ผมฝีกสมาธิไม่เคยได้ผลเลยครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย jokeyvoy, 18 มีนาคม 2006.

  1. ศิษย์น้อย

    ศิษย์น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    427
    ค่าพลัง:
    +3,047
    มีซีดี หลวงพ่อฯ สอนกรรมฐานหรือยังครับ .... ถ้าฟังแล้วจะรู้ และเข้าใจทุกอย่างที่นายกำลังสงสัย ในการฝึกอยู่........

    หลวงพ่อสอนได้ ครอบคลุมจริงๆ หมดสิ้นข้อสงสัยเลย.....
     
  2. ศิษย์หลวงพ่อ

    ศิษย์หลวงพ่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +366
    ขอโมทนาด้วยครับ เจริญใน ศีล สมาธิ ปัญญา ยิ่งๆ
     
  3. QigongPOWER

    QigongPOWER เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +287
    ไม่เห็นผล หรอ ฝึกต่อไป............

    คุณค่าของที่มีค่า.... จะขึ้นตาม ความพยายาม ของเรา..

    ถ้าหยุด สิ่งที่ฝึกตลอดมา ก็ สูญเปล่า...

    ตั้งมั่นต่อไปเถอะ

    พระพุทธองค์ ท่านยังต้องใช้เวลามากมาย กว่าจะบรรลุเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เลยครับ...
     
  4. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    อืม....อาจจะมีปัญหาที่กรรมฐานก็ได้ ลองเปลี่ยนกรรมฐานไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเจอกรรมฐานที่ถูกใจที่รู้สึกว่าเราปฏิบัติได้ดีสิครับ อย่างตัวผมเองกรรมฐานที่เกี่ยวกับกสิณผมก็จะไม่ค่อยถนัดเหมือนกัน แต่จะชอบอยู่กับความรู้สึกตัวแล้วก็ลมหายใจครับ
     
  5. ao.angsila

    ao.angsila เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    2,332
    ค่าพลัง:
    +26,683
    ขั้นตอนการทำสมาธิ
    1 ขอขมาพระรัตนตรัย
    2 สมาทานพระกรรมฐาน(ท่านไม่ต้องกลัวตายพระเราได้ถวายตัวแด่พระพุทธเจ้าแล้ว)พระท่านจะคุมอยู่ ถ้าตายเราขอไปนิพพานคิดแค่นี้เท่านั้น เพราะร่างกายที่เป็นรังของโรคเราชอบหรือ ร่างกายที่จะต้องแก่ทุกวันเราชอบหรือ
    3 ตัดนิวรน์ 5 ประการ
    4 แผ่เมตตา เราจะไม่เป็นศัตรูกับใคร
    5 ทำสมาธิได้ (แล้วแต่จะกำหนดเวลากี่นาทีกี่ชั่วโมง)กำลังใจแต่ละคนไม่เท่ากัน
    6 ออกมาอุทิศส่วนกุศล
    7 แผ่เมตตา

    พระพุทธองค์ ทรงตัดแก่พระสารีบุตรว่า
    " สารีปุตตะ ดูก่อนสารีบุตร บุคคลใดมีจิตว่าง จากกิเลสวันหนึ่งชั่วขณะจิตเดียว เรากล่าวว่าบุคคลผู้นั้นเป็นผู้ไม่ว่างจากฌาน "
    " บุคคลใดมีจิตแผ่เมตตาไปในทิศทั้งปวง หมายความว่า อารมณ์จิตของเราไม่คิดจะเป็นศัตรูกับใครวันหนึ่งทำอย่างนี้ได้ชั่วขณะจิตเดียว ท่านกล่าวว่า บุคคลประเภทนี้ไม่ว่าจากฌาน"
    การทำสมาธิค่อยๆทำนะครับ ใจสบายๆไม่ต้องเครียด
    "ฝนตกมาทีละหยาดๆ ตกมาทีละหยดน้อยๆ ยังสามารถทำให้เต็มตุ่มฉันใด ความดีที่บรรดาท่านทั้งหลายทำได้วันละเล็กละน้อย มันจะสะสมตัวเอง ใหเมื่อมันสะสมตัวเอง มันก็เต็มขึ้นมาวันหนึ่ง(นี่เป็นเรื่องการสร้างบารมีนะครับ)
    นิพพานัง ปรมัง สุขขัง
     
  6. tassanai_k

    tassanai_k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,518
    โมทนา สาธุ
     
  7. varanyo

    varanyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    925
    ค่าพลัง:
    +3,373
    ขออนุโมทนาด้วยครับที่ตั้งใจปฏิบัติ...

    ครับผมอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นมันเป็นนิมิตนะ...อย่าไปยึดติดมัน...
    อย่าสงสัยอะไรทั้งนั้น...ถ้าฝึกอานาปานสติอยู่เมื่อเห็นนิมิตก็ให้กลับมาที่ลมหายใจเข้าออก...อยู่กับปัจจุบันมีสติ...รู้ตัวตลอดเวลาว่าเรากำลังทำอะไร...

    จิตมันก็เหมือนกับเด็กนะครับ...มันซนมันไม่อยู่นิ่งๆ ไปโน่น มานี่...เดี๋ยวมันก็กลับมาเอง...ค่อยๆ สอนมันครับ...ใจเย็นๆ อาจารย์ท่านสอนให้จิตสงบนั้นนะดีแล้วครับ...เป็นสมถะภาวนาครับ...

    อย่าอยากรู้อยากเห็น...อย่าเอาตัวของเราไปเปรียบกับคนอื่นๆ...ดูตัวเราเองก็พอครับ...
    ปฏิบัติไปเรื่อยๆ...สม่ำเสมอ...อย่าฝืนทำ...ไม่ไหวก็พอ...ขาเป็นเหน็บก็สามารถขยับเปลี่ยนอิริยาบถได้...ไม่ใช่ต้องทนนั่งท่าเดิม...เพียงแต่บอกจิตว่า...เรากำลังทำอะไรอยู่ขณะนี้...ให้จิตอยู่กับปัจจุบันนะครับ...
     
  8. เติมบุญ

    เติมบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +174
    จริงอย่างที่คุณ VARANYO บอกจงอยู่กับปัจจุบัน....ดิฉันเคยเป็นคล้ายๆคุณเคยฝึกวัปัสนากรรมฐาน 8 วัน 7 คืนที่ยุวธิกสมาคมครั้งนั้นดิฉันพบอารมณ์สุขและสงบมากจนไม่อยากกลับมาบ้านอยากบวชนั้นเพราะศรัทธามากเกินซึ่งไม่ใช่สิ่งที่พระศาสดาสอนไว้.....จนกลับไปอีกครั้งเพราะอยากได้ระดับญาณเพิ่มขึ้นซึ่งตอนนั้นไม่นึกว่านั้นคือกิเลส.....รู้ไหมครั้งนั้นดิฉันไม่มีความก้าวหน้าเลยจนท้อบอกกลับอาจารย์ที่สอนว่าว่าดิฉันไม่ก้าวหน้าเลย.....อจ.ท่านจึงเตือนว่าการอยากได้คือกิเลสเราต้องตัดตัวอยากออกไป...หลังจากได้คำแนะนำดิฉันก็ปฏิบัติใหม่จนวันสุดท้ายได้เห็นเกิดดับด้วยตาตนเองจึงรู้ว่าเราต้องอยู่กับปัจจุบัน....ความอยากแม้เป็นในทางธรรมก็คือกิเลสขัดขวางความก้าวหน้าในการปฏิบัติ....ก็ขอฝากประสบการณ์ตรงนี้ไว้เผื่อจะมีประโยชน์ต่อคุณบ้าง
     
  9. เติมบุญ

    เติมบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +174
    จริงอย่างที่คุณ VARANYO บอกจงอยู่กับปัจจุบัน....ดิฉันเคยเป็นคล้ายๆคุณเคยฝึกวัปัสนากรรมฐาน 8 วัน 7 คืนที่ยุวธิกสมาคมครั้งนั้นดิฉันพบอารมณ์สุขและสงบมากจนไม่อยากกลับมาบ้านอยากบวชนั้นเพราะศรัทธามากเกินซึ่งไม่ใช่สิ่งที่พระศาสดาสอนไว้.....จนกลับไปอีกครั้งเพราะอยากได้ระดับญาณเพิ่มขึ้นซึ่งตอนนั้นไม่นึกว่านั้นคือกิเลส.....รู้ไหมครั้งนั้นดิฉันไม่มีความก้าวหน้าเลยจนท้อบอกกลับอาจารย์ที่สอนว่าว่าดิฉันไม่ก้าวหน้าเลย.....อจ.ท่านจึงเตือนว่าการอยากได้คือกิเลสเราต้องตัดตัวอยากออกไป...หลังจากได้คำแนะนำดิฉันก็ปฏิบัติใหม่จนวันสุดท้ายได้เห็นเกิดดับด้วยตาตนเองจึงรู้ว่าเราต้องอยู่กับปัจจุบัน....ความอยากแม้เป็นในทางธรรมก็คือกิเลสขัดขวางความก้าวหน้าในการปฏิบัติ....ก็ขอฝากประสบการณ์ตรงนี้ไว้เผื่อจะมีประโยชน์ต่อคุณบ้าง
     
  10. varanyo

    varanyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    925
    ค่าพลัง:
    +3,373
    ขออนุโมทนาด้วยครับที่ตั้งใจปฏิบัติ...

    โมทนาด้วยครับ...ยินดีด้วยที่มีครูบาอาจารย์คอยสั่งสอนแนะนำในข้องสงสัยครับ...ได้ครูดี...มั่นปฏิบัติสม่ำเสมอ...ก็จะรู้ด้วยตัวเองครับ...
     
  11. lboonl

    lboonl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +488
    ถ้าจิตมันจะไม่สงบ ฟุ้งซ่าน ก็ปล่อยให้มันวิ่งไปเลยครับ ตามดูมันไปว่า มันจะฟุ้งไปถึงเมื่อไหร่ เดี๋ยวสักพักมันก็เหนื่อยเองอ่ะคับ แล้วมันก็จะนั่งพัก.. ทีนี้หละนั่งยาวเลย หุหุ
     
  12. L-Knight

    L-Knight Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +88
    คนที่ตอบกระทู้มา ขออนุโมทนาด้วย ทุกคนก็มีพื้นฐานที่ไม่เท่ากัน ขอเป็นกำลังใจให้ คุณ jokeyvoy ด้วยครับ
    ผมก็เป็นคนหนึ่งเที่เป็นแบบนี้จะเล่าประสบการณ์ให้ฟังเผื่อคุณนั่งสมาธิได้บ้าง
    ครั้งแรกๆที่เริ่มนั่งผมก็มักจะคิดโน่นคิดนี่ สิ่งต่างๆมันเข้ามาให้เห็นหลายอย่างมากมายเต็มไปหมดจนผมปวดหัวนั่งไม่ได้เลยแหละครับ ตอนนั้นยังทำใจให้ว่างไม่เป็น พอลืมตามาดูนาฬิกา ยังได้ไม่ถึง 5 นาทีเอง จน พอนั่งสมาธิครั้งหลังๆต่อมาก็ลองทำตามแบบง่ายๆ คือ เพ่งที่ลมหายใจอย่างเดียวก่อน หายใจเข้า พุธ ให้รู้สึกและนึกเพืยงมีอากาศผ่านเข้าจมูก หายใจออก โท ให้รู้สึกและนึกเพืยงมีอากาศผ่านออกจมูก โดยไม่ต้องคิดถึงสิ่งอื่น ทำแบบนี้อยู่หลายครั้งจึงมีเพียงความรู้สึกจดจ่อที่อากาศเข้าออกอย่างเดียว นี่แหละจุดเริ่มต้นการมีสมาธิ คราวนี้ส่วนอื่น ที่เป็น เพ่งกสิน ดูร่างกาย ดับนิวรณ์ หรืออื่นๆ ก็จะฝึกต่อได้แล้วครับ
     
  13. Sunthron Ui

    Sunthron Ui Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2005
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +79
    การฝึกสมาธิแล้วบอกว่าไม่ได้อะไร อาจไม่ใช่ มันอยู่ที่ว่าเราใช้อะไรวัด

    มาตราวัดผลการฝึกสมาธิที่เป็นสากล จริง ๆ คิดว่าไม่มี ท่านผู้รู้ทั้งหลาย
    ก็พยายามตั้งกฎกติกาขึ้นมาก็น่าจะใช้ได้ดี แต่คงไม่ครอบคลุมทั้งหมด

    สรุป ฝึกสมาธิ เป็นเหตุ ย่อมมีผล ไม่น่าต้องสงสัย

    ผมกลับคิดว่าฝึกแล้วไม่รู้สึกอะไร กลับฝึกได้ไกลกว่า

    ฝึกแล้วมีปัญหาก็ดี เพราะศัตรูคือ ยากำลัง ให้เราฟันฝ่าและเจริญก้าวหน้า

    นั่งฝึกแล้วมีปัญหา นอนฝึกก็ดี

    ฝึกเสร็จแล้วอย่าลืมแผ่เมตตา ไม่ต้องหวง ยิ่งให้ ยิ่งได้

    ฝึกแล้วพบปัญหา ออกสู่มิติอื่นแล้วกลัว เรียกหาอาจารย์ให้ช่วยเหลือ
    หากเรียกหาแล้ว ยังไม่มีผล เรียกหาผมก็ได้(อธิษฐานจิตเรียกหา
    "จิตปฏิบัติ" ขณะที่จิตอยู่มิติอื่น) จะให้ดีให้วางโทรศัพท์มือถือ ไว้ใกล้ ๆ ตัว
    ก่อนฝึกสมาธิ ไม่ต้องเปิดก็ได้ แต่เวลาอธิษฐานจิตเรียกหา ช่วยบอกเบอร์โทรศัพท์ด้วย
    จะได้รู้ตำแหน่งร่างกายในโลกมนุษย์

    ขออนุโมทนาต่อการปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ และยินดีรับใช้ครับ
     
  14. varanyo

    varanyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    925
    ค่าพลัง:
    +3,373
    ขออนุโมทนาครับ...

    ขออนุโมทนาด้วยครับ...ทุกอย่างอยู่ที่การปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องครับ
     
  15. varanyo

    varanyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    925
    ค่าพลัง:
    +3,373
    ยินดีครับกับผู้ปฏิบัติทั้งหลายทุกๆ ท่าน...อย่างแนวคิดของ คุณจิตปฏิบัติ ก็ดี...
    ลองเอาไปเป็นตัวอย่างได้ครับ...ขอโมทนาในบุญบารมีกับทุกท่านครับ...
     
  16. vivo

    vivo สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +4
    วิเคราะห์ครับ

    คุณเป็นคนเพ้อฝันสูงครับ จัดว่ามีกรรมอย่างหนึ่ง อารมภ์โรแมนติก การนั่งสมาธิของคุณ
    น่าจะเป็นหลับตาแล้วพยายาม ไม่คิดอะไรเท่านั้น แต่คุณก็เผลอไปคิดมัน แล้วก็หมกมุ่น
    ไม่คิดจะถอยกลับ มันก็เลยไม่ได้ผล ถ้าตั้งใจจริงๆ คุณต้องสลัดอารมภ์ รัก เพ้อฝันของคุณ
    ก่อน ลองหาวัดเก่งๆสักที่ครับน่าจะช่วยคุณได้(ping-love (ping-love (b-green) (b-green)
     
  17. พระป่าสุพรรณ

    พระป่าสุพรรณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +13,135
    อะโห....กระทู้นี้มีคนมาตอบเพียบเลย เพื่อนๆพี่ๆชาวเวบพลังจิตนี่ใจดีทุกท่านเลยนะครับ โมทนากับทุกท่านด้วยครับ
     
  18. jokeyvoy

    jokeyvoy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +30
    คุณ vivo นี่อันนี้ถูกใจผมมากครับ เพราะผมรู้ตัวเองว่าผมติดตรงนั้นจริงๆและวันนี้ก็นั่งสมาธิแล้วจิตใจมันแล่นไปหาแต่เรื่องนั้นจริงๆ มันเลยไม่ได้สมาธิเลย และมันก็หมกหมุ่นแต่สิ่งเหล่านั้น เพราะวันนี้มีอะไรดีๆเกิดขึ้นจริงๆครับ เหมือนตาเห็นเลยว่าผมเป็นคนอย่างนั้น แล้วอีกอย่างเรื่องเกี่ยวกับเว็บของคุณนะครับ ช่วยลงให้ได้มั๊ยครับ เรื่องชนะกรรม น่ะครับ ผมสนใจนะครับ ของคุณดังตฤนที่คุณ aya_ke กล่าวไว้นะครับ ถ้าใครมีช่วยลงด้วยนะครับ ขอบคุณมากๆครับ แต่คุณวีโว่ ไม่รู้สะกดถูกหรือเปล่านะครับ ก็ขอโทษทีครับ เรื่องนี้ผมกลุ้มใจมาตลอดระยะเวลานานมากๆไม่รู้เริ่มตั้งแต่ตอนไหน และเมื่อไหร่จะจบก็ไม่รู้ เซ็งเหมื่อนกันนะครับ
     
  19. chainarong14

    chainarong14 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +64
    เรียนเจ้าของกระทู้
    (ผมมีเวลาไม่มากนัก)
    ขอแนะนำดังนี้
    1.ให้ไหว้พระขอขมาพระรัตนตรัยโดยเปล่งวาจาทุกวันและก่อนทำกรรมฐาน
    2.เปล่งวาจาขอลาความปรารถนาใดๆในอดีต ขอถึงนิพพานในชาตินี้ขอบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ อาราธนาบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขอโปรดประทานปัญญา บารมีแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้องแก่ตน
    3.ก่อนเจริญกรรมฐาน ให้เธอทำทาน แล้วกรวดนำเปล่งวาจาอุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวร ผู้ที่มาขวางการปฏิบัติของเธอ และเทวดาทั้งหลาย ขอความเมตตาเห็นใจ และเปิดโอกาศให้เธอทำความดีชดใช้แก่เธอ
    4.หลัง ไหว้พระให้แผ่เมตตา และอย่าลืม กรวดนำฝากแม่ธรณีและเปล่งวาจาอีกครั้ง
    5.หาพระที่ทรงอภิญญา แล้วทำบุญอุทิสเจ้ากรรมนายเวรที่มาทวงและขวางการปิบัติหรือขออย่าให้การปกิบัติมีอุปสรรค ให้ท่าน ใช้พลังช่วยส่งกุศลให้คุณ
    6.ภาวนา ใช้ ดูลม และการนับ 1-10 แบบหลวงพ่อฤาษี จงอย่าสนใจอิริยาบท เอาน้อยๆก่อน 5 -10 นาที เช้า เที่ยง เย็น
    7.รักษาศีล 5 กรรมบท 10ให้บริสุทธ์ เจริญเมตตา บ่อยๆที่เธอระลึกได้ ร่วมพิจารณาความไม่เท่ยง ความตายบ่อยๆ
    8. ให้เธอตั้งปณิธานว่า ไม่ว่าผลจะได้อย่างไรก้ไม่สนใจ แจะทำกรรมฐาน ความดีนี้ ทาน ศีล ภาวนา จนกวาชีวิตจะหาไม่ ทุกชาติตราบนิพพาน ไม่ท้อถอย

    ขอให้เธอโชคดีและสมปรารถนา
     
  20. พุทธโลกา

    พุทธโลกา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +2
    เรื่องของการทำสมาธิสามารถปฏิบัติได้ทุกที่ ทุกเวลา อย่าพึงปล่อยอารมณ์ให้ฟุ้งซ่าน อย่างน้อยก็ควรมีสติ เมื่อยามที่ฟุ้งซ่าน เมื่อไม่ฟุ้ง ก็จะสงบได้ เมื่อสงบได้ ก็สามารถเข้าถึงสมาธิได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...