เบิกบุญ

การเบิกบุญในทางพุทธศาสนามีด้วยหรือครับ ถ้ามีต้องทำอย่างไรครับ


จากปิยทัศน์

 

เท่าที่เคยอ่านมานะครับ
เค้าบอกมาว่า คนเราเกิดมา เคยทำทั้งบุญและบาป พร้อมๆกัน
แล้วแต่ว่าอันไหนจะกำลังส่งผลให้เราอยู่ในปัจจุบัน
เราจึงต้องทำการเบิกบุญของเราในอดีตชาติ มาช่วยให้ชีวิตปัจจุบันดีขึ้น

ผมจึงอธิษฐานขอพรพระประจำ ว่า

-----------------------------------------------------------------------------------------------

"ขอให้บุญทานบารมี ที่ข้าพเจ้าได้เคยกระทำ เคยสะสมมาตั้งแต่ในอดีตชาติ จนถึงชาติปัจจุบัน ขอให้บุญทานบารมีของข้าพเจ้าเหล่านั้น ได้โปรดจงส่งผลให้กับข้าพเจ้า ในกาลวินาทีปัจจุบันนี้ด้วยเถิด"

-----------------------------------------------------------------------------------------------

(อันนี้ผมผูกขึ้นมาเองนะครับ ในหนังสือของหลวงพ่อเกษม ที่อ่านมา อาจจะไม่ตรงเป๊ะๆ แบบนี้)

เนื่องจากเราไม่สามารถขอพรพระ ให้ช่วยในสิ่งที่เกินบุญกรรมที่มีอยู่แต่เดิม
ของตัวเราเองได้ (อยากรวยทันทีทันใด แต่ไม่เคยทำบุญใหญ่มา ขอพรเท่าไรก้อไม่รวย)

การขอเบิกบุญเก่าของตัวเราเอง จึงไม่ผิดต่อผู้อื่น ไม่เกินวิสัยกฏแห่งกรรม
และมีสิทธิ์เป็นไปได้มากที่สุด

ปล. อย่าเชื่อผมมากนะครับ ผมก้อเพ้อเจ้ออยากรวยไปตามประสา เวลาใกล้วันหวยออก 555
(แต่ถ้าคุณรวยเพราะคำแนะนำของผม ก้อมาแบ่งผมนะครับ 555)

 

มีอยู่จริงค่ะ เพราะบุญเรามีมากมายเท่าภูเขาโลกาจึงควรแบ่งผู้อื่นที่อยู่ในโลกก็ดี ต่างภพก็ดีค่ะ ลองหาหนังสือหลวงพ่อเกษมมาอ่านนะค่ะ แล้วลองปฏิบัติดูค่ะ แล้วจะพบความสุขที่แท้จริงค่ะdeeja__a

 

หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ + หลวงพี่เล็ก ไม่เคยกล่าวถึงเลยนี่นา

ระวังดีๆ นะครับ

 

ว่าแต่ถ้าเราเบิกแต่บุญมาใช้แล้ว ตายไปจะรับผลของบุญของเราได้ที่ไหนล่ะ (ก็เอามาใช้หมดแล้ว ) อืม....น่าคิดนะ

 

สวัสดีครับ
พอดีผมมีอยู๋ไฟล์นึง เอามาจากเพื่อนนะครับ พูดถึงเรื่องการใช้งานเทวดาแล้วก็มีพูดถึงเกี่ยวกับการเบิกบุญเก่มาใช้น่ะครับ ลองอ่านกันดูนะครับ
Download by UPLOADFILE.BIZ
เวปฝากไฟล์นี้ ผมไม่ทราบว่าอยู๋นานเท่าไหร่นะครับ เพิ่งเคยทำครั้งแรก ถ้าใครมีเวปหรือวิธีอัพไว้ ก็รบกวนด้วยครับ

 

ผมเคยได้ยินมาว่า เปรียบเหมือนการต่อไฟ ไฟของเราไม่ได้ดับ และก็เป็นการจุดไฟให้สว่างขึ้นด้วย บุญยิ่งให้จึงไม่มีวันหมด เพราะการให้ก็เป็นบุญ

 

ท่านกล่าวไม่กล่าวผมไม่ทราบ ผมก็ไตร่ตรองแล้วว่า การอุทิศบุญน่าจะตรงกับ ข้อหนึ่งในบุญกริยาวัตถุ10 นั่นคือ ปัตติทานมัย บุญสำเร็จด้วยการให้ส่วนบุญ เฉลี่ยส่วนความดีให้กับผู้อื่น

ตามความเข้าใจของผม ปัตติทานมัย ก็เป็นได้ตั้งแต่ การบอกบุญทั้งการให้เขาร่วมบุญและการบอกบุญให้เขาได้อนุโมทนา ตลอดจน การกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับท่านต่างหรือวิญญาณในภพภูมิอื่นๆ

ซึ่งการเบิกบุญนี้ แม้ชื่อเรียกจะแปลกๆแต่ผมคิดว่าก็คือการอุทิศบุญนั่นแหละ ลองพิจาณาดูเถิด

 

ตามที่จำได้บ้างและเข้าใจ ท่านจะเน้น การเบิกบุญไปให้กับผู้อื่นที่เป็นได้ัทั้งเทพเทวดาวิญญาณหรือใครก็แล้วแต่

ซึ่งการให้(การเบิกบุญไปให้แก่ท่านอื่นๆ) ก็เป็นบุญอย่างที่ได้กล่าวไป

โดยการเบิกบุญไปให้กับท่านต่างๆนั้น เพื่อให้มั่นใจว่าบุญของเราจะไปถึงท่านต่างๆที่เรากล่าวถึง ผู้กล่าวก็จะอ้างถึงสิ่งศักดิ์สิทธ์ ให้ท่านช่วยนำพาบุญของเรา เช่น

ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์จงบันดาลบุญข้าพเจ้าที่ได้กระทำไว้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จงถึงแก่ (ใครก็ว่าไป แล้วท่านว่า อย่าลืมให้กับเทวดาประำจำกายตัวเองด้วย)

ส่วนเรื่องขอพรให้ตัวเองอีกนั้น โดยส่วนตัว เชื่อว่า ผู้ทำบุญ ก็ย่อมต้องได้รับผลบุญนั้นอยู่แล้ว เคยได้ยินมาบ้างว่า เปรียบเหมือนการปลูกต้นไม้ เมื่อยังไม่ถึงเวลา ต้นไม้นั้นก็ย่อมยังไม่ออกดอกออกผล

หากจะขอพรให้บุญที่เคยทำถึงตัวเองแล้ว จึงอยากชักชวนให้ท่านเบิกบุญ ให้กับผู้อื่นมากกว่า เพราะเป็นการทำบุญเพิ่มเติมด้วย..

ขอท่านทั้งหลายได้พิจารณาดูเถิด..

 

ยิ่งให้ก็ยิ่งได้ค่ะ

 

เคยได้ยินและเคยอ่านมาเหมือนกันค่ะ
การทำสิ่งใดก็ตาม ถ้าตนเองไม่เดือดร้อน ผู้อื่นไม่เดือดร้อน ตนมีสุข ผู้อื่นมีสุข
และจิตเป็นบุญเป็นกุศล..ก็น่าจะดีทั้งนั้นนะคะ

 

การที่เราเบิกบุญมาใช้นั้นเราต้องดูด้วยว่า ตัวเรานั้นได้ทำบุญใส่บาตรไว้มากแค่ไหน
อาจจะมีบุญเก่าที่หนุนอยู่ก็ดีไป แต่ถ้าไม่เคยทำบุญอะไรเลยนั้น ต่อให้เบิกจากที่ไหนๆก็ไม่เห็นผลหรอก
เพราะฉะนั้น ไม่ว่าเราจะเบิกน้อยเบิกมาก ตัวเรานั่นแหละที่รู้ดีที่สุด