ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

คุณไอยครับ รายชื่อผู้บริจาคพิมพ์หนังสือธรรมะ อันดับที่ 8 ผิดครับ
ที่ถูก คือ คุณณฐพลสรรค์ เผือกผาสุข
ขออนุโมทนากับทุกท่านครับ

 

ผมได้หนังสือไปผมไปอ่าน

แต่ก่อนได้หนังสือ อาจาร์ย no.9 กับอาจาร์ วิจิตร ได้คุยกับผมเรื่องอัตตานะครับ
รู้สึกอยากบรรยายเป็นร้อยๆข้อความ



เชื่อไหมครับอาจาร์ยผมโทรมาบอกว่าผมสอบไฟนอลวิชาแคล




ได้0คะแนน





แต่ผมไม่อะไรมากครับ เฉยๆ มันเป็นแค่ แบบฟรอม ขันธ์5ของมนุษย์
555+

เดวค่อยไปแก้


5555+ กดรี๊ด..............555+

 

ก็อาจเป็นได้มีคนที่ยังไม่ใช่คนระบบ(อนาคตหมอดู)
ช่วยยืนยันอีกคนแล้วว่าเราจะได้สร้างสถานธรรมที่ไม่เหมือนใคร
แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรโปรดติดตามดูตอนต่อไป
ตอนนี้ก็ได้แต่ลองคิดชื่อเก๋ๆมีความหมายไม่หมือนใครไว้ก่อน

 

ขอเอาข่าวมาแจ้งอาจารย์โม่หน่อยนะครับ

คือผมมีดำริกับอาจารย์โม่ไว้ว่า จะช่วยอ่านและบันทึกเสียง
เนื้อหาในหนังสือชุด "ธรรมะเพื่อการละวางอัตตา" ให้
เผื่อใครตาไม่ดี หรืออ่านไม่ออก จะได้รู้ข้อมูลด้วยหนะครับ

และวันนี้ ก็เลยลองอ่านดูไปบ้างแล้ว ตามลิงค์ข้างล่างนะครับ

ช่วยเอาไปฟังแล้ว comment หน่อยนะครับ
เดี๋ยวถ้ามีอะไรจะได้ปรับปรุงทันครับ ก่อนที่จะอ่านไปมากกว่านี้

ปล.ยกเว้นเรื่องเสียงออกจะลูกทุ่งหน่อยนะครับ อันนี้ไม่รู้จะแก้ยังไง
เพราะเป็นคนบ้านนอกหนะครับ

เอาไปไฟล์เดียวก่อนนะครับ เพราะว่ามัน upload ได้ช้ามากๆๆๆ

1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Chayutt<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_18692", true); </SCRIPT>
ผู้สนับสนุนบริจาค



วันที่สมัคร: Aug 2005
อายุ: 37
โพสต์: 2,484
ได้ให้อนุโมทนา: 14,183
ได้รับอนุโมทนา 31,307 ครั้ง ใน 2,637 โพส


</TD><TD class=alt1 id=td_post_18692 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"> <CENTER><!-- google_ad_section_start -->ธรรมะเพื่อการละวางอัตตา (ถ่ายทอดข้อความโดย อ.สุดใจ ชื่นสำนวน)<!-- google_ad_section_end -->

</CENTER>
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>

Artist: Chayutt
Album: ธรรมะเพื่อการละวางอัตตา
​

<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>ไฟล์แนบข้อความ</LEGEND><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD width=20><INPUT id=play_36633 onclick=document.all.music.url=document.all.play_36633.value; type=radio value=attachment.php?attachmentid=36633 name=Music>ฟัง</TD><TD></TD><TD>003-ธรรมะเพื่อการละวางอัตตา-ชุดที่ 1- (3.08 MB, 0 views)</TD></TR></TBODY></TABLE></FIELDSET>
<!-- google_ad_section_start -->

001-ธรรมะเพื่อการละวางอัตตา-หน้าปก.wav
002-ธรรมะเพื่อการละวางอัตตา-ความนำ.wav
003-ธรรมะเพื่อการละวางอัตตา-ชุดที่ 1-เรื่องการปล่อยวาง.wav
004-ธรรมะเพื่อการละวางอัตตา-ชุดที่ 1-เรื่องแบบฟอร์มขันธ์ 5.wav
005-ธรรมะเพื่อการละวางอัตตา-ชุดที่ 1-เรื่องทฤษฎีแห่งความสัมพันธ์.wav

เอาไปเท่านี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวจะทะยอยอ่านและลงมาเพิ่มให้ครับ

........................................<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อ เม้าคะ ชอบรูปเด็กจังดูนล้วมีความสุขดีค่ะ

 

อ.ไอย บ่ายนี้ผมจะโอนเงินโครงการ ...บุญธรรม ไปให้นะครับ แล้วจะลองเมล์ส่งไปให้
เพราะยังขึ้นไฟล์รูปไม่เป็นเลย ครับ ถ้าจะยากอยู่

 

น้ำผึ้งขออยู่ด้วยคนนึงค่า....หลวงตาโม่

 

ให้มีเส้นทางไปหล่มสักด้วยแล้วกัน

 

ขออนุโมทนากับคุณเซี่ยมหล่อนั้ง ในความรู้สึกแปลกใจ กับสิ่งที่ได้พบเจอและนำข้อมูลเหล่านี้มาเผยแพร่ให้เพื่อน ๆ ได้รับทราบ

นั่นหมายถึงว่า ... เริ่มมีการ แอ๊ะ....

คือ เริ่ม แปลกใจ สงสัยขึ้นมาบ้างแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง

ทำไมพี่สุดใจจึงว่า ดีอย่างยิ่ง

เพราะเมื่อเริ่มเอะใจ ก็จะเริ่มหาคำตอบ จะเริ่มศึกษา เริ่มพิจารณา เริ่มหาความเป็นไปได้ของสิ่งที่ทำให้เกิดความสงสัย

แล้วสิ่งที่ได้รับข้อมูลกลับมา ก็จะนำมาพิจารณาเพื่อเทียบเคียงกับสิ่งที่พบเจอนั่นเอง

ดังนั้น เมื่อเจอแต่เรื่องที่ระบบบอกไว้ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แทนที่จะยึดติด กับสิ่งที่เจอ กับตัวเลขที่ได้เห็นเหล่านั้น

แต่กลับเป็นเรื่องตรงกันข้าม นั่นคือจะเริ่มเข้าใจ จะเริ่มปล่อยวาง จะเริ่มรู้ว่า สิ่งที่ทำอยู่ขณะนี้ มีการวางกลไกเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ความสุข ความทุกข์ ความสมหวัง ความผิดหวัง ต่อให้เกิดขึ้นก็จะวางความสุขความทุกข์เหล่านั้นลง เพราะมันไม่ได้เป็นของเรา มันเป็นของระบบ เป็นงานของเขา

เรามีหน้าที่ถอยออกมาดูขันธ์ห้าทำงานเท่านั้น

นั่นคือ การค่อย ๆ ถอยออกจากขันธ์ห้า ที่เคยอยู่กันมานับกัปนับกัลป์ไม่ถ้วน

คนระบบ ที่ได้มารับรู้เรื่องระบบ พบรหัส และตัวเลขที่มีการวางเลขรหัสแฝงไว้และเจอซ้ำ ๆ ตลอดเวลานั้น ก็จะรู้ว่า ระบบเขาทำงานอยู่รอบ ๆ ตลอดเวลา

ก็จะมีการตั้งหลัก รู้เท่าทันกลไกระบบ จึงออกจากสุข จากทุกข์ได้ง่าย เพราะเข้าใจการทำงานของขันธ์ห้า นั่นเอง

เมื่อเริ่มสงสัยใน...รหัส ในตัวเลข ในระบบ

คราวนี้ ก็จะต้องเริ่มมาศึกษา เริ่มมาค้นหา เริ่มมาสนใจว่าอะไรคือ ... ระบบ

และก็จะเริ่มเข้าใจ จะเริ่มออกจากขันธ์ห้าได้ ตามกลไกที่ระบบวางไว้ นั่นคือการซ้อนขันธ์ เพื่อเห็นมันทำงานตามจริง

ก็จะไม่ไปสุข ไปทุกข์ ไปยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้า ในขันธ์ที่มันมาทำงานของมัน ไม่ได้มีตัวใครของใครอยู่ในนั้น

ประโยชน์ตนคือ ออกจากขันธ์ห้าได้โดยความเข้าใจกลไกของอุปาทาน


ประโยชน์ท่านคือ ขันธ์ห้าก็จะมีการทำงานโดยระบบ โดยแผนที่วางไว้ เพื่อช่วยเหลือภัยพิบัติ นั่นเอง

 

ถ้าจะเทียบเคียงกับการเกิดมาตามกรรม วิบากกรรม ตามเหตุปัจจัยที่ส่งมา ก็จะเป็นดังนี้

เหมือนคนธรรมดา ๆ ไม่สนใจธรรมะ ไม่สนใจปฏิบัติ เที่ยวสนุกสนานไปวัน ๆ

แต่เมื่อไรที่เขามีความทุกข์ โศกเศร้า เสียใจ คับแค้นใจ เขาก็จะหาทางที่จะออกจากทุกข์นั้น ๆ ซึ่งมีหลายวิธี เที่ยวเตร่ หาเพื่อนฝูง หรือทำสิ่งใด ๆ ในทางโลก เพื่อที่จะหาทางดับทุกข์ในขณะนั้นให้ได้ ซึ่งก็สามารถทำได้ แต่เป็นการชั่วคราว แล้วทุกข์ก็เกิดขึ้นอีก

แต่หาก คนคนนั้น มีปัญญา แล้วเกิด แอ๊ะ...ในทุกข์ที่เกิดขึ้น ว่าทำไมเราจึงต้องทุกข์ ทำไมคนเราจึงต้องพบเจอแต่ความวุ่นวาย ทุรนทุราย แล้วทางไหนจะทำให้เบาบางจางคลายจากทุกข์ได้

นั่นแหละ เมื่อเขามีคำถาม เขาก็จะค้นหาคำตอบ หาคำอธิบาย ทดลองปฏิบัติ และพบหนทางที่จะดับทุกข์ ด้วยความเข้าใจในธรรมะ หรือธรรมชาติ เขาคนนั้น ก็จะสามารถออกจากทุกข์ได้อย่างถาวร

เช่นเดียวกัน เมื่อเราไม่เคยรู้ถึงเหตุปัจจัยเก่าที่เคยสร้างไว้ เมื่อมาปรากฏในชาตินี้ ความทุกข์ ความไม่สมหวัง ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ การถูกโกง การถูกเอารัดเอาเปรียบ การเจ็บป่วย ความร้อนรน กระวนกระวาย ความไม่มีลาภ ความเป็นผู้อาภัพในทรัพย์สินปัจจัย

สิ่งเหล่านี้ หากเราไม่เข้าใจกฏแห่งกรรม ไม่เข้าใจเหตุปัจจัยที่สร้างไว้เอง มาหลายภพหลายชาติ ไม่เข้าใจกลไกของธรรมชาติที่ต้องส่งมาให้ตามเหตุปัจจัยที่ได้สร้างไว้นั้น

ก็จะตีอกชกหัว โทษดินฟ้า โทษเทวดา โทษโชคชะตา โทษโน่นโทษนี่ ขอให้มีผู้ที่จะรับผิดชอบเป็นใช้ได้

เคยคิดบ้างไหม ว่าเหตุปัจจัยที่ส่งให้มาเป็นอย่างนี้นั้น มันมาจากไหน มันมาอย่างไร?

มันมาจากความไม่รู้ จากการยึดมั่นถือมั่น ว่ายังมีฉัน มีแก มีเรา มีเขา มีนั่น มีนี่ นั่นแหละ ที่มันเป็นตัวเก็บ เป็นตัวประมวลผล เป็นตัวส่งให้มายืนอยู่ ณ วันนี้

เพราะยังมีอุปาทาน ว่ามีตัวตน มีของตน มีตัวเรา มีตัวเขา จึงยังต้องวนเวียนอยู่ในอุปาทานเหล่านี้ หาทางออกไม่ได้

ความไม่รู้จริง จึงไปอุปาทานว่าขันธ์ห้านี้ มีตัวเรา เป็นตัวเรา จึงทำเพื่อตัวเรา เก็บไว้ให้ตัวเรา

ธรรมชาติ ก็ต้องรวมดินน้ำลมไฟ ให้เกิดใหม่อยู่เรื่อย ๆ เพื่อให้ตัวอุปาทาน มีที่อยู่ ที่อาศัย จึงต้องเกิดใหม่ ซ้ำซากอย่างนี้

แล้วเมื่อไรจะเห็นจริงสักที ว่ามันไม่ได้มีตัวเรา หรือตัวใครทั้งสิ้น

ถ้าเห็นได้ ว่าไม่มีใครเกิดขึ้น ไม่มีใครดำเนินอยู่ หรือไม่ได้มีใครตายไป เป็นกลไกของธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะธรรมนั้น ๆ ทุกอย่างล้วนเป็นกระแสธรรมชาติที่ใหลไปตามเหตุปัจจัยนั้น ๆ

เพียงแต่อุปาทานมันมาหลอกว่ามีตัวเรา ให้เข้าไปยึดธรรมชาติว่าเป็นตัวตน นั่นแหละ เมื่อไปหลงกล ติดกับ ก็เลยออกจากอุปาทานไม่ได้ ออกจากตัวตนไม่ได้นั่นเอง

พอมีตัวตน พอมีตัวเรา การเก็บสะสมก็เริ่มขึ้น การมีบุญ มีบาป มีกรรม วิบากกรรม ก็เริ่มเกิดขึ้น ความทุกข์ ความสุข จึงเริ่มมีขึ้น นับจากนั้น

ธรรมชาติไม่เคยลำเอียง ยุติธรรมที่สุด ทำไว้อย่างไร ก็ส่งคืนให้อย่างนั้น

จึงยังต้องส่งให้เวียนเกิด เวียนตาย เวียนมาใช้ความเป็นตัวเรา สืบทอดทุกชาติไป

ถ้าอินทรีย์แก่กล้า มีปัญญาเห็นธรรมของพระพุทธองค์ได้ แล้วเริ่ม แอ๊ะ...ว่า

.... หรือ....มันไม่มีตัวเรา หรือ...มันไม่ได้มีตัวใคร อย่างที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้จริง ๆ

พระพุทธองค์ท่านทรงสั่งสอนเวไนยสัตว์...ในกฏของธรรมชาติ ที่มันไม่ได้เป็นตัวใครของใคร

เมื่อนั้น ท่านอาจจะมองเห็นทาง ที่พระพุทธองค์ท่านทรงชี้ไว้ ว่าไม่ได้มีตัวใครของใครในขันธ์ห้าเหล่านั้นเลย

ทางที่จะออกจากสังสารวัฏอันยาวนาน ก็จะเริ่มมองเห็นรำไร เมื่อตั้งเป้าให้ตรงไปที่การละอุปาทานขันธ์ห้าเหล่านั้น นั่นเอง

 

มีเรื่องแปลกมาเล่าให้ฟังครับ

เมื่อเย็นวันศุกร์ที่ 25/9/52
กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)
มี อ.สุดใจ ,อ.นีโม่ อ.ไมโครเวฟ,อ.ยูคริน,อ.ไก่ ,อ.แพท ,อ.ไอย อ.เทพบุตร และผม
ได้เดินทางไปร่วมฟังสวดอภิธรรมศพ คุณแม่พี่นักเขียน
ที่ วัดธาตุทอง

วันนั้น ผมออกจากบ้านใกล้ 16.00 น.
พอขึ้นรถปั๊บ ฝนฟ้าก็เทลงมาอย่างรุนแรง
ทำให้รถติดมากๆ รถที่ผมนั่งผ่านแยกสะพานเหลือง ประมาณเวลา 18.00 น.
ก่อนจะเลี้ยวซ้ายสามย่าน ผมได้เหลือบมองออกหน้าต่างซ้ายมือ
เห็นป้ายใหญ่เขียนว่า สภากาชาดไทย
เป็นป้ายถาวร บ่งบอกว่าเป็นสถานที่ตั้งของสภากาชาดไทย

วันนี้ผมออกไปทำธุระข้างนอก ไปจ่ายภาษีร้านค้า
โอนเงินจากการบูชาวัตถุมงคลให้หลวงปู่คำเป็ง 12,600.-บาท
และเลยไปบริจาคโลหิตที่สภากาชาดไทย
พอรถแล่นผ่านแยกสะพานเหลือง
ผมก็มองหาป้ายที่ตั้งสภากาชาดไทย
แต่กลับไม่มีป้ายดังกล่าว
พอรถเลี้ยวซ้ายสามย่าน ผมก็ลง
และถามพ่อค้าแถวนั้นว่า สภากาชาดไทยอยู่ที่ไหน
เขาบอกว่าอยู่ถนนถัดไป คือ ถนนอังรีดูนัง

ผมถึงกับ งง เป็นไก่ตาแตก
ก็เมื่อวันศุกร์ยังเห็นชัดๆว่า อยู่ก่อนเลี้ยวซ้ายสามย่าน
เห็นมีนักศึกษายืนอยู่บริเวณนั้นด้วย

ท่านลองช่วยพิจารณาว่า มันเกิดอะไรขึ้น

และผมก็ได้บริจาคโลหิตในวันนี้ 29/9/2009
เวลาเจาะเข็ม 14.03 น. สิ้นสุดเมื่อเวลา 14.09 น.

 

เวฟเด็กเริ่มลงอีกแล้วครับ คงมีเด็กๆน่ารักๆ มาให้ อ.huten ได้เห็นถึงความน่ารักน่าชัง ดูแล้วมีความสุขนะครับ





ฝากเด็กสองคนนี้เข้าโครงการพ่อแม่บุญธรรม ของหลวงตาโม่ ด้วยครับ

 

โอนเงินเข้าบัญชีคุณกมลวันนี้เวลา 16.22 น. จำนวน 1,200 บาท

 

เรื่องแปลกของอาจารย์ Neemo
หลวงพ่อพระพุทธชินราช จากพิษณุโลก กลายมาเป็น สถานธรรมธนบุรีรมย์ แล้วต่อไปก็จะ มีสถานธรรมสาขาพิษณุโลก ต่อยอดออกไปอีก

วานนี้ อาจารย์เม้าท์ได้มอบพระหินพระธาตุองค์หนึ่งให้ไปประดิษฐานที่สถานธรรมสาขาพิษณุโลก ผมก็ถามอาจารย์ท่านว่า องค์นี้ได้มาจากไหน....
จากสามร้อยยอดครับ.....พระองค์นี้มาจากสามร้อยยอด ประจวบฯ

ต่อไปสถานธรรม แห่งใหม่ต่อจาก พิษณุโลก ก็คง เป็นที่สามร้อยยอดละกระมังครับ...<!-- google_ad_section_end -->

เรื่องแปลกของอาจารย์ Mount
ป้ายที่ตั้งสภากาชาดไทย ที่อยู่ผิดที่ผิดทาง

ช่วงนี้แปลก อาจารย์ระบบชอบมาเล่าเรื่องแปลก

 

ประกาศ​

จากแผนกข้อมูลและตอบปัญหาชีวิต​

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)​

เรื่อง กิจกรรมและการเผยแพร่ข้อมูลระบบ
โดยทีมขยายระบบสัญจร(เขากะลา)​

ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) โดยแผนกข้อมูลและตอบปัญหาชีวิต จะออกเดินทางเพื่อเผยแพร่ข้อมูล และพบปะเจอะเจอกับเพื่อน ๆ สมาชิก และผู้ที่สนใจที่อยู่ในภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อมีการสนทนาธรรม ขยายระบบ สแกนกรรม ขมากรรม รักษาโรค และร่วมกิจกรรมในส่วนอื่น ๆ

ทีมเขากะลาสัญจร ที่จะเดินทางไปยังภูมิภาคต่าง ๆ มีดังนี้

อาจารย์สุดใจ

อาจารย์นีโม่

อาจารย์ ukrin

อาจารย์แตง(microwave)


การเดินทาง

เพื่อที่จะได้ไม่เดือนร้อนในเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทาง คณะอาจารย์ระบบ จึงจะเดินทางโดยการโดยสารรถไฟฟรีเพื่อประชาชน ของการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นหลัก

ส่วนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ จะมีเงินกองกลางที่มีสมาชิกร่วมบริจาค จะใช้เป็นค่าอาหารและค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในส่วนอื่น ๆ

กิจกรรมหลัก ๆ ที่จะเริ่มมีขึ้น เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2552 ตามโปรแกรม ดังนี้


เริ่มเดินทาง
วันที่ 1 ตุลาคม 2552

- จุดนัดหมาย สถานีรถไฟหัวลำโพง

- ผู้ร่วมเดินทาง อ.สุดใจ อ.ukrin อ.แตง(microwave)

หมายเหตุ... อาจารย์นีโม่ ยังติดภารกิจในกทม. จะเดินทางตามไป

- ออกเดินทางโดยรถไฟฟรีเพื่อประชาชน ขบวนที่ 201 - กรุงเทพฯ - พิษณุโลก
- เวลาขบวนรถออกจากสถานีหัวลำโพง 09.25 นาฬิกา

จุดปลายทาง สถานีรถไฟนครสวรรค์

พักที่ ออฟฟิตของแผนกข้อมูลและตอบปัญหาชีวิต ที่เขากะลา จังหวัดนครสวรรค์

เพราะได้นัดหมายสมาชิกท่านหนึ่ง คืออาจารย์หมู ทีมงานของอาจารย์พีท ทองเจือ ท่านจะเดินทางกลับจากเชียงใหม่ และแวะมาสนทนาธรรม และขยายระบบที่เขากะลา ในวันที่ 1 ตุลาคม 2552 ด้วย

โดยจะใช้ออฟฟิตของแผนกข้อมูลและตอบปัญหาชีวิต ที่เขากะลาเป็นจุดขยายระบบ

วันที่ 2 - 3 ตุลาคม 2552

เดินทางไปที่จังหวัดพิษณุโลก บ้านอาจารย์กัลยา เพื่อสนทนาธรรม ขยายระบบ และเตรียมการเพื่อรองรับการเปิดสถานธรรมที่จังหวัดพิษณุโลกด้วย

วันที่ 4 ตุลาคม 2552 -
ทำบุญออกพรรษาที่จังหวัดนครสวรรค์

วันที่ 11 ตุลาคม 2552 ทำพิธีเปิดสถานธรรมที่จังหวัดพิษณุโลก

สำหรับตารางที่ยังว่างอยู่นั้น หากสมาชิกท่านใดมีความประสงค์จะให้ทีมงานขยายระบบสัญจร(เขากะลา) เดินทางไปสนทนาธรรม ขยายระบบ แสกนกรรม ขอขมากรรม รักษาผู้ป่วย (โดยอาจารย์นีโม่) และขยายระบบ รักษาโรค (อาจารย์ ukrin)

ขอให้แจ้งมาได้นะคะ หากทีมขยายระบบสัญจร(เขากะลา) สามารถเดินทางไปได้ จะจัดโปรแกรมให้ค่ะ


ตลอดเดือน ตุลาคม 2552 พี่สุดใจ และสมาชิกกลุ่มประสานงานฯ บางส่วน จะประจำอยู่ที่ออฟฟิตของแผนกข้อมูลและตอบปัญหาชีวิต ที่เขากะลา

หากท่านใดจะเดินทางไปร่วมสนทนาธรรม ขยายระบบ ตรวจสอบวาระกรรม ขอขมากรรม อโหสิกรรม รักษาโรค โดยอาจารย์นีโม่ และอาจารย์ ukrin ขอให้แจ้งกำหนดเวลาที่จะเดินทางมาล่วงหน้านะคะ อาจารย์ระบบจะได้ประจำการเพื่อรองรับค่ะ

หมายเหตุ หากสมาชิกท่านใดจะร่วมเดินทางด้วย ก็ยินดีค่ะ หรือจะมาทักทาย ขยายระบบกันตลอดทางบนรถไฟฟรีขบวนดังกล่าวข้างต้น ก็ขึ้นมาพบกันบนรถไฟขบวนดังกล่าวได้ค่ะ


ระยะเวลาที่จัดกิจกรรมขยายระบบสัญจร(เขากะลา)

เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 - 31 ตุลาคม 2552

แจ้งเพื่อน ๆ สมาชิกและท่านที่สนใจ เพื่อทราบในกิจกรรมค่ะ

 

ขออนุโมทนากับอาจารย์ Mount นะคะ นึกว่าอาจารย์จะนำมามอบให้ด้วยตัวเองซะอีก

 

ระบบให้ไปออกทีวี ไปให้เขาสัมภาษณ์วันนี้ที่ช่อง ๑๑ เรื่องอีเมลล์ถูกหลอกลวงไป
ขาไป มาจากดินแดง มองทางขวาหาเสาทีวีไม่พบ จริงๆเคยไปหลายครั้ง (ไปส่งสามี)
ต้องไปถามแท็กซี่แถววัดเสมียนนารี ยูเทอร์นวนกลับมา จึงได้เห็นเสาส่งทีวีสูงมากใกล้รร.สุรศักดิ์มนตรี ขามามองไม่เห็นเป็นไปได้อย่างไร

พอได้ยินเรื่องกาชาด.. เหมือนกันเลยค่ะ

 

อาหารที่ท้าทาย ต่อ ขันธ์5 ของคนบางคน(555+ลาบปาก)

 

ขออนุโมทนากับอาจารย์ไอยด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ ที่ช่วยเป็นธุระให้ และต้องขอขอบคุณอย่างยิ่ง ที่ได้ให้การดูแลเป็นอย่างดี ตลอดระยะเวลาหลายวันที่พักอยู่ที่เอื้ออาทรบึงกุ่มแห่งนี้

และต้องขออนุโมทนากับอาจารย์จักษวัชร์ ที่ได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาประสานงานที่กรุงเทพฯในครั้งนี้ เป็นค่ารถ ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เป็นจำนวนเงิน 1,500 บาท ตลอดระยะเวลานับ 10 วันที่พักอยู่ในกรุงเทพฯ ครั้งนี้

และยังเติมเงินค่าโทรศัพท์เพื่อให้ใช้ในการประสานงานอีก 500 บาท ต้องขออนุโมทนาด้วยอย่างยิ่งค่ะ
อาจารย์เม้าท์ ท่านยังสนับสนุนค่าโทรศัพท์เพิ่มเติมอีก 300 บาทด้วย เพราะเห็นว่าจะเดินทางไปประสานงานยังต่างจังหวัด

งานของระบบ เป็นงานที่แต่ละท่าน แต่ละบุคคล มีหน้าที่แตกต่างกัน มีการประสานงาน มีการรับผิดชอบในแต่ละงาน ไม่เหมือนกัน

บางท่านต้องทำงานแบบอยู่กับที่ ประจำแต่ละจุด บางท่านต้องทำงานแบบออกเดินทาง บางท่านต้องทำงานแบบประสานงานกับกลุ่มต่าง ๆ บางท่านทำงานแบบสแกนกรรม บางท่านขยายระบบ บางท่านทำเกี่ยวกับการรักษา หรือบางท่านทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เพื่อแจ้งข่าวสาร บางท่านทำงานแบบอ่านข้อมูลจากกระทู้ แล้วจดจำข้อมูลไว้ เพื่อรอเวลาถ่ายทอดออกไปเมื่อถึงเวลา

และแต่งาน แต่ละบุคคล แต่ละท่าน จะทำงานแบบตรงกับระบบ ไม่ได้อยู่ในคำสั่งของใครคนใดคนหนึ่ง

ดังนั้น การทำงานจึงหลากหลาย ในการให้ประโยชน์ท่านตามงานระบบ