กรรมปรามาสพระรัตนตรัย

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Lukhgai, 13 พฤษภาคม 2009.

  1. Lukhgai

    Lukhgai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    3,000
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +8,239
    <TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width=659 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=655>
    <TABLE class=alt1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>



    <TABLE borderColor=#d1c495 height=300 cellSpacing=1 cellPadding=2 width=480 align=center border=1><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff>คำขอขมาพระรัตนตรัย


    นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะฯ (ว่า 3 จบ)
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง

    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต ฯ ​
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=440 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=515>หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย
    อันมีพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม

    และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยทางกายหรือวาจาก็ดี

    และด้วยเจตนาหรือไม่มีเจตนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอองค์สมเด็จ
    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์

    พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดอดโทษให้แก่

    ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    </TD></TR><TR><TD>ในหมวดหัวข้อ เรื่องกรณีศึกษาเรื่องของกรรมนี้ อาจารย์จะทยอยรวบรวมเรื่องจากประสบการณ์ที่ได้ ตรวจชะตาและ


    พบเจอเหตุของวิบากกรรมในแต่ละเรื่องมาให้ทุกคนได้อ่านนะครับ เพื่อย้ำเตือนสติว่า กรรมไม่ดีย่อมส่งผลต่อเรา

    ดังนั้น เวลาเราจะทำอะไรต่อไปในอนาคต จะได้ระมัดระวังกาย วาจาและใจของเราก่อนจะพูด จะคิด จะทำอะไรไม่ให้

    เกิดโทษหรือความเดือดร้อนแก่ตนและบุคคลอื่นครับ
    กรรมใหญ่ๆ ที่มีผลต่อจิตใจและส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของลูกศิษย์และท่านที่มาตรวจดวงชะตาจำนวนมาก

    ทำให้ประสบปัญหาในชีวิต ที่มีอุปสรรคและอาการต่างๆ ดังต่อไปนี้

    ๑. จิตมีเรื่องคาใจ และหาความสุขในใจไม่ค่อยได้ จิตจะแสวงหาคำตอบอยู่เสมอ วิ่งวุ่นไปทั่วทุกกลุ่ม
    ทุกสายหาทางแก้ ก็ไม่ได้คำตอบ

    ๒. จิตมีความรู้สึกด้านชา เฉย เหมือนคนไม่เอาอะไร ขาดแรงจูงใจ ขาดไฟและเป้าหมายในชีวิต

    ๓. ทำสิ่งใดมันจะเสียเวลา เจอของปลอมหรือของไม่ดีผิดพลาดก่อน ทั้งที่หนทางดีๆ อยู่ใกล้ตัว

    ๔. มีอุปสรรคขัดขวางเวลาจะทำอะไรให้เป็นความทุกข์ร้อนใจเสมอ โดยเฉพาะการปฏิบัติธรรมจิตจะตัน
    ไม่มีความสุขมีกิเลสมารและขันธมารรบกวนอย่างมาก

    ๕. ได้ของมีตำหนิ ไม่สมบูรณ์ เป็นทุกขลาภ ได้อะไรมาจะมีความทุกข์ใจร่วมด้วยเสมอ

    ๖. มักคิดตัดรอนจิตใจตนเอง ให้ท้อแท้สิ้นหวังเกินกว่าเหตุ

    อาการเหล่านี้ หลังจากที่อาจารย์ตรวจสอบดูเหตุปัจจัยในอดีต เท่าที่พบสาเหตุหลักๆ ใหญ่ๆ นั้น
    ส่วนมากเป็นเพราะเศษของกรรมที่เคยปรามาสพระรัตนตรัยครับ

    คำว่าปรามาส ก็หมายถึง การลบหลู่ ดูหมิ่น ในทางลบและเสื่อมเสีย อาจเป็นทางการแสดงออกทางกิริยา วาจา

    และมีใจร่วมด้วย ตรงนี้ หลักๆ เป็นการกระทำปรามาสต่อพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ และรวมไปถึงต่อผู้ที่

    ตั้งใจกระทำ ความดี เรียกว่า ขวางความดีคนอื่นนั่นเองครับ

    เมื่อเป็นเช่นนี้เราควรทำความเข้าใจต่อตนเองใหม่ว่า ทุกคนมีกรรมเป็นของตน ทำดีจักได้ดี ทำชั่วจักได้ชั่ว

    หากเราไม่ศรัทธา ไม่เชื่อถือ รวมทั้งไม่เห็นชอบต่อคนที่กระทำความดีที่ตรงกันข้ามกับเรา เราก็ควรระมัดระวังคำพูด

    และความคิดให้ดีครับ ทางที่ดีที่สุด เราควรพยายามวางใจเป็นกลาง และกล่าวเสนอความเห็น โดยไม่ให้มีการล่วงเกิน

    และขัดขวางกำลังใจความดีของคนอื่นครับ

    ทางแก้ไข ก็ควรหมั่นกล่าวขอขมาพระรัตนตรัยบ่อยๆ หรือก่อนบูชาพระจะยิ่งดี และหมั่นดำรงตนด้วยจิตใจที่สำนึก

    และจะสำรวมระวังในกาย วาจา และใจในกาลต่อไป ก็จะช่วยบรรเทาได้อาการต่างๆ ให้ลดลงได้ครับ


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เกมส์ คลิป ดูดวง เกม ผลบอล ทำนายฝัน รถมือสอง ทำนายฝัน เกมส์แต่งตัว กลอน :เอ็มไทยดอทคอม
     
  2. realsiam

    realsiam สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +4
    ขออนุโทนาบุญ ครับ =^_^=
     
  3. Francis_NY

    Francis_NY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +585
    ขอบคุณครับ
     
  4. Nukool

    Nukool เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2005
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +1,073
    ขออนุโทนาบุญ ครับ
     
  5. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    โมทนาท่าน จขกท. ในธรรมทานที่ได้นำมาเผยแพร่ค่ะ
     
  6. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    กรรมปรามาสพระรัตนตรัย

    ก็ยังเป็นเรื่องที่ตกหนักกับมนุษย์ผู้ยังมีอาสวะที่มักดองอยู่ในสันดาน

    เว้นเสียแต่ผู้เข้าถึงบุคคลเหล่านี้คือ คู่แห่งบุรุษสี่คู่ นับเรียงตัวได้แปดบุรุษ. นั่นแหละคือสงฆ์สาวก<WBR>ของพระผู้มีพระภาค เจ้า เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่เขานำมาบูชา กรรมปรามาสพระรัตนตรัยจึงไม่มีอยู่ในสันดานของพระอริยสงฆ์เจ้า กับ พระอริยะบุคคล ขอให้พากันเข้าใจ

    เพราะท่านเหล่านี้พ้นจากเขตของปุถุชน สัตว์เดรฉาน แล้ว ไม่เบียดเบียนตนและคนอื่น
     
  7. Guide_Raito

    Guide_Raito เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    892
    ค่าพลัง:
    +2,990
    โมทนนาบุญคร้าบบบบบบบบ
     
  8. TUK2800

    TUK2800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,766
    ค่าพลัง:
    +1,161
    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ

    [FONT=Lucida Handwriting, Cursive][FONT=Lucida Handwriting, Cursive](smile)(smile);36(smile)(smile) [/FONT]
    [/FONT]<!-- google_ad_section_end -->
     
  9. amaoooooooooom

    amaoooooooooom Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2008
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +29
    อนุโมทนาค่ะ


    ที่อ่านๆมา ผลกรรมตรงกับเราหลายข้อมากเลย แล้วอยากจะถามว่า

    ....ถ้าจิตมันปรามาสไปเองล่ะค่ะ เราไม่ได้ตั้งใจจะเจตนา คือเราพยายามห้ามแล้วแต่มันก็ไม่ฟัง เหมือนกับยิ่งห้ามยิ่งยุอ่ะค่ะ ประมาณว่า ห้ามแล้วมันยิ่งคิดแทบทุกลมหายใจเลยอ่ะค่ะ ก็เลยเกิดอาการเครียด และ กลัวมาก กลัวว่าซักวันจะกลายเป็น......

    คือ ...เราทำทุกวิถีทางแล้ว ทั้งขอขมาท่าน ทั้งทำตามคำแนะนำจากกระทู้ต่างๆ แต่ก็.......

    ไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริงๆ :(
     
  10. od2499

    od2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    298
    ค่าพลัง:
    +532

    ขอให้สบายใจอย่างหนึ่งว่าคุณไม่ได้เป็นคนเดียว ผมก็เป็น เมื่อก่อนนี่เป็นมาก เมื่อมีโอกาศจีงได้ไปกราบเรียนถามหลวงปู่้คำตัน ที่หนองคาย ว่ากระผมไม่ได้มีเจตนาจะปรามาส แต่บางครั้งใจมันแวปไปเอง กระผมควรทำยังไง ท่านก็ตอบว่า ก็อดเอา ใจมันยังพยศ เมื่อมันเป็นก็ดุมันว่ามัน ทำมันบ่อยๆมันก็จะซาไปเอง เมื่อใจมันแวปคิด ผมจะใช้วิธีท่องพุทโธต่อเนื่องเร็วๆ ส่วนใจนั้นก็พยายามนึกภาพพระ นึกว่าเรากำลังก้มกราบท่านอยู่

    ถ้าไม่เห็นคำถามคุณนี่ ผมก็ลืมๆไปแล้วว่าเคยเป็น ขอให้ลองทำอย่างที่ผมแนะนำครับ
     
  11. amaoooooooooom

    amaoooooooooom Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2008
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +29
    ขอบคุณค่ะ
     
  12. กรรมเหนือกรรม

    กรรมเหนือกรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2009
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +60
    สาธุ สาธุค่ะ

    มีข้อสงสัย รบกวนขอคำแนะนำ้ด้วย

    หากใจเราได้ปรามาสท่าน นั่นอาจเป็นเพราะเราและท่านผู้นั้นเคยมีกรรมกันมาก่อนหรือเปล่า พอมาถึงภพนี้ จิตที่เคยมีกรรมผูกพันธ์กันมา ก็เลยผุดขึ้น
    หากจะเปรียบเทียบก็เป็นเช่นว่า เจอหน้าแล้วไม่ถูกชะตาอะไรประมาณนั้นน่ะค่ะ

    และเราจะใช้วิธีขอขมากรรมกันในขณะนั้นเลยจะได้หรือเปล่าคะ
    แบบว่า ตั้งจิตขอขมาในสิ่งที่เคยล่วงล้ำก้ำเิกินกันมา ไม่ว่าภพก่อนจะผูกกรรมกันมาอย่างไรก็ตาม แต่ภพนี้ขออโหสิกรรมกับท่าน ฯลฯ ประมาณนี้น่ะค่ะ
     
  13. เหลียง

    เหลียง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +26
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านและธรรมทานนี้ครับ

    ตามปกติแล้ว ธรรมชาติของจิต จะมีอาการปรุงแต่งของใจไปทางกุศลและอกุศล คือ นึกคิดปรุงแต่งไปในทางดีชั่วสลับไปมา ไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งเรียกว่าจิตตสังขาร เพราะการเกิดของเรานั้น เราได้เกิดคบกับความไม่รู้ จนเคยชินกับความไม่ดีมามาก อุปนิสัยเดิมของจิต ก็จะปรุงแต่งไปเองโดยอัตโนมัติครับ ถ้าจะกล่าวโดยสั้นๆ ก็อาจกล่าวได้ว่า ตัวเรามีกรรมปรามาสเป็นทุนเดิมประกอบ และบุคคลที่เราเจอก็เป็นบุคคลที่เคยมีกรรมปรามาสเช่นกัน จึงทำให้มีเหตุแห่งการคิดต่อบุคคลนั้นและตัวเราก็มีอุปนิสัยเดิมกับความไม่ดีในข้อนี้มา จึงส่งผลให้เกิดง่ายครับ

    วิธีนอกเหนือจากคำแนะนำในกระทู้นี้ ทางการปฏิบัติแก่จิต อาจจำแนกกุศโลบายได้ดังนี้

    1. ต้องกำกับรู้ด้วยสติ เป็นตัวระลึกรู้ ถึงอารมณ์ ความคิดที่ผุดขึ้นมา ให้เราดำรงสติ เป็นเพียงผู้มอง รู้ลงไปที่อาการของใจที่ปรุงแต่ง โดยไม่คิดต่อ เพราะมันจะเกิดขึ้นและก็ดับไปเองครับ
    2. อีกวิธีหนึ่ง สำหรับท่านที่ได้มโนยิทธิ เมื่อจิตอกุศลเกิด ก็ให้นอบน้อมจับภาพพระ กราบขอขมา เพื่อให้ใจเกาะกุศลและสร้างอุปนิสัย อบรมสั่งสอนจิตใจฝ่ายดีเข้าไปครับ
    3. วิธีจับอารมณ์พระนิพพาน ประกอบการพิจารณาร่างกาย มรณานุสติกรรมฐานและกายคตานุสติกรรมฐาน คิดตัดถึงความตายเป็นตัวอารมณ์ปลายสุึดไปเลยครับ คิดว่า เพราะมีร่างกาย ถึงถูกบีบคั้น ให้กายใจของเราต้องทนทุกข์บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่สนใจมัน เราไม่เอาตัวตนเราไปร่วมด้วย ขออยู่ด้วยศีล และเอาใจเกาะพระนิพพานไว้ คิดเสมอว่า ทุกข์และรับผลเพราะร่างกาย และจะไม่ทำบาปใดๆ เพื่อกายนี้อีกต่อไปครับ

    ขอเพียงอย่าท้อ หากสิ่งที่เกิดไม่ได้ประกอบด้วยเจตนา ยังอยู่ในกรอบของศีลและกุศลกรรมบท 10 ประการ จิตย่อมเรียนรู้ จดจำ และพัฒนาจนเกิดปัญญาตามลำดับครับ

    ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...