ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    ที่อื่นไม่ค่อยอยากรู้เท่าไร อยากรู้เรื่องของ คนในเว็บพลังจิต

    ว่า บ้านใครเกิดภัยพิบัติบ้าง เพราะ กระทู้นี้ มีมา 3 ปี กว่าเเล้ว นะคะ

    ทั้งคุณ kananun, คุณ เกษม, คุณ VANCO, คุณหนุมาน คุณ Falkman คุณ WebSnow ฯลฯ

    ใครโดนภัยพิบัติกันบ้าง? ว่าไงคะ ? อยากรู้นะเอย นะเอย
     
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และ ปัญญา ****

    ศรัทธา
    ศรัทธา... ใน หลักสัจจะธรรม
    ธรรมเที่ยง หลักเดียวที่ปักไว้มั่นคง มีผลรอบคอบจักรวาล
    ศรัทธา.... เชื่อว่า สัจจะมีผลตอบแทน
    เชื่อว่า สัจจะเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า นำพาให้พ้นทุกข์

    วิริยะ ... มุ่งมั่น ตั้งใจขจัดกิเลสนิสัย อย่างจริงจัง
    ด้วย สัจจะปฏิบัติ เป็นประจำ
    เพื่อ เปลี่ยนชีวิตตนเองไปในทางที่ดี หลุดพ้นจากนิสัยที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด

    สติ ... เกิดขึ้นในชั่วโมงที่ปฏิบัติตนด้วย สัจจะ
    รู้สึกตัว รู้ดี รู้ชอบ

    สมาธิ ....เกิด สมาธิพิจารณา ตลอดเวลาในชั่วโมงที่ปฏิบัติตนด้วย สัจจะปฏิบัติ
    เกิดสมาธิการพิจารณาตนเอง พิจารณาการกระทำ พิจารณาผลที่จะเกิดขึ้น

    ปัญญา ... คือ ผลที่ได้
    เกิดความรอบรู้ รู้ที่ผลดี ผลเสีย รู้เหตุ รู้ผล
    รู้ว่าผลที่เกิดขึ้น เกิดจากผลการกระทำใด
    ปัญญา...เป็นผลจาก "ตัวกระทำ" ของตนเอง

    ตัวกระทำ....เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อเกิด การกระทำใดๆ ขึ้นมา
    ตัวกระทำ ... เป็น สิ่งที่ไม่ตาย ไม่สูญสลาย จะสะสมติดตัวไปตลอดชั่วกัปชั่วกัลป์ และมีผลตอบแทน
    เป็น สัจจะธรรม

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2008
  3. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    Hagupit

    Look at its size.......

    Holy cow!

    [​IMG]

    Thank you again Falkman.
     
  4. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    ใครอยากได้ก็บอกนะคะ จะได้จัดให้ .....

    ปีก่อนไฟไหม้ไปหลายเอเคอร์ก็ว่าใจร้าย ปีนี้ฝนมากหน่อยก็ว่าใจร้ายอีก.....เอาใจมนุษย์ไม่ถูกเลยนะเนี๊ย
     
  5. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    [FONT=Tahoma,]วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11152 มติชนรายวัน


    [/FONT][FONT=Tahoma,]น้ำล้นเขื่อน[/FONT][FONT=Tahoma,]ลำ[/FONT][FONT=Tahoma,]พระเพลิงแล้ว [/FONT][FONT=Tahoma,]อ่างแควระบมเจอรอยรั่วซึม
    <table style="width: 11px; height: 12px;" align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
    </td></tr></tbody></table>
    @ น้ำล้นเขื่อน
    [/FONT][FONT=Tahoma,]ลำ[/FONT][FONT=Tahoma,]พระเพลิงแล้ว

    ส่วนที่ จ.นครราชสีมา หลังจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้ระดับน้ำในเขื่อนลำพระเพลิง เพิ่มระดับสูงขึ้นจนเต็มความจุที่ 110 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) จนล้นออกทางสปิลเวย์แล้ว อย่างไรก็ตาม นายจำลอง พินิจการ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย ยืนยันว่า แม้ระดับน้ำในขณะนี้สูงเลยสปิลเวย์ประมาณ 30 เซนติเมตร แต่ทางเขื่อนยังระบายออกทางประตูน้ำท้ายเขื่อนไปยังอ่างเก็บน้ำลำสำลาย และไหลออกสู่คลองธรรมชาติ จึงยังไม่ส่งผลกระทบกับพื้นที่ท้ายเขื่อนมากนัก และยืนยันว่าเขื่อนลำพระเพลิงมั่นคงแข็งแรงไม่มีปัญหาเรื่องเขื่อนแตกแต่อย่างใด

    วันเดียวกัน พ.อ.สมทัศน์ จันทร์ศิริ เสนาธิการกองบัญชาการช่วยรบที่ 2 กองทัพภาคที่ 2 (จ.นครราชสีมา)ได้ปล่อยขบวนรถบรรทุกจีเอ็มซี และทหาร 83 นาย พร้อมด้วยเวชภัณฑ์ เปลสนาม และเรือท้องแบนไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ซึ่งประสบอุทกภัย มีบ้านเรือนราษฎรถูกน้ำท่วมหลายตำบล ระดับความสูงเฉลี่ย 120 เซนติเมตร

    @ น้ำล้นอ่างแควระบม-พบรอยรั่ว

    จ.ฉะเชิงเทรา น้ำป่ายังไหลทะลักไม่หยุด บ้านเรือนชาวแปดริ้วจมอยู่ใต้น้ำนานนับสัปดาห์ ขณะอ่างเก็บน้ำแควระบม ยังคงเร่งปล่อยระบายน้ำออก หลังฝนตกหนักนานต่อเนื่องในเขตป่ารอยต่อ 5 จังหวัด จนน้ำล้นปรี่ขอบอ่างจากความจุสูงสุดที่สามารถรองรับน้ำได้ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ขณะนี้มีน้ำมากถึง 40-45 ล้าน ลบ.ม. เกินกว่าความจุที่อ่างเก็บน้ำจะสามารถรองรับได้ที่ 40 ล้าน ลบ.ม. ล่าสุดพบรอยรั่วซึมบริเวณใต้แนวสันเขื่อน มีน้ำไหลออกมายังด้านหน้าแนวสันเขื่อน จนมีน้ำขังเป็นแอ่งท่วมเส้นทางสัญจรด้านล่าง แต่ปริมาณรั่วซึมยังไม่มากนัก และยังไม่ทราบว่าสันเขื่อนดังกล่าวจะรองรับน้ำได้เพิ่มมากขึ้นอีกหรือไม่ หากฝนยังตกเติมลงมาไม่หยุดอย่างต่อเนื่อง<table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>[​IMG]
    ล้นแล้ว - น้ำในเขื่อนลำพระเพลิง จ.นครราชสีมา ไหลทะลักสปิลเวย์ ลงสู่พื้นที่ใต้เขื่อน หลังจากฝนตกหนักติดต่อกันกว่า 1 สัปดาห์ แม้ว่าจะมีการระบายน้ำออกจากเขื่อนตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อวันที่ 20 กันยายน

    </td></tr></tbody></table>
    [/FONT]
     
  6. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ปีที่แล้วน้ำท่วมบ้าน น้ำเน่าเลยแหล่ะ จนต้องไปโวยวายถึงมีคนมาช่วย ปีนี้ถ้ามี สันโดษจะมาช่วยหรือเปล่า[​IMG]

    แค่คุยด้วย ทักทายไปหลายทียังเพิกเฉยเลย จะมาช่วยเหร๋อ อิอิ [​IMG]
     
  7. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    วันที่สมัคร: Oct 2007

    ก็ตอนนั้นเรายังไม่รู้จักกัน สันโดษก็ดู การทำลายโลก ไปเรื่อยๆ ตั้งเเต่ดิน, น้ำ, ลม, ไฟ

    สันโดษก็ทำเองล่ะ คุยด้วยจิต สันโดษก็สอน Falkman เเล้วไงล่ะ ว่าให้คุยกับเเม่ ขอโทษเเม่

    เเม่ก็ไม่ทำอะไรเเล้วไม่ใช่หรอ?

    ถ้ายังโดนอยู่เเสดงว่า ไม่รัก โลก ไง เเม่นะ ใจดีนะคะ

    เเต่ คนอื่นๆ เขาไม่เชื่อสันโดษ จิตอื่นๆก็โกรธมากนี้น่า สันโดษ ทำอะไรไม่ได้หรอกคะ

    จนกว่าพวกเขาจะ เชื่อว่า เเม่โกรธคะ สอนเรื่อง ลดกำลัง พายุไปเเล้วด้วย จำได้ป่ะละที่ เขายอมอ่อนกำลังให้เห็นกัน

    ก่อนที่จะมีมาอีกหลายๆลูก เมื่อตอน ต้นเดือนที่เเล้ว สอนไปตั้งหลายอย่าง ทำไมไม่ไปทำกันเองละคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2008
  8. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    สันโดษไม่ชอบ ใส่ร้องเท้าชอบเดินเท้าเปล่า แล้ว พวกคุณรู้ไหมคะว่า น้ำคลองอร่อยมากเลยนะคะ หวานเจี๊ยบเลย

    ให้ใช้มือช้อนตักดื่มนะคะ ไม่สกปรกหรอกนะคะ มีตะกอนดินก็อร่อย

    ถ้าไม่เคยลองดื่มลองดื่มตรงคลองที่สะอาดๆนะคะ อร่อยมากกว่าน้ำใดๆในโลกเลยคะ

    ถ้าเกิดภัยพิบัติ อย่าใส่ร้องเท้า นะคะ ให้เดินเท้าเปล่า

    พวกคุณอาจจะเจ็บเท้า เเต่ สักพักคุณจะ เข้าใจว่า ถนนไม่ใช่หน้าแม่โลก

    ดิน คือ หน้าของเเม่ นะคะ มนุษย์ ทำลาย ภูเขา เอามาปู ให้ รถ ให้ มนุษย์เดินทางสะดวกขึ้น

    แต่ จริงๆเเล้ว ดินและ หญ้า คือ ใบหน้าของเเม่ หนูคะ สันโดษไม่อยากอยู่ในเมือง

    อยากไปอยู่ในป่า เเต่ แม่ก็ไม่ให้สันโดษเข้าป่า ให้ออกมา ทำงาน บอกว่า ให้ออกมาสอนคน

    สันโดษไม่ชอบมนุษย์ เเต่ก็ต้องไปอยู่กับคน ไม่มีใครรู้จักสันโดษ จริงๆสักคน

    สันโดษ อยากให้ รู้ว่า ถ้าคุณ อยู่คนเดียว เเละ ปิด สิ่งที่พวกคุณ มีแล้วฟังเสียงหัวใจตัวเอง

    พวกคุณจะเข้าใจ ธรรมชาติ จริงๆนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2008
  9. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    ร่างกายของเราเขาก็มีชีวิตเป็นของเขาเอง ที่คุณ เรียกว่า จิต

    พวกคุณไม่เคยเห็น คุณค่าของตัวเอง และเชื่อเเต่คนอื่น ไม่รักตัวเอง

    จิต ที่ตาก็มีชีวิต ของเขาเอง จิตที่หูก็เหมือนกัน เลือดทุกโมเลกุล เขามี จิตเป็นอิสระของตัวเองทั้งนั้นนะคะ

    เเต่พวกมนุษย์ ก็ไม่รู้อีก ว่า กายของเรา เขาไม่ได้ ต้องการคนอื่นให้มาใส่ใจเรา

    เราต้องการให้ มนุษย์ เห็นพวกเราในร่างตนเอง เข้าใจ จิตใจตนเอง

    จิต เขาไม่ใช่ไม่คิดนะคะ คิดแต่ไม่พูด ที่คุณเรียก พวกเขาว่า จิตใต้สำนึก

    หัวใจเต้นเองได้โดยคุณไม่ได้รู้ตัว

    ปอดฟอกเอง, ลำไส้กระเพาะทำงานเองได้ยังไง? พวกคุณเคยรู้ไหม?

    ว่า พวกเขามีจิตเป็นอิสระออกจากกันในเเต่ละส่วน

    มนุษย์ก็ไม่รู้ เพราะมัวเเต่สนใจภัยพิบัตินอกกาย

    คนอื่นลำบาก คนนี้สบาย อยากมีอยากได้อย่างเขา แล้วตัวเองเคยสนใจ จิตใจตนเองไหม?

    ก็ไม่ อยากมีเงิน อยากได้ของสิ่งนู่นสิ่งนี้ อยากได้บ้านหลังใหญ่ๆ รถคันเเพง

    นอกกายทั้งนั้น ก็สมควรเเล้วที่ถูกธรรมชาติทำลายสิ่งที่ครอบครอง

    เพราะ เทิดทูนของนอกตัวเเทน จิตใจตนเอง

    โลกทำลายตัวเองนะคะ ไม่ได้ทำลายพวกคุณ แผ่นดินเเยก ป่าไม้ถูกเผา แม่น้ำเเยกจากกัน ภูเขาไฟระเบิด

    เพื่ออะไร? ก็ เพื่อให้ มนุษย์ อย่างพวกคุณ เห็น คุณค่า ของ ชีวิตที่เหลืออยู่

    แม่ก็ยังคงทำทุกอย่างเพื่อให้คุณ เห็นคุณค่าของชีวิตตัวเองเหมือนเดิม

    พวกคุณนั้นเองละ สร้างภัยพิบัติให้ ความคิดตัวเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2008
  10. หล่อลากดิน

    หล่อลากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,201
    ค่าพลัง:
    +235
    ไม่มีหรอกครับท่าน

    ปล. ตอนนี้ผมพูดน้อยลงกว่าเดิม ว่ามั๊ย?

    ฮ่าๆๆๆๆ
     
  11. หล่อลากดิน

    หล่อลากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,201
    ค่าพลัง:
    +235
    ไหน... ลองเล่าเรื่องปลาทองปากเหม็น ที่เอาหัวฟาดแคมเรือ จนสิ้นชีพตักษัย อีกสิท่าน

    ผมชอบนิทานปรักปรำเรื่องนี้จริงๆ นะขอรับ กระพ๊ม ....ฮ่าๆๆ โอ๊ย พูดผิด นิทานปรำปรา

    ฮ่าๆๆๆๆๆๆ กร๊ากกกกๆๆๆๆๆๆๆ
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <CENTER><BIG>อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ตัณหาวรรคที่ ๒๔</BIG> <CENTER class=D></CENTER></CENTER>
    <CENTER> ๒๔. ตัณหาวรรควรรณนา
    ๑. เรื่องปลาชื่อกปิละ [๒๔๐]
    ข้อความเบื้องต้น </CENTER> พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภปลาชื่อกปิละ ตรัส<WBR>พระ<WBR>ธรรม<WBR>เทศนา<WBR>นี้ว่า "มนุชสฺส" เป็นต้น.
    <CENTER>
    สองพี่น้องออกบวช </CENTER> ได้ยินว่า ในอดีตกาล ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า<WBR>กัสสป ปริ<WBR>นิพพาน<WBR>แล้ว กุลบุตรสองคนพี่น้องออกบวชในสำนักแห่งพระสาวกทั้งหลาย.
    บรรดากุลบุตรสองคนนั้น คนพี่ได้ชื่อว่าโสธนะ คนน้องชื่อกปิละ. ส่วนมารดาของคนทั้งสองนั้น ชื่อว่าสาธนี น้องสาวชื่อตาปนา. แม้หญิงทั้งสองนั้นก็บวชแล้วใน (สำนัก) ภิกษุณี.
    เมื่อคนเหล่านั้นบวชแล้วอย่างนั้น พี่น้องทั้งสองทำวัตรและปฏิวัตรแก่พระอาจารย์และพระอุปัชฌายะอยู่ วันหนึ่ง ถามว่า "ท่านขอรับ ธุระในพระศาสนานี้มีเท่าไร?" ได้ยินว่า "ธุระมี ๒ อย่าง คือ คันถธุระ ๑ วิปัสสนาธุระ ๑" ภิกษุผู้เป็นพี่คิดว่า "เราจักบำเพ็ญวิปัสสนาธุระ" อยู่ใน<WBR>สำนัก<WBR>แห่ง<WBR>พระ<WBR>อาจารย์และพระ<WBR>อุปัชฌายะ ๕ พรรษาแล้ว เรียนกัมมัฏฐานจนถึงพระอรหัต เข้าไปสู่ป่า พยายามอยู่ ก็บรรลุพระอรหัตผล.
    <CENTER>
    น้องชายเมาในคันถธุระ </CENTER> ภิกษุน้องชายคิดว่า "เรายังหนุ่มก่อน ในเวลาแก่จึงจักบำเพ็ญวิปัสสนาธุระ" จึงเริ่มตั้งคันถธุระ เรียนพระไตรปิฎก. บริวารเป็นอันมากได้เกิดขึ้นเพราะอาศัยปริยัติของเธอ ลาภก็ได้เกิดขึ้นเพราะอาศัยบริวาร. เธอเมาแล้วด้วยความเมาในความเป็นผู้สดับมาก อันความทะยานอยาก<WBR>ใน<WBR>ลาภ<WBR>ครอบ<WBR>งำแล้ว
    เพราะเป็นผู้สำคัญตัวว่าฉลาดยิ่ง ย่อมกล่าวแม้สิ่งที่เป็นกัปปิยะ อันคนเหล่าอื่นกล่าวแล้วว่า "เป็นอกัปปิยะ" กล่าวแม้สิ่งที่เป็นอกัปปิยะว่า "เป็นกัปปิยะ" กล่าวแม้สิ่งที่มีโทษว่า "ไม่มีโทษ" กล่าวแม้สิ่งไม่มีโทษว่า "มีโทษ"
    เธอ แม้อันภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รักทั้งหลายกล่าวว่า "คุณกปิละ คุณอย่าได้กล่าวอย่างนี้" แล้วแสดงธรรมและวินัยกล่าวสอนอยู่ ก็กล่าวว่า "พวกท่านจะรู้อะไร? พวกท่านเช่นกับกำมือเปล่า" เป็นต้นแล้ว ก็เที่ยวขู่ตวาดภิกษุทั้งหลายอยู่.
    <CENTER>
    น้องชายไม่เชื่อพี่ </CENTER> ครั้งนั้น ภิกษุทั้งหลายบอกเนื้อความนั้นแม้แก่พระโสธนเถระผู้เป็นพี่ชายของเธอแล้ว. แม้พระโสธนะเถระเข้าไปหาเธอแล้ว ตักเตือนว่า "คุณกปิละ ก็การปฏิบัติชอบของภิกษุทั้งหลายผู้เช่นเธอ ชื่อว่าเป็นอายุพระศาสนา เพราะฉะนั้น เธออย่าได้ละการปฏิบัติชอบแล้ว กล่าวคัดค้านสิ่งที่เป็นกัปปิยะเป็นต้นอย่างนั้นเลย." เธอมิได้เอื้อเฟื้อถ้อยคำแม้ของท่าน แม้เมื่อเป็นเช่นนี้ พระ<WBR>เถระ<WBR>ก็<WBR>ตัก<WBR>เตือน<WBR>เธอ ๒-๓ ครั้ง ทราบเธอผู้ไม่รับคำตักเตือนว่า "ภิกษุนี้ไม่ทำตามคำของเรา" จึงกล่าวว่า "คุณ ถ้าดังนั้น เธอจักปรากฏด้วยกรรมของตน" ดังนี้แล้วหลีกไป.
    <CENTER>
    น้องชายเสียคนเพราะถูกทอดทิ้ง </CENTER> จำเดิมแต่นั้น ภิกษุทั้งหลายผู้มีศีลเป็นที่รักแม้เหล่าอื่น ทอดทิ้งเธอแล้ว. เธอเป็นผู้มีความประพฤติชั่วอันพวกผู้มีความประพฤติชั่วแวดล้อมอยู่
    วันหนึ่ง คิดว่า "เราจักสวดปาติโมกข์" จึงถือพัดไปนั่งบนธรรมาสน์ในโรงอุโบสถแล้ว ถามว่า "ผู้มีอายุ ปาติโมกข์ย่อมเป็นไปเพื่อภิกษุทั้งหลายผู้ประชุมกันแล้วในที่นี้หรือ?" เห็นภิกษุทั้งหลายนิ่งเสีย ด้วยคิดว่า "ประโยชน์อะไรด้วยคำโต้ตอบที่เราให้แก่ภิกษุ?" จึงกล่าวว่า "ผู้มีอายุ ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ไม่มี, ประโยชน์อะไรด้วยปาติโมกข์ที่พวกท่านจะฟังหรือไม่ฟัง" ดังนี้แล้ว ก็ลุกไปจากอาสนะ.
    เธอยังศาสนา คือปริยัติของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่ากัสสป ให้เสื่อมลงแล้วด้วยอาการอย่างนี้.
    แม้พระโสธนเถระก็ปรินิพพานในวันนั้นเอง.
    ในกาลสิ้นอายุ ภิกษุกปิละเกิดในอเวจีมหานรก. มารดาและน้องสาวของเธอแม้นั้น ถึงทิฏฐานุคติของเธอนั่นแล ด่าบริภาษภิกษุทั้งหลายผู้มีศีลเป็นที่รักแล้ว ก็บังเกิดในอเวจีมหานรกนั้นเหมือนกัน.
    <CENTER>
    โจรเกิดในเทวโลกด้วยอำนาจของศีล </CENTER> ก็ในกาลนั้น บุรุษ ๕๐๐ คนทำโจรกรรมมีการปล้นชาวบ้านเป็นต้น เป็นอยู่ด้วยกิริยาของโจร ถูกพวกมนุษย์ในชนบทตามจับแล้ว หนีเข้าป่า ไม่เห็นที่พึ่งอะไรในป่านั้น เห็นภิกษุผู้อยู่ในป่าเป็นวัตรรูปใดรูปหนึ่ง ไหว้แล้ว กล่าวว่า "ท่านผู้เจริญ ขอท่านจงเป็นที่พึ่งของพวกข้าพเจ้าเถิด."
    พระเถระกล่าวว่า "ชื่อว่าที่พึ่งเช่นกับศีล ย่อมไม่มีแก่ท่านทั้งหลาย, พวกท่านแม้ทั้งหมดจงสมาทานศีล ๕ เถิด."
    โจรเหล่านั้นรับว่า "ดีละ" ดังนี้แล้ว สมาทานศีลทั้งหลาย.
    ลำดับนั้น พระเถระตักเตือนโจรเหล่านั้นว่า "บัดนี้ พวกท่านเป็นผู้มีศีล พวกท่านไม่ควรล่วงศีลแม้เพราะเหตุแห่งชีวิตเลย ความประทุษร้ายทางใจ ก็ไม่ควรทำ"
    โจรเหล่านั้นรับว่า "ดีละ" แล้ว.
    ครั้งนั้น ชาวชนบทเหล่านั้น (มา) ถึงที่นั้นแล้ว ค้นหาข้างโน้นข้างนี้ พบโจรเหล่านั้นแล้ว ก็ช่วยกันปลงชีวิตเสียทั้งหมด. พวกโจรเหล่านั้นทำกาละแล้ว ก็บังเกิดในเทวโลก. หัวหน้าโจรได้เป็นหัวหน้าเทพบุตร.
    <CENTER>
    เทพบุตรถือปฏิสนธิในตระกูลชาวประมง </CENTER> เทพบุตรเหล่านั้นท่องเที่ยวไปในเทวโลกสิ้นพุทธันดรหนึ่ง ด้วยอำนาจอนุโลมและปฏิโลม ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดแล้วในบ้านชาวประมง ๕๐๐ ตระกูลใกล้ประตูพระนครสาวัตถี. หัวหน้าเทพบุตรถือปฏิสนธิในเรือนของหัวหน้าชาวประมง, พวกเทพบุตรนอกนี้ ถือปฏิสนธิในเรือนชาวประมงนอกนี้. การถือปฏิสนธิและการออกจากท้องมารดาแห่งชนเหล่านั้น ได้มีแล้วในวันเดียวกันทั้งนั้น ด้วยประการฉะนี้.
    หัวหน้าชาวประมงให้คนเที่ยวแสวงหาว่า "พวกทารกแม้เหล่าอื่นในบ้านนี้ เกิดแล้วในวันนี้มีอยู่บ้างไหม?" ได้ยินความที่ทารกเหล่านั้นเกิดแล้ว จึงสั่งให้ๆ ทรัพย์ค่าเลี้ยงดูแก่ชาวประมงเหล่านั้น ด้วยตั้งใจว่า "พวกทารกนั้น จักเป็นสหายของบุตรเรา"
    ทารกเหล่านั้นแม้ทุกคนเป็นสหายเล่นฝุ่นร่วมกัน ได้เป็นผู้เจริญวัยโดยลำดับแล้ว บรรดาเด็กเหล่านั้น บุตรของหัวหน้าชาวประมงได้เป็นผู้เยี่ยมโดยยศและอำนาจ.
    <CENTER>
    กปิละเกิดเป็นปลาใหญ่ </CENTER> แม้ภิกษุกปิละไหม้ในนรกสิ้นพุทธันดรหนึ่งแล้ว ในกาลนั้น บังเกิดเป็นปลาใหญ่ในแม่น้ำอจิรวดี มีสีเหมือนทองคำ มีปากเหม็น ด้วยเศษแห่งวิบาก.
    ต่อมาวันหนึ่ง สหายเหล่านั้นปรึกษากันว่า "เราจักจับปลา" จึงถือเอาเครื่องจับสัตว์น้ำมีแหเป็นต้นทอดไปในแม่น้ำ. ทีนั้น ปลานั้นได้เข้าไปสู่ภายในแหของคนเหล่านั้น. ชาวบ้าน<WBR>ประมง<WBR>ทั้งหมดเห็นปลานั้นแล้ว ได้ส่งเสียงเอ็ดอึงว่า "ลูกของพวกเรา เมื่อจับปลาครั้งแรก จับได้ปลาทองแล้ว คราวนี้ พระราชาจักพระราชทานทรัพย์แก่เราเพียงพอ." สหายแม้เหล่านั้นแล เอาปลาใส่เรือ ยกเรือขึ้นแล้วก็ไปสู่พระราชสำนัก.
    แม้เมื่อพระราชาทอดพระเนตรเห็นปลานั้น ตรัสว่า "นั่นอะไร?" พวกเขาได้กราบทูลว่า "ปลา พระเจ้าข้า." พระราชาทอดพระเนตรเห็นปลามีสีเหมือนทองคำ ทรงดำริว่า "พระศาสดาจักทรงทราบเหตุที่ปลานั่นเป็นทองคำ" ดังนี้แล้ว รับสั่งให้คนถือปลา ได้เสด็จไปสู่สำนักพระผู้มีพระภาคเจ้า. เมื่อปากอันปลาพออ้าเท่านั้น พระเชตวันทั้งสิ้นได้มีกลิ่นเหม็นเหลือเกิน.
    พระราชาทูลถามพระศาสดาว่า "พระเจ้าข้า เพราะเหตุไร ปลาจึงมีสีเหมือนทองคำ? และเพราะเหตุไร กลิ่นเหม็นจึงฟุ้งออกจากปากของมัน?"
    พระศาสดา. มหาบพิตร ปลานี้ได้เป็นภิกษุชื่อกปิละ เป็นพหูสูต มีบริวารมาก ในธรรมวินัยของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่ากัสสป, ถูกความทะยานอยากในลาภครอบงำแล้ว ด่าบริภาษพวกภิกษุผู้ไม่ถือคำของตน ยังพระศาสนาของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่ากัสสป ให้เสื่อมลงแล้ว. เขาบังเกิดในอเวจีด้วยกรรมนั้นแล้ว บัดนี้ เกิดเป็นปลาด้วยเศษแห่งวิบาก ก็เพราะเธอบอกพระพุทธวจนะ กล่าวสรรเสริญคุณพระพุทธเจ้าสิ้นกาลนาน จึงได้อัตภาพมีสีเหมือนทองคำนี้ ด้วยผลแห่งกรรมนั้น เธอได้เป็นผู้บริภาษภิกษุทั้งหลาย กลิ่นเหม็นจึงฟุ้งออกจากปากของเธอ ด้วยผลแห่งกรรมนั้น มหาบพิตร อาตมภาพจะให้ปลานั้นพูด.
    พระราชา. ให้พูดเถิด พระเจ้าข้า.
    ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสถามปลาว่า "เจ้าชื่อกปิละหรือ?"
    ปลา. พระเจ้าข้า ข้าพระองค์ชื่อกปิละ.
    พระศาสดา. เจ้ามาจากที่ไหน?
    ปลา. มาจากอเวจีมหานรก พระเจ้าข้า.
    พระศาสดา. พระโสธนะพี่ชายใหญ่ของเจ้าไปไหน?
    ปลา. ปรินิพพานแล้ว พระเจ้าข้า.
    พระศาสดา. ก็นางสาธนีมารดาของเจ้าเล่าไปไหน?
    ปลา. เกิดในนรก พระเจ้าข้า.
    พระศาสดา. นางตาปนาน้องสาวของเจ้าไปไหน?
    ปลา. เกิดในมหานรก พระเจ้าข้า.
    พระศาสดา. บัดนี้ เจ้าจักไปที่ไหน?
    ปลาชื่อกปิละกราบทูลว่า "จักไปสู่อเวจีมหานรกดังเดิม พระเจ้าข้า" ดังนี้แล้ว อันความเดือดร้อนครอบงำแล้ว เอาศีรษะฟาดเรือ ทำกาละในทันทีนั่นเอง เกิดในนรกแล้ว.
    มหาชนได้สลดใจมีโลมชาติชูชันแล้ว.
    <CENTER>
    พระศาสดาตรัสกปิลสูตร </CENTER>
    ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรวจดูวาระจิตของบริษัทผู้ประชุมกันในขณะนั้น เพื่อจะทรงแสดงธรรมให้สมควรแก่ขณะนั้น จึงตรัสกปิลสูตรในสุตตนิบาต<SUP>๑-</SUP> ว่า
    "นักปราชญ์ทั้งหลายได้กล่าวการประพฤติธรรม ๑ การประพฤติพรหมจรรย์ ๑ นั่นว่า เป็นแก้วอันสูงสุด"
    ____________________________
     
  13. Pew Pew

    Pew Pew เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +1,807
    มีข่าวดีนิดหน่อยมาเล่า

    เมื่อวานนี้ไปเรียนวิชาดวงธรรมกับพระอาจารย์จากชัยภูมิ ท่านรับกิจนิมนต์ลงมากรุงเทพฯ และนัดลูกศิษย์มาเรียนเช่นเคย คราวนี้ ผมก็ยังคงถามย้ำคำถามเดิมว่ากทม.จะท่วมหนักตามที่ท่านอาจารย์เคยบอกเตือนลูกศิษย์ไว้เมื่อเดือนก่อนใช่ไหมครับ ? เพราะตอนนี้ดูแนวโน้มเป็นไปตามที่ท่านบอก น้ำมาเต็มไปหมด ล้อมกทม เบ็ดเสร็จ พายุก็ก่อตัวอย่างต่อเนื่อง น้ำก็บ่าจากทางเหนือลงมาภาคกลาง อยากรู้ว่าพระอาจารยืเล็งเห็นว่าน่าจะท่วมวันไหน หนักหนาสาหัสมากแค่ไหน และนานเท่าใด

    ท่านกลับตอบว่า ไม่เป็นไรหรอก รู้สึกว่าสิ่งที่ในหลวงท่านทรงทำอยู่ สำเร็จผลแล้ว กทม น่าจะรอด ไม่ท่วมมาก นิดหน่อยเท่านั้นเอง ปีนี้ไม่น่าห่วงแล้ว แต่ปีหน้านี่สิ น่าห่วง จะหนักหนาสาหัสมาก เตรียมตัวกันดีๆ

    ท่านว่าให้ตั้งใจเรียนวิชาดวงธรรมซะ วิชาดวงธรรมช่วยได้นะ เพราะจะช่วยให้จิตสัมผัสรู้ถึงภัยร้ายแรงต่างๆได้ล่วงหน้าก่อนภัยจะมา เหมือนได้กลิ่นฝน กลิ่นพายุ อะไรประมาณนี้ ( ผมมิมีเจตนาจะปรามาศวิชาของท่านอื่นๆนะครับ เพียงเล่าอ้างอิงให้ฟังเฉยๆ คิดว่าทุกวิชาก็มีคุณประโยชน์เช่นเดียวกัน แล้วแต่ว่ากรรมของใครสร้างมาอย่างไร ก็คงถูกกรรมเก่าส่งให้ไปเรียนต่อตามทางของตน ) ท่านยังบอกว่าหลังออกพรรษา ท่านจะสอนให้เดือนละ 2 ครั้ง (เพิ่มจากเดือนละครั้ง ) และ เดือนธันวาคม จะให้เลื่อนชั้นขึ้นห้องที่ 3 ให้อีก

    ที่เล่ามากก็เพื่อจะบอกว่า รู้สึกว่าท่านจะเร่งอัดวิชาให้มากเป็นพิเศษ แสดงว่าท่านรับรู้อะไรบางอย่างที่รุนแรง แต่ยังไม่เล่าให้ฟัง ยังไงก็ขอให้เพื่อนๆตั้งใจสวดมนต์ ถือศีล 5 หรือ ศีล 8 ให้เคร่งขึ้นอีกสักนิด หมั่นปฏิบัติมากขึ้นอีกสักหน่อย แผ่เมตตาให้กับในหลวง ประเทศไทย และทั้งโลก ให้มีความสงบสุข ช่วยๆกันหน่อยนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2008
  14. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775



    สมควรที่ทีมงานจะเฝ้าระวังและจับตาพายุลูกนี้กันอย่างยิ่งครับ


    หากเกิดมีแนวเคลื่อนตัวพาดผ่านไทยเรา ก็มีความเสี่ยงหลายๆด้านครับ

    สถานะการณ์อุทกภัยก้จะรุนแรงยิ่งขึ้นอีกได้ ไม่นับรวมความเสียหายจากพายุครับ
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ย่านธุรกิจกบินทร์บุรีปิดหนีน้ำท่วม-โรงเรียนหยุดไม่มีกำหนด

    [​IMG]

    ปราจีนบุรี 21 ก.ย.- ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี โดยเฉพาะบริเวณย่านธุรกิจการค้า ของอำเภอกบินทร์บุรี เผชิญน้ำท่วมมาแล้ว 3 วัน ในระดับ 50 เซนติเมตร ทำให้ร้านค้าต้องปิดกิจการชั่วคราว และขนย้ายสิ่งของไปไว้บนที่สูง

    ส่วนตลาดสดน้ำยังไม่ลดลง ชาวบ้านต้องเดินลุยน้ำกันออกไปทำธุระ ขณะที่โรงเรียนหลายแห่งที่ถูกน้ำท่วม ไม่สามารถเปิดสอนได้ ในวันพรุ่งนี้ (22 ก.ย.) และปิดไปอย่างไม่กำหนด เนื่องจากบางโรงเรียนระดับสูง เกือบ 2 เมตร ส่วนบ้านวังทอง ม.4 ต.หาดนางแก้ว อ.กบินทร์บุรี น้ำท่วมสูงถึงพื้นบ้าน ไม่มีที่นอนพักอาศัย ต้องนำสิ่งของหรือไม้มาวางพาดแทนที่นอนชั่วคราว บางหลังใช้ไม้ไผ่มาทำเป็นบันไดไต่ขึ้นบ้านทางหน้าต่าง

    สำหรับตลาดเก่าเทศบาลตำบลกบินทร์บุรี ที่ถูกน้ำท่วมก่อนหน้านี้มากว่า 1 สัปดาห์ ระดับน้ำยังทรงตัวสูง 2 เมตร เนื่องจากแม่น้ำปราจีนบุรี ปริมาณน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรเพิ่มขึ้น ขณะที่สัตว์เลี้ยงวัว-ควาย เริ่มขาดหญ้าสด เพราะทุ่งนาจมน้ำมาหลายวัน.- สำนักข่าวไทย

    2008-09-21 18:03:30

    ถนนบุรีรัมย์-โคราช จมมิดน้ำตัดการสัญจร

    [​IMG]

    บุรีรัมย์ 21 ก.ย.- นายสถาพร ชุมอุปการ นายอำเภอลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า สภาพน้ำท่วมในพื้นที่ขยายวงกว้างรวมแล้ว 5 ตำบล คือ ต.หนองโดน บ้านยาง โคกกลาง หินโคน และหนองคู นอกจากบ้านเรือน วัด และพื้นที่การเกษตรเสียหายแล้ว 10,000 ไร่ ล่าสุด (21 ก.ย.) ถนนสาย 226 บุรีรัมย์-โคราช น้ำเพิ่มขึ้นจากวานนี้เกือบ 1 เมตร ต้องปิดการสัญจรเป็นวันที่ 2 และคาดว่าไม่สามารถสัญจรได้อีก 1 สัปดาห์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ปิดป้ายแนะนำให้ใช้เส้นทางเลี่ยงสาย 224 โชคชัย-เดชอุดม อ.นางรอง แทนชั่วคราว

    ส่วนอุทยานลำน้ำมาศน้ำสูงเช่นกัน เกิน 1 เมตร ความเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท นอกจากนี้ ลำน้ำมาศยังไหลท่วมศูนย์พัฒนาชนบทผสมผสาน หรือศูนย์ (ซีเบิร์ด) ต.โคกกลาง อ.ลำปลายมาศ ซึ่งมีบริษัทผลิต รองเท้า กระเป๋า และเย็บผ้าปูที่นอนรวม 3 บริษัท โดยระดับน้ำสูงเกือบ 1 เมตร พนักงานต้องเร่งขนย้ายสิ่งของและเครื่องจักรหนีน้ำ ขณะที่ ถนนสายลำปลายมาศ-ชำนิ หน้าศูนย์ซีเบิร์ด การสัญจรเริ่มมีปัญหา เพราะน้ำสูงกว่า 50 ซม. ตลอด 2 กิโลเมตร.- สำนักข่าวไทย

    2008-09-21 17:41:36

    ยโสธร-ชัยภูมิ ท่วมหนักเจอน้ำป่าไหลหนุนไม่หยุด

    [​IMG]

    ยโสธร,ชัยภูมิ 21 ก.ย.- ชาวอีสานเดือดร้อนหนัก บ้านเรือนจมบาดาลตัดขาดโลกภายนอก น้ำป่ายังทะลักหนุนลำน้ำสาขาล้นเอ่อ โดยเฉพาะตัวเมืองชัยภูมิน้ำสูง 2 เมตร ซ้ำระบายออกไม่ได้ ส่วนยโสธรเร่งมือสร้างสะพานให้ทันก่อนน้ำชีล้นช่วย 3 หมู่บ้านเสี่ยงวิกฤติ

    ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพพื้นที่ของ จ.ยโสธร ประสบปัญหาน้ำท่วมมาหลายวันจากฝนตกต่อเนื่อง ล่าสุด (21 ก.ย.) ลำน้ำยังเอ่อล้นมากขึ้น เพราะมีน้ำป่าจากเทือกเขาภูพานไหลหลากลงมาสมทบ ส่งผลให้พื้นที่ราบลุ่มเสียหายมากขึ้น โดยเฉพาะนาข้าว 5 หมู่บ้าน 2 ตำบล อ.เมือง กว่า 800 ไร่ จมน้ำกว่า 1 เมตร และมีแนวโน้มนาข้าวของ 2 หมู่บ้าน ของ อ.ค้อเหนือ จะถูกน้ำท่วมเสียหาย เนื่องจากลำน้ำชีมีปริมาณน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน เฉลี่ยชั่วโมง 80 เซนติเมตร ขณะที่ผู้รับเหมาสร้างสะพานข้ามลำห้วยบ้านดอนกลอย ซึ่งเชื่อมเส้นทาง 3 หมู่บ้าน ต.ค้อเหนือ ให้เสร็จทันก่อนที่ลำน้ำชีจะล้นตลิ่ง เนื่องจากหมู่บ้านทั้ง 3 แห่ง เสี่ยงถูกน้ำท่วมสูงและเคยตัดขาดจากโลกภายนอกมาแล้ว อีกทั้งสภาพอากาศวันนี้ยังมีฝนตกทั่วทั้งจังหวัด

    ส่วนชาวบ้านเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิยังต้องเผชิญกับภาวะน้ำท่วมสูงถึง 2 เมตร หลายชุมชนติดค้างอยู่ภายใน ทางเทศบาลฯ และทหารกองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ระดมรถและเรือบรรทุกอาหารและยารักษาโรคเข้าช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันน้ำขยายวงกว้างท่วมมากขึ้น ทำให้ประชาชนเดือดร้อนหนัก เพราะน้ำไม่สามารถระบายออกจากตัวเมืองได้ เนื่องจากน้ำป่าเทือกเขาภูเขียวและภูแลนคาไหลหนุนลำน้ำชีเข้ามาตลอด ซึ่งเป็นเช่นนี้มากว่า 1 สัปดาห์แล้ว เนื่องจากบนเขามีฝนตกชุก.-สำนักข่าวไทย

    2008-09-21 14:43:13

    เขื่อนสิริกิติ์ลดพร่องน้ำ ห่วงจังหวัดตอนล่างวิกฤติ

    [​IMG]

    อุตรดิตถ์ 21 ก.ย.- นายกิตติ ตันเจริญ ผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า วันนี้ (21 ก.ย.) เขื่อนสิริกิติ์ลดการระบายน้ำออกเหลือเพียง 5 ล้านลูกบาศก์เมตร จากที่ผ่านมาวันละ 8 ล้านลูกบาศก์เมตร

    เนื่องจากแม่น้ำน่านและแม่น้ำหลายสายที่อยู่ท้ายเขื่อนมีปริมาณน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากฝนตกต่อเนื่อง อีกทั้งหลายจังหวัดยังประสบปัญหาน้ำท่วมสูง เช่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก และ จ.พิจิตร อย่างไรก็ตาม อ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ยังสามารถรับน้ำได้อีก 1,800 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งไม่มีปัญหาต่อการเก็บกักน้ำตลอดช่วงฤดูฝนนี้ ประกอบกับปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเริ่มลดลงจากเดิมวันละ 52 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือ 39 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดว่าปีนี้เขื่อนสิริกิติ์จะมีระดับเก็บกักไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งมากถึงร้อยละ 99.-สำนักข่าวไทย

    2008-09-21 12:59:50

    พิษณุโลกหวั่นน้ำยมเอ่อซ้ำ ประสานเขื่อนสิริกิติ์ลดพร่องน้ำ

    [​IMG]

    พิษณุโลก 21 ก.ย.- ชลประทานจังหวัดพิษณุโลกประสานเขื่อนสิริกิติ์ลดการระบายน้ำ เพื่อให้แม่น้ำวังทองที่ยังล้นตลิ่งระบายลงสู่แม่น้ำน่านไประดับหนึ่ง บรรเทาน้ำท่วม อ.วังทอง อีกทั้งแม่น้ำยมมีแนวโน้มจะเอ่อซ้ำ ส่วนนาข้าวจมน้ำกว่าสัปดาห์เน่าเสียแล้วหมื่นไร่

    นายสมชาย วงศ์ศิริ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก เปิดเผยว่า พื้นที่หลายอำเภอของจังหวัดพิษณุโลกยังคงประสบภาวะน้ำท่วม โดยเฉพาะอำเภอวังทองบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรถูกแม่น้ำวังทองล้นตลิ่งเข้าท่วมมาตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน และขณะนี้ยังมีฝนตกในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จึงประสานเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ ลดการระบายน้ำ เพื่อให้แม่น้ำวังทองไหลลงสู่แม่น้ำน่านระดับหนึ่ง ส่วนแม่น้ำยมที่ไหลผ่าน จ.สุโขทัย กว่า 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คาดว่าอีก 3-4 วัน พื้นที่ลุ่มริมฝั่งของ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก จะได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่ง อย่างไรก็ตาม ได้เร่งขุดลอกคลอง เพื่อรองรับการไหลของน้ำ

    ส่วนความเสียหายของพื้นที่การเกษตร อ.วังทอง จมอยู่ใต้น้ำสูงกว่า 1 เมตร โดยเฉพาะนาข้าว 15 หมู่บ้าน ต.วังพิกุล ที่อยู่ระหว่างออกรวงใกล้เก็บเกี่ยวเสียหายแล้วกว่า 10,000 ไร่ และเริ่มส่งกลิ่นเหม็น เนื่องจากน้ำท่วมมานานถึงสัปดาห์ ทำให้เกษตรกรวิตกปีนี้จะไม่มีเงินชำระหนี้ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และเป็นปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก.-สำนักข่าวไทย

    2008-09-21 10:21:25

    ปิดเที่ยวชั่วคราวน้ำท่วมสวนสัตว์อุทยานฯ ลำปลายมาศ

    [​IMG]

    บุรีรัมย์ 21 ก.ย.- นายสถาพร ชุมอุปการ นายอำเภอลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า น้ำลำมาศขยายวงกว้างเข้าท่วมแล้วแหล่งท่องเที่ยวอุทยานลำน้ำมาศ ต.หนองคู อ.ลำปลายมาศ หลังเอ่อท่วมสะพานถนนสายบุรีรัมย์-นครราชสีมา วานนี้ (20 ก.ย.)

    ทางอำเภอจึงประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวชั่วคราวจนกว่าน้ำจะลดลงสู่ภาวะปกติ และเจ้าหน้าที่ต้องเร่งขนย้ายสัตว์ภายในสวนสัตว์กว่า 20 ชนิด เช่น กวาง หมูป่า แพะ นกกระจอกเทศ กว่า 100 ตัว ไปไว้ที่ อบต. และวัด ที่ไม่มีปัญหาน้ำท่วม โดยมีสัตว์บางตัวที่ขนย้ายไม่ทันจมหายไปกับน้ำ

    สำหรับแหล่งท่องเที่ยวดังกล่าว ทางอำเภอและ อบต.ร่วมกันปรับภูมิทัศน์เนื้อที่กว่า 3,000 ไร่ งบประมาณกว่า 5 ล้านบาท เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ส่วนความเสียหายจากน้ำท่วมฉับพลันก่อนหน้านี้มีทั้งสิ่งปลูกสร้าง สะพาน และที่พักจุดชมทิวทัศน์ทางธรรมชาติ ประเมินเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

    2008-09-21 10:53:07

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551 เวลา 20:57:11 น. มติชนออนไลน์ อ่านล่าสุด 414 คน

    <CENTER>
    </CENTER>
    4 วาฬยักษ์ โผล่ใกล้หาดบางแสน

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>นายเต่า ธรรมกิจจานุศร อายุ 50 ปี ชาวประมงท้องถิ่นแหลมแท่น บางแสน จ.ชลบุรี เปิดเผยเมื่อวันที่ 21 กันยายน ว่า ได้พบวาฬยักษ์ 4 ตัว ว่ายน้ำเข้ามาใกล้ชายหาดบางแสน โดยได้ถ่ายภาพของวาฬยักษ์ที่ขึ้นมาบนผิวน้ำได้ ขณะออกไปช้อนแมงกะพรุนอยู่ในทะเล ห่างจากชายหาดบางแสนประมาณ 1.5 กิโลเมตร พบฝูงนกนางนวลฝูงใหญ่ บินโฉบเฉี่ยวเป็นกลุ่มบริเวณแหล่งปะการังเทียม ศาลาอเนกประสงค์เฉลิมพระเกียรติ บางแสน-แหลมแท่น แล้วก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบวาฬขนาดใหญ่ 4 ตัว แต่ละตัวมีความยาวประมาณ 8 เมตร โผล่หัวเหนือผิวน้ำ แล้วพ่นน้ำ ดำผุดดำว่ายอย่างมีความสุข ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยพบวาฬยักษ์เข้าชายหาดบางแสนเลยสักครั้งเดียว จะมีแต่เพียงปลาโลมาเท่านั้นที่พบบ่อยๆ น่าจะเป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่าอาจเกิดภัยพิบัติในทะเล เพราะวาฬใหญ่ยังเปลี่ยนวิถีชีวิต ขณะนี้ธรรมชาติแปรปรวนอย่างมาก ทำให้ต้องระมัดระวังกันให้มากกว่าเดิม
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เมืองลับแลใต้บึงบรเพ็ด
    โดย Astro Neemo<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1513991", true); </SCRIPT> สมาชิก

    [​IMG]

    [​IMG]
    กลุ่มผู้อาวุโสเขากะลา

    เรื่องสำคัญที่จะต้องแจ้งเพื่อทราบ

    เมื่อคราวที่ผมกับคณะไปรายงานตัวกับกลุ่มผู้อาวุโส ครั้งล่าสุดที่เขากะลา และมีการประมวลพลังบนเขากะลา ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณสามทุ่มเศษๆ หลังจากนั่งสมาธิประมวลพลังกันแล้ว อาจารย์สุดใจได้ชี้ให้ผมดูจุดๆหนึ่ง ได้เขียนเป็นเส้นรูปสี่เหลี่ยมสีน้ำเงินขนาดเท่าบานหน้าต่างเอาไว้ที่พื้นของลานธรรมหน้าองค์พระ อาจารย์สุดใจเล่าให้ผมฟังว่าเมื่อก่อนตรงนี้เป็นจุดเชื่อมมิติกับพื้นพิภพใต้ดินของเมืองลับแล ซึ่งอยู่ใต้บึงบรเพ็ด และมีทางเชื่อมต่อกันตลอด อาจารย์สุดใจ ได้บอกให้ผมกำหนดจิตดูเมืองลับแล และติดต่อเจ้าเมืองครั้งที่คุณพ่อเชิดท่านเคยติดต่ออยู่ เพื่อแสดงไมตรีจิตและแสดงการคารวะต่อท่าน

    เมือผมกำหนดจิตดู เห็นทางเดินขนาดใหญ่ทะลุยาวลงไปในใต้ภูเขา และกำหนดจิตตามไปเรื่อยๆจนถึงเมืองลับแลที่อยู่ใต้บึงบรเพ็ด ภายในเป็นคล้านสวนป่าธรรมชาติ มีทะเลสาบขนาดใหญ่ มีภูเขาเหมือนอยู่บนโลกมนุษย์ทุกอย่าง มีพื้นที่โล่งกว้าง และต้นไม้ผลต่างๆเต็มไปหมด และมีสระบัวอยู่เป็นหย่อมๆ ขนาดไม่ใหญ่มากนัก อาคารบ้านเรือนคล้ายกับว่าอยู่ในชนบทสมัยโบราณ บ้านช่องมุงจากหรือหญ้าคาประมาณนั้น แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ ไม่มีสัตว์หรือมนุษย์เลยแม้แต่คนเดียว ............

    อาจารย์สุดใจก็ถามผมว่าพบท่านเจ้าเมืองหรือไม่ ผมก็ตอบว่าอย่าว่าแต่ท่านเจ้าเมืองเลย คนสักคนก็ไม่มี สัตว์อะไรก็ไม่มี มีแต่ต้นไม้บ้านเรือนอีกนิดหน่อย ทุกๆคนได้ยินก็พากันแปลกใจ ตอนนั้นพวกเราก้ไม่ได้คิดอะไร คิดเพียงแต่ว่าท่านคงไม่อยากมาพบผมก็เท่านั้นเอง .....

    ปกติเรื่องแบบนี้เราจะรู้กันและถ่ายทอดเฉพาะภายในกลุ่มผู้อาวุโสเท่านั้น แต่วันนี้ผมจำเป็นต้องมาเล่าให้ฟังเพราะระบบได้อนุญาตแล้ว เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวพันกับคนในระบบทุกคนในอนาคต....

    [​IMG]
    พายุนาคเล่นน้ำ บริเวณบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์

    ต่อมาไม่นานมานี้ เกิดพายุนาคเล่นน้ำหรือทอร์นาโดอะไรนั่นที่บึงบรเพ็ด ขณะเกิดเหตุท่านอาจารย์สมจิตรเขากะลาได้โทรศัพท์มาแจ้งให้อาจารย์สุดใจทราบตอนนั้นผมอยู่ด้วยพอดี พวกเราก้นึกแปลกใจว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน เพราะไม่เคยเกิดพายุประเภทนี้มาก่อนในประเทศไทย และพวกเราก็ตั้งใจรอดูข่าวโทรทัศน์ เพื่อที่จะได้เห็นจริงๆว่าเป็นอย่างไร ขณะเดียวกันเราได้ทำการส่งข้อมูลไปที่ระบบเพื่อขอความกระจ่างในเรื่องนี้

    สักครู่เราก็ได้ทราบว่า มนุษย์ต่างดาวกำลังทำการเชื่อมมิติและย้ายมวลสารบางอย่างส่งไปในมิติเมืองลับแล ซึ่งพวกเขาได้ทำมาหลายครั้งแล้ว แต่ปกติมักทำกลางคืนเดือนมืด แต่วันนี้มีเหตุจำเป็นอะไรบางอย่างที่ต้องใช้เวลากลางวัน และระบบมักจะทำให้เป็นรูปแบบเลียนแบบธรรมชาติให้มากที่สุด และระบบแจ้งให้เราทราบแต่เพียงเท่านั้น

    ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?p=1514039#post1514039
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2008
  18. maijan

    maijan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +101
    เมื่อคืน เราฟัง astv สนธิบอกว่า คนที่อยู่เบื้องหลัง เขมรร้องเอาพระวิหาร คือจีน เหมือนที่คุณหนุมานบอกไว้จริงๆด้วย และที่แย่ที่สุด คือมีมหาอำนาจอีก 5 ประเทศเข้าหนุนหลัง เพื่อดึงพื้นที่คืน ในบริเวณที่เป็นทางผ่าน สำหรับขนก๊าซธรรมชาติไปเมืองจีน เพราะผลตอบแทนมหาศาลพวกมันมาร่วมกันแบ่งเค้ก โดยต้องยึดพื้นที่คืนจากไทย ส่วนที่ยิงกันทางภาคใต้ มีออสเตรเลียร่วมหนุนหลัง เพราะหวังขุดเจาะน้ำมันในอนาคต แถมนักการเมืองไทยก็เล่นกับเค้าด้วย เพ่อหวังเศษเงินเล็กๆน้อยๆ ทุกคนมารุมกันกินโต๊ะประเทศไทยกันใหญ่เลย เราจะทำไงดี จะช่วยประเทศชาติยังไงดี หรือได้แค่นั่งดูพวกมันย่ำยีประเทศ เศร้าจัง
     
  19. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    ประเทศไม่ได้ถูกย่ำยี

    โลก ก็ คือ โลก มนุษย์ย่ำยีกันเอง

    มนุษย์ ยึดอัตตาความเป็นตัวตน ประเทศอะไร? ของใคร? พวกคุณคนไทยอย่างนั้นใช่ไหม?

    มนุษย์ ฆ่ากันเอง เพื่อทรัพย์สิน เพื่อครอบครองแผ่นดิน

    มนุษย์ ทำทุกอย่าง เพื่อที่จะได้ทุกอย่าง

    ถ้ามนุษย์สงสารโลกตั้งเเต่ต้น คงไม่แบ่ง ชาติ ศาสนา ภาษา เเละวัฒนธรรม

    ที่อยากได้ถึงขั้นฆ่ากันเองทำร้ายกันเอง เเล้วจะเรียกร้องอะไรกันอีก?

    รู้จักใช่ไหม? ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ? นรกสวรรค์ มันอยู่ที่นี้ โลกมนุษย์

    ถ้าพวกคุณยังเข้าใจว่า นรกและสวรรค์ คุณจะเห็นหลังจากที่ตายไปเเล้ว...

    ก็ขอให้คุณลองเปิดใจใหม่ดูเองนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2008
  20. maijan

    maijan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +101
    คุณสันโดษนี่สันโดษสมชื่อจริงๆคะ แต่เราคงยังทำไม่ได้ ศาสนา ชาติ กษัตริย์ เป็นสิ่งที่เราสำนึกรักษา มันอยู่ในกระแสเลือด สำนึกได้ตั้งแต่เข้าโรงเรียน ทุกครั้งที่ร้องเพลงชาติ ทุกครั้งที่เปล่งเสียงออกจากปาก เรารู้สึกอย่างที่ปากพูดออกไป เราถึงยึดว่า หน้าที่หลักของเราคือ เป็นเฟืองตัวเล็กๆ ที่ช่วยรักษาสิ่งเหล่านี้ให้ยั่งยืน เมื่อฟังคำสอนของหลวงพ่อฤาษี ใจอยากไปนิพพานแล้ว แต่ก็ยังยึดหลวงพ่อเป็นตัวอย่าง เมื่อยังไม่หมดลมหายใจ เราคงต้องทำหน้าที่ของเราต่อไป หมดลมเมื่อไหร่ ก็หมดหน้าที่ หมดห่วง เรายึดหลักตามแนวนี้คะ ศาสนา ชาติ กษัตริย์ 3สิ่งนี้สำคัญที่สุดสำหรับเรา อีกสิ่งหนึ่งก็คือ ตอนเราท้อง เราอธิษฐานไว้ว่าขอให้ลูกที่มาเกิดเป็นผู้ที่มาช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนา แล้วเราจะสนับสนุนทางธรรมให้เค้ามากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเราไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้รู้จักคำว่าพุทธภูมิ หรือสาวกภูมิอะไรเลย จนเมื่อลูกเริ่มโต มีคนมาทักว่าเค้าเป็นพุทธภูมิหลายคนละ เราก็รับฟัง แต่ไม่ได้เชื่ออะไรมาก เมื่อไม่นานมานี้ อยู่ๆเค้าก็พูดขึ้นเองว่า เค้าอยากเป็นพระพุทธเจ้า (4 ขวบ) เราได้ยินแล้วอึ้งไปเลย ไม่นึกว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้ เพราะเกิดมาเราเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธองค์ แต่ไม่เคยคิดอยากเป็นพระพุทธเจ้าเลย เราจึงย้อนคิดไปถึงคำอธิษฐานที่เคยขอเอาไว้ จึงรับรู้ว่า ภาระนี้ก็ใหญ่หลวงนัก ตอนนี้หน้าที่เราก็มี 4อย่าง คงจะละทิ้งสิ่งเหล่านี้แล้วสนใจแต่ตัวเราไม่ได้แน่แท้ ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด หมดลมแล้วก็หมดกัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...