ผมฝีกสมาธิไม่เคยได้ผลเลยครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย jokeyvoy, 18 มีนาคม 2006.

  1. Forest_Sa

    Forest_Sa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +1,444
    อย่าไปคาดหวังกับผลที่จะออกมาเลย มันยิ่งจะทำให้เรากังวล
    เพียงตั้งใจจริงในสิ่งที่ทำอยู่ก็โอเคแล้ว
     
  2. Forest_Sa

    Forest_Sa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +1,444
    อีกอย่าง พุทธเจ้าบอกว่า

    คนจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร
     
  3. nunok

    nunok Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +52
    คิดว่าเราคงจะเป็นน้องคุณแน่เลยขอตอบนะ

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ jokeyvoy
    ผมฝีกมา 6 ปีกว่าแล้วครับ แต่ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย ผมฝึกทุกวันนะครับ จิตใจมันฟุ้งซ่านตลอด ผมพยายามทำความดีให้มากแล้ว ไม่ฆ่าสัตว์มา 14 ปีเห็นจะได้ครับ เห็นมดผมยังหลบเลย แต่ผมกำลังนึกสงสัยว่าตนเอง บารมีคงไม่ค่อยมีครับ มันถึงฟุ้งซ่านตลอด ยิ่งช่วงนี้มีเรื่องของผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้องแล้วนั่งแล้วชอบนึกถึงตัดสิ่งรบกวนไม่ได้เลยครับ ต้องขอบคุณทุกคนมากครับ ที่กรุณาช่วยเหลือ ผมเคยทำแล้วนั่งได้แค่ 2-3 นาทีก็รู้สึกอึดอัดแล้วไม่มีความสงบในใจ คงจะมีมารในใจมันเยอะครับ แต่ผมก็ต้องพยายามเอาชนะครับ ขอบคุณจริงๆครับ


    </TD></TR></TBODY></TABLE>อย่าคิดมากเลยค่ะ สิ่งที่ดิฉันเจอมาก็ไม่แตกต่างจากคุณเลย เจอแต่พวกที่มีเจ้าของแล้วทั้งนั้น หรือไม่ก็เจอพวกที่เป็นเสือสิงค์ ทั้งนั้นเลยไม่เคยพบความรักที่จริงใจกับใคร การที่คุณใฝ่ทางธรรม เป็นหนทางที่เจริญแล้วมันไม่สายที่เราจะทำ ให้ตั้งสติดี ๆ แล้วปรับจิตใจตัวเองให้คิดว่าชาตินี้เราไม่เอาอะไรอีกแล้วเกิดเป็นมนุษย์ทั้งทีในชาตินี้ขอให้ได้พบพระพุทธเจ้า ตัวเราจะเอาคำสอนของพระศาสดาเป็นที่ตั้ง ถ้าไปถึงนิพพานได้เราจะทำ ให้คิดอยู่ทุกวันเวลานาทีว่าเราต้องตายแน่นอน เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีเรา แล้วพยายามข่มจิตใจจับดูลมหายใจ หายใจลึก ๆ เลื่อย ๆ หายใจเข้าออกให้รู้ไว้ แล้วค่อยเริ่มจับความรู้สึกความคิด และความจำ พร้อมกับมองดูการเคลื่อนไหวของกายไปด้วย ในหัวของเราอย่าให้มีเสียงพูดในหัวเลย นิ่ง ๆ ไว้ ถ้าเกิดมีเสียงให้ถ่องพุธโธ หรือพูดอะไรก็ได้เตือนสติให้เราหยุด ดึงสมาธิกลับมา ทำไปเลื่อย ๆ สามารถทำได้ตลอดไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ทำทุกเมื่อเชื่อวัน พยายามนะคะ แรก ๆ จะดูขัด ๆ แต่ทำบ่อยเข้าจะเคยชิน แล้วเราจะดีขึ้นเอง (ช่วงแรก ๆ จะมีมารเข้ามาอย่ากังวลให้คิดว่าเราเริ่มใหม่ได้แล้วนึกถึงคูรบาอาจารย์ทีเคารพและพระพุทธเจ้าเข้าไว้ตั้งจิตให้มั้น) แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง เรื่องอะไรก็ตามจะไม่มากระทบจิตใจเราได้เลย แล้วคุณจะได้รู้ว่าความรักที่แท้จริงคืออะไร จากเพื่อนผู้แสดดีที่เคยเป็นอย่างที่คุณเป็นมา หวังดีกับคุณเสมอ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 มีนาคม 2006
  4. rosey

    rosey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    163
    ค่าพลัง:
    +1,345
    จิตและกาย รวมกันเป็นหนึ่ง นิ่งแท้..
    กลางปรวนแปร สาย..ลมพัด สะบัดไหว.
    จิตนิ่ง เหนือฝั่งเวิ้ง.. นทีไกล..
    จิตเหนือ.. สิ่งใด ระงับ ฉ่ำเย็น.....

    ไปนั่งสมาธิ ที่ทะเลดีกว่า.. สาธุ
    (bb-flower (bb-flower (bb-flower
     
  5. rosey

    rosey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    163
    ค่าพลัง:
    +1,345
    จิตและกาย รวมกันเป็นหนึ่ง นิ่งแท้..
    กลางปรวนแปร สาย..ลมพัด สะบัดไหว.
    จิตนิ่ง เหนือฝั่งเวิ้ง.. นทีไกล..
    จิตเหนือ.. สิ่งใด ระงับ ฉ่ำเย็น.....

    ไปนั่งสมาธิ ที่ทะเลดีกว่า.. สาธุ
    (bb-flower (bb-flower (bb-flower
     
  6. jokeyvoy

    jokeyvoy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +30
    การที่ผมเป็นอย่างนี้ผมก็รู้สึกท้อใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นครับ แต่เมื่อผมจะวิ่งเข้าหาพระพุทธศาสนา ก็เหมือนมีมารมาทำให้คนที่ผมชอบอยู่ในปัจจุบันเนี้ยเขาดีกับผม ทำให้ผมหาเหตุผลไม่ได้ว่าเธอคิดอย่างไรกับผม เธอรู้สึกอย่างไรกับผม ผมรู้สึกอิ่มเอมที่เธอดีกับผมมากๆ ทำให้นั่งสมาธิแล้วก็กลับมาไม่ได้ดีอีกครั้งและผมเป็นอย่างนี้บ่อยครับ วันนี้นผมตั้งใจแน่วแน่ว่าจะละทางโลกขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว พอกำลังจะวิ่งเข้าสมาธิ เธอคนนั้นก็โทรเข้ามาคุยทันที ซึ่งโดยปรกติเธอก็ไม่เคยโทรหาเลย และวันไหนก็ตามที่หลังจากผมตั้งสมาธิดีแล้วก็มักจะมีเรื่องราวที่ผมไม่สามารถจะเข้าใจได้ เช่นว่าเธอเข้ามาคุยและยิ้มแย้มและบางครั้งก็อ้อนแบบไม่มีเหตุผล ผมเลยไม่นิ่งผมก็เครียดว่าชีวิตนี้จะสำเร็จหรือเปล่า ผมเป็นอย่างนี้ตลอดจะมีเรื่องราวแบบนี้มาคอยแกล้งชีวิตของผม และผมว่าวันเสาร์อาทิตย์นี้ผมจะมีจิตที่นิ่งและคนๆนั้นจะไม่โทรหาอีกแล้ว ผมหวังเช่นนั้น ขอให้ทุกคนเอาใจช่วยผมด้วยนะครับ
     
  7. kingkaewmath

    kingkaewmath เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +773
    สิ่งที่คุณเล่ามาน่าจะเป็นนิวรณ์ นะคะ หลวงพ่อฤาษีท่านบอกว่า กิเลสกามต่างๆในใจถ้ามันมีก็ปล่อยมัน แต่ขอไว้ช่วงเดียวที่เราจะเจริญสมาธิอย่าให้มันเกิดขึ้นตัดมันไปให้ได้ชั่ว คราว อาจจะแค่5นาที 10นาทีก็แล้วแต่แล้วค่อยเพิ่มเวลา หลังออกจากสมาธิแล้วก็ปล่อยมันคิดไปจนพอใจ
    ดิฉันก็เคยเป็นเหมือนคุณพอแอบชอบใครแล้วเขาทำท่าจะมีใจให้ เราก็เตลิดเปิดเปิงเลยช่วงนั้นจิตไม่ค่อยมีสมาธิเลย พอเราตั้งใจว่า ไม่ คำเดียว นานๆไปเมื่อไม่ได้พบเขาแล้วความรู้สึกชอบ ก็เริ่มลดลง อาจจะมีบางคืนที่ฝันถึงด้วยซำ ในที่สุดก็กลายเป็นเฉยๆ เพราะไม่ได้พบเขาอีก้้ ก็เริ่มทำสมาธิได้ใหม่ ณ วันนี้ไม่รู้สึกอะไรกับเขาแล้ว ที่พูดมานี่ใช้เวลาเป็นปี-2ปีได้ เหนื่อยเหมือนกันนะคะ แล้วเราก็ต้องพยายามอย่าให้มันเกิดกับคนใหม่อีก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มีนาคม 2006
  8. jokeyvoy

    jokeyvoy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +30
    ตอบคุณkingkaewmath คือตัวผมเนี่ยต้องทำงานและยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกน่าจะอีกประมาณ 2-3 ปีเป็นอย่างน้อยครับ ผมเลยห้ามความรู้สึกตรงนี้ไม่ได้ และช่วงหลังๆเธอยิ่งมาทำดีกับผมบ่อยครั้งเข้า สมาธิเตลิดเลยครับ จากที่เคยนั่งได้ 15-30 นาทีก็เหลือแค่ 5 นาที บางวันแค่ 1 นาทีด้วยซ้ำครับ เศร้าจังเลยครับ ผมก็พยายามตัดใจแล้วแต่ห้ามใจตัวเองไม่ได้ จะลองฝืนทนต่อไปครับ จะต้องเอาชนะใจตัวเองให้ได้ครับ
     
  9. ao.angsila

    ao.angsila เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    2,332
    ค่าพลัง:
    +26,683
    { ปิยโย ชายเต โสโก ปิยโต ชายเต ภยัง }
    "ความเศร้าโศกเสียใจเกิดขึ้นจากความรัก
    ภัยอันตรายเกิดขึ้นได้เพราะอาศัยความรักเป็นเหตุ"
    ขอโมทนาบุญนะครับ ถ้าอดทนในบางสิ่งบางอย่างได้
    ขอบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหมด และบุญใดที่ผมได้ทำมาแล้วหลายอสงไขยหลายแสนมหากัป จงส่งผลให้ทุกท่าน ประสบแด่ความสุขความเจริญพร้อมทั้งมีบารมีปฎิบัติธรรมนำจิตให้เจริญยิ่งๆขึ้นไปมีดวงตาเห็นธรรมโดยเร็วพันและมีนิพพานเป็นที่ไป เทอญ........
    นิพพานัง ปรมัง สุขขัง
     
  10. ao.angsila

    ao.angsila เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    2,332
    ค่าพลัง:
    +26,683
    ขอโมทนาบุญในกุศลจิตของท่าน
    ขอบารมีพระพุทธเจ้าทุกพระองค์พระธรรมพระอริยสงฆ์
    โปรดช่วยคุ้มครองให้ท่านและครอบครัวของท่านประสบแด่ความสุข
    สำเร็จสมหวังสมความปรารถนาทุกประการได้เข้าถึงพระนิพพานตาม
    ความปรารถนาของท่านเทอญ
    สาธุ ๆ ๆ
     
  11. varanyo

    varanyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    925
    ค่าพลัง:
    +3,373
    เทวดาท่านมาทดสอบสมาธิของเรานะครับ...เหมือนกับเป็นการสอบ...
    ว่าเราจะสามารถสอบผ่านไหม????...ผมเองก็เคยเป็นครับ...
    ต้องพยายามต่อไป...แยกให้ได้ครับทางโลกกับทางธรรม...
    ขอเป็นกำลังใจให้ครับ...ทำให้สำเร็จสักอย่างอะไรก็ได้ตามที่คุณต้องการครับ...แล้วจะพบว่า...ใช่เลย...:cool:
     
  12. pitipornsn

    pitipornsn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +95
    เอาใจช่วยนะครับ
     
  13. nunok

    nunok Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +52
    เพื่อนผู้แสนดี

    คุณ jokeyvoy ดิฉันก็มีความรู้สึกกับคน คนหนึ่งแล้วเจอกันตลอดเวลารู้สึกว่าเค้าใช่เลยคนที่นี้แหล่ะเป็นเนื้อคู่ของเรา แต่เค้ามีแฟนอยู่แล้วเจอกันตลอด ดิฉันพยายามข่มจิตใจตัวเองรู้ว่าเรารู้สึกชอบและรักเค้า คุณลองถามใจดูว่า ความรักทำให้เราทรมารไหม เจ็บไหม สุขจริงหรือ ถ้าเราลอกหนังออกร่างกายที่เราเห็นว่าชอบว่าเป็นเค้าเราจะมองได้ไหมมันก็แค่รูปลักษณ์ภายนอกให้เราหลงไปชั่วขณะ เราจงอยู่กับความทรมารนั้นแล้วมองมัน พิจรณาให้รู้แจ้งแล้วเราจะเห็นธรรมในปัญหานั้นเอง พยายามฝึกข่มจิตตัวเอง แล้วบอกกับตัวเองว่ามันคือมารที่คอยขวางการปฏิบัติธรรม ของเรา นี้คือบทพิสูจน์จากเบื้องบนดูว่าเรามีความมานะแค่ไหนในการปฏิบัติ ถ้าเราทำจริง ๆ อย่ารับสายมือถือ ใครโทรมาก็ไม่รับคิดเสียว่าตอนนี้เรากำลังตั้งใจทำอะไร หรือเมื่ออยู่กับคนที่เราชอบจิตใจวุ่นวายให้เราท่องพุธโธ ไปเลื่อย ๆ จับดูลมหายใจไปเลื่อย ๆ สักพักจิตใจที่วุ่นวายจะหายไปเอง ดิฉันเป็นเหมือนคุณเลย เอาหนังสือธรรมะมาอ่าน (ของคุณศุภวรรณ กรีน) นั่งอ่านไปทั้งที่ใจเต้นแรงรู้สึกชอบเค้ามากมายเมื่ออยู่ใกล้ แต่เราพยายามข่มใจอ่านไปสักพักก็เกิดความสงบขึ้นมาในหัวใจ แล้วทุกอย่างก็จะผ่านไปด้วยดี พยายามเข้านะคะดิฉันเอาใจช่วยคุณอย่างเต็มที่
    เจริญธรรม (จากเพื่อนผู้แสนดีของคุณ)
     
  14. jokeyvoy

    jokeyvoy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +30
    ตอบคุณrutchanokนะครับ ผมพยายามทำแบบนี้อยู่แล้วครับ บางครั้งผมก็ตัดสินใจว่าไม่พูดถึง ไม่ยุ่งเกี่ยวสวดนะมะพะธะ บ้าง สัมมาอะระหังบ้าง หรือหนอๆทั้งหลายแล้ว ก็ข่มได้ในระยะนึงแต่ว่าเมื่อเธอมายืนต่อหน้าและพูดว่า เป็นอะไรคะ วันนี้ทำไมไม่พูดละ ดูเงียบๆจัง และก็มายืนยิ้มต่อหน้าเรา เราเขินน่ะและจะไม่พูดก็ไม่ได้ก็เผลอทุกที แต่ช่วงหลังๆมานี่เราก็เป็นตัวเราแหล่ะ พยายามข่มกามฉันทะที่มีอยู่ในจิตใจอยู่ เรามองว่าสักวันเราอาจจะผ่านพ้นมันไปได้ เราพยายามหาข้อเสียของเธออยู่ทำนองนี้ครับ เราว่าอีกไม่นานเราก็คงทำได้ สู้ๆๆๆๆครับ
     
  15. พลรัฐ

    พลรัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    610
    ค่าพลัง:
    +1,111
    "..ทุกอย่างในโลกล้วนเกิดแต่เหตุ.." ก่อนที่จะปฏิบัติการสิ่งใด ย่อมต้องรู้ว่า ทำไม เพราะอะไร เพื่ออะไร (..เพียงเพื่ออยากทำอะไรบางอย่างเฉยๆ อาจหวังผลได้ยาก..) แม้แต่การ ปฏิบัติสมาธิ ยังต้องมีเหตุแห่งการปฏิบัติ บ้างมาปฏิบัติเพราะรู้สึกชอบผูกพันธ์ เป็นเหตุต้น บ้างก็ด้วยเหตุอื่นๆ แต่ท้ายสุดโดยรวมของเหตุแห่งการปฏิบัติ มาจากเริ่มเห็นภัย แห่งการ เกิด แก่ เจ็บป่วย พลัดพรากจากกัน ตาย ต้องการหาที่พึ่งทางใจ ต้องการความสุขสงบใจเป็นเบื้องต้น ต้องการสุคติในเบื้องหน้า ที่สุดต้องการพระนิพพาน

    หากเห็นแจ้งเหตุเช่นนี้ พึงเร่งหาอุบายในการทำใจให้สงบ ใจสงบเมื่อไรเป็นสมาธิเมื่อนั้น บ้างนั่งแล้วสงบ บ้างต้องวิ่งก่อนแล้วหยุดจึงสงบ ฯลฯ ทำอย่างไรก็ได้ให้ใจสงบก่อน แล้วต่อด้วยกรรมฐานแก้จริต วิปัสสนาญาณตัดท้าย

    เห็นปัญหา รู้สาเหตุ ผลเป็นที่ต้องการ ทุกวิถีทางย่อมทนฟันฝ่าไป

    ไม่เห็นปัญหา ไม่หาสาเหตุ ไม่แน่ว่าต้องการ ทุกทางคือปัญหา
     
  16. ผู้พ่ายแพ้ขันธ์ 5

    ผู้พ่ายแพ้ขันธ์ 5 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2004
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +64
    อย่าไปอยากเอาชนะมันโดยการบังคับหรือข่มเลย ความรู้สึกทั้งหลายหน่ะชนะไม่ได้หรอกขอรับ

    ที่คุณเป็นอยู่ขณะนี้ คือการพยายามบังคับมันอยู่ขอรับโดยตั้งเงื่อนไขกับจิตใจตัวเอง ประมาณว่า ...' ไม่ได้นะ เราทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะเราเป็นนักปฏิบัติ ทำอย่างนี้ไม่ถูกต้อง ' ..ผลที่เกิดขึ้นคือความเครียด อารมณ์ขุ่มมัว มีโทสะ ว้าวุ่นใจ... แม้ว่าที่ทำอยู่เป็นเจตนาดีที่เป็นกุศลก็ตาม แต่เพราะทำเหตุไม่ถูกเท่านั้นเอง
    ข้าพเจ้าเคยคลุกกับอาการอย่างนี้มาเหมือนกันขอรับ จึงอยากจะแนะนำว่า หากต้องการปฏิบัติธรรมในแบบที่ถูกต้องตามหลักของพระพุทธเจ้าก็คือ[/COLOR]ไม่ต้องทำอะไรเลย ทำตัวให้โง่ๆ รู้อย่างที่มันเป็น ที่คุณกำลังทำอยู่ตอนนี้ข้าพเจ้าเคยทำมาแล้ว มันไม่ใช่การแก้ปัญหาขอรับ แต่มันจะสร้างปัญหาใหม่ให้คุณคือความทุกข์จากการพยายามบังคับจิตใจ(ทั้งๆที่ไม่มีใครบังคับมันไม่ได้) ทำแบบนี้ไป 50 ปีก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร แต่การตั้งต้นที่ถูกต้องแค่ 1 นาทีก็เกิดประโยชน์มหาศาล ลองเข้าไปอ่านเว็ปนี้ดูก่อนนะขอรับ http://www.wimutti.net[/url] แล้วค่อยตั้งต้นใหม่ที่ถูกต้อง
    เรื่องผู้หญิงที่พูดถึงน่ะขอรับ จะบอกให้ว่าแม้พระอริยบุคคลชั้นโสดาปัตติผลก็ยังละเรื่องกามไม่ขาด แล้วอย่างเราๆปุถุชนคนธรรมดาล่ะ? พึงคิดไว้ว่าเรายังไม่ใช่คู่ชกของกามราคะไม่ใช่ภูมิของเราเป็นภูมิของพระอนาคามีท่านขอรับ อย่างเรานี่แค่รู้จักตื่นให้เป็นก่อนก็พอ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2006
  17. jokeyvoy

    jokeyvoy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +30
    วันนี้ผมไม่สบายนั่งแล้วรู้สึกอึดอัดใจมากๆเลย ผมคิดว่าอาจจะเพราะว่าเมื่อร่างกายเราไม่สบายจิตก็ไปสัมพันธ์กับร่างกาย นั่งแล้วร่างกายเหมือนอยากจะอาเจียนออกมา ใจมันไม่นิ่งเลย อยากจะออกตลอดเวลา และเวลาที่ภาวนาจิตจะทรมานมากๆเลย อาจจะเพราะผมปวดหัวอยู่หรือเปล่า จิตมันวิ่งรอบกายก็เลยทำให้ผมนั่งได้ไม่นานแต่ก็พอใช้ได้ วันนี้รู้สึกไม่ค่อยสบายเลยก็จะพยายามให้จิตนิ่งๆมันก็ไม่นิ่ง ตามดูจิตแล้วมันก็ไปสัมพันธ์กับร่างกายตลอด ผมคิดว่าผมคงต้องพักผ่อนแล้วเมื่อไหร่ที่สบายดีค่อยมาเริ่มใหม่อีกครั้ง ผมคิดว่างั้นนะครับ แต่จะตั้งใจมากขึ้นครับ
     
  18. ชา ใคร่รู้

    ชา ใคร่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +496
    .....เรื่องที่ไปชอบคนอื่นนี่ ถ้ายังชนะอารมณ์ตัวเองไม่ได้เด็ดขาดก็ต้องรู้จักตีกรอบให้ตัวเอง อย่าให้มันเลยเถิดมากนักครับผม เวลาปกติอาจจะฟุ้งบ้างก็ไม่ว่ากัน แต่เมื่อจะทำสมาธิต้องวางทุกอย่างไว้เบื้องหลังครับ มีสติสัมปชัญญะรู้ว่าเรากำลังทำอะไร รู้ว่านี่เป็นเวลาทำสมาธิไม่ใช่เวลาฟุ้งซ่านครับ บุคคลอื่นๆจะดีหรือเลวอย่างไรก็ไม่ทำให้เราดีขึ้น เราต้องทำด้วยตัวของเราเอง ผมจะวางกำลังใจเช่นนี้ก่อนการฝึกสมาธิครับ อาจจะพอเป็นข้อมูลเพิ่มเติมให้คุณได้บ้างครับ
     
  19. jokeyvoy

    jokeyvoy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +30
    ขอบคุณทุกคำตอบมากๆครับ วิธีของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป สูตรสำเร็จผมคงต้องค้นหาเอง แต่เรื่องจิตใจที่ไปชอบใครตั้งแต่คุณrutchanok ใช่หรือเปล่าถ้าพิมพ์ผิดก็ขอโทษด้วยนะครับ เขาให้ไปอ่านที่เว็บวิมุตตินั่นทำให้ผมเข้าใจอะไรหลายๆอย่างมากขึ้น ในเรื่องของการตามดูจิตของตน ผมก็ลองค้นหาว่าจริงๆแล้วผมยึดมั่นถือมั่นในกายของตนและเขาว่ามีอยู่จริง ผมมองว่าตัวผมเองต้องการ แต่จริงๆแล้วความใคร่ต่างหากที่ยึดเอาตัวผมเป็นที่มั่นเป็นมารขัดขวางความสำเร็จเป็นเครื่องกั้นกางให้ตกสู่ห้วงเหวของการเวียนว่ายตายเกิดอยู่ตลอด ผมมานั่งคิดว่าถ้าผมได้เธอแล้วผมก็คงพอใจเท่านั้น แต่ผมคิดว่านั่นคือกามฉันทะ ผมจะนั่งอยู่ในกามราคะกามตัณหา และพอใจในกามคุณทั้งหลายที่กายเนื้อพอใจ แต่ผมมานั่งตามจิตของตัวเองว่า ทำไมเราถึงชอบได้ เป็นเพราะอะไร เป็นเพราะเกิดจากอะไร ผมมานั่งพิจารณาแล้วเป็นเพราะตาเนื้อเราไปสัมผัสอยากได้ในสิ่งที่เห็นดังนั้นผมจึงไม่อยากยึดติดก็มองว่าทั้งหลายเป็นอนิจจังใหเห็นเป็นความชรา ให้เห็นเป็นอสุภะทั้งหลาย ก็ได้ผลจิตผมไม่ปฎิพัทธ์ต่อสิ่งเหล่านั้น ผมรู้สึกดีมากๆ วันนี้ก็อารมณ์ดีมากๆ แต่ผมว่าสักวันมารต้องบุกเข้ามาทำให้ใจผมปั่นป่วนอีกแน่ แต่ว่าตอนนี้เมือ่ใจผมชนะแล้วผมต้องให้สำเร็จก่อนที่ใจจะป่วนอีกครั้งครับ ขอกำลังใจให้ผมนะครับ ขอบคุณครับ
     
  20. ao.angsila

    ao.angsila เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    2,332
    ค่าพลัง:
    +26,683
    วิธีฝึกกรรมฐาน

    :cool: พระพุทธเจ้าสอนกรรมฐาน 40 กอง
    แต่ละกองแล้วแต่จริตของแต่ละคนที่ถูกใจแต่สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ อานาปานุสสติกรรมฐาน
    :cool: กรรมฐานอานาปานุสสติกรรมฐาน เป็นกรรมฐานแก้อารมณ์ฟุ้งซ่านของจิต นอกจากจะใช้อานาปานุสสติกรรมฐาน จะใช้อนุสสติ อื่นๆ รึว่า กสิณ รึว่า อสุภ ควบคุมก็ได้ ตามใจชอบ แต่ว่าจุดใหญ่จริงๆ ต้องยึดอา นาปานุสสติกรรมฐาน ไว้เป็น อารมณ์ นี้เพื่อป้องกัน จิตโยกโคลง หมายความว่า จิตมีความสะทกสะท้านมาก จิตไม่ทรงตัว ถ้าจิตของเรา ไม่ทรงตัว มีการหวั่นไหวมาก การเจริญพระกรรมฐานก็ไร้ผล
    คัดลอกมาจากคุณ o^ho เพื่อเป็นธรรมทาน
    นิพพานัง ปรมัง สุขขัง
    [b-wai] [b-wai] [b-wai] [b-wai]
    (bb-flower (bb-flower (bb-flower
     

แชร์หน้านี้

Loading...