ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Me, myself, 3 มีนาคม 2009.

  1. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160

    ขออนุโมทนาสาธุ

    และขอน้อมนำพระพุทธพจนะขององค์ปฐมมาปฏิบัติคร้าบ

    คุณฝนครับ คำตรัสขององค์ปฐมที่คุณนำมาบอกกล่าวนี้...

    เป็นประโยชน์แก่ผู้ปฏิบัติทุกคนอย่างมหาศาลคร้าบ

    ขอขอบคุณอีกครั้งคร้าบ
     
  2. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    พระคาถาแผ่เมตตาทั่วไตรภพ

    พอดีอ่านเจอบทความดี ๆ จากเว๊ปนี้เลยอยากให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน

    "สิ่งที่ชั่วร้ายที่สุดคือ ร่างกายของคน อย่าหลงรักของชั่วร้าย คือ กายเรา กายเขา คือขันธ์ 5 เราขันธ์ 5 เขาต้องไล่ ขันธ์ 5 ร่างกายนี้ออกจากจิต ถ้าไม่ไล่ร่างกายของเจ้าออกจากจิตเจ้า เจ้าก็จะทุกข์กายทุกข์จิตใจแน่นอน ที่บอกมาก็เพราะต้องการให้เจ้าใช้กรรมด้วยปัญญา ไม่ให้หลงฤทธิ์ ถอดจิตหนีขึ้นนิพพานอย่านึกว่าพ้นนะ การทำบุญ เปรต สัมภเวสี เทวดา เขารอโมทนาเยอะ ถ้าผีวิญญาณที่เขาได้รับบุญกุศลที่เราอุทิศแผ่ไปเขาก็จะได้รับอภัยโทษ ให้ไปเกิดเป็นคนบ้าง ไปเกิดเป็นเทวดาบ้าง จงใช้มโนมยิทธิของเจ้าดู บ้างก็ไปเสวยบุญชั่วขณะตามกำลังของบุญ เมื่อหมดก็มาขอบุญอีกก็มีเยอะ ดังนั้นเจ้าควรจะทำสมาธิภาวนาแผ่เมตตาอุทิศส่วนบุญกุศลไปยังสรรพสัตว์ทั้ง 3 โลกตลอดเวลา ทุกลมหายใจเข้าออกยิ่งดี

    ผู้ที่ขยันแผ่เมตตาจิตไปทั้ง 3 โลก คือ 1.นรกโลก 2.มนุษย์โลก 3.เทวโลก พรหมโลก จึงเป็นที่รักใคร่ของมวลเทพเทวดา และมนุษย์ผีวิญญาณเร่ร่อนทั่วไป ปรทัตตูปชีวเปรตจะคอยโมทนา จงท่องคำอุทิศส่วนกุศลให้ทุกท่านได้โมทนาอยู่เป็นประจำก็จะดีมาก จะผ่านท่านปู่พระยายมราชได้ยิ่งดี ท่านจะจำนำเป็นพยานที่เจ้าได้ทำบุญกุศลไว้ตอนเป็นคนให้ จงพูดถึงข้า คือท่านปู่พระยายมราชทุกครั้งเมื่อกระทำบุญ

    เมื่อเจ้าลงนรกไปด้วยความประมาท ไม่ได้นึกถึงบุญความดีหรือพระพุทธเจ้าก่อนตาย ข้าหรือท่านปู่พระยายมราชจะได้บอกว่า เจ้าเคยฝากบุญไว้กับข้า คือท่านปู่พระยายมราชมาก่อน ข้าก็จะบอกให้เจ้าที่ผ่านสำนักพระยายมราชว่า จงโมทนาสาธุยินดีในบุญความดีเสีย บาปจะได้ตามไม่ทันจะได้พ้นนรก ถ้าเจ้ามีกำลังจิตจะฝากบุญกุศลให้แก่จิตวิญญาณของ คนทั้งโลกก็ได้ ข้าก็จะได้บอกเขาว่ามีคนฝากบุญกุศลให้เขาโมทนา ถ้าเขารับได้เขาก็จะพ้นทุกข์ตามกำลังของจิตของเขาที่ ทำบุญกุศลได้

    ถ้าหากเจ้าคิดจะแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ ทั้ง 3 โลกให้ทำดังนี้จะสะเทือนไปถึงทั้ง 3 โลก แต่เจ้าต้องมีศีล 5 บริสุทธิ์ เป็นอย่างต่ำ และมีบุญทานภาวนาเป็นอย่างสูง ให้ว่าดังนี้<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>


    <o:p></o:p>

    พระคาถาแผ่เมตตาทั่วไตรภพ

    สวดในนามพระพุทธเจ้าแล้ว แผ่เมตตาจิตไปยังสรรพสัตว์ทั้ง 3 โลก(นรกโลก มนุษย์โลก เทวโลก) สวดอย่างน้อย 9 จบ อย่างมากตลอดเวลา

    "นะโมพระพุทธสิกขีพระพุทธเจ้า <o:p></o:p>
    ขอได้โปรดดลบันตาลให้สรรพสัตว์ทั้ง 3 โลก <o:p></o:p>
    ได้หลุดพ้นจากภัยพิบัติวัฏฏสงสารโดยสิ้นเชิง
    ด้วยพระบารมีมิอาจประมาณ <o:p></o:p>
    ลูกขอนอบน้อมนมัสการด้วยจิตใจขอให้ลูกมีจิตสะอาดสว่างใส<o:p></o:p>
    หลุดพ้นไซร้ สู่บ้านนิพพานเทอญ สัมปะจิตฉามิ"

    คุณประโยชน์ของการอุทิศส่วนกุศลแผ่เมตตาจิตให้สรรพสัตว์ทั้ง 3 โลกไปกับฉัพพรรณรังสี รัศมี 6 ประการ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์แรกเริ่มมีดังนี้

    1. โปรดช่วยสรรพสัตว์ได้ แดนเปรต อสุรกาย มนุษย์โลก สัตว์ทั้งที่มีชีวิตและเป็นภูมิผีวิญญาณเร่ร่อน แผ่ไปทั่วเทวโลก พรหมโลก ได้รับโมทนาบุญกับเรา
    การแผ่เมตตา แผ่ส่วนกุศลไปยังสรรพสัตว์ทั้ง 3 โลก รวมถึงเจ้ากรรมนาย<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:smarttags" /><st1:personName ProductID="เวร จงทำทุกวัน" w:st="on">เวร จงทำทุกวัน</st1:personName> จงตัดเวรตัดกรรม ให้อโหสิกรรมต่อกัน ยกเป็นอภัยทาน ถวายพระพุทธเจ้า ถ้าเราโกรธตอบจะเพิ่มภพชาติให้เกิดมาใช้หนี้เวรกรรมกันอีก


    2. สวดด้วยจิตศรัทธาแท้ เทพ พรหมรักใคร่ สรรเสริญ เมตตาติดตามรักษาเราให้อยู่เย็นเป็นสุข

    3. สวดตลอดเวลา คิดปรารถนาสิ่งใดก็สมหวัง

    4. สวดตลอดเวลาจิตเป็นสมาธิ ภาวนาจิตไม่ฟุ้งซ่าน จิตสะอาดปราศจากนิวรณ์

    5. จิตสะอาดสว่างไสว จิตหลุดพ้นจากการหลงยึดติดในขันธ์ 5 จิตเป็นจิตประภัสสร เป็นจิตพระอริยบุคคลได้ง่าย เพราะเป็นจิตที่มีเมตตา เคารพบูชา พระรัตนตรัยมองเห็นภัยในวัฏฏสงสาร เป็นจิตฉลาดไม่มีอวิชชา เป็นจิตที่มีพระนิพพานเป็นกรรมฐาน

    ขออนุโมทนากับเจ้าของบทความนี้ด้วยครับ

     
  3. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0

    ว่าจะไม่เขียนแล้วน๊า พอดีมาเห็นน้องฝนเอามาลงให้ดู แหม..มันคล้ายที่สมเด็จกับพระอาจารย์บอกพี่เล้ย (เมื่อคืนท่านเรียกขึ้นไปหา) คุยกันแต่เรื่องน้องฝนนี่แหละ อย่าไปฝึกนอกจากที่เขากำหนดเลย ยังไงๆพระอาจารย์ของน้องฝนอ่ะไม่ยอมแน่ๆ สมเด็จท่านอ่ะยังสงสาร ยังตามใจน้องฝนบ้าง แต่พระอาจารย์ไม่ใช่เลย ท่านว่าแทนที่จะได้ไปนิพพาน น้องฝนจะไปข้างล่างแทนอ่ะดิ ท่านเลยจำกัดขอบเขตน้องฝนไว้ ถ้าท่านไม่อนุญาตน้องฝนก็ทำอะไรไม่ได้หรอกค่ะ เชื่อพี่เถอะนะคะ จริงๆพี่ก็ใช้มโนมยิทธิขึ้นไปถามธรรมะกับพระอาจารย์หรือพระศาสดาเหมือนกัน ไม่ได้อยากจะเห็นผีเห็นนรกเห็นอดีตหรอก เห็นแล้วก็แล้วกัน ให้พิจารณาว่ามันเป็นทุกข์ จะได้ไม่อยากมาเกิดอีก

    คนอื่นที่ฝึกได้ก็มีทั้งที่คิดได้ แล้วก็กลายเป็นหลงไปก็มี อย่างพี่อ่ะไม่ได้หลงติดกับวิชานะคะ บางครั้งรู้สึกว่าเบื่อซะอีก มีไปก็เท่านั้นไม่ได้ช่วยให้เราหลุดพ้นได้ ถ้าคิดไม่เป็นก็เหมือนวนเรือในอ่างนั่นแหละ อย่างน้องฝน น้องก็คงจะรู้ดีแหละว่านิสัยของน้องคงต้องลองไปหมด แล้วถ้าเกิดหลงไหลไปนะมันจะแย่ แนวโน้มน้องก็จะออกไปทางนั้นจริงๆนะเท่าที่พี่อ่าน (ขออภัยนะคะถ้าพูดตรงไป เพราะเป็นคนพูดตรงอ่ะค่ะ) สมเด็จกับพระอาจารย์ท่านเห็นเลยว่าน้องฝนต้องไปทางนั้นแน่ๆ ท่านถึงต้องดึงเอาไว้ไม่ให้น้องฝนทำผิดนะคะ ท่านว่าแม้แต่เรื่องที่น้องฝนอยากจะไปนิพพาน น้องฝนก็ไม่ได้มีจิตอยากไปจริงๆ เพียงแต่น้องฝนรู้สึกขัดใจที่คนอื่นไปได้ แต่เหลือน้องฝนทำไมไปไม่ได้ ทำไมต้องมาเกิดใหม่ น้องฝนลองเอาไปตรองดูนะคะว่ามันจริงไหม ถ้าน้องฝนอยากไปนิพพานจริงๆ จิตของน้องต้องน้อมรับแล้วรู้สึกอยากไปนิพพานจริงๆแล้วก็ต้องคิดได้ว่าเกิดมามีทุกข์ มองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน มันต้องละทุกอย่างให้ได้เลยนะคะ แต่น้องฝนยังอยากเห็นผีอยู่เลยอ่ะค่ะ แล้วก็ยังอยากอะไรอีกหลายข้อ แล้วจะไม่ให้ท่านเป็นห่วงได้ยังไง ก็ฝากเอาไว้นะคะ ถ้าไม่อยากเกิดมาทุกข์อีก ก็ต้องละให้ได้ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 มิถุนายน 2009
  4. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ตัดเข้าโฆษณาค่ะ

    ขอออกไปทำธุระก่อนค่ะ เที่ยงๆกลับมา
     
  5. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    รออ่านนะครับคุณMe, myself
     
  6. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    พี่ Me, Myself พูดถูกนะคะ เเปลกที่สุดตรงที่พระอาจารย์ท่านคุยกับพี่เรื่องฝน เพราะฝนไม่เคยเห็นพระอาจารย์ท่านคุยกับใครเกี่ยวกับฝนจริงๆจัง พี่เป็นคนที่สองที่ท่านคุยด้วย

    คนเเรกที่ท่านคุยด้วยเป็นโยมที่วัด ท่านบอกว่าฝนถูกเลี้ยงดูตามใจจนเคยตัว พ่อเเม่รักมาก ทำอะไรก็ไม่เป็น เรียนหนังสือเป็นอย่างเดียว

    พี่เป็นคนที่สอง ฝนรู้เหมือนกันว่าสมเด็จองค์ปฐม ท่านตามใจฝนมาก ท่านสงสารเพราะเห็นว่าทั้งพ่อเเละเเม่ตายหมดเเล้ว ท่านกลัวว่าฝนจะเดินทางผิด ในฐานะที่ท่านเองก็เคยเป็นพ่อของฝน ท่านก็เลยเอาฝนมาดูเเล ท่านบอกฝนเกือบทุกครั้งที่ท่านคุยกับฝนว่า ท่านคุยกับฝนในฐานะพ่อไม่ใช่ในฐานะพระพุทธเจ้า

    พระอาจารย์ท่านเองก็คิดว่าสมเด็จท่านตามใจฝนเกินไป ท่านจึงดูเเลฝนเอง หลังจากนั้นฝนขออะไรจากสมเด็จ ท่านก็บอกว่าอำนาจการตัดสินใจสิทธิ์ขาดในเรื่องที่เกี่ยวกับฝนนั้นอยู่ที่พระอาจารย์ไม่ใช่ท่าน

    ถึงตอนนี้ฝนเชื่อเเล้วล่ะค่ะ ว่าความผูกพันในอดีตชาตินั้นส่งผลถึงปัจจุบันชาติจริงๆ หลังจากเเม่เสีย ก่อนฝนได้เจอพระอาจารย์ สมเด็จท่านดูเเลฝนผ่านทางครูสอนมโนยิทธิ ครูบอกว่าท่านกำชับสั่งให้ครูดูเเลฝนให้ดีๆ หลังจากได้เจอพระอาจารย์ท่านก็ให้พระอาจารย์เอาฝนไปดูเเล

    เมื่อกี้ฝนสวดมนต์เสร็จฝนนั่งเพ่งจิตพูดกับพระอาจารย์ ฝนจำได้ว่าก่อนกลับมาที่นี้ ฝนสัญญากับพระอาจารย์ว่าฝนจะเป็นเด็กดี ประกอบกับจำได้ว่าหลวงปู่เหรียญท่านเทศน์ไว้ว่า "ถ้ารักครูบาอาจารย์ก็ปฏิบัติตามที่ท่านสอน" ฝนเลยบอกพระอาจารย์ไปว่า ฝนจะไม่ฝึกไปสายอภิญญาเเล้ว เอาฌาน 4 นั้นเเหล่ะ
    สิ่งทีฝนรู้สึกได้ทันทีคือ กระเเสจิตฝนรับได้ว่า พระอาจารย์ท่านอธิษฐานจิต เเผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศลให้ฝนทุกคืน ว่าขอให้ฝนเดินไปในทางที่ถูกที่ควร ได้รู้เเจ้งเห็นจริงในองค์ของธรรมะ ความรู้สึกมันมีความสุข อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ

    ฝนเป็นพวกจิตอ่อนค่ะ หลงมัวเมาในอะไรค่อนข้างง่าย โชคดีที่ฝนถูกเลี้ยงมาโดยพ่อเเม่ที่เอาใจใส่ฝน ฝนเลยไม่หลงไปในทางอบายมุขค่ะ

    อย่างที่ฝนเคยเล่าค่ะ ฝนถูกห้ามฝึกกสิณตั้งเเต่บวชชีที่วัดท่าซุงเเล้ว ว่าถูกห้ามเรียน คาถาอาคมต่างๆ น้องชายในอดีตชาติซึ่งตอนนี้บวชอยู่ที่วัดพระอาจารย์ท่านโดนถึงขนาด ลบความทรงจำที่ผ่านมา คาถาอาคมที่ท่านเคยเรียนมาท่านลืมไปหมดเเล้ว สมเด็จท่านบอกว่า ทั้งฝนเเละพระองค์นี้ได้ไปอยู่กับพระเทวทัตเเน่ๆ ถ้ามันได้ฝึกสายอภิญญา เพราะว่าเป็นคู่หู เล่นคาถาอาคมมาด้วยกัน

    รู้ทั้งรู้นะคะ เเต่มันก็อดไม่ได้ ของมันเคยๆกันอยู่ นี้ขนาดยังไม่ได้เริ่มฝึกเลยค่ะ ยังเป็นเรื่องขนาดนี้เเล้ว สมเด็จท่านถึงได้บอกว่าพระอาจารย์ต้องเก่งถึงจะเอาฝนอยู่ เพราะฝนดูเหมือนว่าไม่มีอะไรเเต่ไว เเว่บออกนอกลู่นอกทางเร็วมาก

    ฝนเป็นพวกชอบลองค่ะ ลองจนรู้ว่ายังไงๆไม่ว่าฝนจะทำอะไรก็ไม่พ้นสายตาพระอาจารย์เเม้ว่าจะอยู่ห่างกันคนละซีกโลก เเต่กระเเสจิตของท่านไวมาก อย่างเช่น เรื่องเมื่อคืนที่ท่านเปลี่ยนไฟล์เทศน์ของหลวงปู่ฤาษีค่ะ ถ้าท่านทำได้ขนาดนี้ ฝนยอมเเพ้ค่ะ ไม่เคยคิดเลยว่าท่านจะทำได้ขนาดนี้ในช่วงไม่กี่วินาทีเอง

    เรื่องพระนิพพานก็เป็นเรื่องจริง ฝนเคยพูดกับโยมที่วัดว่า " ฝนถูกทิ้งเเล้ว พี่ก็จะไปพระนิพพาน น้องก็จะไปพระนิพพาน เหลือฝนอยู่คนเดียว งั้นฝนไปพระนิพพานด้วย" นึกไม่ถึงว่าพระอาจารย์จะได้ยินขนาดคุยกันทางโทรศัพท์นะเนี่ย อีกอย่างคิดไม่ถึงว่าพระอาจารย์จะบอกพี่เกี่ยวกับเรื่องของฝนมากขนาดนี้ เขินเลยนะเนี่ย :p ปกติพระอาจารย์ท่านไม่ใช่พระที่พูดมากมายอะไร เเปลกใจมากๆถึงมากที่สุด เพราะพระอาจารย์เองท่านยังไม่เคยพูดกับฝนเกี่ยวกับเรื่องราวของฝนมากขนาดนี้ เเต่ทำไมท่านถึงเลือกที่จะพูดกับพี่ อยากรู้อยากเห็นอีกเเล้ว :p

    ฝนก็คิดอยู่เหมือนกันว่าพระอาจารย์ไม่ได้พูดหนักเเน่นว่าฝนไปพระนิพพานไม่ได้ ฝนยังไปถามสมเด็จท่านเลยว่าทำไมพระอาจารย์ท่านพูดเเบบนั้น ท่านบอกเป็นเพราะว่าจิตฝนไม่หนักเเน่นกับพระนิพพาน ท่านยังบอกให้ฝนไปถอนคำพูดที่ว่า ฝนจะไปสวรรค์ ไปพรหม ให้บอกกับพระอาจารย์ใหม่ว่า ฝนจะไม่เกิดเเล้ว ฝนจะไปพระนิพพานที่เดียว ท่านยังเคยบอกอีกว่า ชีวิตฝนสบายเกินไปเลยเห็นว่าการเกิดเป็นเรื่องสนุก อยากเกิดไปเรื่อยๆ ชาตินี้เลยให้ทุกข์อยู่ตัวคนเดียว จะได้รู้ว่าการเกิด การอยู่ นั้นเป็นทุกข์ ซึ่งท่านเองก็สอนเรื่องนี้กับฝนเกือบทุกวัน เพื่อให้ฝนเข้าใจถึงชีวิต จะได้ไม่อยากเกิด

    ต่อไปนี้ฝนจะเดินทางตามที่พระอาจารย์ท่านขีดไว้ให้เดินค่ะ เพราะถ้าเดินตามทางที่พระอาจารย์ท่านขีดไว้ ฝนได้ไปพระนิพพานเเน่ๆ ฝนมั่นใจ เพราะสมเด็จท่านสอนฝนเเล้วสอนฝนอีกว่า ให้เดินตามรอยพระอาจารย์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นห้ามกระโดดลงจากเรือที่พระอาจารย์ท่านพยายามเเจวส่งให้ถึงฝั่ง

    ฝนโชคดีขนาดนี้ มีพร้อมทุกอย่าง ทั้งพระพุทธเจ้าเเละพระอรหันต์ที่เมตตาฝนขนาดนี้ ถ้าฝนยังเดินทางผิดนั้นเเสดงว่า ฝนคงโง่เต็มที่เเล้วล่ะค่ะซึ่งฝนเองก็ไม่ใช่คนโง่ขนาดนั้นที่จะไม่สามารถเเยกเเยะถูก ผิด ชั่ว ดีได้ ยังพอมีบุญเก่ามาส่งเสริมให้เห็นทางที่ถูกที่ควรค่ะ คิดว่าเเบบนั้นนะคะ

    สุดท้ายขอบคุณพี่ Me, Myself มากนะคะ ที่เล่าเรื่องนี้ให้ฝนฟัง เเสดงว่าพระอาจารย์ท่านก็เป็นห่วงฝนเหมือนกันค่ะ เพราะไม่งั้นท่านคงไม่เรียกพี่ขึ้นไป ขอบคุณจากใจจริงค่ะ

    ป.ล. 1 พระอาจารย์ท่านไม่ได้บอกให้ฝนเตรียมตัวกลับบ้านเพราะฝนจะหางานไม่ได้ใช่ไหมคะ

    ป.ล. 2 ในความรู้สึกของพี่ๆว่าพระอาจารย์ฝนเป็นยังไงบ้าง ท่าทางท่านดุหรือใจดีคะ

    ป.ล.3 ฝนไม่คิดว่าพระอาจารย์จะเล่าเรื่องนี้ให้ฝนฟังที่วัดเเน่ๆ เเต่สงสัยว่าพระอาจารย์ท่านเข้ามาในมโนยิทธิพี่ได้ยังไง ในเมื่อพี่กับท่านไม่รู้จักกัน ฝนคิดว่าท่านใช้อภิญญาเเน่ๆเลย

    ป.ล. 4 ตกลงพระอาจารย์ท่านดูคล้าย หลวงปู่เณรคำไหมคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มิถุนายน 2009
  7. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    อนุโมทนาบุญกับคุณฝนด้วยค่ะ ช่วงแวะพักโฆษณาเราก็คุยกันไปพลางๆก่อนรอคุณMeกันค่ะ คุณฝนมีของเก่ามาเยอะดีจังค่ะ สงบระงับเองบางทีก็อยากรู้เหมือนกันนะค่ะว่า ชาติที่แล้วตัวเองเคยเป็นใครมาก่อน เพราะบางทีก็ไปรู้มาวั่บๆแว่บๆอยู่หลายครั้งมาก บางทีจนเรารำคาญไปเลย(เพราะมันไม่ชัดเจนไงค่ะ)ฝึกอะไรก็ไปไม่ค่อยถึงไหนกับเขาเสียทีเป็นพวกศิษย์หลายสำนัก55ขำๆ แต่ก็เคารพครูบาอาจารย์ทุกท่านค่ะ และอีกอย่างเป็นคนประเภทว่า ถ้าไม่ถูกจริตก็ถอยทันทีเลยเหมือนกันค่ะ บางทีถูกจริตแต่ก็มีเหตุจำเป็นที่ต้องถอยออกมา บางทีก็เสียดายมากค่ะ สงสัยไปทำเวรกรรมอะไรไว้แน่ๆเลย อันนี้เดาเอาน่ะค่ะ อิอิ
    เคยถามพระอาจารย์ตรงๆท่านก็บอก"เอาน่ะถึงเวลาแล้วก็รู้เองแหละ " แต่พอรบเร้ามากๆเข้าก็โดนต่อว่าไง 55"ความสงสัยทำให้ไม่บรรลุธรรมเสียที" เฮ้อ ....เดี๋ยวนี้เวลาสงสัยธรรมข้อไหนก็อธิษฐานจิตกับพระพุทธรูปเดี๋ยวก็มีเหตุให้รู้ได้ในทันทีเหมือนกันค่ะ เช่น พระสงฆ์ท่านแสดงธรรมในข้อที่เราสงสัยในทันทีด้วยความบังเอิญ(จริงๆมันก็ไม่ใช่ความบังเอิญหรอกค่ะ) หรือไปเจอหนังสือแล้วเราอ่านเจอพอดี หรือบางทีก็เจอในเว็บพลังจิตนี่แหละค่ะ ว่ากันไป เหอเหอ แต่แหม...ยังไงก็อนุโมทนาบุญกับคุณฝนนะค่ะ มีพี่เลี้ยงเยอะจัง
     
  8. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    อย่าเรียกว่าของเก่าเลยค่ะ เรียกว่าถูกประกบจะดีกว่า คิดไม่ถึงว่าพระอาจารย์ท่านสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ ไม่ว่าฝนจะขยับทำอะไร ท่านตามรู้ ตามเห็นหมด เล่นเอาฝนงงไปเลยค่ะ

    ฝนก็คล้ายๆกับพี่สงบระงับนะคะ เรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องกับธรรมะ เช่น อยากรู้ว่า พระโสดาบันเป็นยังไง บารมี 10 คืออะไร ตื่นนอนมาอ่านเจอในเว็บนี้ทุกทีเลยค่ะ

    อีกอย่าง ถ้าฝนคิดจะทำอะไรดีๆทางธรรมนะคะ เช่น อยากถืออุโบสถศีล ฝนสามารถตื่นเช้าได้เอง โดยโทรศัพท์ไม่ต้องปลุกค่ะ ซึ่งปกติฝนตื่นเกือบเที่ยง

    มีเรื่องเเปลกๆอีกหลายเรื่องนะคะที่เรายังไม่รู้ ก็เหมือนกับที่พระอาจารย์ฝนเคยบอกฝนไว้ค่ะ "มีอีกหลายเรื่องที่เรายังไม่รู้ เราสามารถรู้ได้ด้วยการปฏิบัติ"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มิถุนายน 2009
  9. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 10 คน ( เป็นสมาชิก 8 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER>[ แนะนำเรื่องเด่น ] </CENTER></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>สงบระงับ, ~อมริศา~, เงินไหลมา, wai, cookieberry, Me, myself, akp07, Jenny_Lee </TD></TR></TBODY></TABLE>
    คุณ Me, myself, กลับมาแล้วค่ะ รออ่านกันค่ะ
     
  10. ~อมริศา~

    ~อมริศา~ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +2,335
    อ่านแล้วรู้สึกตื่นเต้นแทนเลยค่ะ
    ถ้าเรื่องที่ฝันไม่ได้ส่วนตัวเกินไป
    เล่าให้ฟังกันมั่งนะคะ
    จะได้มาเทียบเคียงว่า
    มันคล้ายกับที่เกิดขึ้นกับเรารึเปล่า
    รอฟังนะคะ
     
  11. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0

    ที่ได้เจอกับพระอาจารย์ของน้องฝนน่ะ สมเด็จท่านแนะนำให้รู้จัก ตอนแรกพี่นั่งคุยกับหลวงพ่อโตอยู่ แล้วสมเด็จท่านเรียกขึ้นไปแล้วพระอาจารย์ก็อยู่ที่นั่นแล้ว (จริงๆอ่ะสมเด็จจะให้พบตั้งหลายวันแล้ว พี่เห็นแวบๆว่าท่านมารอหลายหนแล้ว แต่พี่ไม่ขึ้นไป แต่ครั้งนี้มันหลบไม่ได้แล้วนี่ หลวงพ่อโตก็สั่งให้ขึ้นไปหาสมเด็จ สมเด็จท่านก็เรียกพอดี เลยไม่รู้จะหลบไปทางไหน)

    1. พระอาจารย์บอกว่างานอ่ะเดี๋ยวมันก็ได้ ท่านยังว่าพี่เองก็ถามคำถามนี้มาตลอดกับหลวงพ่อโตและองค์พระศาสดา แล้วท่านว่าอย่างไร พี่ก็ว่าก็ได้คำตอบเหมือนน้องฝนนั่นแหละค่ะ ไม่ได้รู้อะไรมากไปกว่านี้ ท่านเลยว่านั่นแหละก็เหมือนกัน ท่านว่าน้องฝนชอบถามดีนัก เดี๋ยวท่านเลยจะชะลองานของน้องฝนซะเลย จะได้ให้เห็นทุกข์มากๆ พี่ก็เลยว่าอย่าไปแกล้งน้องฝนเลย เดี๋ยวเลยเป็นเรื่องอีก จริงๆท่านไม่ได้มีอะไรหรอกนะ พี่ว่าท่านระอาน้องฝนมากกว่า อิอิ
    2. พระอาจารย์ท่านสำรวมมาก จะว่าดุก็ไม่ใช่จะว่าใจดีก็ไม่เชิง ดูท่านเป็นคนเข้มงวดอ่ะค่ะ ผิดกับสมเด็จท่าน ท่านอ่ะใจดีกับน้องฝนมากเลย พี่ยังแกล้งบอกว่าองค์สมเด็จอ่ะ ตามใจน้องฝนเกินไป เป็นธรรมดาของพ่อที่รักลูก ถ้าไม่ได้อาจารย์สงสัยน้องฝนคงมาอ้อนสมเด็จทุกอย่างแน่ๆ ก็ขนาดอยากได้พระธาตุ สมเด็จยังให้ไปเลย ดีว่าอาจารย์ไปเอาคืน ฮาฮา
    3. พระอาจารย์อยู่กับสมเด็จท่านพอดีตอนที่สมเด็จเรียกพี่ขึ้นไปน่ะ ท่านก็เลยบอกว่านี่คือพระอาจารย์ของน้องฝน สนทนากันอยู่พักนึงแหละ ยังบอกท่านเลยว่าน้องฝนจะไปดูผีที่วัดพระอาจารย์ เหอ เหอ แล้วก็ถามท่านว่าท่านเป็นคนทำใช่หรือเปล่าที่ไม่ให้น้องฝนฟังเทปการฝึกกสิณ ท่านก็ว่าต้องจำกัดขอบเขตไว้ จริงๆน้องฝนมีของเก่ามานะ แต่ท่านก็ต้องเอาบารมีของท่านกักไว้ ไม่งั้นน้องฝนจะต้องไปตกนรกแน่ๆถ้าเรียนไป แค่ชาตินี้จะไปนิพพานก็ยังยากเลย ถ้าตกนรกก็ไม่ต้องได้ผุดได้เกิดกันพอดี
    4. ก็คล้ายๆนะ
     
  12. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    อ่านเเล้วรู้เลยว่าพระอาจารย์ท่านไม่ตามใจฝนจริงๆด้วย

    "แค่ชาตินี้จะไปนิพพานก็ยังยากเลย "

    ฝนจะ ลด ละ เลิก การอยากเห็นผี เเล้วค่ะ เดินตามทางที่พระอาจารย์ท่านวางไว้ดีกว่า เผื่อท่านเห็นฝนปฏิบัติเอาจริงเอาจัง ให้ท่านเห็นว่าฝนเอาดีได้ เเล้วธันวา ฝนจะขอท่านไปพระนิพพานให้ได้

    เเต่สงสัยจังว่า สมเด็จองค์ปฐมท่านบอกฝนเองว่า ท่านจะเก็บฝนไปให้ได้ เเต่ไหงพระอาจารย์ท่านไม่ให้ฝนไปอีกเเล้ว

    อย่างที่พี่พูดก็จริงค่ะ ขออะไรจากสมเด็จองค์ปฐมก็ง่ายไปหมด ตรงกันข้ามจากพระอาจารย์เลยค่ะ คราวนี้ฝนขอใหม่เเล้วค่ะว่า ถ้าฝนได้ฌาน 4 ฝนขอพระธาตุสมเด็จท่านเป็นของขวัญเเล้วฝนจะไปถวายคืนกับพระอาจารย์ ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ ฝนจะได้ไม่เกิดอุปาทานว่าฝนได้ฌาน 4 เเล้วทั้งๆที่ฝนยังไม่ได้

    สงสัยฝนคงซนเกินขอบเขตเเล้วจริงๆ พระอาจารย์ถึงต้องมานั่งคอยพี่ ท่านคงกลัวว่าถ้าไม่หยุดฝนซะตอนนี้ กว่าจะธันวา ฝนคงซนไปถึงไหนเเล้วก็ไม่รู้ ถึงจะเป็นอภิญญาก็เถอะ เเต่ทำให้ครูบาอาจารย์ต้องเป็นเเบบนี้ รู้สึกผิดจังค่ะ

    ป.ล.1 รบกวนพี่ฝากถามพระอาจารย์ฝนให้หน่อยนะคะ ฝนต้องทำยังไงถึงจะได้ไปนิพพาน ยังไงๆมันต้องมีทาง ;k03

    ป.ล. 2 จริงๆเเล้วสมเด็จองค์ปฐมท่านก็เข้มงวดเหมือนกันไม่ใช่เหรอคะ ได้ยินมาว่าคล้ายๆกับพระอาจารย์ ท่านไม่ค่อยพูด ฝนก็ไม่รู้เหมือนกันเพียงเเต่ครูมโนยิทธิบอกมา

    ขอบคุณค่ะ พี่ Me, Myself ใจดีกับฝนมากเลยค่ะ

    ขอบคุณจากใจจริงค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มิถุนายน 2009
  13. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ท่านว่าให้น้องฝนฝึกตามที่อาจารย์บอกค่ะ แต่ที่เห็นตอนนี้ยังไปไม่ได้ ดังนั้นน้องฝนก็ต้องตั้งใจปฎิบัติตามที่อาจารย์ท่านสั่งไว้ค่ะ เอาใจช่วยนะคะ อย่าไปอยากฝึกอีกเลยค่ะอภิญญา ท่านอุตส่าห์ดึงน้องฝนขนาดนี้ น้องฝนคิดดูซีคะเพราะถ้าน้องฝนไม่ได้ไปนิพพานในชาตินี้ ชาติหน้าใครจะตามมาช่วยน้องฝนคะ เพราะทุกคนก็ไปหมดแล้ว พระอาจารย์ท่านห่วงนะคะ ถึงได้ตามดูแลตลอด อย่าทำให้ท่านผิดหวังเลยค่ะ เลิกเอาแต่ใจตัวซะทีนะคะ น้องฝนก็ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะคะ ที่พี่พูดนี่เพราะหวังดีนะคะ ถ้าไม่รักไม่ห่วงพี่จะไม่สนใจเลย พี่เป็นคนแบบนี้นะคะ ถ้าไม่พอใจพี่ก็ขอโทษด้วย
     
  14. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    ฝนไม่โกรธหรอกค่ะ ฝนเข้าใจค่ะ ฝนจะเลิกซนค่ะ ฝนเเค่คิดไม่ถึงว่าพระอาจารย์ท่านจะห่วงฝนขนาดนี้

    ขอบคุณพี่มากนะคะที่เป็นห่วงเเละให้กำลังใจฝน
     
  15. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    บันทึกการทำสมาธิวันที่ 14 มิ.ย. 52

    ไปกราบหลวงพ่อโตที่โบสถ์เหมือนเช่นเคย

    ดิฉัน - นมัสการค่ะ หลวงพ่อ

    หลวงพ่อ - สวัสดี เป็นยังไง

    ดิฉัน - เฮ้อ..เหนื่อยๆๆเบื่อๆค่ะหลวงพ่อ

    หลวงพ่อ - เรื่องอะไรค่ะ

    ดิฉัน - ก็หลายๆเรื่องรวมกัน ดูๆไปก็น่าเบื่อ ตอนนี้ก็เริ่มเบื่อเขียนกระทู้แล้วค่ะ หนูว่าหนูจะเลิกแล้วแหละ

    หลวงพ่อ - แล้วพวกบริวารทั้งหลายเขาจะยอมเรอะ

    ดิฉัน - ก็ว่าจะหายไปเฉยๆไงคะ หลวงพ่อ ก็อย่าไปบอกซี

    หลวงพ่อ - คิดเหรอว่าเขาจะยอมง่ายๆ เดี๋ยวเขาก็ต้องมาตามกันให้ควั่ก

    ดิฉัน - นั่นดิ หนูก็คิดว่างั้น

    หลวงพ่อ - รับเขาขึ้นเรือมาแล้ว มาเล่นทิ้งหางเสือ แล้วปล่อยให้เรือลอยเท้งเต้งอยู่กลางมหาสมุทรน่ะเหรอ มันบาปนะ

    ดิฉัน - อ้าว..ไหงงั้นละหลวงพ่อ หนูไม่ได้ชวนใครมานา หนูเปล่านะ เขามาเอง หนูเปล่าชวนนะ เขามาเอง (ร้องเป็นเพลงไปเลย อิอิ) แล้วบาปตรงไหนคะเนี่ย ไม่เห็นมันผิดศีลข้อไหนเลย

    หลวงพ่อ - ผิดศีลข้อสี่ไง มุสาวาทา

    ดิฉัน - หนูมุสาตรงไหนคะ

    หลวงพ่อ - ก็ตรงที่พูดไว้ว่าจะช่วยคนให้พ้นทุกข์ไง จะช่วยเขาเรื่องสอนธรรมะให้เขาได้รู้ ได้เข้าใจธรรมะได้ดีขึ้นไง อย่างนี้ไม่เรียกมุสาเหรอ แล้วเจ้าก็ศีลขาดละทีนี้

    ดิฉัน - ง่ะ...หลวงพ่อ เล่นดักอย่างนี้เลยเหรอคะ จริงๆหนูก็ให้ความรู้ไปแล้วนะคะเนี่ย ตรงไหนละคะที่ไม่ช่วย แล้วหนูก็ไม่ได้พูดนี่นาว่าจะทำตลอดชีวิต (อิอิ วิญญานศรีธนญชัยเข้าสิงอีกละ) เพราะฉะนั้นหนูก็ไม่ผิดศีลเห็นมะ

    หลวงพ่อ - ศีลน่ะมันต้องคู่กับพรหมวิหาร 4 แล้วก็บารมี 10 ด้วยนะ ต้องทำอย่างนี้ถึงจะได้ครบ เพราะฉะนั้นถ้าเจ้าทิ้งเขาไปเฉยๆ เจ้าก็ขาดพรหมวิหาร 4 กับบารมี 10 ไปละ แล้วเจ้าก็ขาดจากโสดาบัน

    ดิฉัน - โห..หลวงพ่อเล่นมาขู่แบบนี้ หนูก็ต้องทำต่ออ่ะดิ ไม่งั้นศีลขาด

    หลวงพ่อ - ดีแล้ว แล้วต่อไปก็ละสังโยชน์ สิ...บ....

    ดิฉัน - หยู๊ดดดด หยุดก่อนเลยค่ะหลวงพ่อ พอก่อนเลย สังโยชน์สิบ ตอนนี้ละได้สามข้อเอง โหย..จะเอาอะไรกับหนูนักหนาค่ะ เอาไว้ให้แก่กว่านี้ก่อน แล้วค่อยละเพิ่ม เพราะฉะนั้นตอนนี้สังโยชน์ได้สามข้อเจ้าค่ะ

    หลวงพ่อ - อะไรล่ะ สามข้อได้แค่โสดาบันเอง มันต้องให้ก้าวหน้าไปกว่านี้ซิ จะมาหยุดอยู่แค่นี้ได้ไง

    ดิฉัน - ก็ตอนนี้ได้เท่านี้ละค่ะ เพราะว่ายังมีเรื่องต้องให้ทำให้สะสางอีกเยอะ ทำเพิ่มมากกว่านี้ไม่ได้ค่ะ หนูขอสมเด็จท่านไว้แล้วว่า ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยแล้วหนูถึงจะปฎิบัติให้เพิ่มขึ้น ให้สัญญากับสมเด็จท่านไปแล้วค่ะ

    หลวงพ่อ - ให้สัญญาเมื่อไหร่

    ดิฉัน - วันนี้แหละค่ะ เมื่อตอนที่ขึ้นไปหาสมเด็จน่ะค่ะ

    หลวงพ่อ - งั้นเหรอ งั้นจะเอาแค่นี้ก่อนใช่มะ

    ดิฉัน - ค่า แค่นี้ก่อน

    หลวงพ่อ - ได้ ตามใจ

    ดิฉัน - เดี๋ยวหนูลากลับก่อนนะคะ นมัสการลาค่ะ

    หลวงพ่อ - เจริญพร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 มิถุนายน 2009
  16. classic songs

    classic songs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +896
    อ๋อ ได้ค่ะยินดี นับไปนับมามี 5 ครั้งนี่ บุพนิมิต ความฝันบอกสิ่งที่จะเกิดในอนาคต
    ของดิฉันจะเป็นเวลาใกล้ๆกัน สงสัยพลังจิตยังอ่อน

    ครั้งที่ 1 สอบเอ็นทร้านซ์
    กลางคืน - ฝันว่าสมเด็จพระเทพพระราชทานหนังสือดนตรีให้กับมือ
    รุ่งขึ้น - ผลสอบเอ็น ติด

    ครั้งที่ 2 สอบเข้าป.โท สถาบัน A
    กลางคืน - ฝันว่าพวกอาจารย์พูดว่า ไม่ได้หรอก กลับบ้านไปเถอะ(ฝันโหด)
    รุ่งขึ้น - ไปดูผลสอบ ร่วง.....

    ครั้งที่ 3 สอบเข้าป.โท สถาบัน B
    กลางคืน - ฝันว่าเข้าเฝ้าสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมฯ ฟ้าหญิงพระองค์เล็ก
    รุ่งขึ้น - ประกาศผล สอบเข้าได้

    ครั้งที่ 4 สอบ comprehensive เพื่อจบการศึกษา ป.โท (หลังจากตกมาแล้ว)
    กลางคืน - ฝันว่าเข้าเฝ้าในหลวง มีพระองค์อื่นด้วยแต่จำไม่ค่อยได้
    รุ่งขึ้น - เพื่อนโทรมาบอก ผ่าน... จบโทแล้วววว

    ครั้งที่ 5 สอบ ป.โท สถาบัน C (ลองสอบวัดความรู้ดูน่ะ)
    กลางคืน - ฝัน สมเด็จพระเทพพระราชทานขนม+รูปวาดให้ (มีความสุขมากๆเลยหล่ะ)
    รุ่งขึ้น - จดหมายแจ้งผลการสอบมาวางอยู่หน้าห้อง สอบติด.....แต่ไม่ได้เรียนนะ

    เป็นไงมั่งคะ พอจะสรุปความว่าเป็นฝันบอกเหตุได้มั้ยคะ
    ตัวดิฉันเองยังไม่รู้ว่าเป็นฝันบอกเหตุ จนกระทั่งครั้งที่ 4 นี่แหละถึงฉุกใจคิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มิถุนายน 2009
  17. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    ขออนุโมทนากับน้องฝนด้วยนะคะ
    ข้อความของน้องฝนทำให้พี่เพิ่งนึกได้ว่าทางสองแพร่งมันไปลำบาก ถ้าเราตัดสินใจมุ่งทางใดทางหนึ่งน่าจะไปได้เร็วนะค่ะ พี่ขออนุโมทนาด้วย และตัวพี่เองก็จะนำไปปฏิบัติด้วยค่ะ _/\_

    ปล.เมื่อคืนข้าเจ้าไม่ได้ล๊อคเอ๊าท์ออก หลับยามค่ะ เข้ามาวันนี้ตกใจชื่อยังอยู่ ^_^

    วันนี้ไปทำบุญมาค่ะ
    1. บริจาคโลงศพ
    2. ค่ารักษาพยาบาลพระภิกษุ-สามเณร
    3. ไถ่ชีวิตโค-กระบือ
    4. ร่วมทำบุญหล่อเทียนพรรษา
    เอาบุญมาฝากทุกท่านค่ะ ขอให้ทุกท่านถึงพร้อมพระนิพพานเทอญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มิถุนายน 2009
  18. classic songs

    classic songs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +896
    พี่น้องที่เคารพทุกท่านคะ ดิฉันจะขออนุญาตบันทึกถึงเรื่องของดิฉันบ้าง ท่านคงไม่ว่ากันนะคะ
    โดยเฉพาะ พี่ Me myself ท่านผู้เป็นหลักในที่นี้ จะทิ้งกันไปได้งัยยย ^_^

    เรื่องที่ดิฉันกำลังจะเล่าต่อไปนี้ พี่น้องอย่าเพิ่งเชื่อทันทีนะคะ ใช้สติพิจารณาตามไป

    *** และได้โปรดอย่ายึดถือว่า นี่คือการตั้งอารมณ์ที่ดี ที่ถูกต้องนะคะ ***
    ดิฉันไม่มีเจตนาชี้แนะใดๆทั้งสิ้น ท่านผู้ฝึกปฏิบัติควรจะหาองค์ภาวนาที่เหมาะกับตัวท่านเอง
    ที่จะทำให้ท่านตั้งอารมณ์ของท่านเองได้นะคะ


    15 มิถุนายน 52 ประมาณ 19.30 น. ตอนที่ 1

    กำลังอ่าน-ตอบกระทู้นี้อยู่ เกิดง่วงๆขึ้นมา เลยนั่งหลับตา
    เนื่องจากจิตกำลังฝึกใฝ่วิชามโนฯ เลยไม่ได้หลับตาอย่างเดียว อดไม่ได้ที่จะตั้งอารมณ์ไปด้วย

    การตั้งอารมณ์เมื่อสักครู่ ดิฉันใช้สติจับอยู่ที่จิต(ตามถนัด) ไม่เพ่งให้เห็นอะไร
    เมื่อรู้ตัวว่ามีกิเลสนิดหน่อย ก็รีบจับมาที่ลมหายใจ ภาวนา นะ มะ พะ ธะ ทันที

    ยังไม่ทันได้บริกรรมเลย มีภาพนิมิตไม่ชัดนักเห็นเป็นองค์ น่าจะเป็นพระแก้วมรกต (เห็นฉัตรด้วย)

    ก็..... ก็เลยรีบนอบน้อมนมัสการท่าน จากนั้น ***รีบตั้งสติให้มากที่สุด***
    ให้รู้ตัวว่าตอนนี้อารมณ์เราเป็นอย่างไร
    ส่วนมาก หลังจากดิฉันเห็นนิมิตจางๆ อารมณ์ที่ตามมาติดๆคือ วิจิกิจฉา งงๆ ไม่รู้ว่าควรจะตั้งอารมณ์อย่างไรต่อดี....
     
  19. classic songs

    classic songs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +896
    15 มิถุนายน 52 ประมาณ 19.30 น. ตอนที่ 3

    หลังจากพิจารณาได้ซักพัก

    ปั๊บ เห็นองค์พระพุทธเจ้า อยู่ทางขวามืออีกเช่นกัน ไม่แน่ใจว่าเป็นพระองค์ใด
    ท่านทรงจีวร มีรัศมีอยู่รอบพระเศียรด้วย เป็นภาพสีจางๆ สวยสดใสดีค่ะ

    ดิฉันก็กำหนดจิต นอบน้อมนมัสการพระองค์ท่านอย่างสูงสุดค่ะ ไม่นานนิมิตก็หายไป

    ดิฉันทรงอารมณ์ต่อโดยการตั้งสติตามความเป็นจริงเข้าไว้
    มีฟุ้งซ่านมาแทรกเป็นระยะๆ เรื่องเดิมๆค่ะ ปุถุชนย่อมดีใจ และสงสัยว่า นี่มันอะไรกันหนอ

    อ้ะ....อธิษฐานจิตอีกสิเรา ขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่นเคย

    คราวนี้บอกเลยว่า ลูกเชื่อยาก ไม่รู้หรอกว่าจริงไม่จริง ขอบารมีท่านด้วย
    หากว่าเป็นเรื่องจริง ขอให้ท่านเมตตาแสดง sign ซักอย่างให้ปรากฎชัดด้วยเถิด

    หลังจากคำอธิษฐานนี้ รู้สึกว่าดิฉันต้องตั้งอารมณ์อยู่อีกนานเหมือนกัน ก็แบบเดิมๆนะคะ
    เห็นแสงสว่าง ก็พยายามมองไปว่าคืออะไรหนอ อยากเห็นพระนิพพานกะเค้าเหมือนกัน
    ก็ ส่งจิต ดูโน่นดูนี่ไปเรื่อยๆ

    แล้วจู่ๆ.....

    ก็ปรากฏเป็นนิมิตเหมือนโบสถ์อยู่ตรงหน้าเลยทีนี้
    บอกไม่ถูกหรอกนะว่าสีสรรเป็นอย่างไร เพราะสว่างจ้ามาก รับรู้ได้ว่าเป็นโบสถ์แก้วสุกสว่างเป็นที่สุด
    ดิฉันก็ งง อีกเช่นเคย แต่จิตมันเหมือนอยากจะเดินเข้าไปข้างใน
    แว๊บเดียว ภาพเริ่มเป็นการเข้าไปข้างใน ผ่านเสา แล้วก็เหมือนจะเห็นองค์บางอย่างข้างหน้า และข้างๆ

    ภายในโบสถ์ ดิฉันเห็นไม่ชัดหรอกค่ะ แต่ความรู้สึกคือเป็นแก้วแน่นอน เป็นแก้วที่มีแสงอยู่ในตัวเอง สว่างขาวไปทั่ว
    แป๊บเดียวเท่านั้น ภาพที่เห็นข้างหน้าคือ พระสงฆ์รูปหนึ่งทรงจีวรสีหม่นธรรมดา กำลังนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านหนึ่งอยู่
    ดิฉันเห็นองค์ท่านไม่ชัด (แต่แอบสงสัยว่าใช่องค์ปฐมหรือเปล่า)


    หลังจากนั้น ทรงอารมณ์ไม่ติดแล้วค่ะทีนี้ ใจนึกถึงท่าน Me myself ขึ้นมาหยุดไม่ได้
     
  20. classic songs

    classic songs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +896
    ฮั่นแน่.... เล่นเราซะแล้ว โพสต์ไปๆมาๆ ทำตอนที่ 2 หายซะนี่ ใจหายเลยเพราะเป็นบันทึกของตัวเอง
    กว่าจะหากลับมาได้แทบแย่ เฮ่อ..............

    15 มิถุนายน 52 ประมาณ 19.30 น. ตอนที่ 2

    พี่น้องทุกท่านคะ ดิฉันคิดว่า

    *** การรับรู้ทางจิต กับ การอุปทานคิดไปเองนั้น มีเพียงเส้นแบ่งบางๆเท่านั้นเองค่ะ ***
    *** ขอกราบเรียนทุกท่านว่า สติ สำคัญมากๆ สำคัญที่สุดค่ะ
    ขณะฝึกจิต ต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า นี่เราฟุ้งซ่านหรือไม่ ง่วงจะหลับใช่มั้ย สงสัยอยู่ใช่มั้ย ***

    แน่นอนว่า เมื่อเริ่มเห็นนิมิต ดิฉันก็ งงๆ ตามระเบียบค่ะ จากนั้น ก็รู้ตัวไง ว่างงแล้ว
    ต่อมา จำคำชี้แนะของท่านผู้รู้ได้ ท่านว่า ให้พิจารณาตัดกาย
    เราก็ พิจารณาสิ ตั้งสติ คิดดูตามจริงว่า ร่างกายช่างเป็นอนิจจัง ทุกขัง เราไม่ห่วงอีกแล้ว
    โลกมนุษย์นี้ก็ เต็มไปด้วยผู้ประมาท คำว่า สติ สะกดกันไม่ค่อยจะเป็น มิจฉาทิฏฐิอยู่แต่กับวัตถุ ลาภยศ
    ปรกติ ดิฉันก็เซ็งโลกอยู่แล้วค่ะ เลยไม่ยาก

    จากนั้น ตั้งใจอธิษฐานขอบารมีจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ท่านเมตตาชี้ทางให้ด้วย
    อธิษฐานไปเรื่อยๆ แต่ว่า..... อย่าคาดหวังนะคะ ทำใจให้สงบเข้าไว้

    อธิษฐานเสร็จ ก็ตั้งอารมณ์อยู่กับปัจจุบันเลยค่ะ อยู่กับจิตเรานี่แหละ รู้ตัวว่าเราคิดอะไรอยู่
    คิดไปเรื่อยแต่ไม่ได้ฟุ้งซ่านนะ รู้ตัว
    คิดว่า อืมม ตอนนี้มองไปสว่างจ้าดีนะ ไม่รู้จะมีอะไรอยู่ที่นี่บ้าง
    อืมม ตัดกังวล จะเห็นหรือไม่ เดี๋ยวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านก็เมตตาเอง

    ช่วงที่สว่างๆอยู่นี้ เชื่อว่า กินเวลาไม่เกิน 5 นาทีนะ

    จากนั้น ปั๊บ เห็นพระเจดีย์องค์ใหญ่ รูปร่างเหมือนพระปฐมเจดีย์ อยู่ด้านขวามือของดิฉัน เป็นสีทองค่ะ ที่สำคัญ สว่าง

    รู้ตัวนะตอนเห็นน่ะ

    ดิฉันก็มีจิตเกิดขึ้นว่า ว้าว เหมือนเราจะเห็นพระจุฬามณีหรือเปล่า ดีใจๆ

    ฮ่าๆๆ หลังจากนั้น จิตเริ่มเกิดความคิดฟุ้งซ่านขึ้นหลายอย่าง ซึ่งพอรู้ตัวแล้ว เราก็หยุด
    แล้วกลับมาพิจารณาว่า จะฟุ้งซ่านไปทำไมนักหนา ปัจจุบันนี้เรากำลังฝึกจิตอยู่
    เราก็รู้ของเราแค่นี้ พอแล้ว เรื่องอื่นๆคิดไปไม่มีประโยชน์
    อย่าลืมสิว่า โลกนี้มีความน่าเบื่อ ความเคยชินของเราก็ยังคงยึดติดอยู่กับเงื่อนไขทางโลก ใช่มั้ย
    ปล่อยมันไปซะ เลิกกังวลสงสัยด้วยว่านี่คืออุปทานหรือไม่ ทำใจให้เฉยๆ พิจาณาสิ่งที่เห็นรอบๆตอนนี้

    พิจารณาอย่างนี้อยู่อีกซักพักหนึ่ง.......................<!-- google_ad_section_end -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...