พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จับทันควัน มือบีบคอฆ่าสาวโรงแรม คาป้ายรถเมล์กรุง

    ��Ң���׹ �պ�� �ԧ��Ѿ�� ����ç��� �һ���ö����




    [​IMG]


    สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยรัฐ

    วันนี้ (1 ตุลาคม) เวลาประมาณ 09.00 น. ตำรวจ สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุพบศพผู้หญิงถูกทำร้ายเสียชีวิต บริเวณหลังป้ายรถเมล์ใกล้กับซอยรามคำแหง 64 ตรงข้ามวัดศรีบุญเรือง ซึ่งเป็นป่ากระถินเปลี่ยว เจ้าหน้าที่พบศพ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 28 ปี พนักงานต้อนรับโรงแรมเดวิส ย่านสุขุมวิท สภาพศพเป็นหญิงสาวหน้าตาดี ไว้ผมยาว สวมเสื้อยืดสีขาว ท่อนล่างเปลือย

    ต่อมามีชาวบ้านแจ้งว่าพบผู้ต้องสงสัยวิ่งเข้าไปภายในซอยรามคำแหง 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงระดมกำลังทั้งสายสืบและสายตรวจ พร้อมด้วยชาวบ้านในละแวกนั้น เข้าปิดล้อมโดยรอบที่เกิดเหตุ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็สามารถจับกุมคนร้ายไว้ได้ ทราบชื่อ นายสุวิทย์ บุญไพโรจน์ อายุ 24 ปี พนักงานสโตร์โฮมโปร ย่านรามคำแหง จึงได้นำตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำที่ สน.หัวหมาก

    โดย นายสุวิทย์ รับสารภาพว่า ลงมือบีบคอฆ่าผู้ตายจริง แต่ไม่ได้ข่มขืน ก่อนก่อเหตุตนเดินมาที่ป้ายรถเมล์ช่วง 05.00-06.00 น. เห็นผู้ตายนั่งอยู่ที่ป้ายรถเมล์เพียงลำพัง ด้วยความเมา จึงเข้าไปขอเงินผู้ตายเพื่อไปหาแฟนที่รัชดาฯ แต่ผู้ตายไม่ให้ จึงตะคอกใส่ว่าจะให้ดี ๆ หรือจะให้ใช้กำลัง ตอนนั้นผู้ตายพยายามต่อสู้ขัดขืน ตนจึงผลักผู้ตายล้มแล้วลากเข้าไปในป่าหลังป้ายรถเมล์ หลังจากนั้นก็ต่อยเข้าที่ใบหน้า และบีบคอ แต่ผู้ตายยังดิ้นพยายามต่อสู้ ตนจึงบีบคออย่างแรงจนผู้ตายแน่นิ่ง แล้วล้วงเอาเงินของผู้ตาย 120 บาท

    "ไม่อยากให้คนรู้ว่าฆ่าผู้ตายเพราะชิงเงินเพียง 120 บาท จึงตัดสินใจถอดกางเกงผู้ตายออกแล้วใช้นิ้วมือแหย่เข้าไปในอวัยวะเพศทำให้เหมือนข่มขืน แต่ตอนนั้นข่มขืนไม่ได้เพราะอวัยวะเพศไม่แข็ง หลังก่อเหตุพบว่ามีคนมาเห็นจึงรีบไปที่ห้องพักด้านหลังโฮมโปร ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าที่จะหลบหนี หลังเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็มาเดินวนเวียนใกล้ที่ก่อเหตุ แต่มีคนจำหน้าได้จนถูกล้อมจับกุมในที่สุด" นายสุวิทย์ กล่าว

    ภายหลัง นายสุทัศน์ อายุ 31 ปี แฟนของผู้ตาย เดินทางมาดูศพ พร้อมทั้งกล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนกับผู้ตายทำงานเป็นพนักงานต้อนรับที่โรงแรมแห่งเดียวกัน พักอยู่ที่อพาร์ตเม้นต์ตรงข้ามที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นศพแฟนถึงกับเข่าอ่อนทำอะไรไม่ถูก และวันนี้นัดกันว่าจะพาแฟนไปพบพ่อกับแม่ตนที่ย่านดอนเมือง มีโครงการหมั้นหมาย และแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้ แต่มาเกิดเหตุร้ายเสียก่อน ตนเสียใจมากที่ปล่อยให้แฟนมาขึ้นรถเมล์เพียงลำพังตอนเช้ามืดจนเกิดเหตุร้ายขึ้น


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    [​IMG]

    -------------------------------------

    คนพวกนี้ น่าจะจับตายให้หมด
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    กทม.ปรับ100บ.ผู้ทิ้งขยะในที่สาธารณะ

    ��� ��Ѻ��駢�� 㹷���Ҹ�ó������ 1 ���Ҥ�


    [​IMG]

    กทม.ปรับจริงขั้นต่ำ100บาท ทิ้งตั๋วรถเมล์-ก้นบุหรี่ (กรุงเทพธุรกิจ)

    ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วย นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ราชการกรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตพระนคร และ ผู้ขับรถแท็กซี่โดยสาร ประมาณ 50 คน ร่วมประกาศเจตนารมณ์ และ รณรงค์ให้ประชาชนชาวกรุงเทพ ร่วมสร้างมหานครให้เป็นเมืองที่สะอาด ด้วยการไม่ทิ้งขยะในพื้นที่สาธารณะ ตามโครงการ "ทิ้ง จับ ปรับ"

    ผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. นี้ เจ้าหน้าที่ กทม. จะเริ่มดำเนินโครงการในระยะเข้มข้น ด้วยการปรับผู้ที่ทิ้งขยะในพื้นที่สาธารณะ เป็นเงินจำนวน 100 บาท ไม่เว้นแม้แต่ก้นบุหรี่ หรือ ตั๋วรถโดยสารประจำทาง เนื่องจากตนเชื่อว่า หากมีคนทิ้งขยะดังกล่าวจำนวนมาก ๆ ก็จะสร้างความสกปรกให้กับพื้นที่เช่นเดียวกัน ซึ่ง กทม. ได้ตั้งจุดตรวจจับ - ปรับในพื้นที่ 50 เขต อาทิ ย่านสยามสแควร์ สนามหลวง เป็นต้น และ ทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน จะมีการกระตุ้นเตือน และ ย้ำให้ประชาชนรับทราบว่า ต้องทิ้งขยะลงถัง ทั้งนี้ ในปลายเดือนตุลาคม กทม. จะนำถังขยะมาตั้งวางในพื้นที่สาธารณะเพิ่มเติมอีกจำนวน 2,200 ถัง และ ตั้งเป้าไว้ว่า ปลายปีนี้จะติดตั้งถังขยะเพิ่มให้ได้อีก 20,000 ถัง

    ส่วนการดำเนินโครงการช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตักเตือนประชาชนไปแล้วกว่า 2,000 ราย ส่วนการจัดระเบียบคนใช้พื้นที่สาธารณะนั้น คาดว่า จะใช้เวลาอีกระยะหนึ่งที่การดำเนินโครงการจะประสบความสำเร็จ ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการจัดระเบียบฯ เดือนตุลาคมนี้ จะมีการหารือถึงความเป็นไปได้ที่จะทำบัตรประจำตัวประชาชนให้กับบุคคลดังกล่าว

    ในวันที่ 1 ต.ค. นี้ ประชาชนและผู้ค้าย่านคลองหลอดและสนามหลวง จะร่วมรณรงค์ล้างทำความสะอาดพื้นที่ พร้อมกับปรับทัศนียภาพของพื้นที่ให้มีความสวยงามด้วย




    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    [​IMG]
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    การจองหนังสือ "ปู่เล่าให้ฟัง"
    #33681
    #33682
    #33685

    สามารถจองได้ เล่มละ 500 บาท

    หากจองตั้งแต่ 20 เล่มขึ้นไป ผมมอบพระสมเด็จ(กลักไม้ขีด) ให้ 1 องค์

    และผมขอค่าจัดส่งหนังสือ 100 บาท (เป็นการจัดส่งแบบลงทะเบียน) หากจำนวนเงินในการจัดส่งไม่ถึง 100 บาท ผมขอนำเงินในส่วนที่เหลือสมทบทุนการจัดพิมพ์ครั้งต่อไปหรือสมทบทุนการจัดพิมพ์หนังสือวิเคราะห์พระสมเด็จและสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าครับ

    ส่วนสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า รายละเอียดการจอง ผมส่งให้ทุกๆท่านทาง Email ส่วนค่าจัดส่งไม่ต้อง เพราะเราต้องพบกันในการประชุมอยู่แล้วครับ

    ระยะเวลาตั้งแต่วันจันทร์ที่ 14 กันยายน 2552

    สิ้นสุดวันพุธที่ 30 กันยายน 2552

    การจองหนังสือ ต้องโอนเงินภายในวันที่ 30 กันยายน 2552 หากยังไม่ได้โอนเงินภายในระยะเวลาที่กำหนด ผมขออนุญาตยกเลิกการจองหนังสือ (หลังจากนั้นผมจะปิดบัญชีนี้) ครับ

    รายนามผู้จอง
    1.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->nongnooo (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 1 เล่ม โอนเงินแล้วเมื่อ 19.92552/ จำนวน 1,000 บาท
    2.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->แหน่ง<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2434226", true); </SCRIPT> (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 3 เล่ม ยังไม่ได้โอนเงิน (ไปมอบเงินในวันนัดพบกันเดือนตุลาคม 2552)
    3.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->jirautes<!-- google_ad_section_end --> จอง 1 เล่ม โอนเงินแล้ว 500 บาท และค่าจัดส่ง 100 บาท เมื่อ 19.92552/
    4.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->พรสว่าง_2008<!-- google_ad_section_end --> (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 1 เล่ม มอบเงินแล้ว 30.92552/
    5.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->psombat<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2435705", true); </SCRIPT> <!-- google_ad_section_end -->(ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 2 เล่ม มอบเงินแล้ว 19.92552/
    6.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ลุงจิ๋ว<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2435951", true); </SCRIPT> <!-- google_ad_section_end -->จอง 1 เล่ม โอนเงินแล้ว 500 บาท และค่าจัดส่ง 100 บาท เมื่อ 28.92552/
    7.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Natachai<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2408238", true); </SCRIPT> จอง 1 เล่ม ยังไม่ได้โอนเงิน (ผมขอ Email ใหม่อีกครั้ง) ผมขอยกเลิกการจอง เนื่องจาก Email ที่ให้ผมในครั้งแรกไม่ถูกต้อง และได้แจ้งให้ทราบแล้วว่า ขอ Email ใหม่นานแล้ว แต่พึ่งได้มาวันนี้ และหมดระยะเวลาที่ได้แจ้งให้ทราบแล้ว
    8.น้องชาsira (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 1 เล่ม โอนเงินแล้ว 30.92552/
    9.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->มูริญโญ่<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 2 เล่ม โอนเงินแล้วเมื่อ 29.92552/
    10.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Phocharoen<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2438846", true); </SCRIPT> (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 5 เล่ม โอนเงินแล้วเมื่อ 23.92552/
    11.คุณเมตตา <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->(ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 10 เล่ม (ไปมอบเงินในวันนัดพบกันเดือนตุลาคม 2552)
    12.เจ้าของวัดไ..... จอง 5 เล่ม ยังไม่ได้โอนเงิน
    13.คุณchai wong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT> <!-- google_ad_section_end -->จอง 1 เล่ม โอนเงินแล้ว 500 บาท และค่าจัดส่ง 100 บาท เมื่อ 26.92552/
    14.คุณkiitii จอง 2 เล่ม โอนเงินแล้ว 1,000 บาท และค่าจัดส่ง 200 บาท เมื่อ 28.92552/ และร่วมทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งอีก 300 บาท
    15.คุณdragonlord<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) --> (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 1 เล่ม ยังไม่ได้โอนเงิน (ไปมอบเงินในวันนัดพบกันเดือนตุลาคม 2552)
    16.คุณผู้กองท๊อป<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) --> (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 6 เล่ม ยังไม่ได้โอนเงิน (ไปมอบเงินในวันนัดพบกันเดือนตุลาคม 2552)
    17.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->littlelucky <!-- google_ad_section_end -->จอง 1 เล่ม โอนเงินแล้ว 500 บาท และค่าจัดส่ง 80 บาท เมื่อ 30.92552/
    18.คุณธวัช<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) --> (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 4 เล่ม โอนเงินแล้วเมื่อ 30/9/2552
    19.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->sithiphong (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 5 เล่ม ยังไม่ได้โอนเงิน(ไปมอบเงินในวันนัดพบกันเดือนตุลาคม 2552)

    รวมจำนวน 52 เล่ม

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]


    โมทนาสาธุครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    <!-- google_ad_section_end -->
    หมายเหตุ มาสอบถามท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้าทุกๆท่าน

    หากชมรมจะบริจาคในการจัดพิมพ์ครั้งนี้ ทุกๆท่านคิดเห็นอย่างไร และควรจะบริจาคเท่าไหร่ ยอดเงินในบัญชีปัจจุบันมีอยู่จำนวน 15,732.34 บาทครับ

    หมายเหตุ1. หนังสือจะเริ่มการจัดพิมพ์ประมาณต้นเดือนตุลาคม คาดว่าแล้วเสร็จประมาณต้นหรือกลางเดือนพฤศจิกายน 2552 นี้ครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2009
  4. littlelucky

    littlelucky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +1,938
    พระเศรษฐีนวโกฏิ
    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
    ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
    รอการตรวจสอบ

    พระเศรษฐีนวโกฏิเป็นรูปเคารพแทนมหาเศรษฐีทั้ง 9 ท่านในสมัยพุทธกาล ท่านเหล่านี้เป็นผู้สร้างคุณประโยชน์อเนกอนันต์ให้แก่พระพุทธศาสนา มีความมั่งคั่งในโภคทรัพย์อยู่ในระดับเดียวกับกษัตริย์ ทั้งยังเป็นสัมมาทิฏฐิ และยังเป็นพุทธอุปฐากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์ทรงยกย่องว่า ท่านเหล่านี้เป็นผู้เลิศในการทำทาน และเป็นยอดของมหาเศรษฐีทั้งปวง เศรษฐีทั้ง 9 นี้ได้แก่ 1.ธนันชัยเศรษฐี 2. ท่านยัสสะเศรษฐี 3. ท่านสุมานะเศรษฐี 4. ท่านชะฏิกัสสะเศรษฐี 5. ท่านอนาถปิณฑิกเศรษฐี 6. ท่านเมนฑะกัสสะเศรษฐี 7. ท่านโชติกะเศรษฐี 8. ท่านสุมังคะกัสสะเศรษฐี 9.ท่านวิสาขามหา อุบาสิกา ผู้รู้ได้ถือเอาคตินี้มาสร้างเป็นพระนวโกฏิให้มีพระพักตร์ทั้งหมด 9 พระพักตร์ แทนใบหน้าของนวเศรษฐีทั้งเก้าในสมัยพุทธกาล เชื่อว่ามีคุณทางโชคลาภ อำนวยลาภสักการะ และความร่มเย็นเป็นสุขแก่ผู้เลื่อมใสบูชา


    [แก้] ประวัติ

    มหาเศรษฐีทั้ง 9 ท่านนี้ ล้วนสำเร็จเป็นพระอริยบุคคล ทั้งที่ดำรงเพศฆราวาสอยู่ ตามตำนานของชาวล้านนา สมัยหนึ่งเกิดทุกข์เข็ญ ทุพภิกขภัยข้าวยากหมากแพง ประชาชนเดือดร้อน บังเกิดความอดอยากขึ้น จึงมีพระภิกษุผู้เป็นอริยะรูปหนึ่ง ได้แนะนำให้สร้างพระเศรษฐีนวโกฏิขึ้น เพื่อทำการสักการบูชาแก้เคล็ดในความทุกข์ยากทั้งหลาย และเมื่อสร้างและทำการฉลองสำเร็จ ก็ปรากฏมีเหตุการณ์ปรากฏขึ้นเป็นอัศจรรย์คือ ความทุกข์ยากอดอยากทั้งหลาย ได้บรรเทาลงและสงบระงับในที่สุด จึงเป็นคติที่เชื่อถือของชาวล้านนาว่า ถ้าผู้ใดได้บูชาพระเศรษฐีนวโกฏิแล้ว จะมีสิริมงคล ทำมาค้าขึ้น ประสบแต่โชคลาภ อยู่เย็นเป็นสุข ด้วยอานิสงส์แห่งบารมีธรรมของเศรษฐีทั้ง 9 ท่าน


    [แก้] การสร้างพระเศรษฐีนวโกฏิ

    [[พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจนฺโท)]] ยอป่า ราชพฤกษ์ ตะกรุดเงิน ทองคำ ครั่ง ชันนะโรง ขี้ผึ้ง สีวลี คาถา [[ มาขะโยมาวะโย มัยหังมา จะโกจิ อุปัททะโว ธัญญะธารานิเม ปะวัสสันตุ ธนันชัยยัสสะ ยะถาคะเร สุวัณณานิหิรัญญาจะ สัพพะโภคาจะรัตตะนา ปะวัสสันตุเม เอวังคาเร สุมะนะปฏิลัสสะจะ อะนาถะปิณฑิกะ เมณฑะกัสสะโชติกะ มันธาตุเวสสันตะรัสสะ ปะวัสสันติ ยะถาคะเร เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ สัพพะสิทธิ ภะวันตุเม]] ปลุกเสกคาบ คาถาจินดามณีกำลังวัน
    [แก้] อานิสงส์การบูชา

    เชื่อว่าจะอำนวยลาภผลโภคทรัพย์ตามสมควร ปกปักรักษาให้บ้านเรือนร่มเย็นเป็นสุข มีความเจริญรุ่งเรือง และป้องกันภยันตรายสิ่งไม่ดีไม่งามต่างๆ ปัจจุบันมีอยู่น้อยมากที่จะสร้างได้อย่างถูกต้องตามตำราดั้งเดิม.

    ที่มา:พระเศรษฐีนวโกฏิ
     
  5. littlelucky

    littlelucky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +1,938
    พระเศรษฐีนวโกฏิ
    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
    ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
    รอการตรวจสอบ

    พระเศรษฐีนวโกฏิเป็นรูปเคารพแทนมหาเศรษฐีทั้ง 9 ท่านในสมัยพุทธกาล ท่านเหล่านี้เป็นผู้สร้างคุณประโยชน์อเนกอนันต์ให้แก่พระพุทธศาสนา มีความมั่งคั่งในโภคทรัพย์อยู่ในระดับเดียวกับกษัตริย์ ทั้งยังเป็นสัมมาทิฏฐิ และยังเป็นพุทธอุปฐากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์ทรงยกย่องว่า ท่านเหล่านี้เป็นผู้เลิศในการทำทาน และเป็นยอดของมหาเศรษฐีทั้งปวง เศรษฐีทั้ง 9 นี้ได้แก่ 1.ธนันชัยเศรษฐี 2. ท่านยัสสะเศรษฐี 3. ท่านสุมานะเศรษฐี 4. ท่านชะฏิกัสสะเศรษฐี 5. ท่านอนาถปิณฑิกเศรษฐี 6. ท่านเมนฑะกัสสะเศรษฐี 7. ท่านโชติกะเศรษฐี 8. ท่านสุมังคะกัสสะเศรษฐี 9.ท่านวิสาขามหา อุบาสิกา ผู้รู้ได้ถือเอาคตินี้มาสร้างเป็นพระนวโกฏิให้มีพระพักตร์ทั้งหมด 9 พระพักตร์ แทนใบหน้าของนวเศรษฐีทั้งเก้าในสมัยพุทธกาล เชื่อว่ามีคุณทางโชคลาภ อำนวยลาภสักการะ และความร่มเย็นเป็นสุขแก่ผู้เลื่อมใสบูชา


    [แก้] ประวัติ

    มหาเศรษฐีทั้ง 9 ท่านนี้ ล้วนสำเร็จเป็นพระอริยบุคคล ทั้งที่ดำรงเพศฆราวาสอยู่ ตามตำนานของชาวล้านนา สมัยหนึ่งเกิดทุกข์เข็ญ ทุพภิกขภัยข้าวยากหมากแพง ประชาชนเดือดร้อน บังเกิดความอดอยากขึ้น จึงมีพระภิกษุผู้เป็นอริยะรูปหนึ่ง ได้แนะนำให้สร้างพระเศรษฐีนวโกฏิขึ้น เพื่อทำการสักการบูชาแก้เคล็ดในความทุกข์ยากทั้งหลาย และเมื่อสร้างและทำการฉลองสำเร็จ ก็ปรากฏมีเหตุการณ์ปรากฏขึ้นเป็นอัศจรรย์คือ ความทุกข์ยากอดอยากทั้งหลาย ได้บรรเทาลงและสงบระงับในที่สุด จึงเป็นคติที่เชื่อถือของชาวล้านนาว่า ถ้าผู้ใดได้บูชาพระเศรษฐีนวโกฏิแล้ว จะมีสิริมงคล ทำมาค้าขึ้น ประสบแต่โชคลาภ อยู่เย็นเป็นสุข ด้วยอานิสงส์แห่งบารมีธรรมของเศรษฐีทั้ง 9 ท่าน


    [แก้] การสร้างพระเศรษฐีนวโกฏิ

    [[พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจนฺโท)]] ยอป่า ราชพฤกษ์ ตะกรุดเงิน ทองคำ ครั่ง ชันนะโรง ขี้ผึ้ง สีวลี คาถา [[ มาขะโยมาวะโย มัยหังมา จะโกจิ อุปัททะโว ธัญญะธารานิเม ปะวัสสันตุ ธนันชัยยัสสะ ยะถาคะเร สุวัณณานิหิรัญญาจะ สัพพะโภคาจะรัตตะนา ปะวัสสันตุเม เอวังคาเร สุมะนะปฏิลัสสะจะ อะนาถะปิณฑิกะ เมณฑะกัสสะโชติกะ มันธาตุเวสสันตะรัสสะ ปะวัสสันติ ยะถาคะเร เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ สัพพะสิทธิ ภะวันตุเม]] ปลุกเสกคาบ คาถาจินดามณีกำลังวัน
    [แก้] อานิสงส์การบูชา

    เชื่อว่าจะอำนวยลาภผลโภคทรัพย์ตามสมควร ปกปักรักษาให้บ้านเรือนร่มเย็นเป็นสุข มีความเจริญรุ่งเรือง และป้องกันภยันตรายสิ่งไม่ดีไม่งามต่างๆ ปัจจุบันมีอยู่น้อยมากที่จะสร้างได้อย่างถูกต้องตามตำราดั้งเดิม.

    ที่มา:พระเศรษฐีนวโกฏิ
     
  6. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137

    555555 ผมจาบอกให้ พอคลิกถึงคลิกที่ 999,999 แล้ว คนที่ 1 ล้าน จะเริ่มมาที่ 1ใหม่นะ5555555 ทดสอบล้านต่อไป...
     
  7. sira

    sira เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    239
    ค่าพลัง:
    +1,331
    พี่หนุ่มครับ ยอดจองของผมลดลงนะครับ จาก2เล่ม เหลือ 1 เล่ม ครับ รบกวนแก้ไขให้ด้วยครับผม
    ขอบคุณครับ
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ถ้าจำไม่ผิด คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->:::เพชร:::<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2477488", true); </SCRIPT> มีบูชาที่บ้านด้วยเหมือนกันครับ

    เป็นพระบูชา 9 นิ้วซะด้วยสิ

    อย่าลืมหามาเผื่อผมด้วยนะครับ อิอิ ผมมีแค่องค์เดียวเอง
     
  11. ธนนท์

    ธนนท์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +0
    สวัสดีครับคุณ Sithipong,

    ไม่ทราบว่าผมจะขอจองหนังสือ "ปู่เล่าให้ฟัง" จะทันหรือไม่ครับ ถ้าปิดรับแล้วจะมีทางใดบ้างที่จะได้หนังสือครับ

    ขอบคุณครับ
    ธนนท์ ศรีมณีกุลโรจน์

    ปล ผม upload รูปพระปิดตาเพื่อขอให้คุณช่วยดูว่าสร้างโดยหลวงปู่บรมครูโลกอุดรหรือไม่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    หนังสือเล่าให้ฟัง คงต้องรอให้พิมพ์เรียบร้อยก่อน และขอดูว่ายังคงเหลือหรือไม่นะครับ หากยังคงเหลือ ผมจะมาแจ้งในกระทู้พระวังหน้าฯให้ทราบอีกครั้ง ต้องติดตามในกระทู้พระวังหน้าฯครับ

    ส่วนพระปิดตา ผมเคยบอกในกระทู้พระวังหน้าฯนี้แล้วว่า ผมจะไม่ดูให้ใครอีกแล้วครับ ต้องขอโทษด้วยครับ

    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  14. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ได้ดูแล้วครับผมได้ตอบกลับความเห็นผมตามเมล์แล้วครับ หุ หุ
     
  15. ธนนท์

    ธนนท์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณครับที่ตอบผม แล้วจะรอการแจ้งเกี่ยวกับหนังสือครับ
     
  16. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ไม่ยากนะท่าน แจกเป้าไปคนละ 2000 click 10 คนก็ 20,000 click แล้ว ทันแน่หากต้องการอย่างนั้น นั่งclick เข้าออกทั้งวัน 5555555
     
  17. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เอ่อ..อะไรหรือ...ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ทราบ...
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สรุปการจองหนังสือ "ปู่เล่าให้ฟัง"

    #33681
    #33682
    #33685

    สามารถจองได้ เล่มละ 500 บาท

    หากจองตั้งแต่ 20 เล่มขึ้นไป ผมมอบพระสมเด็จ(กลักไม้ขีด) ให้ 1 องค์

    และผมขอค่าจัดส่งหนังสือ 100 บาท (เป็นการจัดส่งแบบลงทะเบียน) หากจำนวนเงินในการจัดส่งไม่ถึง 100 บาท ผมขอนำเงินในส่วนที่เหลือสมทบทุนการจัดพิมพ์ครั้งต่อไปหรือสมทบทุนการจัดพิมพ์หนังสือวิเคราะห์พระสมเด็จและสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าครับ

    ส่วนสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า รายละเอียดการจอง ผมส่งให้ทุกๆท่านทาง Email ส่วนค่าจัดส่งไม่ต้อง เพราะเราต้องพบกันในการประชุมอยู่แล้วครับ

    ระยะเวลาตั้งแต่วันจันทร์ที่ 14 กันยายน 2552

    สิ้นสุดวันพุธที่ 30 กันยายน 2552

    การจองหนังสือ ต้องโอนเงินภายในวันที่ 30 กันยายน 2552 หากยังไม่ได้โอนเงินภายในระยะเวลาที่กำหนด ผมขออนุญาตยกเลิกการจองหนังสือ (หลังจากนั้นผมจะปิดบัญชีนี้) ครับ

    รายนามผู้จอง
    1.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->nongnooo (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 1 เล่ม โอนเงินแล้วเมื่อ 19.92552/ จำนวน 1,000 บาท
    2.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->แหน่ง<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2434226", true); </SCRIPT> (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 3 เล่ม ยังไม่ได้โอนเงิน (ไปมอบเงินในวันนัดพบกันเดือนตุลาคม 2552)
    3.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->jirautes<!-- google_ad_section_end --> จอง 1 เล่ม โอนเงินแล้ว 500 บาท และค่าจัดส่ง 100 บาท เมื่อ 19.92552/
    4.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->พรสว่าง_2008<!-- google_ad_section_end --> (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 1 เล่ม มอบเงินแล้ว 30.92552/
    5.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->psombat<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2435705", true); </SCRIPT> <!-- google_ad_section_end -->(ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 2 เล่ม มอบเงินแล้ว 19.92552/
    6.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ลุงจิ๋ว<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2435951", true); </SCRIPT> <!-- google_ad_section_end -->จอง 1 เล่ม โอนเงินแล้ว 500 บาท และค่าจัดส่ง 100 บาท เมื่อ 28.92552/
    7.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Natachai<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2408238", true); </SCRIPT> จอง 1 เล่ม ยังไม่ได้โอนเงิน (ผมขอ Email ใหม่อีกครั้ง) ผมขอยกเลิกการจอง เนื่องจาก Email ที่ให้ผมในครั้งแรกไม่ถูกต้อง และได้แจ้งให้ทราบแล้วว่า ขอ Email ใหม่นานแล้ว แต่พึ่งได้มาวันนี้ และหมดระยะเวลาที่ได้แจ้งให้ทราบแล้ว
    8.น้องชาsira (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 1 เล่ม โอนเงินแล้ว 30.92552/
    9.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->มูริญโญ่<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 2 เล่ม โอนเงินแล้วเมื่อ 29.92552/
    10.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Phocharoen<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2438846", true); </SCRIPT> (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 5 เล่ม โอนเงินแล้วเมื่อ 23.92552/
    11.คุณเมตตา <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->(ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 10 เล่ม (ไปมอบเงินในวันนัดพบกันเดือนตุลาคม 2552)
    12.เจ้าของวัดไ..... จอง 5 เล่ม ยังไม่ได้โอนเงิน
    13.คุณchai wong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT> <!-- google_ad_section_end -->จอง 1 เล่ม โอนเงินแล้ว 500 บาท และค่าจัดส่ง 100 บาท เมื่อ 26.92552/
    14.คุณkiitii จอง 2 เล่ม โอนเงินแล้ว 1,000 บาท และค่าจัดส่ง 200 บาท เมื่อ 28.92552/ และร่วมทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งอีก 300 บาท
    15.คุณdragonlord<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) --> (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 1 เล่ม ยังไม่ได้โอนเงิน (ไปมอบเงินในวันนัดพบกันเดือนตุลาคม 2552)
    16.คุณผู้กองท๊อป<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) --> (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 6 เล่ม ยังไม่ได้โอนเงิน (ไปมอบเงินในวันนัดพบกันเดือนตุลาคม 2552)
    17.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->littlelucky <!-- google_ad_section_end -->จอง 1 เล่ม โอนเงินแล้ว 500 บาท และค่าจัดส่ง 80 บาท เมื่อ 30.92552/
    18.คุณธวัช<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) --> (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 4 เล่ม โอนเงินแล้วเมื่อ 30/9/2552
    19.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->sithiphong (ชมรมรักษ์พระวังหน้า) จอง 5 เล่ม ยังไม่ได้โอนเงิน(ไปมอบเงินในวันนัดพบกันเดือนตุลาคม 2552)

    รวมจำนวน 52 เล่ม

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]


    โมทนาสาธุครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    <!-- google_ad_section_end -->
    หมายเหตุ มาสอบถามท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้าทุกๆท่าน

    หากชมรมจะบริจาคในการจัดพิมพ์ครั้งนี้ ทุกๆท่านคิดเห็นอย่างไร และควรจะบริจาคเท่าไหร่ ยอดเงินในบัญชีปัจจุบันมีอยู่จำนวน 15,732.34 บาทครับ

    หมายเหตุ1. หนังสือจะเริ่มการจัดพิมพ์ประมาณต้นเดือนตุลาคม คาดว่าแล้วเสร็จประมาณต้นหรือกลางเดือนพฤศจิกายน 2552 นี้ครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ไหว้พระจันทร์ จากเพื่อความกลมเกลียว เหลือแค่..กินขนม




    [​IMG]
    ไหว้พระจันทร์ จากเพื่อความกลมเกลียว เหลือแค่ ..กินขนม (ไทยรัฐ)

    ค่ำคืนวันที่ 3 ต.ค. หรือตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ตามระบบการนับแบบจันทรคติของชาวจีน ถือเป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญกับชาวจีนทั่วโลกด้วยเป็นวันไหว้พระจันทร์ กล่าวกันว่า ในคืนวันไหว้พระจันทร์ ดวงจันทร์บนท้องฟ้าจะมีความงดงามเป็นพิเศษที่สุดในรอบปี เพราะจะสุกสว่างและมองเห็นเป็นดวงกลมที่สุด

    ซึ่งไม่ว่าจะเป็นที่ประเทศไทย หรือประเทศอื่นๆ ทั่วโลกที่มีชาวจีนไปตั้งถิ่นฐาน ก็จะปฏิบัติเช่นเดียวกัน คือ ตั้งโต๊ะจัดของสักการะบูชาพระจันทร์ เพื่อขอพรให้ครอบครัวและให้กับชีวิตของตนเอง ของแต่ละอย่างบนโต๊ะก็จะมีความหมายต่างๆ กันไป ไม่กำหนดตายตัว แต่ผลไม้ที่ใช้จะเน้นให้เป็นผลกลม นัยว่าเพื่อความกลมเกลียวของคนในครอบครัว

    ศ.ชะภิพร เกียรติคชาธาร ( Prof.Chaphiporn Kiatkachatharn) อาจารย์ประจำคณะภาษาและวัฒนธรรมต่างประเทศ มหาวิทยาลัยเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ( Faculty of Foreign Languages & Culture of Chengdu University) อธิบายไว้ในเว็บไซต์ "สยามไชน่า" siamchina.comว่า วันไหว้พระจันทร์ เป็นคำกล่าวเรียกของคนไทย ที่เรียกตามพิธีการที่คนไทยมองเห็นลูกหลานชาวจีนที่อาศัยอยู่ในเมืองไทยปฏิบัติกัน แต่ถ้ามีความเข้าใจในภาษาจีน ก็จะทราบว่า วันไหว้พระจันทร์ ในความหมายของชาวจีนที่แท้จริงนั้น คืออะไร


    [​IMG]


    "ในภาษาจีน วันเพ็ญเดือนแปด คนจีนเรียกว่า จงชิว ([​IMG]) แปลตามตัวอักษรหมายความว่า กลางฤดูใบไม้ร่วง (จง แปลว่า กลาง , ตรงกลาง ชิว แปลว่า ฤดูใบไม้ร่วง ) ประเทศจีน แบ่งฤดูกาล ออกเป็น สี่ฤดู ในหนึ่งปี ได้แก่ ชุน ( [​IMG]ฤดูใบไม้ผลิ ), เซี่ย ([​IMG]ฤดูร้อน ), ชิว ( [​IMG]ฤดูใบไม้ร่วง ) และ ตง ( [​IMG]ฤดูหนาว ) วันจงชิว หรือวันไหว้พระจันทร์ ก็คือวันที่นับเป็นช่วงตรงกลางของฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งการนับว่าช่วงไหนเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง ต้องนับตามแบบจันทรคติ เช่น ปีนี้วันเพ็ญเดือนแปดทางจันทรคติ ตรงกับวันที่ 3 ต.ค.ของปีปฏิทินสากล"

    ชาวจีนไหว้พระจันทร์ในวันเพ็ญเดือนแปดมาช้านาน ไม่ปรากฏหลักฐานชี้ชัดว่าใครเป็นผู้ริเริ่ม ขณะเดียวกันก็มีตำนาน และเรื่องราวต่างๆ มากมาย ที่สามารถนำมาอ้างอิงถึงความสำคัญของการไหว้พระจันทร์ในวันเพ็ญเดือนแปดได้

    ศ.ชะภิพร เล่าให้ ไทยรัฐออนไลน์ ฟังว่า ในสมัยโบราณก่อนประวัติศาสตร์จีนยุคต้น ชาวจีนต่างนิยมกราบไหว้เทพจันทราในวันเพ็ญเดือนแปด ครั้นล่วงเลยมาถึงยุคต้นของประวัติศาสตร์จีนในสมัยราชวงศ์โจว ชาวจีนก็นิยมไหว้พระจันทร์ในวันเพ็ญเดือนแปด เพื่อเป็นการต้อนรับสู่การย่างเข้าสู่ดูหนาว ซึ่งในสมัยราชวงศ์โจวนี่เอง ประเพณีการไหว้พระจันทร์เริ่มเป็นที่แพร่หลาย และมีเอกลักษณ์ของวันไหว้พระจันทร์ชัดเจนยิ่งขึ้น ได้แก่ เครื่องเช่นไหว้ต่างๆ ซึ่งเครื่องเซ่นไหว้ที่เด่นชัดที่สุด และขาดเสียไม่ได้ในพิธีไหว้พระจันทร์ คือ ขนมไหว้พระจันทร์ และแตงโม

    นักปราชญ์จีนสมัยโบราณ มักนำความคิด แนวปรัชญา นำมาสอดใส่กับวิถีชีวิตของชาวบ้าน และสอนให้ปฏิบัติต่อกันมาเป็นประเพณี โดยที่ชาวบ้านไม่รู้ความหมายที่แท้จริง หากแต่การปฏิบัติตามย่อมเกิดผลดี ชาวบ้านล้วนศรัทธราและให้ความร่วมมือ ในคืนวันไหว้พระจันทร์วันเพ็ญเดือนแปด แท้จริงแล้วก็คือวันครอบครัวของชาวจีน ในสมัยราชวงศ์โจวนั่นเอง

    ดังมีคำกล่าวของนักปราชญ์จีนในสมัยนั้นว่า "ดวงจันทร์กลมเต็มดวงมากที่สุด สมาชิกในครอบครัวก็กลมเกลียวสามัคคีที่สุด ดั่งความกลมของดวงจันทร์"

    ในคืนวันดังกล่าว ยามเที่ยงคืนคาบเกี่ยวกับวันใหม่ หลังจากสมาชิกในครอบครัวทำพิธีไหว้ดวงจันทร์เสร็จแล้ว ต่างก็ร่วมกันรับประทานขนมไหว้พระจันทร์ เพื่อแสดงถึงความสามัคคี ความกลมเกลียวระหว่างสมาชิกในครอบครัว ขนมไหว้พระจันทร์นั้น จะต้องนำมาหั่นแบ่งให้เท่ากับจำนวนคนในครอบครัวอย่างพอดี เกิไนหรือขาดไม่ได้ และแต่ละชิ้นต้องมีขนาดที่เท่ากันด้วย ขนมไหว้พระจันทร์จึงเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคี ความกลมเกลียว ในครอบครัวนั่นเอง ดังนั้น รูปลักษณะของขนมไหว้พระจันทร์ จะต้องทำเป็นก้อนวงกลมเท่านั้น ถึงจะให้ความหมายดังกล่าว

    ขนมไหว้พระจันทร์ จะต้องมีไส้หวาน หรือสอดไส้ด้วยธัญพืชที่มีรสหวานเท่านั้น เพราะฤดูไม้ร่วงกำลังจะผ่านไป กำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาวอันแสนลำบากในการดำรงชีวิตของชาวจีน การร่วมรับประทานของหวานในวันไหว้พระจันทร์กับครอบครัว เป็นนัยแห่งความหวานชื่น ความสุข ความอุดมสมบูรณ์ ก่อนที่จะเข้าสู่ภาวะแห่งความหนาวเหน็บ และขาดแคลนอาหาร แต่ปัจจุบัน ขนมไหว้พระจันทร์ มีทั้งไส้หมูแฮม ไส้หมูแดง ไส้หมูหยอง และไส้ต่างๆ ที่มีรสเค็ม รสเปรี้ยว ซึ่งไม่ได้ให้ความหมายใดๆ มากไปกว่า "ขนม" หรือ "Moon Cake" ที่รับประทานกันเพื่อความอร่อยเท่านั้น


    [​IMG]

    ประเพณีวันไหว้พระจันทร์ ยังเคยถูกนำมาใช้ในภารกิจกู้ชาติจีนจากชาวมองโกล ประชาชนระดับรากหญ้าที่ได้รับความลำบากทุกข์เข็ญจากการปกครองอย่างเข้มงวดของมองโกล รวมตัวกันต่อต้านโดยมีชาวนาเป็นผู้นำชื่อ "จูหยวนจาง" อาศัยวันไหว้พระจันทร์ เป็นวันประกาศอิสรภาพ โดยนำกระดาษเขียนข้อความนัดแนะกำหนดการขับไล่มองโกล ยัดใส่ไว้ในขนมไหว้พระจันทร์ เมื่อชาวบ้านได้รับขนมไหว้พระจันทร์ ก็ทราบกำหนดการร่วมมือกันขับไล่ชาวมองโกลออกจากแผ่นดินจีนจนประสบความสำเร็จ ผู้นำคือ จูหยวนจาง ก็ได้เป็นกษัตริย์ปกครองแผ่นดินจีน ตั้งราชวงศ์ใหม่ ชื่อว่า ราชวงศ์หมิง

    ศ.ชะภิพร กล่าวว่า ปัจจุบันประเพณีวันไหว้พระจันทร์มีความหมายเปลี่ยนไป ทั้งชาวจีนในประเทศไทย และชาวจีนในเมืองจีนเอง ให้ความสำคัญของวันเพ็ญเดือนแปดในเชิงประเพณี แต่ไม่ยึดถือความหมายดั้งเดิม ขนมไหว้พระจันทร์มีการออกแบบเป็นรูปสี่เหลี่ยม ซึ่งไม่ได้มีความหมายถึงความกลมเกลียว ความสามัคคี ที่ประเทศจีนวัยรุ่นชาวจีนให้ความสำคัญกับวันไหว้พระจันทร์ไม่ต่างไปกับวันแห่งความรัก กลายเป็นวันที่จะนัดแนะกันไปเที่ยวยามค่ำคืน กลายเป็นกิจกรรมอื่นๆ ที่มิใช่กิจกรรมแห่งวันครอบครัวอีกต่อไป

    ปัจจุบันลูกหลานคนจีนในเมืองไทย ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3-4-5 ความเข้มข้นของเทศกาลประเพณีไหว้พระจันทร์คงจะลดลงตามสภาพของความไม่เข้าใจว่า ประเพณีไว้พระจันทร์สำคัญอย่างไร ทำไมต้องมี และทำไมต้องไหว้ "..ผมเชื่อว่าเทศกาลไหว้พระจันทร์จะคงยังมีอยู่ในประเทศไทย ตราบเท่าที่ยังมีลูกหลานชาวจีนอยู่ เพียงแต่ความเข้มข้นอาจจะลดลง อาจกลายเป็นเทศกาลขนมไหว้พระจันทร์ (Moon Cake Festival) เหมือนกับเทศกาลขนมไทยก็เป็นได้ เพราะเดี๋ยวนี้เทศกาลไหว้พระจันทร์ เป็นเทศการทำเงินของร้านเบเกอรี่ไปแล้ว ขนมก็จะออกแบบเป็นรูปสี่เหลี่ยม ไม่มีความหมายของความกลมเกลียวอีกต่อไป.."

    ขณะที่ในประเทศจีนเอง ตั้งแต่มีการปฏิวัติวัฒนธรรมเป็นต้นมา ประเพณีไหว้ได้หมดไปจากสังคมจีน จะมีเหลือแต่ประเพณีการกินขนมไหว้พระจันทร์ และการกลับมาทานข้าวร่วมกันที่บ้านเป็นวันครอบครัว ซึ่งเป็นความหมายที่แท้จริงของวันไหว้พระจันทร์เท่านั้น

    "...ผู้นำชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทย สมาคมจีนต่างๆ ถ้ายังไม่ให้ความสำคัญกับวันไหว้พระจันทร์ในเชิงความหมายต่อบุตรหลาน แต่ให้ความสำคัญในเชิงความเชื่อเพียงอย่างเดียว ประเพณีวันไหว้พระจันทร์ ก็จะกลายเป็นประเพณีขนมไหว้พระจันทร์ในอนาคตอันใกล้นี้อย่างแน่นอน.." ศ.ชะภิพร กล่าว




    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ไทยรัฐ
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...