อิทธิพลของแสงสี

​

อิทธิพลของแสงสี (momypedia)

ได้มีโอกาสฟังคำบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับแสงสีที่เปล่งประกายรอบตัวเราทุกคน (The human aura) ที่คนไทยเราเรียกว่าฉัพพรรณรังสี ทั้งยังได้อ่านหนังสือประกอบอีกหลายเล่ม ได้ความรู้เล็กๆ น้อยๆ มาเล่าสู่กันฟัง แล้วต้องวงเล็บอย่างในโทรทัศน์ว่า

"โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน"

เราอาจจะเคยได้ยินการบำบัดด้วยสี (Color Therapy) อย่างง่ายๆ ที่หลายคนเคยสัมผัสมาก็คือแสงสีแดงที่มาวนทั่วใบหน้าเพื่อลดแบคทีเรีย ขจัดสิว ตามสถานเสริมสวย หรือการใช้สีตกแต่งสถานที่ เช่นถ้าเราเข้าไปในห้องที่ทาสีแดง จะทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้น เป็นต้น

ในประเทศเยอรมันจะใช้สีต่างๆ กันไป สำหรับนักเรียนชั้นต่างๆ เช่นห้องเด็กเล็ก 6-7 ปี ทาสีชมพู สีส้มอ่อน ส้มเหลือง เพื่อความรู้สึกที่อบอุ่น ห้องอาหารทาสีพีช สำหรับความสุขสันต์เพื่อการเจริญอาหาร ห้องเด็กประถมไปจนถึงเด็กอายุ 12 ปี จะเน้นทาสีออกเหลือง เพื่อความอิสระ คล่องตัว ห้องเด็กมัธยมทาสีเขียวอ่อนเพื่อให้เกิดความสมดุลทางด้านอารมณ์ของวัยรุ่นที่เกิดอาการหงุดหงิดได้ง่าย

แม้แต่การทาสีบ้าน ห้องนอนควรเป็นที่สำหรับความสงบคลายเครียดเพื่อการพักผ่อน ทาสีฟ้าสีเขียวอ่อน แม้แต่โรงพยาบาลก็เชื่อว่าการทาสีต่างๆ ในห้องจะมีผลต่อจิตใจคนไข้ ช่วยให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บเร็วขึ้น สีส้มหรือสีแสดช่วยกระตุ้นให้คนรับประทานอาหารได้มากขึ้น ทำให้ร้านอาหารขายดี ในสหรัฐอเมริกาเองทาสีชมพูในคุก เพราะเชื่อว่าสีชมพูทำให้จิตใจสงบลง ส่วนคนคุกเองสวมเสื้อสีฟ้า เพราะทำให้พฤติกรรมอ่อนโยนขึ้น

เชื่อกันว่าเรามีรัศมีเปล่งประกายออกมารอบๆ ตัว ซึ่งสามารถเห็นและจับภาพได้ด้วยกล้องเกอร์เลียน (Kirlian ชื่อเรียกตามสามีภรรยาชาวรัสเซียที่คิดค้นกล้องนี้) แสงก็มีอยู่หลายสีคล้ายคลึงกับสีรุ้ง ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง แต่ไม่เหมือนสักทีเดียวนะ มีกลายๆผสมผสานกันไป เนื่องจากร่างกายเรามีพลังแม่เหล็ก มีคลื่นแสง มีคลื่นเสียง เพราะร่างกายมีพลังงาน ค้นพบมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์โดยนักปราชญ์ทั้งหลายแหล่ตั้งแต่พิทากอรัส อริสโตเติล เซอร์ ไอแซค นิวตัน

ตามที่ผู้บรรยายชื่อคุณกมลทิพย์ จันทร์แย้ม เอฟเว่นส์ เล่าให้ฟังว่า คนเราไปเดินตลาดหรือไปเดินงานนิทรรศการที่มีผู้คนมากมาย กลับมาบ้านเหนื่อยอ่อน เพราะไปแลกพลังคลื่นกันมา ได้ของดีบ้างไม่ดีบ้าง อย่างนี้เป็นต้น ทางที่ดีคือควรไปอยู่ใกล้คนที่มีความรักมากๆ พวกนี้จะแผ่รัศมีสีชมพูออกมา ทำให้เราสดชื่นไปด้วย เพียงแต่ว่าเราอย่าเผลอไปอิจฉาตาร้อนเข้า

พูดถึงอารมณ์ต่างๆ ก็มีผลต่อร่างกายเช่นกัน ผู้ที่มองผู้อื่นในแง่ร้ายก็จะเจ็บป่วยเป็นโรคที่ตาบ่อย อย่างเช่นตาแดง ปวดศีรษะเป็นต้น นอกจากเราควรไปอยู่ใกล้ผู้ที่มีความรักแล้ว ควรเล่นกับเด็กๆ เพื่อดึงพลังความสดชื่นแจ่มใสมาบ้าง แต่ไม่ใช่จะดึงความสดใสของเขามาแต่ข้างเดียว ควรมอบความรักกลับไปให้แก่เด็กๆ ด้วยจะดีมาก

เราสามารถหาพลังออร่า (aura) ได้ด้วยการรับจากต้นไม้อีกด้วย เขาถึงแนะนำให้เดินพักผ่อนในสวน นั่งใต้ต้นไม้ผ่อนคลายความเครียดไงมีหนังสือฝรั่งอีกเล่มหนึ่งชื่อว่า The Book of Colour Healing เขียนโดย Theo Gimbel เล่าถึงการเพิ่มพลังให้แก่ตนด้วยการสวมเสื้อหรืออัญมณีสีต่างๆอีกด้วย เช่น...ถ้าปวดศีรษะบ่อยๆ ให้สวมเครื่องประดับหินสีม่วง อามิทิสต์

ผู้ที่เป็นนักพูดนักเจรจา ที่มีอาชีพต้องพูดบ่อยๆ ควรสวมพวก เทอร์ควอยซ์สีฟ้า ไพลิน สีน้ำเงิน และพวกหิน ลาปิสสีน้ำเงิน จะช่วยกายเจรจาสำเร็จลุล่วง หรือการพูดการจาก็จะเป็นที่ประทับใจแก่คนฟัง

ส่วนหยกจะช่วยสร้างสัมพันธภาพกับบุคคลรอบข้างได้ หากคุณต้องทำงานกับเจ้านายที่อารมณ์ฉุนเฉียว เลือกพกหรือสวมพวก โรสควอทซ์ หินสีชมพู ที่จะมีพลังทำให้คนใกล้เคียงใจเย็นลง ถ้าอยากจะมีลูก ให้ลองวางไว้ใต้หมอนหรือใกล้หมอน หรือจะสวมใส่ไว้เองก็จะทำให้ผิวพรรณผุดผ่องสวยงาม

พวกบุษราคัม และ อำพัน สีเหลืองเหมาะสำหรับพวกที่ท้องอืด อาหารไม่ค่อยย่อย โรคกระเพาะ โดยเฉพาะบุษราคัมยังช่วยเรื่องเงินๆทองๆในด้านธุรกิจ หยิบจับอะไรก็คล่องไม้คล่องมือไปหมด

ส่วนพวกที่อ่อนระโหยโรยแรงใช้หินสีแดงอมส้มอย่าง คาร์เนเลียน มาสวมใส่ ไม่เหมาะกับคนที่โกรธง่าย เพราะจะยิ่งทำให้โกรธขึ้งมากขึ้นไปอีก

หินคริสตัล ต่างๆ ที่ซื้อมา มีเคล็ดลับว่าก่อนใช้ต้องล้างน้ำเสียก่อน เพื่อขจัดพลังต่างๆ ที่ติดมา ด้วยการเปิดน้ำก็อกประปาล้าง ให้ปลายแหลมทิ่มลง หรือแช่ในน้ำเกลือทะเล น้ำฝน ทิ้งไว้ทั้งคืน เขาเชื่อว่ากันหินคริสตัลสามารถช่วยลดความอ้วนได้ โดยการตั้งจิตขอให้อาหารทุกชนิดที่รับประทานเข้าไปช่วยให้เราสวยและมีรูปร่างดีขึ้น แล้ววางหินไว้ข้างจานทุกมื้อ คุณจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น อาจารย์เขาบอกว่าหินคริสตัลควรมีหลายแท่งหน่อย แท่งหนึ่งๆ ก็ใช้ในกิจการหนึ่งๆ เฉพาะกิจไปเลย

การดูแลคริสตัลให้หมั่นล้างและตากแดดรับแสง สำหรับบางคนที่ไม่สามารถรับพลังได้ ก็จะไม่เห็นผล แม่บ้านผู้ชอบทำกับข้าวต้องฟังทางนี้ ไม่ควรทำอาหารในขณะที่โกรธ เพราะรับประทานแล้วจะไม่ดี

การใส่เสื้อผ้าสีต่างๆสามารถช่วยเสริมได้เช่นกัน (ตามที่หนังสือเขียนบอกไว้) ว่า

สีฟ้า ช่วยลดความดันสูง

สีแดง ช่วยเพิ่มพลัง เพิ่มความดันโลหิต สีแดงยังช่วยให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น สามารถช่วยเรื่องการมีลูกยาก เนื่องจากสาเหตุอุณหภูมิของร่างกายต่ำไปและมีความดันต่ำ

สีส้ม ช่วยต่อต้านอาการซึมเศร้า

สีเทอร์ควอยซ์ ช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานดีขึ้น

สีดำ ช่วยเรื่องกระดูกได้ แต่ไม่ควรสวมใส่บ่อย เพราะจะทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นแก่กว่าวัย

ทั้งหมดนี้แนะนำว่าคุณควรใช้เสื้อผ้าที่เป็นใยธรรมชาติเท่านั้น โดยเฉพาะที่เป็นผ้าไหมยิ่งดี เพราะนอกจากจะถ่ายเทอากาศได้ดีกว่าแล้ว ยังช่วยถ่ายเทพลังสีพลังแสงได้ดีกว่าอีกด้วย

วิธีการเพิ่มพลัง แนะนำว่า ให้ห่อหุ้มร่างกายเปลือยเปล่าด้วยผ้าไหมตามสีที่เราเห็นว่าเหมาะสม และนอนใต้แสงสว่าง นอนหลับตาฟังเพลงที่ชอบประมาณครั้งละ 20 นาที อาทิตย์ละ 3 ครั้งจะได้ผลเร็วขึ้น

อย่างไรก็ตาม เขาเน้นว่าจะต้องทำกายทำใจให้ดี มีคุณธรรม คือ หมั่นสวดมนต์ ทำสมาธิ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนเพียงพอ รักเสียงเพลง อยู่ในที่ที่เหมาะสม รักษาศีลห้า

ยังมีเรื่องราวที่น่ารู้น่าสนใจอีกมากมาย ถ้าเอามาเขียนเสียหมดเขาก็จะขายหนังสือไม่ได้ ลองไปหาอ่านดู มีการคำนวณหาลักษณะสีพื้นฐาน ซึ่งแสดงถึงลักษณะนิสัยจากวันเดือนปีเกิด ผู้อ่านคงจะสนใจกันมาก เพราะมักชอบให้จบลงด้วยเรื่องทำนายทายทัก

​

ขอขอบคุณข้อมูลจาก


โดย: ลาวัณย์
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก bjcg.com
</PRE>​