ขอให้ทุกท่านร่วมอนุโมทนาบุญด้วยครับ

ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจอธิฐาน ว่า จะเพียรบำเพ็ญบารมีเพื่อพระโพธิญาณ จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาล

เมื่อเรารู้แล้ว จะทำให้ผู้อื่นรู้ด้วย

เมื่อเราข้ามได้แล้ว จะทำให้ผู้อื่นข้ามได้ด้วย

เมื่อเราพ้นแล้ว จะทำให้ผู้อื่นพ้นด้วย

ด้วยบุญบารมีที่ข้าพเจ้าได้กระทำมาตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ และที่จะกระทำในอนาคตกาล จงเป็นเหตุให้ข้าพเจ้าได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในกาลข้างหน้า เพื่อช่วยเหลือเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายให้พ้นจากกองทุกข์ด้วยเทอญ

 

สาธุ ผมขออนุโมทนาด้วยนะครับ ถ้าท่านพ้นแล้ว ข้ามแล้วซึ่งกิเลสทั้งหลาย ขอให้ท่านมาโปรดผมด้วยนะครับ

 

ท่าน...shfanksn .....ปรารถนาประเภทไหนเหรอครับ ตอบผมด้วย ผมจะได้อนุโมทนาอีกรอบ

 

ศรัทธาธิกะครับ

 

นานมากไหมครับ ขอละเอียดนิดหน่อยครับ

 

ปู่ฤษีมณีรัตน์ (สมเด็จรุ่ง)หนังสือ อินดก-เทพทำนาย โดยย่อ

ข้อความจาก<br>
ปู่ฤษีมณีรัตน์ (สมเด็จรุ่ง)<br>
พิมพ์แจกเป็นธรรมทาน<br>
ค้นพบ “หนังสืออินดก-เทพทำนาย”โดยย่อ<br>
หนังสือใบลานสี ได้ถูกตกมาในวัดแห่งหนึ่ง ในจังหวัดอัตตะบือ (ประเทศลาว) ข้าพเจ้าได้รับรู้จากพระอาจารย์ผู้ทรงศีลองค์หนึ่งเผยแผ่ให้ เลยเกิดความศรัทธาเสียสละ ทรัพย์พิมพ์พิมพ์แจกจ่าย มายังพี่น้องชาวพุทธทั้งหลาย เพื่อเป็นกุศล และเพื่อพิจารณาญาณ ด้วยตนเองถึงเหตุการณ์มหันตภัยของโลกยุคโลกาวิวฒน์ ซึ่งจะบังเกิดขึ้นตามพุทธทำนายไว้ดังนี้<br>
โลชังชมโทโพโส อินโตกรุณา<br>
พระอินทร์ พรหม ยมราช ได้สั่งไว้ว่า ถ้าบุคคลใดรู้แล้ว จงรับบอกให้คนอื่นฟังหรือพิมพ์แจกตามกำลังศรัทธา จะเกิมหากุศลช่วยให้หลุดพ้นจากมหันตภัยพิบัติทั้งปวง ถ้าบุคคลจะลงมาเกิดพร้อมทั้งหนังสือใบลานฉบับนี้ ถ้าใครไม่มีไว้ในบ้านเรือนจะมีภูตผีปีศาจเข้ามาทำลายอย่างแน่แท้<br>
ในปีจอถึงปีกุน เมื่อเดือนหงายจะมีงูพิษอยู่บนศรีษะ ฉกกัดให้ถึงตาย และผู้คนทั้งหลายจะเกิดความเดือดร้อนหลายประการ<br>
ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนศึกสงครามบ่แล้ว<br>
ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนน้ำและไฟ<br>
ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนบ่มีไผสิเบิงไผ<br>
ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนดึงข้าวปลาอาหาร<br>
ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนผัว-บ่เห็นหน้ากัน<br>
ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนมีคนตายตามทุ่งน <br>
ทุกข์ยากฮ้อน บ่มีผู้เฒ่า<br>
ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนไปต่างประเทศบ่สะดวก<br>
ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนนอนบ่หลับ<br>
ในปีจอนี้ ในเมืองจันทร์จะมีฤาษีองค์ทองคำ สิกขาลาเพศออกมาเป็นพ่อค้า ในปีจอขึ้น 8 ค่ำ ห้ามบ่ให้ตักน้ำอาบ น้ำกินตามห้วยหนองคลองบืงหลังพระอาทิตย์ตกดิน (ก่อนค่ำ) พระยายมราชจะนำเอายาพิษพ่นใส่โลกมนุษย์<br>
ในปีจอ เมืองกรุงเทพฯ จะแตกพังทลายตอนเวลาไก่ขัน พระแก้วมรกต หัวเชียงเมี้ยงข้าวเม็ดใหญ่จะกลับสู่เวียงจันทร์ นี่คือ พระคาถาของ องค์อินทร์ พรหม ยมราช ได้เขียน ไว้ในใบลาน จงเก็บรักษาไว้ให้ดี เพื่อช่วยหลุดพ้นจากภัยพิบัติได้ในยามเกิดเหตุการณ์ มหันตภัย พระคาถาเขียนไว้ว่า<br>
ปะโต เมตัง ปะระชิมินัง สุคะโต จุติ จิตตะ เมตตะ นิมะนัง สุคะโต จุติ พระคาถา บทนี้เขียนลงใบลาน แผ่นทองหรือแผ่นผ้าก็ดี ติดไว้ที่ประตูบ้านหรือในรถ หรือโพกศรีษะยามเกิดเหตุการณ์จะช่วยให้หลุดพ้นจากอันตรายได้<br>
ในกาลเวลานี้ เทพเจ้าเล่าเทวดาผู้รักษาค้มครองโลกได้กราบทูลต่อพระอินทร์ว่า มนุษย์โลกทำกุศลเพียง 3 ส่วน และทำบาปถึง 7 ส่วน เมื่อเป็นเช่นนี้ องค์อินทร์จะสั่งลงโทษ มนุษย์ผู้ใจบาป ถึง 9 ข้อ นับตั้งแต่ปีจอถึงปีกุนดังนี้<br>
1. จะเกิดพายุลมแรงแผ่นดินไหว<br>
2. จะทำให้เกิดอัคคีภัย<br>
3. จะเกิดอุทกภัย<br>
4. จะเกิดฟ้าผ่า<br>
5. จะเกิดร้อนเกินไป หนาวเกินไป<br>
6. จะเกิดสารพิษต่างๆ<br>
7. จะเกิดกาฬโรคต่างๆ<br>
8. จะเกิดข้าวยากหมากแพง<br>
9. จะเกิดอาฆาตพยาบาทเบียดเบียนกันเอง<br>
มหันตภัย 9 อย่างนี้ จะหลุดพ้นได้โดยผู้มีบุญ คนที่ปฎิบัติตามคำสั่งสอนของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เท่านั้น รู้แล้วจงบอกต่อกันไปให้รับทำความดีมากๆ ถ้าเลยปีจอ ปีกุน ไปแล้ว ทุกคนพร้อมทั้งลูกหลานจะได้รับความสุขกายสบายใจทุกคน ให้ทุกคนเคร่งครัดในศิล 5<br>
นอกจากหนังสือินดก ที่ได้กล่าวมาแล้ว ยังมีพระผู้ทรงศีลอีกองค์หนึ่ง ได้พบเห็นคำสอนที่ได้จารึกไวในแผ่นศิลา ที่พึ่งพบในภูเขาแห่งหนึ่ง ที่พระพุทธเจ้าได้เดินธุดงค์วิปัสสนากรรมฐาน ผ่านไป พระผู้ทรงศีลกล่าวว่า พี่น้องทั้งหลายถ้าไม่เชื่อก็สุดแล้วแต่ดวงจิต เพราะถึงเวลาแล้วที่สวรรค์จะไม่มีความลับ ถ้าท่านเชื่อก็เป็นกุศล รู้เพียงเท่านี้ข้าพเจ้าจึงขอบอกเล่าสู่ท่านฟังตามคำกล่าวของพระผู้ทรงศีลรูปนี้ว่าในแผ่น ศิลาเขียนไว้ โดย พระมหากัปสสปะว่า ในปีระกา ปีจอ ปีกุน เดือน 7-8 จะเกิดเหตุการณ์ร้ายตามถนนหนทาง ในเดือน 9-10 คนบาปจะถูกล้างผลาญ ให้หมดไป มีบ้านแต่ไม่มีคนอยู่ มีข้าวแต่ไม่มีคนกิน มีทางแต่ไม่มีคนเดิน<br>
สุดท้าย พระผู้ทรงศีลได้กล่าวย้ำถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหนังสือ อินทร์ดกเพิ่มเติมว่า ถ้า ท่านผู้เคารพบูชาหรือบนว่า จะบอกแก่ผู้อื่นหรือพิมพ์แจกจ่ายให้แก่สาธุชนทั้งหลายได้รับรู้แล้ว ท่านปรารถนาสิ่งใดจะได้สมใจนึก จะหราศจากภัยพิบัติทั้งปวงตลอดไป ไม่เชื่ออย่าลบหลู่<br>
<br>
พระพุทธเจ้าทำนาย<br>
ออกในศิลาจาลึกในมหาวิหารเจคมาหเชตะวัน ณ สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย โดยคณะฑูตไทยที่ไปอัญเชิญพระบรมสาริกาธาตุ เมื่อปี พ.ศ.2485 ตามคำแปลเป็นภาษาไทย ว่า ดังนี้ <br>
สาธุ อะระหังตา พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระเมตตากรุณาสรรพสรรพสัตว์ทั่วโลก ที่เกิดมาแล้วแต่ลำบาก ทั่วหน้า ทุกชาติ ทุกศาสนาตามธรรมชาติ เมื่ออาตมาเข้านิพพาน ไปแล้วครบห้าพันปีเป็นที่สุด โลกจะหมุนไปใกล้จำนวนที่ตถาคตทำนายไว้สองพันห้าร้อยปี มนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติเสียครั้งหนิ่งในระยะ 30 ปี สิ่งที่สารธุชนไม่เคยเจอะจะได้เห็น ไม่เคยพบจะได้พบยักษ์ที่ถูกสาปให้หลับกลับตื่นขึ้นมาอาละวาด ยิ่งขึ้น ใกล้กับ พ.ศ.2550 ยิ่งทวีกันใหญ่ขึ้นทุกทิวาราตรี มนุษย์นอกศาสนาจะรบราฆ่าฟันกันจนถึงเลือดนองเต็มพื้นดิน พื้นน้ำจะลุกลามเผามนุษย์ ไม่ขาดระยะ ต่างฝ่ายต่างทำลายเหมือนยักษ์ กระหายเลือด แผ่นดินจะเป็นเปลวไฟ จะตายไปอย่างละครึ่งหนึ่งจึงจะเลิกล้ม ต่างฝ่ายต่างหมดกำลังด้วยกัน ตามวิสัยยักษ์ร้ายนอกศาสนา ซึ่งถือกำเนิดจากป่าอำมหิต ส่วนศาสนิกชนผู้ทำแต่บุญ เดินตามทางคถาคต สามารถระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านใดได้บูชาพระ โพธิสัตว์ ผ้ากาสวพัตร์ ก็จะรับภัยพิบัติเบาบาง แต่หนีภัยธรรมชาติไม่พ้น ไฟจะลุกลาม มาทางทิศตะวันออกไหม้วัดวาอาราม สมณะชีพราหณ์ จะอดอยากยากเข็ญ ทหารจะเป็นเจ้า ข้าวสารจะขาดแคลน ทุกแควว้นจะอดอยาก พลูหมากจะหมดเปลือง สีเหลืองจะชนะ พระยังอยู่คู่เมืองอีกต่อไป สีขาวจะแพ้ภัยในที่สุด ครุฑจะบินกลับฐาน คนจะกลับบำรุง พระพุทธเจ้าว่า ดังนี้<br>
ชะ ตะ มะ สะ ละ วา พระพุทธชินลิตชิ้นนี้ท่านให้เขียนใส่กระดาบ หรือผ้าขาวติดไว้หน้าบ้าน หรือ หัวนอน ดังนี้ จะมีอายุยืนยาว จะทันผู้มีบุญชื่อ พระยาธรรมิกราชา เข้ามา ปีกุน เดือน 11 เป็นเที่ยงแท้หนักหนาท่านเสด็จ มาใน ปีระกา แรม 5 ค่ำ มาหากษัตริย์มาทาง ทิศตะวันตก สมณะชีพราหมณ์ตามมาพอประมาณ ได้ 76,400 รูป ทั่วอาณาจักร สมเด็จพระบรมนักปราชญ์ได้ประกาศถาถาว่าดังนี้ นะสัจจัง ทะ คะยังมะสำคำปัง คอยดูใน ปีมะโรง คนจะเดินโก้งโค้งคลาน ผู้ใดอยากพบผู้มีบุญ ชื่อพระยาธรรมิกราชา ให้ภาวนา ให้หมั้นรักษาศิล สดับรับฟังพระธรรมเทศนา คอยดูปีมะเส็ง ตลิ่งจะพัง มหาสมุทรจะชอกช้ำ อย่าเที่ยวไปกลางแจ้ง ท่านเข้ามาปีกุน เดือน 8 เป็นเที่ยงแท้ ผู้ใดไม่เชื่อจะรับอันตราย คอยดูในปีจอ คนจะพ้นภัย สะโรนะกา โทหายะโม พุทธะตะยะ ภาวนาทุกค่ำเช้า ผู้นั้นจะมีอายุยืนนานจะได้เห็นพระธรรมิกราชา (พระโพธิสัตว์ศรีอระยเมตไตย) ในปีกุนท่านจะเข้ามาอีก ถ้าไม่เห็นหนังสือบ้านใด ผู้นั้นจะได้รับอันตราย รู้แล้วให้บอกต่อกันด้วย<br>
คำเตือน โลกมนุษย์กำลังจะเข้าสู่ กลียุค จะทำให้เกิดภัยธรรมชาติจาก ดิน น้ำ ไฟ ลม จะเกิดมหาสงครามโลกครั้งที่สาม ตามมา มนุษย์จะตายไปกว่าครึ่ง<br>
สำหรับประเทศไทย จะเริ่มเกิดตั้งแต่ปี 2550 คาดว่าจะได้รับภับทางน้ำ และไฟ โดยเฉพาะ จังหวัดที่ติดชายทะเลและกรุงเทพฯ แผ่นดินจะยุยตัว คลื่นน้ำจะพัดเข้า ถล่มความสูง 200เมตร มนุษย์จะล้มตายมากกว่าครึ่ง น้ำจะเข้าช่องแคบสระบุรี และด้านตอนล่างของโคราชบางส่วน ภัยพิบัติจะเกิดอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ สุดท้าย ประเทศไทยเหลือประชากร ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์<br>
ส่วนประเทศอื่นทั่วโลกจะเหลือเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น บุคคลที่รอดชีวิตส่วนมากก็จะสูญเสียสติสัมปชัญญะ ไม่ปลอดภัยเหมือนเมืองที่นับถือพุทธศาสนา เพราะไม่เข้าใจ บำเพ็ญณานภาวนา ฉะนั้นอย่าหลงใหลในทรัพย์สินของตนเองให้มากนัก เพราะเมื่อเข้ายุคศิวิไล เงินทอง จะไม่มีค่าเลย เพราะมนุษย์ยุคนั้น วัดกันที่ความดี ศิลธรรม บุญกุศลเท่านั้น ปีมะโรง พ.ศ.2555 ปีมะเส็ง 2556 พ.ศ.2561 คำทำนายสมเด็จพุฒจารย์ (โต พรหมรังสี)<br>
รัชกาลที่ 1 ทายว่า มหากาฬ (ทำลายเพื่อน พี่น้อง)<br>
รัชกาลที่ 2 ทายว่า ณานยักษ์ (ชำนาญเวทมนต์)<br>
รัชกาลที่ 3 ทายว่า รักมิตร (มีการค้าขายกับต่างชาติมากมาย)<br>
รัชกาลที่ 4 ทายว่า สนิทคำ (ออกบวข)<br>
รัชกาลที่ 5 ทายว่า จำแขนขาด (คือต้องยอมเสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงและเขมร เพื่อป้องกัน อธิปไตย)<br>
รัชกาลที่ 6 ทายว่า ราชโจร (เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดกลุ่มโจรมากมาย มีการก่อตั้งเสือป่าครั้งแรกของไทย)<br>
รัชกาลที่ 7 ทายว่า ชนร้องทุกข์ (เกิดการเดินขบวนเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย)<br>
รัชกาลที่ 8 ทายว่า ยุคทมิฬ (พระเจ้าแผ่นดินจะถูกลอบปลงพระชนม์)<br>
รัชกาลที่ 9 ทายว่า ถิ่นกาขาว (มีฝรั่งเข้ามามากมาย นำเงินมาซื้อประเทศไทย เกิดวิกฤตทางการเงิน<br>
รัชกาลที่ 10 ทายว่า ชาวศิวิไลย์ (จะมีเหลือเฉพาะผู้มีบุญเท่านั้นที่รอด คอยเป็นยุคของ พระศรีอาริยเมตไตย)<br>
คาถาบูชาพ่อ ร.๕<br>
(ธูป ๙ ดอก ตั้งนะโม ๓ จบ)<br>
พระสยามมิน ทะโร วะโร อัตตัง พุทธสังมิ อิติ อรหัง<br>
วะรังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปิโยเทวา มนุสานัง<br>
ปิโย พรหมานะ มุตตะโม ปินัน หริยัง นะมามิหัง<br>
ข้าพเจ้าได้พบหนังสือแผ่นนี้เข้าด้วยความบังเอิญ เมื่ออ่านดูแล้วเกิดความเลื่อมในศรัทธา จึงได้พิมพ์แจกเป็นกุศลทาน ซึ่งในใจความหนังสือมีอยู่ว่า<br>
วันหนึ่งในโบสถ์ของวัดศิริประสุประตินาถ ได้มีหลวงพ่อองค์หนึ่ง ได้นั่งสวดมนต์อยู่ในโบสถ์ของวัด ในเวลานั้นก็มีงูตัวหนึ่งได้เลื่อยออกมาจากหน้าพระพุทธรูปในโบสถ์ หลวงพ่อเมื่อได้เห็นงูตัวนั้นก็เกิดอาการกลัว หลังจากนั้นงูก็ได้กลายเป็นมนุษย์ในรูปของพราหณ์ แล้วก็พูดกับหลวงพ่อว่า “เจ้าไม่ต้องกลัวและตกใจ เจ้าจงฟังข้าพเจ้า ข้าพเจ้าคือพญานาคราชและได้จุติ ณ วัดแห่งนี้ เพื่อบำบัดปัดเป่าความชั่วร้ายและคนบาป คนที่กระทำกรรมไว้มากมาย จะให้พ้นพินาศหายไปจากโลกนี้และเจ้าจงประกาศให้คนได้รู้ทั่วกัน ผู้ใดนำเรื่องของข้าพเจ้าไปพิมพ์แจก 1,000ใบ ภายใน 15-30วัน อย่าคิดพิมพ์ผัดวันประกันพรุ่ง หรืออ่านแล้วฉีกทิ้ง มันผู้นั้นจะมีเรื่องและภัยพิบัติเกิดขึ้นต่อผู้นั้น อ่านแล้วอย่าทิ้งให้ พิมพ์แจกหรือแจกต่อๆกันไป (หรือเก็บไว้สวเมนต์เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตนเองและ ครอบครัว<br>
จากนั้นมากหลวงพ่อองค์นั้นได้พิมพ์แจก 1,000ใบ หลังจากนั้นประมาณ 3-4วัน ท่านได้สำเร็จวิชาต่างๆ และคุณโกบินตะแห่งประสาทคุปตาได้พิมพ์แจก 1,000ใบ เขาได้เงินทองที่หยิบยีมไปคืนมา อีรายหนึ่งพิมพ์แจก 500ใบ รายนี้เป็นชาวนา วันหนึ่งเขาไปไถนา เขาได้พบไหใบหนึ่งมีเงินทองเต็มไปหมด<br>
ส่วนอีกรายหนึ่งก็ได้พิมพ์แจก 100ใบ เขาถูกลอตเตอรี่ 1 ล้านบาท อีกรายหนึ่งเป็นคนถีบสามล้อพิมพ์แจก 650ใบ เขาก็เจอแจกันทน อีกรายหนึ่งเป็นคนตกงานไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ พอเขาพิมพ์แจก 3-4วัน เขาก็หางานทำได้ เป็นงานดี และอีกรายหนึ่งได้อ่านแล้วคิดว่าจะพิมพ์แจก และผัดวันประกันพรุ่งจนเลย กำหนด ผู้นั้น เป็นพ่อค้าทำการค้าขายก็ขาดทุน และพ่อเขาก็มาตายจากไปอีกคน อีกรายหนึ่งก็พิมพ์แจก 1,000ใบ ไม่กี่วันเขาก็มีเงินทองแบบไม่น่าเชื่อ อยู่ๆ ก็มีเงินขึ้นมาเอง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาในโบสถ์ในวัดศิริประสุประตินาถนี้ ต้องคิดด้วยความสัตย์จริงและศรัทธา อ่านล้าต้องพิมพ์แจก อ่านแล้วอย่าฉีกทิ้งให้แจกต่อๆกันไปด้วย คว่ามสรัทธา และเชื่อถือก็จะเป็นผลดีแก่ตนเอง<br>
บทแผ่ส่วนกุศล<br>
อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตา ปิตะโร<br>
ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่มารดาบิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้า มีความสุข<br>
อิทัง เม ญาตะกานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สุขิตา โหนตุ ครุ ปัชฌายาจริยา<br>
ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่ครูอุปัชฌาย์อาจรย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครุอุปัชฌาอาจารย์ของข้าพเจ้า มีความสุข<br>
อิทัง สัพพะเทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเทวา<br>
ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวง มีความสุข<br>
อิทัง สัพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเปตา<br>
ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวง มีความสุข<br>
อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหตุ สัพเพเวรี<br>
ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง มีความสุข<br>
อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพสัตตา<br>
ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง มีความสุข<br>
คำอธิษฐาน ขออโหสิกรรมม<br>
ข้าพเจ้าขออโหสิกรรม กรรมใดที่ทำแก่ผู้ใดในชาติไดๆ ก็ตาม ขอให้เจ้ากรรมนายเวร จงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า อย่าได้จองเวรของกรรมต่อไปเลย<br>
แม้แต่กรรมที่ใครๆ ทำแก่ข้าพเจ้าก็ตาม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมไห้ทั้งสิ้น ยกถวายเป็นอภัยทาน เพื่อจะได้ไม่มีเวรกรรมต่อไป ด้วยอานิสงส์แห่งอภัยทานนี้<br>
ขอให้ข้าพเจ้า ครอบครัว บุตร หลาน ตลอดจน วงศาคณาญาติและผู้อุปการะคุณของข้าพเจ้า มีความสุข ความเจริญ ปฏิบัติแต่สิ่งที่ดีและสิ่งที่ชอบด้วยเทอญฯ<br>
แผ่เมตตาให้ตนเอง<br>
อะหัง สุขิโต โหมิ<br>
ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุข<br>
อะหัง นิทุกโข โหมิ<br>
ขอให้ข้าพเจ้า ปราศจากความทุกข์ ไม่มีเวร<br>
อะหังอัพยาปัชโฌ โหมิ<br>
ขอให้ข้าพเจ้า ไม่มีภัย ไม่มีความเบียดเบียน ไม่มีความเดือดร้อน<br>
อะหัง อะนีโฆ โหมิ<br>
ขอให้ข้าพเจ้า ไม่มีความลำบาก<br>
อะหัง อะโรโค โหมิ<br>
ขอให้ข้าพเจ้า ปราศจากโรคภัย ไข้เจ็บ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภับ และอยู่เย็นเป็นสุขเทอญฯ<br>
<br>
โดย <a href=mailto:nookteeruk@yahoo.com>nookteeruk@yahoo.com</a><br>
<br>
ขออุทิศผลบุญ ให้แก่ญาติและบรรพบุรุษ ของข้าพเจ้า ครูบา-อาจารย์ ญาติสนิท มิตรสหาย ตลอดทั้งเจ้ากรรรมนายเวร และสัตว์โลกทั้งหลาย<br>
<br>
ข้าพเจ้าตั้งจิตอุทิศผล<br>
บุญกุศลนี้ไปให้ไพศาล<br>
ถึงมารดาบิดาและอาจารย์<br>
บรรพบุรุษที่ที่เราเคารพทุกท่าน<br>
ทั้งลูกหลานญาติมิตรสนิทกัน<br>
มีส่วนได้ในกุศลผลของฉัน<br>
ทั้งเจ้ากรรมนายเวรและเทวัญ<br>
ขอให้ท่าน ได้กุศลผลบุญนี้เทอญ สาธุ<br>

 

ขอให้บรรลุบรรจุเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตเร็วๆนะครับ

 

อนุโมทนาครับ
แต่ว่า ไม่ต้องไปสนใจกับสิ่งที่เรียกว่าพระพุทธเจ้าประเภทไหน เพราะพุทธแบบไหนก็พุทธเหมือนกัน แท้ที่จริงพระพุทธเจ้ามีพระองค์เดียวคือ สภาวะธรรมของพุทธะเท่านั้น(มนุษยบัญญัติว่าเป็นสิ่งนั้น) หากเรากระทำสิ่งที่เอื้อต่อสิ่งที่ให้สภาวะนั้นเกิด ก็เรียกว่าเป็นพุทธะ ครับ