หมอ...เหนื่อยเหลือเกิน

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 2 พฤศจิกายน 2009.

  1. koymoo

    koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,067
    ค่าพลัง:
    +7,067
    [​IMG]
    ( รูปนี้คือ "สมเด็จพระบิดาแห่งวงการแพทย์ไทย" ผู้ทรงกล่าววรพจน์ที่หมอทุกคนจำได้คือ
    I don't want you to be only a doctor but I also want you to be a man
    แปล-- ฉันไม่ต้องการให้เธอเป็นเพียงหมอเท่านั้น แต่ต้องการให้เธอเป็นมนุษย์ด้วย)

    ทุกวันนี้เฝ้าถามตัวเองอยู่บ่อยครั้งว่า ทำไมเราต้องมาเป็นหมอ ...
    ยังจำได้ว่า วันแรกที่เด็กโรงเรียนประจำอำเภอ อย่างฉัน เอนท์ติดหมอ ซึ่งเป็นคนเดียวในโรงเรียนตอนนั้น ฉันร้องไห้น้ำตาไหล พลางวิ่งไปกอดและกราบเท้าพ่อและแม่ ที่ทำให้ฉันได้มีวันนี้ หากไม่มีท่านทั้งสอง ฉันคงไม่มีกำลังใจจะเอนท์ติดคณะนี้แน่ๆ เพราะฉันไม่เคยอยากเรียน ไม่ใช่อาชีพในฝัน แต่อยากเรียนหมอ เพื่อ ให้ "พ่อและแม่" ภูมิใจ ลบคำดูถูกของคนในตลาด และสร้างชื่อเสียงในวงศ์ตระกูล...

    บัดนี้ฉันเรียนมาถึงปีสุดท้ายของการเรียนแพทย์ นั่นคือปีที่ 6 ...
    การเรียนที่เต็มไปด้วยน้ำตา และความหวาดกลัว....กลัวอะไร
    กลัวเยอะมาก กลัวรุ่นพี่ กลัวคะแนนสอบไม่ดี กลัวสอบตก กลัว กลัว และกลัว...

    ตลอดเวลาที่ผ่านมา เมื่อชีวิตเริ่มเข้าใกล้ชีวิตของคนเป็นหมอมากขึ้น ฉันเริ่มค้นหาคำตอบในตัวเอง ทั้งๆที่ฉันอยากเป็นเภสัช ทั้งๆที่ฉันอยากเป็นนักร้อง แล้วทำไม ฉันต้องมาลำบากเรียนหมอ ตื่นแต่เช้า อ่านหนังสือหนักมาก และเสียเวลาความเป็นส่วนตัว เพื่อเอาความรู้ไปใช้ในการรักษาคนไข้ ซึ่งเขาก็ไม่ได้เป็นญาติอะไรกับเราเลยสักนิด.....
    ฉันเกลียดเสียงโทรศัพท์จากพยาบาลที่โทรมาปลุกฉันตอนฉันหลับไปแล้วเสมอๆ
    ฉันเกลียดการอยู่เวร
    ฉันเกลียดการที่ต้องอดตาหลับขับตานอนเพื่อลุกขึ้นมาดูคนไข้ ตอนตี 3!

    ...................
    แต่...ในวันทื่ฉันเริ่มร้องไห้บ่อยขึ้น และหนักขึ้นทุกวัน...
    โดยที่ฉันเองก็ไม่เคยบอกใคร


    แม่ของฉัน ซึ่งเป็นผู้หญิงคนแรกและคนเดียวที่ฉันสนิทด้วยมากที่สุด ก็โทรมาพร้อมกับเสียงปลายสายบอกว่า "ลูกก้อย ใกล้จบแล้วนะลูก แม่ซื้อเสื้อไว้รอรับปริญญาหนูแล้ว ..." และแม่ก็เริ่มเล่าถึงเรื่องราวในอดีต สมัยที่ฉันและแม่เฝ้าตระเวนไปเรียนพิเศษด้วยความยากลำบากมาก แต่มีอยู่เรื่องราวหนึ่งที่แม่ไม่เคยบอกฉัน....

    แม่ของฉันเป็นคนธรรมะธัมโม และท่านมักจะชอบไหว้พระทำบุญเสมอๆ
    แม่ฉันบอกว่า "แม่ไปขอพระบิดา ให้ลูก ว่าขอให้ลูกคนสุดท้าย (คือฉันเอง) ติดเป็นหมอด้วยเถิด เพือรับใช้เบื้องพระยุคลบาท รับใช้ประชาชน รักษาคนยากคนจน ยามป่วยไข้ ขอให้ลูกคนสุดท้ายติดคณะแพทย์ด้วยเถิด"



    ...........................
    .............
    .......................


    แม่........

    แม่พูดอะไรออกไป.............

    ฉันนิ่งงันราวกับถูกมนต์สะกด โดยที่ผู้เป็นแม่ยังคงเล่าเรื่องราวแต่ครั้งอดีตให้ฉันฟัง

    ทำไมแม่ไม่ถามฉันสักคำว่า ฉันอยากเป็นหมอไหม
    แม่รู้ไหม กว่าจะจบเป็นแพทย์ มันเหนื่อยมากสาหัสแค่ไหน กับคนที่หัวไม่ดีและเข้าใจอะไรยากแบบหนู

    แม่ไปสัญญากับพระบิดาแบบนั้น....แล้วฉันจะทำยังไง

    ฉันนั่งคิดถึงคำพูดของแม่หลายวัน ในขณะเดียวกันที่ฉันก็ร้องไห้อย่างหนักทุกวัน...............


    สองสามวันต่อมา โดยที่ฉันไม่เคยคิดถึงพระองค์ท่าน
    ฉันฝันถึง พระบิดา , สมเด็จย่า และรัชกาลที่ 9

    เมื่อไม่นานมานี้ ฉันก็ฝันถึง รัชกาลที่ 5
    ฉันเห็นใบหน้าของท่านเต็มๆ
    ท่านลูบหัวฉันและบอกฉันว่า "ทำดีแล้วลูก"

    และสองสามวันต่อมา ฉันก็ฝันเห็นในหลวงและสมเด็จย่าอีก......


    ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
    ความอ่อนล้าและน้ำตาในใจของฉันได้หายไปหมดสิ้น

    แม้ในใจฉันอยากจะเลิกเรียนแค่ไหน อยากจะร้องไห้แค่ไหน ก็ทำไม่ได้แล้ว

    เหมือนท่านมาให้กำลังใจฉัน

    ทุกวันนี้ ฉันมีกำลังใจในการเรียนและดูแลคนไข้ขึ้นมามาก

    ฉันรู้แต่เพียงว่า

    ฉันต้องเป็นหมอที่ดี พยายามศึกษาหาความรู้เพื่อเทิดทูนบุญคุณบิดามารดา , พระบิดา, สมเด็จย่า, ในหลวง, อาจารย์ใหญ่, คนไข้ และครูอาจารย์ทุกคน

    ฉันบอกกับตัวเองว่า ถึงจะลำบากแค่ไหน ก็ต้องอดทน เพื่อพระบิดา เพื่อคนไข้ เพื่อพ่อและแม่

    ฉันต้องเรียนแข่งกับตัวเองให้ได้ พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด

    ฉันคิดว่าท่ามกลางผู้คนมากมาย ที่เราคิดว่าไม่มีใครสนใจเราเลยนั้น

    ยังมีบางสิ่งจากเบื้องบนคอยมองเราตลอดเวลา

    ฉันจะไม่สนใจอะไรอีกแล้ว

    นอกจากการเรียนและความรู้เพื่อนำไปรักษาคนไข้

    ฉันเคยสงสัยว่าตัวเองเกิดมาทำไม และอะไรคือคุณค่าสูงสุดในชีวิตของฉัน

    หลังจากที่ฉันเฝ้าถามตัวเองมานาน บัดนี้ฉันก็ได้รู้แล้ว

    ขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน

    ขอบคุณคุณแม่

    ขอบคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านที่คอยช่วยเหลือลูกมาตลอด

    ขอบคุณตัวหนังสือทุกตัวที่ลูกได้อ่าน

    ขอบคุณคนไข้ที่เป็นเสมือนอาจารย์ของลูกทุกคน

    วันนี้ลูกจะพยายามเป็นหมอที่ดี เพราะลูกได้รู้แล้ว

    ว่าคุณค่าสูงสุดที่แท้จริงในชีวิตลูกคืออะไร

    และลูกจะทำความดีทุกๆอย่าง ที่ถึงแม้กระทั่งลูกตายในวินาทีนี้ ลูกก็จะไม่เสียใจ

    ลูกขอสัญญาค่ะ...

    BY: มรกต จงจินตรักษา นิสิตแพทย์ มศว ปีที่ 6
    2 พฤศจิกายน 2552
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2009
  2. chevasit

    chevasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +424
    ขอเป็นกำลังใจให้ด้วยคน... ขอพลังจงอยู่กับคุณ!!! สู้ๆนะ
     
  3. Igiko_L

    Igiko_L เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,407
    ค่าพลัง:
    +2,836
    รุ่นพี่ พยายามนะค่ะ รุ่นพี่ตั้งใจดี ต้องทำได้สำเร็จแน่นอนค่ะ เอาใจช่วย( -_-? ใครอะ พี่คงคิดแบบนี้)รุ่นน้องคือ รุ่นน้องที่จะเรียนแพทย์ มีมีอุดมการณ์เหมือนพี่ไงค่ะ
    จำได้มา เมื่อ4ปีก่อน เคยไปบนไว้กับ(ที่พี่เอามาลงนี้ละคะ)พระบิดาที่ โรงพยาบาลศิริราช แล้วก็ฝันว่า "ยังไม่ถึงเวลา รอไปอีก4ปี" ฝันแบบนั้น โกรธมาก ก็4ปี จะไม่ให้โกรธได้ไง ใครจะรอเลยทำงาน จนวันนี้ครบ4ปี ได้เจอพี่ใจบุญ มาถามว่ายังอยากเรียนแพทย์อยู่ไหม หนูก็บอก คงรอชาติหน้าแล้วละ พี่คนนั้นบอกว่า ถ้ายังอยากช่วยคน ไปสอบนะ เรื่องเงินพี่จะช่วยทุกอย่าง จากที่เคยคิดว่า ต้องรอชาติหน้า กลับ ได้ไปสอบแล้ว การสอบก็ รู้สึกดีเหมือนกับว่า ทำดีแล้วความดีไม่หายไปไหน ตอบแทนกลับมา
    แต่ตอนที่สมัครไม่ได้ลงแพทย์ศิริราช ด้วย(งอนให้รอนาน) แต่ปริ๊นใบสมัครไม่ออกหลายครั้งก็ไม่ออก เอ...ทำไมนะ เลยเปลี่ยนจากแพทย์ ....มาเป็นแพทย์ ศิริราช แค่เปลี่ยนนะคะ ยังไม่กดokเลย เครื่องปริ๊น ทำงานแล้ว ได้ใบสมัคร ลงแพทย์ ศิริราชเลย
    ส่วนที่อยากเรียนแพทย์ คือเพราะแม่ไม่สบาย แค่นั้น ทุกอย่างเปลี่ยนไป ตั้งแต่ฐานะ พี่น้องแยกย้ายตัวใครตัวมัน เลยคิดว่า ถ้ามีหมอใจดี(แบบพี่) ครอบครัวหนูคงไม่เป็นแบบนี้ หนูก็อยากเป็นหมอกลับไปทำงาน ช่วยคนเหมือนพี่ละคะ ไม่เลือกยากดีมีจน จะแบ่งเงินเดือนทุกครั้งไว้ครึ่งหนึ่งเพื่อช่วยคนป่วยที่ต้องผ่าตัด(เหมือนแม่หนู )ด้วยคะ
    ขอให้พี่สมหวัง โชคดีในสิ่งที่ตั้งใจนะคะ เอาใจช่วยค่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2009
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,424
    ค่าพลัง:
    +21,326
    อนุโมทนากับน้องด้วยครับเห็นน้องตั้งใจมานานแล้ว..............

    มันต้องมีวันของเรา....ไม่วันใดก็วันหนึ่ง.....

    พยายามเข้าครับแต่อย่าเอาใจไปกับเรื่องรักมากเกินไป.เรื่องนั้นเดี๋ยวมันมาเอง
     
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,424
    ค่าพลัง:
    +21,326
    ขอให้ได้สมดั่งปนิธานที่ตั่งใจไว้ครับ คุณหมอในอนาคตอันใกล้
     
  6. แก้วจุฬามณี

    แก้วจุฬามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +246
    ครือว่า...ไม่ได้อยู่แวดวงหมอ .... แต่พระบิดาการแพทย์ไทยคือ พระบิดาของ ร.8 และร.9 ไม่ใช่เหรอค่ะ
     
  7. ไม้บรรทัด

    ไม้บรรทัด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2008
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +293
    คงไม่เหนื่อยหรอก
    แค่เพียง
    ช่วง อารมรณ์เบื่อ ขี้เกียจ ท้อ บางขณะ เท่านั้นเอง

    ความสำเร็จ อยู่ที่ ใจ
    ตั้งมั่นใน อิทธิบาท4
    และต้องมี มุมบวก
    ปี6แล้ว อีกนิดเดียว
    เอาให้จบก่อน น่ะ
    จาก
    พี่ ที่เคยเรียนหมอ และ คิดเหมือนน้อง ตอนปีสุดท้าย
    แต่ แตกต่าง???
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2009
  8. อวิชชา

    อวิชชา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +74
    พระบรมราชชนก ไม่ใช่รัชกาลที่ ๘ นะครับ รัชกาลที่แปด คือ พระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลครับ
     
  9. jarung18

    jarung18 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +655
    อนุโมทนาครับ
    ช่วยเตือนสติได้ดีทีเดียว

    เดี๋ยวพอมาทำงาน จะต้องเจออะไรอีกเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    ขอให้น้องจดจำความรู้สึกนี้ให้ดี จะได้ไม่หลงทาง(พี่ก็หลุดไปหลายรอบแล้ว 555)

    ในชีวิต เราอาจจะไม่ได้ทำในสิ่งที่ชอบเสมอไป
    แต่ถ้าเราปรับมุมมองซะใหม่ และเลือกที่จะมีความสุขกับสิ่งที่ทำ สิ่งที่มีอยู่
    น่าจะเป็นการดีกว่า
    บางครั้งสิ่งที่เราปฏิเสธมาโดยตลอด(อาจจากความไม่ชอบจริงๆ ความท้อแท้ เหนื่อย กลัวฯลฯ --> จนทำให้เราสร้างข้ออ้างต่างๆมากมาย<ไม่ใช่ฉัน มันยากเกินไป ทำไม่ได้หรอก> มาจำกัด หยุดตัวเอง หลอกตัวเอง หรือปกป้องตัวเองจากความรู้สึกล้มเหลว ผิดหวัง หรือการทำสิ่งผิดพลาด)
    แต่หากมีจุดหมายที่ชัดเจนในการก้าวไปข้างหน้า อุปสรรคต่างๆที่เข้ามา มันก็จะเป็นแค่สิ่งที่เราต้องเผชิญและข้ามผ่านไปให้ได้เท่านั้นเอง และไม่มีทางที่เราจะยอมหันเหหรือเปลี่ยนเส้นทางเพียงแค่เจออุปสรรคที่ยากกว่า(ซึ่งมันจะมีมาเรื่อยๆ) อาจมีหยุดพักเพื่อคิดทบทวนและหาวิธีการบ้างก็บางครั้ง
    และหากเปิดใจยอมรับได้ เราจะพบแง่มุมดีๆมากมายอย่างคาดไม่ถึงทีเดียว

    จะมีคุณค่าหรือไม่ อยู่ที่ตัวเราเอง
    ไม่มีใครเพิ่มหรือลดคุณค่าเราได้นอกจากตัวเรา
    แม้มีคนมองหรือไม่ก็ตาม บางอย่างอาจจะยึดไว้ได้บ้างเพื่อเป็นกำลังใจ หรือเป็นที่ระลึกยามท้อแท้ แต่สิ่งที่สำคัญคือความดีงามที่เราสร้างไว้มันจะประจักษ์แก่ใจของเราเองนะจ้ะ

    คนเขียนก็ยังคงพยายามทำให้ได้เช่นกัน
    :)
     
  10. Igiko_L

    Igiko_L เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,407
    ค่าพลัง:
    +2,836
    :boo:ได้ยินมาว่าเป็นบิดา ของ ร.8และ ร.9 เพราะที่ในโรงพยาบาลศิริราช มีภาพพระฉาย ของ ทั้งคู่ คะ
     
  11. bingping

    bingping เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2005
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +391
    พระบิดาแห่งการแพทย์ไทยคือ พระบรมราชชนก และรูปข้างบนเป็นรูปของพระราชบิดา(พระบรมราชชนก)ครับ
     
  12. 117Black-sheep

    117Black-sheep เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +100
    เรียน อันไหนก็คงลำบาก และเหนื่อยเหมือนๆกันล่ะมั้งคะ


    ทำดี ทำบุญ อยู่ที่ตัวเรา


    เอาใจช่วยทุกคน ค่ะ
    ^^
     
  13. simnonglek

    simnonglek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +107
    เอาใจช่วยค่ะ คิดเสียว่าเป็นหมอก็ยังดีกว่าเป็นคนป่วยนะคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...