::: วรวุฒิคุณอนุสรณ์ ประวัติและวัตถุมงคลหลวงปู่ครูบาอิน อินโท ครูบาฟ้าหลั่ง :::

ขอถามพี่ๆ น้องๆ ชาวเหนือหน่อยครับว่า ฟ้าฮ่ามแปลว่าอะไรหรือครับ ขอบคุณมากครับ

คุณธีระยุทธ ขอชมภาพเหรียญและพระผงโรงเรียนสองแควด้วยได้ไหมครับ ขอบคุณครับ

 

ไม่รูสิครับ

ผมเป็นคนลำปาง ก็พึ่งมาได้ยินตอนมาเรียนที่เชียงใหม่นิแหละครับ

อิอิ

 

ฟ้าฮ่าม=ฟ้าอร่ามเรือง

สงสัยไปแถวย่านวัดฟ้าฮ่ามล่ะสิครับ เข้าไปไหว้รูปเหมือนท่านในพระวิหารนะครับท่านเป็นพระดีครับ แล้วแวะกินข้าวซอยฟ้าฮ่ามหน้าวัดนะ อร่อยมากๆhe llo _car

 

เหรียญสองแคว

ไปบูชาที่วัดทุ่งปุยได้ถูกมากๆๆๆๆ ห้าเก้าครับ เหรียญดีนะครับเจตนาสร้างเพื่อสาธารณะประโยชน์ บริสุทธิ์ทั้งการสร้าง และบริสุทธิ์ผู้ปลุกเสก ครับ

 

ข้าวซอบฟ้าฮ่าม รำแต้ๆ แนะนำ แนะนำ

 

ลืมบอกครับชื่อร้านข้าวซอยลำดวน.............เอ๋ทามไมไม่มีใครตอบพี่ไก่เลยนะ(คำถาม)สงสัยรอหยั่งทางกันละสิ ฮ่าๆๆๆๆ...................................;k03

 

ขอตอบคำถามอีกครั้งนะครับ ตามคำเรียกร้องของคุณแมวขาว

1.หลวงปู่ครุบาตั๋น ปัญโญ สำนักสงฆ์ม่อนปู่อิน สหธรรมิกแนวลึก<O</O
2.หลวงปู่บุญปั๋นวัดร้องขุ้ม สหธรรมิกที่ไปมาหาสู่กัน<O</O
3.หลวงปู่สิมวัดถ้ำผาปล่อง หลวงปู่สิมมากราบเยี่ยมหลวงปู่ครูบาอินถึงวัดฟ้าหลั่งบ่อยๆ <O</O
4.ครูบาพรหมา พรหมจักโก (พระสุพรหมญาณเถระ วัดพระพุทธบาทตากผ้า)<O</O
5.พระอาจารย์ทอง สิริมงฺคโล (พระเทพสิทธาจารย์ วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร)<O</O
6.พระครูปิยธรรมภานี (ครูบาปิยะ) วัดชัยมงคล (ต้นแหนหน้อย) <O</O
องค์ที่ 4-6 กับหลวงปู่ครูบาอินมาศึกษากรรมฐานที่วัดมหาธาตุ กทม.ด้วยกัน<O</O
7.ครูบาหน้อย วัดบ้านปงท่านมาร่วมงานที่วัดฟ้าหลั่ง หลวงปู่ครูบาอินท่านมาต้อนรับด้วยองค์เองเสมอ<O</O
8.ครูบาศรียูร คนฺธวํโส (พระครูมงคลคันธวงศ์) เจ้าอาวาสวัดมงคล (ทุ่งแป้ง)เป็นสหธรรมิกรุ่นน้อง<O</O
9.หลวงปู่หล้า วัดป่าตึง หลวงปู่แนะนำให้คนมากราบท่านให้ไปกราบหลวงปู่หล้า และมาร่วมงานที่วัดฟ้าหลั่ง<O</O
10.หลวงปู่ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี หลวงปู่แนะนำให้คนมากราบท่านให้ไปกราบหลวงปู่ครูบาดวงดี และมาร่วมงานที่วัดฟ้าหลั่ง</O
11.หลวงปู่ครูบาธรรมธิ วัดสันป่าตึง แม่แตงท่านบอกว่าเป็นเสี่ยวเปิ้นกัน<O</O
12.ครูบาบุญมี สุเมโธ วัดศิลามงคล ป็นสหธรรมิกรุ่นน้องของครูบาปัญญา และครูบาอินมาต่อวิชากันอยู่เสมอๆ</O
13.ครูบาปัญญา วัดทุ่งปุย ลูกผู้พี่ของหลวงปู่ครูบาอิน<O</O
14.พระธรรมสิทธาจารย์ (หลวงปู่หนู ถาวโร) วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร <O</O
15.พระโพธิรังษี วัดพันตอง <O</O
16.พระราชรัตนากร วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ (ปัจจุบันได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพวรสิทธาจารย์) <O</O
17.พระครูสถิตธรรมวัตร (ครูบาดวง ฐิตวโร) วัดศรีทรายมูล (กู่ลายมือ) <O</O
18.พระครูพิศาลประชานุกูล (ครูบาติ๊บ ปภากโร) วัดท่าวังพร้าว <O</O
19.พระครูวุฒิธรรมวิมล (ครูบาดำ) วัดดอยหล่อ <O</O
20.พระครูมนูญธรรมาภรณ์ (ครูบาอิ่นคำ ฐานงฺกโร) วัดมหาวัน (เชียงใหม่) <O</O
21.พระครูมงคลคณาทร (ครูบาคำปัน นนฺทิโย) วัดหม้อคำตวง <O</O
22.พระครูสิงหวิชัย (ครูบาสิงห์ สิริวิชโย) วัดฟ้าฮ่าม <O</O
23.หลวงพ่อต๋า ปัญญาวุฒโฒ (ครูบาต๋า) วัดอุโบสถบ้านเหล่า <O</O
24.พระครูปัญญาธรรมวัฒน์ (พระอาจารย์อินทร ปัญยาวัฑฒโน) วัดสันป่ายางหลวง<O</O
25.ครูบาสุริทร์ วัดหลวงศรีเตี้ย<O</O
26.ครูบาอินตา วัดห้วยไซ<O</O
27.หลวงปู่ครูบาจันทร์ วัดสันเจดีย์ ริมปิง

องค์ที่ 14-26 มาร่วมงานพิธีพุทธาภิเศกพระของหลวงปู่ครูบาอิน
องค์ที่ 27 มาร่วมงานพิธีเททองพระกริ่งไจยะเบงชร ที่วัดทุ่งปุย ปี2545

<O</O

 

ตอบมั่ง

 

เอ๊ะ... น้อยเกินคาดแฮะ
ใกล้หมดเวลาแล้วครับ

ว่าแต่ว่า คุณ puken เจ้าของรางวัลหายไปไหนแว้ว

ถ้าใครได้รางวัลก็ใจเย็นๆ นะครับ

ธีระยุทธ

 

ประกาศศศศศศศศศศศศศ....

หมดเวลาแล้วเด้อ..

เรื่องตัดสินขอเวลาก่อนนะครับ
จะเร่งตรวจสอบ

 

ลุ้นๆๆๆ ใครจะได้ไปครับ ยินดีล่วงหน้า

 

วันอาทิตย์ไปทำบุญที่วัดใหม่หนองหอยมาครับ การก่อสร้างเริ่มลงฐานรากแล้วครับ เห็นแล้วชื่นใจครับ;aa44

 

ก่อนที่จะได้มาประกาศผลผู้ชนะ...
ขอคั่นเวลาด้วยประสบการณ์ที่ผมเพิ่งจะได้ยินมาไม่กี่วันนี้
แล้วผมก็ตามไปเอารุปหลักฐานจากเขามาทันที

อ่านเรื่อง... และชมภาพกันก่อนครับ

=================================

หลวงปู่รู้จิต เมตตาให้ถ่ายรูปตามที่ปรารถนา
ประสบการณ์จาก “แพะ สันป่าตอง”

ช่วงประมาณเดือน ตุลาคม ปี พ.ศ. ๒๕๔๕ เป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวของคุณสมพล จันเสน หรือ “แพะ สันป่าตอง” ทำธุรกิจซื้อขายลำใย ซึ่งต้องเดินทางไปตามหมู่บ้านที่ปลูกลำใยกันมาก ครั้งหนึ่งต้องเดินทางเข้าไปหมู่บ้านหนึ่งในเขตตำบลยางคาม ระหว่างทางต้องผ่านวัดคันธาวาส (ทุ่งปุย) คุณสมพล ก็นึกอยู่ในใจว่า ขากลับออกมาทางเดิมจะแวะเข้าไปกราบหลวงปู่ครูบาอิน โดยปกติแล้วหากคุณสมพลมีกิจธุระต้องผ่านไปมาแถวนี้ ก็จะแวะกราบหลวงปู่เป็นประจำ

ขากลับ คุณสมพล และพี่เขยซึ่งไปด้วยกันก็ได้แวะกราบหลวงปู่ครูบาอินตามที่ตั้งใจไว้ เมื่อเลี้ยวรถเข้ามาในบริเวณวัด ก็เห็นหลวงปู่ครูบาอิน นั่งอยู่บนรถเข็น บริเวณด้านหน้าศาลาการเปรียญ ซึ่งเป็นที่พักผ่อน และโปรดญาติโยมที่มากราบท่านอยู่เป็นประจำ ขณะนั้นเป็นช่วงเวลาบ่ายคล้อย หลวงปู่นั่งอยู่เพียงผู้เดียว โดยมีพระรูปหนึ่งเดินไปมาทำธุระอยู่ไม่ไกล

เมื่อลงจากรถคุณสมพลและพี่เขย ก็ตรงไปกราบหลวงปู่ กราบเรียนถามสุขภาพหลวงปู่ไปตามปกติ แต่หลวงปู่ครูบาอิน ท่านไม่ตอบ ไม่พูดอะไรเลย ใบหน้าของท่านเรียบเฉย มีพยักหน้ารับเป็นบางครั้งเท่านั้น พอดีวันนั้นคุณสมพลเอากล้องถ่ายรูปไปด้วย จึงได้กราบขออนุญาตถ่ายรูปกับหลวงปู่ โดยตั้งใจให้พี่ชายถ่ายก่อน เมื่อหลวงปู่พยักหน้าอนุญาต คุณสมพลก็จัดการตั้งกล้องถ่ายรูปให้กับพี่เขยจนเสร็จ ก่อนที่จะเปลี่ยนให้พี่ชายเป็นคนถือกล้อง ตัวคุณสมพลเอง ค่อยๆ ก้มลงกราบ และยกเอาฝ่าเท้าของหลวงปู่วางบนศรีษะ แล้วให้พี่ชายถ่ายรูปให้เป็นรูปแรก ขณะนั้นหลวงปู่ก็ยังนิ่งเงียบ ไม่พูดอะไร

คุณสมพลลุกขึ้นแล้วไปนั่งพนมมืออยู่ข้างๆ หลวงปู่เพื่อจะขอถ่ายรูปหน้าตรงอีกรูป ในใจตอนนั้นก็คิดว่า อยากได้รูปหลวงปู่เอามือวางบนศรีษะของตัวเอง จะขยายใส่กรอบติดผนังบ้านใหม่ที่ตนเองสร้างกำลังจะเสร็จในอีกไม่นานนี้ แต่ก็เป็นเพียงแค่คิดในใจเพราะไม่กล้าเอ่ยปากขอรบกวนหลวงปู่ อย่างที่ใจปรารถนา

แต่ทันใดนั้นเอง หลวงปู่ครูบาอินก็ยกมือของท่าน วางลงบนศรีษะของคุณสมพลพร้อมทั้งหันมายิ้มให้น้อยๆ ก่อนจะมองกล้องเพื่อให้พี่เขยของคุณสมพลถ่ายรูปให้

คุณสมพล ขนลุกซู่ด้วยความประหลาดใจระคนดีใจ ประหลาดใจที่หลวงปู่เหมือนจะล่วงรู้ความคิดความปรารถนาของตน และดีใจที่หลวงปู่ท่านเมตตาวางมือบนศรีษะของคุณสมพลให้ได้ถ่ายรูปในอิริยาบทที่สมใจ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ท่าทางของท่านเงียบขรึมและแทบไม่สนใจจะพูดคุยกับคุณสมพลเลย อีกอย่าง ตำแหน่งการนั่งของคุณสมพลเวลาถ่ายรูปก็เป็นที่เดียวกับที่พี่เขยของตนนั่งถ่ายรูปเมื่อสักครู่นี้ หลวงปู่ท่านก็ไม่เห็นจะยกมือมาวางบนหัวอย่างของตน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะเป็นด้วยความบังเอิญอย่างที่สุด หรือเป็นพระญาณหยั่งรู้ของหลวงปู่ครูบาอิน ก็สุดที่จะคาดเดาได้

และนี่คือภาพเหตุการณ์ในวันนั้น




อีกครั้งหนึ่ง เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณสมพล หลังจากที่หลวงปู่ครูบาอินท่านได้ละสังขารไปนานหลายปี

คุณสมพล มีอาชีพเปิดแผงพระอยู่บริเวณหน้าที่ทำการไปรษณีย์สันป่าตอง ทุกวันหากไม่ติดธุระต้องออกไปไหน ก็จะมาเปิดแผงซึ่งแต่ละวันก็จะมีเพื่อนฝูง คนรู้จัก และลูกค้าขาจรแวะเวียนมาดูพระ บ้างก็เอาพระที่ตนเองมีมาฝากขาย เรียกได้ว่ามีคนวนเวียนเข้าออกร้านอยู่เป็นประจำ

วันหนึ่ง ช่วงกลางๆ ปี พ.ศ. ๒๕๕๑ มีเพื่อนรุ่นพี่ท่านหนึ่ง ชื่อพี่ศักดิ์ ได้นำเอากรอบทองที่แกะออกมาจากพระที่ตนเองเลี่ยมไว้มาบอกขาย เพราะต้องการเปลี่ยนกรอบใหม่ โดยบอกขายในราคา ๔,๐๐๐ บาท ถึงแม้คุณสมพลจะอยากได้ แต่เพื่อให้ซื้อขายกันอย่างสมราคาจึงได้เอากรอบพระดังกล่าวไปตีราคาที่ร้านทองของเพื่อนที่อยู่ปากซอยบ้านไร่ ซึ่งเพื่อนก็ตีราคาให้ที่ ๓,๘๐๐ บาท คุณสมพลก็บอกราคาให้กับเพื่อนรุ่นพี่ไปตามนั้น

เมื่อไม่ได้ราคาตามที่ตั้งไว้ พี่ศักดิ์ก็ตัดสินใจไม่ขายกรอบพระนั้นให้กับคุณสมพล และเขาก็หายหน้าหายตาไปจนคุณสมพลลืมเหตุการณ์ในวันนั้นไปแล้ว

ผ่านไปเกือบหนึ่งเดือน คืนนั้นคุณสมพลก็เข้านอนตามปกติ กลางดึกคืนนั้นคุณสมพลฝัน ในฝันพี่ศักดิ์ที่หายหน้าไปเกือบเดือนขี่มอเตอร์ไซด์คันที่เขาใช้เป็นประจำ มาหาคุณสมพลที่ร้านพร้อมทั้งยื่นกรอบพระอันเดิมให้กับคุณสมพล พร้อมทั้งถามว่า “แพะ ยังเอาอยู่ไหม สามพันแปดก็สามพันแปด” คุณสมพลควักเงินจ่ายออกไปตามจำนวน แล้วเก็บกรอบพระนั้นใส่กระเป๋าไว้ ความฝันของคุณสมพลยังไม่จบแค่นั้น เพราะในความรู้สึกว่าเป็นบ่ายวันเดียวกันนั้น เพื่อนรุ่นพี่อีกคนหนึ่ง ชื่อพี่ยม บ้านทุ่งหลุก ก็มาหาคุณสมพลที่ร้าน พร้อมทั้งเอาเหรียญพระเครื่องสองเหรียญมาบอกขายคุณสมพล หนึ่งในนั้นเป็นเหรียญหลวงปู่ครูบาอินรุ่นแรกสภาพสวยคมชัด คุณสมพลตัดสินใจซื้อทันที เมื่อได้พระมาแล้ว ก็เลยนำเอาเหรียญหลวงปู่ครูบาอิน มาเลี่ยมใส่กรอบพระที่ตนเพิ่งจะซื้อมาจากพี่ศักดิ์เมื่อเช้าวันนั้น ห้อยคอทันที

คุณสมพลสะดุ้งตื่น รีบเอามือคลำที่บริเวณคอตัวเอง ก็ไม่พบพระเครื่องใดๆ จึงค่อยๆ คิดทบทวนว่า ภาพเหตุการณ์ที่เพิ่งจะผ่านมานั้น แท้ที่จริงเป็นเพียงแค่ความฝัน ซึ่งเมื่อรู้สึกตัวดังนี้ ก็เลยล้มตัวลงนอนหลับไปจนเช้า

เช้าวันนั้นคุณสมพลมาเปิดแผงพระของตนเองตามปกติ ซึ่งในบริเวณนั้นนอกจากจะมีแผงพระของคุณสมพลแล้ว ยังมีแผงของลุงสง่า ซึ่งค้าขายอยู่ตรงนี้ด้วยกันมานานหลายปี คุณสมพลเล่าเรื่องความฝันของตนเงให้กับลุงสง่าฟัง เพราะลุงสง่าเองก็อยู่ในเหตุการณ์วันที่พี่ศักดิ์เอากรอบพระมาถามขายให้กับตน เมื่อเล่าเรื่องและพูดคุยเสร็จ ต่างก็แยกย้ายไปดูแลแผงของตน

ช่วงสายวันนั้นเอง พี่ศักดิ์ก็ขี่มอเตอร์ไซต์มาหาคุณสมพลที่แผงพระ พร้อมทั้งเอากรอบพระอันเดิมมาบอกขายอีกครั้งในราคา ๓,๘๐๐ ตามราคาที่คุณสมพลเสนอให้เมื่อไม่นานมานี้ คุณสมพลตกลงซื้อไว้ และได้พูดกับลุงสง่าหลังจากพี่ศักดิ์กลับไปแล้วว่า “บังเอิญจังนะลุง เหมือนที่ผมฝันเมื่อคืนเลย”

แต่ทว่าความบังเอิญไม่ได้จบเพียงเท่านั้น ช่วงบ่ายวันเดียวกัน พี่ยมก็ขับรถมาจอดที่หน้าแผงของคุณสมพล เมื่อลงจากรถคุณสมพลสังเกตุเห็นในมือมีกระดาษห่ออะไรสักอย่างถือติดมาด้วย และก่อนที่พี่ยมจะทันได้พูดอะไร คุณสมพลรีบชิงพูดขึ้นมาก่อนเลยว่า “พี่อย่าบอกนะว่า พี่เอาเหรียญครูบาอินมาขายผม” คุณยมมองหน้าคุณสมพลด้วยความประหลาดใจ ลุงสง่าซึ่งนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยมองคุณสมพล สลับกับพี่ยมไปมา โดยไม่รู้จะพูดอะไร และก็เป็นจริงดังคาด ในกระดาษห่อชิ้นนั้น มีเหรียญครูบาอินรุ่นแรกสภาพสวยคมชัดอยู่ในนั้น

คุณสมพลตกลงซื้อเหรียญครูบาอินจากพี่ยม และตั้งใจจะเอาไปเลี่ยมกรอบด้วยทองที่ซื้อจากพี่ศักดิ์เมื่อเช้านี้ เหมือนกับที่ได้ทำในฝัน คุณสมพลได้คุยกับลุงสง่าหลังจากนั้นว่า “นี่ถ้าผมไม่ได้เล่าความฝันของผมให้ลุงสง่าฟังก่อนตั้งแต่เมื่อเช้า ผมเล่าให้แกใครฟังตอนนี้เขาคงไม่เชื่อแน่นอน ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมวันนี้จะเหมือนกับที่ผมฝันเมื่อคืน อย่างกับเป็นภาพรีเพลย์หนัง”

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ รวมทั้งเหตุการณ์แรกที่ไปกราบหลวงปู่ เป็นประสบการณ์ที่ไม่อาจจะหาคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ชี้แจงได้ บางท่านอาจจะสรุปว่าเป็นความบังเอิญที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่ากับผู้คนหลายๆ คน แต่สำหรับคุณสมพล สิ่งเหล่านี้คือเครื่องตอกย้ำความเคารพรักศรัทธา ที่ตนเองมีต่อหลวงปู่ครูบาอิน อินโท ให้เพิ่มพูนอย่างไม่มีเสื่อมคลาย ท่านที่ผ่านไปมาแถวๆ หน้าที่ทำการไปรษณีย์สันป่าตอง ลองแวะทักทายสอบถามเรื่องราวเหล่านี้ได้...

 

อนุโมทนาครับพี่ไก่
การขอพรจากหลวงปู่ ต้องขอด้วยจิตที่มีสมาธิ ด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ และที่สำคัญคือ"ศรัทธา"
ที่กล่าวมานี้มาจากประสบการณ์ครับ

 

กราบหลวงปู่ครูบาอินด้วยความเคารพครับ

 

ติดค้างเรื่องรูปพระสมเด็จปรกโพธิ์
แบบโรยพลอยและไม่โรยพลอย

สร้างมาถวายหลายวาระ เลยไม่มีจำนวนแน่ชัด
สีองค์พระ ต่างกันบ้างเล็กน้อย แต่เป็นพิมพ์เดียวกันทั้งหมดครับ





ต่อไปเป็นแบบโรยพลอย เนื้อจะขาวๆ กว่า

 

ต่อไป เป็นพระสมเด็จ หลัง ๙๙ และยันต์ครู
สร้างที่วัดฟ้าหลั่งครับ
รุ่นนี้ ที่วัด "ไม่มีแล้ว"





ที่ยังมีเหลือที่วัดฟ้าหลั่ง เป็นพระสมเด็จ ๙๙ หลังยันต์นะ ล้านนา
ตะกรุดเงิน สร้างปี 2543 จำนวน 2553 องค์
ตอนนี้ที่วัดฟ้าหลั่ง เหลือไม่ถึง 20 องค์
ที่วัดใหม่หนองหอย มีเหลือเยอะกว่า แต่ก็ไม่มากแล้ว


===================================
พระสมเด็จ ครูบาอิน อินฺโท วัดฟ้าหลั่ง
หลังยันต์ "นะ" ล้านนา ตะกรุดเงิน

สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึก ในวาระที่หลวงป่ครูบาอิน อินฺโท เจริญอายุครบ "๙๙ วษา"
และเพื่อสมทบทุนสร้างหอสรงน้ำทรงล้านนาประยุกต์ บริเวณใกล้ๆ กับพระธาตุฟ้าหลั่ง
พระอาจารย์ไพบูลย์ อินทปัญโญ พระอุปัฏฐากของหลวงปู่เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้าง
เป็นพระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ เนื้อผงพุทธคุณ ด้านหน้าโรยเกศาและจีวร
ด้านหลัง เป็นยันต์ "นะ" ล้านนา ฝังตะกรุดเงิน และโรยเกศา

หลวงปู่ครูบาอินปลุกเสกเดี่ยว ก่อนนำเข้าพิธีสืบชะตาหลวง และพิธียกช่อฟ้าหอสรงน้ำ วันเสาร์ที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๓ พระสงฆ์ ๑๐๙ รูป เจริญพระพุทธมนต์ ก่อนนำออกให้บูชาหลังเสร็จพิธีในวันนั้น

จำนวนสร้าง ๒,๕๕๓ องค์

(หมายเหตุ: เดิมตั้งใจจะสร้าง ๒,๕๔๓ องค์ เท่าปี พ.ศ. แต่ช่างได้ปั๊มเพิ่มไว้กันเสีย จำนวน ๑๐ องค์ ทางวัดจึงรับไว้ทั้งหมด)

===================================







ที่วัดมีให้บูชา องค์ละ 499.- บาท เท่านั้นครับ
ในเวป เป็นพันแล้ว

ธีระยุทธ

 

แล้วแบบโรยพลอยกับมีเกศาที่ด้านหลัง...........

 

คุณธีระยุทธ

สอนผมถ่ายรูปพระสวยๆ แบบนี้บ้างสิครับ

 

---REPOST----

พระธรรมเทศนา ของหลวงปู่ครูบาอิน เรื่องกำไรชีวิต
ออกอากาศ ในรายพุทธ "พุทธประทีป" ช่อง 5 ครับ
ไปโหลดมาฟังได้เลย

upload.packetlove.com - Free Upload File in Thailand. อัพโหลด, อัพโหลดไฟล์, ฟรีอัพโหลด

ถ้าฟังไม่รู้เรื่อง อ่านสริปนี้ได้ครับ

------------------------------------------

พระธรรมเทศนา
โดย พระครูวรวุฒิคุณ (หลวงปู่ครูบาอิน อินโท)
วัดคันธาวาส (ทุ่งปุย) กิ่ง อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่
ในรายการพุทธประทีป สถานีโทรทัศน์กองทัพบก ชอง ๕
ดำเนินรายการโดย คุณกันตชาติ เกษมสันต์ ณ อยุธยา

ท่านพุทธศาสนิกชนที่เคารพทุกท่านครับ และในช่วงกุศลธรรม ทางคณะทำงานพุทธประทีปของเรานั้น ได้เดินทางต่อมายัง วัดทุ่งปุย กิ่งอ. ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ เพื่อมากราบอาราธนา ขอสดับรับฟังพระธรรมเทศนา จากพระครูวรวุฒิคุณ หรือที่เรารู้จักกันดี ในนามของ ครูบาอิน อินฺโท ท่านเป็นพระสุปฏิปันโณ ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบในทางพระพุทธศาสนา เป็นที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสปสาทะแกพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป และเป็นที่เคารพศรัทธาของ พุทธศาสนิกชน ทางภาคเหนือเป็นอย่างมากทีเดียวเลยนะครับ และในวันนี้ ท่านจะได้กรุณาสละเวลาอันมีค่าของท่านนั้น มาแสดงพระธรรมเทศนาให้กับผู้ชมรายการพุทธประทีปของเรา ได้มีโอกาสติดตามรับชม รับฟัง และน้อมนำไปประพฤติปฏิบัติกัน และในลำดับต่อจากนี้ไป ขอเชิญท่านผู้ชมทุกท่าน ติดตามรับชม รับฟังธรรมะจากครูบาอิน อินฺโท ได้แล้วครับ

นมัสการครับ

หลวงปู่ครูบาอิน:
จะมาอู้มาเทศน์วันนี้ เรื่องกำไรชีวิตของคนเฮา กำไรชีวิตนั้น มันมีอยู่ ๓ ข้อ
ข้อที่ ๑ ทานมัย
ข้อที่ ๒ ศีลมัย
ข้อที่ ๓ ภาวนามัย

ทั้งสามประการนี้ เป็นกำไรชีวิตของคนเฮาทุกคน บ่ว่าผู้ญิงผู้ชาย เพราะเฮาเกิดมาพบกับพระพุทธศาสนาแล้ว เฮาจำเป็นหื้อได้ทำหื้อชีวิตเฮามีกำไร เมื่อเฮาบ่ทำ เฮาก่อขาดทุน ชีวิตเฮาขาดทุน ขาดทุนที่บ่ได้ทำ เมื่อเฮาได้ทำแล้ว ชีวิตก็มีกำไร

เมื่อชีวิตมีกำไรแล้ว เวลาเฮาหลับตาลาจากโลกนี้ไป ก็จะได้ไปสู่ที่ดี ที่ดีนั้นคือที่สุข สุขเป็นที่ดีของมนุษย์

ข้อศีล ศีลนั้นก็คือแก้ แก้ในตัว แก้อะหยัง แก้กิเลศ แก้กิเลศในตัวเฮา เมื่อเฮาได้แก้แล้ว เฮาก็อยู่เป็นสุข เมื่อหลับตาลาจากโลกแล้ว เฮาก็เป็นสุข เป็นสุขไป บ่ใช่ว่ารับศีลแล้ว ก็แล้วไป ศีลนี้มันเป็นฐานของชีวิตคนเฮา เฮาจะได้เอามาแก้ แก้กิเลศ แก้ความโลภ แก้ความหลง แก้ความโกรธ

กิเลศ คนเฮานี้บ่ว่าผู้ญิงผู้ชาย กิเลศมีเหมือนกันทุกคน สุดแล้วแต่เฮาจะแก้ เอาหยังมาแก้... ศีล พระพุทธองค์ก่อนที่เปิ้นจะปรินิพพาน เปิ้นจะสั่งไว้ว่า “ศีลฮักษากาย วาจา ใจ๋ หื้อเรียบร้อย” เปิ้นบ่หื้อว่าหื้อไผ คนนั้นคนนี้ อย่างนั้นอย่างนี้ เปิ้นบ่หื้อว่า นั่นละเปิ้นว่า ศีลฮักษา กาย วาจา ใจ๋ หื้อเรียบร้อย

บางคนนี้มันรับ รับแล้วก็แล้วไป บ่ฮู้ว่าจะเอามาแก้อะหยัง แก้กิเลศน่ะ กิเลศนั้นมีอยู่ในตั๋วเฮา บ่ว่าผู้ญิงปู้ชาย ความโลภ ความโกรธ ความหลง... มันแรงเหลือเพิ่น ความโขดเนี่ย ตั๋วกิเลศตั๋วนี้ แรง เกิดง่าย เมื่อเอาฮู้ที่แก้ที่ไขแล้ว มันก็จะบรรเทาทุกข์ บ่หื้อโขดมันก่อบ่โขด เมื่อเฮาบ่ฮู้มันก็โขดไปเอี๊ยะ อยู่ไหนก็คิดถึงอารมณ์โขด นอนอยู่ก็คิดถึงอารมณ์โขด เพราะเฮาบ่ได้แก้ เมื่อเฮาแก้แล้ว มันอยู่เป็นสุข ไปก่อเป็นสุข อยู่ก่อเป็นสุข สุขอกสุขใจ๋ บ่ได้คิดหยัง ก็ต้องพยายามแก้

ตั๋วโขดเนี่ยมันก่อเกิดง่าย กิเลศตั๋วนี้ พระพุทธองค์ก็สั่งไว้ ศีล รักษากาย วาจา ใจ๋ หื้อเรียบร้อย เปิ้นบ่หื้อว่าหื้อไผ เขาว่าหื้อเฮา ว่าช่างเขา เฮาจะไปตอบ ว่าช่างเขา งานเฮามีเฮาก่อทำไป หื้อมันเสร็จไปเสีย เขาว่ามาเฮาจะไปตอบ เมื่อเฮาตอบไปแล้วมันก่อจะรุนแรง จะเป็นกรรมเป็นเวรกัน เมื่อเป็นกรรมเป็นเวรกันแล้ว เวลาเฮาหลับตาลาจากโลกนี้ไป เฮาจะได้ไปส้ายกรรมส้ายเวร เอาจนหมดกรรมหมดเวรก่อน ตี้เฮาไปส้ายกรรมส้ายเวรนั้น มันไปอยู่ตี้ฮ้อน บ่ใช่อยู่ตี้เย็น ฮ้อน... มันมี ๒ ตี้ ตี้เย็นก่อมีตี้ ถ้าหมดกรรมหมดเวรแล้ว เปิ้นก่อส่งมาอยู่ตี้เย็น เย็นนั้นมันสบายกายสบายใจ๋ เพราะมันหมดกรรมหมดเวรแล้ว อันเนี้ยพระพุทธองค์เปิ้นสั่งไว้

เวลาไปส้ายกรรมส้ายเวร ฮ้อน... มันบ่มีแอร์ บ่มีพัดลมอะหยังสักอย่าง มันฮ้อน เอาจ๋นหมดกรรมหมดเวรแล้ว เขาก็ส่งมาตี้เย็น ตี้เย็นนั้นมันสบาย สบายกายสบายใจ๋

ศีลนี้บ่ใช่ว่าจะรับแล้วแล้วไป ต้องเอามาแก้ แก้กิเลศในตั๋วเฮา แก้ความโลภ แก้ความโขด แก้ความหลง บางคนก่อหลง หลงจิตหลงใจ๋ไปทางบ่ดีก่อมี มันต้องพยายามแก้ บ่ใช่ว่ารับแล้วแล้วไป เอามาแก้กิเลศในตัวเฮานี้ จะไปหื้อมันได้เกิด บ่ว่าแม่ญิงป้อจาย ความโขดนี้มันร้ายแรง สิ่งที่บ่พอใจ๋มันก็โขด ดุด่า อันนี้มันบ่ถูก เลยติดเอามา เมื่อฮ็ตี้แก้ตี้ไขแล็ว มันอยู่เป็นสุข

อยู่เป็นสุข เป็นสุข บ่ได้คิดถึงอารมณ์โขด เพราะเฮาฮู้ตี้แก้ตี้ไขแล้ว เมื่อเฮาบ่ฮู้ตี้แก้ตี้ไข คิดแต่อารมณ์โขด บางคนนอนปอบ่หลับ คิดถึงอารมณ์โขด อันนี้เรื่องความโขด มันเกิดง่าย

แล้วก่อความหลง หลงจิตหลงใจ๋ มันคือเอี๊ยะ บางคนนี้มันหลงไปทางบ่ดี หลงไปทางบ่ดี เพราะประเทศไทยเฮาเวลานี้ สิ่งที่ดีมันบ่มา บ่เข้ามา มันเข้าแต่สิ่งที่บ่ดี มันไหลเข้ามา ประเทศไทยเมื่อตะก่อนนี้เปิ้นว่ายา ยาขยัน กิ๋นแล้วขยันทำงาน ขยันทำงานแต้ จนอาบเหงื่อต่างน้ำ บ่เด่วมันบะอั้น มันเป๋นยาบ้า ยานี้ไป มันแก้ มันปิ้นไป อันเนี้ย เฮาจะต้องพยายาม

เฮามีลูกมีหลาน ก็ต้องสอนลูกหลาน ลูกเฮาจะดีก่อเปื้อพ่อเปื้อแม่ พ่อแม่เป็นผู้แนะ ผู้นำ ผู้สั่ง ผู้สอน เฮาสั่งเฮาสอนลูกสอนหลาน เฮาจะไปใช้กิเลศตั๋วโขด อะหยังเฮาก็จะดุจะด่า อันนี้... เอ๊า มันบ่เปิงบ่เพราะ เพราะเขาเป๋นลูกเป๋นหลาน มันบ่ฮู้ ก็เลยทำไป เวลาเฮาบอกหื้อทำงาน เมื่อทำไปแล้วบ่ถูก บ่ถูกอกถูกใจ๋เฮา เฮาก็ดุด่า อันนี้มันบ่ถูก มันทำไปแล้วมันบ่ถูกเฮาก่อต้องแก้ แนะนำหื้อเขา แก้... ก๋านงานเฮามันก่อจะดีขึ้น โบราณเปิ้นว่า ลูกจะดีก่อเปื้อพ่อเปื้อแม่ ลูกบ่ดีก่อเปื้อพ่อเปื้อแม่

คนอื่นจะมาสอนหื้อกั๋นดีบ่มี มันสอนไปทางบ่ดีนั้นมันมีถมไป สิ่งที่มันไหลเข้ามา ประเทศไทยเฮานี้ สิ่งดีบ่มา บ่ดีเพราะจะได มันก๋ายไปเป็นหยูกเป็นยาไปแล้ว เฮามีลูกมีหลาน มีลูกมีเต้า ไปแล้ว ก็จำเป็นจะได้แนะนำสั่งสอน หื้อลูก ก๋านแนะนำสั่งสอนลูกเต้าเฮา เฮาจะไปใช้กิเลศตั๋วโขด ต้องปากหวาน สอนเขาหื้อด้วยดี ถ้าใช้กิเลศตั๋วโขดนี้มันร้ายแรงไป มันรุนแรงเกินไป มันต้องพยายาม พยายามแก้ อันนี้เรื่องแก้ความโลภ แก้ความโขด แก้ความหลง

คุณกันตชาติ:
และท้ายที่สุดนี้.... ขอหลวงปู่ได้โปรดเมตตาให้พรแก่ผู้ฟังรายการพุทธประทีปในขณะนี้ด้วยขอรับ

หลวงปู่ครูบาอิน:
สุนะขะตัง สุมังคะลัง สุปะพะตั๋ง
สุหุยิถัง สุคะโน สุมุหุโต
จะสุยิถัง ธัมมะจะลิสุ ปะทักขินัง
กายะกัมมัง วจีกรรมมัง มะโนกรรมมัง
สันจิจะโตสัง อะสันจิจะโตสัง...

((((((..... น่าจะมีต่อ แต่ทางรายการตัดเสียงออกไปเสียก่อน... ))))


--------------------------------------------------------------------