เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

เป็นเรื่องน่าทึ่งมากค่ะ

พลังคลื่นเต่ามีจริงๆ นะ ไม่เชื่อคลิกดูรูปข้างล่างจิ เป็นไฟล์ gif นะ
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
55555555555555555

 

^
^
^
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

...................สมเด็จพระนเรศวร เสด็จ...........................

หลังจากที่ผมกลับมาจากบ้าน หมอวิรุฬ ผมก็มาเจอ เหตุการที่ไม่คาดฝันครับ.
ปรากฏว่า บริษัทที่ผมทำงานอยู่ ถูกบริษัทแม่ที่ฮ่องกงยุบครับ
เพราะทำงานกันดีมากไป เงิน 400 ล้าน ทำเจ๊งภายใน 3 ปี
ก็เลยถูกลดขนาดบริษัทลงมาเป็นแค่จัดจำหน่ายเพลง
มาจากต่างประเทศเท่านั้น แต่ผม ยังอยากทำเพลงต่อ ก็เลย
ชักชวน เพื่อนในบริษัทเก่ามาตั้งบริษัทใหม่
ใช้ชื่อว่า บริษัท TOWN HOUSE RECORDS .
........................................................................................



โดยมาเช่าบ้าน 2ชั้นหลังหนึ่งทำสัญญา เช่า 4 ปี
และมีห้องบันทึกเสียงเป็นของตัวเองด้วย และการทำบริษัทนี้ครับ
ที่ให้ผมนึกถึง นางตานี ที่หมอวิรุฬให้มา เพื่อกันผู้หญิงออกจากชีวิต
ก็คงจะเป็นตอนนี้ล่ะครับถ้าเค้าจะช่วย ก็จริงตามที่หมอวิรุฬบอกครับ
ก่อนหน้านั้นตามประสานักดนตรีก็มีแฟนเยอะครับ หลายคน
แต่พอได้ นางตานีมา ก็เหลือแค่คนเดียว ( พอเป็นพิธีกระมังครับ).
.........................................................................

........หลังจากย้ายที่พัก สร้างห้องอัดเสร็จเรียบร้อย

ทุกอย่างเข้าที่ ก็เหมือนเดิมครับ เที่ยงคืนทุกคืน
ก็เข้าสมาธิหาความสงบครับ หลังจากเข้าระดับฌาน
ผมก็คลายออกมาที่อุปจาระ
...........................................................................


ผมก็เห็นชาย 3 คน มายืนอยู่ที่ปลายเตียง
โดยเห็นแค่เค่า ปลายเท้าไม่เห็นครับ อ้า ....มาแบบนี้
ท่านผู้อ่านคงทราบแล้วกระมังครับ ว่าไม่ใช่คนแน่นอนครับ
คนซ้ายกะคนขวา แต่งตัวชุดแบบแม่ทัพไทย อโยธยา
แต่ไม่ใช่ชุดออกรบ มีดาบไขว้หลังคนละ 2 เล่ม
...................................


คนกลางครับ รูปร่างสันทัด สูงราว 180 เซ็นติเมตร
ไม่พายดาบครับ ผิวดำแดง ไม่มีหนวด ตาเป็นตาโศก
คือคล้าย ๆ คนมีน้ำตาหล่อเลี้ยงตลอดเวลา....ใส่ฉลองพระองค์สีน้ำเงิน.....
.....................................................


..........ท่านผู้อ่านครับ .....ให้ตายอีกกีชาติผมก็จำได้ว่า
นี่คือ สมเด็จพระนเรศวรเจ้า ผู้ที่ผมเคารพรักเทิดทูลเหนือเกล้า
เหนือกระหม่อม ส่วน ทหารที่มาด้วย 2 คน ผมจะไม่บอกว่าเป็นใครครับ..
.....ท่านคล้าย ๆ จะยิ้ม แต่ไม่ยิ้มครับ.. ท่าน พูด ขึ้นมาก่อนว่า
....เราคือพระนเรศวร เราจะมาสอนวิชาปราบวิญญาณให้เจ้า ...
.......ก่อนอื่นเราจะทำภาพให้ดูว่าเจ้าเมื่อสมัยอยู่กับเรา เป็นอย่างไร........
........................................................

...แล้วภาพก็เกิดขึ้นไวมากครับ แต่จิตก็รับรู้ได้ทันตลอด
จดจำเหตุการณ์ในอดีตได้พอควร แต่ไม่ทั้งหมดครับ
รู้ว่า มาอยู่กับพระองค์ท่านได้อย่างไร ทำงานอย่างไร

รบอย่างไร พระองค์ท่านรู้สึกอย่างไรกับผม และผมทำผิดอะไร
และตายอย่างไร .......เมื่อรำลึกอดีตเสร็จ ท่านก็บอกว่า
.... นับแต่นี้ไป พระองค์ท่านจะมาสอนวิชาปราบวิญญาณให้
ทุกคืนวันอาทิตย์ ...................แล้วพระองค์ท่านก็หันหลังหายวับไป ...........

............................................................

...ผมก็คลายสมาธิออกมา...............นึกถึงคำที่วิรุฬบอกว่า
เมื่อถึงบ้านก็จะเชื่ออย่างไม่สงสัยเอง ก็ด้วยเหตุนนี้เองครับ .
.........................................................................


ผมก็มาพิจรณาอย่างถี่ถ้วนว่า เรา อุปทานไปรึเปล่า
ก็ตรวจสอบอารมณ์ตัวเอง และขั้นตอนของการเข้าสมาธิของ
วันนี้อย่างละเอียดว่า เป็นไปตามขั้นตอนรึเปล่า ก็ถูกต้องทุกอย่าง
เหมือนที่ทำมา 20 ปี เอาว่ะ ขนาดพระองค์ท่านมาปรากฏในสมาธิ
ขนาดนี้แล้วไม่เชื่อก็ไม่รู้จะว่ายังไง ....ถ้ามันเป็นอุปทาน นี้น่ะ
20 ปี ทำมาถือว่าผิดหมดล่ะ อุปทานหมดล่ะครับ
ด้วยเหตุนี้จึงปักใจเชื่ออย่างไม่สงสัย
ว่าผมเป็นทหารของพระองค์่ท่านจริง
และยังมีเหตุการณ์ยืนยันอีกว่าใช่ อีกเหตุการณ์ ที่ผมรู้ว่า
เหตุใดผมจึงได้มาเป็นทหารของพระของท่านครับ
จะเล่าให้ฟังคราวหน้าครับ
..................................................................................


..........หลังจากนั้นในวันอาทิตย์ ผมก็จะเข้าสมาธิ
หวังว่าจะได้พบพระองค์ท่านอีก เพราะพระองค์ท่านบอกจะมาสอน
วิชาปราบวิญญาณให้ ....แต่ท่านไม่มาครับ
ผมจึงคลายสมาธิแล้วนอน.................
...คืนวันนั้นผมฝันไปว่า ได้ไปงานศพ ได้ดูศพ
และได้เห็นสิ่งที่ไม่น่าเจริญหูเจริญตาครับ ....
..พอตื่นมา ก็คิดว่าตัวเองฝันร้ายจัง ก็ไม่ได้สังเกตุอะไร ....
...แต่ทีนี้ ครับ ปรากฏว่าผมฝันแบบนี้ทุก ๆ วันอาทิตย์ครับ
ฝันทุกวันอาทิตย์ครับ ผมก็มาพิจรณาอีกครับ นี้มันเรื่องอะไรกัน
ทุกคืนวันอาทิตย์ แทนที่พระองค์ท่านจะมาสอนวิชาให้
ผมกลับฝัน เห็นแต่ศพเน่า ๆ .....ก็มาตีความคำว่า วิญญาณ ...
.......................................................



. ในทางพุทธศาสนา คำว่าวิญญาณคือตัวรับรู้สัมผัสครับ
ผมตีความหมายผิดไป พระองค์ท่านคงไม่มาสอนให้ปราบผีแน่ ๆ
พระองค์ท่าน มาสอน อสุำภะกรรมฐาน ให้ผมครับ
ท่านรู้ว่าผมมีราคะจริตครับ..........เกิดมากี่ชาติ กี่ชาติ
ก็เสียเพราะผู้หญิง ....ในชาติที่อยู่กับพระองค์ท่านนี้ก็เสีย
เพราะผุ้หญิงนี่ล่ะครับ............หลัง ๆ มาตอนนั้น
พระองค์ท่านเพิ่มรอบให้อีก ปรากฏว่า ฝันทั้ง เสาร์-อาทิตย์เลยครับ .
.....เสาร์ อาทิตย์นี่ เตรียมตัวเลย ฝันเห็นซากศพแน่นอนครับ ..

...................................................

.....ผมจากพระองค์ท่านมาเกิดใหม่
พระองค์ก็ยังทรงมีพระเมตตาหาที่สุดมิได้เช่นเดิมครับ
ยังความปราบปลื้มใจให้แ่ก่ผมไม่น้อยครับที่ท่านเมตตาเสด็จมาสอน...........
..ตอนนั้นละวางได้มากพอสมควรครับ
ไม่มีผู้หญิงมาให้ได้จีบเลยครับ
จนกระทั่ง 4 ปีผ่านไป;aa14...เดี๋ยวมาีต่อครับ


ปล. ผมขออธิฐานจิต ขอให้เพื่อนพี่น้องที่ได้เคยเป็นทหารของพระองค์ท่านร่วมรบกันมา ขอให้ได้มาอ่านกระทู้นี้ และพึงระลึกถึงอดีตได้ตามแต่บารมีของแต่ล่ะท่านด้วยเทอญ
​

 

ทำไมมาอ่านในส่วน ปล. ของคุรุชยา แล้วเกิดอาการน้ำตาคลอขึ้นมาก็ไม่รู้

 

เปิดเวปนี้ทีไรผมต้องเปิด 3 กระทู้นี้ก่อนติดตามอ่านเสมอผมคงไม่มีุบุญวาสนามีความดีพอเหมือนกับอาจารย์หลายๆท่านที่ทำได้แต่ผมสนใจเรื่องสมาธิมากครับมันก็มีส่วนเกี่ยวกับ 3 กระทู้นี้เหมือนกัน
-เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้__ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์
-การฝึกเปิดตาที่ สาม และวิธีใช้ตาที่สาม
-การเปิดตาที่สาม

 

สาธุ ขอให้ระลึกได้เช่นกันค่ะ หากเคยล่วงเกินใครไว้ ขออโหสิกรรมด้วยนะคะ

 

.........................จริง ๆ แล้วผมอยากให้สมาชิกชมรมคนตาทิพย์ท่านอื่น ๆ ได้เข้ามาช่วยกันเล่าบ้างครับ หลาย ๆ ท่านก็เจอมาเยอะพอ ๆ กับผมเหมือนกัน แต่รู้สึกว่าท่าน ๆ จะไม่ค่อยอยากจะเล่าเหมือนผมครับ น้อง บาส ไปไหนแล้วครับ มาช่วยกันหน่อยครับ ทุกท่านที่มีเกล็ดเล็กเกล็ดน้อย ก็มาแลกเปลี่ยนความรู้กันได้น่ะครับ เคารพทุกท่านครับ;aa36

 

ขอพลังให้ผมด้วย ผมขอสัญญาจะใช้ในทางสันติ

 

อุ้ย....มาอ่านของพี่ชยา ตรง ปล...คุณน้องขนลุกเกรียวหลายรอบเลยเจ้าค่ะ...

..ขออนุโมทนากับท่านอาจารย์ และทุกท่านนะคะ...

..จริง ๆๆเคยโดนเจ้าที่ไล่!!....ให้ไปทำบุญมาแล้ว...เอาไว้ปีหน้าหนูมาเล่านะคะ...

.เพราะช่วงนี้สอบกับออกต่างจังหวัดค่ะ..

..
..
...เอ่ออ.แล้วก่อนเล่านี้ต้องขออนุญาตใคร .เป็นทำเนียมก่อนมั้ยค่ะเนี่ย..

 

^
^
^
อ่ะนะ..คุณเพื่อน...เล่าปีหน้าเลยเหรอ....


รอก็ได้.. แต่อย่า ขี้เกียจเหมือนเขียน space หล่ะ..คุณนางสาวไทย


อิอิ!!~

 

คนเอาเขียงหมูมาอาจไม่รู้ว่า เป็นไสยดำเกี่ยวคนเข้าร้านมั้งคะอาจารย์
แบบไปเจอบอกว่า อันนี้เรียกลูกค้า ก็ไปซื้อมา ส่วนสาวที่ไม่กลัวผีนี่
สุดยอดจริงๆ คนอะไร เห็นผีแล้วยังว่าเห็นไม่สะใจซะนี่

พี่ชยาเล่าเรื่องเก่งจริงๆ ไม่ต้องอ้างอิงประวัติศาสตร์ เล่าความเป็นอยู่
ธรรมชาติแบบนี้ เขียนเป็นหนังสือได้เป็นเล่มๆเลยนะคะ ติดตามเหมือน
อ่านนิยายรายวันเลย

 

.......................ใครได้อ่านตรงนี้ของผมแล้วมีอาการปีติแล้ว ก็แสดงว่า พวกเราได้เกิดร่วมชาติกันมาครับ ได้รับใช้เบื้องพระยุคคลบาทสมเด็จท่านมาด้วยกันครับ ตามที่ผมได้อธิฐานจิตใว้ครับ ก็คงจะระลึกอะไรกันได้บ้างตามสมควรน่ะครับ ถ้าทำยังไม่ได้ก็หมั่นฝึกนั่งสมาธิให้มาก ๆ ครับ เคารพรักทุกท่านน่ะครับ..........................;aa13

 

.....อืมมม... มีเรื่องเล่า....พึ่งนึกเรื่องนี้ได้



เรื่อง ปาฏิหาริย์ ... กับ...ความโง่เขลาของตัวเอง แบบขำๆ...



เล่าให้ใครฟังเค้าก็ขำ.... ขำว่า ...



"ทำไมแกโง่จัง"...



เอิ้กๆๆๆๆๆ



แต่ตอนนี้ .. ง่วงนอน... อิอิ

 

จำได้ว่าเกิดร่วมสมัยกะคุณชยาแน่นอน แต่คงจะไม่ได้เจอกันเพราะดิฉันอยู่ฝ่ายใน และชาตินั้นดิฉันไปอยู่พม่า ตายที่พม่า ยังเสียวๆอยู่ไม่กล้ากลับไปพม่าเท่าไรเพราะดิฉันทั้งแช่ง ทั้งชังพม่า ขนาดน้องบาสไปในที่ๆเป็นของไทยแค่เจอทหารพม่ายังแย่ แล้วนี่ถ้าดิฉันไปถึงพม่าไม่ถูกยำเละเลยเหรอ เง้อ แต่มาชาตินี้ไม่ได้คิดไร แค่อยากไปเห็นที่ๆเคยไปอยู่แค่นั้นเอง อิอิ

 

มันส์จริงๆครับพี่ชยา อ่านแล้วขนลุกเลย พระองค์ท่านมีเมตตามากๆที่ชอบมาสอนธรรมะ อยากนั่งสมาธิเก่งๆ จังจะได้ไปดูว่าเมื่อก่อนพี่ชยาหล่อแค่ไหนถึงมีสาวติดตรึม (ล้อเล่น)

 

ไหงคุณบาสพูดอย่างงี้ จะแบ่งให้ผมบูชาซักองค์ไหมครับ

 

ผมขออนุญาตเล่าเรื่อง ขนาดของพระประธาน
ผมเคยได้อ่านจากที่ไหนที่หนึ่งว่าขนาดของพระประธานจะต้องมีขนาด 5 นิ้วขึ้นไป

เรื่องมีอยู่ว่า
ผมกับเพื่อน ซึ่งมีศรัทธาหลวงปู่ทวดและหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ จะนัดกันเพื่อ
ร่วมสวดบทพระมหาจักรพรรดิ์ เวลา 20.30 น. วันพฤหัสที่บ้านเพื่อนแถวสุขุมวิท
และในช่วงแรกๆที่ผมกับเพื่อนเริ่มสวดบทจักรพรรดิ์ จะไม่มีพระประธาน ผมจึงได้
บอกเพื่อนให้หาพระประธานมาองค์หนึ่งไว้กลาง และหป.ทวดอยู่ซ้าย ลป.ดู่อยู่ขวา

วันพฤหัสต่อมา เพื่อนได้หาพระมาองค์หนึ่ง เป็นพระที่ทำจากชวาลอซสกี ทำด้วย
ทองคำและประดับด้วยคริสตัล ขนาดหน้าตัก 1.5-2 นิ้ว ซึ่งเขาซื้อมาจาก USA สมัยไปเรียนปริญญาเอกที่นั่น

วันนั้นผมและเพื่อนจึงได้ขออธิษฐานขอบารมีจากหลวงปู่ทวดและหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
สงเคราะห์ให้พระองค์นั้นเป็นพระจักรพรรดิ์ เพื่อใช้เป็นพระประธานในการสวดมนต์เวลา
20.30 น.ในวันนั้น

ในใจของผม จากที่ได้เคยได้ยินมา จึงเกิดความสงสัยในใจว่าขนาดเล็กเพียงนี้จะเหมาะ
หรือไม่ประการใด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกับเพื่อน เพราะเห็นว่าเขาชอบพระองค์นี้มาก

และในคืนนั้นเอง ระหว่างที่กำลังสวดบทพระมหาจักรพรรดิ์อยู่ (ผมจะหลับตาสวด)
ผมได้เห็นองค์พระประธานองค์ใหญ่สีทอง (ผมนั่งหันหน้าเข้าหาองค์พระ ห่างไม่เกิน
2 ฟุต ซึ่งก็เป็นระยะที่ผมอยู่ห่างจากพระประธานองค์เล็กสีทององค์นั้น)
อยู่ด้านหน้าของผม ผมหันไปทางซ้ายของผม ก็เห็นเพียงแค่หัวเข่าขวาขององค์พระ
และเมื่อหันไปทางขวา ก็เห็นเพียงหัวเข่าซ้ายขององค์พระ (ระหว่างเข่าหรือหน้าตัก
ขององค์พระน่าจะ 30 เมตรได้) เมื่อผมเห็นหัวเข่าองค์พระแล้ว จึงเงยหน้าขึ้นเพื่อจะ
มองพระพักตร์ แต่ไม่เห็นเพราะองค์ใหญ่มากๆ

หลังจากสวดมนต์เสร็จในคืนนั้น ผมจึงเข้าใจเองว่า แม้องค์พระ หรือรูปของท่าน
จะองค์เล็กน่ารักและสวยงามมาก แต่กายทิพย์ขององค์ท่านองค์ใหญ่มาก ดังนั้นองค์
พระจะใหญ่หรือเล็ก ก็สามารถเป็นพระประธานได้ครับ

 

ได้อ่านตรง ป.ล. ของคุณชยา แล้วรู้สึกวาบ ๆ ซ่า ๆ ที่ศรีษะแรง ๆ กับซ่า ๆ ไปทั้งตัว แต่ระลึกชาติได้หรือไม่ ไม่ทราบอะค่ะ แต่เคยเดินจงกรม แล้วแว๊บเข้ามาว่า เคยทำมาก่อน กับจะรู้สึกว่าตัวเองเคยบวชเป็นพระน่ะค่ะ (ไม่ทราบว่าอุปทานไปเองรึเปล่านะคะ)

ตาที่สามยังมองไม่เห็นอะไรเลยค่ะ กับเสียงที่ได้ยินในกระโหลกได้ยินครั้งเดียว แล้วก็ไม่ได้ยินอีก สู้ ๆ นั่งสมาธิต่อไป....

(ยังติดตามอ่านของทุกท่านเรื่อย ๆ นะคะ)

 

สาธุกับเรื่องราวที่ได้อ่านมาค่ะ อ่านเรื่องท่านแล้วน้ำตาคลอ
พี่ชยาเป็นคนที่โชคดีค่ะ^^~

เปิดมาที่กระทู้นี้ที่ไร ปิดไม่ลงทุกครั้ง

 

เป็นจริงดังนั้นครับไม่ต้องเอาพระหน้าตักเป็นนิ้วหลอกครับพระเครื่องทั่วไป
อย่างเช่น พระผงสุพรรณพอเรียกดูก็ใหญ่ได้เป็นร้อยเมตรเท่าสนามฟุตบอล
เลยครับ