การสวดมนต์ก่อนที่จะนั่งสมาธิ (ขอ อโหสิกรรม ๓ ภพ )

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 23 ตุลาคม 2008.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    [​IMG]



    ขอ อโหสิกรรม ๓ ภพ

    ก่อนที่จะนั่งฝึกสมาธิ วิปัตสนา ผมก็แนะนำสวดบทนี้ครับ

    ตั้ง นโม 3 จบ (นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ)

    ข้าแต่พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรมทั้งปวง พระอรหันต์ พระอริยสงฆ์ทั้งหลายทั้งปวง

    บรรดาสิ่งศักดิ์สิทธ์ทั้งหลายทั้งปวง ท่านปู่ ท่านย่าม่านแม่ศรี ท่านแม่จิต ลุงพุฒท้าวเวสสุวัณ มหาราชทั้งสี่ พรหมยมยักษ์ทั้งปวง

    เทพวดา พญานาค พญาครุฑทั้งหลายทั้งปวง สิ่งที่คุ้มครองปกป้องรักษาข้าพเจ้า แม่พระธรณี แม่พระคงคา แม่พระพาย แม่พระเพลิง

    แม่พระโพสพ พระพิรุณ ครูบาอาจารย์ ผู้ที่มีพระคุณเคารบทั้งหลายทั้งปวง
    พ่อแม่ปู่ย่าตายายลุงป้าน๊าอาเพื่อนพี่น้อง ลูกญาติวงศ์

    ทั้งหลายทั้งปวง ที่มีชีวิตอยู่และที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เป็นญาติก็ดีที่ไม่ใช่ญาติก็ดี ถึงเจ้าหรรมนายเวรที่ผูกจองเวรกันมาที่ฆ่ากันมา

    ที่ทำร้ายกันมาที่อาฆาติพยาบาทกัน ที่เบียดเบียนกันมาที่มีโทษกรรมกันมาเพื่อนร่วมงาน งานที่ทำบ้านที่อยู่อาศัยถึงสรรพสัตว์

    ทั้งหลายทั้งปวง ที่เคยฆ่ากันมา ที่เคยทำร้ายกันในชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ บรรดานายนิรยบาน สัมพเวสี สัตว์นรก เปรด อสุรกาย

    สัตว์เดรฉาน กรรมใดๆที่ทำกับผู้ใดหรือทำกับทรัพย์สินของสงฆ์หรือวัตถุต่างๆ ที่เป็นปัจจัยในการดำรงชีวิตที่เจตนาหรือที่มิได้เจตนา

    ถึงฟ้าคำสาบาน คำสาบแช่ง ทุกชาติทุกภพ สิ่งต่างๆที่ข้าพเจ้ากระทำความผิดที่ประมาท ล่วงเกินมาตั้งแต่ชาติปางก่อน มาจนถึงชาติปัจจุบัน

    ไม่ว่าจะเป็นการกระทำผิดทาง กายกรรม ทางวจีกรรม,ทางมโนกรรม ทั้งต่อหน้าก็ดีลับหลังก็ดี ข้าพเจ้ากราบขออโหสิกรรมอดโทษ

    อดเวรอดกรรม อย่าจองเวรกรรม อย่าได้มีเวรมีกรรม ปลดหนี้กรรมเวร ขอลบล้างหนี้กรรมเวร พ้นจากทุกข์พ้นจากภัยพ้นจากโรคร้าย พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร ขออโหสิกรรมดว้ยเทอญ

    แม้แต่กรรมที่ใครๆทำแก่ข้าพเจ้าก็ตาม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้ทั้งหมดทั้งสิ้นเป็นการอภัยทานด้วยเดชเดชะพระบารมี ขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรมทั้งปวง พระอรหันต์ พระอริยสงฆ์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้ข้าพเจ้ามีจิตที่บริสุทธิ์ สะอาดแจ่มใส

    ธรรมใดที่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสไว้ได้แล้ว ขอให้ข้าพเจ้ามีดวงตาเห็นธรรมได้รู้ ได้ปฏิบัติธรรมนั้นเข้าสู่พระนิพพาน ด้วยเทอญ


    ---------------------------------------------------------

    Watbangnomkho.com

    ---------------------------------------------------------
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ตุลาคม 2013
  2. TUK2800

    TUK2800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,766
    ค่าพลัง:
    +1,161
    อนุโมทนาสาธุ
    <TABLE class=tborder id=post1600625 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_1600625 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">อานิสงค์ของการสวดมนต์
    สำหรับใครที่คิดว่าเราสวดมนต์ไปวันๆเพื่อประโยชน์อะไร ท่องๆไปบางครั้งสวดไปเราเองก็ไม่ไดรู้หรือทราบถึงคำแปลเลยแม้แต่อย่างใดดังนั้นมีหลายคนที่ตั้งคำถามที่ว่าเราสวดมนต์ หรือแม้แต่ อ่านหนังสือธรรมะไปเพื่ออะไรมาดูกันด้านล่างนี้เลย ... .. .
    1. ไล่ความขี้เกียจ :ขณะสวดมนต์ อารมณ์เบื่อ เซื่องซึม ง่วงนอน เกียจคร้าน จะหมดไป เกิดความแช่มชื่น<O:p</O:p
    กระฉับกระเฉงขึ้น
    2. ตัดความเห็นแก่ตัว :เพราะขณะนั้นอารมณ์ของเราหน่วงอยู่ที่การสวด ไม่ได้คิดถึงตัวเอง ความโลภ โกรธ หลงจึง<O:p</O:p
    มิได้กล้ำกลายเข้าสู่วาระจิต
    3. ได้ปัญญา : การสวดมนต์โดยรู้คำแปลรู้ความหมาย ย่อมทำให้ผู้สวดได้ปัญญา ความรู้ แทนที่จะสวดแจ้วแจ้ว <O:p</O:p
    เหมือนนกแก้วนกขุนทอง โดยไม่รู้อะไรเลย เป็นเหตุให้ถูกค่อนว่า ทำอะไรโง่ๆ
    4. จิตเป็นสมาธิ : เพราะขณะนั้นผู้สวดต้องสำรวมใจแน่วแน่ มิฉะนั้นจะสวดผิดได้หน้าลืมหลัง เมื่อจิตเป็นสมาธิ <O:p</O:p
    ความสงบเยือกเย็นในจิตจะเกิดขึ้น
    5. ได้เฝ้าพระพุทธเจ้า : เพราะขณะนั้น ผู้สวดมีกาย วาจาปกติ มีศีล มีใจแน่วแน่ มีสมาธิมีความรู้ระลึกถึงคุณความดี<O:p</O:p
    ของพระพุทธเจ้ามีปัญญาเท่ากับเฝ้าพระองค์ด้วยการปฏิบัติบูชา ครบไตรสิกขาอย่างแท้จริง ... .. .

    ที่มาhttp://dharma.thaiware.com/dharma_article.php?id=129
    <!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    • ผู้ถาม : เมื่อทำบุญแล้ว ถ้าจะอุทิศส่วนกุศลภายหลังจะได้ไหมคะ...........?
      หลวงพ่อ : การทำบุญไปแล้วครั้งหนึ่งสักกี่ปี ๆ บุญก็ยังมีอยู่ถ้าทำไปแล้วสัก ๓๐ ปี ก็ยังอุทิศส่วนกุศลได้ บุญมันไม่หาย ไม่ใช่เราทำบุญแล้ว เดี๋ยวเดียวมันหายไปไม่ใช่อย่างนั้นนะ

      ผู้ถาม :แล้วถ้าเผื่อทำบุญแล้ว ไม่ได้อุทิศส่วนกุศลจะได้บุญเต็มที่ไหมคะ...?
      หลวงพ่อ : ก็ได้เต็มที่อยู่แล้ว เราเป็นผู้ได้สมบูรณ์แบบ แต่อยู่ที่ว่าเราจะให้เขาหรือไม่ให้ การอุทิศส่วนกุศล นี่นะ ถ้าเราไม่ให้ เราก็กินคนเดียวใช่ไหม..... ทีนี้ถ้าเราให้เขาของเราก็ไม่หมดอีก ส่วนที่เราให้ไปไม่ได้ยุบไปจากของเดิม อย่างเรื่องของ พระอนุรุทธ สมัยที่ท่านเกิดเป็นคนเกี่ยวหญ้าช้างของมหาเศรษฐี เวลาที่ท่านทำบุญแล้ว เจ้านายขอแบ่งบุญ ท่านก็สงสัยว่าการแบ่งบุญน่ะจะแบ่งได้ไหม จึงไปถามพระปัจเจกพุทธเจ้า ที่ท่านรับบาตรนะ ท่านก็เปรียบเทียบให้ฟังว่า

      "สมมุติว่าโยมมีคบ แล้วก็มีไฟด้วย คนอื่นเขามีแต่คบ ไม่มีไฟ ทุกคนต้องการแสงสว่าง ก็มาขอต่อไฟที่คบของโยมแล้วคบทุกคนสว่างไสวหมด อยากทราบว่าไฟของคุณโยมจะยุบไปไหม....?
      ท่านอนุรุทธก็บอกว่า ไม่ยุบ

      แล้วท่านก็บอกว่า "การอุทิศส่วนกุศลก็เหมือนกัน ให้เขา เขาโมทนา แต่บุญของเราเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์"

      ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ
      ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
      อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท้าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอเธอเมื่อใด ขอให้เธอได้อนุโมทนาส่วนกุศลนี้ด้วยเถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
    <!-- / message --><!-- edit note -->
     
  4. Nutuk

    Nutuk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +347
    [​IMG] ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

    " การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง "






    ขอช่วยบอกบุญต่อจ้า บริจาคอวัยวะที่ http://www.organdonate.in.th/
    บริจาคดวงตาที่ http://www.eyebankthai.com/
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ต้องการบริจาคนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ <!-- / sig -->
    <!-- / message -->
    <!-- / message -->
     
  5. yordnakorn

    yordnakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2008
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +653
    อนุโมทนาสาธุ ในผลบุญด้วยครับ ให้แผ่ไปทั่วแสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล..สาธุ..
     
  6. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,728
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,020
    เห็นด้วยกับพี่ TUK2800 ครับ อนุโมทนาครับ
     
  7. dharmathai

    dharmathai สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +18
    ดีใจทีมีคนใช้บทนี้ครับ

    ผมดีใจมากที่จะเจอโพสท์นี้ครับผม
    ว่าผทเป็นคนโพสท์ต้นฉะบับในเวบ watbangnomkho (ซึ่งไม่มีแล้วครับ ผมก็ยอมยกเลิกเวบเพราะว่าไม่มีเวลาบริหารมันอย่างที่สมควรสำหรับเวบของวัดที่ชื่อดังขนากวัดบางนมโคครับผม)
    เมื่อก่อนผมได้อยู่และปฏิบัติกับหลวงพ่อยงค์เจ้าอาวาส วัดบางนมโคแต่ในที่สุดมีภาระต้องกลับไปอยู่กทม

    แต่ท่านเป็นพระที่ได้ให้บทสวดนี้ให้ผมสวดก่อนนั่งวิปัสสนากรรมฐาน และผมได้อานิสงค์มากมาจากการสวด

    เคล็ดลับของการสวดบทนี้คือว่า ถ้าเราได้ประกอบพิจารณาสิ่งที่มีกล่าวไว้ในบทสวดนี้แล้วได้สรุปว่ายอมรับว่ามีความสัจจะและมีเหตุผล แล้วพอสวดก็สวดอย่างได้หมายความว่ามันจริงๆ ก็จะเป็นปีติหรือถึงน้ำตาไหลก็ได้ ก็จะลบล้างสิ่งอกุศลในจิตใจเรา เหมือนกะลบเวรกรรมให้เรากลับมามีจิตสะอาดไม่มีสิ่งรบกวนการนั่งสมาธิ

    ยิ่งหมายความว่ามันจริงจังก็ยิ่งได้ผลครับ
    ต้องอ่านให้ถึงใจก่อนสวดครับ

    ผมก็ปลื้มใจเห็นว่ามีคนเอาบทสวดนี้ที่หลวงพ่อให้ผม ว่าในสายตาผม หลวงพ่อถึงพูดน้อย(ทำให้รู้ยาก) ก็เป็นพระอริยสงฆ์ที่ไม่ได้ถูกโฆษณา แต่ผมรับรองว่าท่านเป็นพระที่ก้าวหน้าเข้าสู้พระอริยมรรค์ได้แล้ว ท่านไม่ได้ให้ผมสวดบทนี้ฟรีครับ ท่านเป็นเกจิแบบหายากแล้วในบัจจุบัน ท่านได้ให้บทสวดที่มีปฏิหาริย์อยู่ในนั้นอย่างแนนอนครับ

    ตอนนี้ผมได้ดัดแปลงคำขออโหสิกรรม 3 ภพ เป็นภาษาอังกฤษแล้วแจกให้ต่างชาติสวดกัน

    ใครๆก็มีเพื่อนต่างชาติที่อยากให้เขาได้อ่านหรืว่าสวดก็โหลดได้จาที่นี้ครับผม เป็นแฟ้มฉะนิด PDF ครับ มี2ภาษา หรือว่า ไทยอย่างเดียว
    ทิ้งท้ายว่า ขอโทษที่ว่าฉะบับไทยก็เขียนคำว่า วิปัสสนา ผิด (วิปัตสนา อิอิ ตอนนั้นผมยังไม่เก่งภาษาไทย)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 ธันวาคม 2010
  8. itemnoi

    itemnoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2013
    โพสต์:
    440
    ค่าพลัง:
    +323
    แต่ก่อนทำบ่อย เด๋วนี้การนั่งสมาธิได้น้อย
     

แชร์หน้านี้

Loading...