ปฏิบัติเพื่อให้ทันยุคพระศรีอาริยเมตไตรย โดย หลวงพ่อฤาษี

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Phanudet, 25 กรกฎาคม 2009.

  1. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    [​IMG]

    คำสอนของพระศรีอาริย์

    จากหนังสือ ประวัติการสร้าง "พระศรีอาริยเมตไตรย" วัดท่าซุง


    ถามว่า "แนะนำแล้วทุกอย่าง แต่ว่าไม่รู้ข้อเจาะจง ให้เจาะ จงไปว่าทำบุญอย่างไร...จึงจะทันศาสนาพระศรีอาริย์?"


    (นี่..สำหรับคนมี "บารมีอ่อน" นะ คนมี "บารมีเข้ม" ให้ตั้งใจไปนิพพานชาตินี้ ถ้าคน "บารมีอ่อน" ตั้งใจไปนิพพานชาติพระ ศรีอาริย์ หรือวางแผนไว้ ๒ อย่างก็ได้ว่า ตั้งใจไปนิพพานชาตินี้ ถ้าพลาดชาตินี้ ขอให้ได้นิพพานสมัยพระศรีอาริย์ก็ได้)


    ท่านบอกว่า "ให้ทุกคนที่ต้องการเกิดทันสมัยผม ให้รักษาศีล ๕ เป็นปกติ รักษา กรรมบถ ๑๐ เป็นปกติทุกวัน ไม่คลาดเคลื่อนอย่างนี้เป็นอุคฆฏิตัญญู ไปเกิดในสมัยผมฟังเทศน์แค่ หัวข้อเล็ก ๆ สั้น ๆ ก็บรรลุมรรคผลทันที


    ถ้าบางท่านปฏิบัติอ่อนกว่านั้น รักษาได้ กรรมบถ ๑๐ เหมือนกัน ศีล๕ ก็ครบ แต่ว่าบางทีก็มีอาการเผลอเล็กน้อย อย่างนี้เป็นวิปจิตัญญู หมายความไปเกิดสมัยผมเทศน์หัวข้อฟังไม่เข้าใจ ต้องอธิบายเล็กน้อยจึงบรรลุอรหันต์



    บางท่านที่มีบารมีอ่อนกว่านั้น วันธรรมดา ๆ อาจจะบก พร่องบ้างเป็นของธรรมดา แต่สำหรับวันพระต้องรักษาให้ครบ ถ้วนทั้ง ศีล ๕ และ กรรมบถ ๑๐ หมายความตามธรรมดา คน เรามีอาชีพต่างกัน บางคนปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหาร ก็ต้องฉีดยา ฆ่าเพลี้ยฆ่าสัตว์ที่มารบกวนพืชพันธุ์ธัญญาหารบ้าง บางคนมี อาชีพไปในทางการประมง ต้องทำการประมงฆ่าปลาฆ่าสัตว์บ้าง ถ้าอย่างนี้ถือว่าวันธรรมดาบกพร่องได้ และวันพระต้องครบถ้วนบริบูรณ์ อย่างนี้ถ้าเกิดในสมัยผม เขาเรียกว่า เนยยะ เทศน์ครั้งเดียวสองครั้งยังไม่มีผล ต้องฟังเทศน์หลาย ๆ หน สามารถ เป็นพระอริยะได้


    เอาละ... บรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย ท่านทั้งหลายมานั่งอยู่กันที่ตรงนี้และฟังเทศน์แล้ว เรื่องของพระศรีอาริยเมตไตรย ถ้าจะว่ากันไปก็คงไม่แตกต่างกับเรื่องขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าทุกท่านรักษาศีล ๕ ครบถ้วน กรรมบถ ๑๐ ครบถ้วน ที่มีบารมีเข้มข้นสามารถจะไปนิพพานได้ในชาตินี้ ถ้าบังเอิญชาตินี้พลาดไปนิพพาน ไปเกิดเป็นเทวดาก็ดี นางฟ้าก็ดี หรือพรหมก็ตาม อีกไม่นานนักพระศรีอาริย์ก็ตรัส เราก็ฟังเทศน์ จากพระศรีอาริย์ภายในไม่ช้าก็บรรลุอรหันต์สามารถไปนิพพานได้"

    <DD><DD>

    <DD>ที่มาhttp://www.tamroiphrabuddhabat.com/x...ad.php?tid=276


    <!-- google_ad_section_end --></DD>
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    พระศรีอาริยเมตไตรยปรารถนาพระโพธิญาณจึงไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดุสิต(หลวงพ่อฤาษีฯ)




    [​IMG]


    “..พระศรีอาริยเมตไตรย ในสมัยพระพุทธเจ้าท่านบวชเป็นพระมีนามว่า อชิตะภิกขุเดิมทีท่านเป็นลูกศิษย์ของพราหมณ์พาวรี ท่านไปบวชเพื่อสร้างเสริมบารมี ต่อมาเมื่อ พระนางกีสา โคตมีได้ทอจีวรด้วยมือของตนเองปรารถนาจะถวายพระพุทธเจ้า เมื่อเวลาพระนางไปถวาย พระพุทธเจ้าเรียกพระมาหมด นั่งเรียงแถวกันตามลำดับอาวุโสและคุณสมบัติ เมื่อพระนางกีสาโคตมีถวายผ้าแก่พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็ส่งให้พระสารีบุตร ท่านพระสารีบุตรก็ส่งให้พระโมคคัลลาน์ ท่านพระโมคคัลลาน์ก็ส่งต่อๆ กันไปหมดจนถึงองค์สุดท้ายคือท่านอชิตะภิกขุ ท่านไม่รู้จะส่งให้ใครเพราะนั่งอยู่ท้ายสุด เป็นอันว่าท่านก็รับไว้ พระนางกีสา โคตมีก็เสียใจว่าอุตสาห์ทำเองเลือกด้ายชั้นดีมาทอกับมือเองเพื่อถวายพระพุทธเจ้า แต่พระองค์ไม่รับกลับไปให้กับพระที่ไม่ได้แม้แต่ฌานสมาบัติมากมายอะไรนัก คือว่ายังเป็นพระปุถุชนคนธรรมดา องค์สมเด็จพระบรมศาสดาทรงทราบอัธยาศัยจึงเทศนาโปรดว่า พระองค์สุดท้ายไม่ใช่พระธรรมดา ท่านอชิตะภิกขุผู้นี้ต่อไปข้างหน้าจะได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง มีพระนามว่า สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรย<O:p</O:p


    ปัจจุบันนี้ท่านมาเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดุสิต วิมานท่านสวยสดงดงามมาก ท่านมีรัศมีกายสว่างมาก หน้าตาผ่องใสยิ้มระรื่นน่าชื่นใจ ท่านได้บอกกับอาตมาเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๙ ว่า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป อีก ๑ ล้านกับ ๒ ปี ท่านจะลงมาเกิดในเมืองมนุษย์แล้วเป็นปุโรหิต หลังจากนั้นเกิดความเบื่อหน่ายก็ออกแสวงหาพระโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้า ถ้าจะเทียบพื้นที่ในสมัยนี้ พระองค์จะตรัสทางทิศเหนือของพม่า แต่ตามตำราเขาไม่ได้เขียนไว้


    <!-- google_ad_section_end -->ที่มา..


    http://palungjit.org/threads/%E0%B...AF.171832/
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  3. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    อ่านสนุกๆ....สำหรับ ผู้ที่จะตามไปเกิดในยุคพระศรี.....ใครจะกลับในยุคองค์ปัจจุบันก็ไม่ว่ากัน.....ถือว่าอ่านเล่นๆแล้วกันนะครับ....
     
  4. Mrs.Kim

    Mrs.Kim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,086
    ค่าพลัง:
    +2,306
    เร่งสร้างบารมี และปฏิบัติตามที่หลวงพ่อท่านสั่งสอนเพื่อให้ทันยุคพระศรีอาริยเมตไตรยกันทุกๆคนนะค่ะ
     
  5. indochina1886

    indochina1886 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +51
    กรรมบถ ๑๐ และ อานิสงส์


    <HR SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->กรรมบถ ๑๐

    ๑. ไม่ฆ่าสัตว์หรือไม่ทรมานสัตว์ให้ได้รับความลำบาก

    ๒. ไม่ลักทรัพย์ คือไม่ถือเอาทรัพย์ของผู้อื่นที่เขาไม่ให้ด้วยความเต็มใจ

    ๓. ไม่ทำชู้ในบุตรภรรยาและสามีของผู้อื่น

    ๔. ไม่พูดวาจาที่ไม่ตรงความเป็นจริง

    ๕. ไม่พูดวาจาหยาบคายให้สะเทือนใจผู้ฟัง

    ๖. ไม่พูดส่อเสียดยุให้รำตำให้รั่ว ทำให้ผู้อื่นแตกร้าวกัน

    ๗. ไม่พูดเพ้อเจ้อ เหลวไหล

    ๘. ไม่คิดอยากได้ทรัพย์ของผู้อื่นที่เจ้าของเขาไม่ยกให้

    ๙. ไม่คิดประทุษร้ายใคร คือไม่จองล้างจองผลาญเพื่อทำร้ายใคร

    ๑๐. เชื่อพระพุทธเจ้าและปฏิบัติตามคำสั่งสอนของท่านด้วยดี

    อานิสงส์กรรมบถ ๑๐

    ท่านที่ปฏิบัติในกรรมบถ ๑๐ ประการนี้ ท่านเรียกชื่อเป็นกรรมฐานกองหนึ่งเหมือนกัน คือ ท่านเรียกว่า สีลานุสสติกรรมฐาน หมายความว่าเป็น ผู้ทรงสมาธิในศีล

    ท่านที่ปฏิบัติในกรรมบถ ๑๐ ประการได้นั้น มีอานิสงส์ดังนี้

    ๑. อานิสงส์ข้อที่หนึ่ง จะเกิดเป็นคนมีรูปสวย ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บรบกวน มีอายุยืนยาว ไม่อายุสั้นพลันตาย

    ๒. อานิสงส์ข้อที่สอง เกิดเป็นคนมีทรัพย์มาก ทรัพย์ไม่ถูกทำลายเพราะโจร ไฟไหม้ น้ำท่วม ลมพัด จะมีทรัพย์สมบัติบริบูรณ์ขั้นมหาเศรษฐี

    ๓. อานิสงส์ข้อที่สาม เมื่อเกิดเป็นคนจะมีคนที่อยู่ในบังคับบัญชาเป็นคนดี ไม่ดื้อด้าน อยู่ภายในคำสั่งอย่างเคร่งครัด มีความสุขเพราะบริวาร และการไม่ดื่มสุราเมรัย เมื่อเกิดเป็นคนจะไม่มีโรคปวดศีรษะที่ร้ายแรง ไม่เป็นโรคเส้นประสาท ไม่เป็นคนบ้าคลั่ง จะเป็นคนมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด

    เรื่องของวาจา

    ๔. อานิสงส์ข้อที่สี่, ข้อห้า, ข้อหก, และข้อเจ็ด เมื่อเกิดเป็นคนจะเป็นคนปากหอม หรือมีเสียงทิพย์ คนที่ได้ยินเสียงท่านพูดเขาจะไม่อิ่มไม่เบื่อในเสียงของท่าน ถ้าเรียกตามสมัยปัจจุบันจะเรียกว่าคนมีเสียงเป็นเสน่ห์ก็คงไม่ผิด จะมีความเป็นอยู่ที่เป็นสุขและทรัพย์สินมหาศาลเพราะเสียง

    เรื่องของใจ

    ๕. อานิสงส์ข้อที่แปด, ข้อเก้า, และข้อสิบ เป็นเรื่องของใจ คืออารมณ์คิด ถ้าเว้นจากการคิดลักขโมยเป็นต้น ไม่คิดจองล้างจองผลาญใคร เชื่อพระพุทธเจ้าและปฏิบัติตามคำสอนของท่านด้วยความเคารพ ถ้าเกิดเป็นมนุษย์จะเป็นคนมีอารมณ์สงบและมีความสุขสบายทางใจ ความเดือดเนื้อร้อนใจในกรณีใดๆ ทุกประการจะไม่มีเลย มีแต่ความสุขใจอย่างเดียว
    อานิสงส์รวม

    เมื่อกล่าวถึงอานิสงส์รวมแล้ว ผู้ที่ปฏิบัติกรรมฐานในขั้นนี้ ถึงแม้ว่าจะทรงสมาธิไม่ได้นานตามที่เรียกว่า ขณิกสมาธิ นั้น ถ้าสามารถทรงกรรมบถ ๑๐ ประการได้ครบถ้วน ท่านกล่าวว่า เมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้วไม่ต้องไปเกิดในอบายภูมิอีกต่อไป บาปที่ทำไว้ตั้งแต่สมัยใดก็ตาม ไม่มีโอกาสนำไปลงโทษในอบายภูมิมีนรกเป็นต้น อีกต่อไป

    ถ้าบุญบารมีไม่มากกว่านี้ ตายจากคนไปเป็นเทวดาหรือพรหม เมื่อหมดบุญแล้วลงมาเกิดเป็นมนุษย์ จะบรรลุเป็นพระอรหันต์ในชาตินั้น แต่ถ้าเร่งรัดการบำเพ็ญเพียรดี รู้จักใช้ปัญญาอย่างมีเหตุผล ก็สามารถบรรลุมรรคผลเข้าถึงพระนิพพานได้ในชาตินี้


    แนะวิธีรักษากรรมบถ ๑๐
    การที่จะทรงความดีเต็มระดับตามที่กล่าวมาให้ครบถ้วนให้ปฏิบัติตามนี้

    ๑. คิดถึงความตายไว้ในขณะที่สมควร คือไม่ใช่ทุกลมหายใจเข้าออก เมื่อตื่นขึ้นใหม่ๆ อารมณ์ใจยังเป็นสุข ก่อนที่จะเจริญภาวนาอย่างอื่น ให้คิดถึงความตายก่อน คิดว่าความตายอาจจะเข้ามาถึงเราในวันนี้ก็ได้ จะตายเมื่อไรก็ตามเราไม่ขอลงอบายภูมิ ที่เราจะไปคือ อย่างต่ำไปสวรรค์ อย่างกลางไปพรหม ถ้าไม่เกินวิสัยแล้ว ขอไปนิพพานแห่งเดียว คิดว่าไปนิพพานเป็นที่พอใจที่สุดของเรา

    ๒. คิดต่อไปว่าเมื่อความตายจะเข้ามาถึงเราจะเป็นในเวลาใดก็ตาม เราขอยึดพระพุทธเจ้า พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต คือไม่สงสัยในความดีของพระพุทธเจ้า ยอมเคารพด้วยศรัทธา คือความเชื่อถือในพระองค์ ขอให้ปฏิบัติตามคำสอน คือกรรมบถ ๑๐ ประการโดยเคร่งครัด ถ้าความตายเข้ามาถึงเมื่อไรขอไปนิพพานแห่งเดียว

    เมื่อนึกถึงความตายแล้วตั้งใจเคารพ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์สาวก แล้วตั้งใจนึกถึงกรรมบถ ๑๐ ประการว่ามีอะไรบ้าง ตั้งใจจำและพยายามปฏิบัติตามอย่าให้พลั้งพลาด คิดติดตามข้อปฏิบัติเสมอว่ามีอะไรบ้าง ตั้งใจไว้เลยว่าวันนี้เราจะไม่ยอมละเมิดสิกขาบทใดสิกขาบทหนึ่งเป็นอันขาด เป็นธรรมดาอยู่เองการที่ระมัดระวังใหม่ๆ อาจจะมีการพลั้งพลาดพลั้งเผลอในระยะต้นๆ บ้างเป็นของธรรมดา แต่ถ้าตั้งใจระมัดระวังทุกๆ วัน ไม่นานนัก อย่างช้าไม่เกิน ๓ เดือน ก็สามารถรักษาได้ครบ มีอาการชินต่อการรักษาทุกสิกขาบท จะไม่มีการผิดพลาดโดยที่เจตนาเลย เมื่อใดท่านทรง
    อารมณ์กรรมบถ ๑๐ ประการได้ โดยที่ไม่ต้องระวัง ก็ชื่อว่าท่านทรงสมาธิขั้น ขณิกสมาธิ ได้ครบถ้วน เมื่อตายท่านไปสวรรค์หรือพรหมโลกได้แน่นอน

    ถ้าบารมีอ่อน เกิดเป็นมนุษย์อีกชาติเดียวไปนิพพานแน่ ถ้าขยันหมั่นเพียรใช้ปัญญาแบบเบาๆ ไม่เร่งรัดเกินไป รักษาอารมณ์ใจให้เป็นสุข ไม่เมาในร่างกายเราและร่างกายเขา ไม่ช้าก็บรรลุพระนิพพานได้แน่นอน เป็นอันว่าการปฏิบัติขั้นขณิกสมาธิจบเพียงเท่านี้


    คัดจากหนังสือ "วิธีฝึกกรรมฐานด้วยตนเองแบบง่ายๆ" หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
     
  6. paul1234

    paul1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2009
    โพสต์:
    392
    ค่าพลัง:
    +634
    <TABLE style="WIDTH: 174pt; BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=232 border=0><COLGROUP><COL style="WIDTH: 23pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 1133" width=31><COL style="WIDTH: 48pt" width=64><COL style="WIDTH: 55pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 2669" width=73><COL style="WIDTH: 48pt" width=64><TBODY><TR style="HEIGHT: 15pt" height=20><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 23pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 15pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=31 height=20> </TD><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 48pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=64> </TD><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 55pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=73> </TD><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 48pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=64> </TD></TR><TR style="HEIGHT: 15.75pt" height=21><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 15.75pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" height=21> </TD><TD class=xl67 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8; mso-ignore: colspan" colSpan=3>อนุโมทนา... สาธุ...</TD></TR><TR style="HEIGHT: 8.25pt; mso-height-source: userset" height=11><TD class=xl68 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #002060 2pt double; HEIGHT: 8.25pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" height=11> </TD><TD class=xl68 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #002060 2pt double; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8"> </TD><TD class=xl68 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #002060 2pt double; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8"> </TD><TD class=xl68 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #002060 2pt double; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8"> </TD></TR><TR style="HEIGHT: 25.5pt; mso-height-source: userset" height=34><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 25.5pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" height=34> </TD><TD class=xl69 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8; mso-ignore: colspan" colSpan=2>ทาน ศิล ภาวนา</TD><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8"> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    [​IMG]


    ก่อน ลพ.จะมรณภาพ "พระศรีอาริย์" ได้ฝากคนของท่านไว้ ๓ แสนคน (ขึ้นสุคติให้ได้)



    ...บันทึกของหลวงพ่อเมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ องค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าได้มาแจ้งว่า ...

    "...เจ้าเจริญธรรมให้แจ้ง ถึงไม่รักในฐานะที่ควรรัก ...ไม่เกลียด ไม่โกรธ ในฐานะที่ควรโกรธ ...ไม่ขัดเคืองในฐานะทีขัดเคือง

    อย่างนี้ได้ชื่อว่า ได้อริยผลบริบูรณ์แล้ว เจ้าเป็น "พระขีนาสพ" ตั้งแต่เวลา ๔ นาฬิกา วันนี้ ซึ่งตรงกลางเดือน ๙ พอดี..."

    ท่านจึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ชนะในที่สุด สมความปรารถนาที่ได้อธิษฐานลงมา ออกบวชของท่านในชาตินี้ จึงถือได้ว่าเลือกทางเดินเป็นพระอริยสาวกอย่างแน่นอน ด้วยการกำจัดกิเลสเป็นสมุจเฉทปหาน

    แต่ถึงจะหมดภาระสำหรับตนแล้ว ท่านก็ยังตองมีภารกิจสำหรับลูกหลานที่ติดตามกันมา ที่เรียกว่า "เป็นผู้ที่เคยสนับสนุนพระโพธิญาณกันมาในกาลก่อน" จึงมีข้อแม้ว่า จะต้องอยู่เพื่อทำกิจของพระโพธิญาณต่อไปอีก ๑๒ ปี (ถึงปี ๒๕๑๘)

    ครั้นถึงปี ๒๕๑๕ หนังสือประวัติหลวงพ่อปาน ก็ปรากฏออกมา พร้อมอาการป่วยหนักของท่าน เมื่อจะขอลาเข้าสู่พระนิพพาน ท่านปู่พระอินทร์ ก็มายับยั้งว่า

    "คุณตั้งใจมาช่วยบรรดาลูกหลาน อย่างน้อยก็ไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เวลานี้คนของคุณยังมาไม่หมด (จะครบสิ้นปี ๒๓) คนของโยมก็ยังมาไม่ครบ แล้วยังมีคนขององค์สมเด็จองค์ปัจจุบัน และคนของหลวงพ่อปานอีก.."

    หลวงพ่อท่านก็บอกว่า "ก็รอมาตั้งนานแล้ว ทำไมยังไม่มาอีกล่ะ" นับตั้งแต่นั้นมากการหลั่งไหลมาตาม "ใบสั่ง" ก็เกิดขึ้นอย่างมากมาย ดังที่เห็นในปัจจุบันนี้...แต่ก่อนมรภาพ พระศรีอาริย์ มาแถมฝากไว้ให้อีกไม่มาก ประมาณ ๓ แสนคน เวลานี้มีคนมาเล่าให้ฟังหลายรายว่า หลวงพ่อไปเข้าฝันให้มาวัด ทั้งที่ไม่เคยรู้จักวัด และไม่รู้จักหลวงพ่อมาก่อน

    ครั้งนั้นจึงมีการต่อสัญญาอีก ๑๐ ปี เพื่อใช้หนี้ลูกหลานที่ติดตามกันมา จนถึงเวลาครบ ๑๐ ปีตามสัญญา (ครบในปี ๒๕๒๕) ท่านก็ต้องมาตายชัวคราวในปี พ.ศ. ๒๕๒๓ เพื่อตัดตอนก่อนที่จะครบในปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ซึ่งมีการยืดไปอีก ๑๐ ปี ถึงปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ท่านก็ได้ทำกิจพระศาสนาครบถ้วนตามมโนปณิธาน จนถึงวาระสุดท้ายของสังขาร

    เป็นอันว่า หน่อเนื้อพระบรมพงศ์โพธิสัตว์พระองค์นี้ ที่ได้จุติลงมาเพื่อปฏิบัติภารกิจพระศาสนา หวังที่จะสนองคุณองค์สมเด็จพระบรมศาสดา ท่านจึงได้ชื่อว่า เป็นผู้ที่มีความ กตัญญูเป็นเลิศ

    ในระหว่างที่ทรงชีวิตอยู่ ท่านมีความเคารพต่อบิดามารดา ดังที่ท่านเล่าไว้ในเทปชุดสุดท้ายเรื่อง "โปรดโยมบนสวรรค์" เป็นต้น ส่วนครูบาอาจารย์นั้น หลวงพ่อท่านมีความเคารพหลวงปู่ปานเป็นอย่างยิ่ง ดังจะเห็นป้ายที่ซุ้มทางเข้าพระอุโบสถ ซึ่งเป็นการสร้างวัดครั้งแรก ท่านยังตั้งชื่อว่า "ศูนย์ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค"
    เพราะการสร้างคุณประโยชน์ต่อชาวโลกเป็นอันมาก ท่านจึงเป็นที่รัก และเคารพของเหล่ามนุษย์และเทวา โดยเฉพาะเหล่าเทพเจ้าทั้งหลายต่างขนานนามท่านว่า "พ่อปู่" ทั้งองค์สมเด็จพระบรมครูทรงตรัสเรียกหน่อพุทธางกรูพระองค์นี้ ตามที่พวกได้ทราบกันดีแล้วว่า "ท่านสัมพเกษีพรหม" นั่นเอง

    (คัดลอกบางตอนจากหนังสือธัมมวิโมกข์ฉบับ ๒๐๓ ปี ๒๕๔๑ หน้า๑๒๔ - ๑๒๕)

    วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
     
  8. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ปฏิบัติเพื่อให้ทันยุคพระศรีอาริยเมตไตรย

    อ้างอิง อกาลิโก พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์นั้นให้ผลแก่

    ผู้ปฏิบัติโดยไม่จำกัดกาลเวลา ไม่ขึ้นกับกาลเวลา ลงมือปฏิบัติได้ผลเมื่อนั้น

    ทุกคนสามาถรจะสำเร็จมรรคผลได้ตลอดเวลา แต่เราจะค้นหาความสำเร็จนั้นได้หรือไม่ ถ้ามัวแต่รอคอยความสำเร็จ อ้างวัน อ้างเวลา อ้างสถานที่ อ้างบุคคล

    ก็ไม่มีวันถึงธงชัยของพระอรหันต์ได้
     
  9. ผู้หันหลังให้ด้านมืด

    ผู้หันหลังให้ด้านมืด สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +11
    สิ่งที่พระศรีอริยเมตไตรจะมาตรัสรู้ก็คือ อริยสัจ4 ซึ่งไม่ได้แตกต่างจากที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าโคตมตรัสรู้ไว้ แล้วทำใมผู้ที่จะปฏิบัติให้ถึงนิพพานจะต้องรอให้ถึงยุคพระศรีอริยเมตไตร ก็เร่งปฏิบัติตั้งแต่ตอนนี้ จะได้หลุดพ้นจากวัฏสงสารในยุคของพระพุทธเจ้าโคตมนี้เลย
     
  10. chura

    chura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +1,971
    ธรรมของพระพุทธเจ้ายังอยู่ พวกเราเจอแล้วก็เร่งศึกษา ดีกว่าที่จะรอไปเกิดยุคพระศรี

    บางทีแค่เผลอทำกรรมลงนรกอเวจี เผลอๆอาจจะเลยยุคพระศรีอริยไปแล้วก็ได้.....
     
  11. TrueWay

    TrueWay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +196
    ตามข้างบนครับ
    ผมเคยได้ยินมาว่าถ้าในชาตินี้ตกนรก จะเกิดไม่ทันพระศรีอาริยเมตไตรย
    ยังไงก็อย่าประมาทครับ สำหรับคนบารมีอ่อนๆ ทุกคนรู้ตัวเองดีอยู่ ถ้าไม่รู้ตัวเองก็เอาดีไม่ได้
     
  12. sujjung

    sujjung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    193
    ค่าพลัง:
    +424
    ขอนิพพานในชาติปัจจุบันค่ะ ไม่รอในยุคพระศรีอริยเมตไตรยแล้วค่ะ นานเหลือเกิน จะพยายามรักษาศีลและปฏิบัติตามคำสอนของหลวงพ่อในดีที่สุดในชาตินี้ค่ะ
     
  13. sujjung

    sujjung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    193
    ค่าพลัง:
    +424
    ได้ไปปฏิบัติธรรมที่วัดท่าซุงมาค่ะ ได้คุยกับแม่ชีองค์หนึ่งท่านบอกว่าชาตินี้ท่านมุ่งหวังนิพพานอย่างเดียวค่ะ แล้วท่านพูดให้ฟังว่า ชาตินี้จะเป็นชาติสุดท้ายของเราแล้ว (เพราะว่าถ้าตายแล้วไม่ทราบว่าจะได้เกิดเป็นมนุษย์อีกหรือเปล่า ) ในเมื่อเราโชคดีที่ได้เกิดเป็นมนุษย์แล้วให้ปฏิบัติให้ดีที่สุดเพื่อที่จะได้ไปนิพพาน เพราะว่าในกัปนี้เป็นชาติสุดท้ายของเราแล้ว (เราก็คงทันเฉพาะชาตินี้) ให้พยายามหนีนรกให้ได้ท่านเล่าว่าพอพ้นปี พ.ศ.5,000 นรกก็จะปิดแล้วและจะไม่เปิดอีก ถ้าใครตกนรกก็จะไม่ได้ผุดได้เกิดอีกต่อไป ให้พระพุทธเจ้า 20 พระองค์ก็ยังช่วยไม่ได้เลยค่ะ เหมือนกับว่าเป็นการล้างเลยน่ะค่ะ ถ้าใครคิดจะรอในยุคพระศรีอาริยเมตไตรแล้วเราจะได้เกิดอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ อย่ารอเลยค่ะ หมั่นรักษาศีล สร้างกุศล อย่าประมาทกับความตาย ยึดนิพพานเป็นอารมณ์กันดีกว่าค่ะ
    หวังนิพพานค่ะ
     
  14. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    นับได้ว่าเป็นผู้ไม่ประมาท ถึงแม้ทำนิพพานไม่ได้ในสมัยพระสมณโคดม มีโอกาสฟังธรรมเล็กน้อยก็ได้นิพพานยุคพระศรีอาริยเมตไตรย์พุทธะแล้ว[​IMG]
     
  15. ปัญจ์ธน

    ปัญจ์ธน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    417
    ค่าพลัง:
    +855
    อนุโมทนาครับ

    ขอให้ทุกท่านได้เข้าถึงมรรคผลนิพพานกันในชาตินี้นะครับ
    อย่ารอให้ถึงยุคพระศรีอาริยเมตไตยเลย



    ธรรมะไม่กลับมา โลกาวินาศ
     
  16. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ปฏิบัติไปเรื่อยๆ โลกหมุนเข้ายุคพุทธะศรีอาริยะเมตไตรย์พุทธะ

    ก็จะรู้เอง
     
  17. คนธรรมดา44

    คนธรรมดา44 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +17
    อนุโมทนาด้วยครับผม.....ผู้ใดปฎิบัติธรรม...ย่อมนำความสุขสู่ตน
     
  18. dangcarry

    dangcarry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +4,307
  19. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    พี่สอนน้องโพธิสัตว์ที่ยังไม่เที่ยงแท้ต่อการตรัสรู้

    ใด ๆในโลกล้วนไม่เที่ยงถ้ายังไม่เที่ยงแท้กับการ

    ตรัสรู้ ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น รู้แล้วยึดเค้าติดสมมติ

    รู้แล้วละย่อมบรรลุยังโลกอุดร

    พุทธภูมิ ก็อาจจะถอนมา เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ก็อาจจะ

    ถอนมาเป็นพระสาวกภูมินี่ท่านละความปรารถนาแล้ว
     
  20. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากว่าจะมาตรัสรู้แต่ละพระองค์

    ต้องสร้างสมบุญญาธิการมาอย่างมหาศาล

    จนได้รับรัฐไทยเทศพยากรณ์แล้วว่า พระศรีอาริยเมตไตรย จะต้องตรัสรู้

    ธรรมเป็นพระพุทธเจ้าลำดับต่อไป
     

แชร์หน้านี้

Loading...