ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ไม่ลืมหรอกค่ะ ขออนุโมทนาในความตั้งใจที่จะปฏิบัติดีด้วยนะคะ

 

อนุโมทนาค่ะ

 

น้องฝนคะ ที่พระอาจารย์โมคคัลลาท่านให้ไปถามสมเด็จน่ะ เพราะท่านรู้ว่าน้องฝนต้องไปขอเรียนวิชาแน่ๆ พี่ก็คิดว่างั้นนะ ท่านเลยโยนกลองไปทางโน้น เพราะยังไงๆสมเด็จกับพระอาจารย์ของน้องคงไม่ยอมแน่ๆ หุหุ

พี่เองใช่ว่าจะเก่งจะทำได้ทุกเรื่องนะ บางครั้งบางอย่างก็มีติดขัดเหมือนกัน เหตุผลก็คงแตกต่างจากน้องฝนคนละแบบ เพราะถ้าเป็นน้องฝนจะต้องเอาไปลองของใช่มะ แต่ถ้าเป็นพี่คงเอาไปช่วยคนดะไปเลย ซวยพอกัน ดังนั้นพระอาจารย์อนุรุททะก็บอกว่าอย่าไปฝึกเลยอภิญญา มีก็ไม่ใช่ว่าจะพ้นทุกข์ เอาแค่นี้แหละ ดังนั้นส่วนใหญ่เวลาขึ้นไปก็ไม่ได้เรียนวิชาอะไร เรียนแต่เรื่องธรรมะค่ะ

มโนมยิทธิของพี่ดีกว่าของน้องฝนนิดหน่อยเอง ไม่ได้มากมายอะไร แค่เห็นพวกสัมภเวสีหรืออื่นๆได้มากกว่าน้องแค่นั้นเอง อย่างอื่นก็คงเหมือนๆกันแหละ

 

Welcome to here na ka. Please feel free to share your idea and experience ka.

 

"ไม่ได้ ไม่มีครูฝึกเดี๋ยวจะเป็นบ้า" อันนี้ใช้เฉพาะน้องฝนแน่ๆเลย อิอิ เพราะท่านรู้เกี่ยวกับน้องฝนเป็นอย่างดี เลยต้องเบรคไว้ก่อน ฟังที่น้องฝนเล่าๆมานะ พี่ยังคิดว่าถ้าน้องฝนทำได้ทุกอย่างนี่ มันจะวุ่นวายขนาดไหนคะ เพราะน้องฝนคงลองของไปทั่วแน่ๆเลย ฮาฮา อย่างมีน้องคนหนึ่งเขาก็อยากฝึกกสิณไฟนี่แหละ แต่ว่ายังไม่ได้อะไรเลย พี่ก็ว่าฝึกไปก็ต้องควบคุมตัวเองให้ได้ด้วย เขาก็ว่านั่นซิ เขายิ่งโมโหง่าย เกิดไม่พอใจอะไรอ่ะเผาแหลก เหอ เหอ พี่ว่าอารมณ์น้องฝนน่าจะคล้ายๆกัน สมเด็จกับพระอาจารย์เลยต้องห้ามอย่างหนัก ท่านคงมองเห็นอ่ะนะว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับน้อง

จริงค่ะว่ามโนมยิทธิถ้าไม่มีของเก่ามาฝึกยาก แล้วก็ไม่ได้ฝึกได้ทุกคน แถมถ้าฝึกได้แล้วถ้าไม่รู้จักควบคุม ไม่ใช้ให้ถูกทางก็อาจจะเดือดร้อนได้

เคยอ่านประวัติของคนที่มีตาทิพย์ (ที่ดังๆ) ที่เขาบอกว่าเขามองเห็นทุกคนเลยว่าเป็นยังไง บางทีเขาก็รู้สึกแย่เหมือนกัน เพราะบางทีรู้แล้วบอกก็ไม่ได้ เขาไม่อยากเห็นเลยเพราะเห็นตลอดเวลา ดิฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจริงหรือเท็จ ขืนเห็นตลอดเวลาไม่มีการปิดก็บ้าตายกันพอดี ก็เหมือนที่ดิฉันเป็นครั้งแรกอ่ะ เกือบบ้าเพราะปิดไม่ได้ ได้รู้ได้ยินตลอดเวลามันดีที่ไหน พอหาทางปิดได้ ถ้าไม่จำเป็นไม่เปิดรับรู้เด็ดขาด ก็ใช้ชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไป เจอใครก็ไม่ได้ไปนั่งดูหรอกว่าเขาเป็นยังไง นอกซะจากว่ามันมีเหตุจำเป็นต้องให้ดูถึงจะทำ ไม่งั้นชีวิตวุ่นวายมากๆ อยู่เฉยๆดีที่สุดค่ะ

 

ยินดีต้อนรับคุณ*mae moo aun*ค่ะ
วันอาทิตย์ก็อย่าลืมเข้ามาคุยภาคภาษาไทยนะค่ะ แต่ช่วงนี้สนทนากันด้วยภาษาอังกฤษนี่แหละค่ะ จะได้ทบทวนภาษาไปด้วยอิอิ ไม่ว่ากัน
ข้อสนทนาในห้องนี้อย่าว่าแต่อ่านแล้วละไม่ได้เลยค่ะ เราเองยังต้องPRINTไปอ่านเพราะบางทีต้องไปทำธุระไกลๆ (เลยเกิดกิเลสอยากได้โน๊ตบุ๊คไว้อ่านนอกบ้านค่ะ)

 

พี่พูดก็ถูกค่ะ ถ้าฝนได้เรียนฝนก็เอาไปเล่นไร้สาระ การห้ามเป็นการตัดไฟเเต่ต้นลม

ส่วนพี่ฝนว่านะคะ ท่านคงคอยให้พี่มีฌานที่เเก่กล้ากว่านี้มากกว่าค่ะ ถึงค่อยสอนอภิญญากัน

เเสบไม่เเสบก็วันดีคืนดีอยากได้พระบรมสารีริกธาตุสมเด็จองค์ปฐมขึ้นมา ขึ้นไปนั่งอ้อนวอนขอให้ท่านส่งมาให้ ฝนสัญญาจะดูเเลอย่างดี ท่านก็ตกลง ตอนดึกนอนฝันเห็นว่าท่านหย่อนลงมาให้เเล้ว ตื่นมาไม่เจอ ฝนก็โวยวาย ท่านบอกว่าท่านส่งมาให้จริงๆ เเต่พระอาจารย์ท่านเอาคืน พระอาจารย์ท่านบอกว่าฝนเเค่ลองของสนุก ไม่ได้อยากได้จริงๆจังๆ เเป่วเลย โชคดีที่ลองทำครั้งเดียว ไม่งั้นคงโดนพระอาจารย์ดุไปเเล้ว

ที่ฝนได้วิชามโนยิทธิเพราะสมเด็จองค์ปฐมเห็นว่าฝนต้องอยู่ต่างประเทศคนเดียว พ่อเเม่ก็ไม่มี ท่านเลยเอาฝนไปดูเเลเอง หลังจากนั้นก็โยนให้พระอาจารย์ไป

พี่ฝนมีไอเดียที่ใช้ความรู้ของพี่ที่มีเเละก่อให้เกิดรายได้เเล้วนำเงินบางส่วนมาทำบุญนะคะ พี่ลองไปปรึกษาพระอาจารย์หลายๆองค์ดูนะคะ

ครูสอนมโนยิทธิฝนค่ะ มีความสามารถเเบบพี่เลย เเต่ว่าครูเค้าใช้วิชาหลวงปู่ฤาษีลิงดำอย่างเดียวเลยค่ะ ติดต่อกับหลวงปู่ฤาษีได้โดยตรงผ่านทางมโนยิทธิ หลวงปู่เคยบอกว่าครูเคยเป็นลูกของหลวงปู่ในอดีตชาติค่ะ

ครูเค้ารับยกศาลพระภูมิเจ้าที่ค่ะ เนื่องจากความสามารถในการติดต่อ มองเห็น เทวดา นางฟ้า ได้เหมือนกับพี่ค่ะ รับทำพิธีบวงสรวงต่างๆ ตามหลักสูตรของหลวงปู่ฤาษีค่ะ พอได้เงินมาก็เอามากินมาอยู่เพราะครูเค้าไม่มีความรู้อะไรมากไปกว่านี้ เเล้วเเบ่งไปทำบุญค่ะ ฝนว่าถ้าพี่มีความรู้พี่น่าจะลองเอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ช่วยเหลือผู้อื่น ช่วยเหลือตัวเอง เเละยังได้ช่วยต่ออายุพระพุทธศาสนานะคะ

เดือนนึงได้หลายหมื่นเลยนะคะ เพราะว่าได้มาเเบ่งไปทำบุญ รายได้ไม่เคยขาดมือเลยค่ะ

ใช้ความรู้ความสามารถที่ตัวเองก่อให้เกิดรายได้ โดยไม่เบียดเบียนใคร ฝนว่าไม่ผิดนะคะ นอกจากสร้างรายได้เเล้วยังสร้างบุญต่อด้วยนะคะ

 

แหม...น้องฝนนี่ มีฮาแฝงธรรมะตลอดเลยนะค่ะ นี่ก็รอคำตอบคุณMeฯ ว่าจะทำอย่างไรกับคำแนะนำของน้องฝน เดี๋ยวถ้าคำแนะนำเวิร์ค พี่ก็จะขอคำแนะนำจากน้องเหมือนกันค่ะ เพราะเรื่องงาน นี่พวกเรามักก็มักจะไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านเลยค่ะ เหอเหอ ขำไม่ออกกันเลย

 

จ๊ากกกกกกกกกก รับยกศาลพระภูมิ โห..น้องฝนคิดได้ไงเนี่ย ก๊ากกกก

งานแบบนี้มันเหมาะกับผู้ชายจ้าน้อง ยิ่งเรื่องบวงสรวงด้วยเขานิยมให้ผู้ชายทำ อย่าได้ไปเทียบรัศมี สังคมบ้านเรายิ่งถือผู้ชายเป็นหลักด้วย อย่าว่าแค่เรื่องนี้เลยนะ สมัยพี่อายุยี่สิบนิดๆ ทำงานแล้วมีลูกน้องเป็นผู้ชายหลายคน (ทำพวกแพคสินค้าส่งออก) บางคนมาสมัครงานทำได้วันเดียวลาออกไปทำงานกรรมกรตากแดดตากลมแย่กว่าอีก เหตุผลคือ รับไม่ได้ที่มีหัวหน้าเป็นผู้หญิงแถมยังอายุน้อยกว่า เอากะพี่แกซี อยู่ทำงานบริษัทสบายๆไม่เอา ไปทำงานกรรมกรค่าแรงก็น้อยกว่า เพราะหยิ่งในศักดิ์ศรี เฮ้อ...

แต่ยังไงก็ต้องขอขอบใจน้องฝนนะคะที่แนะนำวิธีให้ ถึงมันจะห่ามๆไปหน่อยก็เหอะ อย่างน้อยก็ได้ฮา อิอิ

 

ก็เรียกเหมือนเดิมแหละค่ะ จะไปซีเรียสอะไรนักหนา อย่ากังวลไปเลยค่ะ

 

อ้าวเป็นงั้นไป สงบระงับก็ไม่เก่งหรอกค่ะใช้ตัวช่วยเหมือนกันเรียนมาก็จริงแต่ไม่ได้ใช้ก็ลืมค่ะยิ่งภาษาเป็นอะไรที่ต้องใช้ตลอดถึงเรียนมาถ้าไม่ใช้ก็ลืมค่ะบางทีก็คิดว่าถ้าเรามีเพื่อนเป็นชาวต่างชาติได้ฝึกภาษาไว้ก็ดีค่ะ แต่เอาเข้าจริงทำไปทำมาก็สนใจแต่เรื่องพระพุทธศาสนาเป็นหลัก เพราะต้องการพ้นทุกข์อย่างแท้จริงค่ะ

 

งั้นฝนคงพูดผิดไปอ่ะค่ะ งานที่สามารถบอกตำเเหน่งว่าควรจะตั้งศาลหรือลงเสาเอก ตรงไหน บ้านจะอยู่สบาย เงินจะไหลเข้าบริษัทค่ะๆ คล้ายๆดูฮวงจุ้ยค่ะ ไม่ใช่รับจ้างออกเเรงยกศาลเอง

อย่างเช่น มีคนเค้าสร้างหอพักสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยค่ะ เเล้วเค้าอยากรู้ว่าควรสร้างศาลพระภูมิหรือศาลพระพรหม เจ้าที่จะชอบเเบบไหนมากกว่ากัน เเล้วควรสร้างทิศไหน

ก็ไม่มีอะไรมาก ครูเค้าถามเทวดาเจ้าที่เอาว่าท่านชอบเเบบไหน ชอบทิศไหน ท่านตอบมาครูเค้าบอกตำเเหน่งไป เเค่นี้เองค่ะ

ไม่ใช่ว่าคนทุกคนจะติดต่อภูมิเจ้าที่ได้ทุกคน คนที่ติดต่อได้ไม่น่าจะเลือกเพศนะคะ มัวเเต่เลือกหาคนดูฤกษ์ดูยามไม่ได้เลยสิคะ

เสียดายความรู้ พี่มีความรู้ที่พิเศษกว่าคนอื่น ลองมาประยุกต์เพื่อเป็นรายได้ดูสิคะ รบกวนพระอาจารย์ช่วยสอน เเล้วนำเงินที่ได้ไปทำบุญ อุทิศส่วนกุศลตอบเเทนบุญคุณครูบาอาจารย์ เท่านี้ท่านก็ยิ้มเเก้มปริเเล้วค่ะ

บวงสรวงไม่ได้ก็ลองรับทำพิธี คมากรรมดูสิคะ เรียกเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายมารับส่วนกุศล ขอให้เราทำอะไรไม่ติดขัด ลองถามสมเด็จองค์ปฐมดูสิคะ เห็นครูบอกว่าวิชานี้เป็นของท่าน ท่านเอามาสอนหลวงปู่ฤาษี ค่าจ้างทำต่อหัวประมาณ สามพันบาทค่ะ ครูบอกว่าพอทำพิธีนี้เสร็จเจ้ากรรมนายเวรจะมาจองล้างจองผลาญเราไม่ได้ จะเเกล้งเราสมเด็จองค์ปฐมท่านจะจัดการให้

ฝนเคยทำค่ะกับครูค่ะ ครูสั่งหัวหมู ไข่ต้ม บายศรี เเล้วครูก็จุดธูปเเล้วก็สวด เเต่ไม่รู้ว่าสวดว่าอะไรเหมือนกัน พี่ต้องไปถามสมเด็จท่านดูเอง

ครูบาอาจารย์มี ยิ่งเป็นพระพุทธเจ้า พระอัครสาวกอย่างพระโมคคัลลาโอกาสพลาดหรือบอกผิดเป็น 0% เลยนะคะ

จริงๆนะ ถ้าฝนไม่กลัวผี มองเห็นผีได้นะ ฝนรับทำไปเเล้ว เเต่สมเด็จท่านคงไม่ให้ทำหรอกค่ะ เดี๋ยวฝนไปป่วนเมืองผีอีก ท่านต้องรับคำฟ้องไม่หวาดไม่ไหว

ไอ้เรื่องสอดรู้สอดเห็นเรื่องของเทวดา ฝนก็ใช่ย่อย ได้ยินมาว่าพระอาจารย์มีหลวงปู่ที่สมเด็จองค์ปฐมท่านส่งให้มาดูเเลพระอาจารย์ตั้งเเต่ท่านยังเป็นเณร พระอาจารย์เคยเล่าให้โยมที่วัดฟังว่า หลวงปู่ทั้งสององค์บ่นว่า "ไปทำเวรทำกรรมอะไรมาถึงต้องถูกส่งให้มาดูเณรตัวเล็กนิดเดียว"

ฝนได้ยินเเล้วหูผึ่ง เกิดอาการอยากรู้อยากเห็นมากเลยว่าหลวงปู่ทั้งสององค์เป็นใคร ฝนขึ้นไปนั่งอ้อนวอนเเล้วอ้อนวอนอีกจากสมเด็จองค์ปฐมท่าน

ท่านบอกหลวงปู่ไม่ให้บอก ฝนนั่งอ้อนวอนไปเรื่อยๆจบหลับ ตื่นขึ้นมายังอ้อนให้ท่านบอก บังเอิญเห็นหลวงปู่ท่านมาเฝ้าสมเด็จท่านอยู่พอดี ท่านขอว่า "ท่านอย่าบอกลูกของท่านเลยนะครับว่าพวกผมเป็นใคร ลูกของท่านพูดมาก เดี๋ยวพวกผมจะเดือดร้อน" เป็นอันจบเรื่อง จนป่านนี้ยังไม่รู้เลยว่าหลวงปู่ทั้งสององค์เป็นใคร

เเต่พี่คงไม่ไปป่วนผี ป่วนเทวดาที่ไหน ท่านน่าจะเต็มใจช่วยพี่ ฝนพูดจริงๆนะคะ

เอาน่า อย่างน้อยลองไปปรึกษาสมเด็จองค์ปฐมท่านดู ท่านต้องให้คำเเนะนำพี่เเน่ๆเลยค่ะ

สู้ๆนะคะ ฝนเป็นกำลังใจให้เต็มที่ ลุยเลยค่ะพี่

 

งั้นฝนคงพูดผิดไปอ่ะค่ะ งานที่สามารถบอกตำเเหน่งว่าควรจะตั้งศาลหรือลงเสาเอก ตรงไหน บ้านจะอยู่สบาย เงินจะไหลเข้าบริษัทค่ะๆ คล้ายๆดูฮวงจุ้ยค่ะ ไม่ใช่รับจ้างออกเเรงยกศาลเอง

อย่างเช่น มีคนเค้าสร้างหอพักสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยค่ะ เเล้วเค้าอยากรู้ว่าควรสร้างศาลพระภูมิหรือศาลพระพรหม เจ้าที่จะชอบเเบบไหนมากกว่ากัน เเล้วควรสร้างทิศไหน

ก็ไม่มีอะไรมาก ครูเค้าถามเทวดาเจ้าที่เอาว่าท่านชอบเเบบไหน ชอบทิศไหน ท่านตอบมาครูเค้าบอกตำเเหน่งไป เเค่นี้เองค่ะ

ไม่ใช่ว่าคนทุกคนจะติดต่อภูมิเจ้าที่ได้ทุกคน คนที่ติดต่อได้ไม่น่าจะเลือกเพศนะคะ มัวเเต่เลือกหาคนดูฤกษ์ดูยามไม่ได้เลยสิคะ

เสียดายความรู้ พี่มีความรู้ที่พิเศษกว่าคนอื่น ลองมาประยุกต์เพื่อเป็นรายได้ดูสิคะ รบกวนพระอาจารย์ช่วยสอน เเล้วนำเงินที่ได้ไปทำบุญ อุทิศส่วนกุศลตอบเเทนบุญคุณครูบาอาจารย์ เท่านี้ท่านก็ยิ้มเเก้มปริเเล้วค่ะ

บวงสรวงไม่ได้ก็ลองรับทำพิธี คมากรรมดูสิคะ เรียกเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายมารับส่วนกุศล ขอให้เราทำอะไรไม่ติดขัด ลองถามสมเด็จองค์ปฐมดูสิคะ เห็นครูบอกว่าวิชานี้เป็นของท่าน ท่านเอามาสอนหลวงปู่ฤาษี ค่าจ้างทำต่อหัวประมาณ สามพันบาทค่ะ ครูบอกว่าพอทำพิธีนี้เสร็จเจ้ากรรมนายเวรจะมาจองล้างจองผลาญเราไม่ได้ จะเเกล้งเราสมเด็จองค์ปฐมท่านจะจัดการให้

ฝนเคยทำค่ะกับครูค่ะ ครูสั่งหัวหมู ไข่ต้ม บายศรี เเล้วครูก็จุดธูปเเล้วก็สวด เเต่ไม่รู้ว่าสวดว่าอะไรเหมือนกัน พี่ต้องไปถามสมเด็จท่านดูเอง

ครูบาอาจารย์มี ยิ่งเป็นพระพุทธเจ้า พระอัครสาวกอย่างพระโมคคัลลาโอกาสพลาดหรือบอกผิดเป็น 0% เลยนะคะ

จริงๆนะ ถ้าฝนไม่กลัวผี มองเห็นผีได้นะ ฝนรับทำไปเเล้ว เเต่สมเด็จท่านคงไม่ให้ทำหรอกค่ะ เดี๋ยวฝนไปป่วนเมืองผีอีก ท่านต้องรับคำฟ้องไม่หวาดไม่ไหว

ไอ้เรื่องสอดรู้สอดเห็นเรื่องของเทวดา ฝนก็ใช่ย่อย ได้ยินมาว่าพระอาจารย์มีหลวงปู่ที่สมเด็จองค์ปฐมท่านส่งให้มาดูเเลพระอาจารย์ตั้งเเต่ท่านยังเป็นเณร พระอาจารย์เคยเล่าให้โยมที่วัดฟังว่า หลวงปู่ทั้งสององค์บ่นว่า "ไปทำเวรทำกรรมอะไรมาถึงต้องถูกส่งให้มาดูเณรตัวเล็กนิดเดียว"

ฝนได้ยินเเล้วหูผึ่ง เกิดอาการอยากรู้อยากเห็นมากเลยว่าหลวงปู่ทั้งสององค์เป็นใคร ฝนขึ้นไปนั่งอ้อนวอนเเล้วอ้อนวอนอีกจากสมเด็จองค์ปฐมท่าน

ท่านบอกหลวงปู่ไม่ให้บอก ฝนนั่งอ้อนวอนไปเรื่อยๆจบหลับ ตื่นขึ้นมายังอ้อนให้ท่านบอก บังเอิญเห็นหลวงปู่ท่านมาเฝ้าสมเด็จท่านอยู่พอดี ท่านขอว่า "ท่านอย่าบอกลูกของท่านเลยนะครับว่าพวกผมเป็นใคร ลูกของท่านพูดมาก เดี๋ยวพวกผมจะเดือดร้อน" เป็นอันจบเรื่อง จนป่านนี้ยังไม่รู้เลยว่าหลวงปู่ทั้งสององค์เป็นใคร

เเต่พี่คงไม่ไปป่วนผี ป่วนเทวดาที่ไหน ท่านน่าจะเต็มใจช่วยพี่ ฝนพูดจริงๆนะคะ

เอาน่า อย่างน้อยลองไปปรึกษาสมเด็จองค์ปฐมท่านดู ท่านต้องให้คำเเนะนำพี่เเน่ๆเลยค่ะ

สู้ๆนะคะ ฝนเป็นกำลังใจให้เต็มที่ ลุยเลยค่ะพี่

 

แหม..วีรกรรมน้องฝนนี่ใช่ย่อยเลยนะ มิน่าสมเด็จท่านถึงห่วงนักห่วงหนา เหอ เหอ

พี่เองก็ยังอยากรู้อยากเห็นเหมือนกันแหละ ข้อสงสัยก็เยอะ สมเด็จท่านยังเคยว่าพี่เลยว่า "คิดยิบคิดย่อย" ฮา แต่ถ้าบางเรื่องมันต้องห้ามจริงๆก็ต้องยอมค่ะ ก็ไม่ได้เซ้าซี้ เราต้องยอมรับในกฎแล้วก็เหตุผลของแต่ละท่าน อาจจะเป็นเพราะพี่ต้องช่วยเหลือตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ความรับผิดชอบมันเยอะ เจออะไรแย่ๆมาก็มาก ก็เลยอารมรณ์มันจะนิ่งได้หน่อยมั้ง เพราะถ้าไม่นิ่งก็แก้ปัญหาไม่ได้ ต้องมองปัญหาให้ออกด้วย เดี๋ยวนี้ยิ่งจะปลงหนักกว่าเดิม ฮาฮา

 

งั้นเราจะไปทำอะไรกันดีคุณMe, อย่างเราบางทีก็คิดว่าเป็นเพราะอะไรถึงต้องอยู่กับบ้านปฏิบัติธรรมเป็นส่วนใหญ่และดูแลครอบครัว แต่พระอาจารย์ท่านก็เมตตาท่านแนะนำให้หาที่ดินที่เจ้าของต้องการขายไปส่งแล้วมีคนมารับไปพิจารณาถ้าขายได้ก็ได้ตังค์ มาจับจ่ายใช้สอยส่วนตัว เพราะพระอาจารย์ท่านทราบว่า คนที่บ้านประหยัดเกินเรื่องเงินทอง และเราเป็นคนชอบทำบุญมากบางทีก็คับข้องใจเรื่องเงินทอง อยากทำบุญเงินก็ไม่ได้อยู่ในมือของตัวเอง (55มันลำบากใจไง)
แต่พระอาจารย์ท่านก็กำชับว่า "ให้ปฏิบัติสวดมนต์นั่งสมาธิมากๆผลบุญจะหนุนนำเราเอง "ตอนนี้ก็รอให้ที่ดินที่ส่งๆไปขายได้เสียทีเอาใจช่วยกันหน่อยนะพวกเรา
อ้อ ลืมบอกไปค่ะ แบบว่าเรามีสัมผัสที่พอจะทราบว่าที่ตรงไหนดีและไม่ดีบางครั้งก็สื่อกับเจ้าที่ได้ประมาณนี้ค่ะ เวลาไปดูที่ก็บอกกล่าวท่านนะค่ะ มันมีเรื่องแปลกๆเยอะมากค่ะ นี่ก็รอดูว่าสิ่งที่เจ้าที่สื่อมานั้นเป็นเรื่องที่เราเองเข้าใจถูกต้องหรือเปล่า
กำลังรอดูอ่ะค่ะว่า ตรงไหนจะขายได้ก่อน อย่าลืมเอาใจช่วยกันนะค่ะ จะได้นำเงินส่วนหนึ่งมาทำบุญตามที่ตั้งใจไว้(หลายอย่างเลยล่ะ55) คุณMe น้องcookieberry และท่านอื่นๆมีอะไรแนะนำก็ยินดีนะค่ะ

 

แจ้งข่าวนิดนึง พอดีมีน้องสมาชิกในห้องนี้ ใช้ล๊อคอินว่า "ดับ" เขาจะบวชแล้วนะคะวันที่ 28 เดือนนี้ ที่วัดหลวงพี่เล็ก ตอนนี้ก็ไปพักอยู่ที่วัดได้สักสองอาทิตย์แล้วมั้ง ก็เพิ่งมารู้จักกันในกระทู้นี่แหละ แต่น้องเขาก็โทรมาคุยด้วยเป็นประจำ ปรึกษาหารือเรื่องมโนมยิทธิแล้วก็เรื่องบวชนี่แหละ วันสุดท้ายที่คุยกัน น้องเขามาถามปัญหาคาใจ ก็บอกเขาไป แล้วเขาก็ว่าโล่งอกล่ะ ไปบวชได้แล้ว แล้วเขาก็เก็บเสื้อผ้าออกจากบ้านคืนนั้นเลย เขาโทรมาหาตอนเช้าบอกอยู่หมอชิตแล้ว จะไปวัดหลวงพี่เล็ก (อะไรจะไวปานนั้น)

แต่ก็ยังส่งข่าวอยู่นะคะ ดิฉันก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าวันที่ 28 จะติดธุระอะไรหรือเปล่า ถ้าไม่ก็ว่าจะไปงานบวชเขาเหมือนกัน (บวชหมู่นะคะ แบบว่าประหยัดงบ) นอกจาก "ดับ" แล้วก็มีน้องอีกคนที่คุยด้วยเป็นประจำ ทั้งสองคนนี่มีอะไรเหมือนกันมากเลย มาจากอีสานเหมือนกัน อายุยี่สิบต้นๆเหมือนกัน ความคิดก็เหมือนกัน หน้าตาคล้ายกัน เสียงยังคล้ายกันอีก แล้วก็คุยสนิทกันเร็วดีจัง เขาก็แปลกใจ ไอ้เราก็แปลกใจ ตอนหลังมาหายสงสัยเพราะหลวงพ่อบอกว่า ในอดีตสองคนนี่เป็นแฝดกัน เป็นน้องดิฉัน มิน่าชาตินี้เลยสนิทกันเร็วเหมือนพี่เหมือนน้องคลานตามกันมาเลย นี่ก็อธิฐานจิตอยู่ ขอให้ได้ไปงานบวชน้องเขาค่ะ

 

ขอโมทนาดังๆเลยค่ะ หลวงพี่เล็กท่านเคยบวชอยู่ที่วัดหลวงปู่ฤาษีนี่คะ ท่านเป่ายันต์เกราะเพชรได้ด้วย เเสดงว่าท่านต้องเก่งเเบบไม่ธรรมดาเลยนะคะ ท่านสอนมโนยิทธิหรือเปล่าเอ่ย

ดีใจกับพี่ Me, Myself ด้วยนะคะที่ได้เจอน้องชายฝาเเฝดในอดีตชาติ มาเป็นคู่เลยนะคะ อิอิ อย่างนี้ทำให้นึกถึงเพลง "หากันจนเจอ"
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=WrQx_Rk3rRE]YouTube - หากันจนเจอ[/ame]

สมเด็จองค์ปฐมท่านพูดกับฝนบ่อยมากเลยว่า "จะตัดอะไรก็ตัดได้ เเต่ความผูกพันนั้นตัดไม่ขาด ไม่ว่าจะข้ามภพข้ามชาติมานานเท่าไรก็ตาม เเต่ความผูกพันของพระพุทธเจ้า ความผูกพันของพระอรหันต์ จะไม่ยึดติดเหมือนกับมนุษย์ พวกท่านจะคิดว่า นี้คือ พ่อเเม่ ญาติ พี่น้อง ของเราในอดีตชาติ อย่างน้อยก็เคยร่วมทุกข์ ร่วมสุขกันมา ตอนนี้เราได้หลุดพ้นเเล้ว เราอยากให้ญาติพี่น้องของเรา หลุดพ้นเหมือนกับเรา" สาธุในความบริสุทธิ์ของจิตพวกท่านจริงๆค่ะ

ฝนว่านะคะ ถึงจะเป็นอดีตชาติก็เถอะความผูกพันก็ยังคงตามมา คงเหมือนกับที่ฝนยังคงตามหลอกหลอนพระอาจารย์ค่ะ ตัดไอ้นี่ตัดยังไงก็ไม่พ้น อะไรทำนองนี้ค่ะ

ถ้าความผูกพันตัดกันได้ ฝนว่าพระอาจารย์ต้องเลือกที่จะตัดฝนเป็นคนเเรก อย่างเเน่นอนที่สุดค่ะ เพราะฝนมันเป็นตัวป่วนค่ะ รบกวนจิตของพระอาจารย์ตลอดเวลา

;20;20;20;20

 

อนุโมทนาบุญอย่างยิ่งค่ะ