รับตอบข้อสงสัยในการเจริญพระกรรมฐาน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Xorce, 26 พฤศจิกายน 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    อยากจะบอกว่า ผมนึกภาพพระ ในจิตได้แล้ว บุญมีแต่กรรมยังบังอยู่ กว่าจะทำได้ ก็ผ่านมาสักพัก ตอนนี้ผมทำได้แล้วแต่ยังเป็น เงาสีดำ ครับ ทั้งหลับตาทั้ง ตื่น ความรู้สึกมัน เหมือนกับ เรานึกแต่ มันก็จะใสๆ รู้สึกดีมากๆเลยครับ ถึงจะนึกได้จิตนาการออก แต่ก็ยัง มีกิเลสอยู่ช่วงนี้ผมทำได้แต่กิเลสมันก็เพิ่มมากขึ้นด้วยไม่รู้เป็นเพราะอะไร ^^; แต่ก็จะพยายามฝึกไม่ละโดยเด็ดขาดครับ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ ที่ กว่าผมจะเข้าใจก็กินเวลาไปเกือบเดือน
    ขออนุโมทนา กับคุณชัดนะครับ เด่ว ถ้าหากทำได้แล้ว จะ แอบไปหา อิอิ
    อนุโมทนาสาธุ สาธุ

    กิเลสบางข้อ เรายังไม่สามารถจะละได้ขาดในทันที
    เพราะแม้แต่การบรรลุธรรมชั้นต้น คือพระโสดาบัน ก็ยังไม่สามารถจะละกิเลสในข้อกามราคะ และปฏิฆะได้อย่างถาวร
    ยังคงสามารถ ครองเรือนได้อย่างสามัญชนทั่วไป

    ถ้าใครปรารถนาที่จะสามารถ นึกภาพพระได้อย่างชัดเจนแล้ว
    ขอแนะนำให้ นำหลอดไฟ หรือว่าพระพุทธรูปไปถวาย เป็นสังฆทาน ให้กับวัดที่เราเลื่อมใสศรัทธาครับ
    แล้วอธิษฐานด้วยอานิสงค์ของทานนี้
    ขอให้จิตของข้าพเจ้ามีความสว่าง สามารถเห็นภาพพระได้ชัดเจนแจ่มใสด้วยเทอญ

    หลังจากถวายหลอดไฟ และพระพุทธรูปไปแล้ว ภาพพระจะชัดเจนขึ้นแน่นอนครับ

    ค่อยๆปฏิบัติไป รักษาจิตใจให้มีความสบายเอาไว้นะครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2009
  2. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ thippayawan ครับ

    ดิฉันมีข้อสงสัยว่าในบ่อยครั้งขณะที่ทำสมาธิอยู่ มันจะมีมโนภาพในอดีตของตนเองแว่บเข้ามา ซึ่งแต่ละครั้งจะไม่เหมือนกัน และในบางครั้งเมื่อสวดมนต์น้ำตาจะไหลออกมาเอง สิ่งเหล่านี้เกิดจากอะไรหรือคะ

    ขอบคุณค่ะ

    การที่สวดมนต์แล้วน้ำตาไหล เป็นอาการของปีติครับ เป็นปีติประเภท1ในปีติทั้ง5
    ปีตินี้ จะมีลักษณะต่างกัน บางครั้งรู้สึกว่าตัวโยกบ้าง รู้สึกว่ามีมดไต่บนร่างกายหรือใบหน้าของเราบ้าง
    น้ำตาไหลบ้าง รู้สึกเย็นๆบนร่างกายบ้าง หรือรู้สึกตัวขยายใหญ่ หรือหดเล็กลงบ้าง
    อาการปีติทั้งหมดให้เราดู รู้ไว้เฉยๆครับ

    ส่วนมโนภาพนั้น อันนี้เป็นอาการของญาณรู้เห็นครับ
    ในกรณีนี้นั้นญาณจะไปดูเหตุการณ์ต่างๆที่เราได้เคยผ่านมาครับ
    ให้เราพิจารณาในสิ่งที่เราเห็น ว่าเหตุการณ์ต่างๆที่ได้เคยเกิดขึ้นในอดีต
    บัดนี้ก็ได้อันตรธาน หายไปหมดแล้ว ไม่ว่าเราจะได้เคยทำอะไร อย่างไรมากาลก่อน
    บัดนี้สิ่งต่างๆก็ได้ผ่านพ้นไปแล้ว เป็นเหมือนกับเพียงพยับหมอกซึ่งไม่ได้มีตัวตนอยู่จริงๆ
    และสักวันหนึ่ง ชีวิตของเรา ร่างกายของเรานี ก็จะต้องอันตรธานหายไป เหมือนกับอดีตของเราฉันนั้น
    แล้วเราจะมัวพอใจอะไรอยู่ กับสภาวะของการเวียนว่ายตายเกิดที่ไม่เที่ยงแบบนี้
    เราจะกำหนดจิตของเราไปสู่ยังสภาวะ ที่พ้นจากความไม่เที่ยง ที่พ้นจากพยับหมอกเช่นนี้จึงจะดีกว่า

    จิตของเราก็จะค่อยๆคลายจากความยึดมั่นหลงผิดว่าการเกิดนี้เป็นความสุข ทีละน้อยๆ
    ความทุกข์ก็จะลดน้อยลง เราก็จะมีความสุขมากขึ้น

    ขอให้ลองนำไปพิจารณาตามความเหมาะสมนะครับ
    <!-- / message --><!-- edit note -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2009
  3. thipphayawan

    thipphayawan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +31
    ขอบคุณค่ะ
     
  4. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    สวัสดีวันปีใหม่ไทย และสุขสันต์วันสงกรานต์ครับ

    ในปีใหม่ของไทยนี้ ขอให้ทุกๆท่าน สามารถเข้าถึงซึ่งผลจากการปฏิบัติธรรม ได้ทั้งฌาณ ญาณ อภิญญา ตลอดจนถึงมรรคผลนิพพาน ได้โดยฉับพลันทันใดด้วยเทอญ

    ธรรมใดที่ พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอริยสงฆเจ้าได้เข้าถึงแล้ว
    ขอให้ทุกๆดวงจิตได้เข้าถึงซึ่งธรรมนั้นได้โดยฉับพลันทันใดด้วยเทอญ
     
  5. แฝดแก้มก้อย

    แฝดแก้มก้อย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +28
    พยายามทำจิตยิ้มๆ สบายๆอยู่คะ
     
  6. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    พี่ชัด มีมาอีกแล้ว ไอเจ้าอาการนี้มันคืออะไรไขข้อข้องใจให้กระจ่างหน่อยครับ
    อันดับแรกขอเล่าเรื่องราวว่ามันเป็นอะไรก่อนนะครับ
    วันที่11ได้เดินทางกลับต่างจังหวัด อยู่บนรถทัว กรุงเทพ-เชียงราย คือ ตอนแรกๆก็ไม่ได้คิดอะไรก็นั่งหลับๆ ตื่นๆ หลับตาไป ก็เริ่มรู้สึก มีแสง แต่ไม่สว่างมาก รู้สึกตอนแรกๆมันจะเป็นก้อนกลมๆไม่กลมมากเป็นรีๆ เป็นจุดที่สว่างขาวใส ดังเพรชก็ไม่ใช่สว่างดั่งพระอา ขนาดประมาณเท่าเม็ดถั่ว และ มีประกายระยิบระยับ เป็นรัศมีโดยรอบประมาณหัวแม่มือ แต่ โดยรอบจะระยิบเหมือนกันแต่น้อย กระจัดกระจายเป็นวงกว้าง
    ที่สำคัญ แสงที่ว่าอยู่ตรงกลางนั้น เปลี่ยนรูป สะถานะ ไปเรื่อยๆ ไม่มีรูปแบบที่ตายตัว บางทีผมเห็นหน้าคนชัดเจน ผมพยายามบังคับให้แสงนั้นเป็นรูปร่าง มันก็เป็นได้ครับแต่ ประมาณแค่7-8% คือ ลองกำหนด 100ครั้งก็เป็นแค่7-8ครั้งที่เป็นไปตามที่เรากำหนด สักประมาณเปรียบเทียบช่วงเวลา ก็1กลั้นลมหายใจ มันก็หายไปกลายเป็นรูปอื่น
    แล้วผมก็ลองอีกว่า การกำหนดจิตที่ว่างเปล่าหรือแผ่เมตตาแบบก่อนๆ หน้านั้นที่ว่าผมก็ยัง มีอาการเกร็งที่ลำคอ ผมก็ทำทุกวิธีแล้ว มันก็ยังรู้สึกปวดๆเกร็งๆถึงจะน้อยลงมากแต่ก็ยังรูสึกว่าเกร็ง จน ผมมาลองทำดูคือ
    1.ลองกำหนดรูปพระในใจ มันจะมีลักษณะใส่ๆ ตามความรู้สึกถึงจะจิตนาการให้เป็นเพรช ในขณะเดียวกัน ลำคอก็ยังมีอาการเกร็งน้อยมากๆแต่ก็เกร็ง
    2.ลองกำหนดลมหายใจดูบ้าง เหมือนขั้นตอนต้นๆที่เคยทำผ่านๆมาที่ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง กลับรู้สึกว่าเกร็งชัดเจน รู้สึกถึงลมหายใจได้ชัดขึ้น
    3.ผมลองกลับมามองดูที่ แสงสีขาวๆที่มีประกายระยิบระยับ ในสมาธิ ดู มันกลับกลายเป็นเหมือน ไม่มีอะไรเลย ลมหายใจก็ไม่มี อาการเกร็งก็ไม่มีไม่รุ้สึก ไม่รับรู้เหมือนกับ ผมลอยอยู่ในอวกาศ หน่ะคับ แล้วก็มองแสงนั้นที่มันเปลียนไปเรื่อยๆตามรูปร่างของมันหลังจากนั้น เสียงก็เริ่มดังวิ๊งๆในหู เสียงต่างๆรอบๆเริ่มจะไม่ค่อยได้ยิน ได้ยินเบาลงมากๆ ลมหายใจหายไปเลย เพราะ ไม่ได้สนใจ สนใจแต่ แสงเพรช ประกายเพรช ที่อยู่ข้างหน้าในสมาธิ
    (บางทีสิ่งที่ผมอยากรู้มันก็จะทำเป็นรูปร่างให้ดู แบบว่าเห็นชัดๆ ชัดมากๆ แต่จะค่อนข้างเล็กขนาดประมาณเท่า หัวแม่มือ)

    คำถาม ผม ควรจะปฏิบัติ อย่างไรดี เพราะ ที่เคยผ่านๆมา ครั้งนี้แปลกมากๆ
    ทำทั้ง กำหนดคำภาวนา กำหนดจิต จินตนาการ กำหนด หยุบหนอผองหนอ กำหนด ต่างๆนาๆ มันก็กลับมาที่เดิมครับ แต่ ครั้งนี้ มันรู้สึกสบายมากๆครับ พี่ชัดว่าผมควรจะ มองประกายเพรชอันนี้ต่อดีรึเปล่าครับ

    แล้ว อาการนี้มันเป็น ญาณอะไรไหม เพราะ บางทีผมก็จะเห็นภาพต่างๆ อยากรุ้อะไรมันก็จะเปลี่ยนรูปร่างให้ดู มันไม่ได้เป็นภาพที่ผ่านไปผ่านมาเลือนลางใสๆขมุมขมัว แต่เป็นภาพที่อยู่ในประกายเพรชเห็นเด่นชัดและไม่ผ่านไปมากำหนดปุ๊บก็เห็นเลย เป็นสีขาวประกายเพรชผสมกับสีดำคล้ายกับภาพทีวีขาวดำ

    หรือว่านี่แค่อาการปิติครับ และควรกำหมดสมาธิไปที่ประกายเพรชนั้นต่อหรือไม่ครับ ผมก็ลองกำหนดให้เป็นพระพุทธรูปแล้วก็ เป็นจริงๆนะครับ แต่องค์เล็กเท่าหัวแม่มือ ลองกำหนดใหญ่ๆดูแล้ว แต่ก็ใหญ่จริงๆแต่ ไม่ชัด เพราะแสงมันจะกระจัดกระจายเป็นประกายเพรชแทนตรงกลางก็เป็นลำแสงสีขาวสว่างแต่โดยรอบเป็นประกาย เพราะกำหนดใหญ่ๆ
     
  7. choosake

    choosake เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    482
    ค่าพลัง:
    +647
    อนุโมทนา สาธุ
     
  8. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ makoto12 ครับ

    แสงที่เห็นนั้น ยังเป็นแสงที่เห็นด้วยตาเนื้อ
    ไม่ใช่แสงที่เห็นด้วยจิต ยิ่งเราไปพยายามบังคับมันเท่าไหร่ มันจะยิ่งรู้สึกเพ่ง เกร็งหนัก มากขึ้นเท่านั้น
    ดังนั้นให้เราอย่าไปสนใจครับ

    การเห็นด้วยจิต ก็คือการนึกถึงภาพพระ นั่นแหละครับ
    เราสามารถนึกถึงภาพพระได้ทั้งหลับตา ลืมตา อันนี้คือการเห็นด้วยจิตครับ
    ซึ่งภาพพระที่เราเห็นนั้น เราสามารถย่อขยายได้ดั่งใจเพียงนึกเท่านั้นเอง

    ให้เราฝึกภาพที่เราเห็นด้วยจิต อย่าฝึกภาพที่เห็นด้วยตาเนื้อ
    เพราะการที่เราไปพยายามบังคับแสงนั่นแหละ
    จึงทำให้เกิดอาการเกร็งที่ลำคอ

    วิธีสังเกตุตัวเองนะครับ เมื่อเรารู้สึกเกร็งที่ลำคอนั่นแหละ
    จะบอกว่าสิ่งที่เรากำลังฝึกอยู่นี้ ไม่ถูกแน่นอนครับ

    สำหรับทุกๆคนที่ได้อ่านข้อความนี้นะครับ หากเรารู้สึกเกร็ง แน่น อึดอัด ทรมานเมื่อไหร่
    วิธี แนวทาง หรืออารมณืที่เรากำลังใช้ในการปฏิบัติอยู่ณ ขณะนั้น มีความหนักไปแน่นอนครับ
    เราจะต้องทำใจให้สบาย ผ่อนอารมณ์ลงมานะครับ


    อารมณ์ใจที่ถูก จะต้องมีความรู้สึก เบา สบาย ชุ่มเย็น มีความสุข อิ่มเอิบอิ่มเอม
    ประดุจเรากำลังพักผ่อน อยู่ในทิพยสถาน อันมีแต่ความสุข ฉันนั้น
    ยิ่งผ่อนคลายมากเท่าไหร่ ยิ่งสบายใจมากเท่าไหร่ จิตเรายิ่งสงบมากเท่านั้นครับ

    และสำหรับบางท่านที่สนใจการฝึกมโนมยิทธินะครับ ช่วง เสาร์อาทิตย์ที่2-3 ของเดือนพฤษภาคมนี้ ลองไปฝึกที่ซอยสายลมดูนะครับ
    คิดว่าถ้าตั้งใจจะไปฝึกจริงๆแล้ว ย่อมสามารถทำได้ทุกคนครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2009
  9. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    ขอบคุณมั๊กๆคับ สงสัย สิ่งที่เห็นนั้น เห็นจากตาเนื้อจริงๆครับเพราะ จะเห็นเฉพาะตอนที่หลับตาแต่ตอนที่ลืมตาจะมองไม่เห็น ก็คงต้องอารมณ์สงบนิ่ง เด่วรอ อีกสัง สองสามอาทิตย์ค่อยไปที่ซอยสายลม ยังไม่เคยไป อิอิ ไปไม่ถูกด้วย
     
  10. runandyaow

    runandyaow Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +65
    คุณ Xorce ครับผมมีปัญหาถามคือ
    1.ตอนผมนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจและภาวนา นะมะ พะธะ ผมรวมจิตไม่ค่อยติดแต่ตอน
    ฝึก มโนฯ จิตนิ่งมาก ระเอียด สบาย แบบว่าไม่รู้สึกว่าหายใจเลย ทั่งที่บทสวดที่ใช้ฝึกก็บทเดียวกันคือ นะโม 3 จบ+ไตรสรณคนณ์+บูชาพระรัตนฯ+อารธนาศิล(หน้าพระพุทธรูป)+สมาทานศิล+สมาทานพระกรรมฐาน+ขอขมาพระรัตนฯ+บทสวดจักรพรรดิ์ 17 จบ+เชิญพระเข้าตัว+อธิฐานจิตปรับภพภูมิแผ่เมตตา พอเลิกก็แผ่ส่วนบุญแล้วกราบพระ เป็นเพราะอะไร
    2.บทสวดผมภาวนาก่อนนั่งผมถูกใหมครับ
    3.ทำใมใน มโนฯ ภาพไม่ชัด แต่ความรู้สึกแจ่มชัดมาก มีวิธีฝึกอย่างไร
    แค่นี้ก่อนครับ ขอบคุณมากครับ
     
  11. thipphayawan

    thipphayawan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +31
    รบกวนคุณ Xorce ค่ะ

    เช้ามืดวันนี้ขณะนั่งสมาธิแล้วจิตสงบนิ่ง ดิ่ง หลังจากนั้นไม่นานรู้สึกเหมือนมีพลังเกิดขึ้นออกมาจากร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณขา แต่ไม่ใช่ความรู้สึกที่หนัก มันเป็นพลังที่เบามาก แต่ดันออกมาจากร่างกายค่ะ สิ่งนี้คืออะไรคะ

    และขอรบกวนถามค่ะว่า การนั่งสมาธิสามารถส่งวิญญาณผู้ที่ล่วงลับแล้วไปนิพพานได้ด้วยหรือคะ เพราะวันก่อนมีญาติมาเยี่ยมพ่อ กับแม่แล้วเขาเล่าเรื่องที่เขานั่งสมาธิแล้วถอดจิตไปเห็นโน่นเห็นนี่มา อีกทั้งบอกว่าเขาส่งวิญญาณญาติของเขาไปนิพพานแล้ว ดิฉันได้แต่นั่งฟังค่ะ แต่ยอมรับว่าไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้ ข้อเท็จจริงเป็นเช่นไรคะ รบกวนคุณ Xorce ให้ความกระจ่างด้วยค่ะ

    ขอบคุณค่ะ
     
  12. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ runandyaow ครับ

    1.ตอนผมนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจและภาวนา นะมะ พะธะ ผมรวมจิตไม่ค่อยติดแต่ตอน
    ฝึก มโนฯ จิตนิ่งมาก ระเอียด สบาย แบบว่าไม่รู้สึกว่าหายใจเลย ทั่งที่บทสวดที่ใช้ฝึกก็บทเดียวกันคือ นะโม 3 จบ+ไตรสรณคนณ์+บูชาพระรัตนฯ+อารธนาศิล(หน้าพระพุทธรูป)+สมาทานศิล+สมาทานพระกรรมฐาน+ขอขมาพระรัตนฯ+บทสวดจักรพรรดิ์ 17 จบ+เชิญพระเข้าตัว+อธิฐานจิตปรับภพภูมิแผ่เมตตา พอเลิกก็แผ่ส่วนบุญแล้วกราบพระ เป็นเพราะอะไร


    เพราะว่า นะมะพะธะ เป็นอารมณ์ต้น ก่อนที่เราจะเข้าถึงมโนมยิทธิ
    ส่วนมโนมยิทธิคืออารมณ์ปลายที่เราต้องการจะเข้าถึง ซึ่งมีความละเอียดมากกว่า
    ดังนั้นเมื่อเราเข้ามโนแล้ว อารมณ์ย่อมจะต้องละเอียด สงบกว่าแน่นอนครับ

    เหมือนเรากำลังเดินทางขึ้นภูเขา ยิ่งเราขึ้นไปสูงเท่าไหร่ วิวที่เรามองลงมาก็ยิ่งสวยเท่านั้น
    กลับกันถ้าเราชมวิวจากตีนเขา วิวก็ย่อมไม่สวยงามเท่าเรามองจากยอดเขาฉันนั้น

    หลังจากที่ได้มโนมยิทธิแล้ว เราไม่จำเป็นจะต้องนะมะพะธะแล้วก็ได้ครับ ให้เราเข้ามโนเลยครับ
    และเราสามารถทรงอารมณ์จิตของเราเอาไว้ข้างบนได้ตลอดเวลา ไม่จำเป็นว่าจะต้องทำเฉพาะหลังสวดมนต์ครับ

    ในที่สุดแล้วเราจะต้องสามารถทรงจิตเอาไว้ข้างบนให้ได้ตลอดเวลา
    เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะตายเมื่อไหร่
    แต่ถ้าเราตายขึ้นมาตอนนี้ ด้วยเราทรงมโนเอาไว้ตลอดเวลา
    จิตของเราก็จะไปอยู่ข้างบนแน่นอนครับ

    2.บทสวดผมภาวนาก่อนนั่งผมถูกใหมครับ
    บทสวดทุกบท ดีหมด ไม่มีผิดหรอกครับ
    แต่เราอาจจะเพิ่ม คาถาเงินล้าน พาหุง มหากา ชินบุญชร หรืออื่นๆ ตามแต่เห็นสมควรครับ
    และบทสวดมนต์ทุกบท เราสามารถท่องในใจได้ตลอดเวลาเช่นกันครับ
    ไม่จำเป็นจะต้องรอเฉพาะตอนไหว้พระสวดมนต์เท่านั้นครับ
    ทำงานไปก็อิติโสไปได้ครับ

    3.ทำใมใน มโนฯ ภาพไม่ชัด แต่ความรู้สึกแจ่มชัดมาก มีวิธีฝึกอย่างไร
    แค่นี้ก่อนครับ ขอบคุณมากครับ<!-- google_ad_section_end -->

    ความชัดเจนของมโน ขึ้นอยู่กับสองส่วน คือความสงบ และความสะอาดของจิต
    ความสงบ ก็คือ ตัวสมถะ ฌาณ และอารมณ์ของสมาธิ อันนี้ให้ฝึกโดยพยายามประคองจิตเอาไว้ในมโนเอาไว้เสมอๆครับ ถ้าได้ทั้งวันยิ่งดีครับ
    และเราสามารถฝึกกสิณเพิ่ม เพื่อทำให้ความแจ่มใสยิ่งมากขึ้นได้เช่นกันครับ

    สำหรับกสิณนั้น สำหรับคนที่ได้มโนแล้ว ให้เรานึกถึงภาพพระวิสุทธิเทพ เอาไว้เสมอๆครับ

    ความสะอาด ก็คือ ตัววิปัสสนา อันนี้ให้เราพิจารณาตัดร่างกาย ตามที่ครูฝึกได้เคยแนะนำได้เลยครับ
    และเราสามารถจะเพิ่มด้วยการพิจารณาในสังโยชน์10
    อันนี้ให้ลองเปิดไฟล์ของหลวงพ่อฤาษีดูครับ ท่านสอนไว้ละเอียดมาก

    ยิ่งจิตของเรามีความสงบ และสะอาดมากเท่าไหร่ มโนก็ยิ่งชัดเจนครับ
    ส่วนการรู้เห็นด้วยมโนนั้นก็มีสามแบบ
    1.เห็นเป็นภาพ
    2.สัมผัสเป็นอารมณ์ความรู้สึก
    3.เป็นคำพูด หรือเสียง บอกคำตอบที่เราถาม

    ขอแค่เรารู้ด้วยความรู้สึก ก็ได้เช่นกันครับ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นภาพเสมอไปก็ได้ครับ

    จุดสำคัญที่สุดนะครับ คือก่อนที่เราจะจากโลกนี้ไป
    ให้เราตั้งจิต เข้ามโน และตั้งกำลังใจว่า
    พระพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ที่ใดณขณะนี้
    ข้าพเจ้าจะขอตามเสด็จองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เข้าสู่ยังสถานที่เดียวกันกับพระพุทธองค์ คือพระนิพพาน เพียงจุดเดียวเท่านั้นด้วยเทอญ

    แล้วให้จิตของเราเกาะพระพุทธเจ้าเอาไว้จนถึงลมหายใจสุดท้ายครับ
    อย่างน้อยสุดเราก็เป็นเทวดา อย่างกลางเราก็เป็นพรหม ถ้ากำลังใจแน่วแน่ ก็มีที่เดียวให้ไปเท่านั้นครับ

    ขอให้ทุกๆคน สามารถเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน ได้ในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเทอญ
     
  13. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ thippayawan ครับ

    เช้ามืดวันนี้ขณะนั่งสมาธิแล้วจิตสงบนิ่ง ดิ่ง หลังจากนั้นไม่นานรู้สึกเหมือนมีพลังเกิดขึ้นออกมาจากร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณขา แต่ไม่ใช่ความรู้สึกที่หนัก มันเป็นพลังที่เบามาก แต่ดันออกมาจากร่างกายค่ะ สิ่งนี้คืออะไรคะ

    ถ้าเป็นคล้ายๆ คลื่น หรือ ไออุ่นๆ ก็เป็นปราณ หรือพลังชีวิตของร่างกายครับ

    และขอรบกวนถามค่ะว่า การนั่งสมาธิสามารถส่งวิญญาณผู้ที่ล่วงลับแล้วไปนิพพานได้ด้วยหรือคะ เพราะวันก่อนมีญาติมาเยี่ยมพ่อ กับแม่แล้วเขาเล่าเรื่องที่เขานั่งสมาธิแล้วถอดจิตไปเห็นโน่นเห็นนี่มา อีกทั้งบอกว่าเขาส่งวิญญาณญาติของเขาไปนิพพานแล้ว ดิฉันได้แต่นั่งฟังค่ะ แต่ยอมรับว่าไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้ ข้อเท็จจริงเป็นเช่นไรคะ รบกวนคุณ Xorce ให้ความกระจ่างด้วยค่ะ

    ถ้าเขาเข้าสมาธิ แล้วนำจิตของเขา ไปสอนญาติของเขา
    และนำสมาธิญาติเขาจนตัดกิเลสหมดได้ ญาติเขาก็สามารถไปพระนิพพานได้ครับ
    หรือถ้าเขาพาญาติเขาไปเจอหลวงปู่หลวงพ่อ ครูบาอาจารย์ และให้ท่านสงเคราะห์ต่ออีกที
    ก็สามารถจะทำได้เช่นกันครับ

    เรื่องแบบนี้เป็นไปได้ และแม้ในกาลก่อนก็เคยเกิดขึ้นครับ เช่น
    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เคยเสด็จไปโปรดพระมารดาของพระองค์บนสวรรค์ จนพระมารดาของพระองค์ได้บรรลุธรรมครับ
     
  14. อนุญฺญา

    อนุญฺญา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +131
    นั่งสมาธิอยู่พักหนึ่งรู้สึกว่าข้างในโสตประสาทมันขาวโพลงไปหมด
    คำภาวนาหายไปแล้ว ลมหายใจก็เบามากจนแทบไม่รู้สึก
    เรารู้สึกโล่ง เบา สบาย ไปหมด
    แล้วก็เงียบมาก
    สักพักได้ยินเสียงเหมือนคลื่นวิทยุ
    แต้ใกล้ๆมีวิทยุวางและปิดอยู่
    ซึ่งไม่มีใครเปิดแน่ เพราะอยู่คนเดียว
    มันเสียงซ่าครั้งหนึ่งก็หายไป
    เราก็ไม่สนใจ
    เว้นครู่หนึ่งก็ได้ยินอีกสองสามครั้ง
    สักพักเรารูสึกว่าเราฝืนอาจจะเพราะเราเริ่มกังวล ก็เลยออกจากสมาธิ

    อยากรู้ว่าจิตเราคิดไปเองรึป่าวและเกิดจากอะไรกันแน่ค่ะ
     
  15. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ อนุญญา ครับ

    นั่งสมาธิอยู่พักหนึ่งรู้สึกว่าข้างในโสตประสาทมันขาวโพลงไปหมด
    คำภาวนาหายไปแล้ว ลมหายใจก็เบามากจนแทบไม่รู้สึก
    เรารู้สึกโล่ง เบา สบาย ไปหมด
    แล้วก็เงียบมาก
    สักพักได้ยินเสียงเหมือนคลื่นวิทยุ
    แต้ใกล้ๆมีวิทยุวางและปิดอยู่
    ซึ่งไม่มีใครเปิดแน่ เพราะอยู่คนเดียว
    มันเสียงซ่าครั้งหนึ่งก็หายไป
    เราก็ไม่สนใจ
    เว้นครู่หนึ่งก็ได้ยินอีกสองสามครั้ง
    สักพักเรารูสึกว่าเราฝืนอาจจะเพราะเราเริ่มกังวล ก็เลยออกจากสมาธิ

    อยากรู้ว่าจิตเราคิดไปเองรึป่าวและเกิดจากอะไรกันแน่ค่ะ<!-- google_ad_section_end -->

    ตอนแรกที่เราโล่ง ขาวนั้น จิตของเราเข้าเป็นสมาธิครับ
    แต่ต่อมาจิตเราไปกังวลกับเสียงมากไปหน่อย จิตก็เลยประคองสมาธิไม่อยู่

    ดังนั้นให้เราอย่าสนใจเสียงที่เราได้ยินครับ
    สิ่งใดที่ทำให้เราเสื่อมจากสมาธิ สิ่งนั้นให้เราอย่าสนใจกับมันครับ
    ให้เราทำใจเฉยๆ สบายๆ เห็นว่ามันก็เป็นเรื่องธรรมดาๆครับ
     
  16. อนุญฺญา

    อนุญฺญา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +131
    ขอบคุณมากๆนะคะ

    แล้วเสียงนั้นมันเกิดจากจิตเราเองหรือว่าเกิดจากสิ่ง(ลึกลับ)ภายนอก
    หรือมันเป็นสิ่งที่ปกติธรรมดาที่อาจจะเป็นอุปสรรคที่ผู้ทำสมาธิต้องเจอคะ
     
  17. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    การนอน มันเกี่ยวกับ สมาธิ หนักไป รึเปล่าคับ บางทีนอนน้อยมากๆ แค่3-4 ชม.ต่อวันแล้วมานั่ง มันจะมีผลไหมหรือว่า ผลเสียอย่างไร ควรจะ นอนให้พอดีกับ ชีวิตปรกติ 8ชม. แล้ว ข้อเสียของการง่วงนอน แล้ว มาฝึกมโนนี้ มันจะมีผลเสียมากน้อยประการใด ช่วยบอกทีคับเพราะ ที่ผมฝึก ลุ่มดอนๆก็น่าจะมีส่วนมาจากกาอดนอนนี้รึเปล่าคับเพราะ สมาธิไม่คืบหน้าสักเท่าไหร่

    ส่วนอีกเรื่อง ที่ผมเห็นด้วยตาเนื้อ นั้น ทำเช่นเดียวกัน กับ การกำหนดจิต รูปพระพุทธรูป
    คือ ทำให้ภาพมันเหมือนกับตอนที่เห็นประกายเพรชด้วยตาเนื้อ ได้รึเปล่าคัรับ แต่ กำหนดตรงกลางแสงนั้นให้เป็ฯรูปพระ ใน จิตนาการ (ที่ผมจินตนาการไม่ค่อยจะออกก็อาจจะเป็นเพราะนอนน้อยก็มีส่วนไหมครับ )

    ขอบคุณครับ เพ่ชัดที่มาตอบข้อสงสัย อนุโมทนาสาธุครับ
    ^^
     
  18. Troysan

    Troysan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +215
    มีขอสอบถามครับ
    - เมื่อวานผมต้องการหาหลักเจริญพรหมวิหาร4 ซึ่งหลวงพ่อกล่าวไว้ว่า เสมือนน้ำหล่อเลี้ยงทุกอย่างทั้ง ศีล สมาธิและปัญญา สามารถเข้าถึงความเป็นอนาคามีได้โดยง่ายครับ ความอยากมันเลยเยอะเลยเข้ามา เปิดในเวปไปมาจนมาเจอ ก้อเข้ามาอ่านหนะครับ ทำให้ได้หลักการเจริญสมาธิครบเลยครับ ทั้ง อาณาฯ กสิน และพรมหวิหาร 4 คลายความสงสัยไปได้เยอะเลยครับ จึงอยากจะขอบคุณที่ได้ให้ความรู้แก่ผม แต่ตอนนี้ความดีผมยังน้อยแม้แต่ณานโลกีย์ยังไม่ได้ จึงอยากขอหลักทรง อารมณ์พรมหวิหาร4 อย่างเข้มด้วยครับ

    - เมื่อวานอ่านเจอเรื่องกสิน เดิมที่ผมเคยเจริญจับภาพพระอยู่พักหนึ่ง ควบไปกับอาณาฯ แต่ตอนนี้ทำอาณาอย่างเดียวเพราะเวลาจับกสิน ตอนนั่งหลับตาจะทำให้ลืม ลมอาณาฯ แต่พอจับทั้งสอง กับฟุ้งซ่าน จึงมาหันมาจับลมอย่างเดียว กะว่าจะทำให้ได้ณาน4อาณาฯแล้วกลับมาทำกสินให้ได้ทุกกอง ว่างั้น เพราะต้องการให้จับกสินให้ได้แบบสบายๆ แต่เมื่อวานอ่านเจอว่าให้นึกภาพพระให้เป็นเพรช จึงลองดูใหม่ครับเริ่มจากภาพพระพุทธรูปสีเหลือง ตอนนึกหนะผมพยายามสร้างภาพพระ ในใจให้เห็นอย่างที่เคยเห็นด้วยตาเนื้อ แต่ก้อจะเห็นได้แค่แป๊ปเดียวก้อจะหายและบางทีเห็นได้แค่บางส่วนของพระเท่านั้น พอหายไปก้อจะสร้างภาพใหม่ให้เห็นในใจให้ได้ ทำอยู่นานสมควรก้อไม่สามารถสร้างรูปได้เต็มองค์สักทีครับ แต่ก้อพยายามทำไป นึกได้ส่วนไหนก้อเอาหนะได้บ้างไม่ได้บ้างครับ สักพักจิตนิ่งขึ้นหน่อย นิมิตองค์พระนิ่งและรู้สึกมั่นใจว่ามีองค์พระอยู่ในใจแต่ไม่สามารถจินตการให้เห็นได้ทั้งองค์หนะครับเห็นแค่บางส่วน จึงพยายามกำหนดให้ภาพพระเป็นสีขาวครับ แต่งานเข้าอีกแล้วครับ นิมิตไม่ยอมเปลี่ยนนึกอย่างไรก้อไม่ใช่สีขาว เพราะถามใจตัวเองแล้วก้อไม่มั่นใจว่าเป็นภาพพระเป็นสีขาวครับ เอาละสิพยายามครับนึกถึงสีขาวมีอะไรบ้างครับ รถสีขาวผมชอบก้อพยายามนึกเห็นรถสีขาวครับ แล้วเอาสีขาวมาบวกกับองค์พระ แหมน่าจะหาองค์พระสีขาวมาดูก้อน่าจะหมดเรื่องหรือเป่าหนอ ตอนนี้แปลกหน่อยครับ พอนึกสีขาวไปที่องค์พระทีไร ร่างกายเหมือนขยับเสียศูนย์ ไปทีละน้อยทีละน้อยครับ นึกสีขาวปั๊บขยับทันทีเลยครับ ทำแล้วเป็นหลาย ทีจึงถอนสมาธิมาปรากฏว่าเสียศูนย์ไปด้านหลังเล็กน้อยจึงดึงตัวมานั่งปกติ แล้วก้อฐิฐานออกสมาธิ แผ่เมตตา ตามขั้นตอน ลุกขึ้น ตอนนี้มีแปลกอีกครับได้กลิ่มเหมือนดอกจำปามาปะทะจมูกอยู่สัก 1 ลมหายใจก้อหายไป ตอนนั่งขนลุก อาการปิติบ่อยๆครับ
    - พอตอนเช้าครับตื่นตี5 นาฬิกาปลุกลุกขึ้นนั่งพยายามนึกใหม่อาการเสียศูนย์หายไปครับ อาการขนลุกไม่มี ก้อพยายามขยับไปพระแก้วให้ได้ครับ ภาพสีขาวยังไม่ทันกระจ่างเลยจะขยับไปพระแก้วอีกแล้วครับถึงตรงนี้ผมพยายามนึกพระแก้ว แต่ก้อยังห่วงพระขาวเพราะชอบสีขาวครับ พระแก้วผมนึกถึงพระที่เคยถวายสังฆทานครับจะนึกได้คล่องกว่าสร้างภาพเอง แต่ภาพก้อจะแก่วงไปมาไม่นิ่ง สลับไปมาหลายพระเลยครับ จึงไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไรดีครับ เอาพระแก้วแบบไหน หรือพระขาวดีครับ สำหรับพระเพรชถามล่วงหน้าเลยละกันนะ ว่าควรจะทรงภาพพระแก้วให้จนเป็นเพรชสว่างขึ้นเอง หรือนึกภาพพระเพรชสว่างแล้วทรงภาพพระเพรชสว่างครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
     
  19. runandyaow

    runandyaow Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +65
    ขอบคุณมากครับ ตอนนี้ก็กำลังทรงอารมณ์พรมวิหาร 4 อยู่ เหลือ อุเบกขา ที่ยังไม่ค่อยอยู่(อย่างอื่นยังไม่ได้100% แต่อุเบก 50/50 ยากจัง)
     
  20. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ อนุญญา ครับ

    เสียงนั้นเกิดจากจิตครับ
    แต่พยายามอย่าไปสนใจมันนะครับ ตอนนี้รู้ว่าเกิดจากจิตก็พอครับ
    อย่าไปติดใจกับมันมาก เพราะจะเป็นเครื่องขวางสมาธิของเราครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...