มาดูสมเด็จกัน

ดูเซียนตัวพ่ออยู่ อ่านแล้วขำๆ ไม่รู้เซียนตัวพ่อทั้งหลายมีกับเขาบ้างหรือเปล่า เอามาโชว์ให้หลานเซียนดูหน่อย แล้วจะเชื่อ

ล้อเล่น แค่อยากขอดูพระแท้ก็เท่านั้นเอง

 

สากลนิยม ผมเข้าใจครับ แล้วใครละที่เป็นสากลนิยมละครับท่าน แม้กระทั่งเซียนด้วยกันเองยังแย้งพระด้วยกันเองเลยคุณ ว่าเจ้านั่นไม่ดี เจ้านี้ดีแท้ เซียนพระผงตำหนิพระกรุ เซียนพระกรุก็ตีเก็พระผง เซียนเหรียญว่าพระรูปหล่อปลอม เอายังไงกันละครับ อีกส่วนหนึ่งคิดเอาเองว่า พวกตัวเองเก่งนักเก่งหนา พวกเรานี้เก่งกว่าใครๆ คิดกลุ่มเดียว เออ ออ ห่อมก ว่าดูพระเป็น แล้วตั้งตัวเป็นสากลนิยมตีพระเซียนเป็นพระเก็ ตีพระเก็เป็นนิยม แต่พอลองเอาพระที่ได้รับ การตีเป็นสากลนิยม แปลงเป็นพุทธกิจ เดินเข้าร้านในห้างใดก็ตาม หวังเช็คพระ (เนื้อยังไม่ถึงครับ ไม่ก็ พี่ยังไม่ชอบน้อง) บางท่านตั้งตนเป็นกูรู รู้ทุกเรื่อง มองผิวเผิน ในภาพ พระแท้ พระเก็ พระเทียม โอ้โฮ สุดจะบรรยาย สรุปแล้ว พระที่ตีค่าเป็นพุทธกิจหรือตีค่าเป็นเงินตราได้ ในสากลเขาเรียกกลุ่มเขาว่า พระสากลนิยม คือ พระแท้ ส่วนพระไม่สากลนิยม ตีปลอมทันที คนที่รักจะศึกษาพระสมเด็จจริงๆ คุณศัทธาในองค์พุทธคุณสมเด็จมากน้อยแค่ไหน หรือ เห็นแค่ว่า พระสมเด็จมีราคาแพง หวังฟลุค เผื่อจะรวย โอ้โฮ ถ้าจะศึกษาในแง่ของพุทธคุณแล้ว ไม่ผิดหรอกครับ ที่จะแขวนพระ ที่แท้คนเดียว มันอยู่ที่ใจและความเชื่อศัทธาจริง (พระพุทธเจ้าเราท่านยังไม่ให้เชื่อในคำสอนของท่านเลย แต่ท่านให้เราศึกษาให้สอบสวนและรู้แจ้งด้วยตัวเอง จึงจะถือว่า เห็นพระตถาคต) การเวลาจะพิสูจน์พระท่านเองว่า แท้หรือเทียม หมายถึง อนาคตวงการพระ เพราะเดียวนี้ ได้มีเครื่องมือ โคตรล้ำสมัย จาก เมืองนอกที่ได้เข้ามาใจเมืองไทยแล้ว โดยต่างชาติ เขาดูพระอย่างเราๆ ไม่เป็น แต่เขาเก่งอีกแบบ เขาสามารถ ใช้เครื่องมือทางวิทยาศาตร์ของเขา สามารถ แยกแยะแม้กระทั่งมวลสาร ว่าประกอบด้วยอะไรบ้าง ในเนื้อพระองค์นั้น แถมยังระบุค่าเวลาของอายุพระอีก คูณด้วยพลังขององค์พระอีกต่างหาก ผรั่งเขาเรียกว่า The Power Of Aura คราวนี้ คนไทยได้เห็นโชมพระสมเด็จแท้ๆ เป็นแน่ครับ

 

:boo:

คุณไงครับเซียนตัวพ่อของจริงเลยละ ไม่รู้ศึกษามายังไงว่าทั้งสององค์นี้เป้นพระเเท้ทั้งคู่ :'(

....สงสัยเดินเช่าพระตามสนามหลวงบ่อย


ศึกษาให้มากกว่านี้เเล้วค่อยมา comment พระชาวบ้านนะ อยากดูพระเเท้ก็เสียตังค์ซื้อหนังสือดิครับ เล่มไม่กี่ร้อย

 

โดยมากส่วนใหญ่พวกเซียนตัวพ่อ
พวกนี้เช่าพระสมเด็จแค่หลักร้อย ไม่กล้าเช่าพระสมเด็จหลักแสนหลักล้าน
ไม่กล้าส่งงานประกวด ไม่กล้าไปแห่พระ สมเด็จแท้แบบนี้มีมากมายที่ท่าพระจันทร์
ถ้าอยากดูพระสมเด็จแท้ ต้องกล้าเช่าตามราคาหลักแสนหลักล้าน
ดูพระจับพระราคาหลักร้อยยังไม่เป็น มาจับพระสมเด็จหวังเผื่อฟลุ๊ค
เข้าป่าเข้าพงมาเยอะ ประเภทสมเด็จตามตลาดนัด แผงลอย
พวกคนขายพระมันแห่ขายมาทุกสนาม พวกหมูสนามคิดว่ามันจะโง่
พระสมเด็จแท้มันขายหลักแสน พระสมเด็จเก๊มันมาหลอกขายหลักร้อย
เล่นพระคนเดียว ไม่ฟังคนอื่น ว่างๆลองเอาพระที่เช่ามาส่งประกวดพระ
กรรมการพระเขาจะบอกว่า ตกรอบแรกแพ้คัดออก ไม่ต้องส่องกล้อง ดูง่าย

 

ใจร่มๆกัน

ดีทุกความเห็นด้วยกันทั้งนั้นแหละ

สำหรับคุณ พิมพ์ใหญ่ นะครับ

ผมชอบในความคิดของคุณ

แต่จะให้แง่คิดอีกนิดนึ่งครับ เรื่อง การดูพระผ่านจากรูปภาพ และเรื่องความเป็นสากลนิยม โดยใจที่เป็นกลาง

ถ้าจะสังเกตุดีดี การที่จะรับฟังความเห็นจากใครสักคนในการนำเสนอภาพนั้น ก็พิจารณาจากผลงานการวิจารณ์ของท่านนั้นๆที่ผ่านมาว่า เป็นยังไง สามารถอธิบาย เก้ แท้ ได้เป็นอย่างดี หรือไม่ ขอดักนิดนึ่งเดียวท่านก็แย้งมาอีกว่าแล้วรู้ได้ไงว่าเก้ ว่าแท้ ในเมื่อก็ไม่มีใครเกิดทัน ผมก็จะขอบอกเลยว่า วิถีทางของการศึกษานั้นมันไม่ได้ ได้มาโดยง่าย จนที่จะกล้าเอ่ยคำว่า เก้ ว่าแท้ หรือแม้แต่จะพิมพ์คำว่าเก้นั้น มือสั่นก่อนที่จะเคาะ Enter ออกไปด้วยซ้ำ ต้องมั่นใจในวิถีทางแห่งการศึกษามาพอสมควร จึงจะกล้าตอบออกไป

คำว่าวิถี ทางแห่งการศึกษา เป็นยังไง ท่านอาจจะคาดไม่ถึง หรือไม่อาจมองภาพออก ว่าทั้งเจ็บทั้งปวด ทั้งผิดหวังสมหวัง เดินทางมาไกลแค่ไหน กว่าจะรู้ว่าพระองค์ๆนึ่งนั้นแท้หรือเก้ได้ อธิบายให้ฟัง 3 วันก็ไม่หมด

เพราะฉนั้น จงอย่าไปสนใจใน แค่คำพิมพ์ของคนที่ไม่เคยเห็นผลงาน แล้วมาพิมพ์คำว่า เก้ เชื่อผม

ต่อด้วยคำว่าสากลนิยม มันมาจากไหน

สากลนิยมก็เริ่มก่อตัวจากคนรุ่นหลัง ที่สั่งสอนกันมา แน่นอน สมัยก่อนพระเก้ไม่มีเกลื่อนกลาดขนาดนี้ คนรุ่นนั้นเค้า ก็ที่จะสามารถ เห็นและสัมพัสพระแท้มากกว่าคนรุ่นนี้แน่นอน แล้วสร้างเป็นมาตรฐาน แบบแผนการศึกษาเอาไว้ ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบของตำรา หนังสือหนังหา บอกเล่าถ่ายทอดผ่านหูผ่านตา วางมาตรฐาน ก่อเกิดเป็นสากลนิยม ซึ่งเราก็ต้องยอมรับ เพราะเราคือรุ่นหลัง แต่ตั้งขอสงสัยได้ไม่ผิด แต่คำตอบเราก็ยังต้องพึ่งที่มาที่ไปของคนเหล่านั้นอยู่ดี หรือคุณจะเถียง

คำว่าเซียนรุ่นใหม่ที่สร้างกลุ่มมาตรฐานของตนเองขึ้นมาใหม่นั้น(หรือเรียกว่าสร้างเรื่องเล่า เคร้าความเท็จ) เราก็มีสิทธิ์ที่จะไม่เชื่อ เมื่อมันขัดแย้งจากความเป็นจริง เหมือนเซียนใหญ่ หลายๆคนกำลังโดนอยู่ตอนนี้ถ้าคุณตามข่าว เพราะคุณกลุ่มนี้มุ่งเพียงหวังแต่พุทธพานิชณ์เท่านั้น แต่หารู้ไม่ว่าความศรัทราของผู้คนต่อเค้ากำลังจะหมดไป

อยู่บนเส้นทางนี้ให้นานๆ แล้วจะเริ่มมองเห็นอะไรที่อยากรู้

 

ยอดเยี่ยมครับคุณ Guu3
การพูดจาผ่านเวปบอร์ดสาธารณะนั้น ไม่มีใครล่วงรู้อารมณ์เราหรอกครับ ก่อนกด ส่งข้อความกรุณาคิดซักนิดหนึ่ง ถ้าไม่เห็นด้วย หรือเห็นด้วย ควรใช้วาจา(ในที่นี่หมายถึงข้อความ) ที่ให้เกียรติซึ่งกันและกันด้วยครับ

 

ผมก็ว่าเหมือนท่านGuu3 ล่ะครับ บางคนเขาได้มาจากมรดก แล้วบอกแค่ว่าอย่าไปท่าพระจันทร์ ผมก็ไม่รู้น่ะว่าท่าพระจันทร์ดียังไง เพราะที่เข้าใจมันพระเก๊ เลยไม่ไปให้เสียตา ยอมซื้อหนังสืออ่านดีกว่า ตัวผมเองถ้าไปเช่าพระแผงข้างถนนจริง คงไม่เอามาลงเวปหรอก เข้าประกวดอย่างเดียว เพราะถึงมีคนบอกแท้ก็ไม่มั่นใจอยู่ดี แต่บางคนที่เอามาลงคงปรื้มที่ได้พระมา เลยอยากเอามาอวดให้คนอื่นดูใครตาดีก็ดีไป หลายคนเข้าใจทั้งนั้นแหละว่าสมเด็จแท้ๆ นั้นแพง ไม่มีใครที่พอบอกแท้ในเวปแล้วจะเชื่อทั้งร้อยเปอร์เซ็น แล้วเอาไปเลี่ยมทองหรอก บางครั้งคนตอบก็ไม่ศึกษาอย่างแท้จริง พิมพ์ทรงต่างๆมีมาก แต่เพราะเคยเห็นมาน้อย เลยตีไปตามความเข้าใจ ผมถึงงงยังไงเพราะอย่างหลวงพ่อแก้วเอามาลง เขาจ่ายเงินสดให้เลย5หมื่นยัดใส่มือ แล้วบอกเอาไปเลยนะน้องพี่ชอบ เราแค่เอามาให้ดูแค่นั้น ถึงบอกไงอยู่ที่ตาคนดู ไม่มั่นใจก็อย่าตอบเลย หรือตอบเป็นกลางดีกว่า แต่ถ้ามั่นใจก็ช่วยอธิบายเพื่อเป็นความรู้แก่ชนรุ่นหลัง อย่าไปเก็บความรู้ที่มี ให้รู้คนเดียวเลย

 

หลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ที่ผมเอามาลงได้มา10กว่าปี ตอนนั้นพระท่านดังแต่ก็หลักแสน ไม่ถึงล้านเหมือนสมัยนี้ ถ้าเล่นพระเพียงเพราะวัดที่ค่าเงินก็ได้แค่จ่ายเงิน ไม่ได้มีคุณค่าหรอก

 

ผมว่าถ้าพูดถึงพระสมเด็จก็อย่างที่ท่าน Guu3 บอกตอนแรกๆหละครับทุกวันนี้เรานำพระสมเด็จมาถามมาโชว์กันเพราะอะไรถ้าเรามั่นใจว่าของเราแท้อยู่แล้ว? เรานำมาถามเพราะเราอยากให้คนส่วนมากยอมรับ ยิ่งคนยอมรับเรายิ่งกล้าบอกคนว่าพระสมเด็จเราองค์นี้แท้แพงกว่ารถเบนซ์อีก

สุดท้ายเราก็ภูมิใจที่เรามีของยิ่งกว่าล้ำค่าเก็บไว้ ดังนั้นถ้าเราอยากให้คนส่วนมากยอมรับมันก็เลยต้องมีคำว่า สากลนิยม เพราะถ้าไม่เข้าสูตรนี้นี้เอาเป็นว่ายังไงคนส่วนใหญ่ หรือ เซียนใหญ่ที่เราต้องให้เค้าชี้ชัดเค้ายังไงก็ไม่ยอมรับจะเอาอะไรไปบังคับเค้าได้? พวกนี้ไม่ยอมรับซักอย่างก็ไม่มีใครเอารถเบนซมาแลกกับพระหรอกครับเสี่ยงเปล่าๆ(ผมเปรียบเทียบเฉยๆนะครับ)

ก็อย่างว่าคนเรามันไม่เท่าเทียมกันตั้งแต่เกิดมาแล้วไม่งั้นทุกวงการ อาชีพเราจะต้องมีคนที่เราไปคอยพึ่งบุญ บารมีเค้าหรือ

สรุปถ้าเรามั่นใจว่าพระสมเด็จเราแท้ สวย ไม่คิดปล่อย ไม่อยากสนใจเซียน ไม่สนใจใคร ประกวดไม่เอา รางวัลไม่ชอบ ผมว่าสบายใจครับ สวด ชินบัญชร เป็นคนดีรักษาศีล ก็สุดยอดแล้วดีด้วย แต่ถ้าตรงกันข้ามมันก็ต้องกลับมาที่คำว่าสากลนิยมอยู่ดีครับ จนกว่าวันใดมีTechnology สูงๆ อย่างที่เพื่อนๆบอกค่อยมาว่ากันตอนนี้ต้องอยู่ตามหลักนี้ไปก่อน

ส่วนพระของท่าน wassabi san ผมความรู้น้อยไม่ออกความเห็นครับ

 

ใจเย็นๆกันครับพี่น้องกันทั้งนั้นครับ

ส่วนตัวเลยนะครับ ผมเป็นคนที่ศรัทธาและชอบสมเด็จมากครับ แต่บารมีไม่ถึง ได้ของมรดกตกทอดมาเป็นแค่ หลวงปู่นาค วัดระฆังครับ รุ่นที่ทุกท่านเห็นอยู่นี้เป็นรุ่นแรกๆครับ ฝังตะกรุด 2 ดอก ผมเจริญรุ่งเรือง มีธุรกิจเล็กๆเป็นของตัวเอง รอดตายก็หลายครั้งเพราะท่านครับ พระองค์นี้อยู่กับผมมา 6 ปีแล้ว ชีวิตก็มีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้น ได้เงินมาจากการทำงาน ส่วนนึงก็เอาไปทำบุญ ส่วนนึงก็เก็บ พระบางองค์ก็อยู่ที่ใจครับ หลวงปู่นาคองค์นี้ผมพาท่านลุยมาหมดทุกอย่างแล้วครับ ทั้งลอดราวผ้า ไปแหล่งอโคจร(หมายถึงสถานบันเทิงนะครับ) เมาหัวทิ่มท่านก็ เมตตาพากลับถึงบ้านทุกครั้ง หลังๆมาก็เลยเพลาๆลงบ้าง บางทีต้องกลับมานั่งถามเราเองว่า ศรัทธาที่พระท่านหรือศรัทธาที่ราคาพวกชนกลุ่มน้อยอุปโลกขึ้นส่วนตัวผมแล้วจากใจจริงดูพระไม่เป็นครับ ใครว่าไงก็ว่าตามกันถือว่าเป็นเรื่องสนุกๆครั้งนึงในชีวิต หากข้อความใดทำให้บางท่านไม่พอใจก็ขออภัยด้วยครับ

ส่วนพระลีลาเม็ดขนุนองค์นี้ผมก็ห้อยติดคอทุกวันครับ เปลี่ยนแทนหลวงปู่นาคเพราะผมกลัวท่านช้ำเนื่องจากเป็นเนื้อผง ส่วนตัวนะครับผมมองแล้วชอบอีกอย่างเป็นมรดกตกทอดมาพร้อมหลวงปู่นาค วัดระฆัง เพราะฉะนั้นหน้าที่ผมก็ต้องเก็บรักษาไว้ให้ดี ถึงจะเก๊ ก็ต้องเก็บ แต่องค์นี้ผมใช้ทุกวันมาเกือบปีแล้วครับประสบการณ์ก็เคยเจอเกือบตลอดเวลา เลยมั่นใจในพุทธคุณ อีกอย่างผมไม่ใช่เซียนพระและไม่ได้คิดว่าพระมีราคาค่างวดอะไร เค้าให้ใช้ก็ใช้ สบายๆครับ ใครว่าเก๊ก็ไม่โกรธ บางทีของทุกอย่างอยู่ที่ผู้ใช้ครับ ผมใช้แล้วดีก็ว่าแท้ครับ อย่าโกรธกันนะครับ ผมชอบมั่วครับ

 

อย่างที่คุณกรูได้แสดงความคิดเห็นไว้

ในเส้นทางสายนี้ ต้องใช้เวลาศึกษาให้นานๆ แล้วจะเริ่มจะพอมองออกและเข้าใจ
คำว่าวิถี ทางแห่งการศึกษา ใช้เวลาเดินทางมาไกลแค่ไหน ต้องเสียเงินไปเท่าไหร่
เรียนรู้กับคำว่า ผิดหวังสมหวัง ทั้งเจ็บทั้งปวด ทั้งเสียใจมากแค่ไหน...
กว่าจะรู้ว่าพระองค์ๆหนึ่งนั้นแท้หรือเก๊ได้ ประสบการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ข้ามคืน
หรืออ่านหนังสือแล้วจินตนาการก็สามารถทำความเข้าใจเกิดความชำนาญได้เลย

วิถีทางของการศึกษานั้นมันไม่ได้ ได้มาโดยง่าย
จนที่จะกล้าเอ่ยคำว่า เก๊ ว่าแท้ หรือแม้แต่จะพิมพ์คำว่าเก๊นั้น ต้องมั่นใจในวิถีทางแห่งการศึกษามาพอสมควร จึงจะกล้าตอบออกไป

สิ่งสำคัญที่สุดจิตใจของผู้ถามต้องเปิดกว้างให้มากกว่านี้
เพราะคนที่เข้ามาถาม ตัวคุณเองต้องรู้เจตนาตนเองดีกว่าใคร
เมื่อคุณมั่นใจพระของคุณ ไม่ต้องการให้ใครสวด คุณก็ใช้คำว่า โชว์พระ
คนที่เข้ามาตอบ เขาจะได้ไม่เปลืองตัวเข้ามาตอบ ไม่ถูกใจถูกด่าฟรี

คนที่เข้ามาตอบไม่ได้ค่าตอบแทน ทำไปด้วยเจตนาดีบริสุทธิ์ ไม่อยากให้เสียเงินกับพระเก๊ โดยที่ตนเองถูกหลอกให้เชื่อว่าแท้ กว่าจะหูตาสว่างหมดเงินไปเท่าไหร่ ทั้งๆที่เงินทองหายากมากในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ กว่าจะหามาได้ แทนที่จะนำเงินไปใช้ประโยชน์แก่ครอบครัว หรือการกุศล ต้องมาหมดเงินกับการถูกหลอกให้เช่าพระเก๊

ถ้าผู้เข้ามาตอบต้องมารับภาระกดดันจากผู้ถาม เช่น การลองภูมิ หรือเอามาให้ดูแล้ว
บอกว่า เก๊ แต่เอาไปให้เซียนหรือคนอื่นดู เขาให้ราคาแพง
ความศรัทธาส่วนตัว กับการดูพระ มันคนละประเด็น ต้องแยกให้ออก
คุณให้ผมดูพระ ผมก็ทำหน้าที่ดูพระ เท่านั้น ไม่ได้ไปรู้ด้วยกับคุณศรัทธาแค่ไหน
ถ้าคุณเล่าเรื่องศรัทธาของคุณ ผมก็จะสาธุ อนุโมทนา
อีกหน่อย...บอร์ดนี้ เช่น มันตรัยหรือตัวผมเอง ก็จะรู้สึกเบื่อเปลืองตัวกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
เพราะเหตุนี้ คุณมันตรัย ถึงได้หลบออกไป เบื่อที่จะมาทะเลาะกับเรื่องไร้สาระ

ส่วนที่น้องแฮมเมอร์ ชี้แจงนั้นผมเห็นด้วย
ว่า...
การพูดจาผ่านเวปบอร์ดสาธารณะนั้น ไม่มีใครล่วงรู้อารมณ์เราหรอกครับ ก่อนกด ส่งข้อความกรุณาคิดซักนิดหนึ่ง ถ้าไม่เห็นด้วย หรือเห็นด้วย ควรใช้วาจา(ในที่นี่หมายถึงข้อความ) ที่ให้เกียรติซึ่งกันและกันด้วยครับ

 

เมื่อเดินเข้าสนามเทนนิส ก็ต้องเล่นตามกฏของเทนนิส

เมื่อเดินเข้าสนามแบดมินตัน ก็ต้องเล่นตามกฏของแบดมินตัน

เมื่อเดินเข้าสนามยิงปืนก็ต้องเล่นตามกฏของสนามยิงปืน

ถ้าจะเล่นตามใจตัวเองก็ต้องนอนสบายใจอยู่ที่บ้าน

ทุกที ล้วนมีกฏเกณฑ์ มีข้อตกลง

แต่ฏเกณฑ์ใดจะสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงมากที่สุดละ

ท่านย่อมต้องเลือกเอง

และถ้าหากท่านจะเลือกข้อตกลงแบบสากลนิยม ท่านก็ต้องปฏิบัติตามข้อตกลงนั้น

ขอให้โชคดีนะพี่น้อง

 

ตามอ่าน......กระทู้นี้ดี

ความคิดหลากหลายเรื่องพระสมเด็จ.......

พระราคาหลักสิบล้าน......ข้อวินิจฉัยจึงมากมาย.......
หาบทสรุปยากมาก......
ฟังมาพระสมเด็จ (สนาม) เซียนเองแหละที่ทำขึ้นมาให้เหมือน
ส่งไปแห่..... ได้คำรับรองที่ดีมา.... ส่งประกวดติดรางวัล....

เซียน...กินเซียน

สาธุ

 

การที่ผมนำพระมาให้ศึกษา ไม่ได้หวังสร้างกระแสทางการเงิน แต่เป็นการสร้างกระแสทักษะในการศึกษาพระเครื่องอย่างถูกทาง มีตัวอย่างพระที่แท้ และเก๊ให้ดู สมัยที่ยังไม่รู้ก็ไม่เคยเช่าพระหรอกครับ Internetก็ไม่มี ซื้อหนังสือก็อ่านบ้างไม่อ่านบ้าง จนต้องขอเป็นศิษย์ผู้เขียนหนังสือ Precious เล่มแรกๆ ผมหัดดูอยู่หลายปี มีแบบให้ศึกษาจากพระของคนรุ่นปู่รุ่นตา พระจากสายสกุลบางสกุล ผมได้ดูมวลสารจริงที่ยังเป็นก้อน มวลสารต่างๆว่าประกอบไปด้วยอะไร เพียงเท่านี้ผมคงไม่ต้องไปเรียนกับใครอีกแล้ว

เืรื่องแห่พระ ผมคิดว่าเป็นเรื่องของคนที่ไม่มั่นใจ, คนที่ต้องการเป็นเปลี่ยนเป็นเงิน, คนที่ต้องการรู้จริงๆ ศึกษาเพื่อความเชื่อมั่น เลยนำไปแห่ ส่วนตัวผม ผมไม่คิดจะแห่ เพราะไม่รู้ทำเพื่ออะไร อยากได้เงินหรือ? ส่วนตัวผมมีใช้อย่างสบายแล้ว คงไม่สนใจเรื่องเงินอย่างที่หลายคนคิด

ผมขอออกตัวเลยว่าพระผมไม่ใช่หลักร้อย ใครจะตีพระหลักใดๆ ผมก็ไม่ขาย สบายใจได้ ผมเพียงต้องการเปิดหูเปิดตาให้คนรุ่นพี่ รุ่นน้องได้ดูพระที่น่าสนใจ ใครจะตีเก๊ หรือตีแท้ ก็ต้องมีหลักการตีที่ดี จะสากลหรือไม่สากลขึ้นอยู่กับประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้มา ใครที่ยังไม่ชำนาญเรื่องพระเครื่องแต่ชอบศึกษา พวกเราต้องเปิดโอกาสให้เขาเรียนรู้ อย่าเป็นคนใจแคบ ปิดประตูคนอื่น ถ้ามีความรู้จริงดังคำที่ตัวอ้าง ต้องเป็นผู้ให้ ให้ความรู้แก่เพื่อนร่วมทางที่ยังต้องการศึกษาอยู่

ใครมีพระแท้ก็เอาออกมาโชว์ให้คนอื่นดูเป็นตัวอย่างบ้าง ถือเป็นปัญญาทานรูปหนึ่ง ถ้าไม่มีคนกล้าเอาพระมาให้ดู คนที่ไม่เคยมีของจริงจะรู้ได้อย่างไร (แบบ เป็นคำที่อริสโตเติ้ล เคยให้คำนิยามไว้ว่า สรรพสิ่งทุกอย่างเกิดจาก แบบ แบบจึงเป็นตัวอย่างในการศึกษาต่อ อย่างต่อเนื่อง) แล้วที่พวกคุณอ้างว่าเก๊ คุณเอาอะไรมาอ้าง หลักกฎหมาย ยังต้องมีประจักษ์พยาน มีหลักฐาน มีวัตถุหลักฐาน แต่พวกเราไม่เคยมีใครทำเช่นนั้นเลย

มีคนประกวดพระสมเด็จได้ใบประกาศหลายใบ ชนะรางวัลที่เท่านั่นเท่านี้ พอตอนพระหักเอาไปซ่อม ไหนเป็นพระเก๊ไปได้ แล้วใบประกาศเป็นตัวชี้มาตราฐานได้อย่างไร คนที่เค้ามีบุญ บาทเดียวก็ไม่เสียให้ใคร วันสำคัญๆก็มีคนเอามาให้ บารมีคนมันไม่เหมือนกัน

ส่วนตัวผมเคยคุยกับอาจารย์ ท่านบอกอีกหน่อยคนจะดูสมเด็จตากลับ เมื่อไม่มีพระตัวอย่างให้ดู มีของแท้ก็ถูกเค้าตีเก๊ ส่วนเจ้าคนตีพระ พระตัวเองตีแท้ทุกองค์ ถึงขายได้ พระที่ขายก็ไม่มีพุทธคุณ

เอาไปคิดกันนะครับ ศึกษาอย่างมีสติ จะได้ไม่เสียสตางค์

 

คุณคนพนัสใจเย็นๆ ผมมีทุ่งเศรษฐีอยู่องค์หนึ่ง ไว้วันหน้าจะโพสต์ให้ชม

 

คำถามในทำนองเดียวกัน แล้วที่คุณอ้างว่าแท้ คุณเอาอะไรมาอ้าง หรือเอาตัวเองเป็นมาตราฐาน ตัดสิน

การที่แห่พระ หรือประกวดพระ เป็นวิธีมาตราฐานที่สุด เป็นที่ยอมรับมากที่สุด
เพราะกรรมการแต่ละท่าน ล้วนเป็นผู้ชำนาญเป็นที่ยอมรับในวงการพระ
ถ้าไม่ใช้วิธีนี้ แล้ววิธีไหนเป็นวิธีีที่ดีที่สุด

ส่วนเรื่องความไม่มั่นใจ ต้องการเป็นเปลี่ยนเป็นเงิน คนละประเด็น
ระดับเศรษฐีหรือเซียนใหญ่ การเอาพระไปให้คนอื่นดูหรือแห่พระ
ก็เพื่อช่วยกันดูหลายๆตา ลดระดับความเสี่ยงความผิดพลาดเท่านั้น
ไม่มีใครที่แม่นยำถูกต้อง 100%


เท่าที่จำได้ผมเคยเอาตัวอย่างพระสมเด็จแท้
พร้อมใบประกาศมาลง

 

คุณวิสุทโธ ไม่น่าติดใจเรื่องนี้ ถ้าผมผิด ผมต้องขอโทษที่ทำให้ไม่สบายใจ ผมขอให้คุณวิสุทโธช่วยนำพระมาโพสต์ให้ทุกคนเห็น จะได้เป็นวิทยาทาน ขอบคุณครับ

 

เอามาให้ศึกษาครับ ไม่มีคำอธิบาย

 

ขอบคุณคุณวิสุทโธ ที่ส่งรูปมาให้
องค์แรก ผมก็ไม่ได้ตีเก๊นิครับ เป็นสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์เจดีย์ แต่วงแขนขวาขององค์พระจะแคบไปหน่อย ผิดพิมพ์ โดยรวมจัดว่าผิวดูง่าย แต่ธรรมชาติของผิวคล้ายกรุสองคลองก็เท่านั้น มวลสารที่พบเห็นน้อยมาก ทรงพิมพ์อย่างอื่นก็รับได้

เอาองค์เปรียบเทียบมาให้ดูด้วย ส่วนองค์อื่นๆ
องค์ที่สองพระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ทรงเจดีย์ เป็นพระที่ผมต้องการความรู้จากคุณบ้าง
ส่วนองค์ที่สาม พระสมเด็จบางขุนพรหมพิมพ์สังฆาฏิ สวยครับ

 

จากกระทู้ครั้งก่อนๆ 09-11-2009, 10:56 PM ผมเขียนว่า

ด้วยความเคารพ ผมไม่่กล้าตอบว่าดี พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม พิมพ์เจดีย์องค์นี้ดูแปลกตามาก เพราะวงแขนผิดพิมพ์ แต่ถ้าได้ส่องด้วยกล้อง ดูให้ละเอียดน่าจะตอบได้ ลองคนอื่นดูต่อไป