การขโมยพลังจากผู้ที่ไม่หวังดี

ผมไม่ค่อยมีความรู้ทางทฤษฎีแต่ชอบปฏิบัติ ผมเคยให้พลังกับผู้ที่ขาดแคลนและเคยดูดพลังจากผู้อื่น เพื่อช่วยให้เขาพ้นจากความทุกข์ทรมาณจากการที่มีพลังงานที่ไม่สมดุลย์ในร่างกาย และเคยแลกเปลี่ยนพลังงานของผมกับคนที่ผมรักมากเพื่อให้เขามีชีวิตต่อไปได้ ผลลัพธ์ที่ออกมา ส่วนใหญ่ได้ผลดี ส่วนน้อยผลลัพธ์ออกมาไม่ค่อยดี ทำให้ผู้ป่วยอาการทรุดลง เหงื่อแตก เป็นลม ความดันโลหิตตกได้ ต้องรีบแก้ไขโดยใส่พลังเข้าไปให้เขาใหม่สักพักก็ดีขึ้น แล้วก็หาทางช่วยเหลือเขาโดยใช้วิธีอื่น หลังจากนั้นก็ใช้วิธีการดูดน้อยลงเหลือเท่าที่จำเป็น ส่วนใหญ่จะให้พลังมากกว่าในรูปของการแผ่เมตตา รู้สึกว่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดเท่าที่ใช้มา
ท่านผู้รู้ท่านใดพอจะมีข้อแนะนำอะไรให้ผมทราบบ้างก็ขอขอบพระคุณล่วงหน้า

 

เราจะขอวิชาอะไรจากท่านครูบาคำเพ็งได้บ้างค่ะ ถ้าดิฉันไม่มีพื้นฐานอะไร
และใช้ระยะเวลานานมั้ย ตอนนี้อยู่ใต้ถ้ารู้แน่นอนแล้วจะได้ขึ้นไปเรียนบ้างค่ะ
รบกวนคุณ ตาที่สาม แนะนำด้วยน่ะค่ะ

 

โมทนาในการปฏิบัติดีของทุกท่านคับ

 

สอนวิธีดูดหน่อยได้ไหมอยากดูดบ้าง เราจะได้มีวิชามีพลังเหมือนในหนังบ้าง คงจะดี

 

อยากเรียนถามผู้รู้หน่อยได้ไหมค่ะ เรามีพลังหรือเปล่าดูได้อย่างไร ตอนนี้ฝึกการปล่อยวางให้ผัสะบริสุทธิ์ ถึงนิพพาน บอกตรงว่าเกิดอาการถึงแวบหนึ่งเป็นอยู่ชั่วขณะ มีความสุขสุด ๆ ได้สัมผัสความสุขในรสชาติแห่งนิพพานแล้วสุขสุด ๆ แต่ทำได้ไม่นานก็มีมารเข้ามา เริ่มปฏิบัติใหม่ นี้เค้าเรียกว่ามีพลังหรือเปล่างงกับผู้ที่กระทู้มาก พลังอะไรกันน่า อยากรู้จริง ๆ ทำเหมือนผู้มีวิชาอาคมกันไปได้แปลกมาก คิดว่าปฏิบัติตนทำความดีตามคำสอนของพระพุทธเจ้าก็จะดีกว่าที่ไปทำพลังอะไรกันงง

 

การตูดพลังไม่ใช่เรื่องยาก และก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ปัญหาไม่ใช่เรื่องของวิธีการดูดพลัง แต่ปัญหาอยู่ที่ความสลับซับซ้อน ผลกระทบต่อสากลจักรวาล
ใกล้ตัวมากที่สุดก็คือตัวเรา ครอบครัว การงาน มากขึ้นหน่อยก็ภัยธรรมชาติ
เป็นอันตรายมากหากควบคุมไม่อยู่
ตัวอย่างเช่นหากเราดูดพลังเข้าตัวเรา แล้วพลังนั้นก่อให้เกิดความไม่สมดุลย์ในร่างกาย เราจะมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นในร่างกาย ก่อให้เกิดความเจ็บปวดทรมาณ จนกว่าเราจะควบคุมได้ สรุปก็คือ หากคิดว่ายังรักตัว กลัวเจ็บ
กลัวตาย ก็อย่ามาเล่นเลยดีกว่า
ผมเห็นด้วยกับหลาย ๆ ท่าน ให้ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เพราะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปฏิบัติ อย่ามามัวเล่นสนุกเก็บดอกไม้ข้างทางเลยครับ เพราะจะทำให้ไปไม่ถึงปลายทาง ระยะทางยังอีกไกล

ในความมืด เราไม่รู้ว่าจะมีอะไรอยู่ อันตรายหรือไม่ ก็ไม่รู้ หากอยากสนุก
ก็ต้องเสี่ยงดู แต่จะคุ้มกับความเสี่ยงหรือไม่ หากความเสี่ยงนั้นมีตั้งแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนถึงหายนะอย่างร้ายแรง

 

ถ้าคิดจะดูดพลังจริงๆก็ดูดซับพลังจากธรรมชาติดีกว่าครับ ต้นไม้ใบไม้ต้นหญ้า สายลมแสงแดด และผืนน้ำสิ่งเหล่านี้ล้วนมีพลังอยู่ เพียงเราน้อมจิตของเราให้เป็นหนึ่งเดียวน้อมเอาธรรมชาติทั้งหลายเข้ามาภายในกายของเราให้แผ่ซ่านเอิบอาบไปทั่วร่างกาย หายใจเข้าลึกๆสูดเอาอากาศอันบริสุทธิ์เข้าไป จะทำให้พลังของเราเต็มเปี่ยมครับ

ปล.พลังอย่างอื่นบางทีเราอยู่เฉยๆแต่เข้ามาในตัวเราเองก็มีนะครับ หรืออาจจะมีคนตั้งใจส่งกระแสดีหรือไม่ดีมาหาเราก็ได้ทั้งตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ กระแสพลังจะมีทั้งดีกับไม่ดี ถ้าเราไม่รู้จักปรับใจเพื่อปรับเปลี่ยนพลังที่เข้ามาในร่างกายของตนให้กลายเป็นกระแสที่ดีให้หมด ดีไม่ดีอาจจะเกิดผลเสียต่อร่างกายได้เหมือนกันนะครับ

 

ขออนุโมทนา สาธุด้วยครับ
ทำดีย่อมได้ดี แต่ต้องระวังไว้บ้างก็ดีนะครับ ผมฝึกสมาธิตามแนววิทยาศาสตร์ ได้ผ่านการต่อสู้ทางด้านพลังจิต
พบกับพวกเล่นไสยศาสตร์ เอาตัวแทบไม่รอดมาก็หลายครั้ง พวกนี้ชอบลอบกัดครับ เล่นทีเผลอ เขาโจมตีเรา
โดยไม่มีกติกา เหมือนผู้ก่อการร้ายสากลนั่นแหละครับ ยิ่งหายนะยิ่งชอบ ฝ่ายเราก็มักแต่จะห่วงผู้คนล้มตาย
ไม่ค่อยกล้าตอบโต้ทำให้เสียเปรียบ ผมเองไม่มีอาจารย์เป็นตัวเป็นตน ส่วนใหญ่พึ่งตัวเอง เพราะสนุกดี
อาศัยฝึกไป Load ข้อมูลต่าง ๆ จากการฝึกเพราะเร็วดี ไม่ค่อยรู้ศัพท์แสงอะไรทางโลกนัก
ที่พูดนี่เพราะว่าถ้าลำพังดูดพลังไปใช้คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเล่นมาทำลายระบบของเรา เช่น ทำลาย
แบตเตอรี่ หรือสายไฟเราไปด้วย ก็ยากที่จะชาร์ทแบตเตอรี่ได้ใหม่ นึกถึงพม่าตีไทย แล้วเผากรุงศรีอยุธยา
นะครับ ฟื้นไม่ไหวเลย จริงไหมครับ แต่ถ้าใครถูกทำลายโดยวิธีนี้ พวกเราคงต้องมาช่วยกันสร้างแบตเตอรี
และอุปกรณ์ดีไหมครับ

 

เพื่อนเคยเล่าว่าน้องเค้าทำได้ แล้วก็ดูดจากเค้าไป ทำให้เค้าเสียงแหบไปพักนึงเลย

อยากฝึกมั่ง

 

ขอออกความเห็นต่างจากปัญหาที่ผู้คนถามมา
1. เรื่อง การแผ่เมตตาให้แก่ผู้คนในครอบครัว
ตามปกติ คนเรา นั้น กรรมใคร กรรมมัน
แต่เราแผ่เมตตาให้เขา ได้ ให้เขามีความอ่อนโยนได้
บางคนมีเพื่อนบ้านที่ติดกันแย่มากๆๆ ก็ส่งแผ่เมตตาให้เขา นานๆๆเข้า เขา
ก็จะดีขึ้นได้
2. เห็นด้วย ในการดูดพลังจากธรรมชาติ ซึ่งเป็นพลังที่สะอาดและบริสุทธิ์ เช่น
พลัง จักรวาล พลัง คอส มิค
ถ้าไม่รู้จักพลังอะไรเลย ก็ลอง ถอดรองเท้า ยืนเท้าเปล่า บนสนามหญ้า
เงียบๆๆ สัก 10 นาที ก็จะหายเหนื่อย บางคนเข้าใจ พอกลับบ้าน ก็เดินเท้า
เปล่าในสนามหญ้าหน้าบ้านก็จะหายเหนือ่ย พวกตีกอลลฟ์ เดินบนกรีนหญ้า
นานๆๆ ก็ได้พลัง ครับ

 

3. การแอบดูดพลังจากคนอื่น อันตรายมาก เพราะ ในแต่ละคนมีพลังที่ไม่
สะอาดปะปนอยู่มาก ถ้าพลังนั้นสกปรกเข้ามา ตัวเราก้จะสกปรกด้วย และ
สามารถถ่ายทอดไปคนใกล้ตัวได้ด้วย เหมือน โรคไข้หวัดนกระบาด

ผมเองนั้นตั้งแต่รู้เรื่อง การคูดและถ่ายพลัง แล้วไม่เคยไปใครนวด หรือ
อาบอบนวดเลย เพราะ หมอนวดแต่ละคน จะต้อง สัมผัสผู้ที่มานวด และ
ส่วนใหญ่จะเป้นผู้ชายไปนวด แผนโบราณ วันละ ตั้งแต่ 6-10 คน คนที่มา
นวดแต่ละคน มีพลังแฝง ที่ไม่ดี พอหมอนวด ไปนวด พลังแฝงก็จะมาอยู่ที่
มือ เธอ พอคนใหม่มา พลังก็จะกระโดด เข้าคนใหม่ พากลับไปบ้าน แล้ว
แพร่ไปทั้งบ้าน ตัวหมอนวดจึงเป้นพาหะนำเชื้อโรคพลังแฝงโดยปริยาย
เหมือนแมลงวัน ที่เป็นพาหะของ โรค อหิวาต์ในอดีต

เสียใจอยู่นิด ที่ข้อความนี้ อาจจะมีผลให้ คนที่ประกอบอาชีพ หมอนวด ตก
อับ และมีมีผู้มา บริการน้อยลง อย่างไรก็ตาม ก็จำเป็นที่จะต้องพูดเรื่องจริง

 

4. มีคนอยากจะรู้ว่า ตัวเองมีพลังหรือไม่
มีวิธี ทดสอบเบื้องต้นอย่างง่ายๆๆ ดังนี้

เมื่อใดที่เราเข้าไปในวัด สถานที่ศักดฺสิทธิบางแห่ง แล้วมีอาการขนลุก นั่น
คือ สามารถ เอาพลังเรา ไปสัมผัสพลังศักกดิ์สิทธินั้นได้

เมื่อใดเข้าใกล้บุคคลบางคน เราจะรู้สึด อึดอัด บางคนรู้สึกสะบายใจที่ได้
อยู่ใกล้ แสดงว่า พลังเราไปสัมผัสคนอื่น และ รู้ความรู้สึกชอบ ไม่ชอบได้

เอามือ สองข้าง มาประกบ เหมือนทำท่าไหว้พระ แต่ให้ห่างกัน ประมาณ 1
ซม แล้วแยกมือออก เหมือน เล่น หีบเพลงชัก แอคโคเคียน เข้าออก
ประมาณ 10 ครั้ง แล้วดูว่า มีพลังอะไรนิ่มๆๆ เป็นก้อนๆๆอยู่ระหว้งฝ่ามือ
หรือไม่ ถ้าใครรู้สึกว่า พลังก้อนๆๆนั้น แรง ก็แปลว่า มีพลังพอสมควร ใคร
ไม่สัมผัสได้ ก็ไม่มี

เมื่อมีพลังก้อนในอุ้งฝ่ามือ แล้วลองค่อยๆๆ อุ้ม ลงมาที่หน้าท้อง แล้ว
ค่อยๆๆ อุ้มชูยกขึ้นเหนือศีรษะ จะมีความรู้สึกกดดัน ทำให้ต้องอ้าปาก
หาว พอหาวแล้วจะสะบายตัว นี้คือ การปลดปล่อยพลัง ส่วนเกินออก
จากกาย ทำให้สะบาย

ลองดูครับ

 

มหาเวทย์ดูดดาว....ซู๊ดดดดดดด

 

หากเราทำงานเพื่อให้ผู้คนหายจากความทุกข์ทรมานโดยบริสุทธิ์ใจก็ไม่น่าห่วงครับ
เรารับพลังที่ผิดสมดุลย์จากผู้ป่วยมาทำให้เขาสบายขึ้น แต่เราก็ไม่น่านำพลังที่ไม่บริสุทธิ์นั้นให้กับท่านอื่น
เพราะฉนั้นเราต้องฝึกที่จะนำพลังที่ไม่บริสุทธิ์นั้นไปเก็บไว้ที่ ๆ เขาควรอยู่ อย่าเก็บไว้กับตัว
เพราะจะทำให้ตัวเองเจ็บป่วย และส่งผ่านไปให้ผู้อื่นได้รับทุกขเวทนาไปด้วย

พลังหนึ่งอาจจะไม่เหมาะสำหรับคนหนึ่ง แต่จะเหมาะสำหรับคนอื่นก็ได้
เรียกว่าผิดฝาผิดตัว ถ้าเราสามารถทำให้ถูกฝาถูกตัวก็จะมีแต่ประโยชน์ และก็จะลดพลังขยะลงได้

ทุกวันนี้เรามีพลังขยะมากมายโดยไม่รู้ตัว The third eye ลองใช้ตรีเนตรดูพลังขยะที่เกิดจากการใช้โทรศัพท์มือถือดูสิครับ
มีมากมายเหลือเกิน ผมเคยปะทะกับพลังนี้มาครั้งหนึ่งแล้วก็ถอยฉากครับ

ถ้าท่านที่ถืออาชีพหมอนวดสามารถฝึกได้ตามนี้ ลูกค้าจะมากขึ้นด้วยครับ
เพราะใครมานวดก็ทุเลาจากความทุกข์ทรมาน ไม่ใช่นวดแล้วทรมานมากขึ้น

 

ขออนุโมทนาครับ...

ผมลองใช้มือประกบดูแล้วครับ...รู้สึกว่ามันมีความร้อนเกิดขึ้น...
แต่พอเอาออกห่างออกไปก็จะเบาลง...เป็นเพราะอะไรครับ...

 

ข้าพเจ้ารู้สึกว่าตัวเองเป็นขั้วแม่เหล็กมากกว่า

จากที่คุณตาที่สามบอกว่า...เอามือ สองข้าง มาประกบ เหมือนทำท่าไหว้พระ แต่ให้ห่างกัน ประมาณ 1 ซม แล้วแยกมือออก เหมือน เล่น หีบเพลงชัก แอคโคเคียน เข้าออก
ประมาณ 10 ครั้ง แล้วดูว่า มีพลังอะไรนิ่มๆๆ เป็นก้อนๆๆอยู่ระหว้งฝ่ามือ
หรือไม่ ถ้าใครรู้สึกว่า พลังก้อนๆๆนั้น แรง ก็แปลว่า มีพลังพอสมควร ใคร
ไม่สัมผัสได้ ก็ไม่มี
ลองทำตามดู ปรากฎว่าเกิดแรงดูดกันอย่างประหลาดขอรับ ราวรับมือทั้งสองข้างถือแม่เหล็กคนละขั้วอย่างงั้นแหละ

 

การที่พออัดมือเข้ามา จะเกิดความร้อน พอถอยมือห่าง ความร้อนจะลดลง
การชักเข้า ชักออกของมือ เป็นการอัดพลัง เหมือนเครื่องอัลม ยิ่งทำยิ่งมาก จะยิ่งร้อน
จึงมีคำแนะนำว่า ให้ปั๊มอัดอย่างน้อย 10 ครั้ง จะได้ พลังดี
พลังที่ว่า นี้ มีประโยชน์มาก เป็นพลังบริสูทธิที่เป็นของเราเอง

เมื่อทำครบมากกว่า 10 ครั้งอัด จะมีพลังมาก
ถ้าอุ้มไว้ แล้วลงมาที่ท้องน้อย แล้วค่อยๆๆยกขึ้น เหนือหัว
จะไล่พลังส่วนเกิน และความอึดอัดออกไปจากตัว

ถ้ายกขึ้นเหนือศีรษะ แล้ว ลากลงมา จะเป็นการอัดพลังเข้าตัว ทำไห้เพิ่มพลัง เหมาะสำหรับ คนที่เหนื่อย ต้องการจะหายเหนื่อย และ สดชื่น

ตรงใหนป่วย แช่มือที่อุ้มไว้ตรงนั้น นานๆๆ ทุกวัน จะรักษา ความเจ็บป้วยได้
ใครที่ไม่สู้ ก็แช่ตรงนั้นนานๆๆ ทุกวัน ก็ไม่ต้องกิน ไวอะกร้า

ใครเอามาลากที่ใบหน้า เริ่มจาก ที่จมูก ลาก ขึ้นลง หรือ ลากฉีกออกไปทางแก้ม ซ้าย-ขวา
จะทำให้หน้าตึง ไม่แก่โดยพลังแห่งธรรมชาติ
ใบหน้าจะสาว-หนุ่มตลอดเวลา
ดีกว่าใช้สารเคมี ขวดละ หลายพันบาทมาทำให้หน้าตึง
ของฟรีดีๆๆมีอยู่กับตัว
เราไม่ยอมใช้ เพราะมัวเชื่อแต่ของที่มาจาก ตะวันตก
ลองดู ครับ

 

ทำดีย่อมได้ดี แต่ต้องระวังไว้บ้างก็ดีนะครับ ผมฝึกสมาธิตามแนววิทยาศาสตร์ ได้ผ่านการต่อสู้ทางด้านพลังจิต

มีครั้งหนึ่งผมนอนหลับอยู่ ก็นอนมีสติรู้ตัวทั่วพร้อมเป็นปรกติแล้วก็ค่อยๆหลับไป สักพักอยู่ดีๆก็เหมือนจิตผมตื่นขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ ในความรู้สึกนั้นคล้ายกับว่ามีอะไรกำลังพุ่งมาจากทางด้านซ้ายมือของผมเหมือนกับพยายามจะวิ่งเข้ามาในร่างกายของผม แต่เผอิญติดอยู่ที่กระแสพลังที่อยู่นอกตัวผมซึ่งผมแผ่ออกจากร่างจากการมีสติรู้ตัวทั่วพร้อม พอจิตผมรู้สึกตัวแล้วก็เหมือนเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติน่ะครับ เหมือนว่าผมก็เลยเปล่งพลังซึ่งในภาวะนั้นจะต่างกับตอนที่ตื่นอยู่กับกายเนื้อ คือ พอคิดว่าเปล่งพลังก็รู้สึกได้ชัดเจนมากว่ากระแสพลังที่อยู่นอกตัวเราที่ต้านวัตถุชิ้นนั้นอยู่ ได้ขยายออกอย่างรวดเร็วแล้วก็ผลักดันของชิ้นนั้นให้กระเด็นออกไปอย่างรวดเร็วตามกระแสพลังที่ผมเปล่งออกไป ปรากฎว่าในความรู้สึกนั้นผมรู้สึกว่าของชิ้นนั้นจะกระเด็นออกนอกห้องนอนผมไปแล้วก็ไปกระทบกับอะไรสักอย่างมีเสียงแตกดัง เพล้ง! หลังจากผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นการโดนลองของโดยถูกคนปล่อยของมาหาเรารึเปล่า.....? แต่ก็ยังดีที่จิตของผมทำงานโดยอัตโนมัติ พอสังเกตดูก็พบว่าเหตุการณ์ปรกติไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับ

 

ถึงท่าน The `Third Eyes

ที่ผมเคยเจอมา กับตัวเอง เหมือนกันครับ

แต่ ดูดพลังจากคนอื่นแบบไม่รุ้ตัว ... พวกผม เรียกกันว่า Physical Vampire

ท่านมีวิธีแก้ใช่มั้ยครับ อยากทราบ บทสวดมนต์สั้นๆ ที่ไม่ไห้ถูกดูดนะครับ

ขอบคุณมากครับ

 

ไม่เห็นเคยได้ยิน ได้อ่านจากกไหนเลยแหะ