คำถามยอดฮิต เกี่ยวกับ นิบิรู และพลาเนต เอ็กซ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย OLDMAN AND A CAR, 3 สิงหาคม 2009.

  1. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    ....ใครที่คิดจะ ทำและ ไม่ทำ อะไร ก็ โปรดรีบหน่อย เกรงว่า จะ ไม่ทัน...กว่าจะรู้ อะไรจริง อะไร เท็จ ก็ อาจจะสายเกินไป เพราะ ๒๐๑๒ มาจ่อตรงปลายจมูกของพวกคุณแล้ว.....

    รับทราบครับจะปฏิบัติตามคำแนะนำครับผม

    ก็ขอฝากถึงผู้ที่เข้ามาอ่านลองทบทวนดูจะเห็นว่าเหลื่อเวลาไม่มากแล้ว ยังไงก็เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัวตอนวิญญานออกจากร่างก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรติดตัวเลยนะคร๊าบ
     
  2. OLDMAN AND A CAR

    OLDMAN AND A CAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    823
    ค่าพลัง:
    +2,752
    <o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-com<img src=" http:="" palungjit.org="" images="" smilies="" omg-smile.gif="" border="0" alt="" title="Surprised" smilieid="34" class="inlineimg"></o:smarttagtype><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> วันที่ ๗ พ.ย. ๒๕๕๒<o></o>
    รังสีคอสมิค<o></o>
    ที่มา: www.helios.gsfc.nasa.gov/cosmic.html<o></o>
    <o></o>
    ..แปลยากครับ...ไม่ทราบว่า ถูกต้อง ครบถ้วนหรือ เปล่า...<o></o>
    <o></o>
    ๑. โดย คำจำกัดความ หมายถึง อนุภาค ที่ ยิงมาสู่โลก จากแหล่ง ภายนอก โลก ในทุกทิศทาง การศึกษาเรื่องนี้ จะ ทำให้ เราเข้าใจ เรื่อง กระบวนการเกิด อัตตราเร่ง และ องค์ประกอบ ของ ดวงอาทิตย์<o></o>
    <o></o>
    ๒. แหล่งที่มาของรังสี คอสมิค<o></o>
    <o></o>
    ๒.๑ มาจากแหล่งภายนอกระบบสุริยะจักรวาล ของดวงอาทิตย์ เรา เรียก Galactic Cosmic Rays<o></o>
    <o></o>
    ๒.๒ มาจากเขตพรมแดนอิทธิพล ของ ดวงอาทิตย์ บรรจบกับ การแผ่รังสี ของ ดาวอื่นๆ ที่อยู่ นอก ระบบสุริยะจักรวาล ของเรา และ หรือ มาจาก ระหว่างดวงดาว เรียก Anomalous <st1></st1><o></o><o></o>Cosmic Rays

    ๒.๓ มาจาก เปลวเพลิงของดวงอาทิตย์ , พายุสุริยะ หรือ จุดดับบนดวงอาทิตย์ เรียก Solar Energetic Particles<o></o>
    <o></o>
    ๓....คำว่า...รังสี คอสมิค หมายถึง รังสี เอ็กซ์ และ รังสี แกมม่า ซึ่ง พบได้ โดยทั่วไปในจักรวาล...อายุของดวงดาวต่างๆ ก็ หาได้จาก จำนวนตัวเลขสัมพัทธ์ ของ ไอโซโทป ที่เกิดจาก ช่วงครึ่งอายุ ของการสลายตัว ของ สาร กัมมันตภาพรังสี ในดวงดาวต่างๆ นั่นเอง ทั้งนี้ รวมถึง การก่อกำเนิดดวงดาว และ การระเบิดของดาวกฤษ์ ต่างๆ ด้วย <o></o>
    <o></o>
    ๔. การก่อกำเนิดดวงดาว เกิดจาก การรวมตัวกันทาง ปฎิกริยา เทอร์โม นิวเคลียร์ แบบฟิวชั่น<o></o>
    <o></o>
    ๕. ภายในแกนกลางของโลก เรา ก็ มีปฎิกริยา เทอร์โม นิวเคลียร์ เช่นเดียวกันนี้...ซึ่ง จะ เปลี่ยน ไฮโดรเจน และ ฮีเลี่ยม ให้ เป็นอนุภาค คล้าย คาร์บอน ๑๒ และ อ๊อกซิเย่น ๑๖ ในขณะเดียวกัน นิวเคลียส ของ คาร์บอน, ไนโตรเจน และ อ๊อกซิเย่น ที่มีอยู่แล้วในดวงดาว จะ เปลี่ยน รูปเป็น นิวเคลียส ที่หนักกว่าเดิม โดยการเพิ่มอนุภาค นิวตรอน เหมือนกับ นีออน-๒๒ และ แม๊กนีเซี่ยม-๒๕ <o></o>
    <o></o>
    ๖. การระเบิดใหญ่ของ ดาวกฤษ์ หรือ กลุ่มกาซความหนาแน่นสูง ที่เรียกว่า ซูเปอร์ โนวา ย่อม ส่ง รังสี คอสมิคออกรอบทิศทาง ในลักษณะ คลื่นกระแทก จำนวนนิวเคลียสที่เพิ่มขึ้นจาก ปฎิกริยา เทอร์ โมนิวเคลียร์ เป็นตัวเร่งให้ รังสี คอสมิค เคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น...<o></o>


    .......รังสีคอสมิค ไม่เพียง มี อำนาจในการ ทำลายสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ยัง มีอำนาจในการทะลุทะลวงสูง พร้อมๆกับ มี พลังโมเมนตั้ม ที่มีผลต่อ การหมุนรอบตัวเองของดวงดาว....สมมุติฐานที่ว่า แกนโลก พลิกได้ เมื่อ ปะทะ กับ มหาพายุสุริยะ หรือ การระเบิดใหญ่ ของ ในใจกลาง สุริยะจักรวาล จึง เป็นไปได้... <o></o>
    <o></o>
    ..ที่แล้วๆมา...โลก อยู่รอดปลอดภัยได้ เพราะ อาศัย สนามพลังแม่เหล็กโลก ในการหักเห ให้ รังสีคอสมิค เบี่ยงเบน ไปจาก ผิวโลก....แต่ขณะนี้ สนามพลังแม่เหล็ก โลก ลดน้อยลงกว่าเดิม เพราะ ใกล้ กำหนดเวลา เปลี่ยนขั้วแม่เหล็กโลก....ยิ่งใน ขณะ เกิด การเปลี่ยนขั้วมาเหล็กโลก สนามพลัง นี้ จะลดลง จน มีค่า เป็น ศูนย์..... <o></o>
    <o></o>
    ....หาก เป็นจริง บังเกอร์ หลบภัยธรรมดาๆ คง เอาไม่อยู่...คงต้อง ทำแบบที่สวีเดน และ สหรัฐอเมริกา ทำกันแล้ว คือ ขุดหลุมอยู่ใน ระดับที่ลึกมากๆจาก ผิวดิน....<o></o>
    <o></o>
    ..ฝรั่งนี่...ฉลาดจริงๆ.....ซุ่มทำกันมานาน จนทุกวันนี้ ผม จึง พอเข้าใจแล้วว่า ทำไปทำไม<o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2009
  3. OLDMAN AND A CAR

    OLDMAN AND A CAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    823
    ค่าพลัง:
    +2,752
    The True Meaning of the Mayan Calendar<o></o>
    Precession or Divine creation<o></o>
    by<o></o>​
    Carl Johan Calleman, author of The Mayan Calendar

    <o></o>​
    แปลและเรียบเรียงโดยย่อ...และ ไม่ยืนยันความถูกต้องในการแปล<o></o>

    ...สิ่งที่ผม จะ พูดต่อไปนี้ เป็นความเห็นที่แตกต่างจาก ความเห็นของ จอห์น เมเยอร์ เจนกิ้นส์ ผู้แต่งหนังสือเรื่อง Maya Cosmogenesis 2012 การโต้แย้งทางความคิดนี้ กล่าวได้ว่า เป็นจุดเปลี่ยนของ มนุษยชาติ เลย ก็ คงจะได้....<o></o>

    ....ก่อนที่ผม จะ แสดงความเห็นหรือ วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้...ผมขอ แสดงความ ชื่นชมกับ จอห์น และ การอุทิศตนของเขา ในส่วนที่เกี่ยวกับ การถอดรหัส และ ความหมายของ ปฎิทินมายา....จอห์น ได้พบกับบุคคลหลากหลาย เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับ เรื่องนี้....จนนำมาซึ่งการเสนอผลงานทาง อินเตอร์เนต ในปี ๑๙๙๕ ในหัวข้อเรื่อง True Count Debate ..... <o></o>

    จนกระทั่งทุกวันนี้....มีผู้คนจำนวนไม่น้อย ที่ เชื่อว่า ปฎิทินทซ์อลคิน ยังคงถูกใช้กันอยู่ในหมู่ชนเผ่ามายา และ จัดเป็นปฎิทิน ที่แท้จริง...ความจริง ผมเอง ก็ ค่อนข้างเห็นต่างไปจาก จอห์น เริ่มเรื่องกันเลยละกัน...


    .....จอห์น คิดว่า ปฎิทินมายา นับยาว ประกอบด้วย ช่วงระยะเวลา วงรอบ ๕,๒๐๐ ตุน(๑ ตุน = ๓๖๐ วัน) ซึ่งจะสิ้นสุด ใน วันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ ซึ่งไม่มีอะไรสำคัญเลย นอกจากจะเป็นการพยายาม ปรับ อายุปฎิทิน ให้ เข้ากับ ยุคการเปลี่ยนแปลงครั้งที่ ๕ ของ โลก ซึ่ง จะมีวงรอบของการเปลี่ยนแปลงในทุกๆ ระยะเวลา ๒๕,๙๒๐ ปี ตามหลัก ดาราศาสตร์ สมัยใหม่
    จอห์น พยายามแสดงให้เห็นว่า...การสิ้นสุดปฎิทินมายา เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึง ตำแหน่งของโลก ซึ่ง ไปอยู่ในระนาบเดียวกับ ศูนย์กลาง ของ จักรวาลใหญ่ และ ยัง แสดงให้เห็นว่า ปฎิทินมายานี้ มีความแม่นยำสูงมาก ทั้งนี้ จอห์น มีความเชื่อว่า ปฎิทินมายา มีความสัมพันธ์กับ ดาราศาสตร์ และ พื้นฐานทางฟิสิกส์ ที่ดีเยี่ยม จึงน่าเชื่อถือได้ว่า ยุคใหม่ของการเปลี่ยนแปลงจะ เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดปฎิทินมายา....

    กล่าวโดยสรุป.... หนังสือ Maya Cosmogenesis 2012 ระบุถึงข้อพิสูจน์ ที่ว่า

    ๑. ชาวมายาใช้วงรอบเวลา ๒๖,๐๐๐ ตุนในการ อธิบาย ถึง การเปลี่ยนยุคของโลก
    ๒. เหตุการณ์ต่างๆที่จะ เกิดขึ้นกับ โลก จะ มาพร้อมๆ กับ การเปลี่ยนถ่ายยุค
    ๓. การเริ่มต้นใหม่ ของปฎิทินมายา ก็ นับการจากสิ้นสุด ของ ปฎิทินอัน เก่า และ
    ๔. ตำแหน่งของโลก จะ อยู่ตรงกับ ศูนย์กลางจักรวาลใหญ่ ในปี ๒๐๑๒

    ....เป็นเรื่องที่ ประหลาดมาก...ที่มีเพียงคนอ่าน แล้วก็ เชื่อ แต่ ไม่มีใครพิสูจน์ หาความจริงกัน...ต่อไปนี้ ผมจะ วิจารณ์หัวข้อ เหล่านี้ ทีละหัวข้อ......<o>

    </o>
    ๑. วงรอบเวลา ๒๖,๐๐๐ ตุน
    ....ไม่ได้ มี เพียงวงรอบตุน เท่านั้น หากแต่ยัง มี วงรอบ อื่นที่ถูกใช้ในปฎิทิน มายา เช่น บัคตุน และ กาตุน ผมพบว่า จอห์น ไม่ได้กล่าวถึง วงรอบอื่นดังกล่าวข้างต้น และ การอธิบายของ จอห์น ก็ ไม่สอดคล้องกับ วงรอบปฎิทินโดยรวม ของชาวมายา หาก ชาวมายา ถนัดและ เก่ง ในเรื่อง ดาราศาสตร์ และ คณิตศาสตร์ จริงๆ ทำไมไม่ระบุให้ชัดเจนไปเลยว่า การสิ้นสุดปฎิทิน ของตน เป็นวันเข้าสู่ยุคใหม่ของโลก และ จะ เกิดอะไรขึ้น เรื่องพื้นฐานแบบนี้ จะละเว้นไปได้อย่างไร...

    ๒. เหตุการณ์ต่างๆที่จะ เกิดขึ้นกับ โลก จะ มาพร้อมๆ กับ การเปลี่ยนถ่ายยุค
    ...ผมคิดว่า จอห์นคงเอาความคิดนี้ มาจากหลายแหล่งข้อมูล โดยพาะอย่างยิ่งกับ แนวคิดของ นักดาราศาสตร์ ชาว บาบิโลเนียน – ยุโรเปี้ยน ในทางวิทยาศาตร์ ไม่พบหลักฐานใดๆ ยืนยันเกี่ยวกับ เรื่องนี้....ตรงกันข้าม หนังสือ ที่ผม เขียน กลับมีหลักฐานสนับสนุนมากกว่า ที่ว่า ระยะเวลา บัคตุน กาตุน และ ตุน มีส่วนเกี่นวข้องกับ การ เปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ มนุษยชาติ ตัวอย่างเช่น บัคตุนที่ ๑๓ หมายถึง การเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญาญ เหมือนเมล็ดพืช ที่กลายเป็นผลไม้พร้อมรับประทาน ดังเช่น การหล่อหลอมอารยธรรม อียิป กับ ยุโรปโบราณ เข้าด้วยกัน เป็นชนชาติและ อารธรรมใหม่ในยุโรปเป็นต้น.... <o></o>

    ๓. การเริ่มต้นใหม่ ของปฎิทินมายา ก็ นับการจากสิ้นสุด ของ ปฎิทินอัน เก่า และ จอห์น คงคิดเอาเองว่า ปฎิทินมายา มีความมุ่งหมายเพื่อสื่อถึง การสิ้นสุดของตัวมันเอง...และมีผลต่อเหตุการณ์อื่นที่เกี่ยวข้อง โดยมิได้ สนใจกับความเป็นมาของปฎิทินมายาอย่างถูกต้อง ซึ่งไม่มีการกล่าวถึง เหตุการณ์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับ การสิ้นสุดปฎิทินมายานี้เลย......(ในภาษาก๊วนโลกแตก แปลว่า ไม่เกี่ยวกับ เรื่อง ภัยพิบัติใดๆทั้งสิ้น ...โอล์ดแมนฯ)

    ชาวมายาเอง อธิบายการเปลี่ยนถ่ายยุคว่า เกิดขึ้นเมื่อมี การเปลี่ยนแปลงของ อารยธรรม แบบก้าวกระโดด... ดังเช่น เมื่อ มีการประดิษฐ์ภาษาและ การเขียน การก่อสร้างปิรามิดครั้งแรกๆ ที่อิยิป ดังนี้ เป็นต้น...ไม่มีอะไรพิเศษไปกว่านี้<o></o>

    ๔. ตำแหน่งของโลก จะ อยู่ตรงกับ ศูนย์กลางจักรวาลใหญ่ ในปี ๒๐๑๒
    ...เรื่องนี้...นักดาราศาสตร์ ได้คำนวณการเรียงตัวของโลก และ ระบบสุริยะจักรวาลใหญ่ แล้วว่า โลก ได้ เข้าไปสู่ระนาบเดียวกับ ศูนย์กลางของจักรวาลใหญ่ ตั้งแต่ ปี ค.ศ. ๑๙๙๘ โน่น(พ.ศ. ๒๕๔๑) เรื่องที่มันผ่านไปแล้วจะย้อนกลับมาเกิดอีกได้ อย่างไร... เรื่องนี้ จอห์น ก็ทราบดี...จึง ออกตัวว่า ต้องเผื่อเวลาไว้ อย่างน้อย ๑๓ ปี (ตรงกับ ปี ๒๕๕๔) ฟังแล้ว ก็ ไม่สู้มีเหตุผลสักเท่าไร.....

    ทีนี้...มาดูความเข้าใจของผม เกี่ยวกับ ๒๐๑๒ กันบ้าง....

    ...ผมสรุปว่า ปฎิทินมายา เข้าใจเรื่องราวต่างๆ ที่มีความเป็นมาก่อนระยะเวลา ๒๖,๐๐๐ปี โดยเชื่อมโยงกับ การเปลี่ยนแปลงของดวงดาวและ จักรวาล...ที่เรียกว่า Cosmic Evolution Plan หมายถึงตารางเวลา ในการพัฒนาและ สร้างสรรค์ และ ปฎิทินนี้ ยัง ระบุย้อนกลับถึงการ การระเบิดครั้งใหญ่ในจักรวาล ที่เรียกว่า บิก แบงค์ ประมาณ ๑๕ ล้านปี ที่แล้ว สิ่งนี้ จะ เป็นประโยชน์มากหาก ถูกนำมาใช้ให้ เป็นประโยชน์ แก่ วงการวิทยาศาสตร์ และ ศาสนา เพราะ อย่างไร ก็ดี มนุษย์จัดเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน และ รวมเป็นหนึ่งเดียวกับ ภูมิปัญญาแห่งดวงดาว(cosmic intelligence)
    <o></o>
    โอล์ดแมนฯ: อ่านแล้ว ก็สบายใจ เพราะ มีแต่สิ่งดีๆทั้งนั้น....เพื่อต้อนรับ ยุคใหม่ ๒๐๑๒ ที่จะถึงนี้....มนุษย์ทั้งหลาย รวมถึงผมด้วย ก็ ไม่ควร สำแดงนิสัย และ อาการที่ไม่ดีต่อผู้อื่น...สำหรับ สมาชิกก๊วนโลก แตก อย่างผม คงอกหัก เป็นธรรมดา แต่ ก็ ยัง ดีที่ มี หนัง ๒๐๑๒ ช่วยปลอบประโลมใจ..... ไปล่ะ<o></o>

    อาทิตย์ ที่ ๘ พ.ย.๒๕๕๒
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2009
  4. OLDMAN AND A CAR

    OLDMAN AND A CAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    823
    ค่าพลัง:
    +2,752
    <o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-com<img src=" http:="" palungjit.org="" images="" smilies="" omg-smile.gif="" border="0" alt="" title="Surprised" smilieid="34" class="inlineimg"></o:smarttagtype><o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-com<img src=" http:="" palungjit.org="" images="" smilies="" omg-smile.gif="" border="0" alt="" title="Surprised" smilieid="34" class="inlineimg"></o:smarttagtype><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> อาทิตย์ ที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๒
    เรื่องของ HAARP(High - Frequency Active Auroral Research Project)
    อ้างอิง: www.veiw zone.com/endtime.html
    โดย แดน อีเดน

    ต้นฉบับยาวเยิ่นเย้อ และ สำนวนนักเขียนนวนิยายอาชีพ ผม เลย ขอ แปลเป็นบางส่วนดังนี้.....
    <o></o>

    สองสามปีที่แล้ว...เนื่องจากผมนักเขียนประจำวิวโซน ผมจึงต้องการจะบอกอะไรบางอย่าง บางที เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุดเท่าที่ ผม มี ส่วนเกี่ยวข้อง แต่ เพื่อนร่วมงานไม่เห็นด้วย และ สำนักพิมพ์ของผม ก็ มีงบประมาณจำกัด เดิมที ส่วนใหญ่เนื้อหาสาระ ก็ ไม่พ้นแบบเดิมๆ คือ เรื่องราวโรแมนติค กระจุงกระจิ๋ง ตามเรื่องตามราว เอาใจตลาด...
    <o></o>
    หลังจากนั้น..เกิดอะไรขึ้นแล้วเป็นอย่างไร...
    <o></o>
    เรื่องนี้เกิดขึ้นนานมาแล้ว ๔ ปีผ่านไป ทุกคนที่เกี่ยวข้องต่างเก็บเป็นความลับ ไม่แพร่งพรายแก่ผู้ใด บัดนี้ถึงเวลาแล้ว ที่ ความจริงนั้นจะ ต้องถูกเปิดเผย.....<o></o>

    <tt>ฤดูหนาวในปี ๑๙๙๘ ที่หนาวเย็นกว่าปกติ.....</tt>

    <tt>ผมเริ่มเข้ามาทำงานที่ วิวโซน ในปี ๑๙๙๖ สำนักพิมพ์ ของ เราพิมพ์ อะไรก็ได้ ที่น่าสนใจ ที่อยู่ในความสนใจในหมู่เพื่อนๆ และ ลูกค้าของเรา และ อัตราความเจริญได้รับความนิยมจาก ผู้อ่านก็ พุ่งสูงขึ้นในแต่ละปี จนพวกเราประหลาดใจ....ทำไมน่ะหรือ ก็ เพราะ เขียนเรื่อง น่าพิศวงทำนอง ดิ เอ็กซ์ ไฟล์ เช่น ยู เอฟ โอ บ้าง มนุษย์ต่างดาวบ้าง และ อีก หลายๆเรื่องที่ไม่มีคำตอบ หรือ แม้แต่ คำอธิบาย.....<o></o></tt>
    <tt>เราได้รับ ข้อมูล และ เอกสารทางอีเมล จาก ผู้อ่านจำนวนมาก</tt><tt> สิ่งนี้สะท้อนความนิยมที่ผู้อ่านมีต่อเรา...ตัวเลขหลักล้าน ของ ผู้อ่านอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม <o></o></tt><tt><o></o></tt><tt><o></o></tt>
    <tt>
    เย็นวันหนึ่ง...ผมได้รับโทรศัพท์ ในสำนักงานของวิวโซน ที่ คอนเนคติคัต ผู้โทรเข้ามาขอร้องให้ผม อย่าวางสายโทรศัพท์ ขอร้องให้ฟัง เขาพูด แม้ อาจจะไม่จบ แต่ ชั่วขณะหนึ่ง ก็ยังดี...สุ้มเสียงร้อนรนมาก และ ไม่ปกติ<o></o></tt>
    <tt>
    ว่าไปเลยครับ ผมตอบเขาไป....</tt><tt><o></o></tt>

    <tt>ชายผู้นั้นกล่าวว่า ผม อยู่ในอลาสก้า ผม ทราบดี ทางอินเตอร์เนตว่า สำนักพิมพ์ ของคุณ ทำงานเกี่ยวกับอะไร และ ผม ต้องการให้ คุณช่วยผม ทำอะไรบางอย่าง ในการกระจายข่าว เกี่ยวกับ เรื่องที่สำคัญและ น่ากลัวมากๆ คุณต้องไม่เชื่อแน่ เว้นแต่คุณ มาจะ ดู ด้วยตนเองที่ อลาสก้า<o></o></tt>

    <tt>....อลาสก้า....ผม อึ้งไปทันที</tt><tt><o></o>

    </tt> <tt>เขากล่าวต่อไปว่า...ไม่เป็นไร...เราจะส่งตั่วบินไปกลับให้ คุณทาง เฟด เอ็กซ์ เราจะมาพบคุณ และ ดูแลคุณ แต่ คุณ ต้องสัญญาว่าจะปกป้องเรา เราจะบอกเรื่องนี้ ก่อน โดยคร่าวๆ เมื่อ เราส่งตั่ว เครื่องบิน มาให้คุณ แต่ ต้องนาใจนะว่า เราเชื่อใจคุณได้ แดน, น้ำเสียงเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว<o></o>

    </tt> <tt>....ตกลง ผมตอบไป แล้วทันที สายก็ หลุดไป....</tt><tt><o></o>

    </tt> <tt>เดิมที ผมคิดว่าจะ บอกเรื่องนี้ แก่ เพื่อนสนิทบางคน แต่ ฟังเสียงผู้โทรเข้ามาแล้ว ก็ ตัดสินใจว่า ไม่ดีกว่า...เพราะ น้ำเสียงนั้น จริงจัง และ คล้ายกลัวอะไรบางเป็นอย่างมาก ผมจึง ตัดสินใจพิสูจน์ เขา ด้วยตั๋วเครื่องบินดีกว่า...</tt><tt><o></o>

    </tt> และแล้วผมก็ได้รับตั๋วเครื่องบินที่ว่า พร้อมๆกับ เอกสารในซอง ที่ระบุถึง ดร. เบอร์นาร์ด อีสลัน ผู้ซึ่ง เป็นอัจฉริยะ ด้านงานวิจัยค้นคว้า เรื่อง การส่งคลื่นพลังสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ผมไม่สู้เข้าใจนักว่า มันหมายถึงสิ่งไร แต่ง่ายๆก็ คือ ดอกเตอร์ ท่านนี้ ได้ ประดิษฐ์ กระบวนการส่ง คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ไปในอากาศ และ สร้าง เครื่องรับมันได้ โดยไม่ต้อง ใช้ สายไฟฟ้า<o></o>

    ผมบอกเรื่องนี้ กับ เวย์ เพื่อนผม ซึ่งเขา ก็ทักท้วงผมไม่ให้เดินทางไป ตามคำเชิญ เพราะ มันเสี่ยงมาก เนื่องจาก เราไม่ทราบอะไรๆหลายๆอย่างที่เกี่ยวกับ เรื่องนี้ แต่ในที่สุด ด้วยนิสัยรักการผจญภัยของพวกเรา เราตกลงที่จะ เสี่ยง<o></o>
    <o></o>

    ระหว่างที่อยู่บนเครื่องบิน ผมตัดสินใจที่อ่านเรื่องของ ดร. เบอร์นาร์ด ต่อ ลิขสิทธิ์แรก ที่จดทะเบียน โดย ดร. ท่านนี้ หมายเลข <st1><st1:country-region w:st="on">US</st1:country-region></st1># 4,686,605 Method and Apparatus for Altering A Region in the Earth’s Atmoshere, Ionosphere And Or Magnetoshere. โดยย่อๆ ลิขสิทธิ์นี้ ระบุถึง ระดับชั้นบรรยากาศต่างๆ ที่ปกคลุมโลก คล้ายๆชั้นของพลาสติค ที่ทำจากโมเลกุลแตกต่างกัน โมเลกุลเหล่านี้ มี ประจุไฟฟ้าที่แตกต่างกันเช่นกัน<o></o>
    <o></o>
    ดร. เบอร์นาร์ด ใช้วิธีการยิงคลื่นวิทยุกำลังสูงหรือ คลื่นไมโครเวป ผ่านชั้นบรรยากาศต่างๆและ ทำให้ ชั้นบรรยากาศเหล่านี้ ร้อนแล้วเกิดการขยายตัวขึ้น เหมือนพลาสติคเหลว...<o></o>

    ลิขสิทธิ์ที่สอง ของเขา บรรยายถึง การสะท้อนหักเหคลื่นสัญญาณ ด้วยการใช้ ส่วน ชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ที่ถูกทำให้ร้อนด้วยกระบวนการแรก ไปยังตำบลที่ต้องการบนพื้นผิวโลก แต่ จะทำอย่างนั้นไปทำไม.... <o></o>

    ....ดร. เบอร์นาร์ เป็นพนักงานของ บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ ที่อลาสก้า (ขอปกปิดชื่อ เพราะ สุ่มเสี่ยงต่อการถูกฟ้องโดยกฎหมายไทย..โอล์ดแมนฯ) เนื่องด้วยบริษัทน้ำมัน ไม่ต้องการส่งน้ำมันโดยทางท่อ แต่จะใช้วิธี เปลี่ยนพลังงานน้ำมัน เป็นกระแสไฟฟ้า แล้ว ยิง ข้ามทะเลลงไปที่จุดหมายปลายทาง ประหยัดกว่ากันเยอะ <o></o>

    ที่พิเศษกว่านี้ กระบวนการดังกล่าว ยังสามารถนำไปประยุกต์ ใช้ในการควบคุมสภาพอากาศได้อีกด้วย<o></o>

    ในทางการทหาร...ไม่ได้ยุติเพียงเท่านี้...เป็นไปได้ว่า....สามารถในไปใช้ ในการทำสงคราม...แล้วผม ก็หลับไป...<o></o>

    ที่สนามบิน แฟร์แบงค์ ผมพบกับชายหนุ่ม สองคน อายุไม่มากนัก เราทักทายกัน ท่าทางการแต่งกาย และ ภาษาที่ใช้ เหมือนกับ ทหารมากกว่าพลเรือน ...ผมพยามยามซักถามเขา แต่เขาพูดน้อยมาก และ เร่งให้ผม ออกเดินทางจากสนามบินในทันที<o></o>

    ทันทีที่ผม ออกพ้นจากอาคารสนามบิน ผมถึงกับสะดุ้งเพราะความหนาวเย็นผิดปกติของอากาศที่นั่น...ขาของผมเกร็งและ ก้าวด้วยความยากลำบาก หายใจติดขัด เฮ้ย...นี่มันหนาวอะไรกันนี่ ผม สบถ ผมมองที่แผ่นป้ายบอกอุณหภูมิ ๖ องศาฟาเรนไฮต์(ลบ ๑๔.๔๔ องศาเซลเซียส)....มีรถยนต์ ไครเล่อร์เก่าๆมารับผมที่นั่น ท่อไอเสียพ่นควันชื้นสีขาวออกมามากมาย เพราะ อากาศที่เย็นจัด<o>

    </o>
    <tt>ดฟ, หนึ่งในชายหนุ่มที่พบกันที่สนามบิน ถามผมเรื่องเอกสารที่ให้มา พร้อมตั่วเครื่องบิน เรื่องของดร. เบอร์นาร์ด เขาบอกว่า มันเป็นเรื่องเดียวกับ </tt><tt>HAARP ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งชื่อ โจนาส เป็นช่าง อิเลคโทรนิคส์ และ มีความรู้ดีมาก ในเรื่องนี้ ซ้ำ ยังเคยเป็นทหารเรือ มาก่อน ปัจจุบันทำงาน เคเบิ้ลทีวี เป็นผู้ที่อธิบายให้ผมฟัง ถึง งาน ที่ ดร. เบอร์นาร์ดทำได้ อย่างละเอียด....แดน...คุณจะได้เห็นบางสิ่งที่รอคอยในวันพรุ่งนี้...นิคกี้ เพื่อนหญิงที่ขับรถไครเล่อร์ บอก ก่อนที่เราจะ แยกย้ายกันเข้าที่พัก<o></o>

    </tt> รุ่งเช้าวันต่อมา...พวกเราสี่คน ออกเดินทาง โดยสโนว์โมบิลไปยัง แม่น้ำชาตินาก้าเส้นทางการเดินทางมายาวไกล และ ใช้เวลามาก เราต้องเตรียมน้ำมันเชื้อเพลิงสำรองสำหรับ ไป และ กลับให้เพียงพอที่นั่น มีป้ายสีส้ม เขียน ว่า พื้นที่หวงห้าม เดฟ และ โจนาส ต้องขับๆ หยุดๆ หลายครั้ง เพื่อตรวจสอบพิกัดการเดินทางจาก เข็มทิศ และ แผนที่ ในที่สุดก็ มาถึง หน้าผาสูงชัน เราต้องไปต่อด้วยการเดินเท้า...<o>

    </o>
    <tt>พื้นที่นั้น...ห่างไกล แต่ ยังอุคมสมบรูณ์ด้วยป่าไม้ เรายืนบนสันเขา มองลงไปยังหุบเขาเบื้องล่าง เห็นพื้นที่กว้าง ที่หนึ่ง มี เสาอากาศ เรียงรายอย่างเป็นระบบ ในพื้นที่กว่า หนึ่งตารางไมล์ ประมาณว่า มี เสาอากาศโลหะ เป็นพันๆต้น<o></o>

    </tt> <tt>เดฟบอกว่า...มันเป็นเสาอากาศที่เรียกว่า เฟสอะเรย์ แต่ โจนาสบอกว่า มัน เป็นเสาอากาศที่ยิงสัญญาณ กำลังสูง ในบริเวณแคบๆหรือ จัดให้ มี การโฟกัสลำสัญญาณ ในลักษณะ คล้ายๆ ลำแสงเลเซอร์ สิ่งนี้ สามารถส่งสัญญาณกำลังสูงเป็น พันล้านวัตต์<o></o>

    </tt> <tt>สัญญาณเหล่านี้.....จะถูกยิงตรงขึ้นไป ในชั้นบรรยากาศ ทำให้ ชั้นบรรยกาศขยายตัว โค้งงอ และ มีความหนาเพียงพอ ที่จะสะท้อน อะไรก็ได้ ที่ตกกระทบ ไป ยัง พื้นที่เป้าหมาย เราเรียกมันว่า รังสี แห่งความตาย หรือ เดด เรย์</tt><tt><o></o>

    </tt> <tt>....ก็มันจะไม่ตาย ได้อย่างไรเล่าครับ ในเมื่อ มัน เป็นได้ กระทั่งสายฟ้า ที่มีพลังเป็นพันล้านวัตต์ แบบนี้ ใครโดนก็ตายทั้งนั้น...สยองใจดี คิดแล้ว น่าจะเหมือนกับ ฟ้าผ่าแบบในภาพยนต์ เรื่อง </tt><tt>WAR OF THE WORLD .....เสียดายที่ยังไม่มี ยู เอฟ โอ โผล่ออกมาด้วย <o></o></tt>
    <tt><o></o></tt>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2009
  5. OLDMAN AND A CAR

    OLDMAN AND A CAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    823
    ค่าพลัง:
    +2,752
    <o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-com<img src=" http:="" palungjit.org="" images="" smilies="" omg-smile.gif="" border="0" alt="" title="Surprised" smilieid="34" class="inlineimg"></o:smarttagtype><o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-com<img src=" http:="" palungjit.org="" images="" smilies="" omg-smile.gif="" border="0" alt="" title="Surprised" smilieid="34" class="inlineimg"></o:smarttagtype><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> จันทร์ ที่ ๙ พ.ย. ๒๕๕๒<o></o>

    MAJOR CLIMATE CHANGE OCCURRED 5,200 YEARS AGO: EVIDENCE SUGGESTS THAT HISTORY COULD REPEAT ITSELF<o></o>

    ผลงานของ : ศาสตราจารย์ โลนนี่ ธอมสัน นักธรณีวิทยา O.S.U. และคณะ
    เขียนโดย เอร์ล ฮอลแลนด์

    แปลผิดๆถูกๆ โดย: ชายแก่ กับ รถยนต์ เก่าๆ หนึ่งคัน


    เรื่องนี้ แม้จะ ดูโบราณไปหน่อย เพราะ เขียน และ แสดงผลงาน ในงานประชุมทางวิชาการประจำปี ของ the American Geophysical Union in San Francisco เมื่อ วันพุธ ที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๔๘ หรือ ๕ ปีมาแล้ว แต่เนื้อหาสาระ อ้างอิง หลักการและ ทฤษฎีขั้นพื้นฐาน จึงถือได้ว่า ยังใช้ได้ ซึ่งก็แน่นอน เพราะ ผู้เขียน เป็นนักวิจัยสาขาธารน้ำแข็งวิทยา ( Graciologist)ของ มหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งหนึ่ง ของสหรัฐอเมริกา Ohio State <st1><st1:street w:st="on"><st1:address w:st="on"><st1><st1:state w:st="on"></st1:state></st1></st1:address></st1:street></st1>University


    .....เนื้อหาทั้งหมด...แสดงถึงหลักฐานของความเป็นไปได้ ...ไม่ใช่ เรื่องที่จะ ต้องเกิดขึ้นตามนี้จริงๆ.....<o></o>


    งานวิจัยหลักอย่างหนึ่งของ ธอมสัน คือ การดั้นด้น เดินทางไปทั่วทุกมุมโลก ไปสู่ ทุ่งน้ำแข็งที่กันดารห่างไกล ขุดเจาะ ตัวอย่างแกนน้ำแข็ง เหมือน ไตเติ้ล ของ ภาพยนตร์ เรื่อง THE DAY AFTER TOMORROW..... องค์ประกอบของแกนน้ำแข็งตัวอย่าง บอกเราได้ เกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ ในโลกกว้างที่ผ่านมานับพันๆหรือ หมื่นปี....
    จากการเก็บตัวอย่างแกนน้ำแข็งมานับไม่ถ้วน....ประกอบกับ การศึกษาประวัติศาสตร์ ย้อนอดีต ศ. ธอมสัน และ คณะผู้วิจัย พบว่า สภาพอากาศของโลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อย่างน่าพิศวง (หมายถึง ประหลาดใจ หรือ เป็นที่สังเกตได้)<o></o>

    ผลการศึกษาพบว่า.....

    ๑. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศขนานใหญ่ ครั้งสุดท้ายหรือ ครั้งล่าสุด เคยเกิดขึ้นในอดีต เมื่อประมาณ ๕๒๐๐ ปี ที่แล้ว ส่งผลให้ เกิดความหายนะต่อ อารยธรรม และ ความเป็นอยู่ของมนุษย์ และ พืชสัตว์ โดยทั่วไป การเปลี่ยแปลงสภาพภูมิอากาศที่ว่านี้ ไม่ใช่ เกิดขึ้นอย่างช้าๆ หาก แต่ เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วกะทันหัน ทั้งนี้ จากการเก็บตัวอย่างต้นไม้ ที่ถูกฝังในน้ำแข็ง แล้วคำนวณหา ระยะเวลาที่มันถูกฝังจาก อายุของธาตุคาร์บอนในต้นไม้นั้นๆ<o></o>

    ๒. มีการตรวจพบซากศพมนุษย์ โบราญ ที่ถูกฝังไว้ในธารน้ำแข็ง อัลไพน์ คำนวณอายุที่ถูกฝังได้ประมาณ ๕๒๐๐ ปี เช่นกัน<o></o>

    ๓. จากการศึกษาวงปีของต้นไม้ ในไอร์แลนด์ และ อังกฤษ เลือกเอาต้นไม้ ที่มีอายุ ๗,๐๐๐ ปี พบว่า วงปีของต้นไม้ ที่แคบมากที่สุด เพราะ ความแห้งแล้ง หรือ ขาดน้ำ อยู่ที่ช่วงอายุ ประมาณ ๕๒๐๐ ปี ผ่านมาแล้ว<o></o>

    ๔. ที่เขา คิลิมันจาโร ในอัฟริกา พบว่า มีช่วงที่น้ำแข็งหลงเหลือ อยู่ในปริมาณที่น้อยที่สุด เมื่อ ประมาณ ๕,๒๐๐ ปี ที่แล้ว

    ๕. ที่ ทะเลทราย ซาฮาร่า มีการเปลี่ยนแปลงของ เกสรดอกไม้ ครั้งใหญ่ และ ที่ ทุ่งน้ำแข็งบนกรีนแลนด์ ปริมาณ ก๊าซมีเธนน้อยที่สุด เมื่อ ประมาณ ๕,๒๐๐ ปี ที่แล้วมาเท่าๆกัน

    ๖. ในสมัยนั้น คือ ๕,๒๐๐ ปี ที่แล้ว จำนวนประชากรโลก มี ไม่เกิน ๒๕๐ ล้านคน แต่ ในปัจจุบัน มี ๖.๔ พันล้านคน หรือ มากกว่าเดิม ๒๕.๖ เท่า แน่นอนว่า หาก เหตุการณ์ เช่นในอดีตย้อนกลับมาเกิดใหม่ ความเสียหาย ย่อม ทวีความรุนแรงอย่างคาดไม่ถึง...และขณะนี้ มีสิ่งบอกเหตุหลายอย่างที่ระบุว่า เป็นไปได้ ที่การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ อย่างเฉียบพลัน เช่นในอดีต จะ หวนกลับมาเกิดซ้ำอีก....ปัจจัยที่ว่า ก็ คือ พารามิเตอร์ ต่างๆ ของปัจจุบัน มีความละม้ายเหมือนเช่น พารามิเตอร์ต่างๆ ในอดีต ก่อนเกิดการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศแบบกะทันหัน .....

    ๗. ประชากร พลโลก ประมาณ ๗๐% อาศัยอยู่ในเขตร้อน จะ เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบนี้มากที่สุด

    ๘. ธอมสัน เชื่อว่า ต้นเหตุของปัญหา มาจาก ความไม่สม่ำเสมอ ในการแผ่รังสีความร้อนของดวงอาทิตย์ นักวิทยาศาสตร์ ทราบว่า ยุคน้ำแข็งเล็ก ที่ผ่านมาในช่วง ค.ศ. ๑๔๕๐ – ๑๘๕๐ นั้น ตรงพอดี กับช่วงระยะเวลา ที่ดวงอาทิตย์ แผ่รังสีความร้อนในระดับต่ำสุด ยิ่งกว่านี้ เมื่อ ประมาณ ๕,๒๐๐ ปี ที่ผ่านมา ก็ ยังตรงกับ ช่วงเวลา ที่ ดวงอาทิตย์ แผ่รังสีความร้อน ผิดปกติ เช่นลดลงต่ำสุด แล้ว เพิ่มขึ้นสูง ในช่วงระยะ เวลาสั้นๆ (เดี่ยวร้อน เดี่ยวหนาว......โอล์ดแมนฯ). สิ่งนี้ ส่งผลให้ เกิด กระบวนการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศ อย่างเฉียบพลัน<o></o>

    <o></o>
    “The evidence is clear that a major climate change is underway.”<o></o>
    <o></o>
    [FONT=&quot]Contact: Lonnie Thompson, (614) 292-6652; thompson.3@osu.edu
    Written by Earle Holland, (614) 292-8384; Holland.8@osu.edu.[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2009
  6. ลมหายใจสุดท้าย

    ลมหายใจสุดท้าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    419
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,137
    แวะมาทักทายครับ และดันกระทู้
     
  7. OLDMAN AND A CAR

    OLDMAN AND A CAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    823
    ค่าพลัง:
    +2,752
    วันที่ ๑๕ พ.ย. ๒๕๕๒<o></o>
    <o></o>
    และอะไร คือ สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น นับ จากนี้ ต่อไป.......<o></o>
    <o></o>
    อ้างอิง www.abovetopsecret.com/forum/thread42568/pg1<o></o>
    เขียน โดย Spidercow และ อ้างอิงจาก ที่อื่นๆ พอสมควร<o></o>
    <o></o>

    .....บทความนี้ เป็นตอนต่อจาก ตอนที่แล้ว... ซึ่ง เป็นการนำข้อมูลจากแหล่งต่างๆ มาเรียบเรียงใหม่..เพื่อ คาดเดา เหตุการณ์ ในอนาคต ตามประสา สมาชิกก๊วนโลกแตก......อยากรู้ว่า ชัวร์ หรือ มั่วนิ่ม ก็ต้อง ติดตามดูเหตุการณ์ ในอนาคต นับ ต่อจาก นี้ ไป จนถึง ๒๕๕๕(2012)....เสียดายที่ขณะนี้ ผม ไม่มีเวลา ไปดูหนัง ๒๐๑๒ มิเช่นนั้น คงได้ วัตถุดิบมาบรรเลงได้ ดี กว่านี้......<o></o>
    <o></o>

    ๑. โลก จะ เกิดการเปลี่ยนแปลง จาก อิทธิพล และ พลังงานภายในโลก(แต่ ผม ว่า มีปัจจัย มาจากนอกโลก ด้วย... โอล์ดแมนฯ) และ นี่ ไม่ใช่ ครั้งแรก แต่เป็นมาเช่นนี้ หลายครั้งแล้ว เป็น ปรากฎการณ์ ธรรมชาติ เริ่มกันที่ สภาพดินฟ้าอากาศ นับจากนี้ไป เราจะ ได้เห็นลมพายุ ที่มี ความเร็วลมสูงถึง ๓๐๐ กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง สิ่งนี้ ทำให้ เกิด คลื่นยักษ์ กระแทกชายฝั่ง และ นำพาน้ำทะเล ทะลัก เข้า มาในผืนแผ่นดินได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องรอให้ น้ำแข็งละลายหมดโลก ในปี ๒๕๖๐ ซึ่งมันนานเกินรอ....เพราะ น้ำแข็งมัน จะ ละลายหมด ภายใน ๒๕๕๕ นี้ แหล่ะ....(ฟังแล้ว ตื่นเต้น ดีจัง).<o></o>
    <o></o>

    การแผ่รังสีความร้อนของดวงอาทิตย์ จะเพิ่มมาก ขึ้นในปลายปี ๒๕๕๒ นี้ หาก เป็นจริง ฤดูหนาว ในปีนี้ ก็จะ ไม่หนาวมากนัก หรือ หนาวจัด แค่ ระยะเวลาสั้นๆ.....และ จะ หนาวน้อยลงทุกปี ตรงกันข้าม อากาศจะ ร้อน และ แล้งจัด จนกว่า จะเกิด การกลับขั้วแม่เหล็กในดวงอาทิตย์ ในปี ๒๕๕๕<o></o>
    <o></o>

    ในขณะนี้ เห็นได้ว่า...มีเรื่องเช่นนี้ เกิดขึ้นบ้าง แล้ว ในบางภูมิภาคของโลก.... <o></o>
    <o></o>

    ๒. สภาพภูมิอากาศแปรปรวน บางแห่ง หนาวจัด บางแห่ง ก็ ร้อนจัด ทั้งที่ ไม่เคยมีฝน ฝน ก็ ตก บางที่ เคยมีฝน ก็ แห้งแล้งผิดธรรมดา หรือ ฝนตกแบบรุนแรง ทำให้ เกิด น้ำบ่าทะลัก ท่วมบ้านเรือนได้ง่าย.....ในความหนาวเย็นมักมี พลังความร้อนเจือปน(อ่านแล้ว งง..ใหม).....อาหารจะเน่าบูดง่าย เชื้อโรคโต เร็วดี <o></o>
    <o></o>

    ๓. การมาเยือนของ พลาเนต เอ็กซ์ ในวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๒ จะ มี บางสิ่งเกิดขึ้น กับ โลก แต่ จะ เป็นด้านบวก หรือ ลบ ยัง ตอบยาก แนวโน้มของ ผู้ เขียน ค่อนข้าง ระบุว่า เป็นลบ เพราะ เป็นวันที่ เกิด เหตุการณ์ ที่เชื่อมโยงโลก กับ ดวงอาทิตย์ โดยตรง ( เฉพาะในส่วนนี้ หาก มีเวลา ผม จะ อธิบายเพิ่มเติม ในโอกาส ข้างหน้า....ในหัวข้อเวลาเที่ยงของ Noon Day Winter Solstice Sun of December 21, 2012.....โอล์ดแมนฯ) <o></o>
    <o></o>
    <o></o>
    ๔. พฤติกรรมของ มมนุษย์ จะ เปลี่ยนแปลง ชนิด กู่ไม่กลับ จาก เดิม กินเพื่อ อยู่ จะ เป็น อยู่เพื่อ กิน โดยสมบรูณ์ พูดง่ายๆว่า แย่ลงกว่าเดิม ความจริง ก็ เป็น แบบนี้ มานานแล้ว และ สั่งสมพลังลบ ไว้ในตนเอง และ โลก ใบนี้ มากๆ จนกลายเป็นเรื่อง ปกติ(แม้กระทั่ง ในความดี ยังมีความเลวปะปนอยู่....งงใหม) เพียงแต่ว่า ต่อ ไป ความยับยั้งชั่งใจ ที่จะ ไม่ก่อ สงครามและ การวิวาท จะ ลดน้อบลงมากๆ ด้วยต่างแสวงหา ผลประโยชน์ อันไพศาล และ ถือดี ว่า มี อำนาจ มี พี่เบิ้มสนับสนุน......เราอาจได้ เห็นสงคราม จำกัดเขต ในบริเวณ ภูมิภาค เอเชีย อาจเริ่มจาก เป็น คู่กรณี ในเอเชียกลาง หรือ เอเซีย ตะวันออก ซึ่ง ไม่เคยเกิดขึ้นมานานแล้ว หลังจาก จีน บุกสั่งสอน เวียตนาม ทั้งนี้ ก่อน ปี ๒๕๕๕ มาเยือน หากข้อมูลที่มี ไม่ผิด สำหรับ เอเชียตะวันออก ก็ อยู่ทางทิศตะวันออก จาก บ้านเรา นี่แหล่ะ และ สงครามครั้งนี้ เป็นสงครามเรือพ่วง มันจะลาก อะไร ต่ออะไร เข้ามายุ่ง อาจถึง ขั้น ใช้ นุ๊ค ส่วน ใน เอเชียกลาง ก็ คู่เดิมๆ อย่างที่เคยรู้ว่า ใคร จะ ลบ ใคร ออกจาก แผนที่ โลก<o></o>

    <o></o>
    .....ถ้า มี การใช้ นุ๊ค จริง.....มันก็ เป็นเรื่องร้ายแรง ที่ อีกฝ่ายจะต้อง ปิดเกมโดยเร็วที่สุด...เพื่อยับยั่ง ความเสียหาย และ เราจะ ได้ เห็นศักยภาพ ของ HAARP ในวันนั้น.....<o></o>
    <o></o>
    และ หาก มีการใช้ HAARP มัน ก็ นำไปสู่ end of day ได้ง่ายๆ ฟังแล้วสนุกเหมือนดูหนังโรงเลย.......<o></o>
    <o></o>
    <o></o>
    อืมม์......ความจริง โคลัมเบียร์ ฟิกเจอร์ น่าจะ ทำหนัง เรื่อง THE LAST WORLD WAR มาฉาย เอากะตังค์คนดู บ้าง เผื่อว่า ฉายแล้ว มัน จะ เลื่อน หรือ ยับยั้งไม่ให้ เกิด ของ จริง ได้ และ พวก ผม บรรดา สมาชิก ก๊วนโลกแตก จะ ได้ สะใจ โดยที่ไม่ทำให้่ ผู้อื่นจิตตก ด้วย....... ไปล่ะ <o></o>
    <o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2009
  8. OLDMAN AND A CAR

    OLDMAN AND A CAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    823
    ค่าพลัง:
    +2,752
    ๑๕ พ.ย. ๒๕๕๒

    .....ความจริงถูกแสวงหา ก็ เพื่อโชคชะตาของมัน...และ บุคคลที่เกี่ยวข้องในการแสวงหาความจริงนี้ ก็ ไม่สนใจสิ่งอื่นใด จนกว่า จะ ได้รับคำตอบที่แท้จริง....ทว่า....วิธีการแสวงหาความจริง เป็นสิ่งที่ยาก และ หนทางเดินไปสู่ ความจริง ก็ ขรุุขระสิ้นดี.....

    ที่มา : อัลฮาเซน(Alhazen, 965-1039) หนึ่งใน ผู้คิดค้นวิธี วิทยาศาสตร์ ในการแสวงหาความจริง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2009
  9. worrior

    worrior เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +316
    เข้ามาขอบคุณ และดันกระทู้คุณ old man ครับ ผมจะรอดูช่วงปี 2011 ครับว่าจะเห็นดาวที่ว่านี่มั้ย และรอลุ้นเหมือน จขกท. แต่ถ้า 2012 แล้วยังเงียบผมก็พอแล้วเหมือนกันครับ:cool:
     
  10. OLDMAN AND A CAR

    OLDMAN AND A CAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    823
    ค่าพลัง:
    +2,752
    วันที่ ๑๙ พ.ย. ๒๕๕๒

    จับ โกหก ได้ หนึ่ง เรื่อง....
    อ้างอิง ข้อความเดิม วันที่...


    [FONT=&quot]วันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๒<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]ภาพถ่ายล่าสุดของ พลาเนตเอ็กซ์<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]ที่มา[/FONT][FONT=&quot]: utube-nibiru-truth about nibiru shock 2012 photos <o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]
    ภาพถ่ายได้ เมื่อ เดือน มกราคม ๒๕๕๒
    [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]ที่ สถานีขั้วโลกใต้ของ อเมริกัน สก๊อตต์ - เอ็ดมันเซ่น ([/FONT][FONT=&quot]SPT)<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]ลักษณะภาพ [/FONT][FONT=&quot]: เป็นจุดแดง มี พวยหางสั้นๆ มี ดาวบริวารโคจรอยู่รอบๆ เท่าที่เห็นมี ๑ ดวง แต่ ความจริง อาจมี มากกว่า ๑ ดวง กำลัง มุ่งตรงเข้ามายัง ระบบสุริยะ ของเรา ตำแหน่งขณะถ่ายภาพได้ อยู่ที่ กลุ่มดาวตาชั่ง(LIBRA) หรือ ค่อนข้าง อยู่ด้านหลังดวงอาทิตย์ เลยทำให้ มองเห็นยากหน่อย ภาพที่ถ่ายได้ ยืนยันว่า เป็นภาพจริง จาก การใช้ กล้องโทรทัศน์ พิเศษที่สามารถแยกความถี่คลื่นแสงได้ เพื่อ ตัดความคลาดเคลื่อน เนื่องจากคลื่นแสงสีต่างๆที่รบกวนกัน<o></o>[/FONT]
    [FONT=&quot]หมายความว่า...กล้องโทรทัศน์ธรรมดาใช้ในงานนี้ไม่ได้...จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ สถานีกล้องดูดาวอื่นๆจะจับภาพนี้ไม่ได้...

    ข้อความข้างบนนี้ และ วิดีโอ ที่จัดทำ โดย ท่านผู้ใช้ นามว่า NibiruShock2012 นี้ ไม่เป็นความจริง ....เชื่อถือไม่ได้
    อ้างอิง : yowusa.com

    จึงขอประกาศ ให้ ท่านทั้งหลายทราบ โดยทั่วกัน.....
    [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
     
  11. OLDMAN AND A CAR

    OLDMAN AND A CAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    823
    ค่าพลัง:
    +2,752
    วันที่ ๒๐ พ.ย. ๒๕๕๒<o></o>
    <o></o>>
    WINTER SOLSTICE อ่านแล้ว กรุณา อย่าคิดว่า เป็นเรื่องจริงนะ เพราะ อ้างอิงที่มา ก็ บอกแล้วว่า ความฝันอันยิ่งใหญ่<o></o>
    <o></o>
    ที่มา: www.greatdream.com/2012.htm(updated 11,11,2009) <o></o>
    <o></o>
    Winter solstices หมายถึง ตำแหน่ง เมื่อ เวลาเที่ยงวันของโลก ที่ แนวการโคจรของ ดวงอาทิตย์ ตรงกันกับ เส้นผ่านศูนย์ กลาง ของ ระบบสุริยะ จักรวาลใหญ่ ตำแหน่งนี้ เกิดขึ้นได้ นานๆ ครั้ง และ จะ เกิดขึ้น ใหม่ ในปี 2012<o></o>
    <o></o>
    ที่เวลานั้น .....เรา จะ สามารถ มองเห็นทางช้างเผือกสีขาว ใหญ่บนท้องฟ้า ทำมุม ตั้งฉาก กับ พื้นผิวโลก และ หาก โชคดี อาจมองเห็น ทางช้างเผือกสีน้ำตาลดำ ที่เรียกว่า Sagittarius draft galacxy(SGR) ขนาบอยู่ข้างๆ SGR กล่าวได้ว่า เป็นระบบจักรวาลเก่าที่ กำลังจะตาย หรือ ตายแล้ว ก็ ได้ หาก ถามต่อลึกๆว่า SGR คือ อะไร และ สำคัญอย่างไร...ผม ก็ ไม่ขอตอบ เพราะ มันไม่น่าจะ เกี่ยวกับ เรื่อง โลก แตก ของ ผม ขืน เข้าไปยุ่ง ใน ธุระ ไม่ใช่ มากๆ ก็ คงสรุป กระทู้นี้ ไม่ลง <o></o>
    <o></o>
    ปรากฏการณ์ นี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า... โลก และ ระบบสุริยะ ของ เรา โคจร ในลักษณะ ขึ้นลง ตัดกับ ระนาบของ ทางช้างเผือก ซึ่ง เป็น ระบบสุริยะ จักรวาล ใหญ่ ในทุกวงรอบระยะเวลา ๑๒,๐๐๐ ปี.....เป็นเรื่อง จริง<o></o>
    <o></o>
    <o></o>
    ท่านใดที่อาศัยอยู่ในดินแดนที่ ไม่มีฝุ่นละออง และ เมฆหมอกยามค่ำคืน โปรด สังเกต ว่า ปัจจุบัน ทางช้างเผือก ได้ ทำ มุม กับ พื้นผิว โลก หรือ อย่างไร และ หาก จะ กรุณา ส่งข่าว ให้ ทราบด้วย ก็ จักขอบคุณมากๆ <o></o>
    <o></o>
    ขณะนี้ ที่ ตอนใต้ของฝรั่งเศส มีผู้พบเห็นและ ถ่ายภาพ ทางช้างเผือก ที่ผิด ไป จาก ตำแหน่งเดิมได้ แล้ว และ ยัง เห็น SGR ด้วย<o></o>
    <o></o>
    <o></o>
    Winter solstice ในปี ๒๐๑๒ ถูกคำนวณล่วงหน้าด้วย ปฎิทินมายา และ ปรากฏใน สิ่งก่อสร้าง หลายแห่ง ที่นครวาติกัน ในสมัยนั้นๆ ผู้ที่ ล่วงรู้ สิ่งนี้ ย่อมไม่ใช่ บุคคลธรรมดา แต่ต้อง มีความรู้เป็นอย่างดี ในดาราศาสตร์ มีเสียงร่ำลือว่า วาติกัน เก็บงำความลับอะไรบางอย่าง ที่มิอาจเปิดเผยได้ มีผู้สงสัยว่า อาจมีส่วนเกี่ยวพันกับ เรื่องเช่นนี้<o></o>
    <o></o>
    <o></o>
    Winter solstice มีความสำคัญกับ หัวข้อ กระทู้นี้ ตรงที่ มัน เป็นตัว หน่วงการเกิด จุดดับ บนดวงอาทิตย์ ในวงรอบปัจจุบัน(วงรอบที่ ๒๔) และ อาจเหนี่ยวนำ ให้ เกิด การระเบิดใหญ่ บนดวงอาทิตย์ ในห้วงระยะเวลา ที่ เกิด ปรากฎการณ์ นี้ ก็ได้.... <o></o><o></o><o></o>

    การระเบิดใหญ่ หมายถึง อะไร...ก็ หมายถึง ทุก ผู้คน มี สิทธิ์ ถูกย่างสด อย่างที่เคยได้ โพสต์ ไว้ ก่อนหน้านี้ แล้ว และ มี ชาติใหนบ้าง ที่ซุ่มทำอะไร บาง อย่าง เกี่ยวกับ เรื่องนี้<o></o>
    <o></o>
    ๑. สหรัฐอมริกา มีฐานทัพ และ ห้องทดลองใต้ดินหลายแห่ง ที่สามารถ หลบภัยได้ <o></o>
    ๒. รัสเซีย สร้าง เมืองใต้ดิน ที่ เขา Yamantau ไกลออกไป ทางทิศตะวันออกของ มอสโคว์<o></o>
    จุผู้คน ได ประมาณ ๖๐,๐๐๐ คน<o></o>
    ๓. จีน คาดว่า น่าจะ มี และ มีหลุมหลบภัย นิวเคลียร์ ขนาดใหญ่ พอดัดแปลงให้ เป็น ที่อยู่<o></o>
    อาศัยได้ <o></o>
    ๔. นอร์เวย์<o></o>
    ๕. สวีเดน ทำในนาม นาโต้ และ ฯลฯ <o></o>
    <o></o>
    สรุปแล้ว ...มีมากครับ ที่ดำเนินการไปแล้ว และ พร้อมที่จะ ใช้งาน<o></o>
    <o></o>
    อย่ามาถามว่า..เมืองไทย ทำอะไรไปแล้ว บ้าง ...ผม ไม่ทราบดอกครับ เพราะ อย่างไร รู้ไป ก็ ไม่มีประโยชน์ ไม่มีที่ ให้คนแก่ ซ้ำยังจนกระจอก อย่างผม หรอก...รู้ตัวดีน่า <o></o>
     
  12. OLDMAN AND A CAR

    OLDMAN AND A CAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    823
    ค่าพลัง:
    +2,752
    วันที่ ๒๐ พ.ย. ๒๕๕๒...

    .....ผู้ที่เข้มแข็งกว่า อาจเป็นผู้ที่รอด...แต่ ..ผู้ที่ รู้ และ เข้าใจอย่างถูกต้อง เท่านั้น ที่ มีโอกาสมากกว่า...
     
  13. lamb of god

    lamb of god เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2009
    โพสต์:
    543
    ค่าพลัง:
    +436
    พระเจ้า จากต่างดาว มนุษย์คู่แรก รหัสพันธุ์กรรม การก้าวกระโดดและห่วงโซ่ชีวิตที่หายไป
    น่าสนใจค่ะ
     
  14. OLDMAN AND A CAR

    OLDMAN AND A CAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    823
    ค่าพลัง:
    +2,752
    ในที่สุด...ผมก็ปิดกระทู้ได้ เสีย ที...เหนื่อยมานานแล้ว

    ข้างล่างนี้ เป็นเรื่องสุดท้ายของ ผม ในกระทู้นี้ ครับ พบกันใหม่ ในกระทู้ใหม่ เมื่อ มี โอกาส อัน ควร

    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5Cz%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} p.MsoFooter, li.MsoFooter, div.MsoFooter {margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; tab-stops:center 207.65pt right 415.3pt; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:595.3pt 841.9pt; margin:72.0pt 64.3pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:35.4pt; mso-footer-margin:35.4pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> วันที่ ๒๐ พ.ย. ๒๕๕๒<o></o>
    <o></o>
    จินตนิยาย........ไม่มีใครเขียน เลย เขียนเองซะ เลย..<o></o>
    <o></o>
    สงคราม ครั้งสุดท้าย.....(เลียนแบบ THE LAST SAMURI)<o></o>
    <o></o>
    ...หลายท่านคงคิดเหมือนผม....แต่ ทำไม และ เมื่อไรล่ะ....ขอ วิเคราะห์ ที่ละ คำถามดังนี้...<o></o>
    <o></o>
    ๑. ทำไม....<o></o>
    <o></o>
    .....มีตัวเลข ประชากร ที่เหมาะสมกับ ทรัพยากรของ โลก ที่สามารถทำให้ ทุกชีวิตดำรง อยู่อย่างสมดุล เขียนไว้ ว่า มีแค่ ๕๐๐ ล้านคนเท่านั้น ไม่ใช่ ๖,๕๐๐ ล้านคนอย่างปัจจุบัน...หมายความว่า ผู้คนที่เป็นส่วนเกินของสังคมใหม่ ต้องล้มหายตายจาก ไป ประมาณกว่า ๙๐% และตัวเลขนี้ ผมอ่านพบในการท่องเวป พร้อมๆกับ มี การสร้าง ศิลาจารึกใหม่ ที่ ระบุถึง ตัวเลขนี้ด้วย...อยู่ในประเทศหนึ่ง ไม่ขอเอ่ยชื่อ....<o></o>
    <o></o>
    <o></o>
    ...ความเดือดร้อน...และ ความละโมบโลภมาก ของ ผู้คนโดยทั่วไป ทำให้ บางกลุ่ม คิดแก้ไขปัญหา ด้วยวิธีลัด...สิ่งหนึ่ง ที่จำเป็น ในการป้องกันมิให้ เกิด ภาวะ พลโลก มากเกินความจำเป็น ก็คือ ต้องควบคุม ทุกประเทศในโลก นี้ ให้ อยู่ในระเบียบกฎเกณฑ์ เดียวกัน เรียกง่ายๆว่า ในอนาคต โลก จำเป็นต้องมี รัฐบาล เดียว ไม่ว่า พวกคุณจะ เห็นด้วยหรือ ไม่ ก็ตาม ฟังดู มันเป็นสิ่ง เลวร้าย แต่ ในภาษากฎหมาย ไม่มีอะไร เลวร้ายและ ผิดศีลธรรม หาก มันเป็น ความจำเป็น<o></o>
    <o></o>
    ในเวลาเดียวกัน ช่องว่างของ เทคโนโลยี ระหว่างประเทศต่างๆ ลดน้อยลง ทำให้ เกิด อาการ หมูไม่กลัวน้ำร้อน หรือ เด็กที่เคยอยู่ในโอวาท ไม่ยำเกรงผู้ใหญ่ เกิดขึ้น ซ้ำ ยังเป็น เด็กเกเรอีกต่างหาก อีก ฟากหนึ่ง ของ โลก ก็ มี มหาเศรษฐีใหม่ เกิดขึ้น และ รวยเอารวยเอา อุตส่าห์บากหน้า มา อ้อนวอน อย่างไร ก็ ไม่ยอม เพิ่มค่าเงิน ให้ทันอกทันใจ ซักที งานนี้ เห็นจะ ชีช้ำ หากปล่อยให้ เป็นไปแบบนี้ โดยไม่ทำอะไร เลย ประเทศตนล่มจมแน่ เอาเป็นว่า ยกแรก สงครามการค้า พัง ไปแล้ว คงเหลือ ทางเลือกที่จะให้ เดินได้ สายเดียว....<o></o>
    <o></o>
    ..ความจริง สงคราม อาจยืดระยะเวลา และ ไม่เกิดได้ หาก ทุกคน ยอมประณีประนอม กันบ้าง...อ้อ...บอกก่อนนะครับ เรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับ บ้านเมืองไทย...เป็นเรื่อง ก๊วนโลก แตกจริงๆ<o></o>
    <o></o>
    แต่...คนก็คือ คน เวลาได้ที ก็ ขี่แพะไล่...แทนที่จะ ผ่อนสั้นผ่อนยาว...เอ๊ะ หรือ นี่ คือ สงครามเย็น ยก สุดท้าย....ก่อนที่ความเย็นจะจาง หายไป <o></o>
    <o></o>
    ๒. เมื่อไรล่ะ<o></o>
    <o></o>
    ...เมื่อไร ที่ บ้านเมือง ล่มจม เพราะ เป็นหนี้ บานตะไท และ ไม่มีหนทางเยียวยา...ก็ เมื่อนั้นแหล่ะ ว่าที่จริง ก็ ไม่อยาก ทำหรอกนะ แต่มัน ไม่มี หนทางอื่นแล้วจริงๆ <o></o>
    <o></o>
    ..ถ้าให้ หมอเดาอย่างผม ดู กฤษ์ยามให้...คิดว่า ๒๐๑๒ ก็ ไม่เลวนะ เพราะ เรื่องร้ายๆ หลายเรื่อง มาประชุมร่วมกันได้ คงสนุกพิลึก....(คิดแต่เรื่องเลวๆ อีกแล้วซิเรา) <o></o>
    <o></o>
    เด็กเกเร และ มหาเศรษฐีใหม่ ก็ ล่วงรู้ความข้อนี้ แต่ ยัง อยากจะ ทรมาณ เสียให้ เข็ด...เอาไว้ ปลายๆยก ค่อยๆผ่อนให้ หน่อยก็ได้....ข้อนี้ เดาใจ คู่กรณียาก ว่า จะ ยอมรับ ทัณฑ์ทรมาณ นี้ หรือ ไม่ เพราะ มัน เสียหน้ามากๆ หาก มี อะไรมายุแยง เกิดหน้ามืดตามัวขึ้นมา มัน ก็ กลายเป็นเรื่องใหญ่โต....ซึ่งอาจ ทำให้ มหาเศรษฐี กลายเป็นยาจก และ เด็กเกเร กลาย เป็น เด็กพิการก็ได้ ใครจะรู้...<o></o>
    <o></o>
    ..เรื่องของเรื่องไม่มีเพียงแค่นี้ มันจะ พลอยทำให้ ปลาซิวปลาสร้อย พลอยแห้งตายไปด้วย เพราะ คงไม่แคล้วเป็นอย่างดาวอังคาร ที่ทำสงครามใส่กันจนเพลิน เลย ต้องลงไปอยู่ในดิน จนทุกวันนี้.....<o></o>
    <o></o>
    อ้อ....ไม่มีสงครามก็ได้.... หาก มหาเศรษฐี และ ลูกหนี้รายใหญ่ เกิด จับมือ กัน ตั้ง รัฐบาล โลก ล่ะ จะว่า อย่างไร....ก็ไม่ว่าอย่างไรดอก แต่ ต้อง เสี่ยงจับ ฉลาก ขอ เป็นหนึ่ง ใน บรรดา น้อยกว่า ๑๐ % ที่รอด... <o></o>
    <o></o>
    <o></o>
    พล๊อตเรื่อง หลุดโลก แบบนี้ มีแค่ ใน นิยายเท่านั้นนะครับ....ย้ำ<o></o>
     
  15. mashima

    mashima เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2009
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +162
    ใช่ New world order หรือเปล่าค่ะ
     
  16. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    ธรรมะ กับ ธรรมชาติ ยากที่จะแยกออกจากกัน เพราะเป็นสิ่งเดียวกัน
    ธรรมชาติกำลังปรับตัวให้เข้าสู่สมดุลย์ โดยการคัดสรรส่วนที่จะช่วยสร้างความสมดุลย์
    การเกิดภัยพิบัติจะเกิดช้าเกิดเร็ว ยังไงก็ต้องเกิด เพราะธรรมชาติต้องปรับตัวเข้าสู่สมดุลย์
    คนที่รอดคือคนที่ธรรมชาติคัดสรรไว้เพื่อให้ช่วยสร้างความสมดุลย์
    คนที่เรียนรู้สิ่งต่างจากธรรมชาติได้มากเท่าไหร่ก็จะสามารถช่วยสร้างความสมดุลย์ได้มากเท่านั้น
    ดังนั้นคนที่เรียนรู้สิ่งต่างจากธรรมชาติได้มากๆก็จะมีโอกาสสูงมากๆที่จะถูกธรรมชาติคัดสรรไว้เพื่อให้ช่วยสร้างความสมดุลย์
    คนที่เรียนรู้ฝึกปฏิบัติธรรมะมากๆก็จะเข้าใจในธรรมชาติได้มากด้วย.....ดังนั้น......
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 พฤศจิกายน 2009
  17. OLDMAN AND A CAR

    OLDMAN AND A CAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    823
    ค่าพลัง:
    +2,752

    ....ถึงไม่ใช่..ก็ คงคล้ายๆกันครับ เพราะ สรุปมาจาก... ความเป็นไปได้....

    สำหรับ เรื่องระเบียบโลก ใหม่นั้น น่ากลัวกว่านี้มาก....
     
  18. mashima

    mashima เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2009
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +162
    ไม่อยากให้ปิดกระทู้นี้เลยค่ะ ติดตามอ่านมาตลอดค่ะเสียดายจัง
     
  19. worrior

    worrior เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +316
    ร่วมด้วยช่วยออกเสียง ไม่อยากให้ปิดกระทู้นี้เลยครับ ถ้ามีอะไรใหม่ๆ ก็อยากให้เจ้าของกระทู้มาโพสต์เรื่อยๆ (หางานให้คนแ่ก่มากไปมั้ยเนี่ย) แต่ตอนนี้ก็ติดตามลุง oldman and a car ในกระทู้ใหม่แล้วครับ
     
  20. Saisawan

    Saisawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +296
    ขอร่วมโหวตอีก หนึ่งเสียงว่าอยากให้คุณลุง Old man and a car อย่าปิดกระทู้เลย ยังติดตามอ่านอยู่เสมอค่ะ ได้ความรู้มากที่เดียว
     

แชร์หน้านี้

Loading...