วิเคราะห์โลกกับมนุษย์

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Soulmaki, 18 กันยายน 2008.

  1. Soulmaki

    Soulmaki เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +357
    วิเคราะห์จากทฤษฎี จิต+กิเลส=สิ่งมีชีวิต (ทฤษฎีของผมเอง)

    จิตมีคุณสมบัติเป็นแสง ->แสงมีคุณสมบัติกระจายออก
    กิเลสมีคุณสมบัติเป็นความมืด ->ความมืดมีคุณสมบัติเป็นแรงดึงดูด

    แสง+แรงดึงดูด->แรงดึงดูดทำให้แสงช้าลงเกิดเป็นสสารวัตถุ

    โดยมีจิตที่เป็นแสงอยู่ภายในและมีสสารวัตถุเกาะอยู่รอบนอก ดังนั้นจึงเกิดเป็นดาวเคราะห็โลก มนุษย์ก็เช่นเดียวกัน จะเห็นได้ว่าโลกนั้นก็มีชีวิตเหมือน
    มนุษย์ที่มีขันธ์ 5 ยึดเกาะอยู่รอบนอก

    เหตุผลสนับสนุนทฤษฎี
    -พระอรหันต์ที่ไร้ซึ่งกิเลสแล้วแสงจะรอดพ้นแรงดึงดูดจากกิเลสทำให้เกิดแสงออกจากกายได้
    -เมื่อมีการแผ่ส่วนบุญจะมีแสงเร็ดรอดออกมาแวปนึง
    -เมื่อมีพระพุทธเจ้านิพพานปราศจากแรงดึงดูดทั้งสิ้นจะมีแสงแผ่ซ่านไปทั่วทุกหนแห่ง

    ผมคิดว่าทฤษฎีนี้นำไปอธิบายอะไรได้อีกหลายอย่าง และอาจคิดอะไรใหม่ๆขึ้นมาได้ มาใช้ทฤษฎีนี้อธิบายสิ่งต่างๆกันนะครับ ถ้าได้โครงร่างที่สมบูรณ์อาจจะได้มาร่วมกันเขียนหนังสือซักเล่ม อิอิ

    -ช่วยกันนะครับ
     
  2. แมวแหมว

    แมวแหมว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +49
    เข้าใจคิด
     
  3. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    อย่าลืมมาวิเคราะห์ต่อนะ รออ่านอยู่
     
  4. Soulmaki

    Soulmaki เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +357
    แล้วดาวดวงอื่นนอกจากโลกหละ? ผมคิดว่าก็น่าจะมีชีวิตเช่นกัน อย่างดาวฤกษ์นั้นเรามองเห็นว่ามีแสง เป็นกลุ่มกาซซึ่งเป็นสสารแต่เกาะตัวไม่แน่น จะเหนได้ว่ามีขอบเขตของแรงดึงดูดเช่นกัน เมื่อเป็นสิ่งมีชีวิตก็ต้องมีจิตใจ หรืออาจเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า เทพ เทวา

    จะเหนได้ว่าดาวแต่ละดวงนั้นก็มีอายุขัยเช่นกัน

    ผมคิดว่าโลกคงจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่พิเศษ ที่ทำให้สิ่งมีชีวิตอื่นเข้ามาสร้างและเก็บพลังงานกลับไปให้ตนเอง โดยการส่งพลังงานส่วนหนึ่งของตัวเองมาผสมบ่มเพาะให้เกิดเป็นสิ่งมีชีวิตบนโลก มันคงจะมีทั้งผลดีและผลร้าย

    แต่พลังงานส่วนที่ส่งมากลับหลงระเริงกับการมีชีวิตบนโลกจึงมิอาจกลับออกไปได้เมื่อตายลงแล้วพลังงานส่วนนั้นก็หมุนเวียนอยู่บนโลก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 กันยายน 2008
  5. Soulmaki

    Soulmaki เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +357
    จึงเกิดวิธีต่างๆเพื่อที่จะทำให้พลังงานส่วนที่ส่งมานั้นกลับคืน ปัจจุบันนี้ก็มีอยู่หลายวิธี ก็คือศาสนาต่างๆนั่นเอง รวมทั้งการเข้าทรงต่างๆ

    โดยศาสนามีการสั่งสอนให้คนเป็นคนดีและคิดที่จะให้ผู้อื่น ทำให้จิตเกิดความมีเมตตา ซื่งเป็นการสั่งสมพลังงาน ยิ่งจิตมีเมตตามากยิ่งมีพลังงานมาก และสอนให้เกิดศรัทธาตัวนี้เป็นตัวชี้นำว่าให้กลับมาที่ไหน อยู่ที่ว่าศรัทธาอะไร ศรัทธาในเทพองค์ไหน

    ผมคิดว่าคงจะมีการแย่งพลังงานกันบ้างหละเพราะพลังงานที่หลงระเริงกับชีวิตบนโลกนั้นได้รวมกลายเป็นพลังงานของโลกไปแล้ว คงจะไม่รู้ว่าส่วนไหนของใครส่งมาตอนแรก

    อย่างการเข้าทรงก็เป็นการลงมาเก็บพลังงานอย่างหนึ่งโดยอาศัยการจูนกับพลังงานของตนที่เป็นมนุษย์บนโลก

    แต่ศาสนาพุทธมีความแตกต่างจากศาสนาอื่น ผมขอไม่นำศาสนาพุทธมาเปรียบเทียบ "ศาสนาพุทธสอนให้มองเห็นสัจธรรม" แค่นี้คงพอเข้าใจ

    ผมอยากให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านออกความคิดเห็นด้วยนะครับ แล้วเดี๋ยวจามาเล่าต่อ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...