“พงศพัศ”ยื่นมือช่วย“ครูน้อย”ปลดหนี้เงินกู้นอกระบบกว่า 8 ล้าน

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“พงศพัศ” ยื่นมือช่วย “ครูน้อย” ปลดหนี้เงินกู้นอกระบบกว่า 8 ล้าน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ทีมข่าวอาชญากรรม</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>7 กุมภาพันธ์ 2553 17:10 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ครูน้อย เล่าเรื่องราวให้ พล.ต.ท.พงศพัศ ฟังถึงปัญหาหนี้สินจากเงินกู้นอกระบบที่ต้องกู้มาใช้จ่ายเลี้ยงเด็กในบ้าน 72 คน </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>พล.ต.ท.พงศพัศ ตักอาหารเลี้ยงเด็กๆ</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>“พงศพัศ” เยี่ยม “บ้านครูน้อย” สถานรับเลี้ยงเด็กยากจน หลังประสบปัญหาค่าใช้จ่ายเพิ่ม เงินบริจาคน้อยลง จนต้องกู้ยืมเงินนอกระบบมา หมุนเวียนเลี้ยงดูเด็กด้อยโอกาสกว่า 70 ชีวิต ทำให้เป็นหนี้นอกระบบรวมกว่า 8 ล้านบาท พร้อมประสานเจ้าหนี้รายใหญ่ มาพูดคุยเพื่อบรรเทาปัญหา-ปลดหนี้ให้ครูน้อย

วันนี้ (7 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษก ตร. พ.ต.อ.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.ดุสิต สมศักดิ์ ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ เดินทางเข้าพบนางนวลน้อย ทอมกุล หรือ “ครูน้อย” อายุ 67 ปี ที่สถานรับเลี้ยงเด็กยากจน "บ้านครูน้อย" ตั้งอยู่เลขที่ 319 หมู่ 1 ซอยราษฎร์บูรณะ 26 แขวงและเขตราษฎร์บูรณะ หลังได้รับการร้องเรียนจากครูน้อยเรื่องเงินกู้นอกระบบ ที่กู้มาเป็นค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูเด็กยากไร้

เมื่อไปถึงที่บ้านหลังดังกล่าวซึ่งสภาพเก่าทรุดโทรมเป็นอย่างมาก พบเด็กชาย-หญิงที่ครูน้อยรับเลี้ยงไว้ทั้ง 72 คนยืนให้การต้อนรับ และยังมีผู้มีจิตเมตตานำอาหารและขนมมาเลี้ยงเด็กๆ ที่บ้านหลังดังกล่าวด้วย จากนั้นครูน้อยเปิดเผยเรื่องราวทั้งน้ำตาให้ พล.ต.ท.พงศพัศ ได้รับทราบถึงปัญหาที่กำลังประสบอยู่ว่า ได้เปิดบ้านเป็นสถานรับเลี้ยงเด็กด้อยโอกาสมาตั้งแต่ปี 2523 นานกว่า 30 ปีแล้ว เพราะสงสารเด็กไร้ที่พึ่งไม่มีที่พักพิงและไม่ได้เรียนหนังสือ ขณะนี้มีเด็กเข้ามาอยู่ที่บ้านเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว แม้จะมีเงินบริจาคจากมูลนิธิต่างๆ รวมถึงเงินบริจาคจากผู้ที่มีจิตเมตตาเข้ามาเป็นจำนวนมาก รวมทั้งรายได้จากการขายของที่ระลึกก็ยังไม่พอใช้จ่าย

ครูน้อย กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นตนก็หันไปกู้เงินนอกระบบมาใช้จ่ายภายในบ้าน โดยเริ่มกู้ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2547 บางครั้งก็ต้องกู้มาจ่ายดอกของเจ้าหนี้อีกคน บางรายก็จ่ายจนครบทั้งต้นทั้งดอกไปหมดแล้ว แต่บางรายยังเหลือเงินต้นอยู่เป็นจำนวนมาก จนถึงวันนี้มีเจ้าหนี้อยู่ประมาณ 20 ราย และติดหนี้อยู่รวมแล้วประมาณ 8 ล้านบาท ในแต่ละวันตนต้องนำเงินไปจ่ายดอกเบี้ยให้เจ้าหนี้ทั้ง 20 ราย รวมแล้วประมาณ 5 หมื่นบาทต่อวัน

ครูน้อยกล่าวอีกว่า ตนรู้ว่าการกู้เงินนอกระบบนั้น ดอกเบี้ยจะแพงกว่าปกติ แต่ก็ต้องกู้เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายเลี้ยงดูเด็กในบ้าน ที่ตอนนี้มีจำนวนมากถึง 72 คน แบ่งเป็นเด็กช่วงอายุ 3-14 ปี จำนวน 60 คน และอายุ 14 ปี ขึ้นไป จำนวน 12 คน ซึ่งตนก็ส่งเสียให้เรียนตั้งแต่อนุบาลจนจบปริญญาตรี โดยทุกวันๆ ตนต้องจ่ายเงินให้เด็กในบ้านไปใช้จ่ายในการเรียนกว่า 4,000 บาททุกวัน และแต่ละคนจะได้รับเงินไม่เท่ากันไล่เลี่ยกันไป ที่เรียนสูง เช่นเรียนระดับปริญญาตรี ก็ได้เงินมากหน่อย ส่วนที่ยังเรียนประถมหรือมัธยมก็ได้ลดน้อยลงมา นอกจากนี้ยังมีค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร อีกเดือนละประมาณ 220,000 บาท

“เจ้าหนี้บางคนก็เห็นใจมีการประนอมหนี้ให้ แต่ก็ต้องจ่ายให้ครบและตามที่ระยะเวลาที่กำหนดไว้อยู่ดี แต่เจ้าหนี้บางคนก็มีข่มขู่บ้าง แต่ไม่ได้ข่มขู่โดยตรง เพียงแต่พูดฝากชาวบ้านหรือบอกผ่านคนใกล้ชิดมาในทำนองที่ว่า รู้จักกับตำรวจบ้าง มีปืนบ้าง หรือใครที่ติดหนี้ไม่จ่ายมีสิทธิ์ตายได้ทุกคน ก็ไม่รู้จะทำยังไง เลยต้องกู้เงินเจ้าหนี้รายอื่นมาจ่ายดอกให้อีกราย เพื่อบรรเทาปัญหาไป ตอนนี้เจ้าหนี้ทั้งหมด มีอยู่ 3 ราย ที่หนักกว่าเจ้าอื่นคือ รายแรกที่ติดหนี้อยู่ประมาณ 1.3 ล้านบาท ส่วนอีกสองรายติดอยู่รายละ 5 แสนบาท ซึ่งทั้ง 3 รายนี้ ก็ได้กู้ตั้งแต่ปี 47 ส่งดอกทุกเดือน บางเดือนก็ส่งทั้งต้นและดอก แต่ทุกวันนี้เงินต้นก็ยังไม่ลดลงซักที” ครูน้อย กล่าวด้วยความท้อใจ

ครูน้อยกล่าวด้วยว่า เรื่องนี้ตนไม่เคยบอกให้ใครทราบมาก่อน เพราะขณะนั้นตนยังสามารถหาเงินมาใช้หนี้ได้อยู่ แต่ทุกวันนี้ไม้รู้จะนำเงินจากไหนไปจ่ายแล้ว เพราะฐานะที่บ้านก็ยากไร้ เงินสนับสนุนจากมูลนิธิต่าง และเงินบริจาคก็เริ่มลดลง ทุกวันที่อยู่กับเด็กๆ ก็มีความสุข แต่เวลาอยู่คนเดียวก็ต้องคิดเรื่องดังกล่าวจนเครียด ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร จึงต้องขอร้องให้ตำรวจเข้ามาช่วยเหลือ เพราะ อยากให้เจ้าหนี้เห็นใจตนบ้าง ตนก็ทำงานรับใช้สังคมมาตลอด และเป็นคนซื่อตรงไม่เคยคิดเบี้ยวเจ้าหนี้ซักราย หาเงินจ่ายดอกให้ครบทุกเดือน แต่เงินต้นของบางรายไม่ยอมลดลงเลย

ด้าน พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่ครูน้อยได้สารภาพว่า รู้สึกผิดในการที่นำเงินของผู้ที่บริจาคให้กับเด็กไปจ่ายดอกเบี้ยให้กับเจ้าหนี้ ซึ่งถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว ส่วนเรื่องภาระหนี้สินนี้ ตนจะเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ กับเจ้าหนี้ที่มีจำนวนวงเงินกู้สูง ประมาณ 3 ราย มาพบปะหารือกันเกี่ยวกับการชำระหนี้ โดยเฉพาะหนี้ที่ครูน้อยจะต้องจ่ายรายวันจะต้องดำเนินการในเบื้องต้น กำหนดไว้ภายใน 3 วัน เพื่อปลดภาระหนี้สินให้ครูน้อยได้มีโอกาสนำเงินที่ได้รับบริจาคจากประชาชนไปใช้สำหรับในการเลี้ยงดูเด็กต่อไป ซึ่งหากขณะนี้เจ้าหนี้รายใดได้รับทราบข่าวแล้ว จะเดินทางมาพบตนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) หรือจะให้ตนไปพบที่ใดก็กรุณาแจ้งให้ทราบด้วย เพื่อให้เรื่องจบสิ้นโดยเร็ว

พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวต่อว่า กรณีเกรงว่าหากเปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณะชนแล้ว ครูน้อยจะไม่ได้รับความปลอดภัยนั้น ตนก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เข้ามาดูแลและช่วยเหลือแล้ว
ทั้งนี้หากประชาชนคนใดมีความต้องการจะให้การช่วยเหลือสนับสนุนภาระของครูน้อย ไม่ว่าจะเดินทางมาพบปะครูน้อยด้วยตนเอง หรือหากต้องการจะบริจาค
สามารถติดต่อได้โดยตรง ที่บ้านครูน้อย เลขที่ 319 หมู่ 1 ซอยราษฎร์บูรณะ 26 แขวงและเขตราษฎร์บูรณะ หรือที่โทรศัพท์หมายเลข 0-2871-3083
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

Crime - Manager Online

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เปิดบัญชี “ปลดทุกข์ครูน้อย” รับบริจาคช่วยล้างหนี้กว่า 6 ล. </TD><TD vAlign=baseline align=right width=85></TD><TD vAlign=baseline align=right width=85></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>14 กุมภาพันธ์ 2553 12:47 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ครูน้อย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>“พล.ต.ท.พงศพัศ” พา “ครูน้อย” พร้อมผู้จัดการ ธ.กสิกรไทย สาขาราษฎร์บูรณะ เปิดบัญชี “ปลดทุกข์ครูน้อย” รับบริจาคปลดหนี้เงินต้นทั้งหมดกว่า 6 ล้านบาท จากเจ้าหนี้ 23 ราย ระบุบัญชีไม่สามารถถอนเงินได้จนกว่าจะครบจำนวน มอบ “ครูหยุย” เป็นกรรมการดูแล เจ้าตัวเผยยินดีใครให้ทำอะไรก็ทำ พร้อมตั้งเป็นมูลนิธิ ลั่นยังไงก็จะช่วยเด็กรูปแบบเดิม ปัดข้อครหา ยันมีสมบัติติดตัวแค่ทอง 1 สลึง เงินอีก 6 หมื่น

​

พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย สาขาราษฎร์บูรณะ และ นางนวลน้อย ทิมกุล หรือ ครูน้อย ผู้อำนวยการสถานเลี้ยงเด็กยากจนบ้านครูน้อย ร่วมกันเปิดบัญชีใช้ชื่อว่า “ปลดทุกข์ครูน้อย” หมายเลขบัญชี 745-259-999-0 ธนาคารกสิกรไทย สาขาราษฎร์บูรณะ เพื่อรับเงินบริจาค 5,686,000 บาท ซึ่งเป็นหนี้จากเจ้าหนี้ 23 ราย ของครูน้อยที่เป็นเงินต้นทั้งหมดโดยไม่มีดอกเบี้ย เพื่อการชำระหนี้ โดยบัญชีดังกล่าวนี้จะไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ จนกว่าจะครบจำนวนดังกล่าว และทางธนาคารจะประกาศให้ทราบยอดเงินบริจาคทุกวันเพื่อความโปร่งใส โดยมี นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ หรือ ครูหยุย เลขาธิการมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก เป็นประธานกรรมการดูแล นอกจากนี้ ยังเปิดเว็บไซต์ชื่อหมู่บ้านครู moobankru.com เพื่อเป็นช่องทางหนึ่งในการรับบริจาค ซึ่งเงินจะโอนเข้าบัญชีกสิกรไทย

ครูน้อยเปิดเผยว่า ตนยินดีทำตามที่ทุกคนต้องการหากเห็นว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด คิดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายใน 2-3 วันนี้ ไม่ต้องรอให้ปลดหนี้หมดก่อน สิ่งเดียวที่ขอคือ อย่าให้การปลดทุกข์ของครูทำให้เด็กๆ เดือดร้อน อย่างไรก็ตาม ตนจะขอช่วยเหลือเด็กในรูปแบบเดิม เพราะทั้งชีวิตมีความสุขกับการให้ ให้ในสิ่งที่องค์กรอื่นไม่เคยให้กับเด็กๆ ส่วนการตั้งเป็นมูลนิธิไม่ขัดข้อง

“ครูยืนยันว่าข้อครหาที่พูดกันไม่เป็นความจริง ตอนนี้ทั้งตัวมีสมบัติที่มีอยู่คือทอง 1 สลึง เงิน 10,000 บาท ของธนาคารออมสิน และเงินอีก 50,000 บาท ในบัญชีที่คนให้ไว้รักษาตัวเวลาเเก่และเจ็บป่วยเท่านั้น” ครูน้อยกล่าว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
------------------
Quality of Life - Manager Online