เรื่องพิเศษ รวมก๋วยเตี๋ยว ที่ไม่ธรรมดา

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"เตี๋ยวหน้าคลัง" รสเด็ดดัง ชวนลิ้มลอง
Travel - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>15 พฤศจิกายน 2552 11:23 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศภายในร้าน "เตี๋ยวหน้าคลัง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ในบรรดาสารพัดก๋วยเตี๋ยวที่มีให้คอคนรักเส้นได้เลือกอิ่มหนำกันอย่างหลากหลายนั้น ก๋วยเตี๋ยวเรือเป็นหนึ่งในก๋วยเตี๋ยวที่ "ผ่านมาแวะกิน" โปรดปราน เพราะด้วยความที่มีรสชาติของน้ำซุปที่เข้มข้นกลมกล่อม และมีให้เลือกอร่อยทั้งเนื้อวัวและเนื้อหมู เรียกว่าหากมีร้านก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ดอยู่ที่ไหน เราจะตามไปลองลิ้ม ไปพิสูจน์ความอร่อยกันให้ถึงที่

เหมือนอย่างในมื้อนี้เราเดินทางมาชิมก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ดชื่อดังที่ร้าน "เตี๋ยวหน้าคลัง" ซึ่งตั้งอยู่ตรงลา วิลล่า พหลโยธิน หลายคนอาจสงสัยทำไมร้านชื่อเตี๋ยวหน้าคลัง เรามีโอกาสได้คุยกับเจ้าของร้าน คุณเต้ อรินทม์ ทับทิมเทพย์ เธอบอกว่าเมื่อก่อนขายอยู่ที่หน้ากระทรวงการคลัง เป็นที่ติดใจและติดปากคนกินเป็นอย่างมาก ก่อนที่จะย้ายมาที่ลา วิลล่านี้ และยังคงใช้ชื่อเดิม

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวเนื้อหมูและก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัว</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> และไม่ใช่แค่ใช้ชื่อเดิมเท่านั้น รสชาติความอร่อยของก๋วยเตี๋ยวเรือก็ยังคงรสชาติเดิมไม่ผิดเพี้ยน เป็นก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ดที่ทางร้านคิดค้นสูตรขึ้นมาเอง มีทั้งเนื้อวัวและเนื้อหมูให้เลือกกิน ซึ่งจะแยกหม้อน้ำซุปไม่ปะปนกัน และคำนึงพิถีพิถันในเรื่องของวัตถุดิบที่นำมาปรุงเป็นก๋วยเตี๋ยวอย่างดี ทำให้ก๋วยเตี๋ยวเรือของที่นี่มีทั้งคุณภาพที่ดี รสชาติที่ถูกปาก และหน้าตาที่ชวนกินเอามากๆ

สำหรับก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวของที่นี่มีทั้งเนื้อไทยส่วนสะโพก เนื้อน่องลาย เนื้อเซอร์ลอย และเนื้อริบอาย ส่วนเนื้อหมูมีหมูไทยส่วนสันใน กระดูกอ่อนหมูกรุบกรอบ และเนื้อหมูดำ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เตี๋ยวลวกเอง (บน) น้ำตกข้าวคั่ว (ล่าง)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เห็นทีว่าหลายคนคงชักอยากจะลิ้มรสก๋วยเตี๋ยวเรือของที่นี่กันแล้ว ฉะนั้นเราขอแนะนำเมนูแรกเป็น ก๋วยเตี๋ยวหมูดำ (119 บาท) เป็นแบบน้ำใส คือไม่ใส่เลือด ความพิเศษของก๋วยเตี๋ยวชามนี้อยู่ที่ เนื้อหมูซึ่งเป็นสายพันธุ์ของหมูดำ มีมันแทรกทั้งตัวและมีเนื้อที่นุ่ม สไลด์มาเป็นชิ้นลวกสุกใส่มา ชิมแล้วขอบอกว่าเนื้อหมูหวานนุ่ม ไม่มีกลิ่นเหม็นสาปของหมูเลย และมีลูกชิ้นหมูเคี้ยวเด้งนุ่มปาก ส่วนน้ำซุปไม่ต้องพูดถึงช่างหอม หวาน รสกลมกล่อมลิ้นโดยไม่ต้องปรุงเลย เพราะทางร้านใช้กระดูกหมูต้มเคี่ยวกับเครื่องปรุงตามสูตรเด็ดเฉพาะ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>กุ้ยช่ายทอดกรอบ (บน) ส้มตำปูนิ่ม (ล่าง) </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> จากนั้นมากิน ก๋วยเตี๋ยวเนื้อริบอาย (129 บาท) ที่ถูกใจคนชอบเนื้อวัวแน่ๆ เพราะทางร้านใช้เนื้อริบอาย เป็นเนื้อส่วนที่ติดซี่โครงซี่ที่ 9 ไปจนถึงซี่สุดท้ายเลาะซี่โครงออก เนื้อริบอายจะมีมันแทรก ทางร้านนำเนื้อมาสไลด์บางๆ ลวกใส่มาในก๋วยเตี๋ยว ชิมแล้วโดนใจปาก เพราะเนื้อริบอายเคี้ยวนุ่มมากได้รสชาติของเนื้อที่ดี และซดน้ำซุปเนื้อที่หวานหอม ชุ่มชื่นโล่งคอ เพราะต้มด้วยกระดูกข้อวัวปรุงรสด้วยสูตรเฉพาะ และมีลูกชิ้นเนื้อวัวเคี้ยวเด้งใส่มาด้วย

และถ้าหากใครอยากจะกินก๋วยเตี๋ยวแบบทำด้วยตัวเองก็มี เตี๋ยวลวกเอง (บริการตั้งแต่ 15.00 น.) ซึ่งจะมีหม้อน้ำซุปเล็กๆ ให้ลวกเอง เสิร์ฟมาพร้อมเส้นมีให้เลือกเส้นเล็ก เส้นหมี่ เส้นใหญ่ วุ้นเส้น บะหมี่ หรือจะกินกับข้าวก็ได้ และมีผักบุ้งกับถั่วงอกด้วย มีเนื้อวัวและเนื้อหมูให้เลือกสั่งมากิน อาทิ ชุดเนื้อน่องลาย (129 บาท) ชุดเนื้อรวม (199 บาท) ชุดสันในหมู (119 บาท) ชุดหมูดำ (189 บาท) และมีแบบจานเดียวให้เลือกอีกมากมาย แถมยังมีน้ำจิ้มแจ่วรสเด็ดให้จิ้มกินคู่ เรียกว่าลวกเอง กินเอง ทั้งอร่อยและสนุก

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สนุกกับการกินเตี๋ยวลวกเอง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> และนอกจากก๋วยเตี๋ยวเรือแล้วยังมีเมนูอาหารอื่นๆ ที่ชวนกินอีกมากมาย อาทิ น้ำตกข้าวคั่ว (139 บาท) ใช้เนื้อเซอร์ลอยมาทำเป็นน้ำตกที่แซ่บดี กุ้ยช่ายทอดกรอบ (89 บาท) ที่เน้นผักไม่เน้นแป้งกรอบนอกนุ่มใน ส้มตำปูนิ่ม (169 บาท) เป็นส้มตำไทยรสเด็ด กินคู่กับปูนิ่มทอดกรอบ ฯลฯ และในแต่ละวันยังมีอาหารพิเศษประจำวันให้เลือกอิ่มกันด้วย เรียกว่าหากมาที่ร้าน "เตี๋ยวหน้าคลัง" เป็นต้องได้อิ่มแปร้กับก๋วยเตี๋ยวเรือและอาหารจานเด็ดมากมาย ได้เดินพุงกางกลับบ้านไป

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้าน "เตี๋ยวหน้าคลัง" ตั้งอยู่ที่ ลา วิลล่า พหลโยธิน 358 ห้อง 308 ชั้น 3 ถ.พหลโยธิน สามเสนใน พญาไท กทม. การเดินทางนั่งรถไฟฟ้าลงที่สถานีอารีย์ แล้วเดินมาที่ลา วิลล่า ตรงขึ้นมาที่ชั้น 3 จะเห็นร้านเตี๋ยวหน้าคลังตั้งอยู่มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน เปิดทุกวัน 10.30-22.00 น. โทร. 0-2613-0517

คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "เตี๋ยวหน้าคลัง"
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "เตี๋ยวหน้าคลัง"
Travel - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>15 พฤศจิกายน 2552 11:23 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=552 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=552> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ชื่อร้าน : เตี๋ยวหน้าคลัง

ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยวเรือ

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวเนื้อหมู, ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัว, เตี๋ยวลวกเอง, น้ำตกข้าวคั่ว, กุ้ยช่ายทอดกรอบ, ส้มตำปูนิ่ม

บรรยากาศร้าน : ห้องแอร์นั่งสบาย

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ ลา วิลล่า พหลโยธิน 358 ห้อง 308 ชั้น 3 ถ.พหลโยธิน สามเสนใน พญาไท กทม. การเดินทางนั่งรถไฟฟ้าลงที่สถานีอารีย์ แล้วเดินมาที่ลา วิลล่า ตรงขึ้นมาที่ชั้น 3 จะเห็นร้านเตี๋ยวหน้าคลังตั้งอยู่มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 10.30-22.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : 0-2613-0517
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"หมี่สะปำ ยายเจียร" รสต้นตำรับ ร้านรับแขกแห่งภูเก็ต
Travel - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>22 พฤศจิกายน 2552 12:33 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศร้านหมี่สะปำ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ไปเที่ยวภูเก็ตคราใด เวลาหิว "ผ่านมาแวะกิน" มักจะไปเสาะหาอาหารพื้นเมือง-พื้นถิ่นกินมากกว่าจะไปนั่งกินตามร้านอาหารหรูๆ เพราะคนมีฐานะ(ไม่ร่ำรวย)อย่างเรา ร้านอาหารบรรยากาศชาวบ้านธรรมดาๆที่รสชาติไม่ธรรมดาดูจะถูกโฉลกกับเงินในกระเป๋ามากที่สุด

อย่างกับร้าน"หมี่สะปำ คุณยายเจียร"ที่เพื่อนชาวภูเก็ตแนะนำนี่ก็เช่นกัน จัดเป็นร้านอาหารพื้นเมืองชื่อดังในระดับรับแขกบ้านแขกเมือง ซึ่งแต่ละวันจะมีทั้งคนภูเก็ตและผู้มาเยือนเข้าไปนั่งหม่ำอาหารในร้านนี้กันเป็นจำนวนมาก

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>หมี่สะปำ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> สำหรับหมี่สะปำนั้นมาจากชื่อบ้านสะปำ เป็นหมี่พื้นบ้านที่อยู่คู่กับภูเก็ตมาร่วม 50 ปี โดยคุณสุดจิตต์ ขืนรัมน์ ผู้ดูแลร้านหมี่สะปำรุ่นปัจจุบัน เล่าให้ฟังว่า เดิมนั้นแม่เจียร ภูผาหรือ“ยายเจียร” ผู้ริเริ่มสูตรการทำหมี่สะปำ(ขาย)เล็งเห็นว่าทำเลที่ตนอยู่นั้นติดกับทะเล น่าจะวัตถุดิบมาเป็นส่วนสำคัญในการทำอาหาร จึงได้นำเส้นหมี่เหลืองฮกเกี้ยน ไปผัดกับซีฟู้ดสดๆ ร่วมด้วยเนื้อหมู ผักกวางตุ้ง จนออกมาเป็นหมี่ผัดรสกลมกล่อมอันเป็นที่ติดอกติดใจของลูกค้าในสมัยนั้น ส่งผลให้ร้านเล็กๆของคุณยายเจียรโด่งดังขึ้นมาพร้อมๆกับการเรียกขานหมี่ผัดรสอร่อยเมนูนี้อย่างติดปากว่า "หมี่สะปำ"

มาวันนี้หมี่สะปำร้านยายเจียรที่ปรับเปลี่ยนรสชาติไปบ้างตามยุคสมัยยังคงขายดีไม่มีตก ซึ่งทันทีที่"ผ่านมาแวะกิน"มาถึงยังร้านยายเจียร เราก็ไม่รีรอเปิดประเดิมความอร่อยด้วยเมนูไฮไลท์อย่างหมี่สะปำ(25/30 บาท)ในทันที

หน้าตาของหมี่ชามนี้ชวนกินยิ่งนัก ดูแน่นไปด้วย กุ้ง ปลา หมึก ไก่ ลูกชิ้นปลา และกวางตุ้ง ที่โปะหน้ามาบนเส้นหมี่ฮกเกี๊ยนสีเหลืองหอม ผัดแบบน้ำขลุกขลิกพร้อมด้วยไข่ไก่ลวกที่ใส่มาให้คลุกเคล้าเพิ่มความอร่อย ซึ่งการจะกินแบบให้ถึงรสชาติครบเครื่องนั้น ทางร้านแนะนำให้คลุกเคล้าเส้นหมี่กับเครื่องปรุงทั้งหลาย ที่เมื่อหม่ำแล้วจะให้รสกลมกล่อมออกหวานนำนิดๆ เข้ากันดีกับบรรดาซีฟู้ดที่สด หวาน สมกับเป็นเมนูเอกของร้าน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>หอยทอด(บน)อูแช(ล่าง) </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> นอกจากหมี่สะปำแล้ว ร้านยายเจียรยังมีเมนูชวนกินอย่าง หอยทอด(30บาท) ที่ใช้หอยนางรมตัวเล็กผัดพอสุกหวาน เสิร์ฟพร้อมกับแป้งม้วนบางๆที่ทอดมากรอบเกรียม ร่วมด้วยผักแกล้มและน้ำจิ้มที่กินแล้วเข้ากันดีแท้, ห่อหมกปลา(12 บาท) กลิ่นหอม รสเนียนแน่น รสออกเผ็ดนิดๆ, ลูกชิ้นปลาลวก(50 บาท) เนื้อแน่นหนึบ เวลาเคี้ยวแทบจะเด้งในปากเลยทีเดียว

ในขณะที่เมนูที่น่าลิ้มลองอื่นก็มี โอวต๊าว อูแช กระดูกหมูต้มยาจีน เปาะเปี๊ยะทอด น้ำพริกกุ้งเสียบ ฯลฯ ซึ่งใครหากมีโอกาสได้ไปภูเก็ตแล้วละก้อ ร้านหมี่สะปำ คุณยายเจียร คือหนึ่งในทางเลือกที่ไม่ต้องรอให้หิวก็สามารถไปลิ้มลองความอร่อยได้

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้านหมี่สะปำ ยายเจียร ตั้งอยู่ที่ 56/8 ม.1 บ้านสะปำ ถ.เทพกระษัตรี ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต เปิดทุกวันตั้งแต่ 10.00-18.00 น. โทร. 0-7623-9543,08-1081-8395
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เป็ดร้อยปี!! ประจักษ์ บางรัก หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์ "เป็ด"!!




หลายคนรู้ดีว่าการเริ่มต้น..ไม่ใช่เรื่องง่าย

เมื่อเริ่มแล้ว...การทำให้ประสบความสำเร็จนั้นเป็นเรื่องที่ยากกว่า

หลังจากประสบความสำเร็จแล้ว...การรักษามาตรฐานและครองความสำเร็จให้ ยาวนานเป็นเรื่องที่ยากที่สุด!


เป็ดย่าง 100 ปี

เช่นเดียวกับ "ร้านประจักษ์" ร้านเก่าแก่ประจำย่านบางรัก ร้านเป็ดย่างที่เซียนโซ้ย นักหม่ำ รู้จักกันเป็นอย่างดี หนึ่งในร้านอาหารที่พิสูจน์ให้เห็นว่าของอร่อยอยู่เหนือกาลเวลา การันตีด้วยอายุ 100 ปีที่ยืนหยัดอย่างหนักแน่น มีแฟนคลับหมุนเวียนมาโซ้ยไม่ขาดสาย ไม่ว่ารุ่นเล็กหน้าใหม่ หรือรุ่นใหญ่ลายคราม บางคนผูกปิ่นโตฝากท้องมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย และติดใจมาจนถึงทุกวันนี้ ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

"ผมรับช่วงต่อจากพ่อมาได้ 30 ปีเศษครับ ผมถือว่าเป็นรุ่นที่ 3 แต่ ก่อนหน้านี้ผมเคยรับราชการทหาร จปร. เป็นร้อยเอก ตอนนั้นคุณพ่อเริ่มป่วยเป็นอัมพฤกษ์ แม่ก็เลยอยากให้ผมมาช่วยกิจการ ตอนแรกมายังไม่เต็มตัว แต่พอหลังๆแม่บอกว่าไม่ไหวก็เลยยกให้เราดูแลต่อเลย พอเข้ามาเต็มตัวผมก็ทำทุกอย่างตามที่พ่อกับแม่ทำไว้ ทั้งอาหาร ความอร่อย ความสะอาด และการบริการ แต่สิ่งที่พยายามปรับปรุงขึ้นเรื่อยๆ ผมเริ่มเอาระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วย เพื่อให้ระบบมันรวดเร็วและสะดวกกับลูกค้ามากขึ้น" เฮียสงวน ทายาทรุ่นที่ 3 แห่งอาณาจักรเป็ดประจักษ์เล่าถึงที่มาที่ไปให้เจ๊ฟังอย่างกันเอง


เฮียสงวน

"ร้านประจักษ์" เป็นหนึ่งตำนานเป็ดหน้าแรกๆของประเทศไทย ด้วยการคัดสรรวัตถุดิบที่พิถีพิถัน ความใส่ใจในทุกขั้นตอนการทำ ตลอดจนความสะอาดและการบริการที่รวดเร็วทันใจ ทำให้ร้านเล็กๆที่มีพื้นที่แค่หนึ่งคูหาสามารถมัดใจลูกค้ามาได้หลายยุคหลายสมัยไม่เคยคลายความขลัง!

3 เมนูดั้งเดิมในร้านที่ต้องทานทุกครั้ง ถ้ามาแล้วไม่ได้หม่ำคลำทางกลับบ้านไม่ถูก (ฮา) คือ เป็ดย่าง หมูแดง และหมูกรอบ สามทหารเสือที่ครองความนิยมมายาวนาน

เฮียใช้เป็ดเชอรี่ตัวผู้วัยกำลังน่าเคี้ยว ไม่แก่และไม่ อ่อนจนเกินไป เป็ดวัยรุ่นอายุกำลังดีมีเนื้อแน่น นุ่ม ไม่ เหนียว เคี้ยวง่ายสบายเหงือก เฮียจะลงมือเลือกเป็ดเองตั้ง แต่ยังเป็นหนุ่มๆจนถึงทุกวันนี้

หลังจากได้เป็ดมาแล้ว ต้องนำไปทำความสะอาด และหมักเครื่องเทศสูตรเฉพาะของที่ร้านเฮียสงวนผสมผสานเครื่อง เทศไทยเข้าไปในเครื่องเทศสูตรดั้งเดิมทำให้ รสชาติของเป็ดมีความเข้มข้น แตกต่างจากสูตรฮ่องกงทั่วไป เฮียจะย่างให้เนื้อพอแห้งๆ ไม่ถึงกับแข็ง หนังไม่กรอบมาก แต่ก็ไม่เหนียว เคี้ยวแต่คำฉ่ำรสเป็ดอยู่ในปาก


เป็ดย่าง 100 ปี

"น้ำราด" ของร้านนี้รสชาติกำลังดีเพิ่มความเข้มข้นแต่ไม่กลบรสชาติของเป็ด รสชาติกลมกล่อมหอมเครื่องเทศ จะราดแล้วหม่ำกับข้าว หรือโซ้ยกับเส้นบะหมี่รสดีมั่กๆ!!

นอกจากเป็ดจะนุ่มชุ่มฉ่ำแล้ว "หมูแดง" เฮียสงวนยังหอมละมุนนุ่มลิ้น เฮียใช้เนื้อสะโพกช่วงขาหลัง เนื้อเยอะแล่เป็นเส้นหมักกับเครื่องเทศไทยผสมเครื่องพะโล้ และน้ำผึ้งเล็กน้อย นวดให้ เข้ากันแล้วหมักทิ้งค้างไว้ในตู้เย็นหนึ่งคืน ตื่นมาย่างตอนเช้า ตอนสายๆพร้อมขาย อิ่มสบายๆ ทั้งเมนูบะหมี่หมูแดงและข้าวหมูแดง เครื่องหมักซึมเข้าถึงเนื้อใน ไม่ย่างจนแห้งเกินไป เคี้ยวสบายๆหม่ำได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่อิ่มอร่อยทั้งครอบครัว



"หมูกรอบ" ของร้านนี้กรอบถึงใจ ไม่เลี่ยน เฮียใช้หมูสามชั้นนำมาย่างไฟให้พอแห้ง แต่ยังไม่ถึงกับสุก จากนั้นจึงใช้เหล็กแหลมทิ่มหนังเป็นรูๆเปิดช่องให้น้ำที่อยู่ใต้ผิวหนังระเหยออก ค่อยนำมาหมักกับเครื่องเทศ กระเทียม พริกไทย ข่า ตะไคร้ แล้วนำไปย่างอีกครั้งให้ สุกกรอบเสมอกันทั้งชิ้น กินแล้วไม่เอียน หม่ำเล่นๆ หรือกินกับข้าวก็เพลิ้น...เพลิน...เจริญกระเพาะ!

ใครที่ยังไม่เคยมาและอยากลองทุกอย่างในจานเดียว เจ๊แนะนำให้สั่ง "ข้าวหน้าเฉโป" รวมมิตรทุกสิ่งอย่าง ทั้งเป็ดย่าง หมูแดง และหมูกรอบ ราดด้วยน้ำรสเลิศ โซ้ยคู่กับเกี๊ยวน้ำอีกหนึ่งชาม อร่อยล้ำอิ่มกำลังดี!

สำหรับเด็กเส้น เฮียสงวนมี "บะหมี่" เส้นเหนียว นุ่ม ไว้คอยบริการ ถ้ามาเป็นครอบครัวแล้วอยากลองทุกอย่าง เจ๊แนะนำให้สั่งเนื้อเป็ด หมูแดง หมูกรอบมาอย่างละจานเป็นกับข้าวกองกลาง และสั่งข้าวเปล่าหรือบะหมี่ลวกมาเป็นสมบัติส่วนตัว จากนั้นก็เริ่มโซ้ยในสไตล์ตัวเอง อิ่มครบทุกคำ อร่อยล้ำทุกอย่าง



ขาโซ้ยที่อยากลองของดีระดับคลาสสิก ให้ฝ่ารถติดตรงมาที่ถนนเจริญกรุง ตรงไปห้าง โรบินสันบางรัก จะเห็นร้านประจักษ์อยู่ทางขวามือ ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 8 โมงครึ่ง ถึง 3 ทุ่ม หนึ่งปีหยุดช่วงตรุษจีนและสงกรานต์ ส่วนปีใหม่เปิดตลอด มาเมื่อไหร่หม่ำได้ทันที ทางร้านรับออกงานนอกสถานที่ สนใจถามรายละเอียดที่เบอร์ 0-2234-3755 และ 0-2235-6324 ร่วมพิสูจน์คุณภาพเป็ดร้อยปีได้ที่นี่ที่เดียว!!

เจ๊แซบ หัวเขียว​

เป็ดร้อยปี!! ประจักษ์ บางรัก หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์ "เป็ด"!! - ข่าวไทยรัฐออนไลน์​

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“ก๋วยเตี๋ยวเที่ยงวันทำเอง” หมูเด้งชนน่องไก่ ลูกค้าทำเอง-เสิร์ฟเอง
SMEs - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>15 ธันวาคม 2552 09:59 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>วิจิตรา ฮุนตระกูล เจ้าของร้านบริหารงานคนเดียวแบบเบ็ดเสร็จ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ลวกเส้น ตักหมูเด้ง และเก็บเงิน 3 หน้าที่หลักของเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเที่ยงวันทำเอง นอกนั้นเป็นหน้าที่ของลูกค้าที่ต้องทำเอง แต่ทุกคนก็ล้วนเต็มใจและคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพียงเพื่อต้องการลิ้มรสชาติน้ำซุปกลมกล่อมของน่องไก่ตุ๋น และหมูเด้งที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>หน้าตาก๋วยเตี๋ยวร้านเที่ยงวันทำเอง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ร้านก๋วยเตี๋ยวเที่ยงวันทำเอง เป็นการบริหารร้านเพียงคนๆ เดียว ที่ทำหน้าที่ทุกอย่างโดยไม่มีผู้ช่วย ของวิจิตรา ฮุนตระกูล หรือ คุณติ๋ม ตั้งแต่กระบวนการซื้อวัตถุดิบ จัดเตรียมน้ำซุป ตุ๋นน่องไก่ และหมูเด้ง ตั้งแต่เวลาประมาณตี 3 เพื่อให้พร้อมขายให้ลูกค้าในเวลาประมาณ 08.00 น. ที่ลูกค้าต้องต่อคิวรอรับก๋วยเตี๋ยวทีละชามโดยร้านตั้งอยู่บนถนนวิทยุหลังอาคารสินธร

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> โดยกระบวนการรอรับประทานก๋วยเตี๋ยวสัก 1 ชามนั้น ลูกค้าขาประจำที่รู้ขั้นตอนเป็นอย่างดีจะต้องเริ่มจากการหยิบชามก๋วยเตี๋ยว แกะห่อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเลือกรสชาติตามต้องการ (กรณีที่ต้องรับประทานเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป) ยืนต่อคิว ซึ่งคุณติ๋มจะเป็นเพียงผู้ลวกเส้น และหยิบหมูเด้งตามจำนวนชิ้นที่ลูกค้าต้องการ โดยราคาก็จะแตกต่างกันไป ส่วนน่องไก่ตุ๋นลูกค้าจะต้องหยิบเอง รวมถึงการใส่กระเทียมเจียว ผักโรย และพริกไทย เองได้ตามต้องการ แม้ว่าในช่วงแรกลูกค้ายังไม่เข้าใจกระบวนการรับประทานก๋วยเตี๋ยวในลักษณะนี้ แต่เมื่อได้มาอุดหนุนในครั้งต่อๆ ไปก็จะคุ้นเคย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ลูกค้าต้องใส่พริก กระเทียมเจียว ผักโรย คีบน่องไก่ เอง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> “ระบบนี้ทำมาตั้งแต่เปิดร้านครั้งแรก เพราะเราชอบทำเองคนเดียวทุกอย่าง ดังนั้นทำให้ทุกขั้นตอนกระบวนการ ตั้งแต่การจัดเตรียมวัตถุดิบ ทำน้ำก๋วยเตี๋ยว ตุ๋นน่องไก่ หั่นผัก จัดเตรียมเครื่องดื่ม ตั้งแต่ประมาณตี 3 ซึ่งก๋วยเตี๋ยวจะพร้อมให้ลูกค้าได้รับประทานประมาณแปดโมงเช้า ซึ่งยังไม่ค่อยมีลูกค้ามากนัก ทำให้เราสามารถแบ่งเวลาไปล้างชามได้ เพื่อเตรียมชามให้เพียงพอสำหรับช่วงพักเที่ยง ซึ่งจะต้องทำก๋วยเตี๋ยวตลอดเวลา ไม่มีเวลาไปล้างชาม ซึ่งชามนั้นลูกค้าเมื่อรับประทานเสร็จก็จะต้องนำไปเก็บในบริเวณที่จัดเตรียมไว้ให้เช่นกัน โดยแบ่งเป็นถังทิ้งเศษอาหาร ช้อนตะเกียบ ชาม และแก้วน้ำ เพื่อง่ายต่อการนำไปล้าง ในขณะที่การเก็บเงินในส่วนของก๋วยเตี๋ยวจะต้องจ่ายทันทีเมื่อได้ก๋วยเตี๋ยว ในขณะที่เครื่องดื่ม ลูกค้าจะจ่ายหลังจากรับประทานเสร็จ”

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวใกล้หมดแล้ว ลูกค้ายังทยอยมาอย่างไม่ขาดสาย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ส่วนในเรื่องรสชาติ คุณติ๋ม เป็นผู้คิดค้นขึ้นเองทั้งหมด อาศัยการลองชิมไปเรื่อยๆ และทำทุกวัน รวมถึงการนำหมูเด้งมาใส่ในก๋วยเตี๋ยวน่องไก่ด้วย ที่คิดว่ามันเข้ากันได้ดี จึงลองทำขาย ซึ่งลูกค้าก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งก่อนหน้านี้เคยทำข้าวแกง และข้าวขาหมูขาย รายได้ก็ไม่ค่อยดีนัก จนกระทั่งลองสำรวจบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ขายอาหารในบริเวณนั้น ยังไม่มีใครทำก๋วยเตี๋ยวน่องไก่ จึงลองทำขาย ซึ่งลูกค้าก็ชื่นชอบตรงตามคาด

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>จ่ายเก็บก่อน นำก๋วยเตี๋ยวไปรับประทาน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ราคาก๋วยเตี๋ยว 1ชามของร้านนี้ถือว่าค่อนข้างสูงหากเทียบกับร้านในละแวกเดียวกัน แต่ก็สมเหตุสวมผลเพราะลูกค้าจะได้โปรตีนจากเนื้อไก่-หมูไปเต็มๆ โดยราคาเริ่มต้นที่ชามละ 35 บาท คือ 1 น่อง 1 เด้ง ส่วนลูกค้าที่ต้องการจำนวนน่องไก่ และหมูเด้งเพิ่มมากขึ้น ราคาก็จะสูงขึ้นตามลำดับ โดยทางร้านจะมีป้ายบอกราคาไว้อย่างชัดเจน ซึ่งวันหนึ่งๆ สามารถขายก๋วยเตี๋ยวได้หลายร้อยชามเลยทีเดียว บางครั้งชามไม่พอคุณติ๋มก็ขอปลีกเวลาไปล้างชาม จำเป็นต้องให้ลูกค้ารอ ซึ่งลูกค้าก็ยินดี

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>น้ำดื่มลูกค้าต้องจัดการเองเช่นกัน ร้านนี้ใช้แก้วพลาสติกไม่ต้องกังวลเรื่องการเก็บล้าง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> การทำธุรกิจที่เจ้าของร้านเพียงแต่ลวกเส้น หยิบหมูเด้ง และเก็บเงิน ถือเป็นธุรกิจที่น้อยคนนักจะทำ แต่ร้านนี้ถือว่าโชคดี เพราะมีทั้งลูกค้าและเจ้าของร้านยินดีพบกันครึ่งทาง มีความซื่อสัตย์ต่อกันทั้ง 2 ฝ่าย ทำให้ธุรกิจดำเนินอยู่ได้ ซึ่งคุณติ๋มบอกว่าไม่วางแผนอะไรเลยเกี่ยวกับร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้ แต่คงจะทำเรื่อยๆ จนกว่าจะทำไม่ไหว เพราะมันเป็นอาชีพ และรายได้ที่หามาได้จากน้ำพักน้ำแรงของตนเองเพียงคนเดียว

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>พนักงานออฟฟิศขออิ่มท้องช่วงพักกลางวัน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บริเวณที่นั่งรับประทาน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ชามนี้สุดท้ายแล้ว ณ เวลา 13.20 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ***ติดต่อ 08-51894205, 08-3826-3336 ร้านตั้งอยู่ในซอยเล็กๆ หลังอาคารสินธร ถนนวิทยุ***
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา รสจัดจ้านร้านพรชัย อิ่มอร่อย<!-- google_ad_section_end -->




<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาที่อร่อยคือต้องสดใหม่ไม่คาว ยิ่งถ้าเป็นต้มยำรสชาติจัดจ้านยิ่งถูกใจนักชิม

ร้าน พรชัยโภชนา หรือที่รู้จักกันในชื่อร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาพรชัย เป็นสูตรเด็ดเจ้าแรกของเมืองระยอง เปิดขายกันมานานเกือบ 20 ปีแล้ว ตั้งอยู่เลขที่ 64/3 หมู่ 4 ต.น้ำคอก อ.เมือง จ.ระยอง

ภายในร้านบรรยากาศโปร่ง กว้างขวาง เน้นสุขอนามัย

คุณ พรชัย เมธีเฉลิมบุญ อายุ 52 ปี และ คุณนัฐฐา เมธีเฉลิมบุญ อายุ 44 ปี สองสามีภรรยาเจ้าของร้าน กล่าวว่า เคล็ดลับสำคัญที่ทำให้ลูกชิ้นปลานุ่มอร่อย ไม่คาวก็คือ ต้องใช้เนื้อปลาทะเลที่สดๆ ใหม่ จากทะเลเท่านั้น จะทำให้ลูกชิ้นปลามีความหวานหอม และน้ำซุปของก๋วยเตี๋ยวจะอร่อยได้ คือ น้ำซุปที่ได้จากการทำลูกชิ้นปลา

คุณนัฐฐาเล่าว่า ตนเองจะเป็นคนจ่ายตลาด เพื่อคัดสรรคุณภาพของเนื้อปลาที่ต้องสดใหม่ หากเป็นปลาที่ไม่สด จะทำให้ลูกชิ้นไม่อร่อยและมีกลิ่นคาว จากนั้นก็ลงมือผลิตลูกชิ้นด้วยตนเองประมาณตี 4 ทุกวัน ก่อนเปิดร้านในเวลา 07.00 ถึง 15.50 น. โดยมอบให้บุตรสาวทั้งสามคนคอยดูแลและบริการลูกค้า
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>


เมนู เด็ดของทางร้าน ที่ได้นำเสนอมีหลากหลาย โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา เย็นตาโฟเส้นปลา-ลูกชิ้นปลา ต้มยำสาหร่ายแก้ว ก๋วย เตี๋ยวทะเล เกี๊ยวปลาเย็นตาโฟ ลูกชิ้นปลารวมลวกจิ้ม (ฮือก๊วยขาว ฮือก๊วยทอด เป็นปลาแผ่นใหญ่แบบลวกและทอดหั่นแบน เกี้ยมอี๋เป็นเส้นกลม หรือรักบี้ ลูกชิ้นกลมยาวคล้ายลูกรักบี้)

ส่วนคนชอบกินข้าวมากกว่ากินเส้น ที่ร้านยังมีข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ ให้เลือก

" เย็นตาโฟเส้นปลา-ลูกชิ้นปลา" ใช้ผักบุ้ง แมงกะพรุน หมึกกรอบ เลือดหมู เห็ดหูหนูขาว ครบเครื่องเย็นตาโฟ เติมด้วยซอสเย็นตาโฟ (เต้าหู้ยี้แดง) ใส่เส้นปลา ลูกชิ้นปลา ฮือก๊วยและรักบี้ รสชาติเข้มข้น เครื่องเคียงครบครัน
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>


"ต้มยำสาหร่ายแก้ว" เมนูนี้ได้รับความนิยมเช่นกัน ทางร้านใช้เส้นสาหร่ายแก้วลงไปในก๋วยเกี๋ยวต้มยำมะนาว สูตรของทางร้านที่น้ำซุปปรุงรสแล้ว จัดจ้านด้วยน้ำมะนาวแท้ๆ ใส่ถั่วงอก และใส่ถั่วลิสงป่นหรือสั่งแยกได้ แต่จะเปลี่ยนเป็นเส้นเล็ก เส้นใหญ่ บะหมี่กรอบ หรือเส้นปลาก็ได้ตามชอบ ในราคาตั้งแต่ 30-50 บาท

สำหรับ เมนู "ลูกชิ้นรวม" มีฮือก๊วยขาว ฮือก๊วยทอด เกี๊ยวปลา ลูกชิ้นรักบี้ มีทั้งแบบทอดและลวก สั่งรวมมิตรมาเสิร์ฟโรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวกรอบ ผักขึ้นฉ่ายหั่นละเอียด จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรของทางร้าน ชุดเล็ก 50 บาท ชุดใหญ่ 100 บาท

ส่วน "หนังปลา กรอบ" ที่กินคู่กับก๋วย เตี๋ยว เจ้าของร้านบอกว่า ทำเอง โดยใช้หนังปลา หั่นชิ้นยาวและนำมาปรุงรส ด้วยเกลือ และทอดในน้ำมันเดือดจัดจนหนังปลาม้วนเข้าหากันเป็นเกลียวกรอบ และยกขึ้นรอสะเด็ดน้ำมัน ไว้รับประทานคู่กัน โดยทางร้านบรรจุใส่ถุงวางไว้ทุกโต๊ะซื้อกลับบ้านก็ได้

แต่หาก ลูกค้าต้องการสั่งแต่ลูกชิ้นอย่างเดียวใส่ถุงกลับบ้านก็ไม่รอนาน เพราะทางร้านมีเตรียมไว้แล้วเป็นชุด ชุดละ 140 บาท (จำนวน 100 ลูก) เก็บในตู้เย็นได้ 3 วัน

แต่หากแช่น้ำแข็งเย็นจัดได้ถึง 1 สัปดาห์ รับรองรสชาติไม่เปลี่ยน เพราะลูกชิ้นปลาของทางร้านสดใหม่ทุกวันปราศจากสารกันบูด

หาก ต้องการลูกชิ้นปลาจำนวนมากบริการส่งถึงที่โทร.ได้ที่โทร. 0-3887-4007 หรือ 08-6334-6242 หรือจะมานั่งที่ร้านก็สั่งจองโต๊ะได้เลยตามหมายเลขเดียว กัน

การ เดินทางใช้เส้นทาง ถนนบายพาสระยองสาย 36 จากกรุงเทพฯ เลี้ยวซ้ายเข้าบ้านค่าย (แยกเกาะกลอย) เพียง 1 กิโลเมตร มองทางซ้ายเห็นป้ายร้านพรชัยโภชนา ที่จอดรถกว้างขวางสะดวกสบาย ช่วงปีใหม่นี้ หากใครขับรถไปเที่ยวระยองก็แวะไปชิมกันได้ ทางร้านยินดีต้อนรับ

ที่มา มติชน

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"เนื้อตุ๋นพัฒนาการ 68" เนื้อเด็ด น้ำเด่น
Travel - Manager Online
Travel - Manager Online
</TD><TD vAlign=baseline align=right width=85></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>20 ธันวาคม 2552 12:38 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศร้านเนื้อตุ๋นพัฒนาการ 68</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> พูดถึง "ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ" ขึ้นมาเมื่อไหร่ "ผ่านมาแวะกิน" เป็นต้องนึกถึงน้ำซุปเนื้อที่ส่งกลิ่นหอมๆ ยั่วยวนน้ำลาย และนึกถึงเนื้อสด เนื้อตุ๋น และสารพัดเครื่องในเนื้อที่เคี้ยวหนึบหนับปาก ครั้นพอพูดถึงแล้วมันก็ยั่วกระเพาะให้หิว อยากกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อขึ้นมาทันที อย่างนี้ต้องรีบไปเสาะแสวงหาก๋วยเตี๋ยวรสเด็ดมากินให้สมใจปากกันแล้ว

และเราก็มาได้ร้าน "ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นพัฒนาการ 68" เป็นร้านเป้าหมายดับความหิวกันในมื้อนี้ จัดว่าเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อชื่อดังแถวย่านพัฒนาการ ซึ่งเปิดขายมานานกว่า 10 ปี มีลูกค้าขาประจำและขาจรมาอุดหนุนกันอย่างมากมาย เพราะที่ร้านนี้ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องของรสชาติเนื้อวัวที่มีรสดี และโดดเด่นด้วยน้ำซุปรสเด็ดที่ถูกปากคอกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อทั้งหลาย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเส้นหมี่น้ำ (บน) เกาเหลารวมมิตร (ล่าง)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เรามีโอกาสได้คุยกับเจ้าของร้าน คือคุณศิริพร เกียรติระบิล เธอบอกว่าก๋วยเตี๋ยวเนื้อของที่ร้านนี้เป็นสไตล์จีนแต้จิ๋ว ที่สืบทอดสูตรเด็ดเคล็บลับมาจากรุ่นคุณพ่อคุณแม่ (เมื่ออดีตมีชื่อเสียงในชื่อของร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อหน้ากรมศุลฯ) ซึ่งก๋วยเตี๋ยวเนื้อของที่นี่จะเน้นเรื่องการคัดสรรเนื้อวัวอย่างดีมาทำ และเนื้อที่นำมาขายจะทำแบบสดๆ ทำขายแบบหมดวันต่อวัน แถมเนื้อและเครื่องในแต่ละอย่างหั่นมาแบบชิ้นใหญ่น่ากิน

และที่สำคัญอย่างที่บอกไว้ว่าน้ำซุปของที่นี่มีรสอันกลมกล่อมชวนซด เพราะทางร้านปรุงน้ำซุปขึ้นมาเป็นพิเศษ โดยเป็นน้ำซุปที่ได้จากการต้มเนื้อที่ตุ๋นไว้อยู่นาน และใส่เครื่องเทศยาจีน พร้อมกับปรุงรสชาติตามสูตรเฉพาะอีกที ได้เป็นน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเนื้อที่เข้มข้น หอมกลิ่นเครื่องยาจีนอ่อนๆ รสชาติกลมกล่อมซดแล้วคล่องคอแบบไม่ต้องปรุงเครื่องเพิ่มเลย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ชุดหม้อไฟ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> สำหรับเครื่องต่างๆ ของก๋วยเตี๋ยวขอบอกว่าที่ร้านนี้มีเยอะมากๆ โดยแบ่งเป็นประเภทของตุ๋นซึ่งจะตุ๋นกับเครื่องเทศยาจีน มี เนื้อตุ๋น ที่ใช้เนื้อเฉพาะชายโครงและเนื้อน่องมาตุ๋นกว่า 6ชม.จนเนื้อเปื่อยนุ่ม เคี้ยวนิ่มแทบจะละลายในปาก เอ็นตุ๋นจะตุ๋นเป็นวัน เคี้ยวเด้งนุ่มหนึบปาก ขอบกระด้งนั้นตุ๋นจนได้ที่ เคี้ยวกรึบปาก ส่วนไส้ตุ๋นนานกว่า 6 ชม.ได้ไส้ที่เคี้ยวนุ่มปากไม่เหม็นสาปเลย และยังมีตัวเดียวที่หากินได้ยากให้ลองชิมด้วย

ส่วนประเภทของสดก็มี เนื้อสด ที่ใช้เนื้อส่วนสะโพกที่คัดมาอย่างดีกินแล้วเนื้อนุ่มหวาน ตับ หัวใจ ผ้าขี้ริ้ว กระเพาะกรอบ ซึ่งพวกนี้จะทำความสะอาดอย่างดี ลวกแล้วของทุกอย่างมีความสดรสดีถูกปาก และลูกชิ้นเนื้อวัวนั้นเคี้ยวเด้ง

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>คุณศิริพร เกียรติระบิล เจ้าของร้าน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> "ผ่านมาแวะกิน" สั่งก๋วยเตี๋ยวเนื้อมาโซ้ยอยู่หลายชาม ขอบอกว่าถูกปากโดนใจมากๆ อิ่มคุ้มกับราคา ซึ่งก๋วยเตี๋ยวที่นี่ขายชามละ 40 บาท เกาเหลา 40 บาท หรือจะสั่งเป็นชุดหม้อไฟ (250 บาท) ที่มีทั้งของตุ๋นและของสดให้กินแบบอิ่มสุดๆ แต่ถ้าใครไม่กินเนื้อยังมี ข้าวขาหมู (35 บาท ใส่ไข่ 40 บาท) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ได้กินอิ่มกัน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้าน "เนื้อตุ๋นพัฒนาการ 68" ตั้งอยู่ที่ 212/35-36 ถ.พัฒนาการ เขตประเวศ กทม. การเดินทางจากถ.พัฒนาการ ตรงมายังซ.พัฒนาการ 68 จะเห็นร้านตั้งอยู่ริมถนนเป็นตึกแถว จุดสังเกตุอยู่ใกล้กับธนาคารกสิกรไทย สามารถจอดรถได้ริมถนนตั้งแต่ 09.00 น. หรือที่ซ.พัฒนาการ 57 (ฝั่งตรงข้ามร้าน) ร้านเปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น. (หยุดวันพระใหญ่และวันหยุดเทศกาล) โทร. 0-2722-1049

คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "เนื้อตุ๋นพัฒนาการ 68"
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "เนื้อตุ๋นพัฒนาการ 68"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>20 ธันวาคม 2552 12:38 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ชื่อร้าน : เนื้อตุ๋นพัฒนาการ 68

ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ, เกาเหลารวมมิตร, ชุดหม้อไฟ

บรรยากาศร้าน : ตึกแถว

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 212/35-36 ถ.พัฒนาการ เขตประเวศ กทม. การเดินทางจากถ.พัฒนาการ ตรงมายังซ.พัฒนาการ 68 จะเห็นร้านตั้งอยู่ริมถนนเป็นตึกแถว จุดสังเกตุอยู่ใกล้กับธนาคารกสิกรไทย

สถานที่จอดรถ : สามารถจอดรถได้ริมถนนตั้งแต่ 09.00 น. หรือที่ซ.พัฒนาการ 57 (ฝั่งตรงข้ามร้าน)

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น. (หยุดวันพระใหญ่และวันหยุดเทศกาล)

เบอร์โทรศัพท์ : 0-2722-1049
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น" ซดน้ำอุ่นๆอุดมด้วยสมุนไพร / กุ๊กเล็ก
Travel - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>24 ธันวาคม 2552 16:34 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย : กุ๊กเล็ก

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>สำหรับหน้าหนาว ยามเช้าหรือในช่วงเย็นมักมีสายลมเย็นๆพัดกระทบผิวกาย การหาอะไรอุ่นๆซดดื่มกินจึงเป็นการดีไม่น้อย มื้อนี้ "กุ๊กเล็ก" ขอแนะนำเมนู "ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น" ที่ได้สูตรวิธีการทำมาจาก "ห้องอาหารบางกอกสกาย โรงแรมใบหยก สกาย" ให้มาทำซดน้ำก๋วยเตี๋ยวอุ่นๆรสชาติกลมกล่อมอุดมด้วยสมุนไพร รายละเอียดมีดังนี้เลย

ส่วนผสมน้ำซุปหมูตุ๋น

เนื้อหมู 200 กรัม
รากผักชี 50 กรัม
ข่าบด 50 กรัม
กระเทียม 50 กรัม
หอมแดงบด 50 กรัม
ตระไคร้บด 50 กรัม
น้ำตาลทรายแดง 150 กรัม
ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
อบเชย 50 กรัม
เกลือ 2 ช้อนชา
น้ำซุป 200 กรัม

เครื่องก๋วยเตี๋ยว

ถั่วงอก 20 กรัม
เส้นเล็ก 50 กรัม
ต้นหอม,ผักชี 20 กรัม
ลูกชิ้น
เส้นก๋วยเตี๋ยว

เมื่อตระเตรียมส่วนผสมครบสูตรแล้วก็เริ่มลงมือทำโดยขั้นแรกนำเนื้อหมูมาหั่นเป็นชิ้นๆ ตุ๋นพร้อมเครื่องปรุงทุกอย่าง 1-2 ชั่วโมง (ให้หมูพอเปื่อย) จากนั้นก็ลวกเส้นพร้อมถั่วงอก จะเส้นจะเป็นเส้นใหญ่ เส้นเล็ก เส้นหมี่ เส้นมาม่า หรือเส้นอื่นๆก็ตามแต่จะถูกปาก ลวกเส้นและถั่วงอกใส่ถ้วยแล้วก็ตักน้ำซุปใส่เส้นก๋วยเตี๋ยว โรยต้นหอม ผักชี ใส่หมูตุ๋น ตกและลูกชิ้นแต่งสวยงามดูน่ากิน เท่านี้ก็เรียบร้อย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>โซ้ยเตี๋ยวรสเด็ด ที่ "ต้นเย็นตาโฟกุ้งทอด"
Travel - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>27 ธันวาคม 2552 14:42 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศร้านต้นเย็นตาโฟกุ้งทอด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>นานที "ผ่านมาแวะกิน" จะได้ผ่านมาแถวซอยลาดพร้าว 71 พอดีต้องมาทำธุระกับเพื่อนสาว หลังจากที่ทำธุระกันเสร็จก็ตั้งใจว่าจะรีบตรงดิ่งกลับบ้าน แต่ช่วงจังหวะที่ขับรถผ่านเห็นในซอยมีร้านขายอาหารมากมาย ซึ่งแต่ละร้านล้วนแต่ขายของกินที่ยั่วยวนน้ำย่อยในกระเพาะให้ตื่นตัว จนเกิดเป็นอาการหิวและอยากกินขึ้นมาเสียอย่างนั้น

งานนี้ไม่ต้องบอกก็พอจะเดาออกว่าพวกเราต้องขอตามใจปากและท้อง รีบหาที่จอดรถแล้วเดินตรงดิ่งไปยังร้านอาหารที่อยากกิน และร้านที่เป็นเป้าหมายของมื้อนี้ก็คือร้าน "ต้นเย็นตาโฟกุ้งทอด" เพราะเห็นชื่อร้านแล้วมันยั่วปาก และอยากรู้ว่าก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟกุ้งทอดนั้นเป็นอย่างไร และจะมีรสชาติเด็ดแค่ไหน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เส้นใหญ่น้ำเย็นตาโฟ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>พอเดินเข้ามาถึงในร้านก็รีบจัดแจงหาที่นั่ง มองเห็นป้ายเมนูอาหารแล้วก็สั่งก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟขึ้นชื่อของทางร้านมาชิมกันทันที โดยสั่งมาเป็น เส้นใหญ่น้ำเย็นตาโฟ (ธรรมดา 35 บาท พิเศษ 40 บาท) เย็นตาโฟของที่นี่สีสันชวนกิน แถมยังปรุงรสชาติใส่พริกน้ำส้ม น้ำตาล มาให้เสร็จสรรพเรียกว่าไม่ต้องปรุงรสชาติเพิ่มเลย แล้วพอชิมน้ำซุปก็สัมผัสได้ถึงความหวานกลมกล่อมของน้ำซุปที่ทางร้านต้มด้วยกระดูกหมูล้วนๆ แถมใส่เครื่องยาจีนในน้ำซุปด้วย บวกกับเมื่อคลุกเคล้าให้เข้ากับซอสเย็นตาโฟที่ทางร้านปรุงขึ้นมาเองตามสูตรเด็ดเฉพาะแบบสดใหม่ทุกวัน ได้กลิ่นหอมของเต้าหู้ยี้อ่อนๆ และได้รสชาติของซอสที่เข้มข้นกลมกล่อมถูกปากมากๆเลย

และเครื่องที่ใส่มาในเย็นตาโฟชามนี้มีหลายอย่าง มีทั้งลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง ฮือก้วย เต้าหู้แผ่น ปลาหมึกกรอบ เลือด เผือกทอด และความพิเศษที่เป็นจุดเด่นไม่เหมือนร้านไหนคือ จะมีกุ้งทอดใส่มาด้วย เป็นกุ้งขาวที่นำมาคลุกกับแป้งที่ปรุงรสไว้แล้วแล้วทอดจนเหลืองกรอบ ได้กินกุ้งทอดที่หอมกลิ่นแป้งและกุ้งเนื้อแน่นกรอบเป็นอะไรที่เข้ากันดีกับเย็นตาโฟรสเด็ด

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บะหมี่น้ำต้มยำ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ส่วนอีกชามที่สั่งมาเป็น บะหมี่น้ำต้มยำ (ธรรมดา 35 บาท พิเศษ 40 บาท) เป็นต้มยำน้ำใสที่ทางร้านจะปรุงต้มยำมาแบบครบเครื่อง ใส่ถั่ว ใส่มะนาว ใส่พริก ส่วนเครื่องที่ใส่มาก็มีหมูสับ ฮือก้วย ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นรักบี้ เผือกทอดและกุ้งทอด กินก๋วยเตี๋ยวต้มยำก็รสดีถูกปากไม่แพ้เย็นตาโฟ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>กุ้งทอด (บน) เผือกทอด (ล่าง)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>แล้วนอกจากก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟกับก๋วยเตี๋ยวต้มยำแล้ว ก็ยังมีก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา (ธรรมดา 35 บาท พิเศษ 40 บาท) ซึ่งมีเส้นก๋วยเตี๋ยวให้เลือกหลากหลายมีทั้ง เส้นเล็ก, เส้นใหญ่, เส้นหมี่, บะหมี่, เกี้ยมอี๋ และวุ้นเส้น (40 บาท) เกาเหลา (40 บาท) หรือว่าจะสั่งกุ้งทอด (จานละ 40 บาท) กุ้งทอด+เผือกทอด (40 บาท) เผือกทอด (จานเล็ก 20 บาท จานใหญ่ 40 บาท) เป็นเผือกที่หั่นเป็นเส้นๆ ผสมกับถั่วปรุงรส แล้วห่อด้วยฟองเต้าหู้ทอดจนเหลืองกรอบ มากินแกล้มกับก๋วยเตี๋ยวก็เข้าท่าดีไม่หยอก เพราะทั้งกุ้งทอดและเผือกทอดของที่นี่มีกินอร่อยกรุบกรอบปาก จิ้มกินกับน้ำจิ้มหวานถูกปากกันไป เอาเป็นว่าถ้าใครได้ผ่านมาที่ซ.ลาดพร้าว 71 แล้วเกิดหิวขึ้นมา ก็ลองแวะมาโซ้ยก๋วยเตี๋ยวรสเด็ดกันให้อิ่มท้องกันได้ที่ร้าน "ต้นเย็นตาโฟกุ้งทอด"

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

"ต้นเย็นตาโฟกุ้งทอด" ตั้งอยู่ที่ 89/3 ซ.ลาดพร้าว 71 เขตวังทองหลาง กทม. การเดินทางถ้ามาจากถ.เลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ วิ่งตรงมายังซ.ลาดพร้าว 71 เข้ามาในซอยแล้วเจอสามแยกให้เลี้ยวซ้าย แล้ววิ่งตรงมาจะเห็นร้านต้นเย็นตาโฟตั้งอยู่ทางขวามือ มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน สามารถจอดรถได้ริมถนนทั้งสองฝั่ง ร้านเปิดทุกวัน (หยุดทุกวันพุธสัปดาห์ที่ 2 และ 4 ของเดือน) เวลา 08.30-16.30 น. โทร. 08-1315-7311

คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ต้นเย็นตาโฟกุ้งทอด"
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ต้นเย็นตาโฟกุ้งทอด"
Travel - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>27 ธันวาคม 2552 14:42 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ชื่อร้าน : ต้นเย็นตาโฟกุ้งทอด

ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ, ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ, กุ้งทอด, เผือกทอด

บรรยากาศร้าน : ตึกแถว

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 89/3 ซ.ลาดพร้าว 71 เขตวังทองหลาง กทม. การเดินทางถ้ามาจากถ.เลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ วิ่งตรงมายังซ.ลาดพร้าว 71 เข้ามาในซอยแล้วเจอสามแยกให้เลี้ยวซ้าย แล้ววิ่งตรงมาจะเห็นร้านต้นเย็นตาโฟตั้งอยู่ทางขวามือ มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน สามารถจอดรถได้ริมถนนทั้งสองฝั่ง

เวลาเปิด-ปิด : ร้านเปิดทุกวัน (หยุดทุกวันพุธสัปดาห์ที่ 2 และ 4 ของเดือน) เวลา 08.30-16.30 น.

เบอร์โทรศัพท์ : 08-1315-7311
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

โอ้ว ไม่น่าหลงเข้ามาเวลานี้เลย ... อยากจะฟาดสักหลาย ๆ ชาม ฮ่า ๆ

 

เย็นตาโฟสูตรเด็ด ร้านปั่นทอง นครนายก

อิ่มอร่อย

˹ѧ

เย็นตาโฟสูตรเด็ด ร้านปั่นทอง นครนายก

อิ่มอร่อย



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>บริเวณทางเข้าโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เขาชะโงก ต.พรหมณี อ.เมือง จ.นครนายก เป็นจุดชุมนุมของร้านอาหารหลากหลายชนิด ทั้งไก่ย่าง ส้มตำ สารพัดอาหาร

หากเป็น "ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา"ร้านยอดฮิตของเขตนี้คือ ร้านก๋วยเตี๋ยวปั่น ทอง โดดเด่นด้วยบรรยากาศแบบสวน อาหาร มีสวนน้ำพุ น้ำตกอย่างสวย งาม มีซุ้มร่มรื่น และมีห้องแอร์ให้บริการด้วย

รสชาติของก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา เย็นตาโฟ และอีกหลากหลายเมนูล้วนแต่มี ความเอร็ดอร่อย และถึงรสถึงเครื่อง เรียกได้ว่าคุ้มค่า ในราคาชามละ 25-35 บาท

คุณปรพรต สำเร็จสุข หรือ "อาร์ท" เจ้าของร้าน เล่าว่า เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวมาได้ 5 ปีแล้ว เมื่อก่อนนี้ตนเองมีโอกาสไปช่วยญาติขายก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาอยู่ที่ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นร้านที่มีชื่อเสียงและมีลูกค้าอุดหนุนกันแน่นหนา จึงได้มีโอกาสเรียนรู้กลเม็ดเคล็ดลับการต้มน้ำซุปให้อร่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสูตรการทำน้ำซอสเย็นตาโฟรสเด็ดสูตรเฉพาะตัว และสูตรการปรุงต้มยำปลารสเข้มข้น รวมไปถึงรู้จักแหล่งที่ขายลูกชิ้นปลาเกรดดี มีคุณภาพ วัตถุดิบต่างๆ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

เมื่อพ่อของคุณอาร์ทเกษียณอายุราชการ ประกอบกับมีที่ดินของตนเองอยู่ที่บริเวณทางเข้าโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ที่จ.นคร นายก สามคนพ่อแม่ลูกจึงตัดสินใจที่จะมาเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวดังกล่าว โดยมองเห็นข้อจำกัดของร้านก๋วยเตี๋ยวว่า ส่วนใหญ่จะเป็นห้องแถวคับแคบ หรือแออัด จึงอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศ มุมมองของลูกค้าว่าร้านก๋วยเตี๋ยวอร่อย ก็เข้ามาอยู่ในบรรยากาศดีๆ ได้เช่นกัน จึงตัดสินใจตกแต่งบรรยากาศของร้านให้เป็นสภาพแบบปัจจุบันนี้

ตอนเปิดร้านใหม่ๆ ก็ประสบปัญหาเพราะลูกค้าไม่กล้าเข้าร้าน กลัวว่าจะขายก๋วยเตี๋ยวราคาแพงเกินไป บางคนก็ไม่แน่ใจในรสชาติ แต่ก็อดทนจนในที่สุดก็ได้รับการบอกเล่าแบบปากต่อปากถึงความอร่อยของร้านปั่นทองจนทำให้มีลูกค้ามาอุดหนุนกันอย่างหนาแน่น

ความอร่อยของเมนูที่ร้าน อยู่ที่การเลือกสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น "ฮื่อก๊วย" ที่ได้มาจากย่านเยาวราช รสชาติกลมกล่อม ทอดได้ผิวกรอบเนื้อในนุ่มและเด้งหนึบหนับ สั่งลวกเป็นออร์เดิร์ฟ รับรองติดใจ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

สำหรับลูกชิ้นปลาก็นำมาจากเยาวราช เป็นลูกชิ้นปลาเกรดดี แม้กระทั่งปลาเส้น ก็ใช้เกรดดีรสชาติกลมกล่อม กัดลงไปจะได้รสชาติเนื้อปลามากกว่าเป็นแป้ง

เมนูเด็ดของร้านก็คือ "เย็นตาโฟทรงเครื่อง" รสชาติเข้มข้น ทางร้านมีสูตรปรุงน้ำซอสเย็นตาโฟของตัวเอง ซึ่งน้ำซอสมีรสชาติออกเปรี้ยวเค็ม ไม่หวานเหมือนร้านเย็นตาโฟทั่วไป

จานถัดไปแนะนำว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง "บะหมี่ไข่" ใช้บะหมี่ไข่ชั้นหนึ่ง เส้นเหนียวหอมกลิ่นไข่ไก่สด ลวกน้ำร้อนกำลังพอดี โดยเฉพาะบะหมี่แห้ง จะใส่ถั่วลิสงบดหยาบๆ เคี้ยวแล้วยังได้รสชาติถั่วลิสงคั่วกลิ่นหอม ส่วนคนไม่ชอบรสเผ็ด ต้องบอกกับทางร้านก่อนว่าไม่ใส่พริกป่น

เมนูขึ้นชื่อมากต่อมา ได้แก่ "ต้มยำเนื้อปลาสดหม้อไฟ" ทางร้านใช้ปลากะพงแสมตัวใหญ่ รับมาจากที่มหาชัย แล่แต่เนื้อปลาชิ้นโต ปนด้วยเอ็นปลา ทำให้มีเนื้อแน่นหวาน เมื่อเคี้ยวไปถูกเอ็น ซึ่งแทรกในเนื้อปลาก็จะได้รับรู้รสชาติความกรุบนิดๆ ในเนื้อปลา

อีกจานยอดนิยม "เนื้อปลาผัดฉ่า" ใช้เนื้อปลากะพงแสมเช่นกัน ส่วน "ยำรวมมิตร" เป็นอาหารจานแนะนำอีกชนิดหนึ่ง ใช้เครื่องเคราครบครัน ไม่ว่าจะเป็นลูกชิ้นปลา เนื้อปลา แมงกะพรุน ปลาหมึกกรอบ ปลาเส้น หากใครติดใจปลาเส้น ควรสั่ง "ปลาเส้นต้มยำ" ลูกค้ามั่นใจในความสดใหม่ของเครื่องปรุงต่างๆ ได้

ของหวานที่ต้องถามไถ่กันก่อนว่าวันนี้มีหรือเปล่าคือ "ลูกตาลลอยแก้ว" ที่ใช้ลูกตาลสดเนื้อนิ่ม ฝานเป็นแผ่นบางๆ ใส่น้ำเชื่อมผสมใบเตย กลิ่นหอมรสหวานกำลังพอดี ใส่น้ำแข็งเกล็ดเย็นชื่นใจ นอกจากนี้ทางร้านยังมี "กาแฟสด" ใช้สูตรผสมเม็ดกาแฟอาราบิก้ากับโรบัสต้า ชงครั้งต่อครั้งเท่านั้นเมื่อลูกค้าสั่ง

ร้านก๋วยเตี๋ยวปั่นทอง เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. ร้านหาง่าย เพราะตั้งอยู่ริมถนนก่อนถึงหน้าประตูทางเข้าโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า หากกลัวหลง สอบถามเส้นทางรายละเอียดได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 08-1625-5977 นอกจากจะรับประทานที่ร้านแล้ว ทางร้านยังรับออกงานเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆ ด้วย แต่จะต้องเป็นระยะทางที่ไม่ไกลนักและต้องสั่งไม่ต่ำกว่า 50 ชามขึ้นไป

 

อยากกิน แต่มันไม่มีในจีน นี่ดิ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ส.หน้าวัง" อร่อยตามสั่ง
Travel - Manager Online
</TD><TD vAlign=baseline align=right width=85></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>17 มกราคม 2553 13:01 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศร้าน ส. หน้าวัง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> อาการหลายใจ และหลายความอยากในการกินอาหารของ "ผ่านมาแวะกิน" มักเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ที่ไม่รู้จะเลือกกินอาหารอะไรดีในยามที่ท้องโหยหิวอาหาร และทางออกที่เรามักเลือกให้กับตัวเองก็คือการเดินเข้าร้านอาหารที่ขายอาหารตามสั่ง ที่มีสารพัดเมนูอาหารให้เลือกกินได้ตามใจอยาก

เหมือนที่ในมื้ออันหิวโหยนี้ เราแบกท้องมาอิ่มกับอาหารตามสั่งรสเลิศกันที่ร้าน "ส.หน้าวัง" ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับศาลาว่าการกรุงเทพมหานครมานานกว่า 11 ปี มีคุณสมศรี โภควรพงศ์ เป็นเจ้าของร้าน ที่จะลงมือปรุงอาหารตามที่ลูกค้าสั่งด้วยตัวเองแบบจานต่อจาน และขอบอกว่าที่ร้านนี้มีเมนูอาหารตามสั่งมากมายเสียจริงเชียวแถมยังมีเมนูเด็ดบางรายการที่หากินที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่ เพราะเป็นสูตรเด็ดที่ทางเจ้าของร้านคิดค้นขึ้นมาเอง

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เส้นหมี่ผักกระเฉด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เห็นทีว่าอย่ารอช้าให้หิวไปมากกว่านี้กันเลย ตามมาชิมเมนูจานเด็ดที่ถ้ามาที่ร้านนี้แล้วไม่ควรพลาดสั่งมาลองลิ้มกันดีกว่า เริ่มจากจานแรกถือว่าเป็นเมนูเด่นขายดีประจำร้านที่หากินได้ยากยิ่ง นั่นคือ เส้นหมี่ผัดกระเฉด (หมู, ไก่ธรรมดา50บาท ทะเล70บาท รวมมิตร 70 บาท) ที่ทางร้านคิดสูตรขึ้นเอง คัดเอายอดผักกระเฉดอ่อนๆ อย่างดีมาผัดกับเส้นหมี่ขาว แล้วปรุงรส รสชาติคล้ายกับผัดผักกระเฉดไฟแดง ใส่หมู ไก่ ปลาหมึก และกุ้ง หรือตามแต่จะเลือกสั่ง ชิมรสชาติแล้วขอยกนิ้วให้เลยว่าอร่อยจริงๆ เส้นหมี่นุ่มเข้ากับผัดผักกะเฉดรสดี

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สุกี้แห้งและสุกี้น้ำ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ส่วนเมนูต่อมาคือสุกี้ ที่มีทั้งสุกี้น้ำและสุกี้แห้ง (หมู, ไก่ ธรรมดา50บาท ทะเล70บาท รวมมิตร 70 บาท) ให้ได้เลือกสั่งมากินตามใจชอบ สุกี้ของที่นี่โดดเด่นตรงน้ำจิ้มสุกี้ที่ทางร้านปรุงขึ้นมาเองแบบสูตรโบราณ รสชาติจัดจ้านไปด้วยกระเทียม พริก และหอมเต้าหู้ยี้ ถูกปากจริงๆ

ต่อมาเป็นอีกหนึ่งเมนูเส้นๆ คือ หมี่ซั้วฮ่องกง (หมู, ไก่ ธรรมดา50บาท ทะเล70บาท รวมมิตร 70 บาท) ที่นำเอาเส้นหมี่ซั่วฮ่องกง มาผัดกับกะหล่ำปลีลวกและผักอื่นๆ พร้อมกับใส่เนื้อไก่ หมู หรือกุ้งและผลาหมึก (ตามแต่จะสั่ง)และปรุงรสชาติแบบสไตล์คนจีนออกแห้งๆ ลิ้มรสชาติเส้นหมี่เหนียวนุ่มรสกลมกล่อม และมีน้ำจิ้มจิ๊กโฉ่มาให้จิ้มเพิ่มรสชาติด้วย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>หมี่ซั้วฮ่องกงและข้าวผัดหมูอบ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> จากอาหารเส้นๆ เปลี่ยนมาชิม ข้าวผัดหมูอบ (40บาท) ที่นำหมูส่วนสะโพกมาอบกับรากผักชีกระเทียมพริกไทย และเครื่องปรุงรสมาอบประมาณหนึ่งชั่วโมงให้นิ่ม จากนั้นหั่นเป็นชิ้นแล้วนำมาผัดกับข้าว ใส่กะหล่ำปลี ข้าวโพด ซึ่งจะผัดเหมือนข้าวผัด ชิมแล้วหมูอบนิ่มนุ่มลิ้นหอมเข้ากับข้าวผัดที่ไม่แฉะจนเกินไป กินคู่กับพริกน้ำปลา หอมแดง ยิ่งเสริมความอร่อยให้กับเมนูข้าวผัดหมูอบได้ดียิ่งขึ้น

และนอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูแนะนำอื่นๆ ที่ชวนกินอีกมากมาย อาทิ ต้มยำกุ้งน้ำข้น/น้ำใส (150 บาท) ก๋วยเตี๋ยวหมูเย็นตาโฟ (30บาท) ยำรวมมิตร (40 บาท) ยำทะเล (70 บาท) ยำปลา (70 บาท) ข้าวต้มปลา (50 บาท รวมมิตร 70 บาท) เรียกว่าอยากกินเมนูไหน ทางร้าน "ส.หน้าวัง" สามารถจัดให้อิ่มได้แบบไม่ผิดหวัง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
ร้าน "ส.หน้าวัง" ตั้งอยู่ที่ 156/2 ถ.ดินสอ เสาชิงช้า กทม. การเดินทางจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย วิ่งตรงเข้ามาที่ถ.ดินสอ ตรงมาจนถึงศาลาว่ากลางกรุงเทพมหานคร แล้วจะเห็นร้าน ส. หน้าวัง เป็นตึกแถวอยู่ตรงข้ามกับศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน ร้านเปิดทุกวัน เวลา 11.00-23.30น. ทางร้านรับส่งอาหารนอกสถานที่และรับจัดงานนอกสถานที่ด้วย โทร. 0-2622-1525, 0-2224-2588

คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ส.หน้าวัง"

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ส.หน้าวัง"
Travel - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>17 มกราคม 2553 13:01 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ชื่อร้าน : ส.หน้าวัง

ประเภทอาหาร : อาหารตามสั่ง

เมนูจานเด่น : เส้นหมี่ผักกะเฉด, สุกี้แห้ง, สุกี้น้ำ, หมี่ซั้วฮ่องกง, ข้าวผัดหมูอบ

บรรยากาศร้าน : ตึกแถว

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 156/2 ถ.ดินสอ เสาชิงช้า กทม. การเดินทางจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย วิ่งตรงเข้ามาที่ถ.ดินสอ ตรงมาจนถึงศาลาว่ากลางกรุงเทพมหานคร แล้วจะเห็นร้าน ส. หน้าวัง เป็นตึกแถวอยู่ตรงข้ามกับศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 11.00-23.30 น.

เบอร์โทรศัพท์ : ทางร้านรับส่งอาหารนอกสถานที่และรับจัดงานนอกสถานที่ด้วย โทร. 0-2622-1525, 0-2224-2588
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ร้านนี้ชื่อ แต้จินกวง อาเฮียอาเจ๊ใจดีทั้งคู่ คนหนึ่งอยู่หน้าร้าน อีกคนประจำหลังร้าน ช่วยกันลวก ช่วยกันทำมาหากิน ที่ขึ้นชื่อคือก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา หากอยากทานบะหมี่แนะนำว่า ต้องไปก่อนเที่ยงเล็กน้อย เพราะเท่าที่สังเกต และไปมาหลายครั้ง หากเลยเที่ยงครึ่งแล้ว มักจะหาทานไม่ได้เลย เจ้าของร้านนี่ก็แปลกครับ รู้อยู่ว่า คนถามหาหลังเที่ยงก็ยังปล่อยให้หมดแบบไม่ตุนของไว้เลย..

ร้านนี้ไม่ขายสะเปะสะปะ ประเภทเย็นตาโฟแบบนี้ เขาไม่มี ดูท่ามีความชำนาญด้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลามาก และหมูสับของแต้จินกวงก็สุดยอดครับ จะสั่งกลับบ้านก็ต้องรีบสั่งก่อน เขาขายหมูสับ 6 ลูก 10 บาท พร้อมน้ำซุปกลับบ้านไปปรุงทานกันเอง

แต้จินกวงอยู่ตรงถนนบรรทัดทอง ใกล้สี่แยกเจริญเมือง หากไปไม่ถูกให้ถามหาร้านแว่นตาบิวตี้ฟูล สาขาบรรทัดทอง ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องกันเล็กน้อย

บอกอีกนิดว่า อย่าไปสั่งพิเศษ เพราะพิเศษกับธรรมดา ผมคิดว่าปริมาณเท่ากัน คืออาเฮียเขากะว่า ธรรมดา คือพิเศษอยู่แล้ว จำนวนลูกชิ้น ฮื่อก้วย และเกี๊ยวทอด หมูสับเท่ากันเลย เพราะฉนั้น อย่าไปสั่งพิเศษ..

ดูว่าอร่อยขนาดไหน อาเจ๊ลวกก๋วยเตี๋ยวมือไวเป็นลิงเลย น้ำพริกผสมน้ำส้มสายชูก็สะอาด และสดมาก ไปเที่ยงๆอาจตกใจว่า เขาลดราคาสินค้าอะไรกัน แต่ละคนสั่งเด็กมาซื้อกลับบ้าน กลับ office กันทีละ 5 ถุง 10 ถุง ถือเป็นเหตุการณ์ปกติ วันเสาร์อาทิตย์ก็ขายเป็นปกติ.....

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ชวนอิ่มสบายท้องที่ร้าน “ยินดีนู้ดเดิ้ล”
Travel - Manager Online
</TD><TD vAlign=baseline align=right width=85></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>24 มกราคม 2553 15:26 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศภายในร้าน “ยินดีนู้ดเดิ้ล”</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> แทบจะพูดได้ว่ากรุงเทพมหานคร เมืองหลวงฟ้าอมรของเรานั้น แทบทุกซอกซอยของมุมเมือง ต่างก็มีร้านอาหารที่ขายของกินอร่อยๆ ให้ได้ไปเลือกลิ้มลองกันอย่างมากมายจริงๆ ซึ่งในมื้อนี้ “ผ่านมาแวะกิน” ก็ขอพามิตรรักนักกินเดินทางซอกแซกมาที่ซอยสวนมะลิ 1 ซึ่งภายในซอยแห่งนี้มีร้านอาหารเลิศรสชื่อว่า “ยินดีนู้ดเดิ้ล” เป็นร้านอาหารเล็กๆ ที่มีความน่าสนใจตรงที่มีเมนูราดหน้าและผัดซีอิ้วสไตล์จีนแต้จิ๋วที่มีรสชาติดีให้ได้ลองลิ้มกัน

ร้าน “ยินดีนู้ดเดิ้ล” แห่งนี้เปิดมานานแล้ว40กว่าปี เมื่อก่อนมีชื่อเดิมว่า “ยินดีโภชนา” เน้นขายราดหน้าและผัดซีอิ๊วเท่านั้น แต่เดี่ยวนี้เปลี่ยนชื่อมาเป็นยินดีนู้ดเดิ้ล มีคุณชาญชัย ปัณณกาญจนวงศ์ หรือเฮียแป๊ะ เป็นผู้ดูแลร้านและยังได้คิดเมนูอาหารเพิ่มเติม เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกอิ่มมากยิ่งขึ้นด้วย รวมถึงยังได้มีการพัฒนาปรับปรุงสูตรอาหารให้เข้ากับยุคสมัยเพื่อให้ถูกปากลูกค้า และต้องบอกด้วยว่าอาหารของที่นี่เน้นเรื่องคุณภาพและความสะอาดเป็นอย่างมาก การคัดเลือกวัตถุดิบจะเลือกใช้แต่ของที่ดีมีคุณภาพมาปรุงเป็นเมนูจานเด็ดที่ชวนกินมากมาย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ราดหน้าหมู</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ว่าแล้วก็มาชิมเมนูเด็ดของที่นี่กันเลย เมนูแรกที่ไม่ควรพลาด คือ ราดหน้าหมู (30-35บาท) ขอบอกว่าเป็นราดหน้าที่เมื่อได้ชิมแล้วแทบไม่ต้องปรุงรสชาติอะไรเพิ่มเติมเลย น้ำราดหน้าเหนียวหนืดกำลังดีและมีรสกลมกล่อมหอมกลิ่นเต้าเจี้ยวอ่อนๆ ส่วนหมูนั้นบอกได้คำเดียวว่าเนื้อนิ่มเคี้ยวนุ่มหวานปาก เพราะทางร้านแลือกใช้เนื้อส่วนสะโพกอย่างดีมาหมักกับเครื่องปรุงสูตรเด็ดของทางร้าน และผักคะน้าของที่นี่ก็เขียวสดก้านอวบเคี้ยวกรอบ ซึ่งทางร้านจะเลือกคะน้าคัดแต่ก้านกับยอดอ่อนๆ มาล้างทำความสะอาดอย่างดีด้วยด่างทับทิมถึง 3 น้ำจึงมั่นใจได้ว่าผักสะอาดจริงๆ ส่วนเส้นก๋วยเตี๋ยวในราดหน้า ทางร้านมีให้เลือกเส้นใหญ่และเส้นหมี่ ที่จะนำมาผัดจนหอม และยังมีหมี่กรอบด้วย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ผัดซีอิ๊ว</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ถัดมาเป็นอีกหนึ่งเมนูเด่น คือ ผัดซีอิ๊ว (35บาท) ทางร้านจะผัดแบบจานต่อจาน มีให้เลือกเส้นใหญ่หรือเส้นหมี่ ผัดซีอิ้วของที่นี่ผัดมาแบบไม่แห้งไม่แฉะจนเกินไป ลิ้มรสชาติแล้วโดนใจปากมากๆ ไม่ต้องปรุงรสเพิ่มเลย เพราะเส้นนั้นเหนียวนุ่มหอมกลิ่นซีอิ้วดำอ่อนๆ ออกรสหวานกลมกล่อม เนื้อหมูนุ่มปาก ผักคะน้าก็เคี้ยวกรุบกรอบ

จาก 2 เมนูเด่นชูโรง มาลองชิมเมนูจานเด็ดอื่นๆ กันบ้าง อย่าง หมูกระเทียมพริกไทยราดข้าวใส่ไข่ดาวหรือไข่เจียว(ไม่ใส่ไข่ 30บาท /ใส่ไข่ 35-40บาท) ทางร้านใช้หมูส่วนสะโพกมาหมักกับกระเทียม พริกไทยและน้ำมันหอยไว้ข้ามคืนแล้วนำมาทอดให้พอเกรียม โปะมาบนข้าวพร้อมไข่ดาวหรือไข่เจียวตามแต่จะสั่ง ลิ้มรสชาติหมูหอมเนื้อนุ่มแห้ง ได้รสชาติเครื่องกระเทียมพริกไทยถูกปากดี

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>หมูกระเทียมพริกไทยราดข้าวใส่ไข่ดาว (บน) ข้าวหน้าไก่ (ล่าง)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ข้าวหน้าไก่ (30บาท) เป็นอีกหนึ่งเมนูข้าวที่ชวนกิน ทางร้านจะใช้เนื้อไก่ส่วนสะโพกที่หมักกับเครื่องปรุงนานกว่า 3 ชม. แล้วนำมารวนปรุงเครื่องพร้อมกับน้ำซุปที่ปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษ และราดมาบนข้าวโรยหน้าด้วยต้นหอมและพริกชี้ฟ้าเหลือง ชิมข้าวหน้าไก่รสกลมกล่อมไก่เนื้อนุ่มดี

นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นๆ ที่ชวนกินอีก อาทิ เย็นตาโฟ (30-40บาท) ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ (35บาท) กระเพราราดข้าว (30บาท) และยังมีขนมหวานที่เตรียมไว้ไม่ซ้ำแล้วแต่ละช่วงฤดูกาล ซึ่งตอนนี้เป็นคิวของ ทับทิมกรอบ สลิ่ม มะพร้าวกะทิ และเต้าทึง (ถ้วยละ25บาท) เรียกว่าถ้าใครผ่านไปแถวซอยสวนมะลิ 1 ก็ลองแวะไปอิ่มท้องกับสารพัดเมนูอาหารจานเด็ดของร้าน “ยินดีนู้ดเดิ้ล” กันได้ตามสะดวก

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
“ยินดีนู้ดเดิ้ล” ตั้งอยู่ที่ 243 ซ.สวนมะลิ 1 ถ.มหาจักร แขวงเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบ กทม. การเดินทางถ้ามาจากจากแยกแม้นศรีให้ตรงมาที่ซ.สวนมะลิ 1 เลี้ยวเข้ามาในซอยจนเกือบสุดซอยจะเห็นร้านตั้งอยู่ซ้ายมือ มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน แต่ถ้ามาทางถ.มหาจักร ให้เลี้ยวเข้าซ.สวนมะลิ1 ตรงเข้ามาประมาณ 100 ม. ร้านจะอยู่ขวามือ เปิดทุกวัน (ใน 1เดือนจะหยุด 2 วัน ทางร้านจะแจ้งล่วงหน้า) เปิดเวลา11.00-23.00น. โทร. 0-2621-7167, 0-2221-9875

คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ยินดีนู้ดเดิ้ล"

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"จีหยูเมี้ยนถัง" ก๋วยเตี๋ยวไก่ฮ่อ บ้านแม่แอบ / แม่ช้อยนางรำ
Travel - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>25 มกราคม 2553 18:37 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> โดย : แม่ช้อยนางรำ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=389 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=389> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"หมู่บ้านแม่แอบ"อำเภอเชียงแสน เชียงราย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> "เคยกินแต่ "ข้าวซอยฮ่อ" ตอนนี้ก็มากินก๋วยเตี๋ยว
"จีหยูเมี้ยนถัง"...เป็นก๋วยเตี๋ยวไก่ฮ่อ..หอเจี๊ยะ
แต่เสียใจ กว่าจะได้กินทีต้องไปถึงเชียงราย"

ลองวีคเอนท์...ส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ที่ผ่านมา

มีโอกาสได้ขึ้นไปเชียงราย ตั้งใจจะขึ้นไปดูไร่กาแฟที่ไปลงไว้ที่ "ดอยหลวง"ไปถึงแล้วหายห่วง ทุกอย่างปรกติดีไม่มีปัญหา

เพราะฉะนั้นแควน..แควนที่ชอบดื่มกาแฟอาราบีก้าจากไร่อีชั้น ก็จงสบายใจ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"เต้าฮวยฮ่อ"ไม่มีปาท่องโก๋ แต่มีน้ำขิงเหมือนกัน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> กาแฟ "แม่ช้อย ดอยหลวง"ที่มาตั้งร้านอยู่ในซอยเรวดี นนทบุรีมีให้ดื่มตลอดทั้งปี

ส่วนใครที่จะมาขอปันเอาไปดื่มกันก็ไม่มีปัญหา ว่ากันตามราคา อีชั้นไม่ค้ากำไร

เว้นแต่ว่า ยังไม่คิดจะทำ "เฟรนไชน์"อย่างที่เขานิยมกัน

เพราะว่าจะรวยเกินความต้องการเจ้าค่ะ!!!

ถนนหลังบ้านอีชั้น เป็นถนนทหาร ที่เรียกว่า "ถนนยุทธศาสตร์" จากเชียงรายจะมาเชียงของก็ต้องผ่านหน้าบ้านอีชั้น

แต่ข้างหลังบ้านเป็นถนนตัดผ่ากลางเข้าหมู่บ้าน ผ่านภูเขาลูกน้อยลูกใหญ่ทะลุไปออกเชียงแสน ริมแม่โขงได้ ที่บริเวณสมัยนั้นสมัยแผ่นดินยังเป็นสีชมพู ไม่มีใครกล้าผ่าน เพราะเป็นเขต ผกค.ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์

เรียกกันว่าเป็น "บ้านแม่แอบ"เพราะสมัยโบราณ เวลาเกิดศึกสงคราม ชาวบ้านจะมาแอบหลบอยู่ที่นี่ ไม่มีใครเข้ามารังควานเพราะการเดินทางที่ยากลำบาก จึงฝากชีวิตไว้ที่นี่ได้

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"เครื่องปรุง" "จีหยูเมี้ยนถัง"ก๋วยเตี๋ยวไก่ฮ่อ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> พอจบสิ้นสมัยจับดาบรบกัน ก็มาเป็นยิงกันด้วยปืน

ที่นี่เลนกลายเป็นที่หลบซ่อนของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ เพราะชัยภูมิดี ถ้าเพลี่ยงพล้ำเสียทีก็จะว่ายข้ามแม่น้ำโขงไปหลบอยู่ฝั่งลาว

สมัยเมื่ออีชั้นยังเป็นนักข่าว ผู้ว่าราชการเชียงรายถูกล่อให้มาถูกยิงตายที่นี่เลย

ก็ถนนหลังบ้านอีชั้นที่ "ดอยทางหลวง"สามารถทะลุล่วงไปหมู่บ้านจีนฮ่อ ที่เรียกกันว่า "บ้านแม่แอบ"ได้พวกบ้านอีชั้นก็มักจะไปบ้านแม่แอบบ่อย

พวกผู้ชายชอบแอบไปต้มเหล้าเถื่อน แล้วก็มีเพื่อนเล่นกุ้ง หอย ปู ปลา น้ำเต้า รวมไปถึง "หวยไทใหญ่"ที่เรียกว่า "มะกองตี่"

ส่วนพวกผู้หญิงก็ไปเหมือนกัน ไม่ได้ไปเล่นการพนั้นแต่ไปกินก๋วยเตี๋ยวไก่จีนฮ่อ ทำขายจั๊ดลำขนาด

ภาษาจีนฮ่อเรียกก๋วยเตี๋ยวและก็รวมทั้งบะหมี่ที่ว่านี้เป็นภาษาจีนกลางว่า "หยูเมี้ยนถัง"แปลตรงตัวก็ว่า...ก๋วยเตี๋ยวไก่นั่นแหละเจ้าค่ะ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> "หยูเมี้ยนถัง"
ก๋วยเตี๋ยวไก่จีฮ่อ ยูนนาน.

เป็นก๋วยเตี๋ยวไก่บ้าน เป็นจากมณฑลยูนนานพวกจีนฮ่อแถวเชียงราย ขุนเอาไว้เป็นพิเศษ รสชาติจึงอร่อยกว่าไก่ฟาร์มหรือไก่บ้านที่เราขายกัน

เนื้อไก่จะเหนียวนุ่ม หนังไก่จะหนาเคี้ยวหนึกรุบ..กรับ

เวลาเอามาต้มน้ำก๋วยเตี๋ยวจะหวานหอมด้วยเครื่องยาจีน ผักหญ้าที่ใส่ก็จะเป็นผักเมืองจีนเช่น "เต้าเหมียว"หรือยอดถั่วน้อย ซึ่งจะมีไม่น้อยในช่วงฤดูหนาวนี้

ก๋วยเตี๋ยวไก่จีฮ่อ..ก็มีให้กินทั้งแห้งทั้งน้ำ แต่ขอแนะนำให้สั่งน้ำเอามาซดน้ำก๋วยเตี๋ยวอร่อยชื่นใจ คนที่นี่ยังไม่นิยมใส่ผงชูรส ทุกอย่างหวานสดรสดีเพราะมีกระดูกไก่เคี้ยวข้นเป็นสำคัญ

ถ้าจะให้อร่อยเพิ่มยิ่งหว่านั้นก็ต้องขอให้ใส่เครื่องในไก่ปนมาด้วย

ที่นี่เขาจะใส่กึ๋น ตับทั้งพวงใหญ่ ถึงขนาดนั้นก็กินหมดทั้งพวงหรือสองพวงเสียด้วยซ้ำไป

สุดท้ายอย่าลืมล้างปากด้วย "เต้าฮวยฮ่อ"

เนื้อเต้าฮวยเป็นถั่วเหลืองปลูกที่นี่ เนื้อแน่นข้นหอมกลิ่นถั่ว และที่สำมะคัญที่นี่เขากินเต้าฮวยกับน้ำขิงต้มน้ำตาลทรายแดง ไม่ใส่ปาท่องโก๋ ขอบอกว่าอร่อยกว่าบ้านเรา

ทั้ง "จีหยูเมี้ยนถัง"และ "เต้าฮวย"ที่ว่า ถูกกว่ากรุงเทพเป็นสอง...สามเท่าตัวถ้าจะแพงกว่าก็มีอย่างเดียวคือว่า

...ค่ารถทัวร์ ค่าตั๋วเครื่องบิน จะกินไปขึ้นถึงเชียงรายนั่นแหละเจ้าค่ะ แพงตายห-ง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

จี๊ดจ๊าดก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ร้านเบรกแตก ซอยเสนาฯ

อิ่มอร่อย

˹ѧ

จี๊ดจ๊าดก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ร้านเบรกแตก ซอยเสนาฯ

อิ่มอร่อย

http://www.khaosod.co.th/view_news....ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1DMHdNUzB5T1E9PQ==

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>ชื่อร้านออกจะสะดุดหูหน่อยว่า "ก๋วยเตี๋ยวต้มยำเบรกแตก"

แม้จะเป็นร้านเล็กๆ แต่ก็มีลูกค้าแน่นร้านทุกวันในซอยเสนานิคม เพราะชื่นชอบรสชาติของก๋วยเตี๋ยวต้มยำ

คุณศิวกร โพธิ์เย็น เจ้าของร้าน กล่าวว่า เปิดให้บริการมากว่า 4 ปี แต่ย้ายมาอยู่ที่แห่งนี้ไม่ถึงปี ทางร้านเป็นอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยว มีทั้งก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำข้น ต้มยำน้ำใส และก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ จัดเป็นชุดๆ ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวชุดปลา หรือชุดทะเล ส่วนใหญ่แล้วที่ลูกค้ามานั่งกินที่ร้านเพราะติดใจในรสชาติของน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวที่ทางร้านมีสโลแกนว่า "อร่อยแบบไม่ต้องปรุง"

ชามแรกทางร้านแนะนำเป็น "เส้นเล็กต้มยำหมูทะเลน้ำใส" โดยทางร้านเลือกเส้นก๋วยเตี๋ยวจากร้านประจำที่นุ่มเหนียว ลวกในน้ำเดือด หลังจากนั้นใส่หมูสับ เครื่องในหมู หมูหมัก และลูกชิ้นหมู

น้ำต้มยำที่ทางร้านรับประกันความเปรี้ยวจากน้ำมะนาวร้อยเปอร์เซ็นต์ ใส่พริกป่น ถั่วลิสงคั่ว ปรุงรสตามสูตรของทางร้าน เสิร์ฟพร้อมเกี๊ยวทอดที่ทางร้านบริการให้ฟรี ราคาชามละ 40-50 บาท <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

"เส้นเล็กหมูทะเลต้มยำ" ได้รับความนิยมไม่เป็นรอง เข้มข้นด้วยน้ำซุปที่ทำเป็นแบบน้ำต้มยำมีสมุนไพร อย่างขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด

สูตรเด็ดของทางร้านคือใส่พริกไทยอ่อนลงไปด้วย เพื่อความหอมและเข้มข้น รสชาติจัดจ้านถึงใจสำหรับคนที่ชอบกินอาหารรสจัด

เครื่องเคียงอัดแน่นไปด้วยกุ้ง ปลากะพง ปลาหมึก หมูสับ เครื่องในหมู โรยหน้าด้วยน้ำพริกเผาทางร้านทำเอง เพื่อเพิ่มความหอมและความเข้มข้นให้กับก๋วยเตี๋ยว ทางร้านเสิร์ฟพร้อมเกี๊ยวทอดเช่นกัน สนนราคาชามละ 40-50 บาท

"เย็นตาโฟเบรกแตกชุดลูกชิ้น" เป็นเมนูที่ขึ้นชื่อที่ทางร้านแนะนำให้ลูกค้าได้กิน จนติดใจไม่แพ้เมนูอื่นๆ เพราะรสชาติของน้ำซุปที่ทางร้านปรุงมาเหมือนกับรู้ใจลูกค้าเลยว่าต้องการรสชาตินี้ ทั้งหอม และมีเครื่องเคียงครบครัน ไม่ว่าจะเป็นลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นปลารักบี้ ปลาเส้น เห็ดหูหนูขาว ซอสแดงที่ใส่ในชามเป็นสูตรที่ทางร้านทำเอง กินคู่กับเกี๊ยวทอดที่ทางร้านจัดให้ ราคาชามละ 40-50 บาท

สำหรับเมนูเสริม เจ้าของร้านแนะนำ "ยำคะน้ากุ้งสด (เบรกแตก)" ความอร่อยของเมนูนี้อยู่ที่คะน้าที่กรอบและหวาน ยำรวมกับกุ้ง หมูสับ ใส่ผักแครอตหั่นเป็นแบบลูกเต๋า มะเขือเทศ หอมแดงซอย คลุกเคล้ากับน้ำยำสูตรของทางร้าน 1 จานหนึ่งกินได้ 2-3 คน ราคาจานละ 80 บาท

"ชุดลวกจิ้มทะเล" มีทั้ง กุ้งสด ปลาหมึก เนื้อปลากะพง ลูกชิ้นปลา ลวกในน้ำซุปจนสุก โรยกระเทียมเจียวเพื่อเพิ่มความหอม และสีสันให้น่ากินมากยิ่งขึ้น กินคู่กับน้ำจิ้มสูตรโบราณที่ได้รับการถ่ายทอดมาเป็นรุ่นๆ จนลูกค้าบางรายต้องขอซื้อน้ำจิ้มกลับไปกินที่บ้าน จึงขายหมดทุกวัน 1 จานกินได้ 2-3 คน ราคาชามละ 80 บาท

คุณศิวกรบอกถึงเคล็ดลับมัดใจลูกค้า คือต้องใช้วัตถุดิบแบบสดใหม่ทุกวัน อย่างเช่น อาหารทะเล เนื้อปลากะพง และถั่วลิสงคั่วเอง คั่วพริกเอง วัตถุดิบที่เกี่ยวกับเครื่องปรุงรสต่างๆ ทางร้านจะทำเองทั้งหมด เพราะต้องการได้อาหารที่ดีมีคุณภาพ

ที่สำคัญเครื่องปรุงของทางร้านจะใช้น้ำเชื่อมแทนน้ำตาล น้ำมะนาวแทนน้ำส้ม และน้ำจิ้มซีฟู้ดของทางมีเติมให้ไม่อั้น

ร้านเปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุด ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. และยังให้บริการออกร้านสำหรับลูกค้าที่ติดใจฝีไม้ลายมือของรสชาติอาหาร

ร้านตั้งอยู่ในซอยเสนา ก่อนถึงหมู่บ้านเสนานิเวศน์1 หากไปไม่ถูกสอบถามได้ที่โทร 084-711-0700 หรือ 081-305-5018

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ก๋วยเตี๋ยวแคะ" ไร้ชื่อ รสมือภัตตาคาร
Travel - Manager Online
</TD><TD vAlign=baseline align=right width=85></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>31 มกราคม 2553 16:02 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศโต๊ะนั่งร้านก๋วยเตี๋ยวแคะ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> หลังจากผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่มาได้สักพัก "ผ่านมาแวะกิน" เพิ่งจะมีโอกาสได้เดินทางไปทำบุญฉลองปีใหม่เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ตัวเองมา โดยเราได้ไปทำบุญไหว้พระที่วัดหัวลำโพง ตรงสามย่าน แล้วก็เลยไปทำบุญบริจาคโลงศพที่มูลนิธิร่วมกตัญญูที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน พอได้ทำบุญแล้วก็ช่างรู้สึกดีแก่จิตใจ และอิ่มเอิบบุญเอามากๆ แต่ว่าหลังจากที่อิ่มบุญอิ่มใจแล้ว แต่ว่าท้องมันไม่อิ่มไปด้วยน่ะสิ เพราะว่ากระเพาะน้อยๆ มันดันร้องจ๊อกๆ หิวโหย อยากหาของกินมาดับความหิวให้อิ่มท้องไปด้วย

งานเข้าแบบนี้จะไม่ตามใจปากท้องก็ไม่ได้ เราเลยรีบเดินออกมาจากที่ทำบุญ ซอกแซกหาของกินแถวๆ นั้นมาสนองความหิวกันดีกว่า และหลังจากที่ได้เดินลัดเลาะเข้ามาตรงซอยหลังวัดลำโพง ติดกับโรงเรียนวัดหัวลำโพง เราก็มาเจอะเจอเข้ากับร้านก๋วยเตี๋ยวร้านเล็กๆ แห่งหนึ่งเข้า เห็นมีผู้คนนั่งกินมากมาย ครั้นเข้าไปดูใกล้ๆ ก็เห็นว่าเป็นก๋วยเตี๋ยวแคะ ที่ดูชวนกินไม่น้อยเลย เราเลยตกลงใจขอฝากท้องกับก๋วยเตี๋ยวแคะร้านนี้ก็แล้วกัน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>คุณพรรณี ชอบนิทัศน์ เจ้าของร้าน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ร้านก๋วยเตี๋ยวแคะร้านนี้ นั้นเป็นร้านเล็กๆ ไม่มีชื่อร้าน แต่คนส่วนใหญ่ที่อยู่แถวนี้ก็มักเรียกกันติดปากว่าร้าน"ก๋วยเตี๋ยวแคะ" นี่แหละ โดยมีคุณพรรณี ชอบนิทัศน์ เป็นเจ้าของร้าน หลังจากที่ได้พูดคุยกัน ก็ทำให้รู้ว่าร้านนี้เปิดขายก๋วยเตี๋ยวแคะมานานร่วม 20 ปีแล้ว

ก๋วยเตี๋ยวแคะของที่นี่ต้องบอกว่าเป็นแบบสูตรของคนจีนแคะแท้ๆ ที่คุณพรรณีสืบทอดสูตรเด็ดนี้มาจากคุณยาย และความโดดเด่นของก๋วยเตี๋ยวแคะของร้านนี้ก็อยู่ตรงที่ลูกชิ้นแคะนี่แหละที่มีอยู่หลายอย่างด้วยกัน ซึ่งลูกชิ้นแคะของที่นี่คุณพรรณีลงมือทำเองแบบสดใหม่ทุกวัน และทำในปริมาณที่ไม่มาก เรียกว่าหมดแล้วหมดเลย ไม่มีเพิ่มและไม่มีเก็บเป็นของเหลือค้างคืน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวแคะเส้นหมี่น้ำ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> สำหรับลูกชิ้นแคะที่ทางร้านทำเองและใส่มาในก๋วยเตี๋ยวก็มี ลูกชิ้นเต้าหู้ยัดไส้ ที่ถือว่าเป็นลูกชิ้นตัวเอกของก๋วยเตี๋ยวแคะเลย ทำมาจากหมูสับ เนื้อกุ้งแห้ง เนื้อหมึกแห้ง เนื้อปลากราย ที่ผสมคลุกเคล้าปรุงรสเข้าด้วยกัน แล้วนำมายัดเป็นไส้ใส่มาในเต้าหู้ขาว และนำไปนึ่งจนสุก ชิมรสชาติแล้วต้องบอกว่าหอมกลิ่นเต้าหู้อ่อนๆ ขึ้นจมูก ตัวเต้าหู้นุ่มนิ่มเข้ากับไส้เนื้อนุ่มที่ออกรสกลมกล่อมถูกปากดี

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวแคะเส้นใหญ่แห้ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ลูกชิ้นตัวต่อมาคือ ลูกชิ้นทอด เป็นลูกชิ้นลูกกลมทำมาจากหมูสับ กุ้งแห้ง หมึกแห้ง และเนื้อปลากราย ที่ผสมปรุงรสคลุกเคล้าให้เข้ากัน และปั้นด้วยมือเป็นลูกกลมนำไปลวก แล้วก็นำมาทอดอีกที กินแล้วได้รสชาติของลูกชิ้นรสดีที่เคี้ยวแบบเต็มปากเต็มคำ

อีกหนึ่งลูกชิ้นที่ทางร้านทำเองคือ ลูกชิ้นหมู เป็นลูกชิ้นที่ทำมาจากหมูสับ ผสมกับเนื้อปลากราย กุ้งแห้ง และหมึกแห้ง ที่นวดเคล้าปรุงรสให้เข้มข้น เน้นใส่พริกไทยด้วย ปั้นเป็นลูกด้วยมือเช่นกันแล้วนำมานึ่ง กินแล้วลูกชิ้นเนื้อนุ่มเคี้ยวเด้งหนึบออกรสเข้มข้นพริกไทย และก็ยังมีลูกชิ้นอีก 2 อย่างที่ใส่มาในก่วยเตี๋ยว คือ ลูกชิ้นปลา และฮือก้วย ที่ถึงแม้ว่าทางร้านจะไม่ได้ทำเอง แต่ก็เลือกมาจากร้านที่ทำลูกชิ้นอย่างดี กินแล้วไม่คาว

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เกาเหลาลูกชิ้น</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> และนั่นคือเครื่องลูกชิ้นที่ใส่มาในก๋วยเตี๋ยวแคะของที่นี่ ขอบอกว่าจะสั่งก๋วยเตี๋ยวแคะมากินแบบน้ำก็อร่อยเข้าท่าดี เพราะจะได้ซดน้ำซุปกระดูกหมูร้อนๆ ที่รสชาติกลมกล่อมหวานน้ำต้มกระดูก หรือถ้าจะสั่งแห้งมากินก็เลิศลิ้นไม่แพ้กัน ซึ่งเส้นก๋วยเตี๋ยวของที่นี่ก็มีให้เลือกอยู่หลายอย่างมีทั้ง เส้นเล็ก เส้นหมี่ เส้นใหญ่ บะหมี่เหลือง และเกี๊ยมอี๋ แต่ถ้าใครไม่ชอบกินเส้นก็สั่งเป็นเกาเหลาลูกชิ้นล้วนๆ มากินกันไปเลย และราคาก๋วยเตี๋ยวแคะของที่นี่ขายอยู่ที่ธรรมดา ชามละ 30 บาท พิเศษ 35 บาท เรียกได้ว่าหากได้มาลองลิ้มแล้วเป็นได้อิ่มแบบสบายท้องในราคาย่อมเยา


ร้าน ก๋วยเตี๋ยวแคะ ตั้งอยู่ที่ 39 ถ.สี่พระยา เขตบางรัก กทม. การเดินทางจากวัดหัวลำโพง เดินมาที่ซอยหลังวัดหัวลำโพง เข้าซอยมาแล้วเลี้ยวขวา เดินตรงมาอีกนิดก็จะเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวแคะตั้งอยู่ขวามือ เป็นร้านเล็กๆ หรือถ้าจะเดินเข้าทางด้านร้านดอกไม้ ฟลาวเวอรี่ก็ได้ สามารถเดินทะลุออกมาทางหลังร้านก็จะเจอร้านก๋วยเตี๋ยวแคะ เปิดจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.30-14.30 น. โทร. 0-2267-0906, 0-2233-0471

คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ก๋วยเตี๋ยวแคะ"


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

"ก๋วยจั๊บเวียดนาม"เมนูเด่นเมืองอุบล

˹ѧʗ;ԁ?좨҇ʴ͍?䅹젺 ?ú?ءÊ ʴ?ء?荧==

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>ระหว่างที่งานอุบลราชธานี MICT สร้างคน สร้างชาติ ได้รับความสนใจจากผู้คนในจังหวัดและนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดที่ไปร่วมชมมากมาย ร้านอาหารในจังหวัดก็ขายดิบขายดีตามไปด้วย โดยเมนูที่โดดเด่นของจังหวัดอุบลราชธานี ได้แก่ "ก๋วยจั๊บ" ซึ่งเป็นวัฒนธรรมอาหารของชาวเวียดนามตั้งแต่หลังสงคราม กระทั่งซึมซับแทรกเข้ามาเป็นวัฒนธรรมอาหารของคนในเมือง

นางประเทือง วงศ์ประสิทธิพร แม่ค้าก๋วยจั๊บเจ้าแรกๆ ของเมืองอุบลราชธานี เล่าว่า ได้รับการทอดถ่ายวิธีการปรุงก๋วยจั๊บมาจากแม่ เมื่ออายุได้ 14 ปี จึงลองปรุงขายหารายได้ให้ครอบครัว เมื่อเริ่มขายใหม่ๆ จะใช้วิธีต้มก๋วยจั๊บแล้วใช้คานหามเดินเร่ขายในบริเวณใกล้เคียง ราคาถ้วยละ 5 บาท นานเข้าเมื่อมีคนนิยมกินก๋วยจั๊บมากขึ้นและมีทุน จึงมาเปิดร้านขายเกือบ 30 ปีแล้ว

ก๋วยจั๊บเดิมใส่เพียงหมูยอ หมูสับ โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวพอให้ได้กลิ่นหอม แต่งหน้าพองามด้วยหอมซอย แต่ระยะหลังเพิ่มเครื่องเคียงให้เลือกมากขึ้น ทั้งกระดูกหมู น่องไก่ ตีนไก่ ไข่ต้ม ไข่ลวก และเดิมลูกค้ากินในช่วงเช้าเป็นหลัก แต่ 10 ปีให้หลังมานี้ ก๋วยจั๊บเป็นอาหารที่กินได้ตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ แต่แหล่งขายก๋วยจั๊บที่สำคัญจะอยู่ย่านหน้าที่ว่าการอำเภอ มีเจ้าเก่าแก่ที่มีขาประจำรวมกันอยู่กว่า 10 เจ้า

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>

ทั้ง 3 ชามนี้..
-ก๋วยเตี๋ยวแคะเส้นหมี่น้ำ
-ก๋วยเตี๋ยวแคะเส้นใหญ่แห้ง
-เกาเหลาลูกชิ้น

ผมคิดว่า...

ด้วย "สีของชาม" ชามของร้านนี้เป็นลักษณะชามที่มักจะนำมาให้เด็กเล็กๆทานข้าวกันครับ..หุ..หุ..ดูไม่มืออาชีพเลยนะ

พอเน้นชามลายสีแดงเข้าไป เลยดูว่าทั้งก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ เส้นหมี่ หรือกระทั่งเกาเหลาที่ไม่มีเส้น เป็นเหมือนเย็นตาโฟไปทั้ง 3 ชามเลยนะ ทั้ง 3 ชาม จึงดูไม่มีความแตกต่างกันเลย

ตกลงร้านนี้เค้าขายก๋วยเตี๋ยวแคะ หรือเย็นตาโฟกันค้าบบบคุณหนุ่ม..
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>