เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

อ้อ มีคำถามค่ะ คุณ The Third Eyes ค่ะ ไม่ว่าดิฉันจะจับอะไรมักจะเป็นลักษณะเหมือนไฟดูดอย่างที่คุณพูดถึงเรื่องผ้าสีแดงน่ะค่ะ ดิฉันก็ไม่ทราบว่าเพราะอะไร แต่ดิฉันกับสามีก็คิดไปว่าดิฉันมีไฟฟ้าสถิตย์เยอะเพราะชอบเดินลากเท้า แต่ดิฉันก็เดินปรกตินะคะ นาน ๆจะเผลอยกเท้าไม่สูงไปซักทีเวลารีบ ๆ ดิฉันหวังว่าคงจะไม่ใช่ลักษณะแบบเสื้อแดงอย่างที่คุณว่าหรอกนะคะ บรื๊อ

 

คุณ visnu #1050 อ่านแล้วเป็นเรื่องแปลกมากค่ะ เพิ่งทราบว่าสามารถเกิดสภาพเช่นนี้ด้วย ได้ศึกษาไว้ก็ดี จะพยายามทำบุญบ่อย ๆตามอรรถภาพค่ะ ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องน่าสนใจ สาธุ อนุโมทนาค่ะ

 

ยังอยู่ที่เดิม

ยังอยู่ที่ เดิม ..........ไม่ได้ย้าย ครับ.................

 

เป็นเหมือนกันค่ะ ส่วนใหญ่จับวัสดุที่เป็นโลหะ ไฟจะช็อตเล็กๆให้ตกใจ
อย่างที่ลูกบิดประตูห้องน้ำที่ทำงาน นี่เป็นบ่อย และประตูเลือนที่ทำงาน
ลำบากจนต้องเอากระดาษมารองมือเป็นฉนวนกันไฟ บางทีก็เอามือไปตีมันเร็วๆก่อน
จะได้คลายประจุ

พาเพื่อนดวงตกไปหาอาจารย์ อาจารย์ตาที่สามก็เช็คพลัง รับพรเทพที่ดูแล
กลับมาเพื่อนที่ไม่เคยมีเซ้นส์อะไรกับเขา ก็มีอาการไฟช็อตเด็กเสริฟ
(ไม่ใช่ปิ๊งๆกันน้า) เพื่อนยังว่าอาจารย์ชาร์จพลังให้รึเปล่า แต่ก่อนมีแต่
แซวตัวกลม ว่าเป็นอะไร เจ็บอย่างกะเข็ม เป็นต้นเหตุซะเองเลยรู้ หุๆ

ตอนนี้ ไม่เป็นอะไร(มาก)แล้วค่ะ เพราะว่า ไปซื้อเครื่องไฟฟ้าที่เขาเอาไว้
กระตุ้นเส้นสาย เขาก็บอกว่า ให้ดื่มน้ำให้เยอะๆ คนที่มีอาการแบบนี้
ส่วนใหญ่จะกินน้ำน้อย แต่ไม่ใช่ว่าจะหาย บางทีก็โดนเมาส์ดูดมั่ง
ที่มาพิมพ์นี่ ก็โดนคีบอร์ดดูด ก็เลยต้องเปิดกระทู้ท่านอาจารย์สะหน่อย

จำได้ว่าลูกศิษย์อาจารย์บางคน ทำราวบันไดไม้ระเบิด เสียงดัง
ส่วนอาจารย์ก็ทำคอมพ์เขารวนไปเลย

บางท่านก็บอกว่า ชาติกระโน้น เพ่งกษิณไฟเอาไว้ มาชาตินี้มี แต่ใช้ไม่ได้
ตัวกลมสงสัยว่า ตัวเองจะเอาไม้ตียุงไฟฟ้า ไปฆ่ายุงล่ะค่ะ กรรมเลย
เห็นทันตา แหะๆ จากนั้นมา เครื่องใช้ไฟฟ้าดูดประจำ ตั้งแต่พัดลม
ใครไม่โดน แต่เราสิโดนคนเดียว แต่พลังขนแขนแทงชาวบ้านนี่ มาเป็น
หลังจากได้รู้จักอาจารย์ค่ะ ทุกวันนี้พยายามกินน้ำให้เยอะไว้ก่อน
ประตูห้องน้ำ บานเลือน ไม่เป็นปัญหาอีกแล้วววววววว

 

ผมเคยได้ยินเรื่องเล่าของคนที่เข้าป่าปฏิบัติธรรม จะมีคาถาที่เมื่อตั้งจิตกล่าวภาวนาออกไปแล้วท่านเจ้าที่เจ้าทาง เจ้าป่าเจ้าเขา ท่านจะชอบมากเพราะเขาจะรู้สึกอบอุ่นและจะคอยมาปกป้องคุ้มครองเรา
....คาถานั้นเป็นคาถาของหลวงพ่อโอภาสีครับ

 

" อิติ สุคะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปฐวี ม คงคา พระภูมะเทวา ขมามิหัง "
บทนี้หรือเปล่า ครับ
อาจารย์ สอนไว้ ตั้งแต่ สมัยเป็นลูกเสือ ตอน เข้าค่ายพักแรม นอกสถานที่

 

กลับจากต่างจังหวัดมาถึงกรุงเทพฯ เอาวันจันทร์ มีคนไข้มารอกันเพียบ
มีเวลาแวบๆเข้ามาดู
โอ้โห้ อ.สามตา แซวน่าดู "มือถือสาก ปาก ถือศีล."
ซึ่งหมายถึง พูดอย่างทำอีกอย่าง

เอ้อมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เป็นคนเรียกให้ อ. เขียนเรื่องหนุกๆดีกว่า หยุดเขียนเรื่องเครียดๆเถอะ
แต่ตัวเองกลับหยุดไม่ได้ ขอเขียนต่ออีกหน่อย
ซ้ำยังไม่ยอมปล่อยวาง ตลอดเวลาที่อยู่พิษณุโลก จนไปถึงเพขรบูรณ์
ยังคงพิจจารณา ธรรมเรื่องวุ่นๆระหว่าง
เมตตาธรรมและคุณธรรม กับ กฏแห่งกรรม อยู่ตลอดเวลาจนกลับถึงกรุงเทพฯก็ยังไม่เลิก


เหลือบตามองไป ที่น่านน้ำแห่งพาราสารขันธ์ ปวงพระอริยะเจ้าทั้งภิกษุและฆารวาส ต่างใช้กำลังบารมีแห่งตนค้ำยันกฏแห่งกรรมอยู่
เพียงเพื่อคำว่า เมตตาธรรมและคุณธรรม

สิ่งที่ท่านทำ บางกรณี สุวิรู้สึกว่ามันไม่คุ้มเลย
ท่านเอาบารมีธรรมที่ท่านสะสมมาไม่รู้กี่ร้อยกี่พันชาติเข้าเป็นค่าคำประกัน
เพียงเพื่อคำว่าเมตตาธรรมและคุณธรรม
แต่ชาวพาราสารขันธ์ผู้รับผลประโยชน์ กลับก่อกรรมกันไม่หยุดหย่อน

ท่านเพียงกล่าวว่า เมตตาธรรม ต้องค้ำจุนโลก
หาไม่แล้ว มิคสัญยี จะปกคลุมไปทั่ว

เมื่อกระทบเทียบกลับสู่ตัวสุวิ ที่เอาแต่หนี ขอลากิจบ้างลาป่วยบ้าง หลบซ้ายเลี่ยงขวาอยู่ตลอด ช่างด้อยค่าเสียจริง
เมตตาธรรมของปวงท่าน ช่างใหญ่หลวงนัก ข้าน้อยขอน้อมคาราวะ ด้วยกายและใจ ต่อความเสียสละที่ท่านได้กระทำ

วันนี้ทุกสิ่งสงบแล้ว
คุณธรรม(เมตาธรรม) ยังต้องค้ำจุนโลก
กฏแห่งกรรมยังเป็นกฏใหญ่ที่ไม่อาจล่วงละเมิด
โต๊ะ สองขา ไม่อาจตั้งอยู่ได้
ทางสายกลางเท่านั้น จึงเป็นขาทีสามของโต๊ะ ที่ทำให้ระบบคงอยู่ได้
ความเอนเอียง เส้นสาย การอุปถัมป์คำจุนกันจึงเกิดขึ้น
ทั้งที่ควรกระทำและไม่ควรทำ
มีเพียงความไม่ประมาทเท่านั้น ที่มาเป็นขาที่สี่ของโต๊ะ
ทำให้โต๊ะตั้งได้อย่างมั่นคง

เพียงนำความไม่ประมาทประกอบลงในธรรม ทางสายกลางเท่านั้น
ระบบก็จะคงอยู่ได้

เมตตาธรรม และกฏแห่งกรรม ที่เคยค้ำยันกันอยู่ต่างถอนถอยหมดสิ้นแล้ว
ต่างทำหน้าที่แห่งตนสมบูรณ์แล้ว

ณ วันนี้ พาราสารขันธ์จะยังคงอยู่หรือไป ขึ้นอยู่กับ
กรรมรวม ที่ชาวพาราประกอบในปัจจุบันสมัยนี้เท่านั้น

สาธุ

 

ใครอยากอ่านเรื่องเต็มๆของ นกอินทรีย์ กระต่ายน้อย และมานพหนุ่ม
เชิญตามลิ้งนี้ไปเลยครับ

http://palungjit.org/showthread.php?t=111372

.

 

ผมมีเรื่องอยากจะสอบถามอ.สามตาคับ เรื่องมีอยู่ว่าผมมักจะได้กลิ่นแปลกๆในตอนกลางคืนที่เป็นวันพระหรือวันโกนอยู่เสมอแต่เป็นกลิ่นหอมนะคับ กลิ่นคล้ายๆกำยานของอินเดียประมาณนี้น่ะคับ ผมอยากทราบง่าอ.พอจะรู้บ้างป่าวคับว่านี่คือกลิ่นอะไร

 

เห็นโพสต์ของอ.สุวิแล้ว..
เคยนั่งคิดมาหลายครั้งนะครับ.. เรื่องนี้
เสียดายบารมีที่พระอริยะทั้งหลายท่านได้สะสมเอาไว้..
ละลายหายไปกับเหล่าผู้คนที่ไม่เคยจะมองเห็นค่า
คนเรา ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตาอยู่แล้ว..
พวกท่านใช้บารมีมาค้ำยัน.. ก็ถ่่วงเวลาให้ผ่านไปได้อีกไม่นาน..
แต่คนเราก็ขยันสร้างกรรมกันไปเรื่อย..เดี๋ยวเวลาก็ต้องมาถึงอีก.. ตอนนั้นตาชั่งคงจะเอียงมากกว่าเดิม..
เฮ้อ...

 

ทุกอย่างมีเหตุและผลในตัวอยู่แล้ว
คงใกล้จะรู้บทสรุปแล้วละครับ

 

รูปที่ว่า เป็นเทพฝรั่ง Hades หรือ Pluto เทพเจ้าแห่งความตาย ถ้าใครตาม
อ่านเรื่อยๆก็น่าจะจับได้ว่าหลายๆท่าน ออกมาเตือนภัยกันเยอะ ไม่ว่า
อ.ตาที่สาม อ.สุวิ พี่ดาวทะเลทรายก็ใช้ศาสตร์ยูเรเนี่ยน รูปแทนคุณvisnu
ก็เปลี่ยน วิบากกรรมช่วงนี้ท่าทางจะหลีกยากสะแล้วววว

ด้วยความสงสารสัตว์โลก เกจิอาจารย์ทั้งหลาย ได้ออกมาช่วยยับยั้งภัยพิบัติ
คิดถึงตอนที่พายุนากิสเข้าถล่มพม่าแล้ว ก็รู้สึกดีใจว่า บารมีในหลวง และ
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ยังเมตตาคุ้มครองอยู่ คนที่ไม่เชื่อก็ยังว่างมงาย อะไรจะมาปิด
มากั้นด้วยมนต์ตราที่มองไม่เห็น บอกมาที ไม่เห็นจะเกิด ไม่เกิดก็แก้ตัวว่า
เลื่อน ชีวิตอยู่แต่ในความประมาท แต่นะ...เวลาทำโทษใครนี่ เอาตอนเผลอๆ
นี่แหละ เจ็บดีนักแล เพราะลืมหาเครื่องป้องกัน

กลุ่มใดทำบุญ หรือบาปคล้ายๆกันก็จะมาอออยู่ใกล้ๆกัน เทพHadesมาที
เขามาก็จะลากกลุ่มบาปที่ถึงวาระ มาทีเดียว ได้หลายวิญญาณ ไม่ต้องมา
หลายๆเที่ยว คนที่ไม่ถึงฆาต เผอิญไปอยู่ในกลุ่มตาย เขาก็เปิดโอกาสให้
มาเล่าให้คนอื่นฟัง ที่ชัดเจนก็ผับที่เอาวินมอไซค์มาเป็นกรรมการ แต่ก็ไม่
เข็ดกัน เดี๋ยววาเลนไทม์ก็มาอีก ใครจะฉลองกับวันตายของนักบุญ
วาเลนไทม์ก็ระมัดระวังเอาเน้อ

อย่างว่าแหละเทศกาลอะไร ก็พยายามห่างจากการรวมเป็นกลุ่มใหญ่ๆ
เผื่อติดร่างแหไปด้วย จะช่วยเหลือกันไม่ทัน ที่อ.ตาที่สามเตือนภัย
ทางทะเลฝั่งตะวันออก ก็น่าจะเลี่ยงๆกันก่อน เทพHeraที่ว่า็จะมาช่วยต้าน
สึนามิของเทพโพไซดอน ของมัจฉานุ (ง่ะ เยอะจัง) กันได้นานรึป่าวเนียะ
แล้วแถวเพชรบูรณ์ พิษณุโลกไม่รู้ว่าอ.สุวิ ตั้งใจเตือนถึงบริเวณนี้ด้วย หรึอเปล่านะคะ
คนสำมะคัญอยู่แถวนั้นเสียด้วยสิ

 

ได้ยินมาว่า อาจารย์ตาที่สามผ่าตัดกายทิพย์เพื่อรักษาโรคได้ รวมเรื่องศิษย์เอกหลายๆท่าน เลยปิ๊งไอเดียว่า จะสามารถผ่าตัดระบบร่างกายให้หายจากโรคอ้วนได้หรือไม่คะ เพราะสมัยนี้ใครๆ ก็อยากผอม ฮุฮุ ถ้าทำได้นะ บีจะลองคนแรกเลยค้าบ และยอมเป็นพรีเซ็นเตอร์+ประชาสัมพันธ์ด้วย อิอิ ตั้งเป็นศูนย์บำบัดเลยค่ะ ดังแน่นอน ไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องใช้สารเคมีใดๆ สนมั้ยๆๆๆๆ

 

คิดได้ ไง ไอเดีย นี้ สุดยอด .......เลยครับ :z2

 

คั่นเวลาขำๆนะคะ รอเรื่องหนุกๆ แต่จะคิดจริงๆก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์ค่า

 

<TABLE cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>^ ^6 อย่างที่ต้องทำในที่ทำงาน^ ^ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เรื่องเล่าก่อนนอน คืนนี้ เรื่องที่ ยี่สิบสาม ของ ตาที่สาม
.."ผี หรือ คน..กัน นี่.."
..................................................................

สมัยที่ยังเป็นเด็ก..เคยได้ ยิน สาวๆๆ ร้องลั่น.." ว๊าย..อีตาบ้า ผีทะเล."
แรกๆๆ ก็ไม่ได้ คิด..แต่รู้จากความหมาย ว่า สาวๆๆ กำลัง ต่อ ว่า ผู้ชาย
ที่ คง ทำอะไร..ที่ ไม่ค่อยเรียบร้อย...แต่ถ้า มีประโยค ต่อ ท้าย อีกว่า
.."ช่าง บัดสี..บัดเถลิง.."..แปลว่า..ไม่ใช่เรื่องดี แน่ๆๆ
.............................................................................
ตอนนี้..โตแล้ว ก็ มานั่ง คิด คำว่า " ผีทะเล.."
มันเป็น ยังไง..เป็น ผี มาจาก ทะเล..
หรือ ว่า หน้า ตาเจ้าหนุ่มทะเล้น..คนนั้นเหมือนผี.
และ ทำไม..ต้องมาเกี่ยวข้อง กับ ทะเล
คนที่เคย อุทาน..อย่างนี้ บ่อยๆๆ..ลอง มาขยาย ความกันดู หน่อย
ว่า..มีที่มาที่ไป อย่างไร กันแน่
.....................................................................
เมื่อ สองปี ที่ ผ่านมา พศ. 2549..มีเพลงลูกทุ่งดัง อยู่เพลงหนึ่ง
ผม ชอบมาก ชื่อ เพลง " ช่วยเปิดไฟแดง ให้ นานๆๆ หน่อย.."
คนร้องเป็น ผู้ชายเสียงดี...จำชื่อไม่ได้
มี อยู่ ตอนหนึ่ง..เนื้อ เพลง คำร้องว่า

...ไม่รู้ว่า..ผี หรือ คน กันนี่..
...โถ ตาของ เรา บอด สี...
....รักกับผี อยู่ได้ ตั้งนาน..

แปลว่า ผี กับคน รักกัน กินอยู่ด้วยกันได้
.............................................................
ทำนอง เดียวกับ เรื่อง "แม่นาก พระโขนง.."
ถ้าไม่มี ชาวบ้าน กับพระ มาวุ่นวาย..
คู่รักบันลือ โลก คู่นี้ คงจะอยู่ด้วยกัน อีกนาน แสนนาน
..............................................................

 

ต้องถาม เสียหน่อย

ขอความ คิดเห็น ของ อาจารย์ หน่อย ครับ
หาก ทิดมาก กับ แม่นาค อยู่กิน กันไป แบบ คน กับผี
โดยไม่มี ชาวบ้าน หรือ คนอื่น มายุ่ง วุ่นวาย

ผล จะเป็นอย่างไร

จะเป็นแบบ คน ไปยุ่ง กับนางตานี หรือ เปล่า
................ผอม แห้ง หมดแรง ตาย ไป เลย .........

อันนี้ ถามจริงๆ นะ ครับ.........

 

ตอนหลังๆๆ นี่..เมื่อ ตามองทะลุมิติ..ก็เห็นโลก พิเศษ มิติ คู่ขนาน
เห็น ผี เดินไป มา ตามถนน..ตามตลาดสด..ขออาหารบุญกิน
พระเดินมา..ก็รู้ว่า จะได้ บุญ..ก็จะเกาะ ห้อย ชายผ้าเหลือง กลับวัด
ใครมีบุญ..ตัวสว่างเดินมา..ก็ ฉุดแขน ฉุด ขา ขอ บุญ.
.คนบางคนที่รู้สึกและสัมผัสได้..ก็จะแผ่เมตตาให้
...........................................................................
เห็น เปรต ตัวยาว สิง อยู่ ตามต้นไม้..ผอม ยาว..เท่า กับ ลำต้นไม้
เหมือน หนังการ์ตูน ที่ เขามักจะวาด หมาจิ้งจอก เวลาจะแอบ ดักจับ ลูกหมู
ก็จะ ทำตัวผอม เท่า ต้นไม้แอบ..อย่างมิดชิด.
.และพวกเราก็ เอาเรื่อง แบบนี้..มาเป็นคำพูด สำหรับ เรื่องที่ไม่จริง
ว่า..."พูดเป็น การ์ ตูน..ไปได้."..ซึ่งแปลว่า..ไม่จริง
...........................................................................
แต่ เปรต สิง ตามต้นไม้ เป็น เปรตตัวยาว จริง ๆๆ" เจอมาเยอะแล้ว
และเท่าที่สัมภาษณ์ เปรต..มัก จะได้ คำตอบ ว่า..
ดั้งเดิม เป็น เจ้า ของ ที่..เจ้า ของ สวนเก่า..พอ ตาย..ก็หวงของ
หวงสมบัติ..ไม่ยอมไปไหน..กลายเป็น ปู่โสมเฝ้า ทรัพย์กลายๆๆ
......................................................................
พวกที่ หวงของ ใช้ เช่น โต๊ะ / เครื่อง เรือนเก่า / บ้าน เก่า./เฟอร์ นิเจอร์เก่า
.ก็จะสิง อยู่ไม่ยอมไปไหน..กลายเป็นบ้านผีสิง..ผีดี มั่ง /ดุ มั่ง .ตามอารมณ์ผี
ที่ ดุ ก็จะมีคนเอาหมอผี มาปราบ มาไล่.
.นิมนต์พระ มาทำบุญ..ทำทาน ให้ไป ผุด ไปเกิด
บ้านจะได้ ดี..ผู้คนลูกหลาน จะได้ เจริญ..มีความสุข
...................................................................

 

กำลัง เล่า เรื่อง คา อยู่ พอดี
ดาวทะเล ทราย แทรก เข้ามา
เรื่อง คนกับผีตานี..
โชคดี น่ะ..ที่ดาวทะเล ทราย หยุด ทัน
ไม่งั้น ผอมแห้ง ตายไป ตั้งแต่ปี ที่แล้ว
เอาประสบการณ์ แท้ๆๆ มาเล่ากันฟังหน่อย.
.ฟัน ผี ตานี ต่างกับ ฟันไก่ ตาฟาง..ต่างกัน ตรงไหน
.........................................................