อยากขอถามผู้รู้ทั้งหลายช่วยแก้ข้อสงสัยเรื่องการอธิษฐานของหญิงผู้ปรารถนานางแก้ว

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย ปัญญาสอน, 6 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603

    ไม่น่าจะเรียกว่า ทน นะครับ

    ลองอ่านชาดกเรื่องนี้ดูนะครับ
    " นางสุมิตตาพราหมณีผู้มีศรัทธา ก็ได้มารอรับเสด็จพระทีปังกรร่วมกับมหาชน ในมือนางถือดอกบัวมา ๘ กำ เตรียมมาเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา

    ขณะนั้นเอง นางสุมิตตาพราหมณีก็ได้เห็นดาบสผู้ทรงอภิญญารูปหนึ่ง คือ สุเมธดาบส เหาะมาในนภากาศ สุเมธดาบสมองลงมาเห็นมหาชนมาชุมนุมกันเป็นจำนวนมาก จึงได้ลงมาสอบถาม เมื่อรู้ว่าพระทีปังกรพุทธเจ้ากำลังจะเสด็จดำเนินมาก็มีศรัทธา ขอร่วมในการปรับถนนด้วย ชาวเมืองเห็นว่าท่านสุเมธดาบสเป็นผู้มีฤทธิ์ จึงได้แบ่งงานบริเวณที่เป็นหลุมเป็นแอ่ง และมีน้ำท่วมขังมาก ให้ท่านดาบส

    สุเมธดาบสมีปิติยินดีเป็นอันมากที่จะได้เฝ้าพระพุทธองค์ จึงดำริว่าหากตนใช้ฤทธิ์ปรับถนน แม้งานจะสำเร็จรวดเร็ว แต่ก็ไม่ชื่นใจ ไม่สมกับศรัทธาที่ตนมี จึงได้อดทนขนดินทรายมาถมหลุมบ่อด้วยแรงกายเช่นสามัญชนทั่วไป

    การกระทำของสุเมธดาบสนี้ สร้างความศรัทธาและความชื่นชมแก่นางสุมิตตาพราหมณีที่เฝ้ามองอยู่ยิ่งนัก

    เมื่อสุเมธดาบสยังปรับพื้นที่ไม่เสร็จดี พระทีปังกรพุทธเจ้า พร้อมพระสาวก ๔ แสนรูปก็เสด็จดำเนินมา สุเมธดาบสเห็นไม่ทันการณ์ เพราะยังมีบ่อที่น้ำท่วมขังอยู่ช่วงตัวหนึ่ง จึงตัดสินใจทอดตัวลงนอนปิดทับแอ่งน้ำนั้น ตั้งใจถวายชีวิตให้พระทีปังกรและพระสาวกเดินไปบนแผ่นหลังของตน

    พระทีปังกรพุทธเจ้า เสด็จมายืนอยู่ที่เบื้องศีรษะของสุเมธดาบส ทรงตรวจสอบดูด้วยพระสัพพัญญุตาญาน ก็รู้ว่าสุเมธดาบสผู้นี้เป็นหน่อเนื้อพระโพธิสัตว์ผู้มีบารมีเต็ม เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยอภิญญา ๕ และสมาบัติ ๘ เป็นผู้สร้างสมพุทธการกธรรมมาแล้วถึง ๑๖ อสงไขย สมควรแก่การได้รับลัทธยาเทศได้แล้ว พระองค์จึงได้ทรงประกาศพุทธพยากรณ์ว่า

    "ท่านทั้งหลายจงดูดาบสผู้มีตบะอัน รุ่งเรืองนี้ ดาบสผู้นี้กระทำความปรารถนายิ่งใหญ่เพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า ความปรารถนาของเขาจักสำเร็จในที่สุดแห่งสี่อสงไขยกับเศษแสนกัปนับแต่นี้ เขาจักได้เป็นพระพุทธเจ้านามว่าโคตม

    ในอัตภาพนั้นของเขา จักมีนครนามว่า กบิลพัสดุ์ เป็นที่อยู่อาศัย พระมารดาทรงพระนามว่ามายา พระบิดาทรงพระนามว่าสุทโธทนะ พระอุปติสสะเป็นอัครสาวก พระโกลิตะเป็นอัครสาวกที่สอง พระอานนท์เป็นพุทธอุปฐาก พระเขมาเถรีเป็นอัครสาวิกา พระอุบลวรรณาเถรีเป็นอัครสาวิกาที่สอง เขามีญาณแก่กล้าแล้วออกมหาภิเนษกรมณ์ ตั้งความเพียรอย่างใหญ่ รับข้าวปายาสที่โคนต้นไทร เสวยที่ฝั่งเเม่น้ำเนรัญชรา ขึ้นสู่โพธิมณฑล และจักตรัสรู้ที่โคนต้นอัสสัตถพฤกษ์"

    ชาวเมืองและเทพเทวดาทั้งหลายในที่นั้น เมื่อได้ฟังพุทธพยากรณ์แล้ว ต่างก็กล่าวสาธุการ สนั่นดังไปทั่วทั้งไตรภูมิ

    ขณะนั้นเอง นางสุมิตตา ผู้เห็นเหตุการณ์มาตั้งแต่ต้น ก็เกิดปิติศรัทธาไปกับสุเมธดาบส นางจึงได้แบ่งดอกบัว ๕ กำ ให้สุเมธดาบสใช้บูชาพระพุทธเจ้า ส่วนดอกบัวอีก ๓ กำ นางนำไปถวายพระพุทธเจ้าแทบพระบาทของพุทธองค์ แล้วกล่าววาจาว่า

    "ข้าพระบาทได้แลเห็นท่านดาบสเหาะลงมา จากนภากาศ ช่วยขนดินทรายมาปรับผิวทาง ข้าพระบาทมีความศรัทธาในท่านดาบส เมื่อเห็นท่านดาบสทอดกายเป็นสะพาน ข้าพระบาทยิ่งมีปีติและศรัทธา บัดนี้ พระพุทธองค์ทรงพยากรณ์ท่านดาบสว่า จักได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล ข้าพระบาทนี้ยิ่งมีปิติและศรัทธาไปกับท่านดาบสยิ่งนัก ข้าพระบาทขอตั้งความปรารถนา จะเป็นคู่สุข คู่ทุกข์ คู่ยาก ช่วยท่านดาบสสร้างสมบารมีให้สมบูรณ์"

    พระทีปังกรพุทธเจ้าจึงทรงตรวจสอบ นางสุมิตตาพราหมณี ด้วยพระสัพพัญญุตาญาณ แล้วจึงตรัสวาจาพยากรณ์ว่า

    "ดูกรฤาษีผู้ใหญ่ อุบาสิกาผู้นี้ จักเป็นผู้มีจิตเสมอกัน มีกุศลกรรมเสมอกัน ทำกุศลร่วมกัน เป็นที่รักของบุญกรรม เพื่อประโยชน์แก่ท่าน น่าดู น่าชม น่ารัก น่าชอบใจยิ่ง มีวาจาอ่อนหวาน จักเป็นธรรมทายาทผู้มีฤทธิ์ของท่าน ความปรารถนาของอุบาสิกานี้จะสำเร็จตามปรารถนา"

    เหล่ามนุษย์และเทพยดาต่างสาธุการดังก้องขึ้นอีกครั้ง แล้วพระพุทธองค์ก็ทรงนำดอกไม้ ๘ กำโปรยบูชาสุเมธดาบส ทรงกระทำประทักษินแล้วดำเนินหลีกไป เหล่าพระขีณาสพทั้งสี่แสนก็บูชาพระดาบสด้วยของหอมและพวงดอกไม้ แล้วดำเนินหลีกไป

    เมื่อพระภิกษุสงฆ์เดินไปหมดแล้ว สุเมธดาบสซึ่งบัดนี้ได้เป็นพระนิยตโพธิสัตว์ผู้เที่ยงแท้ที่จะได้ตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้าอย่างแน่นอนตามลัทยาเทศนั้นแล้ว ก็ลุกขึ้นนั่งบนกองดอกไม้ พิจารณาตนเองด้วยอภิญญาญาณ ทบทวนพุทธการกธรรมคือบารมีทั้ง ๓๐ ทัศ ที่ได้บำเพ็ญเพียรมา เมื่อพิจารณาครบถ้วนสมบูรณ์แล้วก็บังเกิดแผ่นดินสั่นหวั่นไหว แล้วเหล่าเทพเทวดาทั่วหมื่นโลกธาตุก็ประชุมกัน สักการะด้วยสุคนธมาลัยทิพย์ แล้วกล่าวอำนวยพร
    "
     
  2. ปัญญาสอน

    ปัญญาสอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +131
    อนุโมทนาครับ
     
  3. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    เข้าใจว่า การอธิษฐานเรื่องนางแก้วนั้น ไม่ใช่แค่การอธิษฐานอย่างเดียวครับ
    นางแก้วเองต้องพร้อมและเข้าใจ เรื่องการสร้างบารมี และตนเองก็ต้องพร้อม
    ที่จะยอมรับในหลายๆ เรื่องที่จะต้องเจอ ถึงแม้คู่ที่อธิษฐานว่าจะเกิดมาเจอกัน
    ทุกชาติก็จริง แต่เราจะมั่นใจได้ยังไงว่า เราเคยอธิษฐานกับนางแก้วมาแค่
    คนเดียว เพราะฉะนั้นการสร้างบารมี นางแก้วที่กำลังใจเท่าเทียมกับพุทธภูมิ
    จะค่อยๆ ขึ้นมาและเกิดคู่กับพุทธภูมิท่านนั้นบ่อยขึ้น ในขณะที่คนอื่นๆ ที่กำลังใจ
    อาจจะน้อยกว่า ก็จะเกิดคู่กันน้อยลง นางแก้วหลัก อาจจะไม่ใช่คนที่อธิษฐานคู่กันเป็น
    คนแรกเสมอไปนะครับ แต่อาจจะเป็นคนที่จะไปกับเราได้ ทุกข์ กับเราได้ หรือ
    ไปเป็นคู่หนุนบารมีพุทธภูมิท่านอื่นได้ โดยสถานะ ในบางชาติอาจจะไม่ได้คู่กัน
    และต้องเข้าใจเรื่องพุทธภูมิเจ้าชู้ ด้วยอีกเรื่องนึงหน่ะครับ เรื่องนี้แหละมังที่ต้องเข้าใจ
    ไม่ใช่แค่ทนอย่างเดียว และการที่ต้องทุกข์ใจ อย่าคิดว่าจะเจอไม่กี่ชาตินะครับ
    เจอบ่อยจนกว่าจิตของทั้งคู่จะยอมรับ การพลัดพราก การบริจาคลูกเมีย
    เรียกว่าถ้าไม่หนักแน่นพอ อ่วมครับ ถ้าใครคิดว่าการอธิษฐานกันแล้ว
    คิดว่าเป็นแค่การใช้ชีวิตคู่กัน และก็ได้ทำบุญช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันแค่นั้นนะครับ
    นั่นเป็นแค่ส่วนเดียวเองนะครับ

    ขอให้โชคดีนะครับ อนุโมทนา กับความตั้งใจดี ในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ครับ สาธุ
     
  4. linake119

    linake119 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +578
    ตอบกระทู้

    เห็นด้วยครับ กับคุณ Nattadet

    สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับนางแก้วคือ การบำเพ็ญบารมีร่วมครับ
    และต้องยินดีกับบุญที่พระโพธิสัตว์ได้กระทำทุกประการ ต้องมีกำลังใจที่เข้มแข็งมากกว่าสตรีธรรมดาทั่วไป มิเช่นนั้นแล้ว จะกลายเป็นว่าเป็นผู้ไม่ส่งเสริมการสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์ แล้วจะเกิดร่วมเป็นคู่ทุกข์คู่ยากกันได้อย่างไร

    ดังนั้นหากปรารถนาเป็นนางแก้วของพระโพธิสัตว์พระองค์ใดพระองค์หนึ่งแล้ว จะต้องเตรียมใจรับความลำบากหลากหลายนานาประการที่พระโพธิสัตว์ต้องเผชิญ และต้องเป็นคู่ที่ช่วยสร้าง มิใช่จะเอาแต่สบาย สุดท้าย ก็จะไปถึงฝั่งด้วยกันได้

    แต่นางแก้วไม่แน่นักว่าจะได้คู่กับพระโพธิสัตว์นั้นทุกๆชาติ หากกรณีที่บารมีไม่เท่ากัน ดังนั้นสิ่งที่สำคัญคือ ต้องยินดี และอนุโมทนาในบุญที่พระโพธิสัตว์ในทุกๆ ชาติ รวมถึงต้องบำเพ็ญบารมีทางจิตด้วย ให้ใกล้เคียงกันกับพระโพธิสัตว์ หาไม่แล้ว โอกาสเกิดกันเพื่อมาคู่กัน เพื่อช่วยกันสร้างบารมี ก็จะเป็นไปได้ยากขึ้นครับ
     
  5. ปัญญาสอน

    ปัญญาสอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +131
    อนุโมทนา สาธุ ครับ
     
  6. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    เห็นด้วยกับท่านพี่พระยาเดโช ฯ เจ้าค่ะ การอธิษฐานเป็นนางแก้วอย่างเดียวคงไม่สามารถครองคู่ไปได้ตลอดรอดฝั่ง ถ้าไม่มีการบำเพ็ญบารมีอย่างอื่นร่วมด้วย

    คำว่า "ทน" หมายถึง ขันติบารมีที่ต้องบำเพ็ญร่วมกัน เพราะกว่าพุทธภูมิจะสำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณได้นั้น ย่อมมีนิสัยบางอย่างดีบ้าง ไม่ดีบ้าง โดยเฉพาะความเจ้าชู้ ถ้าไม่มีขันติบารมี ฝ่ายหญิงอาจจะทนไม่ได้ และตัดใจลาขาดจากการเป็นนางแก้วแน่นอน อิอิ..

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ปรารถนาพระโพธิญาณค่ะ

    Numsai
     
  7. santosos

    santosos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +3,212
    ไม่ต้องสงกา
     
  8. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    สาธุ อนุโมทนากับท่าน นำ้ใส ด้วยนะครับ
    ผมขออนุญาติเติม นิดหนึ่งนะครับ
    ต้องเติม " อด " เข้าไปด้วยนะครับ อด + ทน = ขันติบารมี
    และที่สำคัญนางแก้ว ท่านเองมีความยินดีที่จะร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพระโพธิสัตว์ อย่างเช่น พระนางมัทรี ตอนที่พระเจ้าสัญชัยเนรเทศพระเวสสันดรไปอยู่เขาวงกต พระนางมัทรีท่านก็ยินดีที่จะไปอยู่เขาวงกตกับพระเวสสันดร ทั้งๆๆที่รู้ว่าที่นั้นลำบากแค่ไหน

    อีกนิดครับ

    พระทีปังกรพุทธเจ้าจึงทรงตรวจสอบ นางสุมิตตาพราหมณี ด้วยพระสัพพัญญุตาญาณ แล้วจึงตรัสวาจาพยากรณ์ว่า

    "ดูกรฤาษีผู้ใหญ่ อุบาสิกาผู้นี้ จักเป็นผู้มีจิตเสมอกัน มีกุศลกรรมเสมอกัน ทำกุศลร่วมกัน เป็นที่รักของบุญกรรม เพื่อประโยชน์แก่ท่าน น่าดู น่าชม น่ารัก น่าชอบใจยิ่ง มีวาจาอ่อนหวาน จักเป็นธรรมทายาทผู้มีฤทธิ์ของท่าน ความปรารถนาของอุบาสิกานี้จะสำเร็จตามปรารถนา"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 กุมภาพันธ์ 2010
  9. ปัญญาสอน

    ปัญญาสอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +131
    อนุโมทนา สาธุครับ
     
  10. Deetom

    Deetom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +825
    ขอท่านทั้งหลายสำเร็จดังตั้งมโนหมายเถิด สิ่งทั้งหลายที่พูดกันนี้แม้ใครจะมองว่าเป็นสิ่งใด แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่คือพระโพธิญาน เพื่อยังสรรพสัตว์ทั้งหลายข้ามพ้นบ่วงแห่งทุกข์

    ขอนางแก้วผู้ปรารถนาดังนี้ให้ตั้งใจมั่นเถิด จะสำเร็จได้ดังประสงค์ขอให้รักษากำลังใจไว้ให้ดี

    ขอเป็นกำลังใจให้ท่านพุทธภูมิและ นางแก้วทุกท่านโมทนาสาธุ
     
  11. chartz

    chartz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +223
    สัตว์ทั้งหลายย่อมเกิดมาอย่างเดียวดาย
    และจากไปอย่างเดียวดาย
    อาจจะเกิดมาพบเจอกันบ้าง
    แต่ไม่อาจจะอยู่ด้วยกันตลอดไปได้
    อุปมาเหมือนใบไม้สองใบที่เราว่างคู่กันให้ลอยไปในแม่น้ำ
    ใบไม้นั้นลอยแยกจากกันอย่างไร
    คนเราก็จำต้องแยกจากกันเช่นนั้น
    ด้วยกระแสแห่งความเปลี่ยนแปลงของโลก
    หากอธิษฐานคู่กันเพราะแรงราคะ
    ยิ่งไม่อาจจะอยู่ด้วยกันได้
    แต่หากอธิษฐานเพื่ออุปถัมภ์กันจนกว่าจะนิพพานหรือเป็นพระโพธิสัตว์
    ย่อมมีแรงของศรัทธามากกว่าความรัก
    คือเสียสละคนที่รักได้
    ตามหลักอนิจจัง ทุกอย่างไม่เที่ยง
    เราเองไม่ควรคาดหวังอะไร แม้แต่ใจเราเองก็ไม่ได้รักใครมาแต่เกิดนอกจากตัวเอง
    ความรักเกิดได้ ย่อมดับได้
    ลองดูแค่ในชาตินี้ก็พิสูจน์ได้แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2010
  12. ปัญญาสอน

    ปัญญาสอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +131
    อนุโมทนา สาธุ ครับ
     
  13. ปัญญาสอน

    ปัญญาสอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +131
    อนุโมทนา สาธุ ครับ เป็นคำพูดที่ซึ้งใจนัก
     
  14. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    [/quote=ต้นละ;2961829]สาธุ อนุมทนากับท่าน น้ำใส ด้วยนะครับ
    ผมขออนุญาติเติม นิดหนึ่งนะครับ
    ต้องเติม " อด " เข้าไปด้วยนะครับ อด + ทน = ขันติบารมี
    และที่สำคัญนางแก้ว ท่านเองมีความยินดีที่จะร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพระโพธิสัตว์ อย่างเช่น พระนางมัทรี ตอนที่พระเจ้าสัญชัยเนรเทศพระเวสสันดรไปอยู่เขาวงกต พระนางมัทรีท่านก็ยินดีที่จะไปอยู่เขาวงกตกับพระเวสสันดร ทั้งๆๆที่รู้ว่าที่นั้นลำบากแค่ไหน

    อีกนิดครับ

    พระทีปังกรพุทธเจ้าจึงทรงตรวจสอบ นางสุมิตตาพราหมณี ด้วยพระสัพพัญญุตาญาณ แล้วจึงตรัสวาจาพยากรณ์ว่า

    "ดูกรฤาษีผู้ใหญ่ อุบาสิกาผู้นี้ จักเป็นผู้มีจิตเสมอกัน มีกุศลกรรมเสมอกัน ทำกุศลร่วมกัน เป็นที่รักของบุญกรรม เพื่อประโยชน์แก่ท่าน น่าดู น่าชม น่ารัก น่าชอบใจยิ่ง มีวาจาอ่อนหวาน จักเป็นธรรมทายาทผู้มีฤทธิ์ของท่าน ความปรารถนาของอุบาสิกานี้จะสำเร็จตามปรารถนา"[/quote]

    ขอขอบคุณที่ช่วยเพิ่มเติมว่า "อด+ทน" = ขันติบารมี

    เมื่อมีขันติบารมี ย่อมมีวิริยะบารมีเคียงคู่เสมอ ดังนี้ ผู้ที่ปรารถนาเป็นคู่บารมีนั้น โดยส่วนใหญ่จะไม่คำนึงถึงความยากลำบากที่จะต้องเจอ

    มีกำลังใจของท่านเหล่านั้นมีความคิดอย่างเดียว คือ ไม่ว่าพระโพธิสัตว์จะทำกิจใด ยินดีที่จะช่วยสนับสนุนให้งานนั้น ๆ สำเร็จโดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก

    แต่ทว่า ยิ่งใกล้อยู่ในช่วง ๑๐๐ ชาติสุดท้าย ก็จะมีบททดสอบมหาโหดที่ต้องให้ผ่านบททดสอบเหล่านั้น เช่น การถูกทิ้งให้ต้องอยู่โดดเดี่ยว การที่ต้องเสียสละชีวิต เพื่อประโยชน์ส่วนรวม การต้องถูกให้เป็นภรรยาผู้อื่น การแก่งแย่งชิงดี อิจฉาริษยา ระหว่างหญิงด้วยกัน

    นางแก้วท่านใดไม่ผ่านบททดสอบนั้น ก็จะหลุดกันไปด้วยกำลังใจลดลง สุดท้ายจะเหลือเพียงนางแก้วท่านเดียว ซึ่งเป็นคู่บารมีตัวจริง ได้เคียงคู่กันกันจนกว่าพระโพธิสัตว์จะบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ

    ขออนุโมทนาบุญกับผู้ปรารถนานางแก้วทุก ๆ ท่าน ขอให้สมความปรารถนาทุกประการ

    Numsai


    ฟังเพลงดวงใจเดียวกัน

    เปิดดูไฟล์ One_heart.mp3
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2010
  15. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    สาธุ....... อนุโมทนาด้วยนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 กุมภาพันธ์ 2010
  16. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171

    มาสนับสนุนความเห็นนี้ครับ

    หากเราไปศึกษาเรื่องการตั้งสัจจะอธิษฐานของพระนางพิมพาในสมัยที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเกิดเป็นท่านสุเมธดาบส
    ในครั้งนั้น เมื่อท่านสุเมธดาบสได้ทอดร่างเป็นสะพานให้พระพุทธทีปังกรพุทธเจ้าและพระสาวกเดินผ่านไปเพื่อไม่ให้พระพุทธเจ้าและเหล่าพระสาวกเหยียบย่ำลงไปบนโคลนเลน พระพุทธทีปังกรได้ทรงพยากรณ์ว่า ท่านสุเมธดาบสจะได้บรรลุพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญานเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตกาล พระนางพิมพาหรือนางสุมิตตาในชาตินั้นพอได้ยินพุทธพยากรณ์เช่นนั้น พระนางพิมพาก็ไปเก็บดอกบัวมาถวายพระพุทธเจ้าแล้วตั้งจิตอธิษฐานขอเกิดมาเป็นคู่บารมีกับท่านสุเมธดาบสและจะช่วยสนับสนุนและส่งเสริมการบำเพ็ญบารมีทุกชาติไปจนกว่าท่านสุเมธดาบสจะบรรลุพระโพธิญาณ

    ในครั้งนั้นแม้ท่านสุเมธดาบสจะได้ทักท้วงที่นางสุมิตตาอธิษฐานเช่นนั้น แต่ก็ไม่สามารถลบล้างคำอธิษฐานของนางสุมิตตาได้ จึงเห็นได้ว่าคำอธิษฐานของบุคคลผู้มีความตั้งใจมั่นย่อมสัมฤทธิผล

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มีนาคม 2010
  17. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171

    ฮั่นแน่ นึกแล้วเชียวว่า กระทู้นี้น้ำใสต้องเข้ามาตอบแน่ๆ

    นางแก้วควรจะต้องมีขันติบารมีหรือมีความอดทนและใจกว้างต่อการมี "เมตตา"

    ของผู้ปรารถนาพระโพธิญาณนะจ๊ะ ดูตัวอย่างจากผู้ที่เป็นนางแก้วอันดับหนึ่งสิ

    เพราะผู้ปรารถนาพระโพธิญาณมักมีเมตตามาก และการมี "เมตตา" มาก

    เขาไม่เรียกว่า "เจ้าชู้" หรอก (อันนี้ตอบแบบเอาสีข้างเข้าถูนิดๆ อิอิ...)

    ถ้าหากปรารถนาจะเป็นนางแก้วเอก ก็ต้องมีขันติบารมีและมีเมตตาบารมีต่อ

    นางแก้วลำดับรองๆ ลงไปด้วย (ดูตัวอย่างจากท่านแม่ศรีคู่บารมีของหลวงพ่อ

    พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง สิครับ) หากน้ำใสมีขันติบารมีและเมตตาบารมี

    ไม่มากพอ น้ำใสก็ต้องขอลาจากผู้ปรารถนาพระโพธิญาณที่มีเมตตามากอยู่

    เรื่อยไป... น่าเหนื่อยใจแทนจังเน๊าะ....



    .



    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2010
  18. คือคนบาป

    คือคนบาป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +130
    ขอแสดงความคิดเห็นนะครับ เพราะผมไม่ใช่ผู้รู้แน่ๆ ได้แต่แสดงความคิดเห็นไปเรื่อยเปื่อยครับ ผมว่าการที่ผู้หญิงคนหนึ่งอธิฐานจิตตลอดเวลาเพื่อที่จะเป็นนางแก้ว ก็คงเหมือนกับเราท่านที่อธิฐานซึ่งพุทธภูมิ เมือได้ตอกย้ำความปรารถนานี้ไปตลอดก็คงจะยึดมั่นติดอยู่ในนิสัย แต่น่าสงสารครับที่ต้องมาลำบากทนทุกขเวทนาไปกับเราด้วย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้พ้นทุกข์เสียที ผมว่าทางที่ดีน่าจะช่วยให้นางแก้วเหล่านี้หลุดพ้นไปก่อนก็ดีนะครับสงสารผู้หญิงตัวเล็กๆที่ต้องมาแบกภาระอันหนักอึ้งร่วมกับเรา แต่ถ้านางแก้วนี้ก็ดื้อหัวชนฝาแบบเราที่ยังไงก็จะร่วมสร้างบารมีไปพร้อมกับเราให้ได้ ยังไงเราท่านช่วยพาเธอเดินไปพร้อมกับเราด้วยแล้วกัน เผื่อวันไหนเราเหงาๆจะได้มีคนคุยด้วย ไม่นั่งน้ำลายบูดอยู่คนเดียว อันนี้แค่คุยเล่นๆสนุกๆนะครับแค่ขำๆแบบไร้สาระบ้าง คลายเครียดกันครับและต้องขอโทษเจ้าของกระทู้ด้วยครับถ้าผมจะทำให้ท่านอารมณ์เสียกับเรื่องไร้สาระนี้
     
  19. ปัญญาสอน

    ปัญญาสอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +131
    ไม่ต้องขอโทษครับความเป็นทุกความเป็นมีค่าเสมอ

    นางแก้วที่อธิฐานไปกับเราก็ให้ไปครับ แต่เขาก็ต้องรู้แล้วเราไปครั้งนี้มีความหมาย เพราะต้องบำเพ็ญ และ ต้องเจอทุกข์ ขึ้นอยู่ที่กำลังใจครับ แต่ถ้าเขาจะไปนิพพานก่อนก็ให้ไปครับ ที่สำคัญ แต่จะไปได้หรือไม่ก็ต้องขึ้นอยู่กับอีกหลายอย่าง ยากที่จะอธิบาย เพราะบางเรื่องมันซับซ้อน ผมก็ไม่ได้รู้มาก งูๆ ปลา ของผมไป
     
  20. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    สาธุ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    แอบขำ ท่่านน้องเคน อิอิอิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...