาท

​

ถึงเวลาที่ชามก๋วยเตี๋ยวถูกลำเลียงมาลงโต๊ะแล้ว เจ๊เพ็ญเขาตั้งราคาขายก๋วยเตี๋ยวแบบธรรมดา ๆ เริ่มต้นที่ชามละ 30 บาท แต่ถ้าเรียกหาเนื้อปูเนื้อกั้งให้ใส่ลงมาด้วยแบบในชามบะหมี่แห้งที่สั่งมานี้ ราคาก็จะกระโดดไปเริ่มต้นที่ชามละ 50 บาท ดูแต่ราคาก็ต้องคิดไว้ก่อนว่าแพงจัง แต่พอดูเนื้อหาที่เจ๊เพ็ญใส่เอามาให้แล้วก็ต้องขอถอนความคิด ขาจ๊วบหลายคนที่ยอมจบแค่ชามเดียว ชนิดชอบลองหลาย ๆ อย่างก็คงได้ไม่เกินสอง ขืนขึ้นชามที่สามเป็นอันจุก

​

คนที่ชอบแบบมีน้ำซดก็ต้องสั่งเป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำ ที่เนื้อหาในชามก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าก๋วยเตี๋ยวแห้ง






ที่ไปถึงร้านเจ๊เพ็ญแล้วไม่ได้สั่งมาลองก็คงจะเหมือนไปไม่ถึง ชื่อร้านก็บอกอยู่แล้วว่าเจ๊เพ็ญเย็นตาโฟ ก็ต้องสั่งเย็นตาโฟมาลองลิ้มชิมรสกันหน่อย สูตรน้ำสีแดง ๆ ใส่เย็นตาโฟนี้ เจ๊เพ็ญเขาคิดค้นทำขึ้นมาเป็นการเฉพาะเอง ไม่ชอบกินเส้นก็สั่งมาเป็นชามเกาเหลาแบบนี้ จะเอาอะไร ไม่เอาอะไรบอกได้ เจ๊เพ็ญพร้อมจะจัดให้ตามต้องการ

​

ชามที่น่าจะถูกปากคนชอบกินรสจัดแบบหวานกับเปรี้ยวนำ ก็ต้องเป็นเย็นตาโฟแห้งสูตรเจ๊เพ็ญ ที่ปรุงรสออกมาได้เหมือนกำลังกินก๋วยเตี๋ยวต้มยำแบบไม่เผ็ดพริกยังไงยั้งงั้น บีบมะนาวใส่ลงไปแล้วคนชอบเผ็ดก็ปรุงพริกลงไปอีกหน่อยตามชอบใจ

​

ที่สั่งมาเป็นเกี๊ยวปลาเย็นตาโฟแห้ง แผ่นเกี๊ยวที่ห่อนึ่งออกมาแล้วบางใสเห็นเนื้อใน เคี้ยวแล้วก็รับรู้ได้ถึงความเหนียวนุ่มอร่อยปาก

​

นั่งกินอยู่ในร้านถ้าชะโงกไปโต๊ะข้าง ๆ เห็นก้ามปูในชามเขาใหญ่กว่าของเราก็อย่าเพิ่งโวยวาย ต้องโทษตัวเองที่ไม่ได้สั่งแบบพิเศษ บอกไว้แล้วว่าก๋วยเตี๋ยวใส่เนื้อปูเนื้อกั้งที่ร้านนี้ราคาเริ่มต้นกันที่ชามละ 50 บาท อยากกินให้พิเศษมากไปกว่าชามราคาเริ่มต้น ก็ต้องบอกเจ๊เพ็ญเขาว่าจะเอาแบบ 60 บาท 70 บาท หรือจะมากกว่านี้เจ๊เพ็ญเขาก็จัดให้ได้

​

เห็นทั้งก้ามปูใหญ่ ๆ เห็นทั้งกั้งที่หลายตัวมีไข่อยู่แน่นเต็มอย่างนี้ อยากสั่งมากินเปล่า ๆ แบบจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ด เจ๊เพ็ญเขาไม่ยอมขาย บอกว่าของดีมีน้อย จะเก็บเอาไว้ใส่ก๋วยเตี๋ยวให้กับคนที่มาสั่งกิน






ไปร้านเจ๊เพ็ญมาก็หลายหน แต่ยังตัดสินใจบอกได้ไม่ถูกว่า จะไปกินก๋วยเตี๋ยว หรือจะไปกินกั้งกินปูกันแน่ !!!

ชาร / 9 พฤศจิกายน 2552​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เข้มข้น ถึงน้ำถึงเนื้อ"ก๋วยเตี๋ยวเรือวัฒนา"
Travel - Manager Online
</TD><TD vAlign=baseline align=right width=85></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 เมษายน 2553 12:08 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศโต๊ะนั่งร้านก๋วยเตี๋ยวเรือวัฒนา</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> "ผ่านมาแวะกิน" มีโอกาสเวียนแวะมาแถวคลองรังสิต คลองที่มีชื่อเสียงมานานในแง่ที่ว่ามีร้านก๋วยเตี๋ยวเรืออยู่มากมาย และมีเอกลักษณ์เป็นที่สะดุดตาแก่นักกินทั้งหลาย ตรงที่ส่วนใหญ่เป็นเรือเอี๊ยมจุ้นที่ถูกดัดแปลงมาเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรือจอดลอยลำเลียบริมคลองรังสิตอยู่หลายเจ้า ซึ่งหากใครไปแถวคลองรังสิตแล้วเกิดหิวขึ้นมา ก็มักแวะอิ่มท้องกับก๋วยเตี๋ยวเรือเหล่านี้กัน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือวัฒนา</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> และเมื่อเรามีโอกาสมาที่คลองรังสิตในมื้อนี้ ก็ไม่พลาดที่จะขอฝากท้องอิ่มกับก๋วยเตี๋ยวเรือเช่นกัน และหนึ่งในร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าเด็ดดังแห่งคลองรังสิตที่ได้แวะไปกินก็คือร้าน "ก๋วยเตี๋ยวเรือวัฒนา" ซึ่งจอดเรือลอยลำขายอยู่ตรงรังสิตคลอง 1 มานานกว่า 15 ปี มีคุณปุ๋ย ภูมินทร์ จิระวุฒิกุล เป็นเจ้าของร้าน ที่คิดค้นสูตรก๋วยเตี๋ยวเรือในแบบฉบับของทางร้านขึ้นมาเอง

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อน้ำตก</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ก๋วยเตี๋ยวเรือของที่นี่มีให้เลือกกินทั้งเนื้อวัวและเนื้อหมู ซึ่งทำขายแบบแยกหม้อ ใครใคร่กินเนื้อขอแนะนำให้สั่ง ก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อน้ำตก (ธรรมดา 25 บาท พิเศษ 35 บาท) จะเลือกสั่งเป็นเส้นอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเส้นเล็ก เส้นใหญ่ วุ้นเส้น และบะหมี่ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อน้ำตกของที่นี่โดดเด่นตรงน้ำซุป ซึ่งทางร้านจะเลือกใช้แต่กระดูกเนื้อวัวล้วนๆ นำมาต้มกับน้ำ พร้อมปรุงรส ใส่เครื่องเทศยาจีนและสมุนไพรไทยลงไปต้มเคี่ยวอยู่นานจนได้น้ำซุปที่หอมกรุ่นกลิ่นเครื่องเทศ และใส่เลือดวัวสดๆ ผสมมาด้วย ทำให้ได้น้ำซุปรสชาติเข้มข้นกลมกล่อม ซดร้อนๆ ชุ่มคอ

ส่วนเครื่องที่ใส่มาในชามมีเนื้อเปื่อย ที่ใช้เนื้อน่องลายตุ๋นในน้ำซุปกว่า 3 ชม. ได้เนื้อที่เคี้ยวนิ่มเปื่อยนุ่ม มีเนื้อสดที่ใช้เนื้อส่วนสะโพกหมักกับเครื่องปรุง กินแล้วเคี้ยวนุ่มหนึบหนับปาก และยังมีตับ ผ้าขี้ริ้ว และลูกชิ้นเนื้อ ที่กินแล้วถูกปากทุกอย่างเลย แถมยังโรยหน้ามาด้วยกากหมูกรุบกรอบที่ทางร้านทำเอง

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวเรือหมูน้ำตก</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> แต่ถ้าใครไม่กินเนื้อวัวก็สั่ง ก๋วยเตี๋ยวเรือหมูน้ำตก (ธรรมดา 25 บาท พิเศษ 35 บาท) ชามนี้น้ำซุปหอมหวานกลมกล่อมไม่แพ้กัน ซึ่งทางร้านเลือกใช้กระดูกหมูล้วนๆ มาต้มเคี่ยวกับเครื่องเทศยาจีนและสมุนไพรไทยเช่นกัน และใส่เลือดหมูสดๆ ในชามก็ใส่เครื่องหลายอย่างมีทั้งหมูตุ๋น ที่ใช้หมูส่วนขั้วตับมาตุ๋นกับน้ำซุปนาน 3 ชม. ได้เนื้อหมูเคี้ยวนุ่มหนึบๆ ปาก มีหมูสดเคี้ยวนิ่มนุ่มหวานเพราะใช้เนื้อสันใน และมีตับหมูกับลูกชิ้นหมูใส่มาด้วย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>หมูสะเต๊ะ (บน) เกี๊ยวทอดและปอเปี๊ยะทอด (ล่าง)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> นอกจากก๋วยเตี๋ยวเรือทั้งเนื้อและหมูแล้ว ทางร้านก็ยังมีเมนูอื่นๆ ให้สั่งมากินอีกมากมาย อาทิ หมูสะเต๊ะ (35 บาท 10 ไม้) เนื้อนุ่มกินกับน้ำจิ้มรสเด็ด เกี๊ยวทอดและปอเปี๊ยะทอด (25 บาท) ที่กรอบกรุบรสดี และยังมีก๋วยเตี๋ยวต้มยำ (25-35 บาท) ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ (25-35 บาท) ลูกชิ้นปิ้งหมู-เนื้อ (ไม้ละ 10 บาท) ติ่มซำ (เข่งละ 22 บาท) ขนมถ้วย (คู่ละ 5 บาท) เรียกว่าขึ้นมาบนเรือของร้าน "ก๋วยเตี๋ยวเรือวัฒนา" แล้วเป็นได้อิ่มแน่นท้องกลับบ้านพุงกางกันไปเลย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
การเดินทางมาร้าน "ก๋วยเตี๋ยวเรือวัฒนา" ถ้ามาจากห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ขับมาตามเส้นทางถ.รังสิต-นครนายก ขับไปประมาณ 1 กม. ให้กลับรถยูเทิร์นที่สอง กลับรถแล้วขับชิดซ้ายไว้ สังเกตริมคลองฝั่งตรงข้ามจะเห็นเรือลำใหญ่เขียนป้ายชื่อร้านก๋วยเตี๋ยวเรือวัฒนา ให้เลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานข้ามคลองไปจอดรถได้หน้าร้าน จุดสังเกตุอยู่หน้าหมู่บ้านสิริวลัย เปิดทุกวัน 08.00-17.00 น.(หยุดวันพุธที่ 2 และ 4 ของเดือน) แต่เทศกาลต่างๆ ไม่หยุด รับออกงานนอกสถานที่ โทร. 08-4033-2333

คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ก๋วยเตี๋ยวเรือวัฒนา"

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ก๋วยเตี๋ยวเรือวัฒนา"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 เมษายน 2553 12:08 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=600> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ชื่อร้าน : ก๋วยเตี๋ยวเรือวัฒนา

ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยวเรือ

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อน้ำตก, ก๋วยเตี๋ยวเรือหมูน้ำตก, หมูสะเต๊ะ, เกี๊ยวทอดและปอเปี๊ยะทอด

บรรยากาศร้าน : เป็นเรือตกแต่งให้มีโตีนั่งสบายๆ

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ถ้ามาจากห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ขับมาตามเส้นทางถ.รังสิต-นครนายก ขับไปประมาณ 1 กม. ให้กลับรถยูเทิร์นที่สอง กลับรถแล้วขับชิดซ้ายไว้ สังเกตริมคลองฝั่งตรงข้ามจะเห็นเรือลำใหญ่เขียนป้ายชื่อร้านก๋วยเตี๋ยวเรือวัฒนา ให้เลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานข้ามคลองไปจอดรถได้หน้าร้าน จุดสังเกตุอยู่หน้าหมู่บ้านสิริวลัย

สถานที่จอดรถ : จอดรถได้ริมถนนบริเวณหน้าร้าน

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.00-17.00 น.(หยุดวันพุธที่ 2 และ 4 ของเดือน) แต่เทศกาลต่างๆ ไม่หยุด

เบอร์โทรศัพท์ : รับออกงานนอกสถานที่ โทร. 08-4033-2333

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ผัดไท ท่ายาง เพชรบุรี พลาดไม่ได้
˹ѧ��;������ЪҪҵԸ�áԨ�͹�Ź� | ���͹�س��ǧ˹�� �ء�� �ء����

ช่วงสงกรานต์ คนกรุง หนีร้อน หนีความวุ่นวายในเมืองกรุงไปเที่ยวต่างจังหวัด
[FONT=′Angsana New′]ปีนี้ จากการสำรวจ พบว่า คนกรุงล่องใต้ มากเป็นพิเศษ[/FONT]<O</O
[FONT=′Angsana New′]จากกรุงเทพ มุ่งสู่ เมืองเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร แน่นขนัด[/FONT]<O</O
[FONT=′Angsana New′]ชายหาด เนื่องแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว ที่หนีร้อนไปพึ่งเย็น[/FONT]<O</O
[FONT=′Angsana New′]ห้องพักจากชะอำ ไปถึง ชุมพร เต็มเกือบทุกที่ [/FONT]<O</O
[FONT=′Angsana New′]แต่ ระหว่างเส้นทางไปสู่ ชายทะเล [/FONT]<O</O
[FONT=′Angsana New′]วันนี้ ขอแนะนำ เมนูเด็ด ไม่ใช่ ข้าวแกง ที่เขาย้อย เพชรบุรี [/FONT]<O</O
[FONT=′Angsana New′]แต่เป็น ผัดไท เจ้าเก่า ที่ตลาดท่ายาง เพชรบุรี [/FONT]<O</O
[FONT=′Angsana New′]ร้านเก่าแก่ ที่คนกรุง แวะไปทาน ผัดไทกุ้งสด อย่างชนิดเนืองแน่น[/FONT]<O</O
[FONT=′Angsana New′]เป็นผัดไท ที่ไม่มี เต้าหู้ ไม่มี กุ้งแห้ง ไม่มีมะนาว(เพราะมันแพง) [/FONT]<O</O
[FONT=′Angsana New′]มีแต่ กุ้งสด เห็ด และมะม่วง(แทนมะนาว)[/FONT]<O</O
[FONT=′Angsana New′]ความอร่อยคือ เส้นก๋วยเตี๋ยวที่นุ่มและรสชาติ กำลังดี[/FONT]<O</O
[FONT=′Angsana New′]ชอบเผ็ดก็ใส่พริกกะเหรี่ยง [/FONT]<O</O
[FONT=′Angsana New′]ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 9 โมง ถึง 4 โมงเย็น[/FONT]<O</O
[FONT=′Angsana New′]ไม่เพียง ผัดไท ยังมี ราดหน้า ข้าวผัดปู ก๋วยเตี๋ยวหมู [/FONT]<O</O
[FONT=′Angsana New′]แม่ครัว เป็น อาม่า และเจ๊ กะทะเหล็ก [/FONT]<O</O
[FONT=′Angsana New′]เครื่องดื่ม ต้องเป็น น้ำตาลโตนด หรือ น้ำอ้อย[/FONT]<O</O
[FONT=′Angsana New′]กินผัดไท อิ่มแล้วค่อยเดินทางไปเที่ยวต่อ [/FONT]<O</O
[FONT=′Angsana New′]ถ้าจะให้ดี ควรซื้อ ทองม้วนไปเป็นเสบียง ระหว่างทาง[/FONT]<O</O
[FONT=′Angsana New′]จริง ๆ แล้ว ผัดไท ท่ายาง มีน้องสาว อยู่ในในเมืองเพชร อีกร้าน[/FONT]<O</O
[FONT=′Angsana New′]สืบทอดความอร่อย แบบไม่ขาดสาย แต่นักชิมบอกว่า ผัดไท ท่ายาง อร่อยที่สุด ในโลก[/FONT]<O</O
[FONT=′Angsana New′]เช่นเดียวกับ ก๋วยเตี๋ยว เนื้อ ต้อง สูตร เจ๊กเม้ง [/FONT]<O</O
[FONT=′Angsana New′]ที่คนกรุง ไม่ควร พลาด [/FONT]<O</O
[FONT=′Angsana New′]วันนี้ สูตร เจ๊ก เม้ง มีให้กันหลายร้าน[/FONT]<O</O
[FONT=′Angsana New′]แต่อร่อย เหมือนกัน... [/FONT]

[FONT=′Angsana New′]<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>[/FONT]
[FONT=′Angsana New′]<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>

ลงมือโซ้ยแล้ว ครับ ​

[/FONT]

</TD></TR></TBODY></TABLE>
[FONT=′Angsana New′]<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>

ชอบเผ็ด ต้องใส่พริกกะเหรี่ยง ​

[/FONT]

</TD></TR></TBODY></TABLE>
[FONT=′Angsana New′]<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>

ของอร่อย ต้องใจเย็น รอสักนิด ​

[/FONT]

</TD></TR></TBODY></TABLE>
[FONT=′Angsana New′]<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>

นี่ครับ ผัดไทท่ายาง เจ้าเก่า ​

[/FONT]

</TD></TR></TBODY></TABLE>
[FONT=′Angsana New′]<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>

จอดรถที่ ศาลเจ้ากวนอู ​

[/FONT]

</TD></TR></TBODY></TABLE>
[FONT=′Angsana New′]<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>

อาม่า กะทะเหล็ก ​

[/FONT]

</TD></TR></TBODY></TABLE>
[FONT=′Angsana New′]<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>

บรรยากาศภายในร้าน ​

[/FONT]

</TD></TR></TBODY></TABLE>
[FONT=′Angsana New′]<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>

คนท่ายาง รวยทอง(ม้วน) ​

[/FONT]

</TD></TR></TBODY></TABLE>
[FONT=′Angsana New′]<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>

ช่างทอง(ม้วน) ​

[/FONT]

</TD></TR></TBODY></TABLE>
[FONT=′Angsana New′]<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>

หน้าร้านผัดไท ขายมะรุม มะม่วงกวน น้ำผึ้ง และข้าวตู่ ​

[/FONT]

</TD></TR></TBODY></TABLE><O</O
<!-- google_ad_section_end -->

 

'สปาเกตตี' เมนูเส้น-เทรนด์ทำเงิน
Daily News Online > เสาร์สปอร์ต > ช่องทางทำกิน > ช่องทางทำกิน > 'สปาเกตตี' เมนูเส้น-เทรนด์ทำเงิน






ปัจจุบันธุรกิจร้านอาหารเกิดขึ้นมากมาย เพื่อให้ธุรกิจอยู่ได้ในภาวะที่แข่งขันสูง นอกจากต้องเน้นเรื่องรสชาติที่ดีแล้ว ต้องทำให้ร้านมีจุดเด่น น่าสนใจ เหมือนกับร้านที่เน้นขายอาหาร “เมนูเส้น” เป็นหลัก เป็นการสร้างจุดเด่นให้กับร้าน ซึ่งก็ถือว่าได้ผลดี ซึ่งทีม “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมานำเสนอในวันนี้...

กนก วรธรรมนนท์ กับเพื่อนอีก 2 คน คือ พรนภา และ ปญาดา ชื่นสำโรง ร่วมกันลงทุนเปิด “ร้านเส้น-สะหน้าน” เป็นร้านอาหารที่เน้นขายอาหารเมนูที่ใช้เส้นเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นอาหารจานด่วนอย่าง ขนมจีน น้ำยาป่า น้ำกะทิ แกงเขียวหวาน ก๋วยเตี๋ยวผัด หรือจะเป็นอาหาร อิตาเลี่ยนอย่าง สปาเกตตี ก็มี

เจ้าของร้านร่วมกันเล่าว่า ปกติทุกคนก็จะมีงานประจำกันอยู่แล้ว แต่อยากเปิดร้านขายอาหารเป็นของตัวเอง จึงหุ้นกันหาที่เปิดร้าน หาทำเลที่เป็นแหล่งชุมชน ก็มาได้ที่ในซอยโชคชัยร่วมมิตร ที่มีผู้คนพลุกพล่าน

“ได้ทำเลคนเยอะ แต่ก็มีร้านอาหารอยู่เป็นจำนวนมาก จึงต้องมาช่วยกันนั่งคิดว่าจะเปิดขายอะไร พอดีคุณแม่ของพรนภาและปญาดามีสูตรการทำน้ำยาป่า น้ำยากะทิ และแกงเขียวหวานที่อร่อย จึงนำมาทำเป็นเมนูขายที่ร้าน และจากการที่ได้สำรวจดูในย่าน ยังไม่มีร้านอาหารที่เน้นเส้นเป็นหลัก จึงตัดสินใจเปิดเป็นร้านขายอาหารที่เน้นเส้น เป็นการสร้างจุดเด่นจุดขายให้ทางร้าน”

เมนูอาหารของร้านจะเน้นเมนูที่เป็นเส้นทุกอย่าง มีทั้งอาหารไทย และเมนูสปาเกตตีที่เป็นอาหารอิตาเลี่ยน ซึ่งทางร้านจะนำมาทำเป็นเมนูต่าง ๆ มากมายทั้งที่เป็นรสชาติแบบไทย อาทิ สปาเกตตีผัดเขียวหวาน สปาเกตตีผัด กะเพรา สปาเกตตีผัดขี้เมา หรือจะเป็นรูปแบบอิตาเลี่ยนก็มี เช่น สปาเกตตีไวท์ซอส เป็นต้น ซึ่งนำมาทำขายในราคาที่ไม่สูง ทำให้เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าอีกเมนูหนึ่ง

และวันนี้ทางร้านก็ให้สูตรการทำสปาเกตตี 2 สูตร ทั้งแบบสไตล์ไทย และสไตล์ฝรั่ง

การทำเริ่มจากการจัดการกับเส้นสปาเกตตีด้วยกรรมวิธีการทำให้เส้นนิ่มเสียก่อน โดยเส้นสปาเกตตีที่ใช้นั้นจะต้องใช้ เส้นเบอร์ 2 ควรเลือกซื้อที่เป็นเกรดดี การลวกเส้นสปาเกตตีเริ่มจากนำหม้อใส่น้ำสะอาดไปตั้งไฟ ดูจนน้ำในหม้อเริ่มเดือด ก็ให้ใส่เส้นสปาเกตตีลงไปในหม้อ ต้มเส้นทิ้งไว้ประมาณ 8-10 นาที จากนั้นก็ให้นำเส้นสปาเกตตีขึ้น แล้วนำไปแช่ในน้ำเย็นที่เตรียมไว้ จากนั้นก็นำขึ้นไปใส่กล่องทัพเพอร์แวร์ปิดฝาให้สนิท นำไปแช่เก็บไว้ในตู้เย็น พอจะทำอาหารก็ค่อยนำออกมาทำ โดยสามารถเก็บไว้ได้นานประมาณ 4-5 วัน

ทั้งนี้ การนำเส้นสปาเกตตีที่ต้มสุกแล้วแช่ในน้ำเย็น ก็เพื่อทำให้เส้นสปาเกตตีนั้นเหนียวนุ่ม เส้นไม่เละ และสามารถเก็บไว้ได้นานอีกด้วย นี่คือเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการลวกเส้นสปาเกตตี

การทำ “สปาเกตตีขี้เมา” สไตล์อาหารไทย เริ่มจากตั้งกระทะใส่น้ำมัน พอน้ำมันร้อนก็ใส่พริกและกระเทียมทุบหยาบ ๆ ลงไปทำการผัดให้พอมีกลิ่นหอม จากนั้นก็ใส่เนื้อที่ต้องการลงไป จะเป็นเนื้อหมู เนื้อไก่ ก็ได้ ถ้าเป็นขี้เมาทะเลก็ใส่ กุ้ง ปลาหมึก ลงไป ทำการผัด จากนั้นก็ทำการปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำตาล น้ำปลา ใส่ผัก ถั่วฝักยาว พริกไทยเม็ด แครอท ลงไปผัดจนสุก

เมื่อผัดจนเครื่องสุกแล้ว ให้ใช้ตะหลิวเกลี่ยไว้บริเวณขอบ ๆ กระทะก่อน นำเนยประมาณ 1 ช้อนชา ใส่ลงไปในกระทะ จากนั้นก็นำเส้นสปาเกตตีที่ลวกไว้ในตู้เย็นออกมาใช้ประมาณ 120 กรัม ใส่ลงผัดกับเนยเพื่อให้เส้นสปาเกตตีหอมเนย จากนั้นผัดคลุกเคล้ารวมกับเครื่องขี้เมา ผัดไปสักพักก็ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

การผัดเส้นสปาเกตตีที่เป็นเมนูอาหารสไตล์ไทยนั้น ไม่ว่าจะเป็นผัดขี้เมา ผัดกะเพรา ผัดแกงเขียวหวาน ก็จะทำคล้าย ๆ กัน คือต้องผัดเครื่องก่อน แล้วผัดเส้นกับเนย แล้วจึงนำ 2 ส่วนผัดคลุกเคล้ากัน

สำหรับการทำ “สปาเกตตีไวท์ซอส” สไตล์อาหารฝรั่ง เริ่มจากการนำเส้นสปาเกตตีที่ลวกไว้แล้ว 120 กรัม ลงผัดคลุกเคล้ากับเนยประมาณ 1 ช้อนชา ผัดให้เส้นหอมและเส้นร้อน ก็ตักขึ้นใส่จาน

จากนั้นก็มาทำซอสราด เริ่มจากนำแฮมและเห็ดฟางลงไปผัดในกระทะ ใส่หอมใหญ่ที่หั่นเป็นลูกเต๋าเล็ก ๆ ลงไปผัดให้พอสุก นำวิปครีมสำเร็จรูปผสมกับนมสดประมาณ 8 ออนซ์ ใส่ลงไปในกระทะ ทำการผัดไปจนซอสเดือด มีความเหนียว ก็ตักขึ้นไปราดบนเส้นสปาเกตตีที่ผัดเตรียมไว้ โรยด้วยออริกาโน และเบคอนทอดกรอบ พร้อมเสิร์ฟได้ทันที

การทำสปาเกตตีซอสต่าง ๆ สไตล์ฝรั่ง ก็จะทำคล้าย ๆ กัน คือต้องผัดเส้นก่อนแล้วจึงผัดซอสมาราดลงบนเส้นสปาเกตตีอีกที

อาหารเมนูเส้นของร้านนี้ มีอยู่หลากหลายเมนู มีราคาตั้งแต่ 40-60 บาทต่อจาน และช่วงเย็นเวลาประมาณ 5 โมงไปแล้วยังมีพวก ก๋วยเตี๋ยวปลา ก๋วยเตี๋ยวทะเล รวมถึง ข้าวต้มปลา ทะเลลวกจิ้ม ขายด้วย

“ร้านเส้น-สะหน้าน” ตั้งอยู่ในซอยวิภาวดี 16 (ซอยโชคชัยร่วมมิตร) ร้านจะอยู่ระหว่างแยก 7 และแยก 9 เบอร์โทรศัพท์คือ โทร. 0-2690-0718 ใครสนใจก็ลองแวะไปชิมกันได้ ส่วนใครที่อยู่ในทำเลอื่น ๆ ที่กำลังคิดจะขายอาหาร หากยังไม่รู้ว่าจะขายอะไรดี บางที “เมนูเส้น” ต่าง ๆ อาจเป็นทางเลือกที่ดีก็ได้.

บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ : รายงาน

 

ก๋วยเตี๋ยวเจ๊กอ้า

สวรรค์ในครัว

เขียง มะขาม

˹ѧ

ก๋วยเตี๋ยวเจ๊กอ้า

สวรรค์ในครัว

เขียง มะขาม

http://www.khaosod.co.th/view_news....ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1DMHdOQzB5TXc9PQ==

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>หลังเฉียดไปมาเหมือนลิเกรบกันอยู่หลายครั้ง

ในการยกโขยงหนล่าสุด พาเด็กน้อยเด็กใหญ่ทั้งหลายแห่กันไปสูดโอโซน-และกินๆๆๆๆ ตลอดรายการ

คณะพรรคของเราเริ่มต้นมื้อแรกของการเดินทางที่เพชรบุรี

เลี้ยวปร๊าดเข้ามาทางเขาวัง พอถึงหน้าวิทยาลัยอาชีวะจอดพักก่อนหนึ่งครั้ง

ลงไปซื้อ "ข้าวแช่ป้าลาภ" ตุนไว้เป็นเสบียงมาร่วม 10 ชุด แถมขอแบ่ง "ปลากวน" ที่เดี๋ยวนี้เขาไม่ยอมขายแยก(ถ้าไม่ซี้กัน) มาเป็นพิเศษอีกถุงใหญ่

แล้วก็ดิ่งไปที่หมาย-วัดมหาธาตุ

ในย่านเก่าแถวนี้ของเมืองเพชรบุรี มีอาหารโดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยว-โดยเฉพาะอย่างยิ่งก๋วยเตี๋ยวเนื้อขึ้นชื่ออยู่หลายเจ้า

แต่โชเฟอร์ของเราบอกว่าวันนี้จะส่งชุดใหญ่ลงไปกินที่ร้าน "เจ๊กอ้า" เพราะว่าใกล้ๆ กันมีร้านก๋วยเตี๋ยวหมูให้คนไม่กินเนื้อปลีกวิเวกไปได้ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ตอนจอดเอี๊ยดหน้าร้านนั้นเพิ่งสิบเอ็ดโมงตรง แต่หิวซ่กกันมาทั้งรถ

เพราะกินข้าวเช้ามาน้อย บางคนก็ไม่ได้ กินมา

ผู้ใหญ่หนึ่ง เด็กสามที่เข้าประจำการร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อสั่งทันทีไม่รีรอ

เกาเหลาทุกอย่างหนึ่ง เหลาสดเปื่อยอีกหนึ่ง และเล็กแห้งชิ้นสดอีกสอง

ตามประสาผู้มีประสบการณ์มากกว่า พอจานแรกมาวางปุ๊บ ผู้ใหญ่คนเดียวในโต๊ะก็สั่งหมี่สดเปื่อยมาตุนไว้ก่อนอีกชาม

ก่อนปรุง ลองซดน้ำซุปเขาดูก่อน

หอมน้ำต้มกระดูกวัวกับเครื่องเทศที่ไม่มากเกิน ที่สำคัญน้ำไม่เค็มไม่หวานเกินไป ซดเปล่าๆ ก็ชื่นใจ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ร้านนี้เขามีซอสพริกไว้ให้เติมเป็นเอกลักษณ์ แต่คนรักเดียวใจเดียวไม่สนใจ แตะๆ น้ำตาลให้ปะแล่มขึ้นอีกนิด

แล้วตะโบมน้ำส้มพริกตำกับพริกป่นลงไปให้แซบหลายๆ

เกาเหลายังไม่ทันหมดชาม หมี่แห้งมาวางรอไว้แล้ว

เด็กสามคนมองหน้าเป็นเชิงประท้วง แล้วทยอยกันสั่งเบิ้ลทันที

ว่าที่สุภาพสตรีคนเดียวในโต๊ะที่ซดเกาเหลา นัยว่าไม่อยากกินแป้ง ทนกลิ่นหอมไม่ได้ สั่งใหญ่แห้งสดเปื่อยมากระแทกซ้ำ

ส่วนอีกสองว่าที่สุภาพบุรุษ สั่งหมี่แห้งชิ้นสดมาลุยต่อ

ก้มหน้าก้มตากินกันไปไม่พูดไม่จา เดี๋ยวเดียวจานสะอาดเหมือนล้างมาใหม่ๆ(ฮา)

หนึ่งหนุ่มกับสองสาวที่แยกไปร้านก๋วยเตี๋ยวหมู เดินมาดูลาดเลา

สาวแค่ชิมๆ น้ำซุปแล้วก็ทำหน้าตาอิจฉาคนกินเนื้อ

แต่หนุ่มที่ซัดก๋วยเตี๋ยวหมูมาแล้ว ลุยก๋วยเตี๋ยวเนื้อต่อไปอีกสอง

ก๋วยเตี๋ยวเตาถ่าน ร้อนก็ร้อนละมุน

เนื้อสดของเขานุ่ม เนื้อเปื่อยแค่ขบก็แทบละลายแต่ไม่ใช่ยุ่ย ลูกชิ้นหนึบดี เนื้อมากกว่าแป้ง

ของเขาสด กล้าวางตั้งยั่วน้ำลายลูกค้าอยู่หน้าร้าน โดยเฉพาะบรรดาเครื่องในทั้งหลาย

วันนั้นยังไม่ทันเที่ยง คนก็เต็มทุกโต๊ะ มีคนลุกออกก็มีคนเข้ามาเสียบแทนตลอด

ราคาก็แค่ 25-30 เว้นแต่จะสั่งเกาเหลาพิเศษมากๆ ถึงจะขึ้นไป 40

ราคานี้กินก๋วยเตี๋ยวบางร้านในกรุงเทพฯ ยังไม่ได้ครึ่งชาม

ใครว่าอิ่ม-อร่อย-ราคาถูก ไม่มีจริง?

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“เตี๋ยวเรือ'เล” น้ำข้นรสเข้มด้วยทะเลสดๆ
Celeb Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>23 เมษายน 2553 11:43 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=199 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=199> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เมื่อเอ่ยถึง Noodle Loverแล้ว ใครที่ชอบความเข้มข้นถึงรสถึงชาติคงต้องเลือกกิน “ก๋วยเตี๋ยวเรือ” เป็นแน่แท้ ยิ่งสั่ง “น้ำตก” ใส่เลือดเพิ่มความข้นของน้ำซุปลงไปอีก บางคนอาจกินถึง 5 ชามจึงจะอิ่มท้อง

เมื่อก่อนถ้าอยากกินก๋วยเตี๋ยวเรือจะต้องถ่อไปกินกันถึงย่านรังสิต ซึ่งเป็นแหล่งรวมก๋วยเตี๋ยวเรือที่ตั้งขายเรียงรายกันอยู่ 2 ฟากถนน โดยเฉพาะ ชื่อ “โกฮับ” นั้น กลายเป็นแบรนด์ของก๋วยเตี๋ยวเรือต้นตำรับรังสิต ที่ใครต่อใครนำไปหากินกัน

แต่ความจริงมีหลักฐานอ้างอิงว่า ก๋วยเตี๋ยวเรือของแท้นั้นมีถิ่นกำเนิดมาจากอยุธยา โดยชาวจีนโพ้นทะเลที่เดินทางแบบเสื่อผืนหมอนใบมาอยู่เมืองไทย ตั้งแต่ยุครัตนโกสินทร์ตอนปลาย อาศัยอยู่ในชุมชนแถวอยุธยา ได้นำสูตรลับในการปรุงก๋วยเตี๋ยวจากเมืองจีน ผสมกับเครื่องเทศของเมืองไทย มาพายเรือขายตามคลอง จนกลายเป็นที่มาของชื่อก๋วยเตี๋ยวเรือ ดังนั้น ต้นตำรับจริงๆ จึงต้องเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือจากอยุธยา

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> “เตี๋ยวเรือ'เล” เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรือที่ใช้สูตรน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยาของแท้ ซึ่งมีทั้งเครื่องเทศจีนอย่างโป้ยกั๊กและอบเชย เข้ากับเครื่องสมุนไพรสดแบบไทยๆ ไม่ว่าจะเป็นกระเทียมสด รากผักชี ผักชีฝรั่ง เป็นต้น กลิ่นจึงออกมาหอมฉุยรสชาติกลมกล่อมกำลังดี แต่ที่พิเศษคือแทนที่จะใส่เนื้อหรือหมูเหมือนชาวบ้านนั้น กลับยกทะเลสดๆ มาใส่แทน ไม่ว่าจะเป็น กุ้ง ปลาหมึก เนื้อปลาสด และลูกชิ้นปลา เนื่องจากร้านนี้ตั้งอยู่ติดกับตลาดสดปากน้ำ อันเป็นแหล่งของทะเลสดๆ ขายทุกวัน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=225 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=225> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> “โกมด” เจ้าของร้านเป็นหนุ่มน้อยร่างใหญ่ ที่จบโภชนาการจากราชภัฏสวนดุสิต ที่รักชอบเรื่องอาหาร จึงจัดสินใจมาเปิดร้านแห่งนี้ ซึ่งต้องเรียกว่าร้านนี้เป็นธุรกิจครอบครัว เพราะสูตรอาหารต่างๆ มี คุณแม่กุสุมา จันทร์วิภาสวงศ์ ผู้พิพากษาสมทบศาลเด็กและเยาวชนมาช่วย เรื่องการตลาดได้คุณพ่อสายัณห์ เจ้าของธุรกิจลอจิสติกส์มาช่วย ส่วนไอเดียการตกแต่งร้านได้พี่ชายที่ทำงานเอเจนซี่โฆษณาอยู่ลินตาสมาช่วย เรียกได้ว่ายกมาทั้งครอบครัวทีเดียว

ร้านก๋วยเตี๋ยวนี้จึงไม่ธรรมดา แต่เป็นร้านที่มีคอนเซ็ปต์เก๋ๆ อย่างแรกคือ เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวติดแอร์ที่ช่วยให้คนกินก๋วยเตี๋ยวไม่ต้องกินไปปาดเหงื่อไปให้เสียอารมณ์ การตกแต่งร้านก็ดูดีแม้จะอยู่ในห้องแถวเล็กๆ 1 คูหาแต่สะอาดสะอ้าน โต๊ะเก้าอี้ใช้โทนสีโอ๊กเข้มตัดกับโทนสีอ่อนของร้าน เปิดประตูเข้าไปจะได้กลิ่นหอมแบบสปาโชยมากระทบจมูก ช่วยให้จิตใจสงบเตรียมพร้อมก่อนที่จะลุยเรื่องอาหาร

เมนูมีให้ลิ้มลองมีไม่มาก ที่เด่นๆ คือ ก๋วยเตี๋ยวเรือทะเลน้ำข้นรสเข้มชามละ 35-40 บาท ขนมจีบหมูรสชาติดีนึ่งมาร้อนๆ โรยกระเทียมเจียวทั้งหอมทั้งกรอบชุดละ 20 บาท นอกจากนี้ ยังมีทะเลลวกจิ้ม (50 บาท) แถมน้ำจิ้มรสแซบ ข้าวกะเพราไก่ ข้าวขาหมู ราดหน้าทะเล เป็นต้น

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=199 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=199> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> อาหารทุกจานเจ้าของรับรองความสะอาดปลอดภัย เพราะถ้วยชามตราไก่สั่งทำพิเศษจากลำปางซึ่งใช้สีปลอดสารพิษ หม้อก๋วยเตี๋ยวใช้ชนิดที่ปลอดสารตะกั่วเช่นกัน หน้าร้านยกเรือที่ทำจากไม้ตะเคียนมาเป็นพร็อพคู่กับหม้อก๋วยเตี๋ยว เพื่อตอกย้ำความเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือของแท้

ร้านนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ 09.00-18.00 น. ตอนเปิดและปิดร้านนั้น โกมดจะต้องเปิดหวูดหน้าร้านเป็นสัญญาณถือก็เป็น Gimmick เก๋ๆ ที่ไม่เหมือนใคร

ใครที่ไปเที่ยวย่านนั้น ไม่ว่าจะเป็นฟาร์มจระเข้ บางปู หรือช้างสามเศียรเอราวัณ ก็ลองแวะไปชิมเตี๋ยวเรือ'เลได้ โดยขับรถมาตามเส้นสำโรงผ่านช้างสามเศียรเอราวัณ ตรงไปจนถึงศาลากลางจังหวัดให้หาที่จอด ถ้าไม่มีเลี้ยวซ้ายไปจอดรถที่วัดพิชัยสงคราม จากนั้นเดินออกมามองหาท่าเรือข้ามฟาก ให้หันหลังให้ท่าเรือแล้วมองเฉียงไปทางขวามือฝั่งตรงข้าม จะเห็นป้ายร้าน ถ้าไปไม่ถูกโทร.ถามได้ที่ 08-0772-4660

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=301 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=301> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ก๋วยจั๊บสามทุ่ม"น้ำซุปเด็ด สูตรแต้จิ๋ว
Travel - Manager Online

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>25 เมษายน 2553 13:31 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศร้าน "ก๋วยจั๊บสามทุ่ม"</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>"ผ่านมาแวะกิน" เพิ่มกลับมาจากการเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยการกลับสู่กรุงเทพฯในครั้งนี้ เลือกที่จะเดินทางด้วยรถไฟและเมื่อมาถึงสถานีชุมทางบางซื่อ ซึ่งเป็นจุดที่ "ผ่านมาแวะกิน"ต้องลง ก็เป็นเวลาโพล้เพล้ใกล้ค่ำพอดิบพอดี

ด้วยความหิวโหยแกว่งท้องมาหลายชั่วโมง จึงสอดส่องหาอาหารรองท้องกันสักหน่อย และก็เหลียวไปเห็น ร้าน "ก๋วยจั๊บสามทุ่ม" ร้านก๋วยจั๊บ(กวยจั๊บ)น้ำข้นซึ่งตั้งอยู่ริมทางรถไฟบางซื่อ ที่มีผู้คนต่อคิวเข้าแถวรอซื้อกันยาวเหยียด งานนี้ไม่ต้องคิดนานก็สาวเท้าเข้าไปมุดหาที่นั่งของร้านกันทันที


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สารพันเครื่องใส่ก๋วยจั๊บ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ร้านนี้เขาเป็นเจ้าเก่าแก่ประจำย่านนี้ ขายกันมากว่า24ปี โดยก่อนหน้านี้รุ่นพ่อของคุณหมวย พัชรินทร์ ชีววินิจ เคยขายที่จังหวัดตรัง และเมื่อย้ายเข้ามาขายในกรุงเทพ ก็ยังคงสืบทอดสูตรก๋วยจั๊บน้ำข้น สูตรเด็ดแต้จิ๋วที่รสชาติกลมกล่อม น้ำซุบเข้มข้น หนักเครื่อง เส้นเหนี่ยวนุ่ม อร่อย ไว้ได้ดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

สั่งเพียงไม่นานก็ได้ ก๋วยจั๊บน้ำข้น ( ธรรมดา 25 พิเศษ 30) ชามโต สูตรแต้จิ๋วมาวางอยู่ตรงหน้า ก๋วยจั๊บที่นี่เขามีความแตกต่างจากที่อื่นเพราะโดดเด่นที่น้ำซุป ที่ใช้เครื่องพะโล้ เป็นวัตถุดิบใช้ เวลาเคี่ยวครึ่งวัน ไข่ก็เลือกใช้ไข่ไก่ คัดสรรค์วัตถุดิบเองทุกอย่าง


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยจั๊บชามโต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ส่วนเครื่องในจำพวก ไส้ ปอด ตับ เลือด ก็เช่นกัน ก็มีวิธีการทำให้สะอาดไม่มีกลิ่นเหม็น เมื่อผสมผสานเข้ากับเส้นก๋วยจั๊บอันเหนียวนุ่มด้วยกรรมวิธีลับเฉพาะของทางร้าน บวกกับหมูสามชั้นทอดกรอบ จึงกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวกลมกล่อมเข้นข้นของร้าน ที่ทำให้มีลูกค้ามาต่อแถวยาวๆ รอกินกันทุกเย็น ใครที่ลงรถไฟหรือผานไปแถวสถานีรถไฟบางซื่อหากหิวก็ลองแวะเวียนไปได้ที่ร้าน "ก๋วยจั๊บสามทุ่ม"



</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>นั่งโซ้ยกันริมทาง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้าน "ก๋วยจั๊บสามทุ่ม" ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าสถานีรถไฟบางซื่อ (สายเหนือ-สายตะวันออกเฉียงเหนือ) ถนนเทอดดำริ แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม.การเดินทาง ไปยังร้านก๋วยจั๊บสามทุ่ม จากแยกเตาปูน มุ่งหน้าไปทางโลตัสประชาชื่น ข้ามสะพานปูน แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนเทอดดำริ ประมาณ 10 เมตร จะเห็นร้านก๋วยจั๊บสามทุ่มสูตรแต้จิ๋ว อยู่ฝั่งเดียวกับสถานีรถไฟบางซื่อ สามารถจอดรถได้ที่ลานจอดรถของสถานีรถไฟบางซื่อและบริเวณใกล้เคียง เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 16.00 - 24.00น.ทางร้านรับออกงานนอกสถานที่ โทร 0-85060-8501

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"บะหมี่มะรุม" เมนูอาหารสีเขียวสด อุดมไปด้วยสรรพคุณทางยาเพียบ!
Campus - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>25 เมษายน 2553 11:35 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> มะรุม เป็นพืชผักพื้นบ้านของไทย มีประโยชน์อเนกประสงค์ ทั้งทางด้านอาหาร ยาและอุตสาหกรรม สรรพคุณทางยา เช่น ดอกช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เมล็ด น้ำมันที่ได้จากการผลิตนำมาใช้ในการปรุงอาหาร ส่วนใบใช้ถอนพิษไข้ แก้เลือดออกตามไรฟัน แก้อักเสบ แก้แผล ขับปัสสาวะ ป้องกันมะเร็ง โดยคนไทยนำฝักมะรุมอ่อนมาแกงส้ม ดอกลวกสุกหรือว่าดอกรับประทานกับน้ำพริก เช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่นนำใบมะรุมผลิตเป็นชา

ด้วยคุณสมบัติดังกล่าว จึงกลายมาเป็นเมนูอาหารรสเด็ดประจำวันหยุดสุดสัปดาห์ ทิ้งท้ายก่อนสิ้นเดือนปีใหม่ไทย อย่าง “บะหมี่มะรุม” ส่งตรงมาจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) โดย (ว่าที่) เชฟสาว “นัท” มณีรัตน์ ฤทธิ์สันเทียะ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ภาควิชาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ ได้คิดเมนูจานใหม่สำหรับคนรักสุขภาพ

“นัท” เอ่ยถึงแรงบันดาลใจในการคิดค้นเมนูอาหารชนิดนี้ขึ้นมาว่า ปัจจุบันบะหมี่ได้รับความนิยมกันมา ตามท้องตลาดก็มีบะหมี่ให้เลือกมากมาย เช่น บะหมี่หยก บะหมี่เหลือง บะหมี่ไข่ บะหมี่อบแห้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่สนใจรับประทานสมุนไพรมะรุม จึงเกิดแนวคิดนำส่วนผสมของบะหมี่มาเสริมใบมะรุม
หลังจากที่เอ่ยถึงจุดเริ่มต้นของการคิดค้นเมนูอาหาร นัทไม่รอช้า รีบจัดแจงเตรียม นำส่วนประกอบของ “บะหมี่มะรุม” อันได้แก่

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ส่วนประกอบของ “บะหมี่มะรุม” </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ใบมะรุม</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> <TABLE class=BODY cellSpacing=1 cellPadding=2 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff>แป้งอเนกประสงค์</TD><TD bgColor=#ffffff>20 กรัม
</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff>ไข่</TD><TD bgColor=#ffffff>50 กรัม</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff>น้ำมันถั่วเหลือง</TD><TD bgColor=#ffffff>1 ช้อนโต๊ะ</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff>เกลือ</TD><TD bgColor=#ffffff>½ ช้อนชา</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff>น้ำเปล่า</TD><TD bgColor=#ffffff>15 กรัม</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff>ใบมะรุม</TD><TD bgColor=#ffffff>100 กรัม</TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>นำใบมะรุมโขลกให้ละเอียด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>นำส่วนประกอบทั้งหมดมารวมกัน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>นวดจนส่วนประกอบเข้ากัน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>แบ่งออกเป็น 3 ก้อน(พอประมาณ)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>รีดด้วยเครื่องรีดเส้นบะหมี่ </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>โรยแป้งนวลที่เส้นบะหมี่ที่ได้เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นบะหมี่ติดกัน </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> นัท กระซิบบอกว่า ส่วนผสมทั้งหมดจะได้บะหมี่ 5 ก้อน ก้อนละ 10 กรัม สำหรับขั้นตอนในการทำนั้นไม่ยุ่งยาก เริ่มต้นง่ายๆ แค่ นำแป้งสาลี เกลือร่อนรวมกัน นำใบมะรุมไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำไปชั่งโขลกให้ละเอียด จากนั้นนำไข่ไก่ น้ำมัน เกลือ น้ำเปล่า ใบมะรุมที่โขลกละเอียดผสมทุกอย่างให้เข้ากัน นวดส่วนผสมของเหลวให้เข้ากับแป้ง นวดจนเป็นเนื้อเดียวกันแล้วพักแป้งไว้ 20-30 นาที นำแป้งที่พักไว้มาแบ่งเป็นก้อน 3 ก้อนเท่าๆกัน คลึงให้เป็นแผ่นบางๆ นำไปรีดด้วยเครื่องรีดเส้นบะหมี่ โดยเริ่มรีดจากเบอร์ 7-2 รีดเบอร์ละ 2 ครั้ง จากนั้นนำไปรีดเป็นเส้น ปิดท้ายด้วยการโรยแป้งนวลที่เส้นบะหมี่ที่ได้เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นบะหมี่ติดกัน เพียงเท่านี้ก็ได้บะหมี่ใบมะรุมที่แสนอร่อย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"นัท" เจ้าของเมนู การันตีความอร่อย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ผศ.สุชาดา งามประภาวัฒน์ (ซ้ายมือ) อาจารย์ที่ปรึกษาของนัท</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> น่าเสียดายจริงๆ ที่เจ้าของสูตรเด็ดอย่าง น้องนัท ไม่มีโปแกรมทำออกมาจำหน่าย แต่น้องนัท ฝากมาบอกว่า ยินดีมาก หากมีผู้สนใจหรือว่าต้องการเอาสูตรบะหมี่ใบมะรุมไปทำขาย เพราะว่า เป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่ไม่มีใครทำมาก่อน หากมีข้อสงสัยโทรสอบถามรายละเอียดได้ที่ ผศ.สุชาดา งามประภาวัฒน์ อาจารย์ที่คอยให้คำแนะนำในการคิดค้นสูตรบะหมี่มะรุม ได้ทันที โทร.089-5267598
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"UP TO YUU" สารพัดเมนูโดนใจ
Travel - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>29 เมษายน 2553 15:00 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศภายในร้าน UP TO YUU</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เป็นอย่างไรกันบ้าง?? ได้หยุดยาวช่วงเทศกาลสงกราต์ที่ผ่านมา มิตรรักนักกินหลายๆ คนคงจะได้ไปเที่ยวพักผ่อนเติมพลังให้ชีวิตกันอย่างเต็มที่ "ตระเวนกิน" ก็ได้ถือโอกาสนี้หยุดพักผ่อนนอนตีพุงอยู่กับบ้านและก็ได้ออกไปตระเวนกินอาหารกับครอบครัวและผองเพื่อนกันอย่างอิ่มสุขใจ

โดยมีหนึ่งในร้านอาหารที่พวกเราได้ไปมาแล้วหลายๆ คนลงมติให้ว่าที่นี่ช่างเป็นร้านอาหารที่โดนใจ ทั้งด้วยเรื่องของบรรยากาศของร้านที่ชวนนั่งแบบชิลล์ๆ พร้อมกับได้อิ่มเอมกับอาหารจานเดียวที่หลากหลาย จนเราต้องขอนำมาบอกต่อกับมิตรรักนักกินทั้งหลาย ซึ่งร้านที่กำลังพูดถึงนี้ก็คือร้าน "UP TO YUU" (อัพ ทู ยู) ตั้งอยู่ตรงทองหล่อซ.13

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อเซอร์ลอยด์</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> UP TO YUU เป็นร้านอาหารที่ขายอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยวเรือและอาหารจานเดียวสไตล์ไทยๆ ที่เน้นเรื่องการคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีนำมาปรุงเป็นอาหารจานเด็ดรสเลิศตามสไตล์ของทางร้านที่คิดปรุงแต่งขึ้นมาเป็นเมนูพิเศษเฉพาะที่มีมากมายกว่า 60 เมนูให้ได้ลองลิ้มกัน และยังได้นั่งกินอาหารท่ามกลางบรรยากาศร้านที่ตกแต่งแบบไทยๆ แต่แฝงไว้ด้วยความทันสมัย ให้อารมณ์นั่งสบายๆ กินข้าวกันไปคุยกันไปได้แบบเพลินๆ

หากมาถึงร้านนี้แล้วขอแนะนำว่าให้สั่งเมนูเด่นชูโรงของที่นี่มาชิมกัน อย่างแรกขอนำเสนอให้สั่งก๋วยเตี๋ยวมาโซ้ยกัน คือ ก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อเซอร์ลอยด์ (95 บาท) มีเส้นให้เลือกหลายอย่างทั้งเส้นเล็ก บะหมี่ เส้นใหญ่ และเส้นหมี่ ความพิเศษของก๋วยเตี๋ยวเรือชามนี้อยู่ที่ทางร้านนำเนื้อเซอร์ลอยด์ที่คัดมาเป็นพิเศษนำมาสไลด์บางๆ แล้วลวกสุก เนื้อนั้นเคี้ยวนุ่มหนึบหนับปาก ใส่มาในก๋วยเตี๋ยวเรือที่มีรสชาติเด็ดเข้มข้นน้ำซุปกระดูกเนื้อที่ต้มกับเครื่องเทศไทยๆ หอมกรุ่นและหวานรสเนื้อกลมกล่อม แถมไม่ต้องปรุงรสเพิ่มเลย เพราะทางร้านปรุงรสชาติมาให้เสร็จสรรพใส่พริกกะเหรี่ยงเพิ่มความเผ็ดมาให้ด้วย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวเรือหมูโชกุน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ส่วนถ้าใครไม่กินเนื้อก็อย่าเพิ่งน้อยใจไป เพราะที่นี่ยังมี ก๋วยเตี๋ยวเรือหมูโชกุน (80 บาท) เป็นชามเด็ดที่ชวนลิ้มลอง ซึ่งทางร้านเลือกใช้เนื้อหมูส่วนสันในที่คัดมาเป็นพิเศษติดมันนิดๆ สไลด์เป็นชิ้นบางๆ ลวกสุกใส่มาในก๋วยเ ตี๋ยวเรือที่หอมกรุ่นหวานกลมกล่อมน้ำซุปกระดุกหมูที่ต้มรวมมากับเครื่องเทศสมุนไพรไทยๆ ก๋วยเตี๋ยวเรือชามนี้เด็ดดีที่หมูเนื้อนิ่มนุ่มหวานผสานรสชาติกลมกลึงเข้ากับน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเรือที่เข้มข้นจริงๆ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ผัดกระเพราเนื้อตุ๋น</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> หลังจากที่ได้โซ้ยก๋วยเตี๋ยวเรือกันไปแล้ว ก็มาชิมอาหารจานเดียวรสเด็ดของที่นี่กันบ้าง ที่อยากแนะนำก็มี ผัดกระเพราเนื้อตุ๋น (80 บาท) เป็นผัดกระเพราที่มีความโดดเด่นอยู่ตรงที่ทางร้านเลือกใช้เนื้อวัวส่วนติดเอ็นและติดมันนิดๆ นำมาตุ๋นกับเครื่องเทศไทย และตุ๋นนานแบบข้ามวันจนได้เนื้อตุ๋นที่เปื่อยนุ่มได้ที่ นำมาผัดกระเพราแบบครบเครื่องครบสูตร เสิร์ฟมาพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ ชิมแล้วขอบอกว่าด็ดถูกปาก เนื้อตุ๋นนั้นนุ่มมากและซึมรสชาติเครื่องกระเพราที่เผ็ดร้อน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ริบอายจิ้มแจ่ว</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ยังขอเอาใจคนรักเนื้อกันอีกสักจาน คือ ริบอายจิ้มแจ่ว (215 บาท) เป็นเนื้อริบอายอย่างดีที่มีความนุ่มและติดมันนิดๆ นำมาหมักกับซอสสูตรพิเศษของทางร้าน แล้วนำมาย่างบนเตาถ่านให้เนื้อสุก ซึ่งสามารถสั่งได้ว่าจะเอาเนื้อสุกระดับไหน เนื้อจะถูกสไลด์มาเป็นชิ้นพอดีคำ เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มแจ่วที่ทางร้านปรุงเอง กินเนื้อริบอายเคี้ยวนุ่มหนึบปากได้รสชาติเครื่องหมักที่ซึมถึงเนื้อในและยิ่งจิ้มกินคู่กับน้ำจิ้มแจ่วรสเด็ดเผ็ดถูกใจ เป็นอะไรที่ขอบอกว่าคนรักเนื้อไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เส้นหมี่หมูย่างตะไคร้</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เดี๋ยวจะหาว่ามีแต่เนื้อ หันมากินเมนูหมูกันบ้าง นำเสนอเส้นหมี่หมูย่างตะไคร้ (150 บาท) เป็นเนื้อหมูส่วนสันคอหมักกับเครื่องปรุงสูตรเฉพาะและใส่ตะไคร้ด้วย เพื่อให้เนื้อหมูนุ่มและมีกลิ่นหอม แล้วจึงนำหมูไปย่างจนสุกได้ที่สไลด์มาเป็นชิ้นๆ กินคู่กับเส้นหมี่ขาวลวกสุกที่ราดหน้สด้วยกระเทียมเจียว และเพิ่มรสชาติด้วยน้ำจิ้มหวานที่ทางร้านปรุงขึ้นมาเองกินเข้ากันดีกับเนื้อหมูนุ่มๆ หอมกลิ่นตะไคร้อ่อนๆ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ผัดไทเกี๊ยวกรอบ UP TO YUU</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> และอีกหนึ่งเมนูจานเดียวที่น่าลองลิ้มก็คือ ผัดไทเกี๊ยวกรอบ UP TO YUU (80 บาท) เป็นผัดไทแบบประยุกต์ที่ทางร้านนำเอาแผ่นเกี๊ยวมาทอดกรอบ แล้วผัดเครื่องผัดไทแบบครบเครื่องแต่ไร้เส้น นำมาราดบนเกี๊ยวกรอบอีกที แถมใส่กุ้งมาด้วย กินแล้วสัมผัสได้ถึงเกี๊ยวทอดที่กรอบกรุบกินเข้ากับเครื่องผัดไทรสดี

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศด้านหน้าร้านUP TO YUU</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> นอกจากเมนูจานเด็ดเหล่านี้แล้ว ก็ยังมีเมนูเลิศรสอื่นๆ ที่น่ากินอีกเพียบ อาทิ ขนมจีบกุ้ง(65 บาท) กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา (60 บาท) ยำวุ้นเส้นญี่ปุ่น (80 บาท) บะหมี่แห้งเกี๊ยวกุ้ง (65 บาท) และอีกสารพัดเมนูอาหารจานเดียวที่ชวนลองลิ้มมากมายที่ทางร้าน "UP TO YUU" ยินดีนำเสนอมากำนัลปากแก่เหล่านักกินทั้งหลาย ให้ได้เลือกกินกันแบบตามใจชอบ

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

"UP TO YUU" ตั้งอยู่ที่ 323/2 ถ.สุขุมวิท 55 คลองตันเหนือ วัฒนา กทม. การเดินทางจากถ.สุขุมวิท วิ่งตรงมายังสุขุมวิท 55 (ซอยทองหล่อ) ตรงเข้ามาในซอยจนถึงทองหล่องซ. 13 ให้เลี้ยวเข้าซอยมาแล้วตรงเข้าจะเห็นป้อมยามอยู่ทางขวามือ เลี้ยวเข้ามาด้านในแล้วหาที่จอดรถได้เลย จะเห็นร้านUP TO YUU ตั้งอยู่มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน เปิดทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น. มีบริการส่งอาหารแถวทองหล่อและเอกมัยด้วย โทร. 0-2712-9487 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.yuurestaurant.com/uptoyuu


คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "UP TO YUU"
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน " UP TO YUU"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>29 เมษายน 2553 17:05 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=600> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ชื่อร้าน : UP TO YUU

ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยวเรือและอาหารไทย

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อเซอร์ลอยด์, ก๋วยเตี๋ยวเรือหมูโชกุน, ผัดกระเพราเนื้อตุ๋น, ริบอายจิ้มแจ่ว, เส้นหมี่หมูย่างตะไคร้, ผัดไทเกี๊ยวกรอบ UP TO YUU

บรรยากาศร้าน : ห้องแอร์นั่งสบาย และมีโต๊ะนั่งรับลมด้านนอก

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 323/2 ถ.สุขุมวิท 55 คลองตันเหนือ วัฒนา กทม. การเดินทางจากถ.สุขุมวิท วิ่งตรงมายังสุขุมวิท 55 (ซอยทองหล่อ) ตรงเข้ามาในซอยจนถึงทองหล่องซ. 13 ให้เลี้ยวเข้าซอยมาแล้วตรงเข้าจะเห็นป้อมยามอยู่ทางขวามือ เลี้ยวเข้ามาด้านในแล้วหาที่จอดรถได้เลย จะเห็นร้านUP TO YUU ตั้งอยู่มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน

สถานที่จอดรถ : มีที่จอดรถด้านใน

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : มีบริการส่งอาหารแถวทองหล่อและเอกมัยด้วย โทร. 0-2712-9487
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเมืองราชบุรี แนะจะเป็นเถ้าแก่ต้องกล้าลงทุน

เส้นทางเถ้าแก่

วิจิตรา เนตรอุบล

˹ѧ��;��������ʴ�͹�Ź� : �ú�ء�� ʴ�ء����ͧ==

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>"เส้นทางเถ้าแก่" สัปดาห์นี้มาที่ จ.ราชบุรี พบกับนายสันทัด ชมภูพงษ์ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือต่อชาม ที่หันเหชีวิตจากมนุษย์เงินเดือนมาเป็นนายตัวเอง มาเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวที่เลขที่ 87 ถ.คฑาธร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี

ลาออกจากมนุษย์เงินเดือน

นายสันทัด เผยว่า หลังจากจบด้านจิตวิทยาคลินิกเมื่อปี"44 ก็มาเป็นพนักงานธุรการในโรงเรียนสอนภาษา พนักงานบริษัทตลาดหลัก ทรัพย์ และสุดท้ายเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดของบริษัทรถยนต์ชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.เพชรบุรี

กลัวรายได้ไม่พอเลี้ยงครอบครัว

"เกือบ 10 ปี ในชีวิตการเป็นพนักงานผมทำงานเยอะ มันเป็นงานบริการจึงทำให้แทบไม่มีเวลา กระทั่งแต่งงานและกำลังจะมีลูก ก็คิดว่าเงินเดือนคงไม่พอที่จะดูแลลูกและครอบครัวแน่ โดยเฉพาะเรื่องเวลา" <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ปรึกษาภรรยาพร้อมกับนำประสบการณ์ทางการตลาดที่ตนมีค้นหาอาชีพที่เหมาะสมในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ก็มาอยู่ที่การเปิดร้านที่เกี่ยวกับอาหารการกิน

ศึกษาข้อมูลก่อนเปิดร้าน

ตอนแรกจะเปิดเป็นร้านอินเตอร์เน็ต แต่ตนคิดว่ามันไม่ตรงวัตถุประสงค์ของตนและภรรยา ที่ต้องการอาชีพที่มีเวลามากขึ้น ที่สำคัญคิดว่าน่าจะเป็นกิจการเกี่ยวกับอาหารการกินมากกว่า ก็เลยลองค้นคว้าข้อมูลในอินเตอร์เน็ตปรากฏว่าไปพบกับก๋วยเตี๋ยวเรือต่อชาม สูตรโบราณของ จ.พระ นครศรีอยุธยา

"ผมเป็นคนชอบกินและคิดไว้อยู่แล้วว่าน่าจะเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว ใช้หลักการตลาดที่ว่าของอะไรที่มันมีอยู่มากมายแล้วอย่าง ก๋วยเตี๋ยวหมู บะหมี่เกี๊ยว ถ้าไม่มีความแปลกใหม่ส่วนแบ่งทางตลาดก็คงน้อย และอาจไปไม่รอดก็มาดูพื้นที่ว่ามีอะไรอยู่บ้าง และที่สุดจึงตัดสินใจติดต่อไปยังเจ้าของแฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยว เรือนี้"

เงินเก็บ-กู้นำมาลงทุน

สำหรับการลงทุนนั้นเสียค่าเซ็นสัญญาซื้อแฟรนไชส์ไป 7 หมื่นกว่าบาท บวกกับค่าตกแต่งร้าน โต๊ะ เก้าอี้ อุปกรณ์ทุกอย่างที่จำเป็น รวมทั้งสิ้นประมาณ 250,000 บาท ทั้งหมดก็ได้จากเงินที่เก็บหอมรอมริบ อีกส่วนหนึ่งก็เป็นเงินกู้

"กลัวเหมือนกัน เพราะเป็นการลงทุนในอาชีพที่ยังไม่เคยทำมาก่อน และเป็นงานคนละด้านที่เคยทำมา แต่ก็ลองสู้ดูคิดว่าน่าจะไปได้เพราะมันเป็นงานบริการที่ชอบ ประกอบกับ ตนศึกษาข้อมูล และวางแผนไว้ดีแล้ว ฉะนั้น คิดว่าหากเราคิดมาดีแล้วอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดอย่าไปกลัว"

รักษามาตรฐานทุกชามทุกวัน

จุดเด่นที่แตกต่างจากก๋วยเตี๋ยวอื่นก็คือ น้ำราดก๋วยเตี๋ยวเรือสูตรเฉพาะที่รสชาติจัดจ้าน ประกอบกับน้ำซุปที่เข้มข้น ร้อน วัตถุดิบตั้ง แต่ ผักสด เนื้อหมูสดใหม่ทุกวันที่สำคัญรสชาติเน้นเป็นพิเศษต้องเที่ยงตรงเหมือนกันทุกชามทุกวัน

ไม่ต้องกลัวเงินกู้ที่มาลงทุน

หลายคนกลัว ไม่อยากเป็นหนี้ด้วยการกู้เงินมาลงทุนหารายได้เพื่ออนาคต แต่สำหรับผมขอย้ำว่า หากคิดดี วางแผนดี ไม่ท้อถอย เลือกทำในสิ่งที่ตัวเองชอบและมันเป็นไปได้ รับรองว่าแม้ไม่ร่ำรวยแต่ไม่มีวันจนแน่นอน

ใครสนใจจะเปลี่ยนอาชีพและกำลังมองหาช่องทางอยู่ ก็พร้อมให้คำปรึกษาแก่ผู้เริ่มต้นทุกคนที่ โทร.08-6744-5879

 

จานเด่นคนดัง-ชอบหม่ำก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตกคร้า
�ҹ��蹤��ѧ-�ͺ���ӡ�����������ٹ�ӵ����� ���Ѵ�֡ : ����� : ���Ƿ�����

คมชัดลึก : ถึงข้าวจะเป็นอาหารหลักสำหรับคนไทย แต่ถ้าต้องหม่ำกันทุกมื้อและทุกวัน ก็ต้องมีเบื่อกันบ้างล่ะ หลายคนจึงหันมารับประทานอาหารแป้งประเภทอื่นๆ เพื่อคลายความซ้ำซากจำเจ โดยเฉพาะเมนูเส้นอย่างก๋วยเตี๋ยว มักถูกเลือกให้เป็นจานหลักประจำมื้ออาหารอยู่เสมอ เช่นเดียวกับ "แทม" ทิพธิดา สุขุม ก็ยกให้ก๋วยเตี๋ยวเป็นเมนูโปรดที่เธอมักจะเลือกรับประทานอยู่บ่อยครั้งเช่นกัน

"แทมชอบอาหารเส้นค่ะ ชอบมาตั้งแต่สมัยที่เรียนประถมที่สาธิตจุฬาฯ แล้ว โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตกชอบสุดๆ เลยค่ะ แทมมักจะเลือกเส้นเล็กค่ะ เพราะแอบคิดว่าแป้งมันจะน้อยกว่าเส้นใหญ่ (หัวเราะ) แต่แทมไม่ชอบใส่เส้นเยอะๆ นะคะ เน้นไปที่ผักมากกว่า ส่วนรสชาติก็ชอบแบบกลางๆ ส่วนใหญ่จะลองชิมรสมือคนขายก่อน จะปรุงเพิ่มหรือไม่ค่อยว่ากันอีกทีค่ะ แต่ที่ผ่านๆ มา ร้านที่แทมแวะไปกินก็มักจะอร่อยอยู่แล้ว จึงไม่ค่อยต้องปรุงอะไรเพิ่มมากนัก" สาวแทมเล่าอย่างอารมณ์ดี

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“ยกพลขึ้นบก”แฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยวเรือการันตีความสำเร็จจากยอดขาย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 พฤษภาคม 2553 11:21 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ก๋วยเตี๋ยวเรือ อาหารพื้นบ้านที่เกิดจากภูมิปัญญาไทย ด้วยรสชาติที่จัดจ้านทำให้ก๋วยเตี๋ยวเรือได้รับความนิยมแพร่หลายไปในหลายพื้นที่ ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็จะมีสูตรที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับก๋วยเรือที่เป็นต้นตำรับ และเป็นที่รู้จักกันดีก็ต้องเป็นสูตร ก๋วยเตี๋ยวเรือ จังหวัดปทุมธานี


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>นายสมวงษ์ และนายฉวิวัชร์ สองหุ้นส่วนเจ้าของร้าน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> สำหรับก๋วยเตี๋ยวเรือยกพลขึ้นบก เป็นอีกร้านหนึ่งที่ทำยอดขายถล่มทลาย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เปิดขายอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี แต่สูตรที่ได้มาจากก๋วยเตี๋ยวเรือเมืองปทุมฯ และด้วยรสชาติที่การันตีได้จากยอดขาย และสาขาที่ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว จากชื่อเสียงที่บอกต่อๆ กันมา ทำให้เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรืออีกแห่งหนึ่ง ที่สามารถเปิดขายแฟรนไชส์ได้ภายในระยะเวลาไม่กี่ปี่

นายสมวงษ์ อ้นด้วง เจ้าของสูตร เล่าว่า ได้เปิดขายก๋วยเตี๋ยวเรือยกพลขึ้นบกมาได้ประมาณ 4 ปี โดยเปิดขายอยู่ในย่านลาดกระบัง ได้สูตรมาจากคุณยายท่านหนึ่ง ที่ทำก๋วยเตี๋ยวเรือขายอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี และนำมาปรับเพื่อให้ได้รสชาติอย่างที่ต้องการ ซึ่งสูตรของคุณยายท่านนี้ถือว่าเป็นสูตรโบราณ เพราะยายแก่ทำขายมานานหลายสิบปี นอกจากลูกหลานแล้ว ก็ไม่เคยถ่ายทอดสูตรนี้ให้แก่ใครมาก่อน ดังนั้น แก่จึงกำชับว่า ไม่ต้องการให้เราถ่ายทอดสูตรตรงนี้ให้แก่ใครเช่นกัน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ดังนั้น ในส่วนของการขายแฟรนไชส์ เราจีงไม่ได้ถ่ายทอดสูตรการทำน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวให้ใคร ร่วมถึง พริกดอง พริกป่น โดยส่วนผสมเหล่านี้ ทงเราจะเป็นคนทำส่งให้เท่านั้น ลูกค้าแฟรนไชส์ไม่สามารถไปทำเองได้ แต่ที่เราจำเป็นจะต้องขายแฟรนไชส์ เพราะเห็นว่า รสชาติก๋วยเรือของเราไม่แพ้ใคร ดูได้จากลูกค้าที่เข้ามากินแต่ละวัน จึงอยากจะให้คนอื่นที่ต้องการจะมีอาชีพได้มีอาชีพและมีรายได้เช่นเดียวกัน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เมนูลวกเสริม </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> “จุดเริ่มต้นของแฟรนไชส์เกิดมาจากลูกค้าที่ได้มากิน และเกิดความชื่นชอบต้องการจะทำขายบ้าง ก็มาขอให้เราเปิดขายแฟรนไชส์ เห็นว่าเป็นคนไทยด้วยกัน แบ่งกันทำมาหากิน และการที่เราจะขยายสาขาเองก็คงจะไม่สะดวก เพราะความสำเร็จไม่ได้อยู่แค่รสชาติอย่างเดียว คนให้บริการ และคนปรุง มีส่วนสำคัญมากเช่นกัน และ เมื่อคนเราไม่พร้อม ก็คงจะไม่สามารถขยายสาขาได้ และยอดขายในสาขาของเราเองถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยมียอดขายต่อวันมากกว่า 16,000 บาท ถึง 20,000 บาท หรือประมาณ 700 ชามถึง 1,000 ชาท มีเด็กเสิร์ฟ พร้อมคนปรุงภายในร้านถึง 12 คน”

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> และเนื่องจากลูกค้าจะมาพร้อมกันในช่วงเที่ยง ทำให้ต้องเตรียมหม้อก๋วยเตี๋ยวไว้ถึง 3 หม้อ หม้อแรกทำคิวปกติ หม้อที่สอง คิวที่ต้องการสั่งเพิ่ม และหม้อที่สาม ใส่ถุงกลับบ้าน ที่เราต้องทำถึง 3 หม้อ เพื่อให้การกินนั้นต่อเนื่อง ไม่ขาดตอน เพราะเคล็ดลับของก๋วยเตี๋ยวเรืออยู่ที่ ต้องทำชามเล็ก เส้นน้อย น้ำเข้มข้น ก๋วยเตี๋ยวถึงอร่อย ดังนั้นการกินก๋วยเตี๋ยวเรือนิยมกินครั้งละหลายชาม อร่อยกว่า ก๋วยเตี๋ยวที่ใส่เส้นเยอะ เส้นจะอืดทำให้รสชาติเสีย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ในส่วนของเมนูของร้านนี้จะแตกต่างจากร้านอื่น ๆ เพราะมีเมนูเสริม เช่น กากหมู ลูกชิ้นลวก ตับลวก เอนแก้ว น่องลาย ลวก เป็นต้น สำหรับคนชื่นชอบ และต้องการจะสั่งเพิ่มเติม ส่วนราคาก๋วยเตี๋ยวชามละ 18 บาท และเมนูเสริมชามละ 20 บาท ซึ่งราคามีการปรับขึ้นมาจาก 15 บาท เป็น 18 บาท ในช่วงที่ราคาน้ำมันขึ้น และสินค้าวัตถุดิบทุกอย่างก็ขึ้นตาม เราก็จำเป็นจะต้องปรับราคาตาม ซึ่งราคาขายนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับแฟรนไชส์ด้วย เพราะลูกค้าแฟรนไชส์บางรายต้องเสียค่าเช่าแพง ก็อาจจะต้องขายเพิ่มขึ้น แต่เราขอไว้ที่ไม่เกิน 20 บาท เพื่อไม่ให้ราคาเลื่อมล้ำกันมาก

สำหรับราคาแฟรนไชส์ อยู่ที่ 40,000 บาท เก็บครั้งเดียว เป็นค่ารอยัลตีฟี และเป็นค่าใช้แบรนด์ยกพลขึ้นบก ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ และการตกแต่งร้าน ทางเจ้าของแฟรนไชส์สามารถดำเนินการได้เอง สิ่งที่แฟรนไชส์จะต้องสั่งจากทางเจ้าของแฟรนไชส์ ประกอบด้วย น้ำซุป พริกป่น พริกดอง พริกปรุงรส ส่วนลูกชิ้น หรือ เส้น เราจะมีสถานที่แนะนำให้เพื่อจะได้ซื้อใช้ได้เหมือนกัน สำหรับน้ำซุปจะทำออกมาเป็นผงสำเร็จรูป ทำให้สามารถเก็บได้นาน เมื่อต้องการจะใช้เพียงนำมาเติมในหม้อน้ำซุปในสัดส่วนที่กำหนด

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> นายสมวงษ์ เล่าว่า ในส่วนของการขยายสาขาแฟรนไชส์ในช่วงนี้ อาจจะต้องชะลอไว้ก่อน เพราะเราต้องการได้คนที่ตั้งใจทำจริงๆ โดยเจ้าของจะต้องลงมาขายเอง ซึ่งปัจจุบันประสบปัญหา คือ เจ้าของไม่ได้ลงมาทำด้วยตัวเอง และสุดท้ายก็ไปไม่รอด บริการไม่ดี หรือบางครั้งก็ปรับแต่งเติมทำให้ไม่ได้รสชาติเหมือนเดิม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เราก็ต้องนำกลับมาพิจารณา เพราะเกรงว่าจะเสียมาถึงแบรนด์ของเราได้ในอนาคต ดังนั้น ในช่วงนี้ จึงชะลอการขยายสาขาไว้ก่อน เพื่อไม่ให้มากเกินไป ปัจจุบัน มีสาขาที่เปิดให้บริการไปแล้วและกำลังจะเปิดจำนวน 15 สาขา ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ส่วนต่างจังหวัดมีเพียงสาขาเดียวที่ จังหวัดสงขลา

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> นายสมวงษ์ เดิมทำงานก่อสร้าง แต่เนื่องจาก มีปัญหาเรื่องการจ่ายเงินช้าบ้าง บางครั้งลูกค้าก็ไม่จ่าย ซึ่งเป็นเงินจำนวนมาก มีผลต่อการทำงาน ทำให้รู้สึกเบื่อหน่ายและเหนื่อยมาก จึงหยุดทำ และหันมามองหาอาชีพว่าจะทำอะไรดีที่จะได้เงินสดทุกวัน และด้วยความที่ตัวเองเป็นคนชอบกินก๋วยเตี๋ยวเรือ จึงคิดอยากขายก๋วยเตี๋ยวเรือ แต่เราไม่มีสูตร ก็ไปเสาะแสวงหา กว่าจะได้สูตรนี้ มาก็ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเราต้องการจะทำเป็นอาชีพจริง ไม่ได้คิดว่าจะนำสูตรไปขายแต่อย่างใด เจ้าของสูตรจึงยอมสอนให้ และก็ได้ทำขายมาจนถึงทุกวันนี้

โทร. 08-1591-9356
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>